พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    'ชวนคนไปวัด...ให้ระวังบาป'ปาฏิหาริย์

    'ชวนคนไปวัด...ให้ระวังบาป'ปาฏิหาริย์ทั้ง๓ที่...วัดสะแก โดย สิทธิ สุทธิอัมพร

    [​IMG]

    ในพระพุทธศาสนากล่าวถึงปาฏิหาริย์อยู่ ๓ ประการ คือ ๑.อิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์ ๒.อาเทสนาปาฏิหาริย์ การรู้ดักใจ ทายใจได้เป็นอัศจรรย์ ๓.อนุสาสนีปาฏิหาริย์ การสอนอันจูงใจคนได้เป็นอัศจรรย์

    ปาฏิหาริย์ทั้ง ๓ ประการนี้ พระพุทธองค์ทรงยกย่องเพียงหนึ่งเดียวคือ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เนื่องเพราะเป็นเหตุแห่งการเกื้อกูลสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ได้สิ้นเชิง มากยิ่งไปกว่าปาฏิหาริย์ทั้ง สองประเภทแรกอันอาจอนุเคราะห์สัตว์โลกได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไรมา พระภิกษุผู้ก้าวเดินในสายทางแห่งการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างมุ่งมั่น ทุกองค์ล้วนผ่านปาฏิหาริย์ทั้ง สองด่านแรกด้วยกันทั้งสิ้น อันเนื่องจากสิ่งเหล่านี้สำเร็จได้ด้วยใจ สำเร็จได้ด้วยการเจริญภาวนา ผู้ปฏิบัติภาวนาจึงล้วนพบเจอด้วยกันทั้งสิ้น ต่างแต่ว่าจะเชี่ยวชาญเพียงใด ใช้เกื้อกูลสัตว์โลกได้กว้างขวางแค่ไหนล้วนขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีเดิมที่เคย สั่งสมมา
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เป็นอีกหนึ่งสมณะที่มุ่งมั่นต่อการบำเพ็ญภาวนามาอย่างเอกอุ ท่านตั้งจิตมุ่งตรงต่อธรรม บ่ายหน้าเข้าร่มกาสาวพัสตร์โดยมี ‘โลกุตรธรรม’ เป็นเป้าหมายสูงสุด หาใช่ฤทธิ์เดชอันชวนหลงแต่อย่างใดไม่ ทว่าการเจริญพระกรรมฐานที่ท่านได้กระทำอย่างอุกฤษฏ์ชนิดที่องค์ท่านยอมแลก ด้วยชีวิตดังคำกล่าวของท่านว่า
    “ถ้าไม่ตายก็ให้มันดี ไม่ดีก็ให้มันตาย ใครจะเหมือนข้า ข้าบนตัวตาย”
    ดัง นั้น ธรรมของหลวงปู่ดู่จึงเป็นธรรมแท้ที่ออกจากใจอันบำเพ็ญเพียรมาด้วยดี มิใช่ธรรมที่เกิดจากการอ่านการจำมาเป็นสัญญาอารมณ์แต่อย่างใด และสิ่งซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ของแถม’ จากการประกอบความพากเพียรก็คือ ปาฏิหาริย์ทั้ง ๓ นั่นเอง
    แม้ศิษย์หรือผู้ศรัทธาที่หลั่งไหลไปหาหลวงปู่ดู่ ณ วัดสะแก ส่วนมากมักนิยมไปทาง “อิทธิปาฏิหาริย์” และเกิดความทึ่งใจอย่างยิ่งกับ “อาเทสนาปาฏิหาริย์” อันหลวงปู่สามารถทำให้ปรากฏได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจก็ตาม
    หาก ท่านมิได้แสดงไปเพราะต้องการให้คนลุ่มหลง ตื่นเต้น จนนำมาซึ่งลาภสักการะแก่ท่าน แต่ท่านทำเพื่อ “มอบขนม” ให้เด็กน้อยผู้อ่อนเยาว์ต่อธรรมได้เข้ามาชิม มาเล่น กระทั่งคุ้นเคยต่อท่านและต่อธรรม และเติบโตพอที่จะ “มอบสารอาหาร” ที่จำเป็นต่อชีวิตในภายหน้า เมื่อนั้นท่านจึงแสดงปาฏิหาริย์สูงสุดของพระพุทธศาสนาให้ปรากฏแก่ใจของผู้ศรัทธาทั้งปวง นั่นคือ
    อนุสาสนีปาฏิหาริย์ !
    ใน ปีที่ “ศิษย์สำคัญ” ของหลวงปู่คนหนึ่งมีกำลังใจแก่กล้าต่อการปฏิบัติ และยังเผื่อแผ่กุศลจิตนี้ไปถึงญาติพี่น้องเพื่อนพ้องทั้งปวง จึงดำริชักชวนญาติคนนั้นเพื่อนคนนี้เข้าสู่วัดสะแก เพื่อหวังให้ธรรมะของหลวงปู่ซักฟอกจิตใจเขาเหล่านั้นให้ขาวสะอาด อันจะช่วยให้ความทุกข์เบาบางลงได้ด้วยการลงมือทำของเขาเหล่านั้นเอง โดยไม่ต้องรอพึ่งใคร
    วันหนึ่ง ศิษย์ท่านนี้ได้โทรศัพท์ไปชวนเพื่อนสนิทให้เดินทางมากราบหลวงปู่ดู่ที่วัด สะแกด้วยกันในวันหยุด เพื่อนฟังแล้วก็ตอบอ่อนโยนว่า อยากไปกราบท่านด้วย แต่ว่าวันหยุดนี้ไม่สะดวกจริงๆ เพราะติดธุระ
    ศิษย์ท่านนั้นก็ไม่ว่ากระไร ได้แต่ร่ำลาแล้ววางสายไป เมื่อถึงวันหยุดดังกล่าว จึงเดินทางไปวัดสะแกโดยลำพัง
    ครั้นมีโอกาสมากราบหลวงปู่ดู่ ท่านได้ยกมือขวาขึ้นทำท่าแบบคนยกโทรศัพท์มาแนบหูฟัง แล้วเมตตาสอนเขาโดยถามว่า
    “เมื่อคืนแกโทรศัพท์ไปชวนเพื่อนมากราบข้าใช่ไหม แกรู้ไหมว่าเขาโกหก เขาไม่อยากมาก็หาเรื่องโกหก แล้วก็ปรามาสข้าด้วย”
    คำ กล่าวนี้เป็นดังสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เพราะการโทรศัพท์พูดคุยกันนั้น เกิดที่กรุงเทพฯ และเป็นไปอย่างที่เรียกว่า รู้กันสองคน เหตุไฉนหลวงปู่ซึ่งอยู่ถึงอยุธยา จึงสามารถรับรู้ความเป็นไปได้ทุกอย่าง
    เมื่อ ฟังประโยคธรรมของหลวงปู่แล้ว ศิษย์ท่านนี้ก็คิดใคร่ครวญด้วยความเป็นธรรม ดังที่เรียกว่า “โยนิโสมนสิการ” คือพิจารณาในใจโดยแยบคาย ก็ได้คำตอบว่า แม้เราจะหวังดีต่อใคร ก็ควรเป็นไปด้วยความเหมาะสม มิใช่มีแต่เพียงเราที่เห็นว่าดี คนอื่นจะเห็นอย่างไรก็ไม่ทันได้ไตร่ตรอง และคำพูดของหลวงปู่ในวันนั้น ก็ไปตรงกับคำเตือนของท่านที่ปรารภอยู่บ่อยครั้งว่า
    “แกชวนคนไปวัด...ให้ระวังบาป”
    ความ หมาย คือ ชวนคนที่ยังไม่พร้อม ยังไม่มีศรัทธาไปวัดนั้น จะเป็นบาป บาปเพราะเขาจะปรามาส ซึ่งก็คือการดูถูกดูหมิ่น หมิ่นทั้งผู้ชวน ทั้งศาสนสถาน และทั้งศาสนบุคคล ที่เขาได้รับฟังข้อมูล ท่านจึงเตือนว่า การชวนคนไปวัดโดยเราไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน จะเป็นบาปต่อเขาผู้นั้น และเราจะเป็นต้นบาปใหญ่ เพราะเป็นผู้ไปชักชวน ดังนี้แล
    และนี่คือ ปาฏิหาริย์ทั้ง ๓ ประการ ที่เกิดขึ้น ณ วัดสะแก อันเป็นไปเพื่อทำให้ศาสนิกชนเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ปัญญา” ด้วยการภาวนาของตนนั่นเอง

    -http://www.komchadluek.net/detail/20110922/109782/%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94...%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%8C.html-

    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    [​IMG]
    77.0 KB, ดาวน์โหลด 26 ครั้ง

    .
     
  2. Tong-Count-Down

    Tong-Count-Down Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    573
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอถามเล็กน้อยครับ พอดีผมพึ่งเข้ามาใหม่
    อยากจะสอบถามว่า ณ ตอนนี้ มีพระวังหน้าให้บูชาเพื่อเป็นพุทธานุสิทธิ์อยู่หรือเปล่าครับ

    ขอบคุณมากๆครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมให้ร่วมทำบุญ 1,000 บาท ผมมอบพระวังหน้าให้ 1 องค์ (ผมเป็นผู้เลือกพิมพ์ให้เอง)

    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    บมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ


    การร่วมทำบุญเืพื่อรับพระวังหน้าในกระทู้พระวังหน้าฯและกระทู้ที่sithiphong ได้ตั้งขึ้นเพื่องานบุญทุกๆงาน

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ พระ พิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วง การซื้อ-ขายพระ) ได้ หากท่านต้องการพระพิมพ์(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่อง ของเมืองไทย (วงการซื้อ-ขายพระ) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป

    แต่ พระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า โดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 หรือ พระที่สร้างขึ้นที่วังหลวง นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ปี พ.ศ.2429-2434

    แต่ หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่ง เรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ทำความเข้าใจเรื่อง ปปง.
    ปัจจุบัน ปปง.หรือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ออกกฎหมายกำหนดให้ร้านทองต้องดำเนินการตามกฎหมาย ปปง. เริ่มบังคับใช้ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ โดยกล่าวสรุปง่ายๆ ดังนี้
    ๑.หากลูกค้าทำธุรกรรมด้วยเงินสดทั้งซื้อหรือขาย จำนวน ๒ ล้านบาทขึ้นไป ร้านทองต้องรายงานธุรกรรมนั้นต่อ ปปง.
    ๒.หากลูกค้าทำธุรกรรม ด้วยเงินสด เช็ค เงินโอน หรืออื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าทั้งซื้อหรือขาย (ในครั้งแรก) จำนวน ๗ แสนบาทขึ้นไป ร้านทองต้องให้ลูกค้าแสดงตนและเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ ๕ ปี (ไม่ ต้องรายงานต่อ ปปง.-แต่ต้องเก็บไว้ ในกรณีบังเอิญธุรกรรมนั้น เป็นการฟอกเงินของลูกค้า-ซึ่งจะช่วยให้ร้านทองไม่ต้องรับผิดชอบต่อธุรกรรม นั้น ๆ หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง)
    ๓.กรณีเป็นธุรกรรมต้องสงสัย หมายความว่า ลูกค้ามีพฤติกรรมหรือลักษณะน่าสงสัยว่าจะเป็นการฟอกเงิน ร้านทองต้องรายงานต่อ ปปง. ทราบเช่นกัน โดยไม่กำหนด วงเงินขั้นต่ำ
    หมายเหตุ***
    ๑.การรายงานธุรกรรม(๒ล้าน)นั้น เฉพาะกรณีที่ลูกค้า ซื้อ-ขาย ทองคำด้วยเงินสดเท่านั้น ไม่รวมการทำธุรกรรมด้วยเช็ค,เงินโอน และธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ที่เกี่ยวกับธนาคาร แต่สำหรับการแสดงตน(๗แสน) ต้องจัดให้ลูกคาแสดงตนในครั้งแรกที่มีการซื้อขายถึง ๗ แสน และทำในครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น
    ๒.เรื่องแบบฟอร์มรายงานธุรกรรม
    - เมื่อร้านทอง ขายทองให้ลูกค้า ต้องรายงานแบบ(๒)ผู้ประกอบการค้าทองคำ
    - เมื่อร้านทอง รับซื้อทองเก่าจากลูกค้า ต้องรายงานแบบ(๕)ผู้ประกอบการค้าของเก่า
    - กรณีธุรกรรมต้องสงสัยว่าจะเป็นการฟอกเงิน ต้องรายงานแบบ(๑๐)ธุรกรรมต้องสงสัย
    การให้ความรู้ในเรื่องนี้แก่สมาชิกและประชาชนผู้บริโภค
    ๑.สมาคมฯ จะจัดสัมมนาให้ความรู้แก่สมาชิกสมาคมฯ ในช่วงปลายเดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔
    ๒.สมาคมฯ จะนำสื่อVDO เผยแพร่ทางเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนผู้บริโภค ได้ศึกษาทำความเข้าใจอย่างทั่วถึง และเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของร้านทอง
    ๓.ท่านสามารถดาวน์โหลด กฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ตาม link ด้านล่างนี้
    4| | |ดาวน์โหลดกฎหมาย ปปง.| | |3
    พรบ.ปปง.
    กฎกระทรวง (วงเงินสดที่ต้องรายงาน ๒ ล้านบาท)
    กฎกระทรวง (วงเงินสดที่ต้องแสดงตน ๗ แสนบาท)
    วิธีการแสดงตน
    วิธีการแสดงตนของลูกค้าสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖

    แบบฟอร์มรายงาน (สำหรับร้านทอง)
    แบบรายงานธุรกรรมที่ใช้เงินสด ปปง.๑-๐๕-๒ (ผู้ประกอบการค้าทองคำ)
    แบบรายงานธุรกรรมที่ใช้เงินสด ปปง.๑-๐๕-๕ (ผู้ประกอบการค้าของเก่า)
    แบบรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย ปปง.๑-๐๕-๑๐

    ดาวน์โหลดกฎหมายทั้งหมด (รวมทุกธุรกิจ .ZIP)
    ดาวน์โหลดคู่มือประชาชน ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

    [​IMG]


    http://www.goldtraders.or.th/topic.php?id=213

    -http://www.goldhips.com/-

    -http://www.goldtraders.or.th/-

    .
     
  5. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ไวรัสปลายฝนต้นหนาว ทำปอดบวม หอบหืด
    วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD><TD id=ext-gen16 style="WIDTH: 46px">วีดีโอ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- START OF THE PLAYER EMBEDDING TO COPY-PASTE --><OBJECT id=player height=480 width=640 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 name=player>
























    <OBJECT type=application/x-shockwave-flash height=480 width=640 data=/content/videos/player-licensed.swf> Get Flash to see this player.
    </OBJECT></OBJECT><!-- END OF THE PLAYER EMBEDDING -->​

    [​IMG]

    เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือนับตั้งแต่สิงหาคมไปจนถึงพฤศจิกายน แม้จะเป็นช่วงที่มีไอเย็นเข้ามาคลายร้อน จึงเป็นที่ถูกใจหลายๆ คน แต่ในแง่ของสุขภาพถือเป็นช่วงที่ต้องระวัง โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ปี เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและมีความชื้นสูง ส่งผลให้เชื้อไวรัสอาร์เอสวี หรือเรสไพราทอรีซินซิเชียล แพร่ระบาดมาก

    ไวรัสอาร์เอสวี ติดต่อกันได้ง่ายๆ เพียงการสัมผัสใกล้ชิด หรือสัมผัสสารคัดหลั่งทางตาหรือจมูก และทางลมหายใจ ไวรัสชนิดนี้คือสาเหตุของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง หากติดที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนจะทำให้ป่วยเป็นหวัด เป็นไข้ ทว่าติดที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างนั้นร้ายและรุนแรงกว่า

    รศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล หัวหน้าหน่วยโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และกรรมการสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย กล่าวในงาน “อาร์เอสวี วายร้าย ที่มากับฝน” ว่าร้อยละ 70 ของผู้ป่วยซึ่งติดไวรัสอาร์เอสวีที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง มักจะปอดบวมและหลอดลมฝอยส่วนปลายอักเสบ โดยไวรัสจะเข้าไปเกาะทางเดินหายใจ ปล่อยมูกออกมา และเกาะติดกับเซลล์ ในระยะแรกอาการจะคล้ายไข้หวัด มีไข้ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล

    แต่ถ้านานเกิน 4 วัน แถมไข้ยิ่งสูง ไอหนักขึ้น มีเสมหะ ไอหอบ หายใจเหนื่อย เวลาหายใจจะมีเสียงดังวี๊ด หน้าอกบุ๋ม เด็กที่เป็นจะซึม ตัวเขียว ไม่กินอาหาร หากปล่อยไว้ไม่พาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ไวรัสชนิดนี้อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยด้วยว่า มีผู้ติดเชื้ออาร์เอสวีทั่วโลกกว่า 64 ล้านคน และคร่าชีวิตผู้ป่วยทั่วโลกไปแล้วกว่า 200,000 ราย

    รศ.พญ.อรพรรณ บอกด้วยว่า ไวรัสอาร์เอสวี เป็นภัยสุขภาพตัวฉกาจสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไปที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กที่ป่วย ไวรัสนี้ยังไม่มียารักษา หากป่วยแพทย์จะใช้วิธีรักษาแบบประคับประคองตามอาการที่เป็น ซึ่งร้อยละ 80 หายได้ถ้ามารักษาทันท่วงที

    สำหรับเด็กที่ติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีแล้ว มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืดมากกว่าเด็กคนอื่นๆ ถึง 10 เท่า ดังนั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ควรเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่เพราะมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงอยู่ในสถานที่แออัด เมื่ออากาศเย็นต้องทำร่างกายให้อบอุ่น

    อย่างไรก็ตาม รศ.พญ.อรพรรณ ได้แนะนำให้สังเกตอาการสำคัญของไวรัสอาร์เอสวีให้เป็น ผ่านทางคลิปวิดีโออีกด้วย.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  6. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงในความเมตตาที่พี่ท่านมอบให้เสมอมานะครับ ขนาดวันหยุดพี่ท่านยังต้องทำงานเลย แล้วยังต้องมานั่งจัดของแพ็คของให้อีกแกรงใจจริงๆครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แค่เกรงใจก็พอ ไม่ถึงกับแกรงใจเลย อิอิ


    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอย้ำว่า ชุดที่ส่งไปให้นั้น ต้องห้อยครับ

    ดีอย่างไร ลองไปพิสูจน์เอง ไม่ต้องโฆษณาครับ

    พี่ใส่อยู่ รู้ว่า ดีอย่างไร

    พี่เปี๊ยกใส่อยู่ รู้ว่า ดีอย่างไร

    เพื่อนกูรู และ กูรู ก็รู้ว่า ดีอย่างไร

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    IMF หวั่นวิกฤติหนี้สินลุกลาม เผยเงินอาจไม่พอให้อียูกู้


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ไอเอ็มเอฟ เผยปล่อยเงินกู้มากเกินไป หวั่นวิกฤติหนี้สินลุกลาม จะไม่มีเงินให้ชาติอียูกู้ยืม เตรียมทำมาตรการรับมือวิกฤติหนี้สิน

    วันนี้ (26 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กอง ทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ได้ประกาศเตือนว่า ทางไอเอ็มเอฟ อาจจะไม่มีเงินพอให้ชาติสหภาพยุโรป หรืออียู กู้ยืม หากวิกฤติหนี้สินเลวร้ายขึ้น ซึ่งจากเอกสารภายในของไอเอ็มเอฟเมื่อต้นเดือนนี้บ่งชี้ว่า ไอเอ็มเอฟสามารถปล่อยกู้ได้ 390,000 ล้านดอลลาร์โดยไม่กระทบงบดุล แต่หากสถานการณ์เลวร้ายถึงที่สุด ไอเอ็มเอฟอาจต้องกู้เงินราว 840,000 ล้าน

    นาง คริสตีน ลาการ์ด ผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ ซึ่งเพิ่งเข้ารับหน้าที่ได้เพียง 2 เดือน ยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟเอาจริงเอาจังกับการรับมือวิกฤติครั้งนี้ เธอกล่าวถึงศักยภาพทางการเงินของไอเอ็มเอฟด้วยว่า ขีดความสามารถในการปล่อยกู้ขณะนี้ อยู่ที่เกือบ 400,000 ล้านดอลลาร์ เพียงพอต่อการรับมือปัญหาในปัจจุบัน แต่จะไม่เพียงพอหากวิกฤติลุกลามไปยังประเทศที่สุ่มเสี่ยงต่อการได้รับผลพวง

    ทั้ง นี้ หลายชาติเคยแสดงความวิตกว่า ไอเอ็มเอฟปล่อยกู้มากเกินไปจากการเข้าไปช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาการ เงิน เช่น กรีซ, ไอร์แลนด์ และโปรตุเกสในยุคของโดมินิก สเตราส์-คาห์น แต่ลาการ์ดให้คำมั่นว่า ไอเอ็มเอฟจะคอยตรวจสอบกลไกกองทุนปล่อยกู้ของตนอย่างใกล้ชิด และจะพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องมีกลไกการปล่อยกู้ใหม่ ๆ เพื่อช่วยประเทศต่าง ๆ รับมือผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้

    รายงาน ยังระบุอีกว่า นักวางนโยบายสหภาพยุโรปได้ตระหนักถึงความจำเป็นของความสำคัญต่อการระดมเงิน ทุนอัดฉีดให้แก่ธนาคาร และเพิ่มเงินกองทุนความมั่นคงทางการเงินยุโรป (EFSF) โดยแผนงานดังกล่าวนั้น อาจจะมีการอัดฉีดเงินเพิ่มให้แก่ธนาคารที่เป็นประเทศสมาชิกอียู เพิ่มขึ้นจาก 4.40 แสนล้านยูโร เป็น 2 ล้านล้านยูโร รวมไปถึงธนาคารกลางยุโรปที่สามารถเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศอิตาลี และประเทศสเปนได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองประเทศนี้ เข้าสู่ภาวะรับการช่วยเหลือเงินกู้อย่างเต็มตัว และนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟ ยังเรียกร้องให้ธนาคารกลางยุโรป มีบทบาทในการรับมือวิกฤติหนี้สินมากขึ้น

    "ประเทศทั้งหลายในกลุ่มยูโรจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้ สาธารณะของกลุ่มยูโรและสร้างเสถียรภาพทางการเงินของกลุ่มยูโรทั้งหมด รวมถึงชาติสมาชิกอื่น ๆ ด้วย" คณะกรรมการบริหารนโยบายไอเอ็มเอฟ กล่าว



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติชนรายวัน
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63140-


    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอลองมั่ง..............<!-- google_ad_section_end -->

    ดีตรงที่ งานจะยุ่งขึ้นแน่ๆ...
     
  13. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ของที่พี่ท่านเมตตามอบให้ต้องห้อยอยู่แล้วละครับ
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สวัสดีช่วงบ่ายครับพี่เพชร อย่างพี่เพชรคงไม่ต้องลองแล้วละครับ 555:cool:
     
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    จริงครับ พี่เพชรนี่เค้าป็นคู่ปรับกับลุงข้างบ้านผมครับ หุ หุ
     
  16. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สวัสดีครับพี่ nongnooo ว่าไปก็คิดถึงคุณลุงท่านเหมือนกันนะครับ ท่านมาทีไรได้รับความรู้ดีๆมากมายเลยครับ
     
  17. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    กินแก้โรค ข้าวสมุนไพรหลากสี

    วันอังคาร ที่ 27 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    [​IMG]

    ข้าวต่างสี กินดีต่างกัน อาหารหลักของครัวไทย รู้สรรพคุณข้าวสมุนไพรสีต่างๆ เลือกกินให้เหมาะสม แก้ปัญหาสุขภาพได้
    อาหารหลักคู่ครัวไทย อย่าง 'ข้าว' นั้น ทราบกันดีว่าอุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็น 1 ใน 5 หมู่อาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และถ้าต้องการให้ข้าวแต่ละจานช่วยเสริมสุขภาพ ลดเสี่ยงโรคภัยต่างๆ ได้อีก ผู้อ่านควรเลือกกินข้าวที่ผสมสมุนไพร

    ส่วนใหญ่ในท้องตลาดมี 'ข้าวสมุนไพรกระเจี๊ยบแดง' ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต ช่วย รักษาโรคเส้นโลหิตแข็ง ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร เพิ่มการหลั่งน้ำดีจากตับช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้ร้อนใน และกระหายน้ำ

    ตามด้วย 'ข้าวสมุนไพรขมิ้นชัน' สามารถยับยั้งการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาแผลเปื่อยในกระเพาะและลำไส้ ขับลมในกระเพาะ ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

    ยังมี 'ข้าวสมุนไพรใบเตยหอม' บำรุงหัวใจ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคหอบหืด ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และ 'ข้าวสมุนไพรอัญชัน' สรรพคุณรักษารากผมให้แข็งแรง แก้ฟกช้ำ-บวม ขับปัสสาวะ และบำรุงหัวใจ เพิ่มความสามารถในการมองเห็น และเป็นสารลดอนุมูลอิสระ

    อย่างไรก็ตาม การจะมีสุขภาพที่ดี จะใส่ใจเพียงเรื่องอาหารการกินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอด้วย.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  18. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405


    ขอบพระคุณครับ ^_^
     
  19. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    อย่าลืมของผมนะครับ ผมขอไม่มาก ขอชุดที่คอพี่ก็พอ vbvb
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีข่าวมาบอกกัน ทางคณะวิทยาศาสตร์ ได้นำพระบรมรูปจำลองรัชกาลที่๙ รุ่นฉลองกาญจนาภิเษก ๒๕๓๙ ซึ่งจัดสร้า่งโดย สมาคมนิสิตเก่าวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ปิดทองแท้ทั้งองค์ ความสูง ๒๑ นิ้ว ฐานกว้าง ๖ นิ้ว มีหมายเลขทุกองค์ และพร้อมใบกำกับสำคัญแสดงไว้ มาให้บูชากันอีกครั้งสามารถขอข้อมูลที่กรมไปรษณีย์โทรเลขทุกแห่งได้

    สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเททองหล่อทองชนวน วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ สร้างไว้อายุจะ ๑๕ ปีแล้ว เวลานี้ทองขยับราคาสูงมากแล้ว แต่อัตราการบูชายังไม่ได้ปรับแต่อย่างใด ผมเห็นร้านพระเครื่องนำออกขายราคาสูงกว่านี้มากมาย อีกทั้งรายได้ยังนำไปใช้จ่ายทางคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยตรง ผมก็ได้ทำบุญไปตั้งแต่เมื่อ ๖ ปีก่อนแล้ว พระบรมรูปงามจริงๆ และน้ำหนักมากจริงๆ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...