พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table id="post5100433" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">วันนี้, 11:05 AM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #46495 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> ake7440
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2008
    สถานที่: รพ.ศิริราช
    ข้อความ: 1,401
    พลังการให้คะแนน: 181 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5100433" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> อ่า..อ่านข่าวเด็กผีก็ดีใจ :boo::boo:
    แต่ฟังเรื่องเมื่อเย็นแล้ว ใจมันเกิดกิเลส...อยากได้ๆ คร้าบ :':)':)'(
    __________________
    ขอเชิญร่วมบุญสร้างวิหารบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ ณ วัดเขาพระครับ
    เชิญร่วมบุญหล่อพระพุทธรูป ประดิษฐานประจำวิหารบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
    </td></tr></tbody></table>


    ---------------------------------------------------------
    ---------------------------------------------------------
    ---------------------------------------------------------



    อ่า ไว้จัดให้ครับ

    ที่สำคัญ อย่าลืมทวงด้วยครับ

    พี่ร้บรองและรับประกันด้วยคอจริงๆครับ


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 36 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 35 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>


    สงสัยว่า ตามอ่านอยู่ครับว่า คืออะไร vb vb
    .
     
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    คออารายครับ คอคน หรือคอระฆังดังไม่หยุดครับ หุ หุ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ข้าวหนึ่งคำน้ำหนึ่งขันจดจำจนวันตาย


    ทุกวันนี้คนเราให้ความหนักแน่นในคำว่าบุญคุณ หรือการตอบแทนบุญคุณกันมากน้อยเพียงใด

    โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

    “ข้าวหนึ่งคำ น้ำหนึ่งขัน จดจำจนวันตาย” วรรคทองของ วาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียนซีไรต์ผู้ล่วงลับ ที่เคยกล่าวไว้กลางวงเหล้าในคืนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
    ประโยคสั้นๆ แต่สรุปความหมายของคำว่า “กตัญญูรู้คุณ” และ “บุญคุณ” แบบคนเลือดสุพรรณได้อย่างลึกซึ้งตรึงใจ

    แต่คงไม่ได้มีเพียงแค่คนสุพรรณเท่านั้นที่สร้างวลีอันเกี่ยวกับความ กตัญญูกตเวทีได้อย่างคมคาย เชื่อว่าคนป่าคนดอยบนเทือกสูงทางภาคเหนือ ลูกอีสานบนที่ราบสูง ลูกน้ำเค็มแห่งทะเลตะวันออก ชาวดงแห่งผืนป่าตะวันตก นักเลงปักษ์ใต้ หรือแม้แต่จิ๊กโก๋คะนองกรุง ต่างใคร่เอาชีวิตตนแลกความตายได้เพื่อคนรัก

    [​IMG]

    โดยเฉพาะลูกผู้ชายอกสามศอก เกิดมาทั้งทีบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ ตีเหล็กหุ้มใจให้แกร่งกล้า ใครดีมาเราดีไป หากมาร้าย ร้ายคืนไป ดังที่ภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ

    หวนรำลึกถึงอดีต เรื่องเล่าของชายพเนจร ออกรอนแรมไปในไพรลึก ขึ้นหุบลงห้วย ฝ่าภยันตรายจากคมเขี้ยวของสัตว์ร้ายและไข้ป่าตามหาสมุนไพรวิเศษ เพื่อนำมารักษาโรคภัยไข้เจ็บของตัวเองที่เข้าขั้นวิกฤต แล้วเกิดหลงป่า
    วันแล้วคืนเล่าผ่านไปอย่างอ่อนระโหยโรยแรง ท้อแท้สิ้นหวัง ของแห้งเสบียงกรังที่เตรียมไปเริ่มร่อยหรอหมดเกลี้ยง ชายหนุ่มโซซัดโซเซด้วยพิษไข้ ล้มฟุบสลบไสลยังหน้ากระท่อมในราวป่า โชคดีได้สองตายายเจ้าของบ้านช่วยอุ้มขึ้นเรือนอย่างทุลักทุเล ป้อนข้าวป้อนน้ำจนรอดตายปาฏิหาริย์

    ข้าวเย็นชืดในกระบอกไม้ไผ่ คลุกกินกับหน่อไม้ จิ้มน้ำพริกมะเขือ พร้อมน้ำหนึ่งขัน แค่นั้นก็เพียงพอให้หัวใจลูกผู้ชายจดจำบุญคุณไว้ไม่มีวันลืม

    รุ่งขึ้น หลังขอบอกขอบใจสองตายายเป็นอันเรียบร้อย จึงได้รู้ความลับอันน่าใจหายว่าชายชรากำลังจะตายด้วยโรคร้ายโรคเดียวกับตน ปิดฉากชีวิตโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะเสาะหาสมุนไพรที่ว่านั้นมารักษาตัวเองได้ ชายพเนจรใช้เวลาไตร่ตรองเพียงเศษเสี้ยวนาที ตัดสินใจมอบยาให้แก่เจ้าบ้านผู้ช่วยให้ตนรอดชีวิต แล้วก็จากลามาอย่างเงียบๆ ก่อนจะหายสาบสูญไปไม่มีใครเห็นอีกเลย

    เคยได้ยินเรื่องเพื่อนรักสองคน ในวันตกงานไม่มีจะกิน แบ่งมาม่าคนละครึ่งห่อต้มกินกันอย่างหิวโซ

    หรือเรื่องเพื่อนหยิบยื่นเงินในกระเป๋าก้อนสุดท้ายในชีวิตให้เพื่อนที่กำลังจะตายด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ไปหาหมอที่โรงพยาบาล

    นักโทษประหารอดีตมือปืนผู้ลั่นไกปลิดชีวิตเหยื่อ สารภาพว่าทำไปเพื่อทดแทนบุญคุณ

    ทุกวันนี้คนเราให้ความหนักแน่นในคำว่าบุญคุณ หรือการตอบแทนบุญคุณกันมากน้อยเพียงใด น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับจากผู้อื่น เราเคยหยิบยื่นสิ่งดีงามตอบแทนกลับไปบ้างไหม คำว่าขอบคุณเป็นเพียงถ้อยคำที่แสดงถึงความรับรู้ในสิ่งที่ได้รับ เป็นเพียงมารยาททางสังคมที่สามัญชนพึงกระทำ

    แต่คำว่ารู้คุณและตอบแทนบุญคุณ เป็นเรื่องที่มีความหมายสำคัญลึกซึ้งกว่า เป็นการสำนึกในสิ่งดีงามที่เราได้รับ แล้วส่งกลับไปถึงผู้ให้ในเวลาที่เหมาะสม

    แม้การทดแทนบุญคุณจะไม่ต้องรอคอยฤกษ์งามยามดี แต่ถึงอย่างนั้นถ้าได้ลงมือลงใจทำในจังหวะที่ถูกต้องและเหมาะสม ถูกที่ ถูกเวลา ผลลัพธ์จะออกมาอย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด

    มิพักต้องเอ่ยถึงบุญคุณของพ่อแม่ที่ให้กำเนิด เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ ครูอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้เราใช้ทำมาหากินเลี้ยงชีพจนทุก วันนี้ พี่น้องผองเพื่อนคนรักที่คอยให้กำลังใจ อยู่เคียงข้าง ช่วยเหลือทุกสิ่ง|ทุกอย่างในวันที่ชีวิตต้องเผชิญกับความยากลำบาก แม้กระทั่งศัตรูผู้มอบบทเรียนชีวิตอันล้ำค่า

    คำชื่นชม คำด่า คำวิพากษ์วิจารณ์ ทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ล้วนต้องจดจำ จารึกไว้ในหัวใจไปจนวันตาย

    ดังเช่นข้าวเพียงหนึ่งคำ น้ำหนึ่งขันของชายผู้รอดชีวิต

    -http://www.posttoday.com/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/110180/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2-

    .

    ข้าวหนึ่งคำน้ำหนึ่งขันจดจำจนวันตาย - โพสต์ทูเดย์ ข่าวไลฟ์สไตล์

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ดังแบบเงียบๆครับ vb vb

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำพูดที่ในหลวงพูดกับองคมนตรี นำมาฝากกันครับ

    ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเหล่านั้น เวลาขายคุณค่ามันต่ำมาก คงได้เงินไม่กี่บาท แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี่เหล็กมันคงร้อนมาก พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีก เวลาตีต้องเอาไปเผาด้วย ตีไปเผาไป อยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูปดาบอย่างที่เราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้ว ถ้าจะให้สวยงามดังใจ ก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย ก็ต้องใช้ของมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงาม ก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ จะเห็นได้ว่ากว่าที่เศษเหล็กมีคุณค่าไม่มากนัก จะกลายเป็นดาบที่งดงามนั้น ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆกว่าจะประสบความสำเร็จ

    ดังนั้น ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า “ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่”
     
  7. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ปล่อยนิ้วเท้าเย็น ระวังถูกตัด!

    วันจันทร์ ที่ 12 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    อาการนิ้วเท้าเย็น ที่ไม่มีทีท่าว่าจะอุ่นได้อย่างปกติ แม้ว่าจะออกมาจากห้องแอร์เย็นๆ หรือไม่ได้เอาเท้าแช่น้ำเย็นแล้ว สภาพดังกล่าวถือเป็นอาการที่ไม่ควรนิ่งนอนใจและต้องรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากหลอดเลือดแดงส่วนปลายอาจกำลังอุดตัน ซ้ำร้ายถ้าบาดเจ็บเป็นแผลขึ้นมา นิ้วเท้าที่เย็นก็จะเน่าและถูกต้องตัดทิ้งไป

    หลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน มักเกิดขึ้นกับสตรีวัยหมดประจำเดือน ที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจนไม่สามารถควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลได้ รวมถึงคนที่ชอบกินอาหารไขมันสูง ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักตัวเกิน ความดันโลหิตสูง และเป็นโรคเบาหวาน เป็นสาเหตุให้คลอเลสเตอรอลและไขมันสูง ส่งผลต่อผนังของเส้นเลือดแดงหนาตัวและยืดหยุ่นน้อยลง การไหลเวียนของเลือดจึงเป็นไปอย่างลำบาก และเกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด

    บ่อยครั้งหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตันเกิดที่เส้นเลือดแดงบริเวณขา ที่แตกแขนงไปเลี้ยงขาทั้งสองข้าง รวมทั้งน่องและเท้าทั้งหมด ทำให้มีอาการปวดขาเมื่อใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้น เนื่องจากเวลาออกแรง ร่างกายจะต้องนำเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้น ซึ่งหากเลือดไปเลี้ยงไม่พอก็จะมีอาการปวด ชา และเย็น

    หากปล่อยอาการที่เกิดขึ้นทิ้งไว้ ช่วงแรกจะพบว่า การเดินระยะไกลจะปวดขา แต่ถ้ารุนแรง เพียงแค่นั่งเฉยๆ ก็จะปวด ปลายเท้าเย็น เพราะเลือดไปหล่อเลี้ยงที่เท้าได้น้อย สีผิวหนังที่เท้าเปลี่ยนกลายเป็นสีขาว ดูซีดจนกระทั่งม่วงคล้ำ

    ที่อันตรายน่าห่วง คือ อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย เช่น ถูกเศษแก้วบาดที่นิ้วเท้าซึ่งมีอาการข้างต้นอยู่ บาดแผลที่เกิดขึ้นสามารถนำเชื้อโรคเข้าไปได้ เมื่อปล่อยไว้เชื้อโรคแพร่กระจาย ทำให้นิ้วเน่า เนื้อตาย แพทย์ต้องตัดนิ้วที่เน่าทิ้งเพื่อป้องกันเชื้อโรครุกราม

    หากไม่อยากเสี่ยงเสียนิ้วหรือขา เมื่อเกิดอาการปวด ร่วมกับชา และเย็นที่ขากับเท้า ควรพบแพทย์ เนื่องจากภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เพราะไขมันทำร้ายเส้นเลือด แพทย์จะทำการขยายหลอดเลือด ด้วยการทำบอลลูนหรือใส่ขดลวดที่หลอดเลือด บางกรณีอาจทำบายพาส เพิ่มช่องทางเดินเลือดใหม่นั่นเอง.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 20 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 15 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, waritj, รอยพระป่า, :::เพชร:::+, อนัตตัง</td></tr></tbody></table>

    ผมได้ส่งรูปไปให้หลายๆท่านได้อ่านกัน เมื่อสักพักนี้

    อ่านกันเองครับ

    ตอนนี้ขอไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปข้างนอกอีก หลังจากวันนี้ไปข้างนอกมาทั้งวันแล้ว แถมงานบนโต๊ะก็ยังไม่ได้ทำเลย ฮือๆๆๆๆๆ

    ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ


    .









    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ฟันแท้หลุด ใส่คืนได้

    วันอังคาร ที่ 13 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    หากฟันแท้เกิดหลุดก่อนวัยอันควรเนื่องจากอุบัติเหตุ รู้หรือไม่ใส่ฟันแท้กลับเข้าที่เดิมได้ เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีมาแนะนำ

    ผู้ใหญ่หรือเด็กบางคนอาจประสบอุบัติเหตุถูกกระทบกระแทกที่ปาก ทำให้ฟันแท้หลุดก่อนเวลาอันสมควร แต่รู้หรือไม่ว่า ฟันแท้ที่หลุดออมานั้น สามารถใส่กลับเข้าไปได้ดังเดิม ด้วยขั้นตอนสำคัญที่เริ่มจากรีบหาฟันให้เจอหลังฟันหลุด เมื่อพบแล้วอย่าจับที่ตำแหน่งรากฟันเด็ดขาด ให้รีบนำไปล้างน้ำสะอาดที่ไหลเบาๆ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออก โดยห้ามถูหรือล้างกับน้ำยา สบู่ เคมีต่างๆ แต่ให้แช่ฟันลงในน้ำนมชนิดจืด เนื่องจากนมรสจืดจะช่วยรักษาเซลล์รอบรากฟันไว้ได้

    กรณีที่หานมจืดไม่ได้ ให้แช่ในน้ำเปล่า น้ำเกลือ หรือใช้ผ้าสะอาดบางๆ ห่อฟันแล้วอมไว้ในปาก เพราะต้องให้ฟันเปียกน้ำอยู่ตลอดเวลา จากนั้นรีบไปพบทันตแพทย์ให้ใส่ฟันกลับเข้าที่ ซึ่งไม่ควรนานเกิน 1 ชั่วโมงหลังจากฟันแท้หลุดออก มิเช่นนั้นรากฟันจะตาย.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ที่มาของขนมไหว้พระจันทร์

    วันอาทิตย์ ที่ 11 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    วันเพ็ญเดือน 8 ของทุกปี ตามปฏิทินจีน ถูกกำหนดให้เป็นวันไหว้พระจันทร์ และในปีนี้ก็ตรงกับวันจันทร์ที่ 12 กันยายน สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลนี้ นั่นก็คือ "ขนมไหว้พระจันทร์" ทราบไหมว่า เจ้าขนมกลม ๆ หนา ๆ นี้ มีที่มาอย่างไร

    "วันไหว้พระจันทร์" นอกจากเป็นวันไหว้บูชาดวงจันทร์ของชาวจีนแล้ว ยังเปรียบเสมือนวันแห่งความสามัคคีกลมเกลียวของชาวจีนอีกด้วย เนื่องจากเป็นวันที่ระลึกถึง การที่ชาวจีนร่วมมือร่วมใจกัน จนสามารถปลดแอกตนเองออกจากพวกมองโกลได้

    โดยมีเรื่องเล่าว่า ช่วงที่ชาวมองโกลปกครองประเทศจีนนั้น ชาวจีนบางพวกได้ร่วมมือกันต่อต้าน และมีความคิดที่จะเรียกชุมนุมพวกเดียวกันให้ได้เยอะ ๆ โดยไม่ให้ใครจับได้ พวกเขาจึงวางอุบาย ทำของไหว้ชนิดหนึ่งขึ้นมา คือขนมเค้กที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมใหญ่ ใส่ไส้หนา ๆ แต่มีจุดประสงค์ที่แท้จริงเพื่อไว้ซุกซ่อนข้อความลับของเหล่าผู้ต่อต้าน เนื้อความบอกให้ประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 แล้วนำไปแจกจ่าย พวกทหารมองโกลก็ไม่ทันระวัง คิดว่าเป็นประเพณีโดยปกติของชาวจีน ด้วยเหตุนี้ชาวจีนจึงสามารถรวบรวมพรรคพวกจนปราบทหารมองโกลลงได้ ซึ่งขนมนั้นก็คือ "ขนมไหว้พระจันทร์" ที่สืบทอดต่อ ๆ กันมานั่นเอง

    "ขนมไหว้พระจันทร์" มีหลากหลายไส้ แต่ที่เป็นแบบดั้งเดิมจะมีไส้ถั่วแดง ลูกนัทจีน 5 ชนิด และ เมล็ดบัว แต่ต่อมาก็ได้มีการดัดแปลงให้ถูกปากและมีความหลากหลายมากขึ้น จึงมีไส้ทุเรียน ไข่เค็ม ลูกเกาลัด คัสตาร์ด ฯลฯ ตามมา โดยประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานั้น หลังจากที่นำ "ขนมไหว้พระจันทร์" ไปใช้ไหว้เสร็จแล้ว คนในบ้านก็จะนำมาแบ่งกันกิน แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี จึงถือว่าขนมชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความกลมเกลียวด้วย.





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  13. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    เรียนคุณหนุ่ม
    ผมโอนเงินร่วมบุญหล่อพระ ฯ แล้วครับ
    รวม 5,120 ถ้วน
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 26 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 24 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, Pinkcivil</td></tr></tbody></table>


    สวัสดีครับคุณPinkcivil

    วันนี้ยุ่งมากจริงๆ พรุ่งนี้ผมมีนัดไว้ 7 โมงเช้า อีกเดี๋ยวต้องไปพักผ่อนแล้วครับ

    งานเยอะมากจริงๆครับ

    .
     
  17. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    สวัสดีครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ช่วงนี้อากาศร้อน - ฝนตกตลอดเรยครับ
     
  18. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  19. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    รับมือ 'ร้อนวูบวาบ' ช่วงวัยทอง

    วันพุธ ที่ 14 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    วัยทอง ช่วงวัยหนึ่งของชีวิตที่ร่างกายลดระดับการผลิตฮอร์โมนลงตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ผู้หญิงจะมีอาการของวัยทองมากกว่า โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป จะเริ่มเข้าสู่วัยทอง

    อาการเตือนของวัยทองมีทั้งประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ สภาพช่องคลอดเปลี่ยนไป หลับยากแต่ตื่นเร็ว หรือตื่นกลางดึก อารมณ์แปรปรวน ไม่มีสมาธิ รูปร่างเปลี่ยน ผิวหนังเหี่ยว ปวดศีรษะ ปวดตามตัว และร้อนวูบวาบตามตัว ซึ่ง 'มุมสุขภาพ' เตรียมวิธีปฏิบัติตัวเพื่อรับมือกับอาการร้อนวูบวาบเพราะร่างกายเข้าสู่วัยทองมาฝาก

    โดยอาการดังกล่าวมักเกิดเฉพาะส่วนบนของร่างกาย แก้ม คอ หลังจะแดง ก่อนจะเหงื่อออกและหนาวสั่นในช่วงเวลากลางคืน อาการร้อนวูบวาบจะเกินนานครั้งละไม่เกิน 5 นาที

    เมื่อรู้สึกร้อนวูบวาบให้เข้าไปอยู่ในที่เย็นๆ และดื่มน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสเผ็ดร้อน งดดื่มแอลกอฮอล์ หันไปเน้นอาหารที่มีถั่วเหลืองจะช่วยลดอาการร้อนตามตัวได้

    ส่วนเวลาจะนอนก็ควรนอนในห้องแอร์หรือห้องที่อากาศเย็นสบาย กรณีที่รู้สึกหนาวสั่นให้สวมเสื้อผ้าหลายชั้น ที่สำคัญพยายามอย่าเครียด หากรู้สึกเครียดขึ้นมาให้หายใจเข้าและออกยาวๆ อย่างช้าๆ

    สำหรับผู้หญิงบางคนที่ลองปฏิบัติตัวคำแนะนำเบื้องต้นเพื่อแก้ไขอาการร้อนวูบวาบแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกสบายตัวขึ้น อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับวิตามินอี ซึ่งสามารถลดอาการได้ร้อยละ 40 รวมถึงยาลดอาการซึมเศร้าด้วย.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  20. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    “ขี้เหล็ก”ทานแล้วหลับสบาย

    วันพุธ ที่ 14 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    สรรพคุณ “เป็นยาระบาย-ลดความดัน-แก้ร้อนใน-ป้องกันเหน็บชา-ขับพยาธิ” พร้อมขั้นตอนกำจัด “ขม” และเคล็ดลับเพิ่มความกลมกล่อมในแกง

    “ขี้เหล็ก”
    เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 8-15 เมตร เนื้อไม้สีน้ำตาลแก่เกือบดำ ใบประกอบเป็นแบบขนนกเรียงสลับ ส่วนใบย่อยรูปรี ปลายและโคนแหลม สำหรับใบอ่อนสีแดงเรื่อ พบดอกตูม และดอกช่อสีเหลืองอยู่ปลายกิ่ง ผลเป็นฝักแบนยาว สีคล้ำ ภายในบรรจุเมล็ดรูปไข่ สีน้ำตาลอ่อน เรียงตามขวางราว 20-30 เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และตอนกิ่ง ปลูกได้ในดินทั่วไป

    โดยยอด ใบอ่อน และดอก นิยมใช้ทำเมนู “แกงขี้เหล็ก” ทั้งแบบแกงกะทิใส่เนื้อย่าง หรือหมู และแกงป่าใส่น้ำคั้นใบย่านาง บางสูตรจะใช้ปลาย่าง และถั่วลิสงเป็นส่วนผสมด้วย ช่วยเพิ่มความข้นของน้ำแกง ชูรสชาติกลมกล่อม ทั้งนี้ ไม่ควรเลือกใบขี้เหล็กที่อ่อนเกินไป จะทำให้แกงมีรสเปรี้ยว หรือหากแก่เกินไป จะทำให้มีกากมาก รับประทานไม่อร่อย

    สำหรับขั้นตอนลดความขมนั้น ทำได้โดยนำยอด ใบอ่อน และดอกมาต้ม แล้วบีบน้ำออก ทำเช่นนี้ประมาณ 2 ครั้ง จากนั้น ครั้งที่ 3 ให้ผสมเกลือในน้ำที่ใช้ต้มเล็กน้อย เสร็จแล้วใช้ทำอาหารได้

    ขี้เหล็กมีสรรพคุณทางสมุนไพรหลายด้าน เช่น แก้ร้อนใน ลดความดันโลหิตสูง ป้องกันเหน็บชา ขับพยาธิ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังใช้แก้อาการนอนไม่หลับได้ เพราะภายในใบพบสารบาราคอล (barakol) ที่มีฤทธิ์ช่วยคลายเครียด ทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำและเกลือแร่ในลำไส้ ทำให้กากอาหารนุ่ม จึงช่วยแก้ท้องผูกด้วย.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...