มาดูสมเด็จกัน

สงสัยต้องลองอ่าน ข้อมูลตามลิ้งค์นี้ดูนะคะ

ลองเข้าไปศึกษาดูข้อมูลได้นะคะ http://palungjit.org/threads/ถอดรหัสพระสมเด็จ.181370/

 

สวัสดีคะ คุณ noitak

พระสมเด็จองค์นี้ถ้าจำไม่ผิด เป็นพระสมเด็จของคุณ สุชาติ มูลสวัสดิ์ ใช่ไหมคะ ยังสงสัยอยู่ว่าคุ้นๆเห็นที่ไหน หุหุหุหุหุ อุ๊บบบบบ แอบย่องกลับบอร์ดเก่าๆก่อนนะคะ ยาไปซุกๆๆก่อน หละ อิอิอิอิอิ

 

พี่น้อยเป็นคนดังเหมือนกันนะเนี้ยะ

 

สวยมากครับ คุณยา เด๊ยวต้องลองบ้างซะแล้วแหละ

 

คุณยาพระสวยครับ น่าลองอบดอกมะลิดูเหมือนกันนะครับ (แล้วต้องอบกี่วันครับ หรือดอกมะลิเหี่ยวก็โอเค)

 

ขอบคุณมากคะ chaiyaput, kaitti
การอบมะลิ เพื่อดูแลรักษาผิวพระสมเด็จ
ขั้นตอน
- เตรียมภาชนะ ที่แห้งสะอาด มีฝาปิดมิดชิด จะให้ดี ลองหาโอ่ง หรือหม้อดินเล็ก อันละ สิบกว่าบาท มาอบนะคะ เพราะ เป็นธรรมชาติดี เหมือนเราหุงข้าวหม้อดินจะแตกต่างจากหม้อไฟฟ้า เช่นกันคะ
- ดอกมะลิซ้อน หรือ มะลิร้อยมาลัย ที่บริสุทธิ์ คือ ปราศจากสารเคมี เช่น ฟลอมารีน ยาชนิดที่เคลือบดอกให้สดชื่น ให้ดีหาตามบ้านที่เขาปลูกจะดีกว่านะคะ
- ทำความสะอาดดอกมะลิเบาๆ ถ้าดอกมะลิมีฝุ่นสกปรกจับ หลังจากนั้น ซับด้วยกระดาษซับน้ำ เพื่อไม่ให้มะลิมีน้ำ หรือ ชุ่มน้ำ แล้ววางผึ่งให้แห้งสนิท
- เมื่อได้มะลิที่สะอาดและแห้งสนิท แบ่งจำนวนมะลิ เป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งก็นำมาวางบนภาชนะ ที่เตรียมไว้
- นำพระสมเด็จ ออกจากกรอบให้เรียบร้อย แล้วมาวางบนดอกมะลิ ในภาชนะที่เตรียมไว้
- นำพระสมเด็จมาวางบนดอกมะลิ แล้ว ก็ใช้ดอกมะลิที่เหลือ วางทับบนด้านหน้าของพระสมเด็จแล้ว ปิดฝาให้มิดชิด
- หากต้องการเพื่อดูแลรักษาผิวพระ ก็สามารถไว้ได้ ประมาณ 2-3 วัน มะลิก็จะเริ่มเหี่ยว นั่นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ( ดอกมะลิเน่าไม่ใช่ปัญหาสำคัญ สามารถเช็ดออกได้ )
- หลังจากนำพระออกจากผอบที่ได้ทำการอบดอกมะลิเรียบร้อยแล้ว จะเห็นสภาพผิวพระ ที่ใกล้เคียงตามภาพที่โพส คือ ชุ่มน้ำเหงื่อ ภายในภาชนะ ไอน้ำดอกมะลิ ติดที่ผิวพระ ให้นำพระมาวางผึ่งลม ไว้ 5-10 นาที น้ำก็จะเริ่มซึมและ แห้งเข้าไปในผิวพระ
- นำพระจัดใส่กรอบให้เรียบร้อย ขึ้นแขวนคอได้ตามปกติคะ และ รอเวลาที่เนื้อพระจะกลับ หรือ แห้งสนิท และ ดันผิวโชร์เนื้อหามวลสาร ที่หนึกนุ่มสวยงาม

( กรณี หากต้องการประกวดพระ กรุณาอย่านำพระมาอบมะลินะคะ เพราะ เนื้อพระแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน การใช้เวลาเซ๊ตตัว แตกต่างกัน อาจจะแห้งไม่ทันประกวด เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนนะคะ )

กรณี พระเก๊ พระ บวชใหม่ ตามทฤษฎี ที่ยาได้ศึกษามา
- เมื่ออบมะลิ แล้ว เกิดการขึ้นรา มีเชื้อรา เกิดตามซอกผิว ตามเนื้อพระ โดยส่วนตัวแล้วยาคิดว่า เป็นพระบวชใหม่ หรือ ทำขึ้นใหม่ ไม่ทันยุคท่านสมเด็จโต เหตุผล เพราะ พระสมเด็จนั้นสร้างมาเป็นร้อยกว่าปี การเซ๊ตตัวของผิว และ มวลสารจะมีการย่อยสลายไปแล้ว ไม่น่าจะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นมาได้ นอกจากพระเนื้อใหม่ มวลสารใหม่ๆ ( ลองพิจารณาดูนะคะ )
- พระที่มีปฎิกิริยาการเดือดน้ำปูนข้างใน แล้วทำให้เกิด คราบที่เป็นเกล็ดขาวเหมือนขี้เกลือ เกาะตามผิว ซึ่งความเห็นของยาคือ ไม่ดี อาจเป็นพระยุคหลัง ประมาณ 60-80 ปี แต่ไม่ทันท่านสมเด็จโตคะ ( เวลาและกาลเวลา มวลสารน่าจะแห้งแล้วคะ ยาคาดเดาเอานะคะ )
- พระที่ยุบตัว ปริ แตก แยก กระเทาะ เป็นพระใหม่ที่ยังไม่เซ๊ตตัว ทดสอบได้โดยการอบมะลิ เป็นเวลาประมาณ 9-10 วัน ( คิดสภาพพระบางขุนพรหมที่ถูกแช่น้ำ เป็นเวลานานยังมีความแกร่ง แต่หากระยะสั้นๆแล้วเจอความชื้นไม่กี่วัน แล้วแตก นี่ก็น่าสงสัยจริงไหมคะ )
- อื่น ( รอเพื่อนๆช่วยกันวิเคราะห์ เผื่อเจออะไรที่แตกต่างกัน ปรากฎให้เห็นคะ )

--------------------------------------------------------------------------

บางท่าน อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ก็แสดงความคิดเห็นได้นะคะ สำหรับยาแล้ว การมีความคิดที่แปลกใหม่ ที่ไม่ส่งผลให้เสียหาย เป็นเรื่องที่น่าค้นคว้า หรือ หาความจริงด้วยตัวเอง การลองถูกและลองผิด การลองหาสิ่งใหม่ แนวทางใหม่ ให้เกิดความรู้ด้วยตัวเอง เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และ ศึกษา หากเรากลัวที่จะเดินไปข้างหน้า ก็คงจะย่ำอยู่กับที่ในรอยเท้าเดิมๆ

มีผู้ใหญ่บอกเราเมื่อสมัยยังเด็กๆว่า อย่าเดินลัดป่าตรงนั้นนะ มีงูเยอะ ให้เดินทางนี้ เด็กก็จะกลัวไม่กล้าเดินไปทางนั้น ก็จะเดินไปในทางเดิมๆทุกวันๆ สิ่งที่ได้พบเห็นก็จะเป็นภาพเดิมๆ เรื่องราวเดิมๆ ดังนั้น เด้กคนนั้นจึงคิดใหม่ว่า ทำไมเขาไม่ลองเดินไปทางนั้น แต่ให้ระมัดระวังยิ่งขึ้น ถือไม้ หรือ สิ่งของไปขว้างปา เพื่อ ให้งูมันตื่นกลัวแล้วหนีเส้นทางที่จะเดิน ( ยาเล่าให้คิดกันเล่นๆคะ ในบางสิ่ง เราต้องค้นหาด้วยตัวเอง เราจะเกิดความเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นได้มากขึ้น ) ทุกๆอย่างที่ยาพูดไปใช่ถูกต้องเสมอไป บางอย่างถูก และ ผิด ดังนั้น กรุณาใช้วิจารญานในการรับรู้ และ รับฟัง ข้อมูล ต่างๆ

--------------------------------------------------------------------------

เพื่อเป็นสิริมงคล แต่ตนเอง ก่อนนิมนต์ท่านไปอบมะลิ อย่าลืมสวดมนต์อธิฐานจิต ขออนุญาติท่านก่อนนะคะ

-------------------------------------------------------------------------

 

ขอบคุณมากครับ เสียดาย ภาพไม่ขึ้น T T

 

ข้อสรุปสุดท้ายของการดูพระสมเด็จ (วัดระฆัง) ก็คือ เนื้อ หลายท่านพูดว่าพิมพ์ทรงต้องมาก่อน
หากท่านพิจราณาดูพระสมเด็จหลายๆองค์ ท่านจะพบว่าแม้แต่พระที่ถอดมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน
ยังมีความแตกต่างกันในหลายๆจุด เนื่องจากกดเนื้อพระด้วยมือน้ำหนักจึงไม่เท่ากันในการกดพระแต่ละองค์ ที่สำคัญท่านต้องดูให้ออกว่าเก่า (อย่างไรถึงจะดูเก่าท่านต้องเคยผ่านพระแท้) มวลสารต้องแห้งเก่า ผุกร่อน รอยยุบ ย่น แยก ต้องเป็นธรรมชาติ หากท่านไม่เคยผ่านพระองค์แท้เป็นการยากที่จะตัดสินพระแท้ ไม่แท้

 

อันนี้เอามาฝากเพื่อนๆ ดูกันครับ คุณยาน่าจะชอบนะครับ เนื้อแบบนี้นะ

 

องค์นี้พอไป ทางวัดระฆังได้เปล่าครับทุกท่าน พึ่งไปเดินเจรอมา

 

ผมชอบแนวนี้ครับ

 

^
^
ข้างบนแนว 50
ข้างล่างแนว 90 ครับ

เผื่อจะมีใครชอบเหมือนกัน

 

50/90 คืออะไรครับ.....................

 

^
^_^ ลองทายดูละกันครับ (ผมชอบแนว 30+)


v อันนี้ัแนว 30-40



v ....แนว 100

 

สวัสดีคะ คุณ ห้องมืด
ส่วนตัวแล้วก็ชอบผิวที่ดูหนึกนุ่มใส แกร่ง เห็นมวลสาร แต่พระสมเด็จนั้น มีหลายเนื้อมาก ซึ่งต้องใช้เวลาศึกษา แต่อาจยึด เรื่องมวลสารของท่านเพื่อเป็นหลักในการดูเนื้อองค์อื่นๆ บางองค์เนื้อสังขยา บางองค์เนื้อแก่กล้วย บางองค์แก่ปูน เท่าๆที่ทราบมีหลากหลายเนื้อมวลสารที่ท่านนำมาเป็นส่วนผสม รวมทั้งเนื้อพระยุคแรกๆที่ท่านทำขึ้นมา ยังไม่มีการนำน้ำมันตังอิ๊วมาเป็นส่วนผสมผสาน ยาจึงไม่ค่อยจะมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องพระสมเด็จ บางองค์ที่สอบถาม ( บอกตัวเองว่ายังรู้ไม่จริงคะ รอฟังผู้เชี่ยวชาญดีกว่า อิอิอิ รอรวบรวมข้อมูล )

มีรูปพระมาฝากคะ ของคุณ อัชชานนท์ เวป เก้าพระ เนื้อแบบนี้ยายังดูว่าสวยดี แก่น้ำอ้อยเคี่ยว ในความรู้สึกที่ยาวิเคราะห์ ( ยาดูแล้วมันสบายตา ไม่ขัดสายตาเรา มันบอกไม่ถูกคะ เหตุผลสวนตัว รู้เพียงว่า พระสมเด็จแทบทุกองค์มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันคะ มีพุทธศิลปที่งดงาม ในแต่ละองค์ )

 

สวัสดีคะ คุณ Tonbanpa

มาทีมาเป็นชุดๆเลยนะคะ มีคำถามมาถามอีกต่างหาก เอ ชักสงสัยแล้วสิ ว่า 50/90 คืออะไร
มาหาคำตอบกันดีกว่า
อืม...... ยาขอเดานะคะ ไม่รู้ว่าคุณต้นกำลังสื่อถึงอะไร แต่ยาขอเดาหละกันนะคะ ว่าหมายถึง มุมองศาเส้นซุ้ม ถ้ามองด้านในของเส้นซุ้ม จะตั้ง 90 องศา แต่ด้านนอกของเส้นซุ้มจะลาดเอียง ทำมุมองศาในระดับลาดเอียง ประมาณ 30- 50 องศาไม่เกินนี้
ไม่ทราบความเข้าใจของยาเข้าใจในการศึกษาพระสมเด็จถูกต้องหรือไม่ ในลักษณะของพิมพ์เส้นซุ้มพระสมเด็จ นะคะ เป็นรายละเอียดเล้กๆน้อยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวพันกันหรือไม่ ลองทายดูคะ
รอฟังเฉลย ( ความรู้การศึกษาพระสมเด็จไม่มีวันจะสิ้นสุด แต่เราต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็น )

--------------------------------------------------------------------------
มีเรื่องนึงที่ทำให้ยาเกิดความกลุ้มใจอยู่บ่อยๆ บอกตัวเองว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ทางออกที่ดีที่สุด ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไรคะ ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้

หากคนที่คุณรู้จักมาสอบถามคุณเรื่องพระสมเด็จ และในสายตาคุณนั้น ความรู้สึกของคุณเองบอกว่า มันไม่ใช่ ไม่ถึง หรือ ไม่ทัน แต่คุณก็เกรงใจที่บอกเขาแบบตามตรง เพราะ ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือก็ฟันธงว่า พระของเขานั้นสวย ความรู้สึกของคุณจะทำเช่นไร หากคุณวิเคราะห์ไป ก็เหมือนการหักหน้า ผู้ใหญ่ท่านนั้น ไม่ให้เกียรติ์ท่าน เมื่อเราบอกว่าเราไม่เป็นไม่ถนัด กับคนรู้จักของเรา เขาก็มองว่าเราหวงวิชา ทั้งๆที่เราพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำให้เราเสียนำใจกับเพื่อนไปเสียอีก
ยาเชื่อว่าหลายๆท่านเจอเหตุการณ์นี้อยู่บ่อยๆ รวมทั้งเซียนใหญ่ๆ ที่ได้ฟันธงว่าพระ ท่านนายพล คนนั้นคนนี้ หรือ นักธุรกิจใหญ่ๆ ว่าพระที่ครอบครองนั้นแท้ ซึ่งในใจอาจมองตรงกันข้ามแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดที่จะพูดด้วยอำนาจและบารมี ผู้สอบถาม
จากที่ยาหาเหตุผล ด้วยตัวเองแล้ว บอกตัวเองว่า ไม่ว่าอย่างไร เราจะบอกว่าดีหรือไม่ดี ก็เป็นผลเสียกับเราเองทั้งสิ้น ทางที่ดีอยู่เงียบๆ ดีที่สุด ไม่ส่งผลเสียตามมาทีหลัง

แล้วคุณหละคะ จะทำเช่นไร ในสังคมที่คุณเดินเข้าไปในวงการพระเครื่อง

--------------------------------------------------------------------------

 

ถ้าเขากล้าถาม ก็ต้องกล้าบอกครับ ไม่งั้นผิดศีลนะครับ อิอิ

 

ขออภัยที่โพสรูปช้า ผมไปเจอแล้วครับลูกของคนในตำนานที่มีตัวตน จากพระสมเด็จวัดระฆังปิดทองล่องชาด
กล่าวกันว่า ภายหลังเจ้าคุณสมเด็จฯ ถึงมรณภาพ พระสมเด็จที่ใส่บาตร สัต และกระบุง ตั้งไว้ที่หอสวดมนต์นั้น ได้ขนย้ายเอาไปไว้ที่ในพระวิหารวัดระฆัง (ว่าเอาไว้ที่บนเพดานวิหารก็มี) โดยมิได้มีการพิทักษ์รักษากันอย่างไร เป็นต้นว่าประตูวิหารก็ไม่ได้ใส่กุญแจ ในปีหนึ่งเป็นเทศกาลตรุษสงกรานต์มีทหารเรือหลายคนมาเล่นการพนันที่หน้าวัด เช่น หยอดหลุม ทอยกอง เป็นต้น จะเนื่องด้วยเหตุใดไม่ปรากฏ ทหารเรือเหล่านั้นได้วิวาทชกกัน ทหารเรือคนหนึ่งได้เข้าไปเอาพระสมเด็จในวิหารมาอมได้ ๑ องค์ แล้วกลับมาชกต่อยตีรันประหัตประหารกันต่อไป ที่สุดปรากฏว่าทหารเรือคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างไร แม้รอยฟกช้ำก็ไม่มี ส่วนทหารเรือคนอื่นๆ ต่างได้รับบาดเจ็บที่ร่างกาย มีบาดแผลมากบ้างน้อยบ้างทุกคน จากนั้นคนๆหนึ่งได้ไปนำพระออกมาในช่วงกลางคืนเป็นพระที่อยู่ในเจดีย์ภายในกรมอู่ทหารเรือปัจจุบันกลับไปไว้บ้านที่ต่างจังหวัดจำนวนมาก ผมพึ่งไปเจอโดยบังเอิน ผมบูชามาแล้ว
ผมจะทยอยลงรูปให้ดูครับ ตัวกระผมชอบพระที่มวลสารมาก หรือชัดลึกครับ
ผมได้ตรวจสอบหลายๆครั้งทั้งตามหลักวิทยาศาสตร์และทางจิตผลออกมาตรงกันครับ อีกทั้งผมยังได้สำรวจตลาดท่าพระจันทร์และตลาดพระอื่นๆไม่พบพระทั้งหมดที่มีตามรูปจึงแน่ใจว่าไปเจอทองคำในโคลนแล้วครับ ลองดูครับ

 

ขนาดพระสมเด็จได้ข้อมูลมาตามนี้ครับ

 

ข้อมูลองค์ลุงพุฒ........ ครับ