ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ข้อความการสื่อสารจาก Matthew Ward
    โดย Suzanne Ward
    เมื่อ 11 สิงหาคม 2554
    ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/matthew11-08-11.html



    ตอนที่ 10

    ประเด็น : การอธิบายถึงความหนาแน่น(densities) ;
    ผู้ช่วยเหลือที่มองไม่เห็น



    ความหนาแน่นลำดับที่สี่ ไม่ใช่ “สภาวะ(condition)” เดียวโดดๆ
    หรือไม่ใช่สถานีในการวิวัฒน์วิญญาณที่ถูกแยกออกจาก
    ความหนาแน่นลำดับที่สามโดยผนังกั้นที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
    ความหนาแน่นไม่แยกจากกัน

    สรรพสิ่งในจักรวาลนี้คือพลังงานที่กำลังไหลขึ้นและไหลลง
    หรือจะให้เป็นวิทยาศาสตร์มากหน่อยก็คือ
    พลังงานที่กำลังขยายออกและย่อเข้า
    และพลังงานไม่มีการกั้นออกเป็นช่วงๆ

    ความหนาแน่นต่างๆได้รับการนับเป็นลำดับ เพียงเพื่อให้พวกคุณสามารถเข้าใจได้ว่า
    ในขณะที่วิญญาณดำเนินการพัฒนา
    มันจะไล่เลื่อนพัฒนาขึ้นไปบนการสั่นสะเทือนระดับต่างๆ
    ซึ่งให้โอกาสใหม่ๆในการเรียนรู้และวิวัฒน์

    และความหนาแน่นแต่ละลำดับก็มีการสั่นสะเทือนระดับต่างๆให้ได้เรียนรู้และวิวัฒน์
    ยิ่งไปกว่านั้น วิญญาณในความหนาแน่นลำดับที่สี่
    ยังสามารถเคลื่อนถอยกลับไปลำดับที่สามหรือต่ำกว่าได้
    โดยอาศัยชาติภพทั้งหลายของตัวละครเอง
    [บท “The Cumulative Soul” ในหนังสือ “Revelations for a New Era”
    ได้อธิบายเรื่องหนึ่งวิญญาณมีหลายตัวละครไว้อย่างครอบคลุม]



    ความหนาแน่นลำดับที่สามเป็นประสบการณ์ลำบากที่มีลักษณะพิเศษ
    เพราะมันร้อยระดับการสั่นสะเทือนจำนวนมากไว้ด้วยกัน
    และความแตกต่างระหว่างระดับล่างสุดของความหนาแน่นลำดับที่สาม
    กับระดับแรกของความหนาแน่นลำดับที่สี่
    ก็เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกันอย่างประหลาดเหมือนกลางคืนกับกลางวัน

    กระบวนขั้นตอนการวิวัฒนาการจากลำดับที่สามไปลำดับที่สี่
    อาจเปรียบได้เป็นวัตถุที่คล้ายกันจำนวนนับไม่ถ้วน
    พวกเราขอใช้ตัวโดมิโนทั้งหลายให้คุณได้นึกภาพตาม

    โดยตัวโดมิโนบางตัวอยู่ที่ก้นภูเขาและนอกนั้นก็กำลังปีนภูเขา
    เมื่อเข้าสังเกตใกล้ๆ คุณจะมองเห็นไม่เพียงแค่ตัวโดมิโนทั้งหลาย
    กำลังเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วที่ต่างกันเท่านั้น
    แต่บางตัวยังเคลื่อนเป็นแนวตรงขึ้นไป
    นอกนั้นกำลังเลี้ยวซ้ายนิดแล้วขวาหน่อยเมื่อพวกมันปีน
    และบางตัวก็กำลังตามหลังตัวที่พวกมันเคยนำหน้า


    ..........
     
  2. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ข้อความการสื่อสารจาก Matthew Ward
    โดย Suzanne Ward
    เมื่อ 11 สิงหาคม 2554
    ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/matthew11-08-11.html



    ตอนที่ 11



    โดยศึกษาจากความคล้ายคลึงกันก็คือ
    เมื่อยุคของการฟื้นคืนสภาพทางจิตวิญญาณและการปฏิรูปสภาวะโลก
    ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 70 ปีมาแล้วนั้น
    ผู้อยู่อาศัยของดาวโลกหลักๆที่มีจำนวนมหาศาลจึงถูกกองลงไปอยู่ที่ก้นภูเขา

    นับแต่นั้นเป็นต้นมา หลายๆคนก็ปีนป่ายหลบเบี่ยงไปมาบ่อยครั้ง
    ซึ่งพวกเขาก็เกือบไม่เลยครึ่งทาง บางวิญญาณก็ตามหลังอยู่ไกลลิบ
    ซึ่งพวกเขาก็แค่สามารถมองเห็นว่าภูเขามีหนทางไปอีกไกลได้เท่านั้น

    และวิญญาณอื่นๆจำนวนมากก็ปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็วและไม่ลดละ
    ซึ่งพวกเขาเกือบจะถึงยอดแล้ว
    และพวกเราก็พูดว่า “ไชโย!” ให้กับกลุ่มหลังสุดที่มาถึง



    ในยุคทอง พวกคุณจะสามารถสื่อสารกันได้โดยใช้โทรจิต
    แต่การพูดให้เสียงดังออกมายังคงจะเป็นสิ่งสำคัญและเป็นที่น่าพอใจ
    เมื่อการสนทนาทางโทรจิตเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอีกครั้งแล้ว
    พวกคุณก็จะสามารถสื่อสารทางโทรจิตกับผู้คนที่ใช้ภาษาพูดแตกต่างกันได้
    เพราะกระบวนการแปลภาษาเป็นลักษณะปกติแบบหนึ่งที่มีในการโทรจิต



    กรรมไม่จำเป็นต้องเกิดความแตกต่างขึ้นใหม่ในแต่ละชาติภพอีก
    โดยที่ ณ ตำแหน่งในระดับการวิวัฒน์ที่มีเรื่องกรรมเกิดขึ้นนั้น
    การกลับชาติมาเกิดใหม่บ่อยๆส่วนใหญ่เลย เป็นไปเพื่อพยายามอีกครั้งเดียว
    ในการบรรลุบทเรียนอันเดียวกันได้สำเร็จแบบสมบูรณ์ไปเลย
    อันเป็นบทเรียนที่ตัวละครของวิญญาณในชาติภพอื่นๆที่เลือกจะทำนั้นล้มเหลวไป



    ทุกวิญญาณก็มีเจตจำนงเสรี
    ไม่ว่าสถานภาพทางวิวัฒนาการของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม
    โดยไม่ว่าพวกเขากำลังอาศัยอยู่ในโลกจิตวิญญาณหรืออารยะธรรมทางกายภาพ
    หรือที่ทางของพวกเขา(their location)ในจักรวาลก็ตาม

    แต่ทางเลือกตามเจตจำนงเสรีของทุกวิญญาณ
    ที่อาศัยอยู่ในยุคทองของดาวโลกจะเป็นไปในทางแสงสว่าง
    เพราะความมืดไม่สามารถดำรงคงอยู่ในการสั่นสะเทือนสูงเหล่านั้นได้อีกแล้ว



    .............
     
  3. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ข้อความการสื่อสารจาก Matthew Ward
    โดย Suzanne Ward
    เมื่อ 11 สิงหาคม 2554
    ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/matthew11-08-11.html



    ตอนที่ 12 จบ



    ที่ใช้ชื่อว่ายุคทองนั้น ก็เพราะว่าชีวิตในสภาวะโลกดังกล่าว
    ช่างตรงข้ามกับชีวิตบนดาวโลกที่ผ่านมาหลายพันปีไปอย่างโดดเด่นเป็นพิเศษ
    แต่ก็ไม่ใช่ว่าความอลังการทั้งหมดของยุคทองจะสุมกองไว้ที่จุดเริ่มต้นของยุคนะ

    ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากความมืดมิดจะสลายหายไป
    แต่เมื่อพวกคุณและดาวเคราะห์ของคุณกำลังเดินทางไปเรื่อยๆ
    พวกคุณก็จะทำการค้นเจอองค์ความรู้และสมรรถภาพ “ใหม่” อันแสนมหัศจรรย์
    ที่คำว่า “ใหม่” อยู่ในเครื่องหมายอัญญประกาศก็เพราะว่า

    วิญญาณของพวกคุณมีองค์ความรู้และสมรรถภาพทั้งหมดทั้งปวงอยู่แล้ว
    คุณก็แค่จำเป็นต้องเข้าสัมผัสติดต่อกับพวกมันอย่างมีสติ พวกคุณจะต้องมีสติ!



    นอกจากแสงสว่างที่สาดส่งมาให้อย่างไม่ลดละ
    จากวิญญาณแห่งแสงสว่างทั้งหลาย ในโลกจิตวิญญาณต่างๆ
    กับอารยะธรรมทางกายภาพทั้งหลาย,
    ความช่วยเหลือโดยเทคโนโลยีจากบรรดาลูกเรือจากยานบินบนน่านฟ้าของพวกคุณ,
    กับการโน้มน้าวจูงใจที่เป็นผลดีของสมาชิกครอบครัว
    ชาวจักรวาลทั้งหลายของพวกคุณที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกคุณแล้ว

    ยังมีผู้ให้ความช่วยเหลือที่มองไม่เห็นซึ่งล้อมรอบพวกคุณอยู่ด้วย
    ซึ่งก็คือ เทพอารักษ์หรือผู้คุมกฎ(guardian angels or gatekeepers)
    กับเทพเทวาทั้งหลายผู้ที่คอยให้กำลังเสริมเมื่อจำเป็น

    โดยประกอบไปด้วย เทพเทวาในปริมณฑลที่ต่ำกว่า
    ซึ่งเป็นผู้ทำการปรากฏออกมาระยะสั่นๆเพื่อชี้ทางและปกป้อง,

    ผู้นำทางด้านจิตวิญญาณที่สร้างประสบการณ์ชนิดพิเศษ
    ซึ่งบ่อยครั้งจะเห็นได้ชัดก็ตรงที่เมื่อคุณกำลังติดตะกุกตะกักกับอะไรสักอย่าง
    แล้วทันใดนั้นคุณก็ “เกิดเข้าใจ(getting it)” ขึ้นมาทันควัน

    และชาวจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ(the Nature people)
    ซึ่งก็คือวิญญาณหลากชนิดที่พวกคุณเรียกว่าอาณาจักรแห่งเดวา(Devic Kingdom)
    (Deva ในที่นี้หมายถึง กลุ่มกำลังงานทางจิตวิญญาณ(spiritual forces)
    หรือ สิ่งมีชีวิตที่แฝงอยู่ในธรรมชาติ(beings behind nature)…/LadyOfLight)
    โดยเป็นผู้ที่ช่วยพวกคุณค้นหากุญแจรถหรือตุ้มหูที่อยู่ผิดที่ผิดทาง
    (เรื่องที่พวกเขาแกล้งเอาข้าวของไปซ่อนนั้นเป็นวิธีคิดที่ผิดเพี้ยนนะ!)
    หรือคอยสะกิดเตือนถึงบางสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ว่าจะทำแต่ก็ลืม


    เหล่าวิญญาณจำนวนมหาศาลนี้ ทั้งหมดคือตัวแทนงานของพระเจ้า
    ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือที่มีอยู่ตลอดไป(ever-present helpers)


    จงเดินทางต่อไปเรื่อยๆอย่างเบิกบานด้วยการได้รู้ว่า
    พวกคุณคือความเป็นหนึ่งเดียวกัน ในแสงสว่างแห่งเมตตาธรรม,
    ในความไร้ขอบเขต, ในเนื้อแท้แห่งความรักที่ไร้เงื่อนไขของพระผู้สร้าง
    อันเป็นความแรกเริ่มแห่งวิญญาณทั้งปวง




    LOVE and PEACE
    Suzanne Ward
    Website: The Matthew Books
     
  4. Uaychai

    Uaychai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +231
    ข้อความของ Matthew ล่าสุดนี้ยิ่งทำให้ตื่นเต้นมากขึ้นกับช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอบคุณทีมแปลครับ
     
  5. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155
    จากคำถามที่ว่า การเปลี่ยนไปจากมิติที่3 ไปสู่มิติที่5 ของโลกเรานี้จะเป็นช่วงเวลาไหน แล้วที่ผมบอกว่าผมเคยอ่านเจอว่า ถ้าเปลี่ยนไปมิติที่ 5 แล้ว คนที่ไปกันไม่ได้กับความสั่นสะเทือนในมิติใหม่นี้เขาจะอยู่ไม่ได้ นั่นหมายความว่า พวกเขาต้องตายลงไป แล้วตอ้งไปเกิดใหม่บนดาวเคาะห์ดวงอื่นที่อยู่ในมิติที่3 จริงไหม

    ผมไปตามอ่านย้อนหลัง แล้วผมก็พบข้อมูลนึง(แน่นอนว่า ข้อมูลจากเทพท่านนี้อาจจะไม่ตรงกับเทพท่านอื่นก็ได้นะครับ)


    ผมขอสรุปให้ฟังก่อนนะครับ คือ ปี 2004 ท่านอดามะคือนักบวชชั้นสูงคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในเมืองทีลอส เมืองที่ตั้งอยู่ใต้พื้นพิภพของเรา เขากล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเดินทางเข้าสู่ แถบโฟตอน (Photon Belt)
    โดยที่ แถบโฟตอน นี้ก็คือแถบพลังงานแสงสว่าง ที่เข้มข้นนั้นเองครับ โดยประกอบด้วยแถบแสงสว่าง (vortex)ที่ว่านี้ 12 แถบ ถ้าโลกเคลื่อนที่ผ่านแถบโฟตอนไปในแต่ละแถบก็จะได้รับผลกระทบแตกต่างกัน ความจริงโลกเดินทางเข้าสู่โฟตอนเบลท์แล้วนะครับตั้งแต่ปี 1998 แต่กำลังอยู่ในแถบพลังงานแสงแถบที่ 1 เท่านั้น (คือจะรู้สึกแค่ไม่สบายตามร่างกายเท่านั้น )


    เขาบอกว่า ภายใน 12 ปีข้างหน้านี้ (ผมเข้าใจว่าคงหมายถึงนับตั้งแต่วันที่ท่านอดามะพูดไว้ซึ่งก็คือ ปี 2004) ดาวเคราะห์โลก จะโคจรผ่านเข้าไปในแถบ vortex แต่ละแถบครบ
    ทั้ง 12 แถบ ของ photon belt นี้ (ภายใน 12ปีนับจากปี 2004โลกจะเดินทางผ่านแถบพลังงานแสงนี้ ครบทั้ง 12 แถบ ก็จะตรงกับปี 2016)
    ซึ่งระดับความเข้มข้นของพลังงานแสงสว่างเหล่านี้ จะช่วยชำระโลก และช่วยเตรียมความพร้อมให้กับโลก ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ด้วย

    ตรงนี้บอกว่า พลังงานแสงสว่างที่เข้มข้นนี้จะเป็นตัวการชำระโลก และปูทางหรือเตรียมตัวให้โลกเลื่อนระดับขึ้นสู่มิติที่5 ตรงนี้แสดงว่า โลกจะเข้าสู่มิติที่ 5 ก็ต้องรอต่อไปจนถึงปี 2016 แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามิติที่5ทันทีเลยเมื่อออกจากแถบโฟตอนหรือไม่ แต่จากข้อมูลตรงนี้ แสดงชัดเจนว่า โลกจะเข้าสู่มิติ5 ก็ต้องต่อจากปี 2016


    ท่านอดามะ กล่าวต่อไปว่า มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องปรับระดับจิตสำนึกของตนเองให้สูงขึ้น และจำเป็นต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นขึ้นในตนเอง
    เพื่อให้ตนเองสามารถเคลื่อนผ่านพลังงานแสงที่เข้มข้นทั้ง 12 แถบนี้ไปให้ได้ ถ้ามิเช่นนั้นแล้วเขาเหล่านั้นจะต้องถูกบีบอัด ถูกบดขยี้จนตาย ด้วยคลื่นความถีใหม่ แล้วยังคงอาศัยอยู่ในมิติที่ 3 นี้ต่อไปเพื่อรอการเกิดใหม่อีกรอบ

    ชาวโลกผู้ที่ต่อต้านพลังคลื่นแห่งแสงสว่าง และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากแสงสว่างนี้ จะไม่สามารถรอดชีวิตผ่านพ้นแถบ vortex ทั้ง 12 แถบใน photon belt นี้ไปได้


    หลังจากโลกเดินทางผ่านจนครบแถบโฟตอนทั้ง 12 แถบแล้ว (ปี 2016) ทีนี้ก็จะเข้าสู่การเลื่อนระดับเป็นมิติที่ 5แล้ว ซึ่งเขาไม่ได้บอกไว้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าจะเข้ามิติที่5นะครับ
    เขาบอกว่า คนที่กลัว และคนไม่ดี (แสดงว่า ตอนโลกเดินทางผ่านโฟตอนครบ 12 แถบ คนไม่ดีก็น่าจะยังคงอยู่บนโลกนี้ได้ จนกระทั้งถึงปากทางเข้าของมิติที่5 ) จะไม่สามารถเลื่อนระดับไปพร้อมกับโลกได้ เขาเลยนะนำว่า ให้เลิกกลัว เลิกทำชั่ว ไปด้วยแล้วจะเลื่อนระดับไปได้พร้อมโลก ไม่งั้นก็เลื่อนระดับเข้ามิติที่5ไปกับโลกไม่ได้ คงหมายถึงต้องตาย ส่วนใครทีมีชีวิตจนถึงมิติที5 ได้ ก็จะเป็นอมตะ



    ผมอ่านมาจนถึงเกือบจะหมดแล้ว เขาบอกว่าประโยคนึง ทำให้ผม งงไปเลย คือมันขัดแย้งกับที่ผมอ่านมาตอนต้น เขาบอกว่า "......... แต่ว่าการสิ้นสุดวงจรของกระบวนการนี้ จะเสร็จสิ้นลงราวๆปลายปี 2012........ "

    เดี่ยวยังไงถ้าใครสนใจก็ลองอ่านดูเองนะครับ ผมมานึกได้ว่า มีอยู่ตอนนึงมีเทพท่านนึงเขาบอกว่า ที่จริงแล้วเวลาบนโลกของเรามันเดินทางเร็วมากแต่เราไม่รู้ มันเร็วไปปีครึ่ง (หวังว่าคงจำได้นะครับ) ตรงจุดนี้ ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับ ปี 2016ที่โลกออกจากแถบโฟตอนแล้วกำลังจะเข้าสู่การเลื่อนระดับไปสู่มิติที่5 แล้วท่านอดามะมาบอกตอนท้ายเรืองว่ากระบวนการนี้จะเสร็จสิ้นลงในปลายปี 2012 หรือเปล่า.... (ผมเขียนให้งงไปหรือเปล่าครับ ) ผมแค่นำมาโยงกันเพราะสงสัยว่ามันจะเกี่ยวกันไหมนะครับ ผมไม่รู้หรอกว่ามันเกี่ยวกันไหม แต่ลองโยงกันดู....

    คือผมเดาว่าโลกมันอาจจะเดินทางเร็วขึ้นจากปีครึ่งไปมากกว่านั้น เพราะต้องเดินทางผ่านแถบโฟตอนเบลท์ครบ 12 แถบ ก็เลยทำให้ ปี 2016 ก็เลยถูกย่นเวลาลงมาตกที่ ปลายปี2012 นี้แทน ....





    ลองอ่านกันดูครับถ้าสนใจ
    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-6


























     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2011
  6. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155

    แต่ล่าสุดจากข้อมูลของMatthew Ward บอกว่า แถบโฟตอนเบลท์ อยู่ห่างจากโลกของเราไปมาก


    แต่ข้อมูลจากท่าน อดามะ ที่พูดไว้เมื่อตอนปี 2004 เขาบอกว่า โลกเราเคลื่อนตัวเขาสู่โฟตอนเบลท์ไปตั้งแต่ 1998 โน่นแล้ว และตอนนี้อยู่ที่แถบที่1 จาก 12 แถบเท่านั้นเอง และกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าแถบต่อไป ซึ่งโลกจะเดินทางครบทั้ง 12 แถบในปี 2016


    ตกลงสองข้อมูลจากเทพสองท่าน นี้ขัดแย้งกัน


    เอาไงดี....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2011
  7. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    หัวข้อเรื่อง photon belt เป็นประเด็นเด่นทีเดียว *-*
    แต่สำหรับโซ่เองแล้ว โซ่ให้เครดิต Kryon มาอันดับต้นๆ

    และนี่คือ คำตอบบางส่วนจากนาย Lee Carol คู่หูของครายออน
    เป็นคำตอบที่ให้ไว้เมื่อ 23 ธันวาคม 2541(1998)
    ที่มา : http://www.kryon.org/leelive2.html

    [Aussie] Is the new energy part of the earth moving into the photon belt . Are we actually going to move into the photon belt? if so how will that affect us?

    [LEE] We are actually IN the photon belt according to all the astronomers. You might remember - Sheldon Niddle mentioned the very strong information about the Photon Belt in

    [Aussie] .

    [LEE] the book "Becoming a Galactic Human." He itemized some very scary things that were going to happen when we went into it, and also predicted the dates.
    [LEE] We sailed into the photon belt, but none of the stuff happend that he spoke of. This is because (according to Kryon), we(มนุษย์) had changed our enablement pattern and abilities
    [LEE] well before the ink was dry on Sheldon's pages. How about that? It's the theme of Kryon that we(มนุษย์) are changing consciousness very fast, and this was the reason. I like to
    [LEE] tell folks that it didn't make Sheldon wrong, it was that we moved faster than his predictions. The photon belt is a real physical thing, and we are in it!



    และนี่คือลิงค์ Q&A ของครายออนนะคะ สนใจเรื่องอะไรลองเข้าไปอ่านดูกันได้จ้า
    http://kryon.com/inspiritmag/archives/Q-A%20archives/archiveindex.html
    black_pig
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2011
  8. DukeSonic

    DukeSonic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +831
    บางข้อมูลอาจเป็นของปลอมเอามาเลียนแบบแล้วปรับแต่งบทความใหม่ให้สละสลวย เพื่อแสวงหากำไร
    บางข้อมูลอาจได้รับมาจริงแต่ไม่แสวงหากำไร จึงน่าเชื่อถือมากกว่า
     
  9. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155


    เท่าทีอ่านข้อมูลของ Lee Carol ก็บอกตรงกันกับท่านอดามะ ว่า โลกกำลังอยู่ในแถบโฟตอนเบลท์แล้ว...


    น่าสนใจดีนะครับ
     
  10. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ณ ตอนนั้น ตรงในแง่ของ อยู่บน photon belt จริง
    แต่มันไม่ได้ทำอะไรให้เราได้เลย

    แต่ข้อมูลของอดามะ เหมือนเอาจาก Sheldan มาดัดแปลงมากกว่าค่ะ

    เพราะคำตอบของลี ให้ไว้ปี 1998
    ซึ่งตอนนี้ปี 2011 photon belt มันปลิวไปไหนแล้วก็ไม่รู้

    และ reality แบบเราๆนี่ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วพริบตาเดียว
    หลักการนี้หลายท่านอธิบายไว้ค่ะ เช่น โนวา อนาลัย และ ครายออน
    เข้าใจยากหน่อยนะคะ ซึ่งโซ่อธิบายไม่ถูกค่ะ 5555+(ตรงนี้หัวเราะตัวเองนะคะ ไม่ได้หัวเราะเยาะใคร อย่าเข้าใจผิดนะคะ *0*)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2011
  11. deliver me

    deliver me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +155
    ทีวีเกาหลีใต้แพร่ภาพแสงลึกลับเหนือเมืองแทจอน-ลือกระหึ่ม"ยูเอฟโอ"บุก

    วันที่ 20 ส.ค.2554 เว็บไซต์ข่าว เอเชียนคอร์เรสพอนเดนต์ รายงานว่า สถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ประเทศเกาหลีใต้ แพร่ภาพกลุ่มแสงบนท้องฟ้าเหนือใจกลางเมืองแทจอน ซึ่งมีประชาชนคนหนึ่งบันทึกเอาไว้ได้เมื่อคืนวันที่ 11 สิงหาคม 2554 โดยกลุ่มแสงดังกล่าวมีลักษณะเป็นดวงไฟกลมๆ เปล่งแสงให้เห็นอยู่ราวๆ 30 นาที ก่อนหายวับไป ชาวบ้านบางส่วนเชื่อว่าเป็นยูเอฟโอ หรือ จานบินมนุษย์ต่างดาว ขณะที่ศาสตราจารย์ท้องถิ่นคนหนึ่ง ระบุว่า ภาพวิดีโอชิ้นนี้เป็นหลักฐานประเภทภาพวิดีโอชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่าอาจมียูเอฟโอบินผ่านเข้าไปยังเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เมืองแทจอนยืนยันว่า ช่วงเกิดกลุ่มแสงไฟปริศนานั้น เรดาห์ตรวจไม่พบว่ามีวัตถุใดๆ บินอยู่เหนือน่านฟ้าแทจอน(ที่มา:ข่าวสดออนไลน์)

    คลิ๊กที่นี่ : ชมคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสถานี เอ็มบีซี ประเทศเกาหลีใต้


    ทีวีเกาหลีใต้แพร่ภาพแสงลึกลับเหนือเมืองแทจอน-ลือกระหึ่ม"ยูเอฟโอ"บุก ! : มติชนออนไลน์
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    บทความของแมทธิวชุดนี้ มีสาระที่น่าสนใจเยอะเลย
    ขอบคุณน้องโซ่ด้วย...แปลได้เยี่ยมมากครับ

    สังคมโลกคงใกล้จะถึงทางตันจริงๆแหละ สถานการณ์มันบ่งบอก
    แต่เรายังต้องเดินทางอีกไกลและยาวนานยิ่งนัก แอตแลนตีส-เลมูเรีย ราชวงศ์อียิปต์ อาณาจักรกรีซและโรมัน
    เป็นเพียงก้อนหินสองสามก้อนของถนนแห่งวิวัฒนาการของมนุษย์เท่านั้นเอง

    ถ้าไม่มีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางใหม่ๆ มันก็ผิดปกติว่ามั๊ยครับ
    โลกทางกายภาพมันก็คงอยู่ ประเดี๋ยวประด๋าว..เดี๋ยวมันก็เริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลง
    และสร้างกันใหม่ เพื่อการดำรงอยู่...ในรูปแบบอื่นอยู่ดี

    ใครว่าต่างดาว-ต่างมิติ เค้าจะมาบุตยึดโลกล่ะก็..คงต้องคิดดูใหม่
    เห็นเค้ามีแต่ความรัก แสงสว่างและความรู้ ระยิบระยับไปหมด
    เราปล่อยให้นักวางแผนของจักรวาลเค้ากำหนดทิศทางหรือวัฐจักรให้เราก็เหมาะสมดีเหมือนกัน
    ประสบการณ์ในมิตจักรวาลเรายังอ่อนกว่าเค้ามาก...
    จะมีก็แต่จิตวิญญาณแก่นแท้ที่มาจากที่แหล่งกันเท่านั้นนะครับ

    ลองนึกภาพแบบในหนัง Starwars ดูเล่นๆสิครับ
    บรรยากาศห้องประชุม ที่มนุษย์จะเข้าไปมีส่วนร่วม..
    หรือนั่งอยู่ในบาร์ ที่มีใครต่อใครเดินผ่านไปมา จากหลายหลายอารยธรรม
    เดินทางข้ามมิติเป็นว่าเล่น...มันอาจจะเป็นอะไรแนวนี้กันจริงๆซะแล้วนะครับเนี่ย ?

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2011
  13. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902

    ครั้งนึงเคยเห็นแสงสว่างจ้ามากๆ อยู่ระหว่างกลางดวงตาทั้งสองค่ะ (ขณะหลับตา)

    แต่กระกฎการณืที่เห็นแสงแวบ แปล๊บๆๆที่ระหว่างหัวคิ้วจะเห็นบ่อย โดยเฉพาะตอนแผ่เมตตาค่ะ
    ;aa19
     
  14. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902

    อ่านแล้วน้ำตาไหลค่ะ น่าสงสาร
     
  15. มหิศวระ

    มหิศวระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +8
    เราจะรับทราบได้กับตนเอง อารมณ์ ความรู้สึก
    สิ่งที่เกิดขึ้นในสมาธิ แสงจะเข้มและชัดเจนยิ่งขึ้น
    และมีข้อความหนึ่งของคุณ ชยุต ที่บอกว่าให้เริ่มทำสมาธิ โดยนิมิตห้องโถงขนาดใหญ่ แสงที่กระจายอยูู่จะรวมตัว ณ ที่นั่น
    นิมิตแห่งเรา แต่ ทุกคนที่นิมิต ย่อมเห็นเราในนิมิตนั่นด้วย


    ตอนที่ 4


    สิ่งที่พวกคุณกำลังเห็นอยู่คือเฮือกสุดท้ายก่อนการจบสิ้นของความเป็นทวิภาวะ
    โดย “ความดี-good” ก็จะเข้าถึงระดับความดีที่สุดไป(best)
    และ “ความเลวร้าย-bad” ก็จะเข้าถึงความเลวร้ายที่สุดไป(worst)
    และเนื่องด้วยดาวโลกได้เดินทางต่อไปในระนาบการสั่นสะเทือนที่สูงกว่า
    อะไรที่สุดๆเหล่านั้นจึงจะถูกทำให้กลมกลืนเข้ากันโดยแสงสว่าง
    อันเป็นสิ่งที่มีดุลยภาพอยู่ภายใน

    คนจะฆ่ากันเพราะเงิน หนึ่งเหรียญ
    คนจะฆ่ากันเพราะสบสายตา
    คนจะฆ่ากันเพราะเดินผ่านหน้า
    คนจะฆ่ากันเพราะที่จอดรถ ฯลฯ อีกมากมาย

    ไฟภายในจะลุกไหม ถาโถมออกมายังภายนอก
    ผู้นำแห่งแสงสว่างทั้งหลายย่อมตระหนักดี และท่านเองก็ระงับด้วยปัญญาอยู่และก็ยังระงับไม่หมดสิ้น แต่หาใช่ทางถูกต้องเหมอไปไม่
    แล้วใยจึงมีคำกล่าวว่า หนามหยอก ต้องบ่งด้วยหนาม เล่า
    ทำเช่นไรจึงจะระงับแบบไร้ที่ติได้ การระงับในปัจจุบันนี้ยังระงับด้วยปัญญาเพียงบอกตัวเองว่าเราระงับแล้วด้วยปัญญา เพราะหลอกตนเองมาตลอดว่า ตนเองมีปัญญาแล้วกลับเป็นปัญญาที่เดินผิดเส้นทางซะงั้น
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    มันสะท้อนความจริงที่ว่า พลังด้านลบที่กำลังถูกระเบิดออกมานะครับ
    เนื่องจากพลังงานขาเข้า (แสงสว่างและความรัก) มีผลกระทบต่อพวกเขาอย่างมาก
    ก็หวังว่าที่สุดแล้ว ภัยอันตรายทั้งหลายในสังคมมันจะจางหายไปในเร็วๆนี้ครับ


    ทุกวันนี้ เราก็เห็นสัญญาณของระบบการเงินโลกก็ส่อแววว่าใกล้จะล้มเหลว
    รวมทั้ง มีผู้หิวโหย-อดอยาก ทนทุกข์-เจ็บป่วย อยู่มากมาย
    ที่ไม่สามารถเรียกร้องการดูแลจากใครๆได้ ซึ่งก็มีอยู่ทั่วไปทุกมุมโลก


    และจิกซอร์ ที่จะเติมเต็มภาพให้แจ่มชัดขึ้นก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วครับ
    ข่าวแจ้งว่ากองกำลังแห่งแสงสว่างเค้าทำงานกันอย่างหนักมาก
    เพื่อให้มีการเตรียมพร้อมสำหรับ การย้าย "ขึ้นบ้านใหม่" หรือโลกในมิติที่ 5 กันแล้ว
    ตามเป้าหมายของจิตวิญญาณระดับสูงๆและ God ที่กำหนดไว้


    จะเรียกว่าเป็นการแทรกแทรงโลกด้วยความจำเป็น ก็ใช่ครับ
    แต่เป็นไปเพื่อนำความยุติธรรม สันติภาพที่แท้จริงมาสู่โลก
    เป็นการร้องขอจากคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ ที่กำลังมองหามิติที่สูงขึ้นของชีวิต
    และมันก็ขึ้นอยู่กับทางเลือกเสรีและความยินยอมของผู้นำโลกและกองทัพต่างๆอีกด้วย

    ซึ่งในขณะนี้ ก็คืบหน้าไปมาก รอนายทหารบางกลุ่มลงชื่อแสดงความยินยอม
    พร้อมกับการดูแลป้องกันในเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้น เร็วๆนี้
    มีการเตรียมจัดตั้งคณะผู้ดูแลโลกเป็นการชั่วคราว ที่กำหนดตัวไว้แล้วอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
    เพื่ออำนวยความสะดวก และการแจกจ่ายสิ่งที่ขาดแคลนออกไปอย่างทั่วถึงสู่ชาวโลก
    เมื่อเร็วๆนี้ ก็เห็นข่าวมีการจัดตั้งกองทุน White Dragon
    สำหรับการแจกจ่ายช่วยเหลือขึ้นมารองรับในเหตุการณ์สำคัญนี้แล้วด้วยครับ


    เขาแจ้งว่าการเปิดเผยตัวของเขานั้น
    เป็นเพียงการกระทบให้เกิดรอยบุบเล็กๆเท่านั้น...
    เป้าหมายสำคัญเป็นการนำพาสังคมไปที่สู่ความเป็นจริง พร้อมกับเศรษกิจระบบใหม่
    เพื่อก้าวเดินไปสู่การวิวัฒน์ทางจิตวิญญาณ และนำธรรมชาติที่แท้จริงกลับคืนมา


    *** บอกข่าวไว้หน่อย สำหรับผู้ติดตามอ่านการเรื่องเปิดเผยข้อมูลนะครับ (ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องจริง)
    เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะได้เข้าใจกลไกการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเหล่านี้กัน...

    ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาแปลเต็มๆ
    แต่ก็จะมีงานแปลเรื่องอื่นๆมาฝากกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2011
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chayutt [​IMG]
    สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักท่านอดามะมา ก่อน ผมจะบอกคร่าวๆให้ว่า ท่านอดามะคือนักบวชชั้นสูงคนหนึ่ง
    ที่อาศัยอยู่ในเมืองทีลอส เมืองที่ตั้งอยู่ใต้พื้นพิภพของเรานี่แหละ เพราะว่าเขาบอกว่าภายในโลกของเรานี้ “กลวง”
    ไม่ได้ทึบตันอย่างที่พวกเราเคยถูกสอนกันมา และภายใน “โพรงกลวง” ของโลกใบนี้ ก็มีเมืองที่มีความศิวิไลน์
    มีเทคโนโลยีล้ำยุค และผู้คนก็มีระดับจิตวิญญาณสูงส่ง และเป็นอมตะอีกด้วย - ผู้แปล)

    [​IMG]

    ....................................................................................




    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ทฤษฎีโลกกลวง (ที่รอการพิสูจน์) ก็มีคนทำเป็นภาพ 3D มาให้ดูกันแล้วครับ
    ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่โลกทางกายภาพที่มีช่องกลวง และมีทางเข้าออกด้านเหนือ-ใต้ อย่างที่เขาทำนี้ก็ได้
    อาจจะเป็นเรื่องของมิติ หรือเมืองลับแลในโลกคู่ขนาน มากกว่า
    ความจริงเป็นอย่างไร คงต้องรอชาว อากาธ่า ตัวจริงเค้ามาเล่าให้ฟัง...
    ซึ่งมันจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของโลกเลยทีเดียว
    ผู้สื่อสารข้อความต่างมิติฯ หลายคนเค้าพูดถึงกันมากทีเดียวครับ


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ubKFmIDBMjU&feature=related"]Hollow Earth Theory 3D HD Version - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2011
  18. มหิศวระ

    มหิศวระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +8
    หมายถึงมีทั้งการให้และการทำลายใช่ไหมท่าน
    เพื่อให้ถึงวันนั้น วันที่ผู้รอดเข้าใจธรรมชาติและ
    รับรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้น
    คนที่รับไม่ได้จะแสดงออกมาทางลบมาก จนต้องจากโลกไปก่อน
    เป็นโปรแกรมที่แยบยลมากๆ
     
  19. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณมากเลยน่ะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านเลยน่ะครับ ^^
     
  20. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    นั่นสิคะ *-* เพราะตามทฤษฎีฟิสิกส์บางตัวที่มนุษย์เราพอมีอยู่และไม่รู้ว่าเป็นที่สุดหรือยัง สรุปได้ประมาณว่า
    (ถ้าโซ่ไม่สับสนหรือเข้าใจผิดหรือจำไม่ผิดนะ ส่วนใหญ่จะลืม *0*)

    1 dimension มีได้หลาย reality ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า parallel universe
    แต่โซ่ว่าคำนี้มันทำให้ดูสับสน คำว่า alternative reality เมคเซ้นส์กว่า

    ตรงนี้น่าคิด เพราะครายออนก็บอกทำนองว่า Agartha หรือ Lemurian
    ย้ายไปเป็นประมาณว่า interdimensional beings
    ไม่ได้เป็นลักษณะ reality แบบของเรา
    เลยน่าจะทำให้เรื่องที่พวกเราต้อง shift reality ของเราไปก่อน พวกเขาจึงมาให้เห็นได้
    นั้นเมคเซ้นส์ขึ้นมาก

    อีกเรื่องหนึ่ง คำว่า dimension ก็เหมือนกัน คำนี้ก็ทำให้สับสนกันได้
    เพราะคำว่า มิติ มันใช้ได้หลายแง่
    โซ่เลยชอบคำว่า density มากกว่า มันแปลแล้วเข้าใจได้ง่ายกว่า ทำให้หลงประเด็นน้อยลง

    เช่น ตอนครายออนอธิบายเรื่อง reality ของเรา (ตอบคำถามเรื่อง hollow earth)
    เค้าก็ใช้คำว่า 4D มาอธิบาย reality ของเรา
    ซึ่งถ้าโซ่เข้าใจไม่ผิด และยังจำได้อยู่
    มันหมายถึง มวล ระยะทาง ช่องว่าง และกาลเวลา ตามหลักฟิสิกส์แบบที่เราใช้กันอยู่
    โดยครายออนก็ใช้คำว่า 3D ที่หมายถึงพวกเราเหมือนกันแต่เป็นอีกนัยยะหนึ่งในการส่งข้อความเรื่องอื่นๆ

    ปล.บอกตามตรงว่า รออ่านหนังสือเรื่องเกี่ยวกับมิติของพี่นักเขียนมากทีเดียวเลยค่ะ *0*


    pig_ballet
     

แชร์หน้านี้

Loading...