พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    นวดน้ำมันดอกมะลิเพื่อสุขภาพให้คุณแม่ชื่นใจ

    • 02 สิงหาคม 2554 เวลา 12:17 น. |
    | การนวดด้วยน้ำมันกลิ่นดอกมะลิและมินต์หอมสดชื่นนอกจากคลายความปวดเมื่อยแล้วยังช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายด้วย
    เรื่อง อณุศรา ทองอุไร / ภาพ เทวารัณย์ สปา
    กิจกรรมยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ลูกๆ ชอบทำกับคุณแม่ในวันแม่มากที่สุดคือ การพาคุณแม่ไปรับประทานอาหารมื้อพิเศษ รองลงมาคือ การไปทำบุญ และกิจกรรมเพื่อความบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจต่างๆ เช่น ไปดูหนัง ไปช็อปปิ้ง ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ แต่มีข้อสังเกตว่า กิจกรรมที่ยังเป็นที่นิยมน้อยอยู่คือ กิจกรรมเพื่อสุขภาพ เช่น พาคุณแม่ไปออกกำลังกายหรือไปตรวจสุขภาพ เป็นต้น
    [​IMG]
    ในวันแม่แห่งชาติที่กำลังจะมาถึงนี้ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่หลายๆ ครอบครัวจะได้ช่วยดูแลสุขภาพกายและใจของคุณแม่ที่เรารักด้วยการพาท่านไปทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจะสามารถช่วยให้คุณแม่ได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ และยังจะช่วยให้คุณแม่ได้ฟื้นฟูสุขภาพพร้อมทั้งป้องกันการเสื่อมของระบบต่างๆ ของร่างกายก่อนเวลาอันควรได้อีกด้วย
    คุณแม่ส่วนใหญ่กำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ ซึ่งเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สภาพร่างกายจะเสื่อมลงตามอายุขัย ส่วนสภาพจิตใจก็ปรวนแปรได้ง่าย เช่น เกิดอาการหงุดหงิด น้อยใจ มีความวิตกกังวล
    อารมณ์ที่ขึ้นลงต่างๆ เกิดขึ้นได้จากการเจ็บป่วยหรือการเสื่อมของระบบต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งหากขาดการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม จะทำให้เสี่ยงต่อการตามมาของโรคภัยต่างๆ มากมาย เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคข้อเสื่อม โรคทางประสาทตา เช่น โรคต้อหิน ต้อกระจก โรคสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ อาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ เป็นต้น
    การดูแลสุขภาพองค์รวมโดยใช้แพทย์ทางเลือกอย่างสม่ำเสมอผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สามารถช่วยป้องกันและชะลอการเสื่อมของเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ได้
    ทั้งนี้ผู้สูงอายุควรเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงและหวานจัด และออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น โยคะหรือฤาษีดัดตน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนวดโดยใช้สุคนธบำบัด เช่น การใช้กลิ่นหอมที่สกัดจากจากธรรมชาติต่างๆ เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกมะลิ และใบมินต์ ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยลดอาการซึมเศร้า
    ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกายและจิตใจ การนวดกดจุดที่บริเวณหลัง ไหล่ ใบหน้า และศีรษะจะช่วยกระตุ้นให้การไหลเวียนโลหิตในร่างกายดียิ่งขึ้น ช่วยให้สารอาหารถูกลำเลียงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุโดยรวม
    สำหรับวันแม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ มรกต สุชุติมานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ เทวารัณย์ สปา ได้จัดโปรแกรมพิเศษให้คุณแม่ได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจพร้อมกับการดูแลผิวหน้าให้กลับสดชื่นและสดใสด้วย Minty Jasmine Facial ทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้าให้กลับชุ่มชื่นมีชีวิตชีวา โดยใช้ดอกมะลิซึ่งเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แห่งวันแม่มาปรนนิบัติผิวควบคู่ไปกับใบมินต์
    [​IMG]
    ขั้นตอนที่ละเมียดละไมของ Minty Jasmine Facial เริ่มจากการนวดหลังด้วยน้ำมันกลิ่นดอกมะลิและมินต์หอมสดชื่นเพื่อคลายความปวดเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย จากนั้นจะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายและความหยาบกร้านให้หมดไป และเผยผิวที่เนียนเรียบกระจ่างใส
    ต่อด้วยการประคบผิวหน้าด้วยผ้าอุ่นกลิ่นมินต์และขั้นตอนสำคัญในการนวดหน้าด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกมะลิอ่อนๆ ที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า และช่วยทำให้ผิวรู้สึกกระชับยิ่งขึ้น
    หลังจากนั้นจะเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวด้วย Jasmine Facial Mist และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการมาสก์หน้าด้วยผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ ปิดท้ายด้วยการบำรุงรอบดวงตาและผิวหน้า เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะได้ทั้งผ่อนคลายร่างกายและจิตใจพร้อมทั้งได้ผิวหน้าที่หมดจดสดใสและกลับแลดูอ่อนวัยอีกครั้ง
    วันแม่ปีนี้ พาคุณแม่ไปนวดผ่อนคลายให้หายเหนื่อย เพื่อเป็นการบอกรักให้คุณแม่ได้ชื่นใจก็ดีเหมือนกันนะ
    ที่มา โพสต์ทูเดย์ออนไลน์
     
  2. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ทำเมนูผักให้อร่อยและคงคุณค่า

    วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    วันนี้ขอเสนอวิธีทำอาหารเมนูผัก ทั้งผัดผัก หรือผักต้ม ให้ดูอร่อยน่ารับประทาน แถมไม่เสียคุณค่าทางสารอาหารอีกด้วย ทำอย่างไรไปดูกัน

    การประกอบอาหารด้วยผัก จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะหากใช้ไฟแรงไป หรือไฟอ่อนไป ผักก็ดูไม่น่ารับประทานแล้ว ใครที่ชอบเข้าครัวคงจะทราบกันดี ว่าเรื่องแบบนี้อาจต้องอาศัยประสบการณ์ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้มีเคล็ดลับเล็กน้อย ในการทำอาหารเมนูผัก ให้ดูเป็นมืออาชีพมาฝาก

    ขั้นแรกเมื่อล้างผักเสร็จแล้ว การหั่นผักให้พอดีคำ ก็สามารถช่วยให้อาหารดูน่ารับประทานได้ เคล็ดลับแรกที่อยากแนะนำ คือ วิธีทำผัดผักให้น่ารับประทาน เพียงแค่แม่บ้านนำผักไปต้มในน้ำเดือดก่อน เสร็จแล้วตักแช่ไว้ในน้ำเย็นทันที ค่อยนำไปผัด ผัดผักจานนี้จะดูเขียวสดน่ารับประทาน นำไปเสิร์ฟได้ไม่อายใครเลยทีเดียว เวลาผัดต้องให้ผักสะเด็ดน้ำให้แห้ง กระทะก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ควรเลือกใช้กระทะก้นลึก นำไปตั้งไฟพอร้อนใส่น้ำมันแล้วเกลี่ยให้ทั่ว ใส่ผักที่สุกยากลงไปผัดก่อน เท่านี้ผัดผักก็ออกมาน่าทาน กรอบกำลังดี ไม่ดิบและไม่นิ่มจนเกินไป

    หากต้องการต้มผัก แล้วไม่อยากสูญเสียสารอาหารที่จะได้รับ ให้ลองใส่เกลือประมาณ 1 ช้อนชาลงไปในน้ำเดือดที่ใช้ต้ม และค่อยใส่ผักที่ต้องการลงไป เสร็จแล้วตักแช่ไว้ในน้ำเย็นจัดทันที เพียงเท่านี้ผักก็จะคงคุณค่าอย่างครบถ้วน หรือถ้าต้องการต้มกะหล่ำปลีให้สีของกะหล่ำปลียังสดอยู่ มีเคล็ดลับคือให้ใส่เปลือกมะนาวลงไปต้มด้วยกัน จะทำให้สีของกะหล่ำปลียังสดตามธรรมชาติ

    ส่วนถ้าใครต้องการดองผักไว้ทานเอง แนะนำว่าเวลาดอง เมื่อใส่ผักกับน้ำส้มสายชูแล้ว ให้ใส่สารส้มลงไปในน้ำที่ดองผักด้วย เพราะสารส้มจะทำให้ผักมีความกรอบอร่อย เมื่อนำมารับประทาน.





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    วิธีถนอมดวงตาหน้าคอมพิวเตอร์

    วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    เช็ค “ดวงตา” ถูกใช้งานอย่างหักโหมหรือไม่?!! พร้อมวิธีแก้ไขควรปฏิบัติ ช่วยถนอม “สายตา” ยามนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์

    นักศึกษายุคไอทีที่ต้องหาข้อมูล ทำการบ้าน หรือพิมพ์รายงานผ่านคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมง หากรู้สึกตาแห้ง แสบ พร่ามัว ปวดกระบอกตา หรือเห็นแสง-สีผิดจากปกติ นั่นเป็นสัญญาณของการจ้องจอคอมฯ นานเกินไป แม้ไม่อันตราย แต่บั่นทอนประสิทธิภาพการเรียนรู้ ดังนั้น เพื่อดวงตาคู่สวยทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพไปนาน ๆ จึงต้องหมั่นถนอมด้วยวิธีต่อไปนี้

    1.จอคอมพิวเตอร์ควรห่างจากสายตาประมาณ 1 ช่วงแขน และปรับจุดกึ่งกลางจอคอมฯ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20 องศา เป็นระยะที่ช่วยลดอาการเมื่อยเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ หลัง และคอได้

    2.ปรับแสง และความคมชัดหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตา โดยไม่ต้องเพ่ง ควรพิจารณาแสงไฟในห้องด้วยว่า เมื่อส่องกระทบหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว จ้าเกินไปหรือไม่ เพราะจะทำให้ดวงตาเมื่อยล้า แห้ง และแสบได้ง่าย นอกจากนี้ ควรติดแผ่นกรองรังสี เพื่อลดการกระจายแสง

    3.พักสายตาทุก 30 นาที โดยหลับตา หรือมองไปไกล ๆ ประมาณ 5 นาที อาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ประคบดวงตา ประมาณ 2-3 นาที จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา และทำให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาได้ดี

    4.ควรกระพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา ช่วยลดอาการแสบตา ตาแห้ง และความอ่อนล้าของดวงตาได้ ทั้งนี้ ผลการวิจัยในต่างประเทศพบว่า การนั่งจ้องคอมฯ เป็นเวลานาน อัตราการกระพริบตาจะลดลงโดยไม่รู้ตัว ถึงร้อยละ 60

    5.สำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ มักตาแห้งได้ง่าย กรณีนี้การหยอดน้ำตาเทียมจะช่วยบรรเทาอาการปวด และแสบตาได้ แต่ควรใช้เมื่อมีอาการ

    6.ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ เพราะฝุ่นที่หนาจะทำให้แสงสะท้อนเข้าตาได้มากขึ้น

    แม้การใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยจ้องจอคอมพิวเตอร์ไม่ควรเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน จะเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้ยากสำหรับหนุ่ม-สาวยุคไอที แต่สามารถถนอมดวงตาได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีข้างต้น เพียงหมั่นปฏิบัติให้เป็นนิสัย เพื่อสายตาได้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพนานที่สุด.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เช้าวันนี้ได้รับทราบประกาศผลการสอบ และขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทเภสัชกรรมไทยแล้ว ว่าผ่านแล้วครับ...
     
  5. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ขอแสดงความยินดีนะครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table id="post4956192" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">4/8/2554, 02:02 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #46078 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> :::เพชร:::
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 46
    ข้อความ: 7,928
    พลังการให้คะแนน: 4037 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_4956192" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> เช้าวันนี้ได้รับทราบประกาศผลการสอบ และขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทเภสัชกรรมไทยแล้ว ว่าผ่านแล้วครับ...
    </td></tr></tbody></table>

    --------------------------------------------------------



    ขอแสดงความยินดีด้วยครับ


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 15 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 14 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    ช่วงนี้ งานเยอะมากจริงๆครับ

    แถมไปกินเลี้ยงก็บ่อย

    เมื่อวานนี้ ไปเลี้ยงส่งเจ้านายเก่า

    พรุ่งนี้ ไปเลี้ยงส่งเจ้านายปัจจุบัน

    พรุ่งนี้ เจ้านายใหม่มาอีก




    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 10 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, นายเฉลิมพล, :::เพชร:::+</td></tr></tbody></table>


    ผมไปพักผ่อนแล้วครับ ง่วงมากแล้ว

    งานเยอะมากทุกวัน กลางวันทานอาหาร ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงแทบทุกวันครับ

    ราตรีสวัสดิ์ครับ

    .
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอบคุณเพื่อนๆครับ ยังขาดอีก 1 ใบ เวชกรรมปีหน้า
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แล้วเมื่อไหร่ จะเป็นเจ้านายกะเขาบ้างซะที เพิ่งรู้ว่าเป็นเจ้านายมันดีอย่างนี้เอง มีลูกน้องเลี้ยงส่งโด้ย
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นี่ครับ รายชื่อผู้ผ่านการสอบ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอแสดงความยินด้วยครับ
     
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  16. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สตรอว์เบอร์รี่-ส้ม จับคู่ช่วยหายเมา

    วันศุกร์ ที่ 05 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ผลไม้ช่วยแก้อาการเมาค้าง เติมความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย หลังผ่านพ้นคืนวันปาร์ตี้

    ทุกค่ำคืนวันศุกร์หลังเลิกงาน นักดื่มวัยทำงานก็มักถือโอกาสนัดกันไปสังสรรนั่งดริ๊งคลายเครียดจากหน้าที่ การงานที่เผชิญมากว่า 5 วัน จะดื่มมากหรือดื่มน้อย ร่างกายของคนๆนั้นก็ย่อมมีแอลกอฮอล์จากเครื่องดื่มมึนเมาอยู่ดี เหตุนี้ส่งผลไปถึงวันรุ่งขึ้น หลังจากตื่นนอนแล้วก็จะรู้สึกศีรษะมึนๆ ตึ๊บๆ ไม่สดชื่นเท่าที่ควร นั่นเป็นเพราะแอลกอฮอล์นั่นเอง

    'มุมสุขภาพ' วันนี้จึงมาพร้อมผลไม้ที่สามารถช่วยแก้อาการเมาค้าง และทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ เริ่มจาก 'สตรอว์เบอร์รี่' มีวิตามินซี แคลเซียม คลอรีน โซเดียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน กรดโฟลิก และไบโอติน สรรพคุณของสตรอว์เบอร์รี่ถูกระบุว่า แก้อาการเมาค้าง ล้างพิษ ช่วยย่อย และแก้ไอ

    สำหรับ 'ส้ม' นอกจากแก้เมาค้าง ยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน กระตุ้นร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และช่วยล้างพิษ เนื่องจากส้มอุดมไปด้วย วิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์ สังกะสี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และเบต้าแคโรทีน

    รู้สรรพคุณแล้ว ลองนำผลไม้ที่ว่า มาทำเป็นเครื่องดื่มแก้เมาที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ด้วยส่วนผสมมีดังต่อไปนี้

    • สตรอว์เบอร์รี่ 2 ถ้วย

    • ส้ม 2 ผล

    หั่นสตรอว์เบอร์รี่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ส่วนส้มไม่ต้องเอาเมล็ดออก จากนั้นนำส่วนผสมทั้งสองชนิดไปสกัดเอาแต่น้ำ ดื่มได้ทันที หรือจะเติมน้ำแข็งเพิ่มความเย็นชื่นให้กับเครื่องดื่ม

    แม้คุณค่าจากผลไม้จะช่วยแก้อาการมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ได้ แต่ทางที่ดีอย่าดื่มหนักดื่มบ่อยเพราะตับอาจพังเพราะสุราได้.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  17. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    กินดื่มเติมกากใย ช่วยขับถ่าย

    วันศุกร์ ที่ 29 กรกฎาคม 2554 เวลา 0:00 น


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ชอบท้องผูก หรืออุจจาระแข็ง ‘กินดี’ เสนอสูตรสุขภาพขับถ่ายสะดวก ด้วย แอปเปิ้ล แตงกวา บร็อกโคลี

    ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ทั้งขับถ่ายไม่เป็นเวลา ชอบท้องผูก หรืออุจจาระแข็ง สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของกากใยที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย

    หากปัญหาที่กล่าวเกิดขึ้นบ่อยๆ 'มุมสุขภาพ-กินดี' แนะนำให้เปลี่ยน พฤติกรรมการกิน คือ เน้นผักและผลไม้ให้มากๆ เป็นวิธีแก้ที่ยั่งยืนและไม่ทำให้ระบบขับถ่ายแปรปรวน แต่ถ้าอยากทราบตัวช่วยเพื่อให้รีบขับถ่ายได้เร็วขึ้น ลองรับประทาน แอปเปิ้ล แตงกวา บร็อกโคลี ผักผลไม้ทั้งสามชนิดนี้ช่วยเสริมกากใย และให้ขับถ่ายได้สะดวก

    โดย 'แอปเปิ้ล' มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารและทำความสะอาดกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะมีเส้นใยเพ็กติน ส่วน 'แตงกวา' ก็ช่วยล้างพิษและเป็นยาระบาย ขณะที่ 'บร็อกโคลี' มีเส้นใยสูง และช่วยป้องกันมะเร็งด้วย

    ที่ว่ามานี้ สามารถนำมาทำเป็นเมนูเครื่องดื่มช่วยขับถ่าย ด้วยสัดส่วนและวิธีดังต่อไปนี้...

    • แอปเปิ้ล 1 ถ้วย

    • แตงกวา 1 ถ้วย

    • บร็อกโคลี 2 ถ้วย

    หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า โดยไม่ต้องเอาแกนออก ส่วนแตงกวาไม่ต้องปอกเปลือก ให้ฝานเป็นแว่นๆ สำหรับบร็อกโคลีให้หั่นพอหยาบ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปสกัดพร้อมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ ก่อนดื่มสามารถเติมน้ำแข็งป่นเพิ่มความเย็นสดชื่นและให้ดื่มได้ง่ายขึ้น.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  18. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    เคล็ดลับทำความสะอาดทอง

    วันศุกร์ ที่ 05 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ในยุคที่ทองเขยิบเข้าไปใกล้บาทละ 25,000 ทุกขณะ ใครมีไว้ในครอบครองคงต้องระวังรักษาให้ดี วันนี้จึงมีเคล็ดลับการทำความสะอาดเครื่องประดับทองมาบอก

    เครื่องประดับที่ทำจากทองคำ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ กำไลข้อมือ ต่างหู แหวน ใส่ไปนาน ๆ เข้า ก็อาจจะมีหมองจนดูไม่น่ามอง หากยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ลองอ่านคำแนะนำต่อไปนี้

    วิธีแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้ใส่อาบน้ำ ให้ทองได้ถูกน้ำสบู่บ้าง เครื่องทองก็จะไม่ค่อยหมองแล้ว หรือให้แช่ในน้ำมะนาวข้ามคืน แล้วใช้แปรงขนอ่อนขัดเบา ๆ เสร็จแล้วเช็ดให้แห้ง นำไปคลุกกับแป้งฝุ่น แล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดซ้ำ ก็จะได้ทองแวววาวคืนมา หรือจะลองขัดกับน้ำมะขามเปียกก็ได้ แล้วล้างน้ำเปล่าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ก็ได้ผลเช่นกัน

    อีกวิธีที่ปลอดภัยสุด ๆ ให้ใช้ผ้านุ่มเช็ดฝุ่นที่ติดตามทองออก แล้วแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาซักล้างอ่อน ๆ หากสีทองหมองลง ควรล้างด้วยน้ำยาล้างทอง หรืออาจใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่น ถูเบา ๆ หากสีหมองมาก และเป็นเครื่องประดับที่มีลวดลายละเอียด ควรแช่ในน้ำเดือด ผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตหนึ่งหยิบมือ แช่ทีละชิ้นประมาณ 30 วินาที จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้านิ่ม แต่ในกรณีที่เครื่องประดับมีพลอยตกแต่งอยู่ ไม่ควรใช้วิธีนี้ เพราะอาจทำให้พลอยร้าวได้

    เคล็ดลับต่อมาให้ลองใช้แอมโมเนียครึ่งถ้วย ผสมกับนํ้าอุ่น 1 ถ้วย แล้วแช่ไว้ 10-15 นาที ใช้แปรงขนอ่อนขัด ล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้ง เพียงเท่านี้เครื่องประดับทองคำ ก็จะสุกใส น่าสวมใส่แล้ว แต่ต้องหลีกเลี่ยงวิธีนี้หากเครื่องประดับชิ้นนั้นมีไข่มุกอยู่ด้วย เพราะแอมโมเนียจะทำลายผิวของไข่มุก

    อย่าใส่เครื่องประดับทองคำลงว่ายน้ำในสระหรือแช่อ่างจากุชชี่ เพราะคลอรีนในน้ำอาจทำลายผิวของทอง หรือทำให้หนามเตยที่ไว้เกี่ยวคลายออกได้ นอกจากนั้นโลชั่นหรือสเปรย์ต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้ความแวววาวของทองคำลดลงเช่นกัน เพราะทำให้เกิดชั้นไขมันเคลือบผิวทองไว้ ดังนั้นเวลาใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ ระวังอย่าให้โดนเครื่องประดับที่ทำจากทอง

    เวลาที่เก็บเครื่องประดับที่เป็นทองคำ ควรหุ้มด้วยสำลีหรือผ้านิ่ม ๆ ห่อแยกชิ้น ไม่เช่นนั้น แต่ละชิ้นอาจขูดขีดกันจนมีตำหนิได้ แล้วเก็บใส่กล่องที่เหมาะสมอีกทีหนึ่ง.





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  19. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ยินดีกับคุณเพชรด้วยนะครับผม
     
  20. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    ยินดีด้วยครับ:cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...