มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. newnxt

    newnxt สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +3
    องค์นี้เห็นด้วยกับพี่ Jmind ครับ
     
  2. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      186.8 KB
      เปิดดู:
      65
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2011
  3. K501

    K501 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +272
    ขอบคุณครับท่าน Jmind yamia 081 และท่านสมาชิกทุกๆท่านที่ให้กำลังใจผมและขอบคุณสำหรับน้ำใจไมตรีที่มีให้กับผม โอ้น้ำตาจะไหล แหมหลงเข้าใจผิดคิดว่าตัวผมทำไม่ถูกกติกาข้อไหนซะอีก รู้สีกดีจังเลยมีเพื่อนแล้ว ไม่ไช่อะไรหลอกนะครับคือผมเริ่มศึกษาพระเครื่องได้ไม่นานเลยไม่ค่อยมีความรู้มีแต่หนังสือที่พอจะหาซื้อได้และได้มีโอกาสใช้กล้องส่องพระเครื่องจากองค์จริงของบรรดาพี่ๆที่ทำงานซึ่งพี่ๆแทบทุกคนก็ไม่ใช่เซียนพระอะไรจึงไม่มีความรู้อะไรที่จะมาสอนเรา ก็ได้แค่ส่องพระของเขาแล้วเอามาเทียบกับรูปและการอ่านหนังสือ เพราะฉะนั้นนี่ก็คือหนทางการศึกษาพระเครื่องที่ดีอีกวิธีหนึ่ง คือมีการแชร์ความรู้ ช่วยกันดูช่วยกันแนะและมีการติชมพร้อมบอกเหตุผลประกอบทำให้เราได้รู้ในบางอย่างที่เรายังไม่รู้ดีกว่าศึกษาคนเดียวรู้คนเดียวและมั่วคนเดียว จริงไหมครับท่านพ่อแม่พี่น้อง
     
  4. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    รบกวนท่านๆครับ บางขุนพรหม ฐานแซม องค์นี้แท้ไหมครับ ถ้าแท้ กรุเก่าใช่ไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. newnxt

    newnxt สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +3
    มีด้านข้างไหมครับ อยากเห็น
     
  6. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    **************************************
    ถ้าด้านข้างต้องรอวันจันทร์ -อังคาร ครับ พระไม่ได้อยู่ที่ตัวผม
    วิจารณ์เบื้องต้นได้ไหมครับ หรือเอาแบบขาดๆ เลย ใช่ หรือไม่ใช่ครับ

    ขอบคุณครับ
     
  7. gri

    gri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +154
    :boo::boo::boo:ม่ายต้องมา กัว อา ราย เลย เหอ เหอ เหอ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก แบบป้ายา 555 โห่ะ โห่ะ โห่ะ หุ หุ หุ
    อยากดูพระสมเด็จ ที่ใฝ่ฝันเก่ง ห้าย ดู โพสนี้หลายๆรอบ เด๋ว ก้อ เปง เองคับ แต่ให้ดูด้วยตา 1 ข้าง ไว้ อีกข้างเหมือนฟังหู ไว้หู ด้วยหล่ะ แล้ว ปาย วิเคราะห์ เอ วัง เองอีกที บวกกับความรู้ที่อื่นน๊ะคับ หุหุหุ
    จำไว้อย่าง นึงดู พระเก๊ที่มีดาษดื่นให้เก่งด้วย 555 งง หล่ะสิ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก

     
  8. gri

    gri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +154
    พระองค์ข้างล่างนี้ พอส่องกลางคืน ระยิบระยับ เหมือนหาดทรายที่โดนแดดเปรี้ยงๆ หรือ น้ำทะเลที่เรามองไกลๆท่ามกลางแสงแดด เลยคะ แต่เป็นพระที่ไม่มีคำว่าเก๊แน่นอนคะ ( เพราะไม่ใช่พระสมเด็จ แ่ต่เป็นพระอะไรยังไม่ทราบได้ เอามาไว้ดูเป็นครู และความเข้าใจสภาพพระเนื้อผง และ คราบที่เกิดขึ้นจากการปะทุผิวด้านในออกบนเนื้อพระด้านนอก ( สายๆหน่อยจะซูมมาให้ดูอีกทีคะ ))คาดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้างนะคะ
    แต่มีบางอย่างทำให้ยาเริ่มมองอย่างเข้าใจ ในเรื่องภาพถ่าย ซึ่งในบางครั้ง เราถ่ายรูปพระ ที่เพื่อนสมาชิกคิดว่า พระองค์นี้เก่าแบบขึ้นสีคล้ายสีสนิม แต่พอถ่ายมา กับเป็นรอยไหม้ เหมือนเข้าเตาเผา ซึ่งจริงๆแล้วไม่อาจสรุปได้ เนื่องจากภาพถ่าย หลอกตา ไม่เท่ากับการได้ส่องศึกษาจากองค์จริงๆคะ ดังนั้น เพื่อนสมาชิก ที่ส่งสอบถาม หากคำตอบผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ เพราะ การศึกษาของเรานั้นศึกษาจากรูปถ่าย ไม่ได้สัมผัสองค์จริงๆ


    อ่ะจึ๋ย จ๋วย อีก แย้ว ป้า พระน๊ะ หุหุหุ
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  9. gri

    gri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +154
    :':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)'(
    ภาพเล็ก ปาย ป่าว น้า อาว หญ่ายๆ หน่อย อ่ะน๊ะคับ
    :boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:
     
  10. oad1981

    oad1981 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอรบกวนทุกๆท่านด้วยครับพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    ลองดูอีกทีอ่ะ ถ้ายังเล็กอยู่ต้องรอ week หน้า(ปรับขนาดภาพไม่ค่อยเป็น)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ห้องมืด

    ห้องมืด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +2

    เป็น ลิงค์ที่ดีมาก และเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์
    น่าจะเป็นลิงค์ที่ให้ "เซียนพระ" ที่เขียนหนังสือ นั่นอ่านนะครับ

    ทุกอย่างเกิดจากการทำจริง เรียนรู้จริง มิใช่พิสูจน์ และฟังแค่ ลมปาก
    เพราะ วิทยาศาสตร์ และการทดลอง สามารถพิสูจน์ได้

    สุนทรภู่เคยกล่าวไว้ว่า
    "เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
    แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ"


    ปล. เป็นกระทู้ที่มิได้พาดพิง ว่ากล่าว ใส่ร้าย ใครๆทั้งสิ้นนะครับ
    เพียงแต่แนะนำ วิธีการเรียนรู้พระในแบบวิทยาศาสตร์นะครับ ไว้เป็นทางเลือกนึง
     
  13. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    พิมพ์ใหญ่ บางขุนพรหม องค์นี้แท้ไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    ขอบคุณพี่Jmindมากๆครับ ผม อยาก เช่าหาอะ แต่ ยัง ไม่ชำนานต้องขอรบกวนครับ
     
  15. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ตก ตก ตก บอร์ดตก ไปหน้าสอง แย้ววววววว อั๊พ อั๊พๆๆๆ ก่อนคะ (||)

    พี่ๆและเพื่อนๆคะ ตอนนี้ ยามีความสนใจ อยากศึกษา เนื้อพระสมเด็จช่วง ปี 02 09 ยุคหลัง ๆ ไม่ทราบว่าใครพอมีภาพตัวอย่างเนื้อหามวลสารพระสมเด็จ ในยุคหลังๆบ้างไหมคะ หุหุหุหุหุ อยากดูเนื้อใหม่เนื้อเก่า ช่วงระหว่างปีนิดนึงคะ เพราะ ต้องการแยกเนื้อพระสมเด็จเป็นช่วงปี สักเล็กน้อยคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ
     
  16. ห้องมืด

    ห้องมืด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +2

    คุณยาช่างเป็นคนที่ขยันหาความรู้มากมาย เก่งจริงๆ ผมละชอบคนแบบนี้ครับ

    ผมขอแชร์ความเห็นสักนิด ไม่รู้ว่าคุณยามีความเห็นเช่นไร

    พระสมเด็จยุคหลัง(ช่วง 2480 - 2510 เป็นต้นมา) ในความเห็นของผมนะครับ
    ลักษณะเนื้อจะค่อนข้างละเอียด สังเกตุได้จากพระของหลวงปู่สุพจน์(วัดสุทัศน์) หลวงปู่ภู หรือหลวงปู่นาค และเป็นพระผง ที่มีการ "ปลอมง่าย" และปลอมเยอะมากที่สุดด้วย(ปลอมเป็นวัดดัง)

    หรือไม่อยากจะกล่าวว่า ถ้ามีรูปพระสมเด็จวัดระฆังตามหนังสือบางเล่ม ลองเอากล้องซูมรูปสิครับ จะพบว่า เนื้อหาใกล้เคียงกัน(เนื้อโซนละเอียด) (ผมอ่านแต่หนังสือ P...ครับ) ยิ่งของหลวงปู่นาคแล้วนั้น ลักษณะแทบจะครือๆกันเลย ในขณะที่ของหลวงปู่ภู จะเนียนมากกว่า

    ทำให้ผม(มุมมอง) มองว่าพระสมเด็จ ที่ลงรูปในปัจจุบันที่มีการเล่นหากันมูลค่าสูงนั้น เป็นยุคหลังที่ทันท่านหรือ???? กำลังใช้เหตุและผล ตามหลักวิทยาศาสตร์คิดอยู่

    เหตุคือ "พระสมัยก่อน ปั๊นมือ นวดมือ เนื้อเลยหยาบ" แต่พระยุคหลังมีเครื่องหมุน เนื้อผงเลยละเอียด แล้วพระสมเด็จยุคหลัง เนื้อละเอียดแทบทั้งนั้น ท่านมีความเห็นเช่นไร???

    มีหนังสือหลายเล่มที่แจ้ง อายุ วันเดือนปีเกิด ของพระเกจิ ชื่อดังมากมาย ทำให้เรารู้ถึง ช่วงเวลาการบวชของท่าน ถ้าเป็นพระที่บวชใหม่หรือบวชมานาน ท่านจะมีวิชาแก่กล้า และทำพระขึ้นมาแจก ท่านคิดว่าท่านควรจะมีการบวชเรียนมานานเท่าใด??? กี่พรรษา ละครับ??

    **รูปขอติดคุณยาไว้ก่อนนะครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย แต่เห็นคุณยามีคำถาม ที่ประทับใจเลยขอแชรนิดนึง

    ขอบคุณครับ
     
  17. ห้องมืด

    ห้องมืด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณคุณเกียรติครับ ที่ให้ความรู้ และความสนใจในพระของผม มาสามรายการแล้ว ดีใจนะครับ

    เดี๋ยวมีมาอีกเรื่อยๆครับ รอรวบยอดเลย
     
  18. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ขอบคุณมากคะ คุณห้องมืด

    จริงแล้วยาสนใจ หาคำตอบหลายๆอย่างมากกว่าคะ เพราะ ชอบสงสัยในบางครั้งเวลาเราไปพบใครชี้แนะอะไรมา ก็หาคำตอบนั้นๆ เช่นเมื่อวานไปเจอเซียนท่านหนึ่งบอกว่าเป็นคนหาพระให้เซียนใหญ่มาเป็นสิบปีแล้ว ยาเลยลองถามเขาว่าพระสมเด็จเล่นเนื้อแนวไหน แต่เขาตอบมาในสไตล์เขาว่า ต้องเล่นแบบหนึกนุ่ม เนื้อต้องแบบหลวงปู่ภู ถึงเล่นกันแรง ( ยาเริ่มสับสนข้อมูลทันทีคะ เพราะเนื่องจากว่า มีเพื่อนกัลยาณมิตร ส่งพระสมเด็จแท้มาให้จากกรุงเทพ ให้ดูตัวอย่างและชี้ให้ดูเนื้อหาสาระของท่านจริงๆ ซึ่งไม่ตรงกันกับเซียนดังกล่าวว่า ) ดังนั้น ยาเลยค้นหาคำตอบว่า ควรเป็นเนื้อแบบไหน ด้วยการเริ่มต้นจากพระเนื้อผงที่ตนเองมีคะ ที่คิดว่าแท้แน่นอน คือ พระที่ไม่ใช่ของนิยม แต่เป็นพระที่เก่าจริง ย่อยสลายจริง มวลสารการย่อยสลายมีให้เห็นจริง และ ชัวร์ไม่เก๊โรงงาน ( สรุปคือ พระที่ยาโพสก่อนหน้านี้ ที่เนื้อมวลสาร กำลังขึ้นเป็นสีสนิมคะ เป็นพระเนื้อผงในพื้นที่ ซึ่งไม่นิยมเล่นหา จึงเหมาะแก่การศึกษาเนื้อหาจากธรรมชาติ ที่ควรจะเป็น ซึ่งยาใช้วิธีที่ในการศึกษาคราบกรุต่างๆคะ แล้วมาแยกแยะอีกที ตามภูมิอากาศของการเก็บแต่ละพื้นที่ โดยอาศัยศึกษาจากเนื้อพระผง อื่นๆ ที่ไม่ใช่พระสมเด็จ เพื่อดูลักษณะการเกิดความร้อนภายใน การประทุของผิวเนื้อมวลสาร การย่อยสลาย การยุบตัว และก็คราบอื่นๆ แบบคร่าวๆคะ )

    ยามีจุดสังเกตุ ที่เนื้อหาพระ เนื้อผง เป็นคำถามในการหาคำตอบคะ พระผง มีวรรณะ เป็นแป้ง ซึ่งแป้งนานวันก็ต้องเสื่อมสภาพ เป็นเศษผงที่แข็งกระด้างเป็นเม็ดๆ แต่พระสมเด็จมีส่วนผสมหลากหลาย มีการเชื่อมประสานกับน้ำมันตังอิ๊ว ให้เกิดความเหนียว และ การเคลือบผิวรักษาสภาพ ( ดังนั้น เรามาคิดว่า สภาพเนื้อมวลสารแต่ละอย่างนานหลายสิบปี จะย่อยสลายเป็นแบบไหน มีใครตอบได้ไหมคะว่ากล้อยสุก หลังจากเคี้ยวไป แล้ววางทิ้งไว้ สักร้อยปีสภาพเป็นเช่นไร ลองหาคำตอบนี้ดูก็สนุกดีนะคะ ยาก็ไม่เคยเห็นเนื้อของกล้วยเป็นร้อยปีเลยคะ ข้าว ตากแห้ง ก็คงไม่ต่างจากข้าวตากที่สมัยก่อนไว้กักตุนอาหาร สภาพตากแดด สักอาทิตย์ ความแข็งกระด้างก็เกิด แต่ถ้าเป็นข้าวที่เคี้ยวบด จะเป็นเช่นไร อ้างมีงี้ด้วย คืดมากไปใหญ่แล้วคะ แต่พยายามคิดสภาพของความเป็นจริงคะ เศษไม้ จากก้านบัว ก้านธูป ไม้เมื่อนานวัน ก็จะกลายเป็นหิน ดังนั้น เศษผงเหล่านี้ต้องแกร่ง แต่ก็ขึ้นอยู่ที่สภาพการเก็บรักษาอีกนั่นแหละ โอ้ยยย มันมีอะไรหลายอย่างให้คิดให้ศึกษาคะ ยาพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นน้ำที่ล้นแก้วคะ จะเป็นน้ำที่ปริ่มที่คอยเติมเต็มตลอดเวลา เรียนถูกเรียนผิดไปเรื่อยเปื่อยคะ ถือว่าเป็นวิชาไปด้วยคะ )

    พระสมเด็จ ตามที่ยาบอกเบื้องต้น สภาพเนื้อพระ มีการผสมด้วยมวลสารต่างๆในวรรณะที่แตกต่างในการเก็บรักษาพื้นที่ ที่แตกต่าง สภาพพระจะไม่มีทางเหมือนกัน ในเรื่องของคราบที่เกิดขึ้นให้มองเห็น แต่มีสิ่งนึง ที่ให้เราเห็นคือ คือ ความชุ่มฉ่ำของผิวด้านนอกคะ ยาจะบอกแบบไหนดีคะ เหมือนเราทำกับข้าว ย่างเนื้อสักชิ้น เนื้อที่เรากิน จะไหม้จากด้านนอก ไปหาด้านใน และ ทำให้ เนื้อข้างในดันน้ำมันเยิ้มออกมาที่ผิวด้านนอก นึกออกไหมคะ แต่นี่ เรามามองแบบพระสมเด็จจที่เก็บในกรุ หรือ สถานที่ต่างๆ ผิวไม่ได้เผาไหม้จากด้านนอก แต่เกิดจากการระอุ ด้วยมวลสารข้างใน ทำให้หน้าผิวพระเกิดน้ำหล่อเลี้ยงผิวเหมือนมีการเคลือบผิว แต่ไม่ได้เคลือบคะ แป้งหรือมวลสารข้างใน จะค่อยบีบน้ำในตัวออกมาซึมที่ผิวพระ ซึ่งทำให้วรรณะของพระเกิดคราบต่างๆ ดังนั้น ผิวพระช่วงกลางสุด จะแห้งสนิท และ ถัดมาอีกนิด จะมีความหนึกนุ่มในตัว ของเนื้อผง ( มันเป็นภาพที่ยาลองจินตนาการ ความน่าจะเป็นทางธรรมชาตินะคะ) ส่วนที่ใกล้ผิวด้านนอกจะยังมีความหนึกนุ่มของน้ำที่ดันลอยขึ้นมาที่หน้าผิวพระ แต่เมื่อน้ำหรือ น้ำมันตังอิ๊วและส่วนผสมอื่น มีการบีบตัวเป็นไอน้ำขึ้นมา ด้านนอก สภาพด้านนอกที่เจอ ทำให้เปลี่ยนวรรณะได้อีกเช่นกัน เมื่อนานวันเข้า ก็จะเกาะแข็งจับที่ผิวพระ แต่สภาพเหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงผิว ( ซึ่งมันก็ยากที่จะแยกแยะบ้าง ก็คงต้องใช้การวิเคราะห์และศึกษาถึงความแตกต่างคะ )

    มาพูดถึงเรื่องของคราบแต่ละชั้น ของการบรรจุพระ
    ( ยาค้นคว้ามานะคะ และ จำมาบอกเล่าต่อคะ ก็อาจไม่ถูกต้องเสมอไป )

    พระสมเด็จ ที่ถูกบรรจุกรุผิวพระ บอกถึงวรรณะที่แตกต่างกัน
    - พระสมเด็จชั้นบนสุด จะเห้นเป็นเศษผงที่ปกคลุมผิวพระบางๆ เพราะสภาพฝุ่นในกรุ และเหงื่อความร้อนในกรุ อาจเป็นผงเล็กๆ แต่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า และมีคราบลักษณะออกสี ขาวเหลืองนวล ตามซอกผิวพระ เนื่องจากการจากความร้อนชื้นข้างในองค์พระขับดันผิวเงื่อและมวลสารในผิว เป็นคราบฝ้า ดังกล่าวเหมือนคราบไขมันวัวต้ม
    - พระสมเด็จชั้นถัดจากด้านบนสุด จะเห็นเป็นคราบน้ำปูนเดือด คือสภาพเป็นฟองละเอียด สีออกเหลืองน้ำตาลจับแน่นที่องค์พระ เพราะเกิดจากสภาพน้ำท่วมขังและ สภาพอากาศแวดล้อม
    - พระสมเด็จชั้นกลาง จะเห็นเป็นลักษณะ ของฟองเต้าหู้ เกิดจากความชื้นแฉะผิว และความร้อนละอุในเนื้อพระ ที่น้ำท่วมขัง และทำปฎิกิริยา กับมวลสารพระ ของปูนเปลือกหอย และน้ำมันตังอิ๊ว และสิ่งแวดล้อมภายในกรุ แต่ต้องสังเกตุว่า คราบตังอิ๊วที่เกิดเมื่อแตกออกจะมีเม็ดฝังในเนื้อพระ เกาะจับแน่นผิว( พูดง่ายๆคะดูให้เกิดจากคราบธรรมชาติ )
    -พระสมเด็จชั้นล่างสุด จะพบเห็นลักษณะคราบกระเบน เป็นเม็ดเล็กๆคล้ายหนังกระเบน สีเทาแกมม่วงอ่อนๆ สีน้ำตาลอ่อน และเข้ม เกิดจากเม็ดทรายเกาะอยู่ทั่วองค์พระ แข็งมากไม่สามารถล้างให้ออก (เกิดจากพระที่ตกสู่พื้นปะปนกับดินและทรายถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
    -พระสมเด็จคราบน้ำผึ้ง เกิดจากปฏิกิริยาที่ผ่านการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นได้ทั้งพระสมเด็จที่ไม่บรรจุกรุ และบรรจุกรุ สีขององค์พระจะนวลคล้ายสีของน้ำผึ้งแต่แข็งแกร่ง มีน้ำหนัก และหนึกนุ่มเกิดจากมวลสาร
     
  19. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ขยายความเพิ่มเติมคะ ( แป้งที่ยาพูด หมายถึง วรรณะของข้าวที่เป็นแป้ง และกล้วย และ สภาพของบูนเปลือกหอย ที่ย่อยสลาย และ ความเปลี่ยนแปลงของวันเวลาคะ และ ส่วนผสมอื่นๆ )
     
  20. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ยาเสียอยู่หลายเรื่องคะ ข้อมูลเราพอศึกษาได้คะ แต่พระแท้ให้เราศึกษานี่สิคะ ต้องใช้เวลาการเสาะหา แท้จริงๆให้เราดูเป็นครู ส่วนใหญ่จะเห็นแต่ที่รูปภาพ เลยทำให้เขวไปบ้างในการส่องพระจริงคะ ( โชคดี มีกัลยาณมิตร ส่งพระสมเด็จแท้มาให้ 1 องค์ พร้อมพระเก๊ดูตัวอย่างอีกหกองค์ ) แต่ยาพูดคุยและปรึกษา เรื่องที่ยาได้ไปพบเจอเมื่อวาน จึงได้คำตอบกัลยาณมิตรท่านนี้ว่า ให้ยาลองหาพระที่ มีปี พศ ช่วงปี 02 ,09 มาดู จะได้แยกเนื้อพระใหม่และเก่าได้ออก จะได้ไม่สับสนเรื่องเนื้อหามวลสาร ใหม่และเก่า ซึ่งทำให้จุดประกายความคิดว่า มันคือเรื่องจริงที่เราไม่ควรมองข้ามคะ เมื่อหาพระเก่าไม่ได้ ก็เนื้อใหม่ไปก่อน ว่าเป็นแบบไหน เนื้อหาของแต่ละปี เป็นแบบไหน

    --- ยาแนะนำนะคะ ศึกษาพิมพ์ให้แม่น แล้วศึกษาเนื้อให้แม่น และ คราบธรรมชาติ ก็ลองเข้าหน้าบอร์ดใหม่ ที่หัวข้อบอร์ด พระเบญจภาคี จะมีอยู่ประมาณ 5-6 หน้าของบอร์ดนั้น แล้วลองเซฟภาพไปแยกแยะ ว่าตำหนิพิมพ์ที่เด่นๆทำให้เรามองได้ชัดเจน ว่า ซุ้มวิ่งแบบไหน หักมุมตรงไหน ขาส่วนไหนสูง ตรงนี้ยาไม่บอกนะคะ ว่าดูตรงไหนจากรูป ลองใช้วิจารณญานของตังเองนะคะ เราจะได้เข้าใจไปด้วย หวังว่าจะได้ข้อมูลดีๆกันนะคะ ----
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...