แปลกไหม ที่ผู้หญิงอายุ 28 ไม่เคยมีแฟนสักคน

คุณมีใครอยู่ในใจแล้วรึเปล่าครับ ประมาณว่ายังตัดไม่ได้เลย ยังไม่พร้อมที่จะให้ใครเข้ามาแทนที่พอมีใครเข้ามาหรือเราจะหาใครคนใหม่เราก็จะสร้างกำแพงมากันไว้เป็นอันดับแรก เหมือนกับว่าที่ตรงนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้ใครเข้ามา แม้ว่าตัวเราเองอยากจะมีก็ตามมันขัดกันเองครับ ผมเองก็เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนตอนเลิกกับแฟนเก่า ที่คบกันมา5 ปีเป็นเช่นนั้นครับ เราเองพยามหาคนใหม่แต่ก็หาไม่ได้สักที ทั้งๆที่รู้ว่ามีคนแอบชอบเราอยู่ (อาจหลงตัวเองไปหน่อย) แต่เราก็ไม่กล้าแสดงออกเต็มที่ จนได้มาอ่าน E-mail ครับโดยรวมสรุปว่า " การที่เรารักใครคนหนึ่งไม่ใช่ ต้องได้มาครอบครอง ได้มองเห็นเขามีความสุขบางทีก็เพียงพอแล้วครับ "

 

แทบจะเรียกไ้ด้ว่า ถูกต้องทุกตัวอักษรที่คุณพูดมาเลยค่ะ มีคนในใจแล้วแต่ไม่เคยคิดอยากครอบครอง รู้ว่าเขามีความสุขก็โอเคแล้ว แต่เราก็ควรที่จะมีทางของตัวเองค่ะ จะไม่มองหันหลังกลับไปมองเค้าอีก ไม่มีใครแทนที่ใครได้ค่ะ แต่จะคบใครสักคน เค้าจะมีที่ของเค้า ไม่เอามาแทนใคร

ลักค์ศรัทธาในความรักของตัวเอง เมื่อให้ใครแล้วเขาำไม่เอา ไม่ทน ไม่ตื้อ ให้แล้วคือให้ แต่ก็จะให้แค่ความรู้สึก แล้วลักค์เคารพในความรักของคนอื่นด้วยค่ะ ไม่เรียกร้อง ไม่คาดคั้น ไม่ตอแย

ลักค์เชื่อว่า รักแท้ อาจมีได้เพียงคนเดียว แต่เราจะมีรักแบบอื่น รักผูกพันธ์ รักทะนุถนอม รักอยากปกป้อง รักจะไ้ด้ตามใจประสงค์ คนอื่นอาจะบอกว่า ลักค์มองความรักผิดไป แต่ในความคิดของรัก เนื้อคู่ คงไม่ได้ลงเอยด้วยการอยู่ด้วยกันเสมอไป

 

เราก้อไม่เคยมีแฟนเลยเหมือนกันค่ะ

อายุจะ 26 ปีละ แฟนสักคนไม่เคยมีมาเลยอ่า แต่ถ้าถามว่าอยากมีมั้ย ลึกๆก็อยากนะคะ แต่ไม่ได้รีบ แต่ก็ติดที่คุณพ่อเร่งมาเหมือนกัน เพราะหลานสาว(ลูกพี่สาว)ก็เริ่มทยอยหมั้นกันละ กลุ้มเลยค่ะ ไม่รู้จะไปหาที่ไหน

 

พิจารณา ธรรม ย่อม เห็นธรรม ...

 

คิดมาก ถ้าอายุขัยของฅน 60 ก็ยังมีเวลาเหลือตั้ง 32 ปี

 

ตอบทาง pm ไปแล้วนะครับ

 

ไม่แปลกหรอกคะ เราเป็นคนหนึ่งอยากจะบอกว่าในโลกนี้มีอะไรที่แปลกกว่านี้มากมาย ที่คนอื่นแทบไม่เชื่อและไม่คิดว่ามีก็ยังมี อย่างเช่นผู้หญิงบางคนที่แต่งงานแล้วแต่ยังเป็นพรหมจรรย์ไม่เชื่อแต่ก็ต้องเชื่อเพราะมีจริงๆ

 

เคยได้ยินมาเหมือนกันครับว่า

อาจเป็นเพราะในอดีต อธิษฐานพรหมจรรย์มา จะด้วยเหตุแห่งทุกข์ประการใดในชาตินั้นๆก็ไม่ทราบ ด้วยแรงบารมีอธิษฐาน เป็นผังสำเร็จให้ไม่มีคู่

แนะนำว่าลอง อธิษฐานใหม่ดู ว่าขอให้มีคู่ครองในมนุษย์สมบัติที่เป็นสัมมาทิฏฐิ การอธิษฐานอันใดในอดีตอันส่งผลให้ข้าพเจ้ามีทุกข์ในปัจจุบัน ขอถอนคำอธิษฐานนั้น

 

ไม่แปลกหรอกค่ะ ตัวเองก้อเป็น 24 แล้ว หน้าตาก็ไม่ขี้เหร่ ก็อยากมีนะ แต่เท่าทุกวันนี้ก็วุ่นวาย เลยคิดว่าถ้ามีไม่ดีก็อย่ามีดีกว่ามันจะยิ่งวุ่นวายเข้าไปอีก ไม่ได้เลือกมากนะ อีกอย่างมีบุญได้ลูกบุญธรรมแบบไม่ตั้งใจ ไ่ม่ตั้งตัืว ปัจจุบันก็ให้เรียกว่าแม่ มันก็เลยยากไปอีก แต่ก็มีความสุขดี อีกอย่างสมัยนี้เค้ามีครอบครัวกันตั้งแต่อายุน้อยๆ(รวมแบบไม่ได้ตั้งใจ)มันก็เลยทำให้ผู้หญิงโสดอย่างเราเนี่ยดูโดดเด่นขึ้นมากว่าคนอื่น (ูู^^)

 

ได้ห่าง ไปจากเรื่องกามารมณ์ได้ก็นับว่าบุญมากจริงๆครับ ถ้าไม่รู้สึกว้าเหว่มากนักก็อยู่คนเดียวไปเรื่อยๆดีกว่า สบายใจดีนะครับ มีอิสระเสรี ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องลูก

 

อธิษฐานชาตินี้หล่ะค่ะ ชาติที่ ไม่รู้จริงๆ (kiss)

 

อายุเป็นเพียงตัวเลขครับ อย่าใส่ใจมากเลย

 

คุณพิชญากร ครับ ขออนุญาตนำธรรมะไปเผยแพร่ต่อนะครับ

 

คุณ เคยมีปมอะไรเกี่ยวกับเรื่องความรักมาก่อนหรือเปล่าครับ ?

จากที่อ่านๆ มาคุณลักค์ คุณมีนิสัยคล้ายๆผมเลย
คือทฤษฎีเต็มร้อย แต่ปฏิบัติน้อยเอาไปศูนย์
เมื่อก่อน ผมชอบมาก ที่จะพูดคุยเรื่อง ทำนองนี้
กับคนอื่นๆ เพื่อที่จะบอกว่า เรารู้ดี เรารู้แน่ เป็นที่ยอมรับ
นับถือกันในแวดวงเพื่อน ทั้งหญิงและชาย ...
แต่ภายในลึกๆ แล้วนั้น สิ่งที่พูดออกมา
เป็นเพียง ความจำ และความคิด เท่านั้น

ผมเคยคบผู้หญิงคนหนึ่ง บอกได้เลยว่า รักเอามาก
รักจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น แต่ก็มีเหตุให้ต้อง แยกห่างกัน
ตอนนั้นรู้สึกแย่มาก เป็นความรู้สึก ผิด
,, ผิดที่ทำให้ตัวเอง ต้องมาผิดหวัง ผิดที่ต้องทำให้ ใครบางคน ผิดหวัง ,,

เป็นความรู้สึกผิด ที่ติดตัว มานานร่วม 2 ปี หลังจากที่แยกกันแล้วนั้น
ผมก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติ มีเพื่อนหญิงมากมาย มารุมล้อม
แต่ก็หามีสักคนไม่ที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่า แฟน
หรือจะพูดให้ลึกกว่านั้นคือ คู่ชีวิต

แต่เวลาไปไหนต่อไหน ก็จะพูดพล่าม
เหมือนผู้รู้เคยมีแฟนมาแล้วนับไม่ถ้วน
ร่วม 10 คน อะไรประมาณนี้ ด้วยความรู้สึก อาย
ที่จะต้องยอมรับความจริงว่า ที่แท้ เรามันพวกขี้ขลาด
ไม่กล้าที่จะรักใครต่างหากหละ

วันหนึ่ง มีโอกาศไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ ... ระหว่างนั้น ได้พิจารณา กรรม
ที่ตนเองได้ก่อขึ้นนี้ และสุดท้าย กรรมนี้ก็หลุด เกิดความสบายใจขึ้นว่า ....
นี่ไม่ใช่ความผิดของเรา ที่ทำให้เขาต้องเสียใจ เขาอาจจะไม่ใช่คู่ของเรา
ในชาตินี้ แต่ถึงอย่างไร เขาก็เป็นคนคนหนึ่ง ที่ทำให้เราได้เคยมี ความรู้สึกดีๆ

ครั้งหนึ่ง ในช่วงต้นของชีวิต และการที่เขาเสียใจ เราก็ไม่ใช่คนผิด
เพราะได้คุยถึงเหตุและผลกันแล้ว ตัวเขาเองก็บอกว่า เข้าใจทุกอย่าง
ผมถึงสบายใจ และเกิดการปล่อยวาง เลิกยึดมั่นถือผิด ... คิดเสียว่า
มันเป็นกฏแห่งกรรม หาผู้ใดรู้แจ้งในกฏนี้ นอกจากพระพุทธองค์ไม่
จึงนอมรับกฏ และพิจารณาให้เหตุถึงความจริง รู้สึกปล่อยวาง
สุดท้ายก็หลุดจากปมที่เคยมีมานานเรื่องความรัก ..

หลังจากนั้น ผมก็ได้พบ ความรัก ซึ่งไม่เคยคิดว่าก่อนเลยว่าจะได้พบ
รู้สึกว่า การปล่อยวางนี้ดีจริงๆ เหมือนปลดพันธะออกจากหัวใจ
แล้วเปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามาใหม่ในชีวิต ....
แต่ถึงอย่างนั้น รักครั้งนี้ ก็ไม่ได้นึกเอาว่าเป็นรักแท้
หรือว่าคู่ของเราแต่อดีตชาติประการใด
ดำรงความรัก ในทางสายกลาง ตึงมากไปก็ปรับลง
หย่อนมากไป ก็ดึงให้ตึงขึ้น เกื้อกูลกันเรื่อยมา
ไม่หวือหวา หวานแหวว แต่อย่างใด ....

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวกระผมเอง
เพียงเพื่อเป็นแนวทาง ให้ คุณลักค์ ได้นำไปพิจารณาต่อ
อาจจะเหมือน หรือแตกต่างอย่างไร
ก็สุดแท้แต่การพิจารณาของคุณลักค์น่ะครับ ....

......................

ขอให้สมหวังในความรัก น่ะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ

ฝากไว้น่ะครับ สำหรับ ทุกท่านที่ศรัทธาในรัก
วาทะดังตฤณ ฉบับ รักแท้มีจริง

 

เรื่องอย่างนี้คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

 

ของลักค์ไม่ได้ชอบที่ให้คำปรึกษาใครหรอกค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่หลงมัวเมาในโลกีย์ เหมือนอย่างเขา เราจึงได้พูดไปแบบไร้อคติ ซึ่งน่าแปลก จริงๆแล้วมันก็คือ ทฤษฎีทั่วไป แต่มันเหมือนเส้นผมบังภูเขาเท่านั้น

ส่วนตัวเอง แทบเอาตัวไม่รอดค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

ขอ อนุญาติ นำไปใช้ นะครับ ขอ โมทนาบุญ ครับ +++

 

ขอแจมด้วยคนนะครับ กำลังจะหย่านะ ภรรยาของผม เขาขอหย่า ผมบอกว่าสงสารลูกๆ เขาบอกว่าไม่เป็นไร เขาจะคุยกับลูกๆเอง จนมาถึงเวลานี้ ผมก็เลยไปอำเภอกับ เขาเมื่อวานนี้ แต่ทางอำเภอ บอกว่าต้องการพยาน สอง คน เลยต้องกลับบ้านหาพยานก่อน แล้วค่อยไปใหม่ คงไม่นานหรอก รอเขาหาพยานได้ก็จะไปเซ็นต์หย่าให้เลยครับ ผมบอกกับเขาว่า ถ้าหย่าแล้ว อย่ามาว่าผมที่หลังนะ เพราะผมจะหันหลังให้กลับอดีต คือจะพยายามลืมว่าเคยรู้จักกับเขา...
เดือนหน้าผมจะไปถือศีล 8 ที่วัดป่าดอนหายโศก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ช่วงวันที่ 6(เที่ยง) สิงหาคม ถึง 14(เช้า) ครับ ผมไปมาแล้ว 2 ครั้ง ตลอด 7 วัน เขาไม่ให้พูดคุยกัน นะครับ วันสุดท้าย ตอนเย็น จึงอนูญาต ให้พูดได้ครับ...
ไปทำบุญด้วยกันก็ได้นะครับ...ทำทานมามากแล้ว...เป็นเพื่อนทางธรรมกันดีกว่า...
ทางวัดฯเขาจัดอบรมทุกเดือน แต่ต้องสมัครก่อนนะครับ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเต็ม รับได้ไม่เกิน 70 คน ผู้ชายไม่เกิน 30 คน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นค่าเดินทาง ไป-กลับ จากบ้านถึงวัด ครับ
เบอร์ผม เป้ ครับ โทร. 087-2187223...ถ้าอยากไปวัดป่าดอนหายโศก โทรนัดล่วงหน้า จะพาไปครับ...

 

1.ต้องถามว่าตัวเองตั้งสเป๊คไว้แค่ไหน
-ฐานะ เงินทอง ความมั่นคง
-รูปร่างหน้าตา อายุ
-นิสัยใจคอ การศึกษา การงาน ...(ตัดให้มันน้อยๆลงไปบ้างก็จะหาง่ายขึ้น)

2.ในเมื่ออยากมีก็ต้องหาเอา จะให้อยู่กับเย้าเฝ้ากะเรือนเหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาจีบ ต้องรู้จักทอดสะพานให้คนอื่นบ้าง(คนที่ชอบ)ใช้จริตมารยาหญิงให้เหมาะสม..ตรงข้อนี้เราต้องมีความอยากๆ ไม่ใช่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ ก็จะไม่มีเพราะผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง 555

3.ถามตัวเองว่าเรากำลังหลงอยู่ในความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แยกแยะไม่ออกระหว่างทางธรรมกับทางโลกหรือเปล่า ประมาณว่าจะไปทางโลก ก็ห่วงทางธรรม จะไปทางธรรมก็ ห่วงทางโลก ...อันที่จริงทั้งสองอย่างสามารถดำเนินไปพร้อมกันได้ถ้าเราไม่มองว่าทางธรรมกับทางโลกเป็นเหมือนน้ำกับน้ำมันครับ

4.ตามธรรมชาติสิ่งมีชีวิตจะมีสัญชาตญาณในการดำรงสืบเผ่าพันธ์ ดังนั้นจะมีสิ่งที่จะเป็นตัวเหนี่ยวนำให้ทั้งสองฝ่ายสนใจกัน ...เริ่มจากฮอร์โมนเพศ ถ้าระดับฮอร์โมนผิดปรกติประมาณว่ามีน้อย จะทำให้ไม่ค่อยโหยหาเพศตรงข้าม
พอมีน้อยบุคลิกการแสดงออกจะทำให้เราดูแข็ง ไม่ดึงดูดต่อเพศตรงข้าม ..ส่งผลให้อารมณ์เราไม่พลิ้ว ไม่ริ้วตากับคนอื่นและรูปร่างเราอาจจะผอมแห้ง แรงน้อยไม่กระฉับกระเฉง ไม่เหมาะเป็นแม่พันธ์ (ตรงนี้ต้องไปตรวจสุขภาพร่างกายเอาและต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วย อิอิ)