ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ขอไว้อาลัยให้คุณ Michelle Coutant ด้วยครับ

 

ทีมงานทุกคนสู้ๆน่ะครับ ^^

 

รายงานข่าวจาก Mead Nation

เรื่อง : วัตถุบิน ที่เห็นบนท้องฟ้าในกรุงลอนดอน
เมื่อวันศุกร์ที่ 24มิถุนายน 2011


มีวิดีโอหลายชุดถูกจับภาพจากมุมที่แตกต่างกัน แต่ก็ถูกกล่าวหาว่าวิดีโอนี้อาจเป็นเทคนิค
แต่ก็ยังไม่มีคำอธิบายถึงวิธีการที่วัตถุชนิดเดียวกัน ถ่ายทำจากมุมที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน

หนึ่งในวิดีโอที่ถูกจับที่อยู่นอกลอนดอน อาคารวิทยุบีบีซี 1
ในขณะที่อีกสองชุดบันทึกได้ใกล้กับสะพาน Tower Bridge

วิดีโอที่ถูกอัปโหลดใน YouTube
สร้างปฏิกิริยาจากผู้ชมจำนวนมาก และมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป
บรรดาผู้ที่ไม่เชื่อต่างก็บอกว่า "ดูไม่สมจริงเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Adob​​e After Effects
เป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างมีความสามารถในการผลิตสิ่งนี้ แม้กระทั่งสำหรับมือสมัครเล่น.."

ในขณะเดียวกันก็มีผู้ชมที่ดูเหมือนจะมั่นใจในวิดีโอชุดนี้
กล่าวว่า"เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนเชื่อว่ายูเอฟโอมีจริง จากเพียงภาพและวิดีโอเหล่านี้
แต่ทำไม? เกือบ 2 พันล้านคนเชื่อมั่นในพระเจ้าและพระเยซูที่ไม่เคยเห็นล่ะ .. มันน่าสับสนมั๊ย? "

เว็บไซต์ในเครือข่ายสังคมก็เช่นกัน ผู้ที่เชื่อมั่นในการดำรงอยู่ของยูเอฟโอก็เพิ่มทวีมากขึ้นเรื่อยๆ
จานบินของถูกพบในกรุงลอนดอน จึงสร้างกระแสนี้หลังจากที่พวกเขาได้เห็นวิดีโอบน Utube...
"หลายคนหาว่าฉันบ้าเมื่อฉันบอกว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง"

คนอื่นๆและผู้ใช้ทวิตเตอร์กับปรากฎการณ์ UFO
กล่าวว่า พวกเขาเป็นต่างดาวที่อายกล้อง?"

มีหลายคนที่ตั้งเป็นคำถามถึงปรากฏการณ์นี้
หนึ่งในคำถามพวกเขาคือ"ของจริงหรือของปลอม! "
กับจานบินของพบโดยคนหลายคนในกรุงลอนดอน (คุณคิดอย่างไร?)"


ตรวจสอบรูปถ่ายและวิดีโอทั้งหมดได้จากด้านล่างนี้ :


An image of UFO's taken over London's Tower Bridge on 6/24/2011. Credit: YouTube screenshot


Three fast-moving white dots seen in London. Credit: YouTube screenshot


A larger brighter disc-shaped white object. Credit: YouTube screenshot



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=QDIF-ZwJbF0&feature=player_embedded"]YouTube - ‪UFOs Over London Friday 2011‬‏[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wQmut0XtD3s&feature=player_embedded"]YouTube - ‪UFOs Over London Friday 2011 - UFO fleet over Tower Bridge London 6/24/2011‬‏[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=XtiylJCma9c&feature=player_embedded"]YouTube - ‪UFO's Near Tower Bridge London June 24, 2011 - Stunning UFO sightings 2011‬‏[/ame]

​

 

ชัดเจนเลยอะครับ ^^

 

มีอีกชุดนึง ในวันเดียวกัน ​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=xzoSPYnKkHo&NR=1"]YouTube - ‪UFOS - 24th June, 2011.‬‏[/ame]​

เมื่อวานพระอาจารย์รัตต์ ได้บอกคุณ Falkman ว่า
"ราวๆต้นปีหน้า เราจะเห็นกันเป็นว่าเล่น ใครๆก็จะบันทึกภาพได้
เค้าจะมาแสดงให้เราดูด้วยว่า มีเค้าอยูจริง"
เหล่านี้เป็นการสร้างความคุ้นเคยตามที่เค้าสื่อสารมาก็เป็นได้
กับการเผยความจริงที่รอการพิสูจน์...​

Sheldan Nidle ก็แจ้งข่าวมาครับว่า
มีปัญหาเกี่ยวกับทีมประสานงานภาคพื้นดินเล็กน้อย
ทำให้กระบวนการดีเลย์ออกไป ​

"disclosure is to happen sometime after the solstice"​

 

น่าตื่นเต้นมากเลยครับ ^^

 

ถูกใจ ประโยคนี้ ของคุณ Wimut

"ศาสนาพุทธ สอนให้ฝึก สติ เพื่อพิจารณาความไม่เที่ยงของชีวิต
ไม่ใช่สอนให้ (เอาชีวิต) ไปฝากกับพระเจ้า หรือมนุษย์ต่างดาวครับ

ผมติดตามอ่านมาตั้ง ๑-๒ ปีแล้ว จะดูว่าเมื่อไหร่มนุษย์ต่างดาวจะเผยตัวตน
ที่แท้จริงเสียที เลื่อนไปเลื่อนมาหลายครั้งหลายปีแล้ว
ผมอยากจะเชื่อผู้ที่มาสอนอย่างเปิดเผย ไม่ใช่แอบๆ ซ่อนๆ อย่างนี้เท่านั้น"

 

คำพูดประโยคนี้ ก็น่าถูกใจนะครับ

แต่ก็เชื่อใจว่าพระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่ได้ห้ามในการเรียนรู้ถึงที่มาหรือต้นกำเนิดของเราหรอกนะครับ ส่วนผู้ที่พูดถึงมนุษย์ต่างดาวและคิดว่าเป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก ก็อาจเคยไปเกิดอยู่ในห้วงจักรวาลอื่นๆกันมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติของจิตวิญญาณ ที่ไปอยู่ในมิติที่มีความหนาแน่นแตกต่างกันเท่านั้น ไม่ได้พิศดารไปกว่ามนุษย์-เทพ-พรหม ที่เรากราบไหว้บูชากันเลย เผลอๆอาจจะเป็นทั้งได้บรรพบุรุษและมนุษย์ในอนาคตของเราด้วยซ้ำ

และหากใครคิดว่า เรื่องพระเจ้าหรือต่างมิติอะไรเหล่านี้เป็นเรื่องไม่น่าสนก็แล้วแต่นะครับ เพราะจิตวิญญาณเราไม่เคยหยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ พลังงานใดๆก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มันเคลื่อนไหลไปมาบนสนามพลังงานได้ทุกขณะ จิตที่หยุดการเรียนรู้ อาจถูกครอบงำด้วยสนามพลังงานบางอย่างอยู่ก็ได้ ขอให้มองธรรมชาติอย่างเป็นสากล แล้วคุณจะสนุกกับวิวัฒนาการที่ก้าวไกลของจิตวิญญาณนะครับ

ส่วนเรื่องการเปิดเผยฯ first Contact ที่ยังมาไม่ถึงนั้น
ก็ไม่ได้หมายถึง มันจะไม่มีขึ้น แต่มันจะเป็น"เร็วๆนี้"หรือไม่?
ทุกท่านก็จะได้ประจักษ์ ถ้ายังไม่จากโลกไปซะก่อน
ทางเราก็พยายามนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์และเป็นสิ่งยืนยันข้อมูลต่างๆอยู่นะครับ
อย่าเพิ่งปฎิเสธ ในทันที ที่ได้รับรู้ ... นั่นคือ การมีสติ รู้สติ และใช้สติครับ
ทุกฉากกำลังดำเนินต่อไป เราเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น

หากคุณเป็นมนุษย์โลก ที่เลือกมาแล้วว่าต้องการวิวัฒน์ต่อไปในอนาคต
และไม่ต้องการติดแหง๊กอยู่ในมิติที่ 3 นี้เท่านั้น....โปรดจับตาดูการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ดึ


ขอบคุณครับ

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1546972/[/MUSIC]

 

คุณ Mead ได้ข้อมูลใหม่มาว่า พระพุทธเจ้าพบGod วันที่ท่านตรัสรู้
แต่Godไม้ให้สอนเรื่องGod เพื่อจะให้พระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่าง
ก็มีมูลนะว่า ข้อความที่บันทึกพระพุทธเจ้าว่ามีGodหรือพระวิญญาณสูงสุด
ที่ ดร.เทพนมบอกถูกเผาทำลายไปหมด

 

ครับ เรื่องนี้เอาไว้คุยหลังไมค์ดีกว่านะครับ
เขื่อว่าท่านต้องมี"คุรุ"อยู่แล้ว ท่านรู้ แต่เดี๋ยวไปกระทบความเชื่อใครเข้า..
เป็นไปได้ที่ว่า ข้อความบางส่วนจะถูกตัดออกไปหรือมีกล่าวถึงไว้อยู่แล้วครับ

เอาเรื่องใกล้ๆตัวก่อนดีกว่าครับ...
พอดีผมเพิ่งอ่านที่แมทธิว วาร์ดไปบางส่วน แม่เขาเขียนหนังสือไว้ตั้งแต่ปี 2003 (ซึ่งคุณชยุตกำลังแปลอยู่)
แมทธิวบอกว่า การที่เราทั้งหลายสามารถเข้าถึงและสัมผัสกับความรู้ได้นั้น
รวมทั้งการสื่อสารต่างมิติ ที่พวกเราอ่านกันอยู่นี้ด้วย...
แหล่งข้อมูลหลักๆนั้นได้มาจาก "ตัวตนรวม" ของเราที่เชื่อมต่อกับส่วนหลักอื่นๆนั่นเองครับ
เรียกง่ายๆก็คือจิตวิญญาณในเครือข่ายที่อยู่ในช่องสัญญาญเดียวกับเรา
ซึ่ง"ตัวตนรวม" นี่ก็มีที่มาที่ด้วยน่าสนใจด้วย จะขอนำมาเล่าให้ฟังนะครับ

เริ่มต้นที่ "จิตวิญญาณรากฐาน" (รุ่นแรกสุด) คือ เหล่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งแบ่งภาคออกมาจากพลังต้นกำเนิดโดยตรง ซึ่งมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ "พระผู้สร้าง"(The Creator ที่เป็นเหมือนเพลาล้อส่งพลังขับเคลื่อนทุกสรรพสิ่ง) "พระผู้สร้าง" ได้บัญชาและอนุญาติให้เหล่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทั้งหลายได้หารือกันเพื่อสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างขึ้นตามที่ใจปรารถนาได้ ซึ่งทั้งหมดได้พร้อมใจกันขอให้พลังงานต้นกำเนิดแบ่งให้ภาคออกมาเป็น GODS หรือ "พระเจ้า"เพื่อให้เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนต่อไป Gods จึงได้อุบัติขึ้นมา ณ.จุดนี้ ซึ่งก็มีคุณสมบัติเทีบบเท่าพระผู้สร้างทุกประการ ท่านก็เป็นผู้กำกับดูแลจักรวาลและสร้างสมดุลในแต่ละส่วนของเอกภพนี้ (ซึ่งมีหลายๆ GODS) จากนั้นท่านก็รวบรวม"แสงกระจาย"หรือการแบ่งคลื่นความถี่นี่แหละถ้าจำไม่ผิด เป็นคลื่นแสงที่มีอยู่ทั่วไปในเอกภพ มาสร้างเป็นจิตวิญญาณย่อยอีกมากมายที่เรียกว่า "ตัวตนรวม" ของเราอีกทีนึงน่ะครับ ประวัตินั้นยาวทีเดียว ขอเล่าย่อๆนะครับ

ทีนี้ "ตัวตนรวม" ของเราก็ปรึกษาหารือกัน และพร้อมใจกันแบ่งภาคออกมาเป็นประกาย อนุประกายต่างๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน โดยสร้างเงื่อนไขเพื่อเป็นกลไกสำหรับประสบการณ์ในทิศทางอันเป็นเอกลักษณ์ที่แสนจะสร้างสรรค์ แต่ละประกาย แต่ละอนุประกาย ก็อาสาลงมาเล่นบทบาทต่างๆ เป็นพ่อ-แม่ ลูก-หลาน หรือเพื่อนฝูง นัดหมายกันจูงกันลงมาเกิด ต่างสถานที่-ต่างเวลา-ต่างมิติ หลากหลายรูปแบบ ซึ่งยังเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับตัวตนรวมอื่นๆด้วย การสื่อสารรับ-ส่งข้อมูลต่างๆผ่านตัวตนรวมนี้ ก็เกิดขึ้นอยู่ตลอดทุกขณะ และมันมีผลกระทบกับจิตวิญญาณรวมทั้งหมด หากมีการกระทำใดเกิดขึ้น จิตวิญญาณพื้นฐานแล้วจะไม่รับรู้ว่าสิ่งนั้น คืออะไรหรือเป็นอย่างไร แต่จะรับรู้ถึงความเข้มข้นและคุณสมบัติของพลังงานนั้นๆเป็นหลักครับ...

แมทธิว บอกว่า บางอย่างเขาก็ไม่ได้รู้ไปหมด
แต่เขาสามารถสอบถามจิตวิญญาณอื่นๆได้ แทบจะทุกเรื่อง
แม้ว่า จิตวิญญาณของตัวตนรวมเดียวกันทั้งหลาย จะมีอิสระต่อกันก็จริง
แต่บางครั้งเขาก็ไม่สามารถติดต่อกันได้ทุกๆตัวตน หากระดับพลังงานไม่สอดคล้องกัน
บางคนเลือกที่จะห่างไกลจากแสงสว่าง หรือ มีความหนาแน่นจนเกินไป ก็เข้าไม่ถึง...

ตัวอย่างเช่น "ลูซิเฟอร์"ที่เมื่อได้รับอิสระความปรารถนาจากพระเจ้าแล้ว แต่กลับถอยห่างจากแสงสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ...โดยที่ประกาย และอนุประกาย ของลูซิเฟอร์เองก็ยังมีอิสระในทางเลือกของตนเอง ไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของลูซิเฟอร์ทั้งหมดด้วย ทุกๆจิตวิญญาณยังคงมีอิสระต่อกันในทางเลือกต่างๆเช่นเดิม

แมทธิว ยกตัวอย่างเรื่อง"ตัวตนรวม"ที่ให้เห็นภาพง่ายขึ้นแบบนี้ครับ
เขาบอกว่า ให้นึกถึงบ้านหลังหนึ่ง ทีมีเครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัด เช่น ทีวี ตู้เย็น พัดลม เครื่องปรับอากาศ คอมพิวเตอร์ โคมไฟ ฯลฯ
เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ ก็เหมือนจิตวิญญาณของเราแต่ละดวง ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทำหน้าที่แตกต่างกัน อาจไม่มีซ้ำแบบ เพื่อรักษาความสมดุลย์สำหรับการใช้งานทุกๆส่วนเอาไว้

เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดนี้ ล้วนต้องเสียบปลั๊ก และใช้กระแสไฟฟ้าชนิดเดียวกัน
และหากนำพลังงานอื่นๆอย่างแก๊ส หรือนำมันมาเชือ่มต่อ มันก็จะใช้ไม่ได้ผล...อะไรทำนองนี้ล่ะครับ

เอาไว้อ่านกันระหว่างรองานแปลนะครับ..

 

ทีมแปลหายไปไหนเอ่ย ^^

 

เป็นความเชื่อส่วนตัวนะคะ

ว่า ศาสดา หรือผู้นำทาง หรือองค์สิ่งศักดิ์สิทธิ ท่านมาแสดงต้นแบบ
หลายหนทาง หลายทางเลือก ท่านให้อิสระแก่ศรัทธาของมนุษย์
บางครั้งท่านก็มาแสดงสภาวะของภาคอวตาร เมื่อมนุษย์มีศรัทธาต่อความศักดิ์สิทธิ
ก็ปฏิบัติไปในแนวทางนี้ ท่านก็จะให้แนวทางที่กลับไปสู่ความบริสุทธิ

ผู้นำทางบางส่วน ก็นำทางอยู่ในมิติแห่งจิตวิญญาณ ให้แนวทางยกระดับจิตใจมนุษย์ให้สูงขึ้น ให้ความรู้ที่นำไปสู่ความบริสุทธิ

บางครั้งท่านก็มาแสดงภาวะของเอกบุรุษที่มาอยู่ใต้สภาวะของคนธรรมดา มี เกิดแก่เจ็บตาย แม้ท่านจะมีฤทธิ์เปลี่ยนแปลงได้ ท่านก็ไม่ใช้ฤทธิ เพื่อเป็นกำลังใจให้มนุษย์ธรรมดา
ที่มาอยู่ใต้แรงกดดันของเกิดแก่เจ็บตาย ท่านเป็นตัวอย่างที่ดำรงค์ความประเสริฐ ภายใต้โลกแห่ง โลภ โกรธ หลง (คิดไปทุกครั้งก็อดซาบซึ้งไม่ได้ว่า บารมีที่ท่านบำเพ็ญมาส่งให้ท่านเต็มเปี่ยมในความสุขล้นพ้นอย่างไรก็ได้ แต่ท่านกลับมาเวี่ยนว่ายอยู่เคียงข้างมนุษย์ มาเสวยทุกข์ อยู่เคียงข้างเรา ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ)

ผู้นำทางไม่ว่าจะเส้นทางไหน ท่านมาด้วยความบริสุทธิ ด้วยความรักเมตตา และดำรงค์อยู่ด้วยความประเสริฐทั้งสิ้น

หากมีใครนำคำสอนของแต่ละท่านมา มุ่งร้าย หักล้างกัน หรือมาบอกว่าดีที่สุดมีเพียงอย่างเดียว ถูกต้องที่สุดต้องมีเพียงหนึ่งเดียว เลือกได้อย่างเดียว นอกเหนือจากนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ใจจะไม่ค่อยยอมรับเลย ยิ่งหากใครยกพระคัมภีร์มากล่าวอ้าง ใจก็จะพาลคิดไปว่าคำกล่าวอ้างมิใช่ของพระศาสดาแต่เป็นมนุษย์ยกขึ้นมาอ้างเอง คำสอนที่ท่านวางไว้ให้หรือที่มีในพระคัมภีร์ ท่านมอบไว้ให้เพื่อพิจารณาไปสู่ความประเสริฐ แต่เราเองมักไปนำแนวทางของท่านมาใช้ตามใจเรา นำไปประกอบกับความไม่รู้ของเรา เป็นไปเพื่อทิฏฐิของผู้ใช้เอง และให้เราตกลงไปในกับดักของตัวเอง

ตัวเองยังไม่ได้มีความรู้ที่จะพิจาณาโต้แย้งว่าตรงไหนถูกต้องตรงทางหรอกค่ะ

ก็ดูแค่ว่า คำสอนไหนให้เรายกระดับจิตใจ ให้เรารวมความรักเข้ากันได้ (ซึ่งเราอาจจะยังทำไม่ได้ในตอนนี้) กับตรงไหน บีบหัวใจให้เราต้องเลือก ให้ต้องมีฝ่ายถูก มีฝ่ายผิด พิจารณาได้แค่นี้แหละค่ะ
แต่เชื่ออย่างที่สุดว่า พระศาสดาทุกพระองค์ท่านต้องอนุโมทนาต่อทุกหนทางที่ไปสู่ความดี และทรงเมตตาต่อผู้ที่ยังหลงทาง หลงตน หลงผิด โดยโลกนี้จะไม่สิ้นผู้นำทางที่ขันอาสาลงมาเป็นต้นแบบให้แก่มนุษย์ทุกชาติ ทุกวัฒนธรรม

ไม่จำเป็นต้องเป็นคนไทยเท่านั้น เป็นชาวพุทธเท่านั้น แต่เป็นมนุษย์ทั้งหมดต่างหาก

 

ขออนุโมทนาอย่างสุดซึ้งค่ะ คุณ ฐนา...
เป็นข้อความที่อ่านแล้วอิ่มเอมมากเลยค่ะ(rose)

...........................................................

นานมาแล้ว ที่เคยถามพี่นักเขียนถึงเรื่องการช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อผู้อื่น
ว่า...

การที่เราเห็นผู้อื่นกำลังเดินทางผิด หรือกำลังหลงทิศหลงทางอยู่
หากเราไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ มันจะเหมือนเราละเลย
ไม่เอื้อเฟื้อต่อจิตวิญญาณด้วยกันหรือไม่

พี่นักเขียนถามกลับมาว่า เรารู้ได้อย่างไรว่าผู้อื่นกำลังหลงผิด
หรือ เดินทางไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง
เราตัดสินจากมาตรฐานของตนเองใช่หรือไม่
เราจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงทางเลือกของผู้อื่น หรือ...?

เขาอาจเลือกเดินทางนี้ด้วยเหตุผลบางประการที่เราไม่อาจรู้ได้
ทุกเส้นทาง ทุกการเลือกคือการเรียนรู้
หากเราไม่เรียนรู้ที่จะผิด เราก็ไม่อาจรู้จักหนทางที่ถูกต้อง

การชี้นำ แนะแนว นำทางผู้อื่น จะทำได้ก็ต่อเมื่อถูกร้องขอ
หาไม่แล้ว นั่นเป็นการก้าวก่าย Freewill ของแต่ละจิตวิญญาณ
ผลที่ออกมาจะกลายเป็นการยัดเยียด โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้เลือก

บทเรียนต่างๆเราต้องเป็นผู้เรียนเอง ได้รับเอง มิใช่ผู้อื่น
การวิพากษ์ และตัดสินผู้อื่น ก็ถือว่าก้าวก่าย Freewill เช่นกัน
ยกเว้น เขาถาม...ก็บอกไป หากไม่ อย่าเชียว!!!

สิ่งที่พวกเรากำลังนำเสนออยู่นี้ พวกเราได้พานพบกับตนเองว่า
มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
พวกเราจึงเพียงนำสิ่งเหล่านี้ มาแบ่งปัน
และมิได้มีเจตนามายัดเยียด หรือเชื้อเชิญให้เชื่อแต่อย่าง
ใด

แต่หากทุกท่านเลือกมองให้เห็นประโยชน์จากบทความต่างๆเหล่านี้
ท่านเองต่างหากที่จะได้รับประโยชน์ หาใช่ผู้ใดอื่นเลย

ขอบขอบคุณทุกๆท่านที่คอยให้กำลังใจ และติดตามอ่าน
เราจะก้าวเดินไปพร้อมๆกันนะคะ ไม่มีการทิ้งระยะกันค่ะ(k)

 

(f)(f)(f)(deejai)(deejai)(deejai)

คูณฐนามีมุมมองที่เป็นบวกมากๆครับ
ต้นไม้ ลำธาร สายน้ำ สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีที่มา
แก่นแท้คือความรัก ความเมตตา และสติปัญญา
หาใช้ความแตกต่างระหว่างกันไม่...

ช่วงนี้รู้สึกว่าทีมแปลไม่ค่อยเข้ามาพูดคุยหน้ากระทู้เท่าไหร่แล้วล่ะครับ
อาจจะเป็นความละเอียดอ่อนเกี่ยวกับความเชื่อและความเข้าใจด้วย จึงเข้ากันมากันเท่าที่จำเป็น
คุณชยุตเองก็ฝากให้ผมมาช่วยดูแลกระทู้นี้ให้ในบางโอกาส
เพราะต้องไปทำข้อมูลในส่วนอื่นๆอีกเยอะน่ะครับ

ก็ขอขอบคุณสำหรับบทบาทของการเป็น"ผู้ให้"ของทีมแปลทุกๆคนด้วย
เข้าใจว่าการแปลข้อความนั้นต้องใช้ความอุตสาหะและเสียสละพอสมควร

ทีมแปลบางท่านก็ขอถอนตัวไปตามเหตุวาระที่เหมาะสม
บางท่านก็อาจรู้สึกเหนื่อยกับอะไรบางอย่าง...ต้องหยุดพักสักหน่อย
ส่วนผมเองอาทิตย์หน้าก็งานเข้า อาจจะไม่มีเวลาแปลเหมือนกัน
ส่วนใหญ่จะไปค้นหาข้อมูลอ่านเองนะครับ ที่ไม่ส่งผลกระทบอะไรออกไป

ดังนั้น...หากถึงเวลาที่เหมาะสม หรือมีเนื้อหาที่คัดสรรมาดีแล้วก็จะกลับมาให้อ่านกันนะครับ
ไม่ได้หายไปไหน...ผู้ที่ติดตามที่สนใจอ่าน
อยากรู้อะไรก็ตามไปอ่านภาคภาษาอังกฤษผ่านโปรแกรมแปลภาษาคร่าวๆไปก่อนได้ครับ (แต่อาจสับสนบ้างนิดหน่อย)
สงสัยตรงไหนก็ฝากคำถามไว้ก่อนก็ได้ครับ

 

ผมเคยช่วยร่วมแปล แค่กระพี้เดียว รู้สึกว่ามันยากลำบากเหลือเกิน กว่าจะแปลออกมาได้ ทีละบรรทัดๆ

จึงขอเข้ามาเป็นกำลังใจให้ทีมแปล ที่อุตสาหะ ทำด้วยความเสียสละ และไม่ได้อะไรเลยกับการต้องเจียดเวลามานั่งแปล แต่เชื่อว่า ทุกท่านกระทำด้วยความสุข ที่ปราถนาจะนำสิ่งดีๆ แง่คิดดีๆ ที่ให้ผู้มีปัญญา หยิบฉวยไปใช้ประโยชน์ได้

คำสอนของศาสดา ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน

หากผู้เข้าถึงเนื้อแท้ของศาสดาได้ จะสามารถเข้าใจหลักที่เป็นสากล ไม่แบ่งแยก และจะเข้าใจเนื้อแท้ของแต่ละศาสนาได้อย่างลึกซึ้ง

แต่ก่อน ผมเคยศึกษาวิชาบางอย่าง แล้วก็ยึดติดอย่างมากมาย มองถึงแนวทางอื่น ที่ขัดกับความเชื่อ ไม่ถูกต้องไปซะหมด นั่นไม่ใช่ว่าเพราะ แนวทางที่ผมศึกษาผิด หรือแนวทางอื่นผิด แต่เป็นเพราะความไม่เข้าใจของผมเองต่างหาก

ถ้ามองในมุมของมนุษย์ต่างดาว เราก็เป็นมนุษย์ต่างดาวเหมือนกัน

คำสอนหลักๆ ที่รับทราบ ก็คือ ความรัก

หากใครดำรงอยู่ในความรักได้จริงๆตลอดเวลา ผมเห็นว่า ท่านผู้นั้นเยี่ยมยอดมากๆนะ

เพราะถ้าเทียบกับตนเอง ยังห่างชั้นกับคำนี้อยู่มากมาย
ยังห่างชั้นกับความรู้อีกมากมาย

ยิ่งปฎิบัติมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกว่า เรารู้น้อยนิดกระจิดริ๊ดมากเท่านั้น
แต่ก็ยังหวังลึกๆว่า วันใดวันหนึ่ง จะเข้าใจถึงความจริงแก่นแท้ได้อย่างหมดเปลือก

และหากวันใดวันหนึ่งเข้าใจได้หมดสิ้นแล้ว หันกลับมาอ่านข้อความในเว๊ปนี้อีกครั้ง หรือหนังสือเล่มเดิมๆที่เคยอ่าน ความเข้าใจอาจจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้

ไม่ใช่ว่าเพราะข้อความมันเปลี่ยนไป แต่เพราะความเข้าใจ ความเชื่อ เราเปลี่ยนไปเองต่างหาก

 

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
แหม..โดนใจมากๆเลย
ขอ copy เอาไว้อ้างอิงในคราวหน้าหน่อยนะครับ

..........................

 

โพสต์นี้ก็สุดยอดครับคุณเดรด ผมเลยพลอยได้คำตอบไปด้วยว่า
ควรจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ดี

มันเป็นจริงอย่างที่พี่นักเขียนกล่าวมานี้เลยครับ
ว่าเราควรจะปล่อยให้คนอื่นเขา ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขา
ได้เลือกเอาไว้แล้ว ว่าจะมาเรียนรู้ ในภพชาตินี้บ้าง
ไม่ใช่ว่าจะคอยแต่จะไปชี้นำเขาว่า อันนั้นผิด อันนั้นถูก
อย่าไปทำ หรือห้ามทำ อะไรแบบนั้น

ก็ต่อเมื่อเขาขอความคิดเห็น หรือคำแนะนำ แล้วค่อยชี้ให้เขาเห็น

เออ..เป็น concept ที่ดีมากๆครับ ไม่เหนื่อยเราด้วยนะ

ปล. ขอ copy เอาไว้อ้างอิงอีกอันนะครับ

...........................................

 

wel lcome_mokey_Friend_

มนุษย์เกรย์ ดาวอังคารติดต่อ พระอาจารย์รัตน์ตั้งนานแล้วมากกว่า 10 ปีมาแล้วล่ะ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพระในเรื่องมนุษย์ต่างดาว เพราะว่าท่านจะสื้่อสารได้ทางจิต

สำหรับคนธรรมดาอย่างเรา การจะเปิดรับเพื่อนจากดาวดวงอื่น คงต้องค่อยๆทำให้เปิดใจทีละนิดๆ

 

I think so.

We are also alien man.

 

ข้อความการสื่อสารจาก SaLuSa
โดย Mike Quinsey
เมื่อ 24 มิถุนายน 2554

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/mike24-06-11.html



ตอนที่ 1



คุณอาจจะกำลังคาดคิดถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆมากมายที่ใกล้จะเกิดขึ้นได้
แต่มันก็เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องดำเนินชีวิตไปในแต่ละวัน
และรอจนกว่าจะได้รู้แน่ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่างๆนั้นคืออะไร

กระบวนการการเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามลำดับและสมเหตุสมผล
และชัดเจนว่าความร่วมมือของพวกคุณอย่างเต็มที่คือสิ่งจำเป็น
คุณควรรู้ไว้ว่าสิ่งต่างๆได้รับการวางแผนจากมุมมองที่ให้มันเกิดขึ้นได้อย่างสะดวกง่ายดายที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ที่จริงการเปลี่ยนแปลงต่างๆรวดเร็วพอที่จะทำให้คุณพึงพอใจได้แน่
และมันก็เป็นไปได้จริงเพราะได้รับการวางแผนอย่างระวังรอบคอบ

คำตอบของเรื่องราวทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องได้รับการตัดสินใจที่จะไว้ใจในสัญชาตญาณของคุณเอง
และจำเป็นต้องไม่ให้อัตตา(ego)ของคุณทำให้ตัวเองไขว้เขว

อัตตา(ego)ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
แต่ก็บ่อยครั้งที่มันเป็น “ความเห็นแก่ตัว” และใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง

หวังว่าพวกคุณหลายๆคนที่อยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณแล้ว
จะเคยชินกับการยกระดับความคิดของตนเองให้สูงขึ้นเรื่อยๆ



ในขณะที่คุณได้เพิ่มความสั่นสะเทือนของคุณเองให้สูงขึ้น ทัศนะต่อชีวิตของคุณก็เปลี่ยนไป
และความคิดกับการกระทำของคุณก็สะท้อนให้เห็นถึงขอบเขตแสงสว่างที่คุณก้าวไป

คุณจะพบว่าตัวเองจะค่อยๆห่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นจากลักษณะความคิดจิตใจแบบเก่า(the old mindset)
มันไม่ได้ให้ความพึงพอใจกับคุณในแบบเดิมหรือดึงดูดสิ่งเดิมๆอีกต่อไป
มันสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการเลือกของคุณ ในเรื่องของบทเพลง,การอ่านหรือหัวข้อที่น่าสนใจทั่วๆไปได้

ที่สำคัญส่วนใหญ่เลยคุณจะมองหาเพื่อนที่มีอะไรเหมือนๆกันกับคุณ
ซึ่งปกติแล้วเมื่อคุณพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นๆ
คุณก็ต้องการสนทนาถกเถียงกันถึงความเชื่อของคุณกับผู้คนที่มีความคิดจิตใจคล้ายคลึงกัน
คุณอาจจะแตกต่างจากผู้คนส่วนใหญ่ แต่คุณก็เป็นปกติเท่ากับคนอื่นๆอย่างแน่นอน

กฎทอง(The Golden Rule) คือ อย่าบังคับยัดเยียดความเห็นหรือความรู้ของคุณให้กับผู้อื่น
และให้รอคอยให้พวกเขาเข้าหาคุณเมื่อพวกเขาพร้อมแทน



ตามที่เราได้กล่าวไว้เมื่อเร็วๆนี้ว่า อีกไม่นานบรรดา Lightworkers
จะถูกเรียกหาให้มาร่วมแสดงความรู้ของพวกเขา
ซึ่งเมื่อความจริงเริ่มเป็นที่เข้าใจ มันจะเป็นผลให้เกิดความปรารถนาที่จะรู้มากขึ้น
และพวกเราก็สร้างภาพนิมิตศูนย์ความรู้เปิดให้ค้นหาข้อมูลได้

โดยธรรมชาติแล้วสิ่งมีชีวิตขั้นสูงจะแสดงตัวออกมาพร้อมกับความรู้ของพวกเขา
และคุณก็จะมีบรรดาคุรุจำนวนหนึ่งมานำพากลุ่มต่างๆที่จะเกิดขึ้น

ในขณะนี้ก็มีเหล่าผู้คนจำนวนมากที่เรียกร้องว่าตนเองพบความจริง
แต่ความจริงนั้นกระจัดกระจายเกินไปและไม่น่าเชื่อถือเพียงพอที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์

ถ้ามันกำลังจะได้รับการยอมรับ ความจริงก็ต้องปรากฏถึงทุกคนอย่างทัดเทียมกัน
และน่าเชื่อถืออย่างเพียงพอต่อการตรวจสอบพิจารณาอย่างละเอียดใกล้ชิดจากการต่อต้าน

ด้วยการสนับสนุนของพวกเรา
เราเชื่อว่ามันจะเกิด “วงแหวนแห่งความจริง(ring of truth)” ขึ้น
และพวกเราก็สามารถสนับสนุนมันได้ด้วยการพิสูจน์ที่สมบูรณ์แน่นอนหากจำเป็น



คุณจะเข้าใจว่าการเปิดเผยข้อมูลความจริงนั้นสำคัญจนขาดไปไม่ได้เลย
และจะเข้าสู่เส้นทางข้อมูลของคุณโดยรวดเร็วอย่างเต็มที่
และมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ดำเนินไปข้างหน้าพร้อมกับเส้นทางข้อมูล
แต่อย่างอื่นก็เป็นผลกระทบทางอ้อมที่จะเกิดตามมา

ประตูจะเปิดกว้างและวันเดือนปีแห่งการปิดบังจะถูกเปิดเผยออกมา
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่รัฐบาลของพวกคุณแอบใช้พวกคุณเป็นเบี้ยบนกระดานในสงครามที่ทำให้ดาวโลกของคุณเสียหาย

พวกคุณถูกกดขี่ให้อยู่ใต้อำนาจและทำให้ไม่มีโอกาสพัฒนาและได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าต่างๆ
ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกคุณดีขึ้นอย่างมหาศาล

ถึงกระนั้น ทันทีที่พวกเราสามารถพบปะรวมตัวกันได้ทั้งหมดและเตรียมพร้อมสำหรับการเลื่อนระดับ
คุณจะได้รับการยกระดับขึ้นจากสภาพต่างๆที่เกิดโดยระบอบเก่าทีละน้อยๆ




..................