พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน พี่..........

    ผมเตรียมพิมพ์ัจันทร์เพ็ญ(ที่พี่เรียกจันทร์ลอย)ไว้ให้แล้วครับ รุ่นนี้ มี 2 พิมพ์

    เตรียมชุดกรุวังหน้าอยุธยาไว้ให้แล้วด้วย

    <table class="tborder" id="post4799326" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_4799326" style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สำหรับพระวังหน้า(อยุธยา) และ พระวังหน้า(รัตนโกสินทร์) จำนวน 546 องค์ ที่ผมและคณะ จะมอบให้กับทหารผู้ปฎิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยทางภาคใต้ ผมได้นำกลับมาแล้วหลังจากที่นำไปให้ร้านใส่กรอบสเตนเลสให้ หลังจากนี้ ผมและคณะจะดำเนินการเจาะรูที่กรอบ(พลาสติก) ,ใส่ห่วงและแหนบให้เรียบร้อย กำหนด(ในใจ)ว่า จะดำเนินการให้เสร็จก่อนวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2554 (วันทอดผ้าป่าสามัคคีศรีชัยผาผึ้ง) เพื่อผมและคณะจะได้นำไปถวายพระอาจารย์นิล (ผมจะขอความเมตตาจากพระอาจารย์นิล ลงไปแจกทหารผู้ปฎิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ให้เรียบร้อย

    เมื่อวานนี้ ผมคุยกับพี่สิทธิพร ในเรื่องของการเจาะรู ผมคงฝากไปประมาณ 446 องค์ครับ ส่วนอีก 100 องค์ ตั้งใจว่า จะร่วมทำกันกับคุณ Pinkcivil จะได้ทำกับมือของตนเอง

    สำหรับพระพิมพ์(กรุวังหน้าอยุธยา) มีจำนวน 339 องค์ (มีทั้งหมด 3 พิมพ์) ส่วนพระพิมพ์(กรุวังหน้ารัตนโกสินทร์) มีจำนวน 207 องค์

    ขอกราบขอบพระคุณคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร , องค์ผู้อธิษฐานจิตทุกๆพระองค์ , พี่ใหญ่ ที่ได้มีเมตตาในงานบุญนี้

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ที่มีส่วนในงานบุญนี้ครับ

    ส่วนท่านเจ้าภาพ ผมเตรียมมอบชุดพระกรุวังหน้าอยุธยาไว้ให้ท่านแล้ว น่าจะไม่น้อยกว่า 5 พิมพ์ (ส่วน 3 พิมพ์ ผมเตรียมไว้ให้ท่าน พิมพ์ละ 3 องค์)

    สำหรับท่านผู้ร่วมทำบุญ ผมก็ได้เตรียมมอบพระกรุวังหน้าอยุธยา จำนวน 3 องค์(3 พิมพ์)

    โมทนาบุญทุกประการ
    .
    </td></tr></tbody></table>

    </td></tr><tr><td class="alt2" style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">
    </td></tr></tbody></table>


    ผมคงต้องรบกวน คุณหนิง

    คงต้องให้ไปทั้งหมดครับ

    ผมจะได้ใช้เวลาไปเขียนแผ่นทองเหลือง (สำหรับการบรรจุพระวังหน้าและพระวังหลวง ลงกล่องสเตนเลส(ขนาดใหญ่) เพราะว่า จะได้นำไปมอบให้กับพี่เปี๊ยก , คุณณฑนน และพี่สิทธิพร เพื่อบรรจุตามพระเจดีย์หรือฐานชุกชีในสถานที่ต่างๆครับ

    ผมต้องเขียนแผ่นทองเหลือง น่าจะไม่น้อยกว่า 70 แผ่นครับ

    ขอบคุณ คุณหนิง และ ลูกน้องคุณหนิงด้วยครับ


    .----------------------------------------------------


    เรียนพี่สิทธิพรและคุณหนิง

    ผมเตรียมชุดกรุวังหน้าอยุธยาให้พี่สิทธิพรแล้ว ส่วนคุณหนิง ผมเตรียมพระสมเด็จหลังเบี้ย (รุ่นนี้ หลวงปู่อ้น วัดบางจาก ท่านให้สร้าง และ ท่านเป็นลูกศิษย์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ไว้ให้แล้วเช่นกัน พระสมเด็จหลังเบี้ยรุ่นนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต และผมฝากให้พี่สิทธิพร ขอพระเมตตาพระอาจารย์รูปหนึ่ง อาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรอธิษฐานจิตเพิ่มเติม ผมฝากให้กับผู้ที่ช่วยเจาะรูกรอบ(พระที่จะมอบให้ทหารภาคใต้) ผมให้ไป 20 องค์ครับ


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    การไหว้ 5 ครั้ง ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถระ )

    ไหว้ 5 ครั้ง
    ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
    ( เจริญ ญาณวรเถระ )
    วัดเทพศิรินทราวาส


    [​IMG]



    คัดลอกจาก http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html


    คัดลอกจาก http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html


    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาไร ตามแต่เหมาะต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวนั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ


    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประณมมือว่า

    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ 3 หน

    แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ ฯ

    หยุด ระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตามของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ


    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ

    สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโน สนฺทิฆฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ

    หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ


    ครั้งที่ 3 ว่าพระสังฆคุณ คือ
    สุ ปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโยทกฺขิเนยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติฯ

    หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    นั่งพับเพียบประณมมือตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ
    พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบลงหน 1 ฯ

    ข้า ฯ ขอ กราบไหว้คุณท่านบิดาและมารดา

    เลี้ยงลูกเฝ้ารักษา แต่คลอดมาจึงเป็นคน

    แสนยากลำบากกายไป่คิดยากลำบากตน

    ในใจให้กังวลอยู่ด้วยลูกทุกเวลา

    ยามกินพอลูกร้องก็ต้องวางวิ่งมาหา

    ยามนอนห่อนเต็มตาพอลูกร้องก็ต้องดู

    กลัวเรือดยุงไรมดจะกวนกัดรีบอุ้มชู

    อดกินอดนอนสู้ ทนลำบากหนักไม่เบา

    คุณพ่อแม่มากนักเปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา

    แผ่นดินทั้งหมดเอามาเปรียบคุณไม่เท่าทัน

    เหลือที่ จะแทนคุณ ของท่านนั้น ใหญ่อนันต์

    เว้นไว้ แต่เรียนธรรม์ เอามาสอนพอผ่อนคุณ

    สอนธรรมที่จริงให้ รู้ไม่เที่ยงไว้เป็นทุน

    แล้วจึงแสดงคุณ ให้เห็นจริงตามธรรมดา

    นั่นแหละจึงนับได้ ว่าสนองซึ่งคุณา

    ใช้ค่าข้าวป้อนมาและน้ำนมที่กลืนกิน ฯ


    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผุ้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์และครูบาอาจารย์ เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ข้า ฯ ขอนอบน้อมคุณแด่ท่านครู ผู้อารี
    กรุณาและปรานีอุตส่าห์สอนทุก ๆ วัน
    ยังไม่รู้ ก็ได้รู้ ส่วนของครูสอนทั้งนั้น
    เนื้อความทุกสิ่งสรรพ์ดีชั่วชี้ ให้ชัดเจน
    จิตมากด้วยเอ็นดูอยากให้รู้เหมือนแกล้งเกณฑ์
    รักไม่ลำเอียงเอนหวังให้แหลมฉลาดคม
    เดิมมืดไม่รู้แน่เหมือนเข้าถ้ำเที่ยวคลำงม
    สงสัยและเซอะซมกลับสว่างแลเห็นจริง
    คุณส่วนนี้ควรไหว้ ยกขึ้นไว้ ในที่ยิ่ง
    เพราะเราพึ่งท่านจริงจึงได้รู้ วิชาชาญ ฯ

    (บท ประพันธ์สรรเสริญคุณมารดาบิดา และ ครูบาอาจารย์ของ ท่านอาจารย์ จางวางอยู่ เหล่าวัตร วัดเทพศิรินทราวาส ลิขสิทธิ์เป็นของ ท่านเจ้าคุณพระโศภนศีลคุณ (หลวงปู่หลุย พาหิยาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส)

    ต่อ ไปนี้ไม่ต้องประณมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่อง และร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้งพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณมีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือพระมหากษัตริย์ ทั้งเทพยดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ


    การ ไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และ ตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มขั้นของตน ๆ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ






    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญญาณวรเถระ )

    http://72.14.235.104/search?q=cache:...h&ct=clnk&cd=7


    [​IMG]

    สมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ นามเดิม เจริญ สุขบท เกิดในรัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2415 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรนาย ทองสุก และนางย่าง

    เมื่ออายุ 8 ปี ได้เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณชลโธปมคุณมุณี (พุฒ ปุณณกเร) ปฐมวัยอาวาสวัดเขาบางทราย เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาที่วัดเขาบางทราย

    และเข้าศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดราชบพิธอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2435 ที่วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2439 ได้ศึกษาพระวินัยปิฎกในสำนัก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่วัดเทพศิรินทราวาส

    "ตาบุญ (พระยาธรรมปรีชา) ผู้เป็นอาจารย์สอนบาลีของ
    เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มอบช้างเผือกส่งเข้ามาให้ "


    สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยา วชิรญาณวโรรส ออกพระโอษฐ์รับสั่งเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร) สอบไล่ภาษาบาลี ในมหามงกุฎราชวิทยาลัยได้ที่ 1ทุกชั้นเป็นลำดับมา

    พ.ศ.2441 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระราชาคณะที่พระอัมราภิลักขิต เป็นผู้อำนวยการศึกษามณฑลปราจีนบุรี ต่อมาได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสได้เลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา พ.ศ.2471 โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

    พ.ศ.2476กรรมการเถรสมาคมมีมติให้ท่าน เป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระสังฆราชเจ้าซึ่งสิ้นพระชนม์ ประมวลเกียรติคุณพิเศษสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร)เป็นพระเถระบริหารงานพระศาสนาถึง 5 แผ่นดิน คือแต่รัชกาลที่ 5-9 เป็นพระราชาคณะแต่อายุ 28 ปี เป็นสมเด็จพระราชาคณะแต่อายุ 57 ปี นับเป็นพระเถระที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พรรษาน้อยกว่า พระเถระหลายรูปเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่อายุ 28 ปี ถึง 80 ปีรวม 53 ปี นับว่ายาวนานที่สุดไม่มีใครเทียบได้
    เมื่อสอบนักธรรม หรือบาลีจะสอบได้ที่ 1 ทุกชั้นทุกประโยคเป็นรูปเดียวในสังฆมณฑล ดำรงตำแหน่งแม่กองธรรมสนามหลวง แม่กองบาลีสนามหลวง องค์เดียวกัน

    ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2494เวลา 10.30 น. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเระ)มรณภาพด้วยโรคเนื้องอกที่ตับรวมอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 59

    ความคิดเห็นส่วนตัวผม

    ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถระ) ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) ท่านบอก กับผู้ที่ไปกราบท่านว่า ขอให้ทุกๆวันได้ไหว้ 5 ครั้ง จะได้เป็นศิริมงคลกับตนเอง จะเหมือนกับชื่อของท่าน (เจริญ) ครับ ท่านเจ้าคุณนรเอง ก็มีความเคารพในท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)มาก โดยท่านเจ้าคุณนรเอง เวลาเดินผ่านกุฎิของท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ)ทุกครั้ง ท่านเจ้าคุณนร ก็จะก้มลงกราบที่กุฎิอยู่ทุกครั้งครับ


    วันที่ 14 สิงหาคม 2550
    ขอเพิ่มเติมเรื่องราว ไหว้ 5 ครั้ง
    http://www.saktalingchan.com/index.p...icle&Id=262016

    [​IMG]




    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร

    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร
    วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร

    1. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงนี้ เมื่อพระคุณท่านมีอายุเพียง 27 ปี มีพรรษา 7 ยั่งยืนตลอดมาเป็นเวลาช้านานถึง 53 ปีฯ

    2. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ นั้นมีอายุเพียง 56 ปี เท่านั้น ฯ

    3. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งธรรมเนียมการเทศนาธรรมในวันอาทิตย์ขึ้นเป็นแห่งแรก เริ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2471 ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลา 45 ปี ล่วงแล้ว ฯ

    4. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระองค์สมเด็จพระ สังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ แลบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรงสืบต่อมาเป็นเวลา 5 ปี ( ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 ถึง พ.ศ. 2481 ) ฯ

    5. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้ถวายพระธรรมเทศนามงคลวิเสสกถาติดต่อกันถึง 4 รัชกาล คือตั้งแต่รัชกาลที่ 6-7-8-9 เป็นเวลาถึง 25 ปี ฯ

    6. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ มีสัทธิวิหาริก-อันเตวาสิก มากที่สุดถึง 6,666 องค์ ฯ

    7. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นต้นกำเนิดตำราไหว้ 5 ครั้งให้ศิษยานุศิษย์ปฏิบัติตาม หากผู้ใดไหว้ครบ 1 ปี เป็นกำหนด ผู้นั้นจักได้รับรูปที่ระลึกจากองค์ท่านด้านหน้าเป็นรูปองค์ท่าน ด้านหลังเป็นรูปยันต์ภควัม จากกรึกนามองค์ท่านเป็นอักษรย่อ โดยลำดับแห่งราชทินนามนั้น ๆ กระทั่งครั้งสุดท้ายได้จารึก 3 อักษรว่า พ.ฆ.อ. ซึ่งย่อจากราชทินนามว่า พุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระราชาคณะ ฯ

    8. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่มีอายุยืนยาวที่สุด คือ ท่านเจ้าคุณพระโศภณศีลคุณ ( หลวงปู่หลุย พาหิยเถร ) ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 23 ปัจจุบันอายุ 92 ปี พรรษา 67 ( เกิด 9 สิงหาคม 2426 ) ยังเดินลงโบสถ์ลงสวดมนต์ทำวัตรได้เป็นประจำทุก ๆ วัน เป็นพระเถราจารย์องค์สำคัญ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือยิ่งของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ

    9. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่ประพฤติปฏิบัติยอดเยี่ยม และเป็นพระเถระองค์สำคัญที่มีเกียรติคุณโด่งดังในปัจจุบัน คือ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ ธมมฺวิตกฺโก ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 1740 ฯ

    ปัจฉิมโอวาท
    ของ

    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรมหาเถระ
    วัดเทพศิรินทราวาส

    ไม่ตายควาวนี้ ก็ตายคราวหน้า อย่างเศร้าโศก เสียทีที่ศึกษาปฏิบัติมา ร้องให้เศร้าโศก ก็ร้องไห้เสร้าโศกสังขารที่
    เกิดแก่เจ็บตายนั้นเอง ที่ไม่ร้องไห้เศร้าโศกนั้นมิใช่จะเป็นคนใจไม้ใส้ระกำอะไร

    ธรรมของพระก็คือ
    สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา
    ย่นลงก็ สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา แล้วปรินิพพาน
    ไม่ต้องเกิดมาแก่ มาเจ็บ มาตายอีก

    (มีบัญชาให้บันทึกไว้เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๙๔)






    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ คุณแด๋นได้ร่วมทำบุญ ผ้าป่าสามัคคีศรีชัยผาผึ้ง และร่วมทำบุญในการมอบพระกรุวังหน้าอยุธยา และ พระกรุวังหน้ารัตนโกสินทร์ให้กับ ตชด.และทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ผมก็ได้ร่วมทำบุญ 500 บาทร่วมกับคุณแด๋น ในการสร้างพระพุทธรูป สมเด็จองค์ปฐม (เพื่อชำระหนี้สงฆ์)

    มาร่วมโมทนาบุญกับคุณแด๋นและผมกันครับ

    โมทนาบุญกับคุณแด๋นทุกประการครับ

    หมายเหตุ คุณแด๋นก็เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันมากๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมพระวังหน้า ผมรู้จักคุณแด๋น ตั้งแต่ผมเข้ามาในเว็บพลังจิตในช่วงแรกๆ จนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันเสมอมา

    ผมเองมีกัลยาณมิตร พอสมควรครับสำหรับการรู้จักกันในเว็บพลังจิต ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ขนาดนี้ครับ

    หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนจริงๆ


    .
     
  5. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีวันพฤหัส ครับทุกท่าน
     
  6. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    วิธีเก็บทุเรียนที่ทานไม่หมด

    วันพฤหัสบดี ที่ 23 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    แนะนำวิธีการเก็บรักษาทุเรียนที่ทานไม่หมดให้เก็บไว้ทานได้นาน โดยที่สภาพเนื้อและรสชาติไม่เปลี่ยน แถมกลิ่นไม่รบกวน

    'ทุเรียน' ผลไม้ขึ้นชื่อของไทยชนิดหนึ่ง นอกจากมีกลิ่นแรงแล้วยังเป็นผลไม้ที่ทานไม่ได้มากนักในคราวเดียว ทำให้ยากลำบากต่อการเก็บไว้ทานครั้งหน้า วันนี้จึงขอแนะนำวิธีเก็บรักษาทุเรียนที่ทานไม่หมดให้เก็บไว้ทานได้นานมาฝาก

    วิธีแรกให้ผ่าครึ่ง เลือกครึ่งที่คิดว่ากินไม่หมด ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ทั้งเปลือก โดยไม่ต้องแกะเนื้อออก แล้วนำไปใส่ถุงพลาสติกอีกชั้น ก่อนนำไปแช่ตู้เย็น เพื่อป้องกันกลิ่นทุเรียนไปรบกวนอาหารอื่นในช่องความเย็นปกติ วิธีนี้จะทำให้รสชาติและสภาพเนื้อของทุเรียนไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก จะเก็บไว้ได้นานสูงสุดถึง 1 เดือน

    ส่วนทุเรียนที่แกะออกจากเปลือกแล้ว เมื่อทานไม่หมดให้ห่อด้วยกระดาษทิชชู่เพื่อซับเนื้อทุเรียนให้แห้งตลอดเวลา ช่วงแรก ๆ อาจต้องเปลี่ยนกระดาษทุกวันไปก่อน แต่เมื่อเนื้อทุเรียนเริ่มแห้งแล้วสองสามวันค่อยเปลี่ยนครั้งก็ได้ วิธีนี้นอกจากจะทำให้เก็บไว้ได้นานแล้ว รสชาติทุเรียนก็จะไม่เปลี่ยนเช่นกัน หากคอยดูไม่ให้ได้รับความชื้นแล้ว ก็สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน

    แต่ถ้ากลัวเปลืองกระดาษทิชชู่ ให้ใช้กระดาษโรเนียว (ที่ยังไม่ได้ใช้งาน) หรือกระดาษเช็ดมือแบบม้วนซับน้ำอเนกประสงค์แผ่นใหญ่ประมาณ 2-3 แผ่น วางรองไว้ที่ก้นกล่องพลาสติกที่จะไว้ใช้เก็บเนื้อทุเรียน แล้วห่อทุเรียนแต่ละเม็ดด้วยพลาสติกใสสำหรับห่ออาหาร แล้ววางเรียงลงในกล่อง ก่อนวางเรียงซ้อนทุกชั้น ให้ใช้กระดาษโรเนียววางรองก่อน ทำแบบนี้ทุกชั้นไป ป้องกันการกดทับ และเมื่อวางเรียงหมดแล้ว ให้ปิดทับด้วยกระดาษโรเนียวอีกครั้งหนึ่งก่อนปิดฝา กระดาษจะกั้นไม่ให้น้ำจากฝาพลาสติกหยดลงใส่ทุเรียน ก่อนนำเข้าตู้เย็น เมื่อเก็บให้ห่างจากความชื้นได้เช่นนี้แล้ว ก็สามารถเก็บทุเรียนไว้รับประทานได้นานโดยไม่เน่าเสีย.





    ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์
     
  7. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดีครับพี่ท่าน
     
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โมทนาสาธุทุกประการครับผม
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานผ้าป่าสามัคคีศรีชัยผาผึ้ง

    เพื่อติดตั้งไฟส่องสว่างจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยรอบพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    และกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

    กำหนดการ

    วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2554

    ณ ศาลาข้างกุฎิ 7 วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน กรุงเทพฯ

    [​IMG] [​IMG]


    สำหรับพระสมเด็จ Tott 1 และ พระสมเด็จ Tott 4 หากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญและรับพระ ให้ไปร่วมทำบุญในงานเท่านั้น

    ผมไม่ส่งให้ทางไปรษณีย์ครับ

    [​IMG]


    <!-- google_ad_section_end -->

    การร่วมทำบุญเืพื่อรับพระวังหน้าในกระทู้พระวังหน้าฯและกระทู้ที่sithiphong ได้ตั้งขึ้นเพื่องานบุญทุกๆงาน

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ พระ พิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วง การซื้อ-ขายพระ) ได้ หากท่านต้องการพระพิมพ์(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทย (วงการซื้อ-ขายพระ) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป

    แต่ พระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า โดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 หรือ พระที่สร้างขึ้นที่วังหลวง นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ปี พ.ศ.2429-2434

    แต่ หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่ง เรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ระสัวกันหน่อยนะครัยอากาศเปลี่ยนแปลงครับ ฝนตกบ่อยครับ ใครขับรถก็ระวังหน่อยนะครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านพี่ ที่คุยกับผมเมื่อวานนี้ และ วันนี้นำเงินจำนวน 1,000 บาท มาให้ผมเพื่อให้ผมโอนเงินร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคีศรีชัยผาผึ้ง

    ผมได้ดำเนินการโอนเงินทำบุญให้เรียบร้อยแล้ว

    ขอโมทนาบุญทุกประการ

    ส่วนพระวังหน้า ผมจะเตรียมไว้ให้พี่ครับ

    .
     
  12. rak-dee001

    rak-dee001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +482
    [URL="http://palungjit.org/posts/4804357[/SIZE][/URL]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มิถุนายน 2011
  13. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ

    วันอังคาร ที่ 21 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    หลังจากสิ้นสุดการทำงานหรือการเรียนในแต่ละวัน หลายท่านอาจเคยรู้สึกว่าสมองอ่อนล้า มาช่วยกันคลายเครียดให้สมองด้วยท่าบริหารง่าย ๆ กันเถอะ

    การบริหารสมอง หมายถึง การบริหารร่างกายในส่วนที่สมองควบคุมโดยเฉพาะกลุ่มเส้นประสาทที่เชื่อมสมอง 2 ซีกเข้าด้วยกัน เพื่อให้สมองแข็งแรง ทำงานได้คล่องแคล่ว และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนรู้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความผ่อนคลายให้สมอง จากการทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน โดยวิธีทำก็ไม่ยาก แค่ปฏิบัติตามดังต่อไปนี้

    - การบริหารปุ่มสมอง เริ่มด้วยการใช้มือข้างหนึ่งวางบริเวณไหปลาร้า ซึ่งจะมีหลุมตื้น ๆ อยู่ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ คลำหาร่องหลุมนี้ซึ่งกว้างประมาณ 1 นิ้วหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับขนาดร่างกายของแต่ละคน แล้วนวดประมาณ 30 วินาที และขณะเดียวกันให้เอามืออีกข้างที่ว่างวางไปที่ตำแหน่งสะดือ ในขณะที่นวดปุ่มสมองนี้ ก็ให้กวาดตามองจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายและจากพื้นขึ้นเพดาน ประโยชน์ของการทำท่านี้ จะช่วยในการกระตุ้นระบบประสาทและเส้นเลือดให้ไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ระบบการสื่อสารระหว่างสมอง 2 ซีกที่เกี่ยวกับการพูด อ่าน เขียน มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    - ท่าต่อไปเป็นการนวดปุ่มขมับ ให้ใช้นิ้วทั้งสองข้างนวดบริเวณขมับเบา ๆ โดยการวนเป็นวงกลมประมาณ 30-60 วินาที แล้วกวาดตามองจากซ้ายไปขวา และจากพื้นมองขึ้นไปบนเพดาน โดยการบริหารท่านี้ จะกระตุ้นระบบประสาทและเส้นเลือดส่วนที่ไปเลี้ยงสมองที่มีหน้าที่ในการมองเห็นให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังทำให้สมองทั้งสองซีกทำงานสมดุลกัน

    - ส่วนท่าบริหารสมองที่ช่วยในการได้ยิน ก็คือการบริหารปุ่มใบหู วิธีทำคือใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จับที่ส่วนบนสุดบริเวณด้านนอกของใบหูทั้ง 2 ข้าง แล้วนวดตามริมขอบเบา ๆ ไล่ลงมาจนถึงติ่งหู ทำซ้ำกันหลาย ๆ ครั้ง แนะนำให้ทำท่านี้ก่อนที่จะอ่านหนังสือ เพราะจะช่วยในเรื่องการเพิ่มความจำและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำแบบนี้จะไปกระตุ้นเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงสมองส่วนการได้ยินและความจำระยะสั้น รวมถึงการฟังที่เป็นจังหวะใด้ใช้งานได้ดีขึ้น.





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  14. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 18:16 น. ข่าวสดออนไลน์


    เปิดตัวภาพแสตมป์เฉลิมพระเกียรติในหลวง 7 รอบ 7 เหลี่ยม

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ห้องโถงชั้น 2 อาคารห้องประชุม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ถ.แจ้งวัฒนะ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แถลงข่าวการจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา “สัตมหามงคล ภูมิพลมหาราชา” เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ภายในงานได้บอกเล่าที่มาและเปิดตัวร่างภาพแสตมป์ที่ระลึก พร้อมจัดแสดงเหรียญกษาปณ์ต้นแบบ โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เป็นประธานแถลงข่าว

    น.ส.อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2554 อันเป็นปีมหามงคลที่พสกนิกรไทยทั้งปวงต่างปลื้มปีติยินดี ไปรษณีย์ไทยดำเนินการจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกเนื่องในโอกาสมหามงคลดังกล่าว จำนวน 3 ชุด ภายใต้แนวคิด “สัตมหามงคล ภูมิพลมหาราชา” โดยเป็นการนำตัวเลข 7 ซึ่งตรงกับมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ มาเป็นจุดเด่นในการออกแบบ ความพิเศษของตราไปรษณียากรทั้ง 3 ชุด อยู่ที่การจัดพิมพ์เป็นรูป 7 เหลี่ยม นับเป็นครั้งแรกของโลก

    แสตมป์ชุดที่ 1 ชื่อชุด “พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน” เป็นภาพเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จัดสร้างขึ้นเนื่องในวาระต่างๆ เสมือนหนึ่งเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของพระชนมพรรษาที่ทรงเจริญยิ่งยืนนาน นับตั้งแต่ต้นรัชกาลจวบจนปัจจุบัน จำนวน 7 แบบ พิมพ์แบบละ 1 ล้านดวง แสตมป์ชุดที่ 2 ชื่อชุด “พระเกียรติคุณ แผ่ไพศาลทั่วสากล” ความพิเศษอยู่ที่เป็นครั้งแรกที่มีสัญลักษณ์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระพักตร์ข้าง และเป็นการนำภาพเหรียญและรางวัลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายจากองค์กรระหว่างประเทศในด้านต่างๆ มาเป็นแบบ เพื่อเเผยแพร่พระเกียรติคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันยังประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชน จำนวน 7 แบบ พิมพ์คละแบบจำนวน 7 แสนชุด


    ส่วนแสตมป์ชุดที่ 3 ชื่อชุด “น้อมเกล้าฯ ถวายพระพร ชัยมงคล ทรงพระเจริญ” โดยอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์เป็นแบบ จัดพิมพ์ในลักษณะตราไปรษณียากรทองคำ ใช้แผ่นทองคำแท้ 22 กะรัต เทคนิคปั๊มดุนนูน ประกอบพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. การจัดพิมพ์เป็นเทคนิคพิเศษที่ไม่เคยจัดทำมาก่อน จำนวน 1 แบบ พิมพ์ 1 ล้านดวง ภาพแสตมป์ที่นำมาจัดแสดงเป็นภาพต้นแบบ กำลังอยู่ระหว่างขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเพื่อนำมาจัดสร้างต่อไป

    น.ส.อานุสรา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังจัดพิมพ์ไปรษณียบัตรเฉลิมพระเกียรติชุดพิเศษ โดยอัญเชิญภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารอากาศ ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดพิมพ์เป็นตราไปรษณียากรพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลปัจจุบัน มาพิมพ์เป็นภาพตราไปรษณียากรบนไปรษณียบัตร พร้อมด้วยตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 พิมพ์อยู่ด้านบน ความพิเศษอยู่ที่การปรุฟันแสตมป์จริงรอบดวงตราไปรษณียากร จัดพิมพ์จำนวนแบบละ 20 ล้านแผ่น จำหน่ายในราคาปกติแผ่นละ 2 บาท โดยประชาชนสามารถใช้ส่งเพื่อร่วมถวายพระพร เก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือจะนำไปใช้งานเหมือนไปรษณียบัตรทั่วไปได้

    อีกหนึ่งไฮไลต์ในปีนี้ คือโครงการจัดสร้างตราไปรษณียากรชุดพิเศษ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแสตมป์ 99 ชนิด ราคาตั้งแต่ 1 บาท จนถึง 99 บาท แต่ละชนิดราคามีจำหน่ายเพียง 1 ชุด ในลักษณะอัลบั้มพิเศษที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อจำหน่ายแก่บุคคลชั้นนำในวงการต่างๆ ในราคาชุดละ 1 ล้านบาท รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายรวม 99 ล้านบาท จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
    ที่มา ข่าวสด ออนไลน์
     
  15. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“โชคดีสเต็ก” รสชาติเด็ด ราคาย่อมเยา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>23 มิถุนายน 2554 15:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน “โชคดีสเต็ก”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> มื้อหิวๆ มื้อนี้ “ตระเวนกิน” อยากจะขอเอาใจเหล่ามิตรรักนกินทั้งหลายที่ชื่นชอบกินสเต็ก ที่มีเนื้อนุ่มๆ ราดด้วยซอสอร่อยๆ ด้วยการพามาที่ร้าน “โชคดีสเต็ก” ที่ตั้งอยู่ตรง ถ. ประชานิเวศน์ 3 ที่นี่เป็นร้านอาหารไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ว่ากลับมีอาหารจานเด็ดอย่างสเต็กขายอยู่มากมายหลากหลายเมนู แถมยังมีราคาที่ย่อมเยากินได้แบบสบายกระเป๋าจริงๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โต๊ะนั่งด้านนอกรับลม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เมนูสเต็กของที่นี่ เป็นสเต็กสไตล์อเมริกันผสมผสานกับความเป็นไทย ออกมาเป็นเมนูสเต็กที่มีรสชาติอันถูกปากนักกินคนไทย ที่ทางร้านยินนำเสนอเป็นเมนูสเต็กจานเด็ดมากมายกว่า 100 เมนูให้ได้เลือกกินกันตามใจชอบ และขอบอกว่าอาหารของที่นี่ทุกจานไม่ใส่ผงชูรส เรียกว่าใส่ใจสุขภาพของคนกินอีกด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สลัดทูน่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ว่าแล้วก็อย่าให้เสียเวลากิน ตามไปชิมอาหารจานเด่นของที่นี่กันดีกว่า ก่อนอื่นเราขอสั่งเมนูเรียกน้ำย่อยมากินกันก่อนก็แล้วกัน จานแรกเป็น สลัดทูน่า (50 บาท) ที่ในจานมีผักไฮโดรโพนิกส์สดๆ หลายชนิด มีเนื้อปลาทูน่าในน้ำเกลือนำเข้าจากต่างประเทศ และมาพร้อมกับน้ำสลัดครีมข้นสูตรเด็ดของทางร้าน คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน กินแล้วถูกปากทั้งผักสลัดสดกรอบ ปลาทูน่าเนื้อนุ่มชุ่มด้วยน้ำสลัดรสกลมกล่อม

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไก่นิวโอลีน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เมนูต่อมาเป็น ไก่นิวโอรีน (75 บาท) ทางร้านเลือกใช้โคนปีกไก่เอามาหมักกับซอสบาร์บีคิวสูตรเฉพาะของทางร้าน หมักนานกว่า 2 คืนจนน้ำซอสซึมลึกถึงเนื้อในไก่ ก่อนจะนำมาย่างและทาน้ำซอสบาร์บีคิวอีก ได้เป็นไก่นิวโอรีนที่เนื้อนุ่มได้รสชาติซอสบาร์บีคิวอันเข้มข้น ออกเผ็ดลิ้นนิดๆ ถูกปากมากๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หอยนิวซีแลนด์อบเนยกระเทียม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แล้วมาชิม หอยนิวซีแลนด์อบเนยกระเทียม (95 บาท) เป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ ที่มีพริกไทย กระเทียม เนยสด เครื่องเทศต่างๆ ใส่มาบนตัวหอยแล้วอบจนสุกได้ที่ เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกลิ่นเนยกระเทียมขึ้นจมูก ลิ้มรสแล้วก็ถูกปากโดนใจกับหอยแมลภู่ตัวใหญ่เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ เนื้อนุ่มหวานและได้รสชาติเนยกระเทียมที่เข้ากันดี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สเต็กหมูพริกไทยดำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จากนั้นมากินสเต็กจานเด่นของที่นี่กัน จานแรกขอแนะนำ สเต็กหมูพริกไทยดำ (59 บาท) เป็นหมูสันนอกหมักกับพริกไทยดำและเครื่องเทศสูตรพิเศษของทางร้าน หมักนาน 1-2 คืนเลยทีเดียว ก่อนจะนำมากริลล์จนสุกได้ที่ ชิมแล้วก็ขอยกนิ้วให้ในความนุ่มของเนื้อหมูและได้รสพริกไทยดำที่ซึมลึกถึงเนื้อในหมู และยังมีสลัดผักพร้อมน้ำสลัดเข้มข้นสูตรของทางร้าน เฟร้นฟรายชิ้นใหญ่ให้กินเคียงกันด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สเต็กหมูเม็กซิกันเบคอนชีส</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จานถัดมาเป็น สเต็กหมูเม็กซิกันเบคอนชีส (85 บาท) ที่มีเนื้อหมูส่วนสันคอหมักกับเครื่องสมุนไพรไทยๆ นานกว่า 2 วัน จนเข้าเนื้อหมูอย่างเต็มที่ แล้วจึงนำมากริลล์ พร้อมกับมีเบคอนชิ้นใหญ่และชีสโปะหน้ามา ลิ้มรสแล้วช่างถูกปากกับเนื้อหมูนิ่มๆ เข้มข้นรสชาติเครื่องสมุนไพร กินเข้ากันดีกับเบคอนและชีสรสดี แถมยังมีสปาเก็ตตี้ผัดซอสมะเขือเทศ และขนมปังกระเทียมมาให้กินคู่แบบอิ่มเต็มที่กันไป

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สเต็กซี่โครงหมูบาร์บีคิว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แต่อย่าเพิ่งอิ่มมากิน สเต็กซี่โครงหมูบาร์บีคิว (105 บาท) กันก่อน เป็นซี่โครงหมูอ่อนชิ้นใหญ่หมักกับซอสบาร์บีคิวนานข้ามคืน เอามากริลล์แล้วโรยด้วยเครื่องเทศต่างๆ ตามสูตรเด็ดของทางร้าน กินร้อนๆ ซี่โครงหมูเปื่อยนุ่มกำลังดีออกรสซอสบาร์บีคิวหวานๆ เผ็ดนิดๆ ถูกปากดี และยังมีสลัดผักและเฟร้นฟรายมาให้ด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สเต็กปลาดอรี่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แล้วมาชิม สเต็กปลาดอรี่ (95 บาท) ที่ดีต่อสุขภาพ ทางร้านเลือกใช้เนื้อปลาดอรี่ชิ้นใหญ่กำลังดี เอามากริลล์แล้วโรยด้วยเครื่องเทศและเครื่องสมุนไพรไทยๆ ลิ้มรสเนื้อปลานุ่มนิ่มไม่เลี่ยนไม่คาว มีมายองเนส มะนาว และซอสพริกไทยดำรสเข้มข้นให้กินคู่เพิ่มรสชาติ แถมยังมีสลัดผักให้กินแกล้มด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ส่งท้ายด้วยเมนูจานเส้น สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (85 บาท) เป็นเส้นสปาเก็ตตี้เอามาผัดกับครีมซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ใส่เบคอนและแฮมด้วย ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเคี้ยวเส้นเหนียวนุ่มชุ่มรสซอสกลมกล่อมถูกปาก และมีสลัดผักกับขนมปังกระเทียมให้กินเคียงกัน

    ถึงแม้จะแนะนำมาก็หลายเมนูแล้ว แต่อย่างที่บอกว่าที่นี่มีเมนูเป็นร้อยเมนู จึงมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีกเพียบ อาทิ สเต็กปลาแซลมอน (135 บาท) สเต็กปลาอินทรี (150 บาท) ขาหมูบาวาเรีย (260 บาท) ไส้กรอกเยอรมันทอด (215 บาท) และเฉพาะที่สาขานี้นอกจากเมนูสเต็กแล้วก็ยังมีอาหารไทยให้ได้ลิ้มลองกันด้วย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (30 บาท) ต้มยำกุ้ง (85 บาท) ส้มตำไทย (30 บาท) สันคอหมูกระทะร้อน (79 บาท) ฯลฯ

    เอาเป็นว่าหากมื้อหิวๆ มื้อไหน ใครอยากจะอิ่มอร่อยกับสเต็กรสดี ที่จ่ายเงินแบบราคาสบายกระเป๋า ก็เชิญชวนมากันได้ที่ร้าน “โชคดีสเต็ก” ซึ่งทางร้านยินดีต้อนรับนักกินทุกคนอยู่
    ที่มา Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 align=center border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD class=text5 width=626 bgColor=#414141 height=97>แท็กซี่+ผู้โดยสารน้ำใจงาม นำของกว่า4ล้านคืนนักธุรกิจญี่ปุ่น
    <IFRAME id=frmSocial name=frmSocial src="read_social.php?bg=414141&id=516553" frameBorder=0 width=500 scrolling=no height=35></IFRAME> </TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 border=0><TBODY><TR><TD width=14 bgColor=#414141>[​IMG]</TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=599 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=599><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599 border=0><TBODY><TR><TD class=text4>23 มิย. 2554 20:49 น.

    <DD>เมื่อเวลา 16.30น. ที่สถานีวิทยุสวพ.91 นาย อลอง ลี (Mr. Along Lee) นักธุรกิจเรือเช่า ชาวญี่ปุ่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชวลิต เพชรศรีเปีย รอง ผกก.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต รับมอบกระเป๋าสัมภาระภายในมีทรัพย์สินมีค่า นาฬิกาข้อมือแบรนด์เนม 5 เรือน ประกอบด้วย ยี่ห้อ Piaget, Gatier,Sred,Visage และ Disney อย่างละ1เรือน ปากกายี่ห้อTisny 1 เล่ม และแหวนทอง 1วง มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท โดยรับมอบจากนายอุดม โพธิ์ลังกา อายุ 60 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ และนางสาวอริสา ศรีขวัญ อายุ 29 ปี ผู้โดยสาร ทั้งสองพบเห็นและแจ้ง สวพ.91 ประสานจนพบเจอเจ้าของในที่สุด โดยมีนางสาวผ่องใส ศรีวังพล ผู้บริหารสถานีวิทยุฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน
    <DD>ด้านพ.ต.ท.ชวลิต เพชรศรี เปีย รอง ผกก. สส.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้โทรเข้าไปแจ้งในรายการ กล่าวว่าเมื่อเวลา 10.30น. ได้รับการประสานงานจากมินายอลอง ลี ว่าลืมกระเป๋าสัมภาระที่มีทรัพย์สินมีค่า มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท เอาไว้ในกระโปรงท้ายรถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทร 4305 กทม. ของนายอุดม จากการตรวจสอบจึงทราบว่านายอุดมพักอยู่ที่แฟลต ไม่ทราบชื่อ ในซอยเอกมัย 30 จึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ซึ่งรับผิดชอบท้องที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบที่แฟลตดังกล่าวและสอบถามคนในครอบครัว จึงทราบว่านายอุดมไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่ทราบว่านายอุดมชอบฟังสถานีวิทยุ สวพ. 91 จึงโทรศัพท์แจ้งข่าวเพื่อขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ จนได้รับการจากสถานีในเวลาประมาณ 12.00น. ว่ามีคนขับรถแท็กซี่พร้อมด้วยผู้โดยสาร พบกระเป๋าสัมภาระ ของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นตามที่ได้ประกาศ และได้นำมามอบที่ สถานีวิทยุฯแล้ว จึงติดต่อเพื่อนำนายอลอง ลี มาขอรับสัมภาระทันที
    <DD>ด้านนายอลอง ลี กล่าวว่า รู้สึกดีใจและแปลกใจมากที่ นายอุดมนำของกลับมาคืนให้ และรู้สึกได้ทันที่ว่า คนไทยมีน้ำใจ และมีจิตใจที่ดี ทั้งนี้ตนเองอยู่ประเทศไทย มากว่า 29 ปี ทราบว่ามีเหตุอาชญากรรมรายวัน จึงไม่คิดว่าจะได้รับของคืน แต่นายอุดมกลับนำมามอบให้ซึ่งเป็นเรื่องที่ประหลาดใจมาก
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายอุดม และน.ส.อริศราได้ มอบกระเป๋าสัมภาระคืนให้กับนายลอง ลีแล้ว นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นได้มอบสินน้ำใจให้กับนายอุดมเป็นเงิน 5,000บาท และน.ส.อริศรา 3,000 บาท ด้วย<DD>ที่มา เนชั่นทันข่าว
    <DD>
    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    หวั่นพายุสุริยะสะเทือนโลก

    • 23 มิถุนายน 2554 เวลา 18:23 น. |
    <SCRIPT>var fbShare = {url: 'http://bit.ly/k9w87X' }</SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.js"></SCRIPT>
    <!-- end facebook-share --><!-- end main-sns -->
    <!--end articleDetailPanel-->สมิทธหวั่นใจพายุสุริยะหรือดวงอาทิตย์ระเบิดสะเทือนถึงโลกกระทบต่อมหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิก
    [​IMG]
    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้รับรายงานจากองค์การนาซา ของสหรัฐฯว่า เกิดปรากฏการณ์พายุสุริยะ หรือ ลมสุริยะ ระเบิดขึ้น คาดว่าจะเข้าถึงโลกและกระทบต่อมหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิกในคืนนี้(23 มิ.ย.54) หรือ อย่างช้าพรุ่งนี้เช้า (24 มิ.ย.54)
    ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดกระแสลมแปรปรวน และภัยธรรมชาติได้ ทั้งนี้ องค์การนาซา ได้ติดตามปรากฏการณ์พายุสุริยะที่เกิดจากการระเบิดของดวงอาทิตย์มาเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่ทำให้โลกเกิดภัยธรรมชาติ เช่น พายุและแผ่นดินไหว ล่าสุดการเกิดแผ่นดินไหวนอกฝั่งฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น 6.7 ริกเตอร์ เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.51 น. ของวันนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพายุสุริยะเช่นกัน
    สำหรับ พายุสุริยะ หรือ ลมสุริยะ เป็นพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ที่ถูกปลดปล่อยออกมาชั้นอวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล โดย พายุสุริยะ ประกอบด้วยรังสีคอสมิก และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามหาศาล
    ที่มา โพสต์ทูเดย์ ออนไลน์
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ผมคุยกับน้องท่านนึง

    เรื่องของเพชรพญานาค

    คุยกันหลายๆเรื่อง สรุปว่า น้องท่านนี้ มีสติ มีปัญญา มีความเฉลียว

    หากเป็นของวิเศษ ที่สามารถเสด็จมาเองไ้ด้ ต้องเสด็จกลับไปเองได้ ไม่ควรตกเรี่ยราดอยู่กับพื้น หากรอผู้มีวาสนาบารมีมาเก็บ แสดงว่า ผู้ที่นำมา ห่วยแตก ไม่มีสมองคิด อัญเชิญของวิเศษมา แต่มาทำตกเรี่ยราด แทนที่จะไปอยู่ที่โต๊ะหมู่บูชา หรือที่อันควร

    เรื่องของการแกะสลัก ผู้เป็นอทิสมันกาย ที่อยู่ในระดับของเทวดา หรือ พญานาค ไม่สามารถที่จะแกะสลักเองได้ ในตอนที่หล่อองค์พระพุทธชินราช ตามตำนานบอกว่า พระอินทร์แปลงกายลงมาร่วมพิธีหล่อ แต่ไม่ใช่การที่มานั่งแกะสลัก ไม่อย่างนั้น ทั้งเทวดา หรือ พญานาค คงเนรมิตหรือแกะพระพุทธรูปเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว คงไม่ให้คนหรือมนุษย์สร้างบุญสร้างองค์พระพุทธรูปกันแต่ฝ่ายเดียว เพราะทั้งเทวดา และ พญานาค ก็ต้องการบุญเหมือนกับคนหรือมนุษย์เช่นกัน และ ไม่้ต้องรอให้คนหรือมนุษย์กรวดน้ำไปให้ หรือ มาร่วมโมทนาบุญในเวลาที่คนหรือมนุษย์สร้างพระพุทธรูปเพื่องานบุญ

    ตอนนี้ กรรมวิธีในการหล่อ ไม่ให้มีฟองอากาศ และ ทำให้มีฟองอากาศทรงกลมตรงกลาง ทำได้มาพอสมควรแล้ว

    ให้ระมัดระวังกัน




    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]

    วันนี้ ผมคุยกับน้องท่านนึง

    เรื่องของเพชรพญานาค

    คุยกันหลายๆเรื่อง สรุปว่า น้องท่านนี้ มีสติ มีปัญญา มีความเฉลียว

    หากเป็นของวิเศษ ที่สามารถเสด็จมาเองไ้ด้ ต้องเสด็จกลับไปเองได้ ไม่ควรตกเรี่ยราดอยู่กับพื้น หากรอผู้มีวาสนาบารมีมาเก็บ แสดงว่า ผู้ที่นำมา ห่วยแตก ไม่มีสมองคิด อัญเชิญของวิเศษมา แต่มาทำตกเรี่ยราด แทนที่จะไปอยู่ที่โต๊ะหมู่บูชา หรือที่อันควร

    เรื่องของการแกะสลัก ผู้เป็นอทิสมันกาย ที่อยู่ในระดับของเทวดา หรือ พญานาค ไม่สามารถที่จะแกะสลักเองได้ ในตอนที่หล่อองค์พระพุทธชินราช ตามตำนานบอกว่า พระอินทร์แปลงกายลงมาร่วมพิธีหล่อ แต่ไม่ใช่การที่มานั่งแกะสลัก ไม่อย่างนั้น ทั้งเทวดา หรือ พญานาค คงเนรมิตหรือแกะพระพุทธรูปเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว คงไม่ให้คนหรือมนุษย์สร้างบุญสร้างองค์พระพุทธรูปกันแต่ฝ่ายเดียว เพราะทั้งเทวดา และ พญานาค ก็ต้องการบุญเหมือนกับคนหรือมนุษย์เช่นกัน และ ไม่้ต้องรอให้คนหรือมนุษย์กรวดน้ำไปให้ หรือ มาร่วมโมทนาบุญในเวลาที่คนหรือมนุษย์สร้างพระพุทธรูปเพื่องานบุญ

    ตอนนี้ กรรมวิธีในการหล่อ ไม่ให้มีฟองอากาศ และ ทำให้มีฟองอากาศทรงกลมตรงกลาง ทำได้มาพอสมควรแล้ว

    ให้ระมัดระวังกัน




    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    เป็นความเห็นที่ผมคุยกับน้องท่านนึง

    ซึ่งสามารถบ่งบอกถึง สติ และ ปัญญา ของน้องท่านนี้

    ส่วนเรื่องของธรรมะ

    ต้องระวังในการเชื่อ เนื่องจากหากปฎิบัติผิดวิธี กว่าจะเดินทางกลับมาสู่ในหนทางที่ถูกต้อง นานแสนนาน

    มีเพื่อนผมคนนึง สมัยก่อน เชื่อเรื่องของเพชรพญานาคมาก เชื่อในพระภิกษุที่เชิญเพชรพญานาคมาได้

    ปัจจุบัน ไม่กลับไปเหยียบที่วัดนั้นอีกเลย

    ไปแก้สิ่งที่ไม่ดีที่ติดตัวมา กับพระภิกษุอีกรูป กว่าจะแก้ไขได้ นานพอสมควร แต่ยังโชคดีที่รู้ัตัวทัน และ หนี(พร้อมกันทั้งกลุ่ม)ออกมาได้ัทันเวลา

    นำมาเล่าสู่กันฟัง

    ท่านผู้อ่านต้องเลือกหนทางของท่านเอง

    ผมเลือกหนทางของผมแล้ว

    .



    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [FONT=Tahoma,]เตือนระวังแก๊งตุ๋นหลอกโอนเงิน อ้างเป็นจนท.แบงก์-ปปง.-ไม่มีแจ้งทางโทรศัพท์



    กาญจนบุรี - นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วย จังหวัดกาญจนบุรีรับแจ้งขอความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอก เงินให้ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อย่าหลงเชื่อและให้ทราบ พฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารและเจ้า หน้าที่ของสำนักงานปปง. ใช้โทรศัพท์แสดงข้อความ เบอร์ส่วนตัว หรือหมายเลข +60-2219-3600 หลอกประชาชนว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตและ มีบุคคลแอบนำหลักฐานไปเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารมีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก และเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน จะต้องถูกสำนักงานปปง.อายัดบัญชีเงินฝากธนาคารทั้งหมดและหลอกให้ไปทำรายการ ที่ตู้ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) หรือตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ (CDM) โดยอ้างว่าเป็นการทำรายการแก้ไขรหัสป้องกันทรัพย์สินหรือการนำเงินสดไปฝาก เข้าบัญชีของสำนักงานปปง.เพื่อป้องกันทรัพย์สิน

    เมื่อประชาชนหลง เชื่อทำรายการตามที่คนร้ายแจ้งจึงเป็นการโอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารหรือฝาก เงินเข้าบัญชีธนาคารของคนร้าย ทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงและสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก ในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินสำนักงานปปง. ไม่มีการแจ้งข้อมูลการดำเนินการหรือการอายัดทรัพย์สินทางโทรศัพท์แต่อย่างใด การสอบถามหรือเรียกบุคคลใดๆ มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ปปง.จะต้องมีเอกสารเป็นหนังสือและการแสดงบัตร ประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อบุคคลเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว

    รายงาน แจ้งว่า หากพบคอลเซ็นเตอร์ ให้กด 1 กด 9 ให้ถือว่าเป็นแก๊งต้มตุ๋น อย่ากระทำการใดๆ ทั้งสิ้นผ่านตู้เอทีเอ็ม จะสูญเสียเงินทันที ปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้ค่ำ หลังเลิกงาน ลูกค้าขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่ทันเวลาทำการ
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2NtOHdNVEl6TURZMU5BPT0=&sectionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBeE1TMHdOaTB5TXc9PQ==-


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...