ขอถามครับ... เรื่อง "ผลกรรมจากการทำแท้ง"...!! (แบบค่อนข้างละเอียด)

อย่างที่เราๆท่านๆย่อมทราบกันดีครับ ว่าการทำแท้งนั้นจะทำให้ทั้งผู้ที่ไปทำ พาไปทำ ให้เงินไปทำ บังคับให้ไปทำ หรือแนะนำสถานที่ ก็จะได้รับผลกรรมคือ จะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ถูกเบียบดเบียนด้วยโรคภัยไข้เจ็บ และจะถูกวิญญาณของเด็กที่ตายจากการทำแท้งตามจองเวรอย่างรุนแรง แต่ก็มีเพื่อนๆหลายคน ถามในเรื่องผลกรรมจากการทำแท้งที่แตกต่างกัน แล้วแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบางคำตอบผมไม่ทราบจริงๆ จึงไม่กล้าแนะนำในเรื่องนี้ ผมขอแยกถามอย่างนี้ครับว่า....

1.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ แล้วผู้ชายไม่รับผิดชอบอะไรเลย แล้วหนีไปซะดื้อๆ
- ถ้าผู้หญิงไปทำแท้ง ใครจะบาปมากกว่ากัน อย่างไรครับ
- ถ้าผู้หญิงอุ้มท้อง แล้วเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ต้องแท้งลูก จะได้รับผลกรรมหรือไม่

2.ผู้หญิงท้อง.. ไม่ได้บอกผู้ชายให้รู้ แล้วไปทำแท้งเอง
- ใครจะได้รับผลกรรมมากกว่ากัน แค่ไหน อย่างไรครับ
- ถ้าบอกพ่อแม่ แต่ไม่ได้บอกแฟน แล้วพ่อแม่สั่งให้ไปทำแท้ง ผู้ชายจะได้รับผลกรรม หรือไม่ อย่างไรครับ

3.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ แล้วผู้ชายรับผิดชอบ และห้ามไม่ให้ผู้หญิงไปทำแท้ง แต่ผู้หญิงไม่อยากให้ลูกเกิดขึ้นมา จึงไปทำแท้ง
- ใครจะได้รับผลกรรมมากกว่ากัน อย่างไร
- ปริมาณกรรม หนัก-เบา เท่ากันหรือไม่

4.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ ผู้ชายรับผิดชอบ แต่พอคลอดออกมา ผลตรวจ DNA ไม่ตรงกับของฝ่ายชาย
- ผลกรรมตกที่ผู้ใด
- ในกรณีฝ่ายชายโมโห ลงมือทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนนั้น นับเป็นบาปมหันต์หรือไม่

5.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ ผู้ชายรับผิดชอบ ด้วยการส่งเงินให้ใช้ในการดูแลครรภ์ ในช่วงที่ผู้หญิงอุ้มท้อง แต่ผู้หญิงคนนั้น กลับเอาเงินที่ได้ ไปทำแท้ง
- ผู้ใดจะได้รับผลกรรมมากกว่า
- ผู้ชายบาปหรือไม่ (เพราะเงินนั้นเป็นของผู้ชาย แต่เขาไม่ได้มีจุดประสงค์นั้น)

6.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ บอกพ่อแม่ให้รู้ ผู้ชายถูกพ่อแม่ฝ่ายหญิงบังคับให้แต่งงาน และพอลูกคลอดออกมา ผู้ชายหย่ากับผู้หญิงทันที ปล่อยให้ผู้หญิงเลี้ยงดูลูกตามลำพัง (เพราะทั้งคู่เลิกคบกันตั้งแต่ก่อนที่ผู้หญิงจะคลอด ความรักได้หมดไปจากหัวใจแล้ว ที่ยอมแต่งงานก็เพื่อลูก แต่สุดท้ายก็ไปเจอคนใหม่จึงตัดสินใจเบนเข็มไปทางนั้น)
- ผู้ชายจะได้รับผลกรรมใดๆหรือไม่ อย่างไร

7.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ แต่ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ผู้หญิงคนนั้นตัดสินใจจะคลอด แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยงดูด้วยเหตุผลต่างๆ จึงได้นำไปทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์เด็ก หรือยกให้เป็นลูกบุญธรรมคนอื่น เมื่อลูกคลอดออกมา
- ใครได้รับผลกรรมมากกว่ากัน แค่ไหน อย่างไร

และ 8.ผู้หญิงไม่ได้ท้อง.. โกหกผู้ชายว่าท้อง ผู้ชายรับผิดชอบ แต่เมื่อเวลาเป็นตัวฟ้องความจริง ผู้ชายทอดทิ้งผู้หญิงอย่างไม่ใยดี ทำให้ผู้หญิงคิดสั้นฆ่าตัวตาย
- ใครได้รับผลกรรมมากกว่ากัน

..................................ผมยังศึกษามาไม่มาก จึงไม่กล้าให้คำปรึกษาใครในเรื่องนี้ เพราะผมไม่รู้จริงๆ จึงใคร่ขอวอนผู้รู้ทุกๆท่าน โปรดตอบคำถามให้ผมคลายความสงสัย และเชื่อว่าอีกหลายๆคนก็สงสัยเช่นกันนี้ด้วยเถิดครับ.....................

 

1.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ แล้วผู้ชายไม่รับผิดชอบอะไรเลย แล้วหนีไปซะดื้อๆ
- ถ้าผู้หญิงไปทำแท้ง ใครจะบาปมากกว่ากัน อย่างไรครับ
บาปทั้งคู่ค่ะ แต่ฝ่ายหญิงจะมากกว่าเพราะเป็นคนทำโดยตรง

- ถ้าผู้หญิงอุ้มท้อง แล้วเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ต้องแท้งลูก จะได้รับผลกรรมหรือไม่
ถ้าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ไม่มีกรรมค่ะ เป็นวิบากของเด็กผู้นั้นเองที่จะไม่ได้เกิด

2.ผู้หญิงท้อง.. ไม่ได้บอกผู้ชายให้รู้ แล้วไปทำแท้งเอง
- ใครจะได้รับผลกรรมมากกว่ากัน แค่ไหน อย่างไรครับ
ผู้หญิงค่ะ แต่ต้องพิจารณาทางฝ่ายชายด้วย ว่าเหตุมาจากชายมีเจตนาทอดทิ้งหรือเปล่า ถ้ามี ผู้ชายก็รับผลกรรมด้วย

- ถ้าบอกพ่อแม่ แต่ไม่ได้บอกแฟน แล้วพ่อแม่สั่งให้ไปทำแท้ง ผู้ชายจะได้รับผลกรรม หรือไม่ อย่างไรครับ
ถ้าผู้ชายมีความตั้งใจจะเก็บเด็กไว้ แต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงให้ทำแท้ง อย่างนี้ฝ่ายชายไม่มีบาป แต่ถ้าพ่อแม่สั่งให้ทำแท้ง เพราะรู้ว่า ผู้ชายจะไม่รับเลี้ยงดู อย่างนี้ผู้ชายก็บาปแน่

3.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ แล้วผู้ชายรับผิดชอบ และห้ามไม่ให้ผู้หญิงไปทำแท้ง แต่ผู้หญิงไม่อยากให้ลูกเกิดขึ้นมา จึงไปทำแท้ง
- ใครจะได้รับผลกรรมมากกว่ากัน อย่างไร
- ปริมาณกรรม หนัก-เบา เท่ากันหรือไม่
ผู้ชายไม่มีบาป แต่บาปอยู่กับผู้หญิงทั้งหมด

4.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ ผู้ชายรับผิดชอบ แต่พอคลอดออกมา ผลตรวจ DNA ไม่ตรงกับของฝ่ายชาย
- ผลกรรมตกที่ผู้ใด
ฝ่ายหญิงค่ะ โดยเฉพาะผิดข้อมุสาวาท แต่ถ้าฝ่ายชายยินดีเลี้ยงดูแม้จะทราบว่าไม่ใช่ลูก เพราะเมตตาต่อชีวิตใหม่ที่เกิดมา อย่างนี้ได้บุญมหาศาลค่ะ
- ในกรณีฝ่ายชายโมโห ลงมือทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนนั้น นับเป็นบาปมหันต์หรือไม่
แน่นอนค่ะ

5.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ ผู้ชายรับผิดชอบ ด้วยการส่งเงินให้ใช้ในการดูแลครรภ์ ในช่วงที่ผู้หญิงอุ้มท้อง แต่ผู้หญิงคนนั้น กลับเอาเงินที่ได้ ไปทำแท้ง
- ผู้ใดจะได้รับผลกรรมมากกว่า
ผู้หญิงฝ่ายเดียวค่ะ เพราะผู้ชายไม่มีเจตนาเช่นนั้น ซ้ำยังมีจิตที่เมตตาด้วย
- ผู้ชายบาปหรือไม่ (เพราะเงินนั้นเป็นของผู้ชาย แต่เขาไม่ได้มีจุดประสงค์นั้น)
ไม่ค่ะ เพราะไม่มีเจตนา กรรมที่จะเกิดผลอยู่ที่เจตนาเป็นหลักนะคะ

6.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ บอกพ่อแม่ให้รู้ ผู้ชายถูกพ่อแม่ฝ่ายหญิงบังคับให้แต่งงาน และพอลูกคลอดออกมา ผู้ชายหย่ากับผู้หญิงทันที ปล่อยให้ผู้หญิงเลี้ยงดูลูกตามลำพัง (เพราะทั้งคู่เลิกคบกันตั้งแต่ก่อนที่ผู้หญิงจะคลอด ความรักได้หมดไปจากหัวใจแล้ว ที่ยอมแต่งงานก็เพื่อลูก แต่สุดท้ายก็ไปเจอคนใหม่จึงตัดสินใจเบนเข็มไปทางนั้น)
- ผู้ชายจะได้รับผลกรรมใดๆหรือไม่ อย่างไร
บางทีการที่หญิงชายคู่นั้นจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เกิดจากกรรมในอดีต และอาจเป็นกรรมของฝ่ายหญิงที่จะต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง ชีวิตจึงเป็นไปเช่นนั้น หากฝ่ายหญิงไม่ผูกโกรธต่อฝ่ายชายที่ไม่ยอมรับผิดชอบ กรรมนั้นอาจเป็นอโหสิ ผู้ชายก็ไม่ต้องรับกรรมไป ผู้หญิงก็ได้บารมีอันยิ่งใหญ่...ข้อนี้จริงๆ แล้วตอบยาก ต้องดูจากเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นจริง จึงจะตอบได้

7.ผู้หญิงท้อง.. บอกผู้ชายให้รู้ แต่ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ผู้หญิงคนนั้นตัดสินใจจะคลอด แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยงดูด้วยเหตุผลต่างๆ จึงได้นำไปทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์เด็ก หรือยกให้เป็นลูกบุญธรรมคนอื่น เมื่อลูกคลอดออกมา
- ใครได้รับผลกรรมมากกว่ากัน แค่ไหน อย่างไร
ผู้ชายมากกว่าแน่นอน ถ้ากรรมตามทันในชาตินี้ อาจถูกลูกตัวเองทอดทิ้ง แต่ถ้าไม่ทันในชาตินี้ ไปให้ผลในชาติหน้า ตัวเองก็จะต้องไปเกิดเป็นหญิง แล้สรับผลอย่างเดียวกับที่ทำไว้

และ 8.ผู้หญิงไม่ได้ท้อง.. โกหกผู้ชายว่าท้อง ผู้ชายรับผิดชอบ แต่เมื่อเวลาเป็นตัวฟ้องความจริง ผู้ชายทอดทิ้งผู้หญิงอย่างไม่ใยดี ทำให้ผู้หญิงคิดสั้นฆ่าตัวตาย
- ใครได้รับผลกรรมมากกว่ากัน
ผู้หญิง..ทั้งโกหก ทั้งคิดทำลายตัวเอง ส่วนผู้ชายก็มีกรรมในแง่ของความผูกโกรธต่อฝ่ายหญิง

โบราณนั้นท่านสอนไว้ดีแล้ว ว่าไม่ให้ชิงสุกก่อนห่าม เพราะปัญหาจากการชิงสุกก่อนห่ามนั้นมันใหญ่เกินกว่าจะแก้ไข ใหญ่จนไม่คุ้มกับความสุขทางเพศเพียงชั่ววูบ การทำแท้งเป็นปาณาติบาต แม้่ว่าจะเริ่มตั้งท้องเพียงสัปดาห์เดียวก็ตาม เราไม่มีสิทธิ์ไปประหัตประหารชีวิตใครค่ะ แม้ชีวิตนั้นจะเกิดขึ้นมาในท้องเราก็ตาม...

 

ปัญหาการทำแท้งในปัจจุบัน ตอนนี้ไม่เพียงจะเกิดขึ้นเพราะเรื่องชิงสุกก่อนห่ามเพียงอย่างเดียว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำงานแล้วก็เกิดขึ้นได้

ขอเพียงเลือกคู่ที่ถูกต้อง ไม่ใช่ถูกใจ มีความสัมพันธ์กันอย่างระมัดระวัง รู้จักการป้องกัน ไม่ปล่อยปละละเลย ทั้งสองฝ่ายต้องรู้จักป้องกันตัวเองหากยังไม่ถึงเวลา.

 

แล้วถ้า....

ผู้ชายทิ้ง ผู้หญิงไม่รู้ว่าท้อง มารู้ตอนแท้ง (เองเพราะร่างกายอ่อนแอเกินไป ทรมนตัวเองด้วยความไมุ่รู้ด้วยการกินเหล้า กินยานอนหลับ พักผ่อนน้อย ไม่กินข้าว) แต่ไม่ได้บอกชายตอนแรก

มาบอกอีกที หลายปีผ่านไป เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้รับอิทธิพลจากกรรมไม่ตั้งใจนี้

อยากรู้ รูปแบบกรรมจะไปทิศทางใด

 

ก่อนอื่นกราบอนุโมทนาแก่ผู้ที่เข้ามาตอบทุกๆท่านครับ ทั้งคุณ.. Red Leaf , เพื่อมหาชน , และทุกๆท่านด้วยใจจริงครับ ตอนนี้กระจ่างขึ้นเยอะแล้วครับ

..........................................
ขออนุญาติตอบคำถามนี้นะครับ

แล้วถ้า....

ผู้ชายทิ้ง ผู้หญิงไม่รู้ว่าท้อง มารู้ตอนแท้ง (เองเพราะร่างกายอ่อนแอเกินไป ทรมนตัวเองด้วยความไมุ่รู้ด้วยการกินเหล้า กินยานอนหลับ พักผ่อนน้อย ไม่กินข้าว) แต่ไม่ได้บอกชายตอนแรก

มาบอกอีกที หลายปีผ่านไป เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้รับอิทธิพลจากกรรมไม่ตั้งใจนี้

อยากรู้ รูปแบบกรรมจะไปทิศทางใด

............................. โบราณว่า "ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด" ดังนั้นผลกรรมจะไม่รุนแรงเท่ากับผู้ที่ตั้งใจแรงกล้าที่จะฆ่าลูกด้วยการทำแท้งครับ แต่ถึงอย่างไรก็ควรหมั่นทำบุญ สร้างกุศล แล้วอุทิศแก่เด็กที่เสียชีวิตนั้นไป เป็นประจำ การกระทำเพราะความไม่รู้ ย่อมได้รับการอโหสิกรรมได้เร็วกว่าครับ

 

ผมสงสารมากเลยนะ เด็กคงทรมานมาก

แม่ที่ไม่ตั้งใจบางคนก็ไม่ต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรอก เพียงแต่ผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำสิ่งผิดลงไป

น่าสงสารทั้งแม่ ทั้งลูก พ่อก็น่าสงสาร เฮ้อ พูดแล้วต้องวางอุเบกขา พูดเรื่องนี้ทีไร ใจเริ่มจะหม่นหมองลงแล้ว

เรื่องทำนองนี้ ถ้าเกิดท้องขึ้นมาแล้ว จะมานั่งโทษคนนั้นคนนี้มันก็ไม่ถูก จะผิดก็ผิดทั้งหมด เพียงแต่ผิดมากผิดน้อยเท่านั้นเอง

คนรู้จักของผมก็อย่างนี้แหละ พลาดไป ยังดีที่เธอเข้าวัดหลังจากนั้น สนใจในพุทธศาสนามากขึ้น แต่แผลในใจเธอก็คงไม่หมดง่าย ๆ

วางอุเบกขาเอาไว้ ถึงยังไงทุกสิ่งที่เกิด มันก็กรรมทั้งนั้น หาทางแก้ไขกันไปดีกว่ามานั่งหาสาเหตุของความผิดพลาดที่้เกิดขึ้นไปแล้ว จริงไหมครับ ?

 

ขอบคุณ คุณสู้กรรมค่ะ ที่ช่วยชี้แนะ มันเกิดกับเราเองค่ะ เื่รื่องราวมันเหมือนบ่วงกรรมมาก

พลาดกับคนใกล้ตัวค่ะ แล้วก็ยอมรับผลการตัดสินใจของเขาว่า เขาเลือกคนที่เขาคิดว่าไช่ เราก็ยอมจบแบบเงียบๆ พยายามเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแต่...ไม่รู้ว่าท้องค่ะ มารู้อีกที เราปกป้องเขาำไม่ได้ จะว่าไปก็เพราะ้สาเหตุตรอมใจที่ต้องเลิกกันแบบนั้น แต่เราเลือกไม่บอกค่ะ กลัวเค้าจะหาว่าเรากุเรื่อง แล้วเราก็พยายามป้องกันกันทุกแบบแล้วแต่ก็เกิดจนได้ อีกอย่างใจก็คิดว่ายังเป็นแค่เลือด เท่านั้นเอง

แต่...จากนั้นเป็นต้นมาก็มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับชีวิต กว่าจะผ่านมาได้ก็แบบ แทบเอาชีวิตไม่รอด แอนตี๊การฆ่าตัวตายแต่ว่า ม้นเกือบเกิดกับเรา กลัวมากเลยค่ะ ถึงจะแค่วูบหนึ่งแต่กลััวบาปจากการทำร้ายตัวเองมาก ที่บ้านติดหนี้ก้อนใหญ่ พ่อล้มเหลวจากการเล่นการเมือง แม่ตรอมใจเพราะพ่อมีเมียน้อย พี่ชายต้องไปทำงานระหกระเหินต่างแดน พูดง่ายๆ ชีวิตลำบากมากจากที่เคยสบาย

จนมามีคนทักค่ะว่าไปทำอะไรมา เราก็นึกว่าเอ๊ะ จะมาหลอกถามรึป่าว เราไม่เคยทำเลวขนาดไปรีดลูกนะ แต่เขาบอกว่า เห็นผู้ชายตามมาเขาไม่พอใจที่เราไม่รับรู้ว่ามีเขา ไม่ยอมให้เขาอยู่ด้วย ร้องให้โฮ ใจกลัวมากเพราะตลอดเวลาฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งตลอด เป็นคนๆเดียวกัน จำหน้าตาได้ติดตา มาต่อว่าเราตลอด

ที่เด็ดสุด พ่อเห็นค่ะ ว่ามีผู้ชายนั่งรถมากะเราตอนไปรับพ่อที่เอกมัย!!! เขายังแอบสงสัยว่าเราแอบเลี้ยงต๊อยซะงั้น

จากไม่เคยเชื่อเรื่องผีสาง ตอนนี้พยายามนึกถึงเขาตลอดค่ะ เรายอมรับว่าดีใจที่เขาไม่ได้เกิดมาตอนนั้นเพราะ ถ้าเกิดมา เขาต้องไม่มีพ่อ ที่บ้านก็ำกำลังลำบาก ไม่รู้จะเลี้ยงเขายังไง การงานก็ยังไม่มี แล้วเราไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไง เมื่อตอนนั้นค่อนข้างจะเกลียดพ่อเขา

ส่วนผู้ชายคนนั้น ไปทำกรรมชั่วกับเพื่อนเราอีก แล้วเราไม่ยอม เรื่องเลยเปิดเผย เขาต้องเลิกกับแฟนที่รักมาก ไปตกระกำลำบากต่างแดน แต่ตอนนี้ไ้ด้ข่่าวว่าเขาจะแต่งงานกับคนที่เจอกันต่างแดน จึงได้กลับมา เราจึงตัดสินใจที่จะบอกเขา เพื่อ...ให้เขาไปทำบุญในส่วนที่เขาพึงจะทำ

เราก็ได้แต่ทำบุญ ไปบวชอุทิศส่วนกุศล รู้สึกว่าได้รับผลกรรมนี้มาก ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจทำเขา เพียงแต่ใจยินดีที่เขาไปเอง ปัจจุบันร่างกายอ่อนแอมาก ทั้งที่แข็งแรงมาตลอด เจ็บปวดโดยหาสาเหตุไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงท้อง ไม่กระเพาะ ก็ปวดท้องประจำเดือนปวดขั้นต้องนอนลางานกันสองวันทีเดียว แต่ไปตรวจไม่เจออะไร การงานมีทำแต่เก็บเงิน หาความก้าวหน้าไม่ได้ ลุ่มๆ ดอนๆ

ใจก็คิด ว่าถ้าเป็นเพราะผลกรรมนี้ ทำไมมันดูรุนแรงไม่ต่างอะไรกับคนที่ตั้งใจค่ะ

เล่ามาซะยืดยาว...เรื่องราวยังกะละครน้ำเน่าเลยค่ะ

ขอบคุณที่รับฟังค่ะ

 

คุณลักษณ์ครับ อ่านจากที่คุณเล่ามา ก็น่าเห็นใจคุณนะครับ เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขา เพียงแต่คุณยังไม่รู้ว่าเขามีตัวตน ตั้งแต่นี้ไปคุณต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ คิดเสมอว่าสิ่งที่เราทำไปเป็นความผิดพลาด และอย่าไปจมกับความผิดพลาดนั้นไปตลอด อย่าเอามาเป็นอารมณ์ เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจ เพราะคุณไม่รู้ แต่ทางที่ดีควรจะเปิดใจกับบุญให้ที่กระทำ อย่าไปยึดกุมบาปที่คุณไม่ได้ตั้งใจนั้นมากเกินไป จนจิตใจมัวหมองซะเปล่าๆ

หรือจะให้ดี ลองหาเวลาอยู่คนเดียว สารภาพความในใจกับลูกคุณดูนะครับ ว่าคุณขอโทษ และขออโหสิกรรมจากเขา แล้วขอให้เขาคลายความอาฆาตแค้นที่มีต่อคุณ สารภาพจากความรู้สึกจริงๆ และสำนึกผิดด้วยใจจริง (คล้ายกับการสารภาพบาปของชาวคริสต์) ให้เขาไปสู่สุขติภูมิ หรือมีใจเบิกบานเลิกเว้นซึ่งการจองเวรต่อกัน อ่านหนังสือธรรมะให้เขาฟังทุกๆวัน เพื่อให้เขารู้จักธรรมะ เพราะวิญญาณของเขาก็เหมือนกับเด็กเกิดใหม่ ไม่มีความรู้อะไรมากนัก ดังนั้นจึงทำตามอารมณ์ของเด็กคือ "เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็ต้องแสดงอาการกร้าวร้าว" เช่นเดียวกันครับ คุณก็ต้องหมั่นเข้าวัด ฟังธรรม เขาจะได้รู้ธรรมะ แล้วจะได้รู้ว่าการจองเวรซึ่งกันและกัน ไม่ใช่สิ่งที่ดี และทำให้เขามีดวงจิตที่ผ่องใสขึ้น ทีนี้แทนที่จะมาจองเวร เขาก็จะมาให้โชคลาภความสำเร็จแก่คุณแทน นับว่าเป็น "เจ้ากุมารทองตัวน้อย" องค์หนึ่งไปเลย แต่ที่ให้สารภาพ ก็เหมือนกับเป็นการระบายความเครียดในใจคุณ และทำให้เขาเข้าใจในเหตุผลของคุณ เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะทำนี่นา คุณจะได้สบายใจ ปลอดโปร่ง เอาหล่ะครับ ลองทำดูนะ แต่ต้องสารภาพจากใจนะครับ

 

ขอบคุณทุกเมตตาจิตทั้งสู้เพื่อกรรม และคุณเพื่อมหาชน

สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง มันคือบาดแผลที่ไม่สามารถเยียวยาค่่ะแต่ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความเข้มแข็งได้

ก็ยอมรับผลทั้งแห่งกรรมค่่ะ ตอนนี้รู้สึกสบายใจเรียกเค้าว่าลูกได้เต็มปาก

และถ้าหากเขารอคอยที่เกิดกับเราอีก เหมือนคนนั้นที่ทัก ก็ยินดีค่่ะ

ระหว่างนี้ก็จะพยายามทำกรรมดี เจตนาดีและรักษา ดูแลตัวให้แข็งแรงเพื่อการกลับมาของเค้า

 

องคุลีมาน ฆ่าคนมาแล้ว 999 คน และคนสุดท้ายก็เกือบจะเป็น "แม่" ของตนเองด้วยซ้ำไป แต่เมื่อได้ฟังพระวัจนะของพระพุทธเจ้าว่า "..เราหยุดแล้ว แต่ท่านสิ ยังไม่หยุด.." ก็ทำให้องคุลีมานเกิดความละอายต่อบาป และมีความตั้งใจศึกษาในธรรมจนสำเร็จพระอรหันต์ได้......

ขอให้คุณลักค์เข้มแข็งเอาไว้นะครับ ถึงแม้ว่าคุณจะกระทำบาปลงไป แต่บาปนั้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ไม่ได้ซักครึ่งหนึ่งของบาปที่องคุลีมานก่อด้วยซ้ำไป ขอเพียงมีความมานะที่จะเดินทางธรรม จริงอยู่ที่คุณต้องรับผลแห่งกรรมนั้น เช่นเดียวกับองคุลีมาน ที่เมื่อไปบิณฑบาตรที่ไหน ก็ถูกชาวบ้านปาก้อนหินใส่ ถูกด่าทอทุบตี แต่พระองค์ก็ยอมรับในผลแห่งกรรมนั้น จนในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้ แต่คนเราทุกคนต้องมีชีวิตที่ก้าวต่อไปข้างหน้า จะมามัวหมองเพราะอดีตไม่ได้ ขอเพียงคุณมีความอดทน ผมเชื่อนะครับว่าสิ่งต่างๆต้องผ่านไปได้ด้วยดี สู้ๆนะครับ!!

 

เป็นกำลังใจให้คุณลักค์ค่ะ

 

ผมสงสัยคับ ว่าถ้าผู้หญิงบอกว่าท้องแต่ฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะมี แล้วให้ไปทำแทงค์ ฝ่ายชายจะรับกรรมจาที่กระทำทั้งเองได้หรือเปล่าคับ ผมอยากรับกรรมที่ก่อขึ้นเอง

 

แน่นอนครับ ฝ่ายชายก็ต้องรับไปครับ แต่ผลแห่งกรรมนั้นไม่เหมือนบัญชีเงินฝาก มันโอนให้ใครไม่ได้ ทำเองได้ผลเอง ร่วมกันทำก็ได้ผลร่วมกัน อันนี้ผมไม่ได้ซ้ำเติมนะครับ ในเมื่อคุณบอกว่ายังไม่พร้อม แล้วทำไมตอน "บะบะโอบะ" กันถึงไม่สวมใส่ "กรวยชัย" ให้เรียบร้อยล่ะครับ มันไม่มันส์หรอ? แล้วเป็นไงครับทีนี้ เป็นเรื่องเลย แต่ก็เอาเถอะครับ อย่างที่บอกก็คือ ในเมื่อทำกรรมร่วมกัน ก็ชดใช้ด้วยกันครับ ไม่มีใครรับกรรมแทนใครได้ และนี่คือเรื่องจริงที่คุณต้องยอมรับมันให้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกนี้จะไม่มีที่ให้คุณยืน คุณยังต้องก้าวต่อไปอยู่ดีครับ เพียงแต่อย่าไปทำอย่างที่เคยทำมาแล้วกันครับ รักใครก็รักให้จริง และไม่ใช่ว่ารักเพียงแค่ตัวเอง สนองความมันส์ของตัวเองเป็นหลัก แต่พอเกิดอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมาก็ไปทำลาย แบบนั้นมันไม่ถูกต้องนะครับ ไม่หล่อเอาซะเลย ถ้ารักสนุกจริงๆ สวมใส่กรวยชัยเถอะครับ สมัยนี้เขามีแบบบางเฉียบ แทบไม่รู้สึกว่าสวมใส่อยู่เลยครับ แต่ที่มันไม่ต่างจากกรวยชัยทั่วไปเลยก็คือ มันสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ได้แน่ๆครับ เป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันนะครับ ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด เพียงแต่อย่าทำซ้ำๆซากๆ จนจากความผิดพลาดกลายเป็นความเคยชินซะล่ะครับ

 

ขอขอบพระคุณ คุณRed Leaf และสหายธรรมท่านอื่นๆ ณ ที่นี้เอาไว้ด้วยนะครับ เพราะโพสนี้อาจเป็นประโยชน์กับหลายๆคน ที่กำลังมืดมนหนทางอยู่ บางคนกลัวในสิ่งที่ทำ บางคนกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ผิด ไม่ได้รับผลกรรม และไม่ได้บาปด้วยซ้ำ เขาจะได้สบายใจ หรืออาจจะเตือนสติทุกๆคนที่คิดจะทำกรรมนี้ ให้หยุดคิดไปได้ ขอให้ผลบุญแห่งการเสริมสร้างปัญญาในครั้งนี้ จงยังผลให้ทุกๆท่านประสบแต่ความสุขสวัสดีด้วยเทอญฯ

 

แม่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

เห็นใจคุณลักษณ์มากนะ

ดิฉันมีเรื่องอยากถามเหมือนกันคะ..ในกรณีดิฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้ตัวเองท้องคะ..คือเรื่องมีอยู่ว่า แต่ก่อนนั้นดิฉันและแฟนคบกันและได้เสียกันเราป้องกันมาตลอดคะไม่ว่าจะด้วยถุงยางอนามัยหรืออื่นๆ มีอยู่วันหนึ่งแฟนซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ทานคะ ก็ทานตามที่เภสัชกรแนะนำทุกอย่าง ดิฉันแปลกใจมากไม่รู้ว่าทำไมถึงท้องได้ ดิฉันสังเกตตัวเองว่าประจำเดือนไม่มาได้ 1 เดือนก็เลยโทร.หาแฟน แฟนก็ให้ลองตรวจปรากฏว่าดิฉันท้อง ด้วยความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกว่าทำอะไรไม่ถูก แต่แฟนก็บอกว่ายังไม่ต้องทำอะไรรอให้ตนกลับจากตจว.มาก่อน แล้วเค้าก็บอกว่าต้องเอาเด็กออก ไม่อย่างนั้นอนาคตเราสองคนคงจบ
ในใจฉันตอนนั้นก็เสียใจมากที่ต้องทำอย่างนั้น อีกใจก็คิดถึงอนาคตข้างหน้าหากตั้งท้องไม่พึงประสงค์ครั้งนี้คงได้แค่วุฒิการศึกษา ม. 3 แฟนก็คงได้แค่ ม.6
เพื่อนของเพื่อนดิฉันได้แนะนำสถานที่...และแฟนก็เห็นดีกับเขาด้วย
ดิฉันรู้สึกเสียใจมากที่จะต้องทำแบบนี้..ดิฉันได้พูดออกมาว่า"ไม่มีวันที่ฉันจะทำแบบนี้อีก และไม่มีวันที่ฉันจะกลับมาเหยียบสถานที่แบบนี้อีก"
พอกลับมาแฟนก็ไม่สนใจเท่าไหร่ หันไปเล่นเกมส์กับเพื่อนมากกว่า คำว่าขอโทษสักคำยังไม่เคยมีให้ จากนั้นไม่นานเราก็ห่างกันไปดิฉันก็ได้เรียนจนจบป.ตรี เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยค่ะ ซึ่งถือว่ายังดีที่ดิฉันยังประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงานอยู่บ้าง ทุกวันนี้เราสองคนต่างแยกย้ายกันไปมีคนใหม่ดิฉันพยายามติดต่อเค้า เพื่อที่จะพูดให้เค้าได้สำนึกผิดบ้าง...และได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกบ้าง...สำหรับดิฉันก็ได้ตั้งใจไปถือศีล 8 ที่วัดแห่งหนึ่งเป็นเวลา 7 วัน และหมั่นสวดมนต์ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกเป็นประจำ
ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี คิดดี พูดดี ทำดี เสมอมา

ดิฉันอยากทราบว่าที่ดิฉันทำมานั้นดิฉันได้รับผลกรรมทั้งหมดใช่ไหม ส่วนแฟนไม่ได้รับผลกรรมที่ทำมาด้วยหรือ...

ลืมบอกไปอีกอย่างคะว่าก่อนไปถือศีล 8 ดิฉันได้จุดธูปบอกวิญญาณลูกดิฉันว่าได้ตั้งชื่อให้เค้าว่า " กวินภพ" ซึ่งหมายถึง การได้ไปเกิดในชาติภพที่ดี และขอให้เค้าได้อโหสิ ให้ดิฉัน และส่วนบุญกุศลที่ได้ทำมาขอยกให้เค้าทั้งหมด อย่าได้มีเวรมีกรรมกันอีกต่อไปเลย..อยากทราบว่าดิฉันทำถูกหรือไม่คะ

 

ก่อนอื่นท่านผู้ถามต้องยอมรับได้อย่างนี้ก่อนนะครับว่า "บาปกรรมใดทำแล้วร่วมกัน ต้องใช้บาปกรรมร่วมกันจนวันตาย" เขาเองไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกรรมหรอกครับ เขากำลังรับอยู่ เพียงแต่คุณไม่เห็นเท่านั้นเอง คุณเองก็ใช่ว่าจะไม่ต้องรับผลนั้นนะครับ เพียงแค่คุณประสบความสำเร็จ ในเรื่องการเรียน และการทำงาน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ชีวิตคุณจะราบรื่น หรือง่ายดายเหมือนคนอื่นนะครับ เพราะชีวิตคนเราไม่ได้จบที่เพียง การเรียนจบ หรือได้งานดีๆ แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้นอีกเยอะแยะครับ ดังนั้น คุณต้องดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท อันนี้สำคัญโฮกๆ เพราะไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น คุณก็ต้องเข้มแข็ง และมีสตินะครับ จะได้ผ่านมันไปได้

ส่วนเรื่องที่คุณปฏิบัติ และอุทิศให้ลูกคุณ ถามว่าได้รับไหม ได้รับแน่ครับ เพราะการทำบุญย่อมได้ผลเป็นบุญ ผลบุญนั้นเราอุทิศได้ แต่ผลบาปนั้นแตกต่าง เราอุทิศบาปให้ใครไม่ได้ แต่เขาจะอโหสิกรรมให้ หรือไม่ เรื่องนี้คงต้องดูที่ชีวิตคุณเองแล้วครับ ว่ามันดีกว่าเดิมหรือจมดิ่งกว่าเดิม แต่ก็ไม่มีผลเท่าใดหรอกครับ เพราะบาปที่คุณกระทำคือการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต สิ่งที่ตามรังควานคุณที่จริงแล้วคือ ผลบาป ไม่ใช่ วิญญาณ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะอโหสิให้คุณ กลายมาให้โชคให้ลาภ ให้คุณแก่คุณ แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณลาโลกนี้ไป ก็ต้องไปชดใช้กันอีกทีนะครับ

แต่ยังไงเสีย ก็หมั่นทำดีเอาไว้มากๆ ความดีนี่แหละ จะเป็นเจ็ทเทอร์โบ ที่จะพาคุณวิ่งแซงแรงกรรมได้ จะมากจะน้อย จะเร็วจะช้า ก็ขึ้นอยู่กับความแน่วแน่ และพลังธรรมในจิตใจคุณ จะเป็นเครื่อง J หรือเป็นได้แค่เครื่อง คูโบต้า ก็สุดแล้วแต่กำลังใจของคุณเถิด

 

ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต

ดิฉันยอมรับและสำนึกทุกอย่างและพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการมีสติค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้ข้อคิดแก่ดิฉัน

ดิฉันทราบดีคะว่าชีวิตมันก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต...หากแต่รอเวลาเท่านั้นเอง
ที่ดิฉันต้องได้รับผลกรรมที่ดิฉันกระทำลงไปในเร็ววัน...

 

อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิครับ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว มามัวแต่เผาตัวเองด้วยนรกในใจแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีความสุขล่ะครับ คนเราไม่มีใครที่ไม่ตายหรอกครับ แต่ไม่มีอะไรมากำหนดการตายของเราได้ มีเพียงกรรมเท่านั้นที่กำหนด และกรรมนั้นคือเราเป็นผู้ก่อ ไม่ใช่จากอำนาจของภูติ ผี ปีศาจ เทวดา มาร หรือพรหมใดหรอกครับ ถ้าถึงวันที่คุณตาย ก็คือคุณหมดอายุขัยเพียงเท่านั้น จริงอยู่ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต แต่กับคนที่สำนึกผิด และกลับใจ ฟ้าดินย่อมเห็นใจครับ ในเมื่อทำผิดพลาดไปแล้ว ทางที่ดีที่สุดก็คือ ไม่กลับไปเริ่มต้นความผิดนั้นซ้ำอีก และมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันครับ

 

กฏแห่งกรรม คือ ทำอะไรก็ได้เช่นนั้น แล่ะครับ

 

ผมเชื่อว่าถ้าคุณลักค์ คุณกัสซุ มีความสำนักผิดที่จริงใจ พวกน้องๆเขาต้องให้อภัยแน่นอน ส่วนเรื่องกรรมเวรอย่างไรนั้นก็คงต้องได้รับ จะมากหรือน้อยแค่ไหนอยู่ที่กุศลที่พวกคุณจะสร้างและอุทิศให้น้องๆเขา อดีตไม่ต้องเอามาคิดให้บั่นทอนจิตใจ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อะไรที่เป็นบุญกุศลทำแล้วให้อุทิศให้น้องเขาก่อนอื่นทุกครั้ง ผมจะเล่าเรื่องของคนที่รู้จักให้ฟัง มีผู้ชายคนหนึ่งสมมุติชื่อว่าโตนะ โตแต่งงานแล้วมีลูกชาย 1 คน บังเอิญภรรยาประสบอุบัติเหตุไม่ตายแต่สมองไม่เหมือนเดิม จากคนสวยกลายเป็นคนเอ๋อ แต่ช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง โตก็เลยห่างๆกับภรรยาไป ลูกชายอายุได้ประมาณ 12 ปี โตก็ได้สนิทกับอ้นสาวใกล้บ้าน จนมีความสัมพันธ์กันจนอ้นตั้งท้อง อ้นก็บอกโตเรื่องนี้แต่โตกลับบอกไม่พร้อม บอกปัดตีตัวออกห่างหาว่าอ้นโกหก อ้นหาทางออกโดยการกินยาฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตายทันทีออกจากโรงพยาบาลญาติพาไปรักษาที่วัดแห่งหนึ่ง อยู่ได้ 2 วันก็ตาย พระที่รักษาบอกว่าท้องแน่นอน เพราะท่านเห็นเด็ก ท่านเลยถามอ้นตอนรักษาว่าท้องใช่ไหม อ้นยอมรับว่าท้อง เผาศพอ้นแล้ว ปรากฏว่าโตไปช่วยงานศพแต่ก็ไม่ยอมรับว่าอ้นท้อง ยังบอกกับแม่ตัวเองว่าอ้นโกหก ใส่ร้ายโตให้ดูเลวร้าย เชื่อไหมโตไม่ยอมรับว่าทำอ้นท้องแล้วไม่รับผิดชอบ เอาดีเข้าตัวโดยหาว่าอ้นโกหก ปัจจุบันโตกลายเป็นคนติดเหล้า อาการเพี้ยนขึ้นทุกวันจนต้องไปบวช สึกออกมายิ่งกว่าเก่าอีก จนต้องมาเล่าให้คนอื่นฟังว่า ขนาดไปบวชพระ ตอนเช้าสวดมนต์เสร็จตอนแผ่เมตตาอุทิศบุญ เสียงเด็กร้องไห้จ้าเลย พระพี่เลี้ยงมาช่วยอุทิศบุญช่วยเด็กยังไม่ยอมเลย ร้องไห้ทุกเช้าจนกระทั่งสึก ผมฟังแล้วคิดนะว่าเด็กคงโกธรมากที่ทำกับเขาและแม่แบบนี้ การไม่สำนีกผิดที่แท้จริงจะไม่มีผลในการอุทิศบุญแน่นอน ถึงหนีไปบวชก็ไม่ช่วยอะไร ผมคิดว่าถ้าโตสารภาพผิด ยอมรับผิดว่าตัวเองผิดต่อหน้าแม่ตัวเองและแม่ของอ้น ตลอดจนคนอื่นๆ เชื่อว่าอ้นและลูกคงจะมีความสุขแน่นอน เพราะถูกใส่ร้ายแบบนี้คงจะเสียใจมาก ท้องแล้วผู้ชายไม่รับก็อายอยู่แล้ว