พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อเดือนที่แล้ว มีพระภิกษุผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ที่น้องปฐมได้นำพระวังหน้าไปถวายท่าน

    ท่านฝากน้องปฐมบอกกับผมว่้า ในเดือนหน้า ให้ระวังภัยทางน้ำ ผมก็รับทราบและบอกกับน้องปฐมว่า จะไม่ประมาท

    เมื่อวานนี้ ผมไปปากคลองตลาด ไปประสบอุบัติเหตุ ข้อเท้าพลิก(กลางคืนต้องไปโรงพยาบาล)

    วันนี้ ผบทบ.ผม นำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆเขาฟัง บอกว่า มีพระภิกษุบอกกับผมว่า ห้ามไปและให้ระวังภัยทางน้ำ แต่สุดท้าย ตายน้ำตื้น ไปปากคลองตลาด( นี่ก็ใกล้น้ำ แถมชื่อก็เกี่ยวกับน้ำ)

    ผมก็เลยบอก ผบทบ.ผมว่า คราวหน้า หากท่านทักในลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นปากคลองตลาด , ปากคลองภาษีเจริญ , สมุทรปราการ , สมุทรสงคราม หรือสมุทรสาคร ก็ต้องไม่ไปเหมือนกัน อิอิ


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “กะทิสด” รสเด็ดขนมไทย หอมชื่นใจ หวานอร่อย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">12 มิถุนายน 2554 14:35 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : ผ่านมาแวะกิน (travel_astvmgr@hotmail.com)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศในร้านกะทิสด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> “ผ่านมาแวะกิน” พาไปชิมอาหารคาว ข้าว ก๋วยเตี๋ยว หมุนเวียนเปลี่ยนไปมาหลากหลายร้านแล้ว มื้อนี้เลยอยากจะพาไปล้างปากกับของหวานกันบ้าง มากันที่ร้าน “กะทิสด”ที่นำเสนอขนมหวานแบบไทยๆ แสนอร่อย ที่มีหน้าตาและสีสันชวนลิ้มลอง

    ร้าน “กะทิสด” เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว เป็นร้านขนมหวานไทยๆ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ “กะทิ” ซึ่ง จะแตกต่างจากร้านอื่นตรงที่เป็นลักษณะของกะทิคั้นแห้งไม่ได้ผสมกับน้ำ จึงทำให้ได้หัวกะทิแบบเน้นๆ และได้กลิ่นหอมของกะทิมากกว่า ซึ่งมะพร้าวกะทิที่จะนำมาทำน้ำกะทินั้นก็คัดสรรมาเป็นอย่างดี และนำมาทำกันสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน ทำให้ได้ขนมหวานแบบคุณภาพ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ทับทิมกรอบสยาม</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ถ้าจะลองชิมกะทิหวานอร่อยของที่นี่ ก็ต้องสั่งเมนูแนะนำ ทับทิมกรอบสยาม (ถ้วยละ 30 บาท) สีแดงน่ากิน ที่จะใช้แห้วเป็นวัตถุดิบหลัก นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วห่อด้วยแป้งสูตรเฉพาะของทางร้านได้ออกมาเป็นทับทิมกรอบสยามที่กรอบข้าง ใน ข้างนอกแป้งบางนุ่ม ไม่ร่วน ไม่หนามากไป เสิร์ฟมาพร้อมกับแห้ว มะพร้าวกะทิ และชิ้นขนุน ราดด้วยกะทิสดหวานมันหอม โปะด้วยน้ำแข็งปั่นละเอียดจนเกือบจะเป็นเกล็ด ทำให้ได้ความเย็นชื่นใจเพิ่มขึ้น

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ทับทิมกรอบเผือกหอม</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นอกจากทับทิมกรอบสยามแล้ว ก็ยังมีอีกสองเมนูทับทิมที่น่าลิ้มลอง คือ ทับทิมกรอบเผือกหอม (ถ้วยละ 30 บาท) โดยถ้วยนี้จะเลือกใช้เผือกหอมมาแทนแห้ว เผือกหอมที่ได้ก็นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ห่อด้วยแป้ง ผสมกับสีผสมอาหารสีม่วง และในถ้วยก็จะมีแห้ว ขนุน และมะพร้าวกะทิด้วย ซึ่งมะพร้าวกะทินั้นก็จะนำมาหั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปเชื่อมกับน้ำตาลอีกเล็ก น้อยเพื่อให้ได้ความหวานซึมเข้าเนื้อ ลองชิมแล้วทั้งหนึบทั้งหอมมันส่วนตัวทับทิมกรอบเผือกหอมก็จะนุ่มๆ หนึบๆ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ทับทิมกรอบมัน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อีกถ้วยก็คือ ทับทิมกรอบมัน (ถ้วย ละ 30 บาท) ที่ใช้มันญี่ปุ่นมาแทนแห้วและเผือกหอม ถ้วยนี้ก็จะนุ่มๆ เด้งๆ ได้รสชาติแตกต่างจากแห้วและเผือกหอม ส่วนเครื่องเคราอื่นๆ ก็ใส่มาเหมือนๆ กับอีกสองถ้วย และได้ความหอม หวาน มัน จากกะทิสดเหมือนกัน

    หรือถ้าอยากจะลองชิมทับทิมกรอบทั้งสามแบบก็ต้องสั่ง ทับทิมกรอบแฟนซี (ถ้วยละ 30 บาท) ที่จะได้ชิมครบทุกอย่าง หรือจะสั่ง ทับทิมกรอบใส่ลูกมะพร้าว (ลูกละ 40 บาท) และยังมี ทับทิมกรอบเกล็ดหิมะกะทิสด (ถ้วยละ 40 บาท) ที่จะนำตัวกะทิสดไปแช่แข็งแล้วนำออกมาปั่นเป็นเกล็ดหิมะ ใช้แทนกะทิสดที่เป็นน้ำ ได้รสชาติหวานหอมเย็นจับใจยิ่งกว่า

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ทับทิมกรอบใส่ลูกมะพร้าว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> หรือจะลองชิม เกล็ดหิมะนมสด (ถ้วยละ 40 บาท) ที่จะเป็นน้ำแข็งเกล็ดหิมะราดด้วยน้ำแดง น้ำเขียว หรือน้ำองุ่น แล้วตามด้วยเครื่องต่างๆ ทั้ง ถั่วแดง เผือก มัน สับปะรด และวุ้นมะพร้าว ทอปปิ้งด้วยไอศกรีมกะทิ โรยหน้าด้วยซีเรียลเพิ่มความกรุบกรอบ ไอศกรีมหวานมันหอมชื่นใจ คู่กับน้ำแข็งเกล็ดหิมะหวานๆ และเครื่องเคียงหลายอย่างก็เข้ากันดี เหมาะกับช่วงที่อากาศร้อนๆ หรือตอนที่กำลังร้อนอกร้อนใจ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ทับทิมกรอบเกล็ดหิมะกะทิสด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นอกจากขนมหวานที่ได้ลองชิมไปแล้ว ทางร้านก็ยังมีขนมหวานไทยๆ อีกหลายชนิดให้มาเลือกกัน อาทิ ลูกตาลมะพร้าวกะทิ (30 บาท) ผลไม้ลอยแก้ว (กระปุกละ 35 บาท, 3 กระปุก 100 บาท) วุ้นฟรุ๊ตสลัด (35 บาท) วุ้นลูกชุบ (35 บาท) ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ฯลฯ ที่จัดเรียงอยู่ในตู้เย็นที่ทางร้านเรียกว่าป่าขนมหวานไทย (กระปุกเล็ก 20 บาท / กระปุกใหญ่ 35 บาท, 3 กระปุก 100 บาท) และยังมีสารพัดน้ำที่ทางร้านทำเอง เช่น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย ใบเตย กีวี เป็นต้น (ขวดละ 15 บาท)

    ตามมาลองลิ้มชิมรสชาติขนมหวานไทยๆ กับกะทิสดหอมหวานมันอร่อยแบบนี้กันได้ที่ร้าน “กะทิสด” ใน ซ.แจ้งวัฒนะ 14 กะทิสดอร่อยสมชื่อร้านแบบนี้ กินกันจนลืมอิ่มเลยทีเดียว

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เกล็ดหิมะนมสด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “กะทิสด” ตั้ง อยู่ที่ 29/5-6 ซ.แจ้งวัฒนะ 14 (ซ.บิ๊กซี) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกหลักสี่ ให้วิ่งตรงมาบน ถ.แจ้งวัฒนะ ฝั่งที่จะไปปากเกร็ด ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกคลองประปา ให้กลับรถแล้วตรงมาจนถึงห้างบิ๊กซี แล้วเลี้ยวเข้าซอยด้านข้างห้าง (ซ.แจ้งวัฒนะ 14) ตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ติดริมถนน มีป้ายให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ด้านหน้าร้าน ทางร้านรับออกงานภายนอก และรับสั่งทำกระเช้าขนม ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.30-22.00 น. โทร.0-2573-6071-2, 08-6620-4953

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้านกะทิสด</td></tr></tbody></table>


    [​IMG] <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : กะทิสด

    ประเภทอาหาร : ขนมหวานไทยๆ

    เมนูจานเด่น : ทับทิมกรอบสยาม,ทับทิมกรอบเผือกหอม,ทับทิมกรอบมัน,ทับทิมกรอบใส่ลูกมะพร้าว,ทับทิมกรอบเกล็ดหิมะกะทิสด,เกล็ดหิมะนมสด

    บรรยากาศร้าน : ห้องแถวโปร่งๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 29/5-6 ซ.แจ้งวัฒนะ 14 (ซ.บิ๊กซี) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกหลักสี่ ให้วิ่งตรงมาบน ถ.แจ้งวัฒนะ ฝั่งที่จะไปปากเกร็ด ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกคลองประปา ให้กลับรถแล้วตรงมาจนถึงห้างบิ๊กซี แล้วเลี้ยวเข้าซอยด้านข้างห้าง (ซ.แจ้งวัฒนะ 14) ตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ติดริมถนน มีป้ายให้เห็นชัดเจน

    สถานที่จอดรถ : จอดรถได้ด้านหน้าร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.30-22.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร.0-2573-6071-2, 08-6620-4953



    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000070582-

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000070649-

    .

    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9540000070649

    .
     
  3. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    เรื่องอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดแน่นอนครับผม ความไม่ประมาทดีที่สุดครับผม
     
  4. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    ขอให้หายไวไวนะครับ (งานใหญ่รออยู่ครับ)
     
  5. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ ครับ สมาชิกทุกท่าน
     
  6. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    จูบสัตว์เลี้ยงระวัง ‘ตาอักเสบ’!?

    วันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    สุนัขและแมว ต่างก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่คนเราเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อน คลายเหงา คลายเครียด เจ้าของบางคนใส่ใจดูแลเป็นพิเศษราวกับเป็นลูกหลาน จึงไม่แปลกที่จะแสดงความรักด้วยการสัมผัสใกล้ชิด หอมกอด คลอเคลียใกล้ๆ บริเวณใบหน้า ด้วยความรักบางทีก็มีจูจุ๊บกันบ้าง ซึ่งการสัมผัสที่ใกล้เกินไปแบบนี้เองที่สามารถทำให้เจ้าของเกิดอาการตาอักเสบได้ และไม่ว่าจะรู้สาเหตุที่แท้จริง หรือไม่คิดโทษสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ‘มุมสุขภาพ’ มีคำอธิบาย

    โรคร้ายที่แฝงมากับความรู้สึกดีๆ ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงที่มักจะสัมผัสใกล้ชิดนั่นคือ แบคทีเรีย พาสตูเรลลา เพสติส เชื้อโรคที่อยู่ในช่องปากของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ติดได้ทางน้ำลายและทางลมหายใจของสัตว์ เช่น หากผิวหนังของคนเรามีแผล หรือรอยข่วน แล้วสุนัขหรือแมวมาเลียแผล เชื้อดังกล่าวก็จะเข้าไปทางกระแสเลือด ทั้งนี้การติดเชื้อที่พบได้บ่อย คือ การกอด การหอม สุนัขหรือแมวอย่างใกล้ชิด ทำให้คนเราสูดลมหายใจของสัตว์เลี้ยงเข้าไป

    คนที่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงมากๆ แทบทุกคนได้รับเชื้อ แต่บางคนเชื้อพาสตูเรลลา เพสติส เข้าสู่ร่างกายแล้วไม่ทำให้ล้มป่วย จะเรียกว่า ภาวะฟลอร่า หรือเชื้อที่เป็นผู้อาศัยแต่ไม่ทำอันตรายร่างกาย

    ตรงกันข้าม หากเจ้าของร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันต่ำ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือป่วยด้วยโรคต่างๆ อยู่แล้ว เชื้อนี้สามารถทำให้ป่วย โดยเริ่มจากมีอาการคล้ายคนเป็นหวัด ไอ จาม คัดจมูก และมักจะทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่าเป็นเพียงโรคหวัด จึงรักษาตัวตามอาการที่ปรากฏด้วยการกินยาแก้หวัดแล้วพักผ่อน

    ทว่าไม่นานอาการจะยิ่งรุนแรง เช่น มีอาการไอหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถนอนหลับได้ ที่สุดก็ต้องไปพบแพทย์และมักตรวจพบการอักเสบรุนแรงที่ปอด หลอมลม รวมไปถึงบริเวณดวงตา ทำให้บวมและอักเสบ เนื่องจากเชื้อโรคชนิดนี้แพร่เข้าไปยังอวัยวะดังที่กล่าว

    อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อชนิดนี้จากสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาเพนนิซิลิน เตตร้าไซคลิน และไม่ใช่โรคที่รุนแรงถึงขั้นทำเสียชีวิต นอกเสียจากผู้ป่วยมีโรคร้ายแรงอื่นๆ คุกคามสุขภาพอยู่ด้วย

    หากรู้ตัวว่ากำลังไม่สบาย อ่อนเพลีย ควรเว้นระยะห่าง เลี่ยงการใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงในระยะหายใจรดกันเสียหน่อย อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันเชื้อพาสตูเรลลา เพสติส ทำให้เจ้าของยิ่งป่วยไปกันใหญ่ รอให้แข็งแรงเต็มที่ แล้วจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันก็ตามสบาย.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  7. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    หายไวไวนะครับคุณหนุ่ม
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รูปผมส่งให้ทุกๆท่านทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]

    ท่านที่แจ้งความประสงค์ร่วมทำบุญ ได้โอนเงินร่วมทำบุญมาแล้ว 1 ท่าน จำนวนเงิน 1,500 บาท

    และมีอีก 1 ท่านที่แจ้งความประสงค์ขอร่วมทำบุญเพิ่มเติมมาและโอนเงินร่วมทำบุญจำนวน 1,000 บาทแล้วครับ

    โมทนาบุญทุกประการ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a-r .JPG
      a-r .JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.8 KB
      เปิดดู:
      229
  9. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คุณดื่มน้ำน้อยไปหรือเปล่า / เอมอร คชเสนี</TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย เอมอร คชเสนี</TD><TD class=date vAlign=center align=left>3 มิถุนายน 2554 11:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=267 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=267>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อรับชมและฟัง ในรูปแบบ Photo Slide Show

    คนเราสามารถอดอาหารได้นานเป็นเดือน แต่ถ้าขาดน้ำเพียงแค่ 3 วันก็ไม่รอดแล้ว น้ำมีความสำคัญต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างมาก เคยสังเกตไหมว่าในแต่ละวันคุณดื่มน้ำปริมาณมากน้อยแค่ไหน นักโภชนาการลงความเห็นว่า ปัจจุบันคนเมืองส่วนใหญ่ดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย บางคนให้เหตุผลว่าน้ำเปล่าไม่ซ่า ไม่หวาน ไม่อร่อย เหมือนน้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือชา กาแฟ ทำอย่างไรเราจึงจะดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นในแต่ละวัน

    ความต้องการน้ำของแต่ละคนจะต่างกันไปตามอายุ ขนาดของร่างกาย กิจกรรมที่ทำ สภาพแวดล้อม และสภาวะของร่างกาย เด็กจะต้องการน้ำมากกว่าผู้ใหญ่ สภาวะบางอย่างก็ทำให้ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้น เช่น มีไข้ อาเจียน ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ เป็นต้น

    คำแนะนำสำหรับคนทั่วไปก็คือ ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว นี่ถือว่าเป็นปริมาณน้อยแล้วถ้าเทียบกับสารพัดสูตรที่ออกมาใหม่ว่าให้ดื่มน้ำวันละเท่านั้นเท่านี้ การดื่มน้ำมากๆ ไม่เป็นผลดีสำหรับทุกคนเสมอไป แต่การดื่มน้ำน้อยเกินไป ก็ไม่ใช่ผลดีเช่นกัน

    บางคนอาจจะไม่ชินที่ต้องพยายามดื่มน้ำให้ได้ตามปริมาณที่แนะนำ และดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แรงจูงใจในการดื่มน้ำให้ได้เพียงพอในแต่ละวันก็คือ ต้องไม่ลืมนึกถึงผลเสียที่จะตามมาหากร่างกายขาดน้ำ

    เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณดื่มน้ำให้ได้มากขึ้นในแต่ละวัน มีดังนี้

    - เมื่อตื่นนอนคุณมักจะกระหายน้ำ เป็นโอกาสดีที่จะดื่มน้ำตอนที่กำลังรู้สึกกระหาย เพราะคุณจะดื่มได้มากโดยไม่ลำบากเลย นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายอีกด้วย

    - อย่าดื่มน้ำเฉพาะเวลาที่รู้สึกกระหาย แต่ให้ดื่มทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ เพราะหากรอให้กระหายน้ำก่อน นั่นแสดงว่าร่างกายของคุณเริ่มขาดน้ำแล้ว

    - ไม่จำเป็นต้องดื่มครั้งเดียวให้หมดแก้ว ให้ใช้วิธีจิบทีละนิด แต่จิบบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน จะไม่ทำให้รู้สึกจุกหรือปวดปัสสาวะหลังจากดื่มน้ำ

    - หาขวดน้ำและแก้วน้ำวางไว้ใกล้ๆ ตัว โดยเฉพาะเวลาทำงาน จะช่วยให้คุณดื่มน้ำได้สะดวกขึ้น จะได้ไม่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมดื่มน้ำ

    - หากวางน้ำไว้ใกล้ตัวแล้วยังลืมอีก อาจจะลองใช้วิธีตั้งนาฬิกาเตือนให้ดื่มน้ำทุกๆ ชั่วโมง

    - หากไม่ชอบรสชาติจืดชืดของน้ำเปล่า ลองบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยก่อนดื่ม เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำเปล่า

    - หากคุณดื่มชากาแฟปริมาณมาก วันละหลายๆ แก้ว ก็ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นเพื่อชดเชยน้ำในร่างกายที่อาจจะสูญเสียไปจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เนื่องจากกาเฟอีนปริมาณมากมีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย

    - ทุกครั้งที่เสียเหงื่อจากการทำงานหรือการออกกำลังกาย อย่าลืมดื่มน้ำชดเชยกับที่ร่างกายต้องสูญเสียไป

    - เมื่ออยู่กลางแดดหรืออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ควรดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปเช่นกัน

    - หากรู้สึกหนาว ควรดื่มน้ำอุ่นก่อนที่จะนึกถึงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น น้ำอุ่นจะช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมได้

    - น้ำช่วยลดความอยากอาหารลงได้ บางครั้งเมื่อเรานึกอยากกินอะไร มันอาจเป็นแค่ “ความอยาก” ไม่ใช่ “ความหิว” ดังนั้น ใครที่อยากลดน้ำหนัก หากรู้สึกหิวระหว่างมื้อ ลองดื่มน้ำเปล่าแทนก่อน ความอยากนั้นอาจจะหายไป

    - ดื่มน้ำเปล่าไม่ทำให้อ้วนเหมือนน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาหรือกาแฟ เพราะน้ำเปล่าไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลที่อาจจะสะสมเป็นส่วนเกินในร่างกาย

    - น้ำเปล่าช่วยให้ผิวสวย เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเซลและเนื้อเยื่อในร่างกาย การดื่มน้ำจะช่วยชดเชยน้ำที่สูญเสียไป ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวแห้งง่าย

    - ดื่มน้ำเปล่าช่วยไม่ให้ท้องผูก เพราะน้ำจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น อุจจาระไม่แข็งและไม่ต้องเบ่งจนทำให้เป็นริดสีดวงทวาร

    - น้ำเปล่าราคาถูกกว่าน้ำดื่มอื่นๆ แถมบางแห่งมีบริการฟรีอีกด้วย

    - หมั่นตรวจดูปัสสาวะของตัวเอง หากปัสสาวะใสดี แสดงว่าร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่หากปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม แสดงว่าคุณดื่มน้ำน้อยเกินไปแล้ว

    คุณอาจจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำได้อย่างทันทีทันใด จากคนที่ดื่มน้ำน้อย มาดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อค่อยๆ ปรับพฤติกรรม เริ่มจากการดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้าทุกวันจนเป็นนิสัย จากนั้นค่อยๆ เพิ่มปริมาณการดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้นจนกลายเป็นกิจวัตร เมื่อคุณดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอ จะรู้สึกได้เลยว่าสุขภาพของคุณดีขึ้น
    ที่มา manager online

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ

    ตอนนี้อาการปวด ยังมีอีกนิดหน่อยเท่านั้นครับ

    คาดว่า พรุ่งนี้ น่าจะไม่มีอาการปวดแล้ว

    ผมใช้ยาพ่นของคุณPink civil และ ถุงเท้า(ที่ช่วยเรื่องของกล้ามเนื้อ) เพิ่มเติมจากยาของโรงพยาบาลครับ

    วันนี้ ผมเองก็มาทำงานตามปกติ แต่พยายามไม่เดินมากครับ

    .
     
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คนไทยอายุยืนขึ้น ขณะสัดส่วนแม่วัยรุ่นเพิ่ม 3 เท่า </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 มิถุนายน 2554 02:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เผยคนไทยอายุยืนขึ้น ชาย 69.5 ปี หญิง 76.3 ปี สอดคล้องอัตราการตายของวัยแรงงานลดลงเหลือ 3.2% ต่อพันคน เหตุ คนไทยสุขภาพดีขึ้น คนจนเข้าถึงบริการสุขภาพมากขึ้น แต่การควบคุมโรคเรื้อรังยังน่าห่วง สลด สัดส่วนแม่วัยรุ่นเพิ่มเกือบ 3 เท่า แถมอายุน้อยลง อยู่ที่ 10-14 ปี

    รศ.ดร.ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะบรรณาธิการหนังสือรายงานสุขภาพคนไทย 2554 กล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำรายงานสุขภาพคนไทย 2554 โดยใช้ข้อมูลการสำรวจสุขภาพคนไทยโดยการตรวจร่างกายปี 2551-2552 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และข้อมูลจากแหล่งต่างๆ โดยรายงานนี้ใช้กรอบตัวชี้วัดสุขภาพแห่งชาติ 12 หมวด ประกอบด้วยหลายมิติ เช่น สุขภาพกาย สุขภาพจิต พฤติกรรมสุขภาพ ความมั่นคง การเข้าถึงบริการสุขภาพ เป็นต้น โดยรวมพบว่า แนวโน้มคนไทยมีสุขภาพดีขึ้น แต่ยังมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ คนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไป มีภาวะอ้วนและอ้วนลงพุง 34.7% และ 32.1% ขณะที่สัดส่วนแม่วัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า จาก 5.6% ในปี 2501 เพิ่มเป็น 15.5% ในปี 2551 โดยเฉพาะกลุ่มแม่วัยรุ่นอายุ 10-14 ปี มีอัตราการคลอดบุตรเพิ่มมากขึ้น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ด้านสุขภาพจิต พบว่า คะแนนเฉลี่ยสุขภาพจิตและความสุขในการดำรงชีวิตสูงขึ้น เห็นได้จากอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จลดลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจาก 8.6% ต่อประชากรแสนคน ลดเหลือ 5.7% ต่อประชากรแสนคน ด้านความมั่นคงของสังคม ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ถือว่าช่องว่างทางเศรษฐกิจคนไทยอยู่ในระดับสูงและไม่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง กลุ่มคนรวยมีรายได้ 54-59% ของรายได้รวมทั้งประเทศ ในขณะที่กลุ่มคนจนมีรายได้รวมร้อยกว่า 5% กลุ่มคนรวยที่สุดจึงมีรายได้เฉลี่ยมากกว่ากลุ่มคนจนที่สุดถึง 11.3 เท่า” รศ.ดร. ชื่นฤทัย กล่าว

    ดร.ทพ.ญ.กนิษฐา บุญธรรมเจริญ สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการคาดการณ์ในปี 2554 คนไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น เพศชายอยู่ที่ 69.5 ปี เพศหญิงอยู่ที่ 76.3 ปี สอดคล้องกับอัตราเสียชีวิตของวัยแรงงานมีแนวโน้มลดลง เฉลี่ยอยู่ที่ 3.2% ต่อประชากรพันคน จาก 10 ปีที่แล้ว อยู่ที่ 4.1% สาเหตุที่คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้นเพราะคนไทยมีสุขภาพดีขึ้น เข้าถึงบริการสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุยังมีอัตราสูง ต้องเร่งหามาตรการป้องกันและแก้ไขต่อไป

    นพ.ถาวร สกุลพาณิชย์ สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย สวรส. กล่าวว่า คนไทยมีรายจ่ายด้านสุขภาพอยู่ที่ 3.5-4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เมื่อพิจารณาเรื่องความเป็นธรรมและการเข้าถึงบริการสุขภาพ พบว่า การที่ประเทศไทยมีหลักประกันสุขภาพ ถ้วนหน้า(บัตรทอง) ช่วยแก้ปัญหาความยากจนได้ในระดับหนึ่ง โดยมีจำนวนครัวเรือนที่ยากจนจากค่าใช้จ่าย ในการรักษาพยาบาลลดลงจาก 280,000 ครอบครัวในปี 2543 เหลือ 88,000 ครัวเรือนในปี 2551 และลดลง ในทุกภาคของประเทศ โดยภาคอีสานลดลงมากที่สุด ขณะที่การวิเคราะห์คุณภาพและประสิทธิภาพของระบบ บริการสุขภาพ พบว่า การรักษาโรคให้ผู้ป่วยในมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่การรักษาโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกยังมี ประสิทธิภาพการรักษาต่ำเห็นได้จากการมีผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลด้วยสาเหตุ โรคแทรกซ้อน เฉียบพลันจากโรคเรื้อรังที่รักษาแบบผู้ป่วยนอกมากขึ้น เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจวาย หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ลมชัก เป็นต้น แม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการวินิจฉัยมากขึ้น แต่การดูแลควบคุม โรคเรื้อรัง ไม่ให้เกิดภาวะ แทรกซ้อนกลับทำได้ต่ำ
    ที่มา manager online
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ดีครับผมทุกท่าน หวังว่าจะสบายดีกันทุกคนนะครับผม
    ส่วนผมวันนี้ไปหาหมอ เนื่องจากโดนแมว เลือดออก แต่ไปหาหมอช้า ต้องฉีดเซรุ่มนอกจากวัคซีน เลยไปที่สถานเสวภา โดยไป 5 เข็ม อิอิ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แค่เข็มเดียวก็แย่แล้ว นี่ตั้ง 5 เข็ม ไม่ไหว


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    4.8 KB, ดาวน์โหลด 21 ครั้ง

    วันนี้ 11:31 AM


    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เห็นแล้วอยากทาน แต่ไม่อยากเป็นเจ้าของงาน เดี๋ยวงานเข้า อิอิ




    ...................................

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ จากผลไม้




    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ลองมาดู เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ ที่นำเอาผลไม้มาประดับตกแต่งและเป็นส่วนหนึ่งของ เค้กแต่งงาน หรือที่เรียกกันว่า Fruit cake เพราะส่วนใหญ่คู่บ่าวสาวมักนิยมจะเลือก เค้กแต่งงาน ที่นำครีมและน้ำตาลมาปั้นแต่งเป็นรูปร่างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ สัตว์ ฯลฯ เพื่อประดับตกแต่งหน้า เค้กแต่งงาน

    ซึ่งจริง ๆ แล้ว เค้กแต่งงาน ยังมีผลไม้รสชาติเยี่ยม ที่เหมาะจะ้เป็นส่วนผสมใน เค้กแต่งงาน แถมจะนำมาตกแต่งก็สวยไม่แพ้ครีมหรือน้ำตาลเลย อีกทั้งไม่จำเป็นต้องก้อนใหญ่อลังการ มีหลาย ๆ ชั้นเรียงกันก็ได้ เพราะคุณสามารถเนรมิตให้มันออกมาในแบบที่คุณทั้งคู่ชอบ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความสูงของ เค้กแต่งงาน ซึ่งวันนี้กระปุกเวดดิ้งจึงนำเอา เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ ที่ทำจากผลไม้มาให้ชมกันด้วย

    [​IMG]

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    [​IMG]

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    [​IMG]

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    [​IMG]

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    [​IMG]

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    [​IMG]

    เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ

    [​IMG]


    -http://women.kapook.com/view27005.html-

    แต่งงาน เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงานสวยๆ



    .
     
  17. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    รักษาสุขภาพนะ คุณ Lee_bangkok
     
  18. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีเช้าวันอังคาร ฝนตกแต่เช้าเลยครับ ระวังสุขภาพกันนะครับ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตรียมชม “จันทรุปราคาเต็มดวง” ครั้งแรกในรอบ 4 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 มิถุนายน 2554 00:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ดวงจันทร์จะเปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐเมื่อจันทรุปราคาเต็มดวง (สดร.)</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพดวงจันทร์ระหว่างเกิดจันทรุปราคาตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดปรากฏการณ์ (สดร.)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพปรากฏดวงจันทร์ในเงามืด (เทาเข้ม) และเงามัว (เทาอ่อน) ระหว่างเกิดจันทรุปราคา (สดร.)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ตำแหน่งดวงจันทร์บนท้องฟ้าขณะเกิดจันทรุปราคา </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจำลองขณะดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชี ถูกดวงจันทร์บัง โดยผู้สังเกตใน จ.เชียงใหม่และกรุงเทพฯ จะเห็นปรากฏการต่างกัน (สดร.)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ตารางแสดงเวลาเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบังดาวฤกษ์ (สดร.)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ย่ำรุ่งวันที่ 16 มิ.ย.นี้จะเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ในรอบ 4 ปี และยังมาพร้อมปรากฏการณ์พิเศษอย่างการบังดาวฤกษ์ระหว่างเกิดคราสซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก อีกทั้งปรากฏการณ์นี้ยังเกิดขึ้นขณะที่ดวงจันทร์กำลังเคลื่อนผ่านใจกลางทางช้างเผือกด้วย

    จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กล่าวว่ามีความพิเศษเพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดคราสเต็มดวงนานเกิน 100 นาที และระหว่างเกิดคราสดวงจันทร์ยังเคลื่อนผ่านใจกลางทางช้างเผือกด้วย อีกทั้งยังเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่คนไทยจะได้ชมอีกด้วย โดยปีนี้มีปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงให้ชมถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค.

    เตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่คืนที่ 15 มิ.ย.
    จากข้อมูลเอกสารปรากฏการณ์จันทรุปราคา (Lunar Eclipse 2011) สดร. ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่ 00.26 น. หรือหลังจากผ่านเที่ยงคืนวันที่ 15 มิ.ย. แต่ในช่วงดังกล่าวซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์จันทรุปราคานั้น เป็นช่วงที่เราสังเกตได้ยาก โดยเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามืดของโลก เวลา 01.25 น.ซึ่งดวงจันทร์จะเริ่มแหว่ง

    เวลา 02.25 น.เริ่มเกิดอุปราคาเต็มดวงเมื่อขอบดวงจันทร์ทั้งสองด้านผ่านเข้าไปในเงามืดของโลก และในเวลา03.14 น.ดวงจันทร์จะเข้าไปอยู่กึ่งกลางเงามืดของโลก เรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่า กึ่งกลางอุปราคา (Greatest eclipse) เรายังคงเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงไปจนถึงเวลา 04.04 น.ซึ่งดวงจันทร์เริ่มออกจากเงามืด และดวงจันทร์จะออกจากเงามืดทั้งหมดเวลา 05.04 น. และสิ้นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเวลา 06.02 น.

    5 ลำดับความสว่างจันทรุปราคาเต็มดวง
    ทั้งนี้ ระหว่างเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงเราจะเห็นดวงจันทร์เปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐ หรือบางอาจจะเรียกว่าพระจันทร์สีเลือด สำหรับสาเหตุที่จันทร์เต็มดวงไม่มืดสนิทนี้ หาคำตอบได้จากบทความ “รู้ไหมว่า? ทำไม “จันทรุปราคาเต็มดวง” จึงเป็นสีแดงอิฐ” โดยความสว่างของจันทรุปราคาตามมาตราดังชง (Danjon Scale) ที่เสนอโดย อังเดร หลุยส์ ดังชง (Andre-Louis Danjon) นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ใช้สัญลักษณ์ L แทน ความสว่าง (Luminosities) แบ่งได้เป็น 5 ระดับ

    เมื่อ L = 0 แสดงถึงจันทรุปราคาที่มืดมากจนเกือบมองไม่เห็นดวงจันทร์ , L = 1 แสดงถึงจันทรุปราคามีความมืดในระดับที่เห็นเป็นสีเทาหรือน้ำตาลอ่อน ,L = 2 แสดงถึงจันทรุปราคาที่เป็นสีแดงเข้มหรือสีสนิมคราส , L = 3 แสดงถึงจันทรุปราคาที่เป็นสีแดงอิฐ และ L = 4 แสดงถึงจันทรุปราคาที่สว่างมาก มีทองแดงหรือสีส้ม

    พิเศษ! เกิดจันทร์บังดาวฤกษ์ระหว่างจันทรุปราคา
    นอกจากจันทรุปราคาครั้งนี้จะเกิดคราสนานชั่วโมงกว่าๆ แล้ว ยังเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบังดาวฤกษ์ เนื่องจากดวงจันทร์เคลื่อนผ่านทางใต้ของกลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus) แล้วเคลื่อนไปบังดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชี (Ophiuchi) หรือ 51 คนแบกงู พอดี โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงใกล้ๆ อุปราคาเต็มดวง ซึ่งผู้สังเกตใน จ.ชุมพรขึ้นไปจะเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ และตรวจสอบเวลาได้ในตารางการเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบังดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชี

    “ตามเวลา ณ เชียงใหม่ ดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชี เริ่มหายเข้าไปหลังดวงจันทร์สีแดงอิฐในเวลา 02.08 น. แล้วจะโผล่พ้นดวงจันทร์ออกมาในเวลา 02.12 น. ปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ ลงไปถึง จ.ชุมพร ส่วนจังหวัดที่อยู่ใต้ลงไปจะเห็นเพียงจันทรุปราคาเฉียดดาวฤกษ์เท่านั้น” ดร.ศรัณย์ ยกตัวอย่างการเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคราบังดาวฤกษ์ที่ จ.เชียงใหม่

    ทั้งนี้ ดาว 51 โอฟีอุชีนั้นอยู่ในตำแหน่ง “หัวเข่า” ของกลุ่มดาวคนแบกงู เป็นดาวฤกษ์สีขาวขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ และอยู่ห่างจากโลกประมาณ 426.35 ปีแสง สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าแต่ไม่ชัดนัก ซึ่งรองผู้อำนวยการ สดร.ระบุว่าปรากฏการณ์บังดาวฤกษ์นั้นเกิดขึ้นเป็นปกติบนท้องฟ้า แต่น้อยครั้งที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    สดร.จัดเต็มถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ 3 ภาค เหนือ-กลาง-ใต้
    สำหรับการเกิดปรากฏการณ์จันทรปุราคาครั้งนี้ ทาง สดร.ได้ร่วมมือกับเครือข่าวดาราศาสตร์ใน จ.ฉะเชิงเทราและ จ.สงขลา จัดกิจกรรมและตั้งจุดสังเกตปรากฏการณ์ 3 แห่ง คือ 1.บริเวณดาดฟ้า ชั้น 3 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ จ.เชียงใหม่ 2.หอดูดาวบัณฑิต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทางหอดูดาวยังได้ร่วมมือกับ ร.ร.เบญจมราชรังสฤษฏิ์, ร.ร.ไผ่แก้ววิทยา จ.ฉะเชิงเทรา และ ร.ร.ชลราษฎรอำรุง จ.ชลบุรี จัดกิจกรรมและตั้งกล้องโทรทรรศน์สำหรับสังเกตปรากฏการณ์ และ 3.มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จ.สงขลา
    ทั้งนี้ ติดตามการถ่ายทอดสดปรากฏการณ์จันทรุปราคาผ่านอินเทอร์เน็ตจากจุดสังเกตุทั้ง 3 แห่งได้ที่ Lunar Eclipes Live! @ NARIT

    เกิดจันทรุปราคาได้อย่างไร?
    องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดจันทรุปราคาคือ “เงาของโลก” ซึ่งเมื่อดวงอาทิตย์ส่องมายังโลกที่เป็นวัตถุทึบแสง จะทำให้เกิดเงาทอดไปในอวกาศ และเมื่อดวงจันทร์ผ่านเข้าไปในเงาโลกเราจึงได้เห็นปรากฏการณ์อุปราคาดังกล่าว โดยเงาโลกมีส่วน 2 ส่วน คือ เงามืด (Umbra Shadow) ซึ่งเมื่อลากเส้นสัมผัสจากดวงอาทิตย์ผ่านโลกจะได้ลักษณะเงาทอดเป็นกรวยแหลม และเงามัว (Penumbra Shadow) ซึ่งเมื่อลากเส้นสัมผัสโดยให้เกิดจุดตัดระหว่างโลกและดวงอาทิตย์จะได้ลักษณะเงาถ่างออก

    ข้อมูลจากเอกสารจันทรุปราคาของ สดร.ระบุอีกว่า ในแต่ละปีจะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงประมาณ 1-2 ครั้ง และในปีที่ดวงจันทร์เต็มดวงถึง 13 ครั้ง ซึ่งมีบางเดือนที่เกิดจันทร์เต็มดวงถึง 2 ครั้งและเรียกปรากฏการณ์ในเดือนนั้นว่า “บลูมูน” (Blue Moon) จะเกิดจันทรุปราคาสูงสุดถึง 4 ครั้ง แต่ในปีดังกล่าวจะไม่เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง

    รู้จักจันทรุปราคาทุกรูปแบบ
    จันทรุปราคาแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ 1.จันทรุปราคาเต็มดวง (Total Lunar Eclipse) คือ ปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเข้าไปในเงามืดของโลกทั้งดวง ซึ่งดวงจันทร์จะค่อยมืดหายไปทั้งดวงแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐเมื่อคราสบังเต็มดวง 2.จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse) คือปราฏการณ์ที่ดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเงามืดและเงามัว โดยเห็นดวงจันทร์มืดปเพียงบางส่วน เท่านั้น และ 3.จันทรุปราคาเงามัว (Penumbra Lunar Eclipse) เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์ผ่านเข้าไปในเขตเงามัวของโลกโดยไม่ผ่านเงามืด ซึ่งเรายังคงเห็นดวงจันทร์เต็มดวง เนื่องจากตาของเราไม่สามารถแยกแยะความความสว่างที่ลดลงไปเพียงเล็กน้อยได้

    “อย่างไรก็ดี การชมปรากฏการณ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ หากท้องฟ้าไม่โปร่ง มีเมฆมากก็จะไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งหากพลาดการชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 16 มิ.ย.สามารถรอชมได้อีกครั้งในวันที่ 10 ธ.ค.นี้” ดร.ศรัณย์ กล่าว

    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000071961-
    .











    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รู้ไหมว่า? ทำไม “จันทรุปราคาเต็มดวง” จึงเป็นสีแดงอิฐ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 มิถุนายน 2554 00:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR><CAPTION align=bottom>แผนภาพอธิบายสาเหตุที่จันทรุปราคาเต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ โดยแสงอาทิตย์เมื่อผ่านชั้นบรรยากาศของโลกแล้วเกิดการหักเห โดยแสงที่มีคลื่นยาวสีฟ้ากระเจิงออก เหลือแสงคลื่นสั้นสีแดงหักเหไปตกที่ดวงจันทร์ (สดร.)</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ดวงจันทร์ในช่วงเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงน่าจะมืดสนิท แต่เรากลับเห็นเป็นสีแดงอิฐ หรือบางคนจินตนาการว่าเป็น “พระจันทร์สีเลือด” ซึ่ง ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร.อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ระหว่างเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงนั้นยังคงมีแสงจากดวงอาทิตย์บางส่วนไปตกยังดวงจันทร์ โดยแสงอาทิตย์บางส่วนนั้นได้เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศโลกและเกิดการหักเห ซึ่งแสงที่มีความยาวคลื่นยาวอย่างแสงสีฟ้าและน้ำเงินนั้นจะถูกกระเจิงออกไป เหลือแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นอย่างแสงสีส้มหรือสีแดงที่ไปตกบนดวงจันทร์ เราจึงเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงเป็นสีส้มหรือสีแดงอิฐ


    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000072092-


    .









    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...