พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    "แมนฯยูไนเต็ด" ปิดบัญชีแชมป์สมัยที่ 19 ตามตีเสมอกุหลาบไฟ 1-1


    [​IMG]

    เวย์น รูนี่ย์ ซัดจุดโทษให้แมนฯยูไนเต็ดตีเสมอแบล็คเบิร์น 1-1 คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ไปครอง วันที่ 14 พ.ค.

    การแข่งขันพรีเมียร์ลีกวันที่ 14 พ.ค. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 1 คะแนนจากการบุกไปเยือนแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส หนึ่งในทีมหนีตกชั้นไล่ตีเสมอกุหลาบไฟ 1-1 คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 19 ได้สำเร็จ

    เริ่มเกม นานี่ มีโอกาสได้โหม่งแบบจ่อๆ แต่บอลชนคานเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อไม่สามารถทำประตูขึ้นนำได้ แบ ล็คเบิร์น ฉวยโอกาสกระทุ้งตาข่ายก่อน เป็นเบรตต์ เอเมอร์ตัน ยืนอยู่เสาสอง วอลเลย์ ลูกเปิดจากริมเส้นเข้าไปอย่างงดงาม ขึ้นนำปีศาจแดง 1-0

    ครึ่งหลังนาทีที่ 64 มาร์ติน โอลเซ่น มีโอกสได้โขกอีกครั้งหวังทำประตูนำห่างแต่โชคไม่ดีบอลไปชนเหลี่ยมนอกเด้งออก มา โดนแผงหลังแมนฯยูพาบอลหนีโซนอันตรายออกมาได้

    นาทีที่ 72 ปีศาจแดงสุดเก๋ามาได้ประตูตีเสมอจากลูกจุดโทษในจังหวะที่ ชิชาร์ริโต้ โดนพอล โรบินสัน นายทวารของกุหลาบไฟรวบในกรอบเขตโทษ รูนี่ย์ ซัดเข้าไปตุงตาข่าย ตีเสมอ 1-1 โอกาสชูถ้วยแชมป์อยู่ใกล้แค่เอื้อม

    หมดเวลา 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์สมัยที่ 19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมฉลองกันล่วงหน้าได้ ขณะที่แบล็คเบิร์น เก็บ 1 คะแนนเป็น 40 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 15 มีลุ้นหนีตกชั้นสำเร็จ

    ผลการแข่งขัน

    แบล็คพูล ชนะ โบลตัน 4-3
    ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วูล์ฟ 1-3
    เวสต์บรอม ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0


    <table class="tablehead" style="FLOAT: none" cellpadding="3" cellspacing="1"> <tbody> <tr class="oddrow" align="right"> <td align="left">15. แบล็คเบิร์น</td> <td align="right">37</td> <td align="right">10</td> <td align="right">10</td> <td align="right">17</td> <td align="right">-14</td> <td align="right">40</td></tr> <tr class="evenrow" align="right"> <td align="left">16. วูล์ฟ</td> <td align="right">37</td> <td align="right">11</td> <td align="right">7</td> <td align="right">19</td> <td align="right">-19</td> <td align="right">40</td></tr> <tr class="oddrow" align="right"> <td align="left">17. เบอร์มิงแฮม</td> <td align="right">36</td> <td align="right">8</td> <td align="right">15</td> <td align="right">13</td> <td align="right">-18</td> <td align="right">39</td></tr> <tr class="evenrow" align="right"> <td align="left">18. แบล็คพูล</td> <td align="right">37</td> <td align="right">10</td> <td align="right">9</td> <td align="right">18</td> <td align="right">-21</td> <td align="right">39</td></tr> <tr class="oddrow" align="right"> <td align="left">19. วีแกน</td> <td align="right">36</td> <td align="right">7</td> <td align="right">15</td> <td align="right">14</td> <td align="right">-23</td> <td align="right">36</td></tr> <tr class="evenrow" align="right"> <td align="left">20. เวสต์แฮมฯ</td> <td align="right">36</td> <td align="right">7</td> <td align="right">12</td> <td align="right">17</td> <td align="right">-23</td> <td align="right">33</td></tr></tbody></table>


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1305376883&grpid=&catid=07&subcatid=0701-


    ----------------------------------------

    "แมนฯซิตี้" ไม่น้อยหน้าผีแดง คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ซิว "สโต๊ค" 1-0


    [​IMG]

    ยาย่า ตูเร่ กองกลางแมนเชสเตอร์ ซิตี้สับไกยิงเต็มข้อในการแข่งขันเอฟเอ คัพ นัดชิงฯ กับสโต๊ค ซิตี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ผลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 1-0



    การแข่งขันเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ วันที่ 14 พ.ค. ที่สนามเวมบลีย์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชิงแชมป์กับ สโต๊ค ซิตี้ ครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

    การแข่งขันเริ่มขึ้นเพียง 4 นาที แมนฯ ซิตี้มีโอกาสสับไกก่อน โดยคาร์ลอส เตเวซ ได้สับไกยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่โทมัส โซเรนเซ่น ยังไม่หลับปัดออกไปได้

    เกมผ่าน 5 นาทีแรกไปเรือใบสีฟ้า โหมเกมบุกเข้าใส่ช่างปั้นหม้อ แต่แผงหลังของสโต๊ค ยังไม่พลาดให้แมนฯซิตี้ได้ยิงแบบถนัด

    นาทีที่ 23 มาริโอ บาโลเตลลี่ มีโอกาสได้ปั่นบอลเกือบเลี้ยวเข้าเสียบเสาไกล แต่โซเรนเซ่น บินปัดไว้ได้ทัน

    นาทีที่ 35 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างชัดเจน โดยเตเวซ บรรจงชิพบอลมาให้บาโลเตลลี่ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ หอกอิตาลีพยายามกระดกบอลผ่านโซเรนเซ่น แต่ไม่ผ่าน บอลเด้งกลับมาเข้าทางปืนของดาบิด ซิลวา วอลเลย์ แต่บอลตกพื้นลอยข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งแรกเจอร์เมน เพนเนนท์ ปีก กำลังหลักในแนวรุกของสโต๊คโชคร้ายข้อเท้าพลิก ต้องเช็คอาการบาดเจ็บ หมดเวลา 45 นาที่ ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

    ครึ่งหลังแฟนพ็อตเตอร์ ใจชื้นยังเห็นเจอร์เมน เพนเนนท์ กลับมาลงสนามได้ เริ่มมาแค่นาทีเดียว คูลารอฟมีโอกาสทะลุขึ้นมาทางกราบซ้ายแต่บอลเลยมาเกือบถึงเส้นหลังต้องลอง เสี่ยงยิงบอลเข้าข้างตาข่าย

    นาทีที่ 61 เควิน โจนส์ เกือบได้เป็นผู้ใส่สกอร์ จากจังหวะหลุดเดี่ยว แต่ยิงไม่ผ่านโจ ฮาร์ต ได้แค่เสียวเท่านั้น

    นาทีที่ 74 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูขึ้นนำจากยาย่า ตูเร่ ที่เพิ่งอายุครบ 28 ปี เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ซัดดาบสองหน้าปากประตูในกรอบเขตโทษ แบบเต็มเท้า บอลพุ่งผ่านมือโซเรนเซ่น เข้าไปตุงตาข่าย ขึ้นนำ 1-0

    ท้ายเกมสโต๊ค ซิตี้ ได้โอกาสลูกเตะมุม 2 ครั้งซ้อนเป็นโอกาสสุดท้ายของเกม แต่ไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นแชมป์แรกในรอบ 35 ปี ภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต้ มันชินี่


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1305383283&grpid=&catid=07&subcatid=0701-













    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ภัยเงียบ! มนุษย์เงินเดือน "ออฟฟิศซินโดรม" ปรับพฤติกรรมก่อนสายเกินแก้


    โดย ศิวพร อ่องศรี


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1305274817&grpid=&catid=02&subcatid=0200-


    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"> <tbody> <tr bgcolor="#400040"> <td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>"ออฟฟิศซินโดรม" หนึ่งในโรคฮิตของหมู่สาวๆ หนุ่มๆ มนุษย์เงินเดือน ที่วันๆ หลังแตะพนักเก้าอี้ มืออยู่บนแป้นพิมพ์ ขยับแค่สองตาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

    อาการ ที่มักจะเกิดกับผู้ที่เป็นออฟฟิศซินโดรม คือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจนกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเฉพาะบริเวณหลัง คอ ไหล่ ปวดศีรษะ สายตาพร่ามัว แห้งและระคายเคือง ทั้งหมดจะค่อยๆ ก่อตัว สะสมอาการไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีอิริยาบถไม่ถูกต้อง มักจะนั่งอยู่ในท่าเดิมนานหลายชั่วโมง ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจนถึงขั้นหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกทับเส้นประสาท

    เพ็ญพิชชากร แสนคำ
    นักกายภาพบำบัดจากสถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างร่างกายโดยวิธีกายภาพบำบัดประยุกต์ อธิบายถึงสาเหตุของ "ออฟฟิศซินโดรม" ว่า เกิดจากการทำงานที่หนักมากเกินไป โดยใช้ร่างกายอยู่ในท่าเดิมๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ซ้ำๆ กัน วันหนึ่งหลายชั่วโมง และต่อเนื่องกันมานานหลายปี รวมถึงไม่ได้ดูแลร่างกายอย่างถูกต้องจึงก่อให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ปวดหลัง ปวดคอ หมอนรองกระดูกเคลื่อน ร่างกายอ่อนแรง ชาตามมือแขนขา ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องแล้ว นอกจากจะกลายเป็นอาการเรื้อรังรักษาไม่หาย อาจจะทำให้เป็นถึงขั้นอัมพฤกษ์อัมพาตได้

    "ออฟฟิศ ซินโดรมเป็นอาการเรื้อรังที่มีการสะสม ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงในระดับถึงชั้นกล้ามเนื้อธรรมดาเท่านั้น แต่ลุกลามไปจนถึงกระดูกที่ผิดรูป กระดูกเสื่อมทำให้มีผลต่อเส้นประสาทคอ เช่น กระดูกเสื่อมทับเส้นประสาท หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ฯลฯ ซึ่งเมื่อไปเอ็กซเรย์ดูจะเห็นได้ว่าอาการนั้นเป็นหนักค่อนข้างลึกไปจนถึง ความเสื่อมของกระดูกจึงทำให้เกิดอาการปวดเริ่มเรื้อรังและต่อเนื่อง" เพ็ญพิชชากร อธิบาย <table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"> <tbody> <tr bgcolor="#400040"> <td>[​IMG]
    (จากซ้าย) อาหารรอว์ฟู้ด และอาหารวีแกนฟู้ด, เพ็ญพิชชากร แสนคำ, ชรีพรรณ์ เทียมรัตน์

    </td></tr></tbody></table>

    เพ็ญ พิชชากรยังได้เล่าถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุลว่า เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การนั่งไขว่ห้างจะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง อาจทำให้กระดูกคดได้โดยที่ไม่รู้ตัว อีกทั้งการใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง จะทำให้แนวกระดูกสันหลัง ช่วงล่าง แอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง และการมีโครงสร้างร่างกายที่ผิดรูป หรือแม้แต่การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียวเป็นระยะเวลานานๆ ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดงอได้

    "การ นั่งหลังงอ นั่งหลังค่อม เช่น การนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง ทำให้มีอาการเมื่อยล้าปวดหลังและมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา หรือแม้แต่การหิ้วของด้วยนิ้ว การใช้นิ้วหิ้วของหนักบ่อยๆ จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เพราะจริงๆ แล้วกล้ามเนื้อในมือ เป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก หน้าที่หลักคือ การใช้หยิบจับของที่ไม่หนัก แต่หากต้องใช้จับหรือหิ้วหนักๆ จะทำให้เส้นเอ็นมีการเสียดสี และเกิดพังผืดในที่สุด หากหิ้วของหนักมากๆ จะทำให้รั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ และเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติ มีผลต่อการทรุดของกระดูกและกดทับเส้นประสาทได้" นักกายภาพบำบัดอธิบาย <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"> <tbody> <tr bgcolor="#400040"> <td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    ดังนั้น การที่จะมีสุขภาพที่ดีได้นั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งท่าทางและอิริยาบถ การใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อทำให้ร่างกายของคนเรามีอายุการใช้งานที่ยืนยาวขึ้น

    ชรีพรรณ์ เทียมรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อริยะ 7 จำกัด และอธิบายถึงการปรับโครงสร้างร่างกายว่า เป็นการปรับกระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวปกติ หรืออยู่ในภาวะที่สมดุล โดยจะปรับสภาพของกล้ามเนื้อให้สมดุลกันทั้งซ้ายและขวา หน้าและหลัง เมื่อกล้ามเนื้ออยู่ในสภาพที่สมดุลแล้วจะส่งผลให้กระดูกสันหลังอยู่ในสภาวะ ที่ปกติและสมดุล จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่างกายก็จะแข็งแรงสมบูรณ์

    "การปรับโครงสร้างร่างกายเป็นการปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ท่าทางและอิริยาบถได้ใช้งานที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการทำงาน การเดิน การยืน การนั่ง การนอน ฯลฯ เช่น การนอนที่เหมาะสมที่สุดคือนอนหงายมีหมอนรองใต้ข้อเข่า การยืนควรยืนลงน้ำหนักให้เท้าสองข้างลงน้ำหนักเท่าๆ กัน การนั่งไม่ควรนั่งไขว้ห้างหรือนั่งเท้าแขน ควรเลื่อนก้นให้ชิดพนักพิง ยืดลำตัวตรง หากต้องนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงควรมีช่วงพัก เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายบ้าง" ชรีพรรณ์เล่า

    ชรีพรรณ์ ยังแนะนำอีกว่า สุขภาพที่ดีที่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทานเข้าไปด้วย สิ่งที่อยากจะแนะนำ คือ อาหารรอว์ฟู้ด และอาหารวีแกนฟู้ด (Raw Food and Vegan Food) ซึ่งอาหารเหล่านี้จะอุดมไปด้วยเอ็นไซม์ วิตามิน เกลือแร่ โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 ที่ได้จากพืช ฯลฯ เป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากซึ่งจะมีอยู่ในพืชผัก ผลไม้

    "รอว์ฟู้ด (Raw Food) ประกอบด้วย อาหารที่ทำจากผลไม้สด, ผักสด, ต้นอ่อนของเมล็ดพืช เช่น ถั่วงอก ข้าวสาลี เมล็ดพืช ถั่ว ผลไม้แห้ง สาหร่าย ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดจะไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งทางเคมี ไม่มีแป้ง และน้ำตาล ไม่ใช้ความร้อนเกิน 46 องศาเซลเซียส เพื่อให้คงคุณค่าสารอาหารและเอ็นไซม์ ส่วนวีแกนฟู้ด (Vegan Food) คือ อาหารที่ไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทุกชนิด เช่น ไข่ นม น้ำผึ้ง ฯลฯ"

    สิ่ง เหล่านี้เป็นเพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเท่านั้น หากต้องการมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาวควรหมั่นออกกำลังกาย เพราะจิตใจที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง


    [FONT=Tahoma,]หน้า 21,มติชนรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค. 2554 [/FONT]

    .

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1305274817&grpid=&catid=02&subcatid=0200-

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    คำวัด - ภัตตาหาร-สลากภัต


    [​IMG]

    สำรับกับข้าวในงานบุญสลากภัต ของ อ.ตากฟ้า




    คมชัดลึก : คำว่า “สลากภัต” มาจากภาษาบาลี คือ สลาก + ภตฺต สองคำมารวมกันเป็น “สลากภัต” แปลว่า อาหารถวายพระภิกษุสงฆ์โดยวิธีจับสลาก นับเข้าในสังฆทาน เพราะเป็นการถวายทานแด่พระภิกษุสงฆ์ทั่วไป ไม่ได้จำเพาะเจาะจงแก่พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง มักกระทำกันในเดือนที่มีผลไม้อุดมสมบูรณ์ หรือปีที่เศรษฐกิจดี หรือมีการก่อสร้างศาสนวัตถุในวัดที่ขาดแคลน พระพุทธองค์ทรงอนุญาตไว้ว่า เป็นอดิเรกลาภส่วนหนึ่งที่ภิกษุสามเณรจะได้รับถวายได้ไม่จำกัดกาล ทั้งทรงยกย่องการถวายทานแบบไม่เจาะจงนี้ว่า มีอานิสงส์มากแล


    ทั้งนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม ได้อธิบายความหมายของคำว่า “ภัตตาหาร” (อ่านว่า ภัด-ตา-หาน) อาหาร คือ ภัต หมายถึง อาหารสำหรับพระสงฆ์ฉัน เช่น พูดว่าพระสงฆ์ฉันภัตตาหาร ก็หมายความว่า พระสงฆ์ฉันอาหาร นั่นเอง
    ภัต หมายถึง ข้าว อาหาร ของกิน เขียนว่า ภัตร ก็ได้
    ภัต หรือ ภัตตาหาร ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระสงฆ์รับ และฉันได้มีหลายประเภท เช่น

    สังฆภัต หมายถึง อาหารที่เขาถวายพระสงฆ์
    นิมันตนภัต หมายถึง อาหารที่เขาถวายในที่นิมนต์

    สลากภัต หมายถึง อาหารที่เขาถวายตามสลาก
    อาคันตุกภัต หมายถึง อาหารที่เขาถวายพระอาคันตุกะ

    นิตยภัต หมายถึง อาหารที่เขาถวายเป็นประจำ

    ส่วนคำว่า "สลากภัต" (อ่านว่า สะ-หลาก-กะ-พัด) เจ้าคุณทองดีให้ความหมายไว้ว่า อาหารที่เขาถวายตามสลาก

    สลากภัต ใช้เรียกวิธีถวายทานอย่างหนึ่งที่ถวายโดยการจับสลาก นิยมทำกันในฤดูกาลที่ผลไม้ออกผล เช่น สลากภัตมะม่วง สลากภัตลิ้นจี่ ถือว่าได้บุญมาก และเป็นมงคลแก่สวนผลไม้ของตน

    วิธีการสลากภัต คือ ทายกทายิกาจัดอาหารคาวหวาน และผลไม้ประจำฤดูกาลนำไปรวมกันที่วัด จัดวางไว้เป็นส่วนๆ เขียนชื่อหรือหมายเลขประจำตัวของตน ใส่กระดาษแล้วม้วนไปให้พระภิกษุสามเณรจับ รูปใดจับได้ของผู้ใดก็ออกไปรับของผู้นั้น

    อีกแบบหนึ่งเขียนเลขประจำตัวของพระตามลำดับอาวุโส ใส่กระดาษแล้วม้วนให้ทายกทายิกาจับ ผู้ใดจับได้หมายเลขใดก็นำของไปถวายพระตามหมายเลขนั้น


    "พระธรรมกิตติวงศ์ "


    -http://www.komchadluek.net/detail/20110513/97383/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%95.html-

    .

    http://www.komchadluek.net/detail/20110513/97383/คำวัดภัตตาหารสลากภัต.html

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    วันความดันโลหิตสูงโลกระวังอัมพาตจะตามมา


    เดือนนี้มีวันความดันโลหิตสูงโลกวันหนึ่ง โดยทั่วไปจะเป็นวันที่ 17 พ.ค. องค์กรแต่ละแห่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อาจเลือกวันทำกิจกรรมตามความเหมาะ สมของแต่ละแห่ง การป้องกันดูแลเรื่องความดันโลหิตสูงมีข้อพึงระวังไว้ว่าจะต้องคอยควบคุมกัน ตลอดไป เป็นภัยเงียบที่จะทำให้หลายโรคตามมา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หรือเกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาตตามมาได้

    ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรัง เป็นเพชฌฆาตเงียบ หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้น ความดันสูงเป็นผลทำให้เนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ ถูกกระแทกแรงเกิดอันตรายต่อ สมอง
    ทำให้เส้นเลือดอุดตันหรือแตกเกิดอัมพฤกษ์อัมพาต หัวใจ ทำให้ล้มเหลวหัวใจวาย และ ไต ทำให้เกิดการอักเสบเป็นไตวายเรื้อรัง

    นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา หัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า สมาพันธ์โรคความดันโลหิตสูงโลก กำหนด 17 พฤษภาคม เป็นวันความดันโลหิตสูงโลก เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนได้ตรวจวัดความดันสม่ำเสมอ ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นตามมา โรคจะค่อยก่อตัวขึ้นทีละน้อย ไม่แสดงอาการเหมือนโรคติดเชื้อ ทำให้เป็นโรคโดยไม่รู้ตัว ไม่มียารักษาให้หายขาด

    ขณะนี้ทั่วโลกมีประชากรที่มีความดันโลหิตสูงเกิน 140/90 มม.ปรอท ประมาณ 1,000 ล้านคน อีก 17 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 1,700 ล้านคน สำหรับประเทศไทยจากการสำรวจพบว่า ปี 2547 ประชาชนอายุเกิน 15 ปีขึ้นไป ประมาณ 51 ล้านคน มีโรคความดันสูงเฉลี่ย 22% หรือประมาณ 11 ล้านคน อาจกล่าวได้ว่า พบผู้มีความดันสูง 1 คน ในเกือบทุก 5 คน กลุ่มที่ตรวจพบนี้ 71% ไม่เคยตรวจวัดความดันมาก่อนเลย และผู้ที่เป็นก็ดูแลตัวเองให้ความดันสู่ปกติได้ไม่ถึง 20%

    การดูแล หากดูแลไม่ดี นานวันจะทำให้หลอดเลือดแดงตีบและแคบลง มีผลต่อไต หัวใจและสมอง มีโอกาสเสียชีวิตจากหัวใจวาย 60-75% หลอดเลือดสมองแตกอุดตัน 20-30% ไตวาย 5-10% หากรอดมาได้มีโอกาสที่จะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตมากกว่าคนปกติถึง 5 เท่า และ คนไทยเสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูงปี
    ละ 48,000 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 5 ราย ขณะนี้มีคนเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตอยู่ถึง 250,000 ราย

    กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่อายุเกิน 40 ปี ชอบกินเค็มเป็นประจำ กินผักผลไม้น้อย ดื่มแอลกอฮอล์เสมอ ไม่ค่อยยอมออกกำลังกาย มีอาการเครียดเรื้อรัง อ้วน โรคนี้ไม่มียารักษาหายขาดต้องคอยกินยาควบคุมไปตลอด

    สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้ ได้จัดงานทุกปี รณรงค์ให้ประชาชนได้รู้จักโรค และหาทางป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนที่จะตามมา ปกติจะจัดวันที่ 17 พ.ค. มาปีนี้จัดวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ราชวิถี

    ผมมาในงานตอน 07.00 น. มีการเต้นแอโรบิกบนเวทีกันแล้ว ผู้คนที่มาสนใจก็เต้นตามไปด้วย ส่วนใหญ่จะรีบไปลงทะเบียนเพื่อเจาะเลือด ตรวจหาน้ำตาลและไขมันในเลือด วัดความดันโลหิต ระดับปกติจะไม่เกิน 140/90 มม.ปรอท ถ้าเกินจะต้องไปพบแพทย์ที่รักษาเพื่อแก้ไขต่อไป ผู้ที่อยากซื้อเครื่องวัดความดัน ก็มีเจ้าหน้าที่มาฝึกหัดให้วัดความดันด้วยตัวเองให้เป็น นอกจากนี้ยังมีการวัดความสูง ชั่งน้ำหนัก รอบเอว เพื่อคำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย โดยเฉลี่ยจะไม่เกิน 25 กก.ตร.ม. ปีนี้มีเพิ่มตรวจหาไขมันในร่างกายที่อยู่ตามตัว และแนะนำเรื่องอาหารการกิน โดยจะเน้นเพิ่มผักผลไม้ให้มากขึ้น

    รายการบนเวทีเข้มข้นอย่างเดิม พบแม่งาน พญ.วิไล พัววิไล บอกว่ารู้สึกดีใจที่มีคนเห็นความสำคัญมาร่วมกิจกรรมกันมากราว 500 คน เรื่องตรวจเลือดแม้จะเพิ่มมากขึ้นก็ยังไม่พอกับจำนวนคน ด้วยงบประมาณมีน้อย ฝากขอบคุณบริษัทยาต่าง ๆ ที่มาช่วยด้วยใจรักสนับสนุนงานนี้จริง ๆ ผู้คนที่มาดูหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสดี มีความสุข มากันทุกปี เพิ่มมากขึ้นทุกปี ยังไม่มีข่าวใครป่วยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตเลย

    โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่ไม่หายขาด ต้องกินยาประคับประคองกันตลอด เพื่อไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา วันความดันโลหิตสูงโลก เป็นการกระตุ้นเตือนให้หมั่นดูแลตัวเองไว้ให้ดี สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทยจัดงานรณรงค์ทุกปี ให้บริการประชาชนทุกอย่าง-ฟรีมาตลอด ช่วงนี้ขาดแคลนผู้อุปถัมภ์อย่างมาก หากท่านผู้ใดเกิดเมตตาอยากช่วยเหลือจุนเจือทำบุญกุศล กรุณาติดต่อ พญ.วิไล พัววิไล 08-1127-3494.

    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=531&contentId=138703-

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ตรวจหา 'ไวรัสตับอักเสบซี'


    [​IMG]


    ป้องกันภัยเงียบสู่มะเร็งร้าย!


    "ตับ” เป็นอวัยวะรูปลิ่มอยู่ใต้กระบังลม มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ขจัดสารพิษออกจากเลือด ใช้เอนไซม์เพื่อช่วยในการสังเคราะห์อาหารไปสู่โครงสร้างที่ซับซ้อน และยังทำหน้าที่เป็นคลังกักเก็บน้ำตาล วิตามินต่าง ๆ ไว้ใช้เมื่อร่างกายต้องการ แต่ถ้าเมื่อใดที่ตับถูกไวรัสตับอักเสบซีเล่นงานโดยไม่ได้รับการตรวจรักษาจน กลายเป็นภาวะเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคมะเร็งร้ายได้...!!

    รศ.นพ.ธีระ พิรัชวิสุทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และนายกสมา คมโรคตับแห่งประเทศไทย ให้ความรู้ว่า ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบเรื้อรังประมาณ 170 ล้านคนทั่วโลก ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากการติดเชื้อมากกว่า 350,000 คน โดยประมาณ 4 ล้านคนของผู้ติดเชื้ออยู่ในทวีปยุโรปและอีก 4 ล้านคนอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ประชากรจำนวน 1 ใน 12 คนทั่วโลกติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือ ซี แบบเรื้อรัง สำหรับอุบัติการณ์ในประเทศไทยพบประมาณร้อยละ 1-5 โดยประมาณร้อยละ 5-9 ของผู้ติดเชื้ออยู่ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งการตรวจพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีในประเทศไทยมีแนวโน้มสูง ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ไวรัสตับอักเสบซีหรือเอชซีวี (Hepatitis C virus : HCV) แบ่งออกเป็น 6 สายพันธุ์หลัก ๆ เรียกว่าสายพันธุ์ที่ 1-6 ระหว่างการทดลองพบว่าสายพันธุ์ที่ 1 เป็นสายพันธุ์ที่ยากต่อการรักษาให้หายขาดมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็เป็นสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุด โดยพบสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของการติดเชื้อทั่วโลกและพบมากในภาคเหนือของยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทยพบว่าประมาณ 50-60 ของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเป็นสายพันธุ์ที่ 3 ซึ่งจัดเป็นสายพันธุ์ที่รักษาง่าย โดยเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในตับแล้วจะทำให้ตับอักเสบและจะแพร่กระจายอย่างรวด เร็ว ร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อจะกลายเป็นโรคตับอักเสบรื้อรัง

    การติดเชื้อจะเริ่มต้นที่เซลล์ตับ จากนั้นเชื้อไวรัสจะใช้ดีเอ็นเอของเซลล์ตับในการสร้างเชื้อไวรัสตัวใหม่ ๆ และแพร่ไปยังเซลล์ตับอื่น ๆ เมื่อเชื้อแพร่กระจายมากขึ้นตับจะเกิดภาวะอักเสบ ทำให้เซลล์ตับถูกทำลายและเกิดเนื้อเยื่อพังผืดในตับ ส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติ โดยปกติแล้วเชื้อไวรัสตับอักเสบซีติดต่อโดยตรงผ่านเลือด ส่วนใหญ่พบการติดเชื้อได้บ่อยสุดจากพฤติกรรมดังนี้ การใช้เข็มฉีดยาชนิดฉีดเข้าเส้นร่วมกันโดยเฉพาะผู้ติดยาเสพติด การได้รับบริจาคโลหิต การเจาะหรือสัก การได้รับผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยไตที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การได้รับเชื้อจากมารดาสู่ทารก การใช้สิ่งของส่วนตัวบางอย่างร่วมกัน เช่น มีดโกน แปรงสีฟัน และการมีพฤติกรรมทางเพศบางอย่าง เช่น การมีคู่นอนหลายคนหรือมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

    ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนมากมักไม่มีอาการใด ๆ แต่บางคนหลังติดเชื้อจะแสดงอาการเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงให้เห็นอย่างรวดเร็ว ได้แก่ มีไข้ (ไข้ต่ำ ๆ) เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปัสสาวะสีเข้ม บางกรณีมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง คลื่นไส้และอาเจียน ปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ สมาธิสั้น วิตกกังวลและซึมเศร้า โดยเราสามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ด้วยการดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ทานยาตามแพทย์แนะนำ อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยประมาณร้อยละ 80 ที่ได้รับเชื้อจะพัฒนากลายเป็นแบบเรื้อรังและประมาณร้อยละ 20-30 ของผู้ติดเชื้อจะพัฒนาไปสู่ตับแข็งและกลายเป็นมะเร็งตับหลังจากมีอาการตับ แข็งแล้ว

    เมื่อเนื้อเยื่อตับถูกทำลายและได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากเชื้อไวรัส ทำให้เซลล์ตับที่ดีเหลือน้อยลงจนตับไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ส่งผลให้เกิดมีของเหลวสะสมในช่องท้องและขา มีเลือดออกในลำไส้ อาจเกิดอาการบกพร่องทางจิต มีอัตราความเสี่ยงในการพัฒนาไปสู่มะเร็งตับสูงมาก ดังนั้นเมื่อติดเชื้อแล้วในกรณีที่เป็นแบบเฉียบพลันอาจต้องเข้ารักษาตัวใน โรงพยาบาล แต่เบื้องต้นส่วนใหญ่มักไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาหรือควบคุมอาหารเป็น พิเศษ แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะส่งผลต่อการพัฒนาของโรคและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เนื่องจากตับทำหน้าที่ขจัดสารพิษซึ่งแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสารพิษที่ตับต้อง ทำการขจัดออกไป ดังนั้นตับของผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีจะเสียหายมากขึ้น หากต้องทำหน้าที่ในการขจัดแอลกอฮอล์

    ส่วนการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมีหลายวิธี ได้แก่ การตัดชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของตับไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ การเปรียบเทียบชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อตับระหว่างตัวอย่างเซลล์ตับปกติ, เซลล์ตับที่อักเสบและเนื้อเยื่อที่เป็นพังผืด โดยการรักษาทางการแพทย์นั้นจำเป็นต้องระบุสายพันธุ์ให้ได้ เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกวิธีการรักษาและระยะเวลา ซึ่งการรักษาไวรัสตับอักเสบซีในปัจจุบันยาที่ให้ผลการรักษาได้ดีสามารถกำจัด ไวรัสให้หมดไปและไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกหลังหยุดยา คือการให้ยา 2 ตัวร่วมกันประกอบด้วยยาฉีด Pegylated Interferon โดยฉีดสัปดาห์ละครั้งและยารับประทาน ซึ่งการให้การรักษาเป็นระยะเวลา 24 สัปดาห์สำหรับไวรัสตับอักเสบซีสายพันธุ์ที่ 2 และ 3 มีโอกาสหายขาดสูงถึงกว่าร้อยละ 80 ในขณะที่สายพันธุ์ที่ 1 และอื่น ๆ อาจใช้เวลาประมาณ 48 สัปดาห์

    ดังนั้นหากใครที่รู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือเริ่มมีอาการเบื้องต้นควร รีบไปตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเสียตั้งแต่วันนี้เพื่อรับการรักษาที่ถูก ต้องและปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำก่อนเชื้อจะลุกลามกลายเป็นโรคมะเร็งร้าย ที่ยากต่อการรักษาและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด.

    .............................................

    สรรหามาบอก

    - มูลนิธิโรคตับ ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ เชิญชวนประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ “เรารักตับ” ครั้งที่ 7 เพื่อตรวจเอนไซม์ตับแก่ประชาชน ฟรี ในช่วงสัปดาห์วิสาขบูชาระหว่างวันที่ 16-20 พฤษภาคม 2554 ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 79 แห่งทั่วประเทศ

    - สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ จัดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิทยาศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ภาคประชาชน ครั้งที่ 1 ประจำปี 2554 ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ใน วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 21–22 พฤษภาคม 2554 เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปพร้อมรับบริการตรวจสุขภาพและทรีตเมนท์ผิว หน้าด้วยเครื่อง IPL Luminist และ Jet Peel ฟรี! ผู้สนใจสอบถามและสมัครได้ที่ 08-1937-7647, 08-1443-2088, 08-9955-9445 และ 08-9499-0415

    - โรงพยาบาลพญาไท 2 ขอเชิญว่าที่คุณพ่อและคุณแม่เข้าร่วมกิจกรรม “Happy Mom Family สายใยรักครอบครัว” ใน วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2554 เวลา 13.30-16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 9 อาคารจอดรถ โรงพยาบาลพญาไท 2 ภายในงานให้ความรู้เรื่อง “สารอาหาร...แทนรักจากใจแม่ (โภชนาการที่ดี)” สนใจสอบถามและลงทะเบียนได้ที่ โทร.1772

    - โรงพยาบาลมนารมย์ ขอเชิญคุณพ่อคุณแม่รับฟังบรรยายเรื่อง “สอนลูกเรื่องเซ็กซ์ สอนเด็กเรื่องรัก” เพื่อให้ความรู้พ่อแม่ยุคใหม่ให้สามารถสื่อสารและพูดคุยเรื่องเซ็กซ์และความ รักกับลูกที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่นได้อย่างถูกวิธี ใน วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2554 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องประชุมมนารมย์ ชั้น 2 บางนา ผู้ปกครองที่สนใจเข้าร่วมฟังบรรยายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับจิตแพทย์ สำรองที่นั่งได้ที่ โทร.0-2725-9595 หรือ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ไขปริศนา'นางเงือก'


    [​IMG]


    สิ่ง มีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์เพียงแต่มีขาเป็นหางปลา และมักอาศัยอยู่ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่แทนที่จะเดินอยู่บนแผ่นดิน อาจเป็นเรื่องราวในตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ทว่าสำหรับชาวประมงแล้วนี่เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่จริงซึ่งพวกเขา เคยมีโอกาสพบเห็นในโลกลี้ลับใต้ท้องทะเล

    การค้นหาความจริงเกี่ยวกับการขึ้นมาเกยตื้นของวาฬทั้งในวอชิงตันและแอฟริกา ใต้ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผลมาจากการทดสอบโซนาร์ของกองทัพเรือสหรัฐ ทำให้พวกเขาพบเจอกับสิ่งมีชีวิตอีกชนิดที่โลกยังไม่เคยรู้จักโดยบังเอิญ ซึ่งทำให้เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงตำนานอีกต่อไป

    ปี ค.ศ. 1997 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติของสหรัฐ หรือเอ็นโอเอเอ (NOAA) ได้บันทึกเสียงลึกลับได้ในมหาสมุทรแปซิฟิก จากประวัติศาสตร์ 50 ปีของโครงการวิจัยเสียงในทะเลลึกของเอ็นโอเอเอ มันเป็นเสียงเดียวที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเสียงอะไร เสียงบันทึกนี้ถูกขนานนามว่า “บลูพ” และพวกเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จัก

    เช้าตรู่วันหนึ่งในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2004 เด็กชายสองคนในรัฐวอชิงตันเป็นคนแรกที่มาถึงสถานที่เกิดเหตุวาฬเกยตื้นหมู่ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ก่อนจะรายงานสิ่งที่ได้พบ พวกเขาได้ตระเวนดูท่ามกลางฝูงวาฬที่ถูกซัดขึ้นมา เด็กชายคนหนึ่งมีกล้องโทรศัพท์มือถือ เขาใช้มันบันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุเกยตื้นหมู่ และสังเกตเห็นสิ่งอื่น มันเป็นสิ่งที่เขาคิดว่ามันดูแปลก สิ่งที่ดูไม่เหมือนวาฬตัวอื่น ๆ สิ่งที่เด็กสองคนนี้อ้างว่าพวกเขาได้เห็นจะถูกบรรยายแตกต่างกันไปในรายงาน ฉบับต่าง ๆ ของทางการ

    เอ็นโอเอเอตามรอยเรื่องลี้ลับนี้มานานหลายปี หลังพบปลาที่ถูกจับในทะเลเปิดมีฉมวกแทงอยู่ และตอนนี้มีคนพบพวกมันถูกซัดขึ้นมาเกยหาดพร้อมกับพวกวาฬ

    “ก่อนหน้านั้นผมเคยได้ยินเรื่องสิ่งประหลาด ๆ ที่พบในปลาซึ่งถูกจับกลางทะเลบอลติก แต่ผมได้เห็นกับตาตัวเองเมื่อเราลากอวนในน้ำลึกบริเวณที่เป็นแอ่ง บางครั้งเมื่อเราดึงอวนขึ้นมา เราจะพบปลาซึ่งเพิ่งถูกฆ่า ปลาซึ่งมีฉมวกปักด้านข้าง ในการออกเรือเที่ยวหนึ่งผมเอากล้องไปด้วยตั้งใจจะถ่ายรูปวาฬที่ผมเห็นเพื่อ เอาไปให้ลูกชายดู ครั้งนี้เองที่เราลากอวนเข้ามาและเห็นว่ามีอะไรบางอย่างปีนออกจากอวนในขณะ ที่เราดึงเข้ามา ผมวิ่งไปหยิบกล้องและถ่ายรูปมันได้รูปหนึ่ง ผมคิดว่านี่คือตัวที่ทำฉมวก ผมคิดว่าเราคงไปรบกวนการจับปลาของคนอื่น” ฮันส์ เบาเออร์ ชาวประมงเยอรมันบอกเล่า

    และระหว่างการค้นหาเหตุผลที่ทำให้วาฬเกยตื้นในแอฟริกาใต้ พวกเขาก็พบหลักฐานสำคัญที่จะไขความลี้ลับที่ค้นหามานาน เมื่อฉลามขาวมาตะลุยกินซากวาฬที่มาเกยตื้น แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่ฉลามหากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวมัน มีบางส่วนที่ดูเหมือนอาจจะมาจากโลมา บางส่วนดูเหมือนจะมาจากแมวน้ำ แต่ไม่ใช่แมวน้ำหรือโลมาที่เราเคยพบ และมีอวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วย

    “มีรอยแทงรอบ ๆ เหงือกและปากฉลาม และตอนแรกผมคิดว่านี่อาจจะเป็นอาการบาดเจ็บที่ได้รับตอนที่มันถูกเกี่ยวมา ติดข้างเรือ แต่ผมแหย่เข้าไปในรอยหนึ่ง และผมพบเงี่ยงปลากระเบนอยู่ข้างใน นี่อาจจะเกิดจากปลากระเบนป้องกันตัว ฉลามกินปลากระเบน ฉลามหัวค้อนกิน ฉลามเสือกิน แต่ฉลามขาวไม่กิน” ดร.ไบรอัน แม็คคอร์มิค นักชีววิทยาทางทะเล ระบุถึงสิ่งที่พบ

    นี่อาจเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาจากทฤษฎีลิงน้ำ ที่อพยพจากบนบกลงสู่ทะเลและกระจายตัวอยู่ตลอดแนวชายฝั่งของทวีปแอฟริกา พวกเขานำซากที่มีเพียง 30% กลับไปที่ห้องทดลอง

    ฟันของมันเป็นเรื่องน่าพิศวงจริง ๆ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลจะมีฟันแบบโฮโมดอนต์ ซึ่งแปลว่ามีฟันซึ่งมีขนาดและรูปร่างเหมือนกันหมด แต่ฟันของตัวอย่างนี้ไม่ใช่ มันมีฟันกราม ฟันหน้า ฟันเขี้ยว เป็นฟันแบบสิ่งมีชีวิตที่กินทั้งพืชและสัตว์ ไม่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลชนิดไหนที่กินทั้งพืชและสัตว์

    ในบรรดาชิ้นส่วนทั้งหมดที่มี แพนหางคือส่วนที่ถูกเก็บไว้ในสภาพดีที่สุด มันดูคล้ายหางพะยูนมาก และครั้งหนึ่งเคยมีพะยูนพันธุ์น้ำเย็นอาศัยอยู่ตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก แต่พวกมันถูกล่าจนสูญพันธุ์ บางทีนี่อาจจะเป็นพะยูนพันธุ์นั้น อาจจะเป็นประชากรที่หลงเหลือ หรือญาติซึ่งไม่เคยถูกค้นพบของสัตว์ชนิดนี้ แต่เมื่อถ่ายภาพเอกซเรย์กลับพบว่ามีกระดูกในแพนหาง แต่พะยูนไม่มีกระดูกแบบนั้น ไม่มีวาฬชนิดไหนมีกระดูกในแพนหาง

    เมื่อวิเคราะห์ชั้นเนื้อเยื่อที่ลึกลงไปพบว่า มีกรดไขมันที่พิเศษมาก ซึ่งสามารถคงสภาพเป็นของเหลวและทำหน้าที่เป็นฉนวนได้แม้จะอยู่ในน้ำเย็นจัด และยังพบโปรตีนในเลือดที่เรียกว่าไมโอโกลบิน ซึ่งทำหน้าที่เก็บออกซิเจนไว้ในกล้ามเนื้อ และพบเครือข่ายหลอดเลือดที่ช่วยเก็บความร้อนให้ระบบอวัยวะสำคัญ ๆ ทั้งสองสิ่งนี้เป็นการปรับตัวที่พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ขณะที่ม้ามขนาดใหญ่ใช้เก็บกักออกซิเจนและเลือด และเก็บออกซิเจนไว้ระหว่างดำน้ำลึก มันเหมือนมีถังสกูบาติดตั้งอยู่ภายในตัว

    ส่วนกระดูกตะโพกที่พบนั้นบ่งบอกว่า สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีโครงสร้างตะโพกแบบเดียวกับสัตว์ที่ยืนตัวตรง ครั้งหนึ่งมันเคยเดินสองขา

    “ศพนี้เป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งสำคัญที่สุดในทางมานุษยวิทยา จนอาจจะเป็นหนึ่งในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ มนุษย์ นิยามประวัติศาสตร์มนุษย์คงจะต้องถูกเขียนใหม่ นี่คือนักประดิษฐ์เครื่องมือซึ่งมีเชาวน์ปัญญา และมีมือที่หยิบจับสิ่งของได้ ซึ่งวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษจำพวกลิง บรรพบุรุษซึ่งเดินตัวตรงบนพื้นดินเหมือนพวกเรา” ดร.พอล โรเบิร์ตสัน หนึ่งในทีมงานระบุ

    ขณะที่ ดร.ลีแอน ฟิซเซอร์ นักนิติมานุษยวิทยาในภาควิชาวิวัฒนาการมนุษย์ มหาวิทยาลัยวิทวอเตอร์สรานด์ในแอฟริกาใต้ สแกนกะโหลกที่ถูกประกอบขึ้นมาใหม่ และพบว่า ช่องเปิดที่เศษชิ้นส่วนกะโหลกด้านหน้านั้นเชื่อมต่อกับโพรงไซนัสมากมายภายใน กะโหลก รูปร่างและลักษณะของกะโหลกนี้เผยให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีศักยภาพใน การทำเสียงได้อย่างสลับซับซ้อนเพียงใด รูปทรงเว้าที่ด้านหน้าของกะโหลกบ่งชี้ว่ามันมีเมลาน มวลเนื้อเยื่อไขมันพิเศษที่ทำให้โลมาและวาฬอื่น ๆ สามารถรู้ตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ด้วยเสียงสะท้อน

    ติดตามการไขปริศนาของนางเงือกได้ในสารคดีพิเศษเรื่อง MERMAIDS: THE BODY FOUND ออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.นี้ เวลา 18.00 น. ทางช่องแอนนิมอล แพลนเน็ต ทรูวิชั่นส์ 21.




    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=523&contentId=138740-


    .














    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่านเจอมา ก็เลยนำมาให้อ่านกันครับ



    .-------------------------------------------------.

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    เปิดรายชื่อ และใบหน้า 43 มือปืนที่ต้องการตัวมากที่สุด เพราะอาจจะก่อเหตุในช่วงเลือกตั้ง

    [​IMG]

    -http://www.thaipost.net/node/38598-

    มี comment เพิ่มเติม ก็เลยนำมาลงเพิ่ม

    Ruangsin Rattanalam · [​IMG] Top Commenter · CMU

    มือปืนที่อยู่ทุกโรงพัก ทุกกรมกอง รู้ดีที่สุดว่าคนเหล่านี้อยู่ตรงไหนทำอะไรอยู่ถ้าคุณสุเทพ ไล่เบี้ย เอาจริงไม่มีทางรอด แต่ถ้าเปิดชื่อเพื่อสร้างภาพเอาคะแนนเสียงชาวบ้านจะเดือดร้อนหนักในช่วงเลือกตั้งเพราะไม่มีเสื้อเกราะ ไม่มีรถกันกระสุน



    .--------------------------------------------------------.



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15-P1-A_1.gif
      15-P1-A_1.gif
      ขนาดไฟล์:
      182.2 KB
      เปิดดู:
      378
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สำรวจพบ8อาชีพ มีเงินเดือนเกินแสน นักบินรายได้สูงสุด

    นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการสำรวจข้อมูลอาชีพที่ทำรายได้สูงสุดปี 2552 พบว่า อาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือน มี 8 อาชีพ ประกอบด้วย 1.อาชีพนักบิน 2.41 แสนบาท 2.วิศวกรเหมืองแร่และนักโลหะการ 2.35 แสนบาท 3.ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1.53 แสนบาท 4.กรรมการและผู้บริหารระดับสูง 1.38 แสนบาท 5.ผู้พิพากษา 1.21 แสนบาท 6. อาชีพสถาปนิกรายได้ 1.17 แสนบาท 7.ผู้บริหารองค์การนายจ้าง-ลูกจ้าง 1.06 แสนบาท และ 8.วิศวกรเคมี 1.05 แสนบาท

    [​IMG] ส่วนอาชีพที่มีรายได้ระหว่าง 6 หมื่น-1 แสนบาท มี 12 อาชีพ อาทิ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้า 8.5 หมื่นบาท นักคณิตศาสตร์ 7.3 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านการบริการทางธุรกิจ 7 หมื่นบาท แพทย์ 6.9 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านผลิต 6.7 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไป 6.2 หมื่นบาท ข้าราชการอาวุโส 6.2 หมื่นบาท เป็นต้น

    -http://www.naewna.com/news.asp?ID=237453-


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    คนใส่ผ้าเหลือง ที่ไม่น่ากราบ.../วัฒนะชัย ยะนินทร <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</td> <td class="date" align="left" valign="middle">13 พฤษภาคม 2554 22:08 น.</td></tr></tbody></table>


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> <td> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table>

    พระซื้อของเซเว่นฯ ได้หรือครับ...

    เพราะภาพที่เห็น พระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังกุลีกุจอเข้าคิวรอหน้าเคาน์เตอร์เซอร์วิส มือข้างหนึ่งถือน้ำอัดลม อีกมือหนึ่งถือหนังสือพิมพ์สปอร์ตพูล (หนังสือแนวพนันบอล) จ่ายเงินเสร็จเดินออกจากร้าน หยิบหูฟังจากโทรศัพท์มาเสียบหู ฮัมเพลงเบาๆ เดินเลี้ยวเข้ากุฏิวัดชนะสงคราม เป็นภาพที่ผมยืนนิ่งๆ อึ้งๆว่า พระสงฆ์สมัยใหม่ใช้ชีวิตดั่งฆราวาสจริงๆ

    บ่อยครั้งที่ผมจะเห็นพระสงฆ์เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ จับจ่ายใช้สอยราวกับว่าไม่มีญาติโยมมาถวายปัจจัย บางครั้งเห็นท่านมายืนเลือกสินค้ายามดึกดื่นที่น่าจะเป็นเวลาจำวัด แต่ท่านก็คงอยากดื่มโค้ก เป๊ปซี่ ซึ่งไม่รู้ว่าเคยแอบฉันขนมจีบ ซาลาเปาด้วยหรือเปล่า

    หรือ พระสงฆ์ยุคดิจิตอล จะไม่เคร่งครัดกับพระธรรมวินัยกันแล้วนั่นก็ไม่น่าจะใช่ เพราะก็เห็นพระผู้ใหญ่หลายรูปก็พยายามจะรณรงค์สร้างความเจริญงอกงามให้กับ พุทธศาสนา เป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน กราบไหว้พระสงฆ์ได้อย่างศรัทธาทั้งกายและวาจา ใจ แต่ความเสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์นอกรีตก็มีให้พุทธศาสนิกชนได้เห็นเป็นระยะๆ

    ในเส้นทางแห่งธรรม พระสงฆ์ดีๆ ก็มีให้เห็นให้ศรัทธาอยู่ไม่ใช่น้อย แต่พระแย่ๆ ก็พบเจออยู่ดาษดื่นจนเราแทบจะก้มกราบไหว้ไม่ลง พระบางรูปได้แค่โกนหัว ห่มผ้าเหลืองเท่านั้น บวชเพื่อวัตถุประสงค์อยากอยู่สบาย อาศัยผ้าเหลืองแสวงหาผลประโยชน์ กลายเป็น “อาชีพบวชพระ” ไม่ต้องทำงาน แต่มีกินมีใช้มั่งมีศรีสุข จากความศรัทธาจากญาติโยม

    สังเกตไม่ยาก ลองเข้ากุฏิวัดดังๆ ในกรุงเทพฯ แทบจะต้องตะลึง ว่านี่คือ กุฏิพระที่ตัดกิเลสทางโลกแล้ว หรือนี่คือ อพาร์ตเมนต์ชั้นดี เพราะ มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทีวีจอแบน ตู้เย็นที่อัดแน่นไปด้วยอาหารหวานคาว เครื่องปรับอากาศ สเตอริโอ เครื่องเล่นดีวีดี หรือ แม้แต่ BB พระสงฆ์เดี๋ยวนี้เขาก็มีกันแล้ว

    ความมั่งคั่งจากศรัทธาบุญ ทำให้สังคมชาวพุทธ มีคนคิดบาป อยากบวชด้วยกิเลส เมื่อทางโลกมันไม่ได้ดั่งหวัง ทางธรรมนี่แหละที่เขามองว่า แสวงหาความมั่งมีได้ดีนัก เพียงแค่โกนหัว สวดงานศพได้บ้าง แค่นั้นก็ได้เป็นพระ แต่ใจนั้นละทิ้งซึ่งกิเลสแทบไม่ได้

    ภาพสีเทาๆ ดำๆ ของวงการผ้าเหลือง ในปัจจุบัน จึงมักจะพบ พระนอกรีตบ่อยครั้ง เช่น กลาง วันเป็นพระ กลางคืนเป็นมาร ถลกจีวรเปิดโรงแรมมั่วสีกา บางวัดเปิดผับในกุฏิ ร่ำสุรา ร้องคาราโอเกะ พระบางรูปใช้วิธีหากินด้วยการบิณฑบาต ให้ลูกศิษย์ถือกระสอบตามหลัง เรี่ยไรของ ตั้งแต่เช้ามืดถึงเกือบเพล ยังไม่กลับวัด มีให้เห็นและปรากฏเป็นข่าวอยู่มากมาย

    ล่าสุด พระระดับพระครู ที่มีคนนับถือมากมายในจังหวัดเลย ถูกแจ้งข้อหาล่วงเกินทางเพศสามเณร ผู้คนที่เคย กราบไหว้ ถึงกับตกตะลึง และ ตัดพ้อว่า ในวงการผ้าเหลืองนับวันยิ่งเสื่อม

    ไม่ใช่วงการผ้าเหลือง วงการแม่ชี ก็มีให้เห็นถึงรอยมลทิน อาศัยศาสนามาเป็นเครื่องมือหากิน หาผลประโยชน์ อย่างกรณี แม่ ชีแก้กรรม แนะให้ญาติโยมที่หลงศรัทธาไปนอนกับผู้ชายเพื่อแก้กรรม เป็นเรื่องน่าตกใจที่แม่ชีลักษณะนี้ยังดำรงอยู่ในศาสนาได้ โดยพระผู้ใหญ่ทำได้เพียงตักเตือน

    มีการกล่าวว่า เราชาวพุทธ ควรศรัทธาพระพุทธศาสนาแบบนามธรรม ไม่ยึดติดกับรูปธรรม หมายถึง เรียนรู้และยึดถือปฏิบัติจากคำสอนทางศาสนา ศรัทธาทางพุทธศาสนาไม่ควรเสื่อม เพราะยึดติดกับตัวบุคคล

    พระเลว แม่ชีเลว ควรตั้งจิตแผ่กุศลไปว่า วันหนึ่งเขาก็ต้องชดใช้กรรม เพราะกรรมเกิดจากการกระทำ จงอยู่อย่างเป็นสุขเป็นสุขเถิด...


    wyanintorn@hotmail.com

    -http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000058319-


    .









    .
     
  10. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดี ตอนสายๆ วันอาทิตย์ ครับ
     
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาบุญ ครับ คุณปฐม
     
  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh702 title="AddThis utility frame" height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh42.html#cb=0&ab=-&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Feditpost.php%3Fdo%3Deditpost%26p%3D4711088&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4a38f0f6636e48fa&ssl=0&sid=4dcf6687be8d1c7e&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0.5&ver=250&xck=0&rev=99283&xd=1" width=1 name=_atssh702 frameborder="0"></IFRAME>
    <IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh298 title="AddThis utility frame" height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh42.html#cb=0&ab=-&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff179%2F%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2260.html%23post4711049&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4a38f0f6636e48fa&ssl=0&sid=4dcf64d7422477a0&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0.5&ver=250&xck=0&rev=99283&xd=1" frameBorder=0 width=1 name=_atssh298></IFRAME>
    <IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh848 title="AddThis utility frame" height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh42.html#cb=0&ab=-&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff179%2F%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-2260.html%23post4711049&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4a38f0f6636e48fa&ssl=0&sid=4dcf600e2e818fb4&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0.5&ver=250&xck=0&rev=99283&xd=1" frameBorder=0 width=1 name=_atssh848></IFRAME>
    ความสำคัญของวันวิสาขบูชา

    วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤษภาคม 2554 เวลา 0:00 น
    [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa"></SCRIPT> ​


    <TABLE id=ext-gen5 class=x-tabs-strip border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD style="WIDTH: 72px" id=ext-gen10 class=" on">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    วันอังคารที่ 17 พฤษภาคมนี้ นับเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก นั่นคือ "วันวิสาขบูชา" ดังนั้นมาทำความรู้จักวันนี้กันล่วงหน้าดีกว่า

    วันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อประมาณ 2,500 กว่าปีก่อน โดยทั้งสามเหตุการณ์นั้นได้เกิดตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 แต่ต่างกันแค่ปี เหตุการณ์ทั้ง 3 เกิดภายในบริเวณที่เรียกว่าชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล หรือประเทศอินเดียและเนปาลในปัจจุบัน โดยสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงประสูติอยู่ที่ลุมพินีวัน ประเทศเนปาลในปัจจุบัน, สถานที่ตรัสรู้ อยู่ที่ พุทธคยา และสถานที่ปรินิพพานอยู่ที่ กุสินารา ประเทศอินเดียในปัจจุบัน โดย 2 ใน 3 ของพุทธสังเวชนียสถานที่เกี่ยวข้องกับวันวิสาขบูชาได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก และที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติได้ยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็น "วันสำคัญสากลนานาชาติ (International Day)" หรือ "วันสำคัญของโลก

    "วิสาขบูชา" ย่อมาจาก"วิสาขปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ" มีการนับถือปฏิบัติกันในหลายประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาหลากหลายนิกาย บางประเทศเรียกพิธีนี้ว่า "พุทธชยันตี" ในประเทศไทยปรากฏหลักฐานว่าพิธีนี้มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในวันนี้พุทธศาสนิกชนจะร่วมใจกันประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ดังกล่าว.





    ที่มาเดลินิวส์ ออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2011
  13. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไหว้พระธาตุแห่งสัจจะและไมตรี “พระธาตุศรีสองรัก” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 พฤษภาคม 2554 15:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระธาตุศรีสองรัก ศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดเลยและคนในพื้นที่ใกล้เคียง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย นอกจากจะเป็นจุดกำเนิดเทศกาลผีตาโขนอันโด่งดังแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของปูชนียสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยอีกด้วย

    “พระธาตุศรีสองรัก” เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดเลยที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2103 ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยในช่วงเวลานั้นตรงกับสมัยที่พม่ากำลังเรืองอำนาจ และได้ยกทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) หลายคราว สมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงมีไมตรีกันเพื่อร่วมกันต่อสู้กับพม่า และเพื่อเป็นที่ระลึกในไมตรีจิตครั้งนี้ ทั้งสองพระองค์ได้ทรงร่วมกันสร้างพระธาตุขึ้นเพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน และยังเป็นสักขีพยานว่าจะไม่มีการสู้รบให้เลือดตกต้องแผ่นดินกันอีกต่อไป นั่นก็คือ “พระธาตุศรีสองรัก” ซึ่งที่มาของชื่อพระธาตุศรีสองรัก นั้นมาจากชื่อของเมืองทั้งสอง คือ ศรีอยุธยาและศรีสัตนาคนหุต โดยทั้งสองแผ่นดินได้ตั้งสัจจะอธิษฐานว่าจะไม่มีการสู้รบกันอีกต่อไป จะมีแต่ความรักใคร่ผูกพันกัน จึงเกิดเป็นชื่อ “ศรีสองรัก”

    พระธาตุองค์นี้จึงถือเป็นพระธาตุแห่ง “สัจจะและไมตรี” ระหว่างสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช และด้วยเจตนารมณ์ของกษัตริย์สองแผ่นดินในครั้งนั้น จึงมีผลให้มีการขอร้องและห้ามมิให้ใช้สีแดง (ซึ่งถือว่าเป็นสีเลือด ในพื้นที่บริเวณพระธาตุศรีสองรัก ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ เครื่องประดับ ของใช้ หรือแม้แต่เครื่องแต่งกายของผู้ที่เข้ามาสักการะ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ร่วมทำบุญและสักการะองค์พระธาตุกันได้ในงานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ประจำปี 2554</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เป็นเวลา 400 กว่าปีแล้วนับแต่มีการสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้น แต่ศรัทธาของผู้คนทั้งชาวจังหวัดเลยและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงพี่น้องประเทศลาว ที่มีต่อองค์พระธาตุนั้นไม่เคยเสื่อมคลาย โดยในวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกปี จะมีพิธีสมโภชและนมัสการพระธาตุศรีสองรัก โดยในปีนี้ได้กำหนดจัด ”งานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ประจำปี 2554” ขึ้นในระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2554 ณ พระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยจะมีการทำความสะอาดองค์พระธาตุ โดยมีเจ้าพ่อกวนและคณะแสนขึ้นไปบนพระธาตุ ทำพิธีสรงธาตุ พิธีสู่ขวัญธาตุ พิธีเวียนเทียน พิธีบวชนาค ซึ่งจะต้องจุดบั้งไฟไปพร้อมกันด้วย และสุดท้ายเป็นพิธีคารวะธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคล ให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง และทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล และในปีนี้ เนื่องจากเป็นปีที่ 60 ของความสัมพันธ์ของการทูตไทย-ลาว จังหวัดเลยได้รับเกียรติจากสมาคมไทย-ลาว ลาว-ไทย เพื่อมิตรภาพ นำคณะสมาชิกจากทั้งสองประเทศเดินทาง เข้าร่วมงานดังกล่าว ในวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2554 โดยจะได้นำคณะกายสินจากประเทศลาวมาแสดงเพื่อสมโภชองค์พระธาตุอีกด้วย นอกจากนี้ ททท.สำนักงานเลยยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลในการตอบคำถามเรื่อง “พระธาตุเอียงไปทิศทางใด และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?”

    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลยจึงขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมพิธีอันเป็นสิริมงคลยิ่งในงานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ประจำปี 2554 ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย โทร. 0-4289-1266 สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอด่านซ้าย โทร. 08-3145-3080 และ ททท. สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812, 0-4281-1405</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์
     
  14. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ช่วงนี้ไม่ได้หยุดเลยนะครับ วันจันทร์ อังคารก็ไม่ไดหยุดนะครับ ทำงานครับผม ถ้าได้หยุดก็ว่าจะไปวัดเขาพรหมสวรรค์เพื่อปฏิบัติธรรมสักสองคืนนะคับ ได้แค่ร่วมปัจจัย ค่าน้ำ ค่าไฟแทนนะครับ
    น่าเสียดายอะนะ
     
  15. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ขอบคุณมากนะครับ ขออนุโมทนาบุญด้วนระครับ คุณ sithiphong
    ไม่ทราบเรื่องการส้รางพระอุปคุตที่เชียงรายได้ข้อมูลเพิ่มไหมครับ
     
  16. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    ขอโมทนาบุญทุกประการ กับคุณสิทธิพงษ์, คุณปฐม และ สมาชิกพระวังหน้า ที่ร่วมถวาย

    พระพิมพ์ของวังหน้าแก่พระภิกษุ ครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 18 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    สวัสดีตอนค่ำ วันอาทิตย์หรรษาครับ

    อ่า ตอบโดยอ้างอิง ( [​IMG] ) ตอบไม่ได้เลย (ใช้หมาป่าไฟ)

    ปรากฎข้อความ ดังนี้

    [​IMG]

    [​IMG]



    ผมไปใช้ กูเกิ้ลโครม แทน ก็ตอบได้ตามปกติครับ



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20 c.JPG
      20 c.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.6 KB
      เปิดดู:
      179
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บางครั้งไม่ได้ตอบ ก็เกิดจากสาเหตุนี้ครับ


    [​IMG]

    [​IMG]



    ถึงแม้จะโพสโดยไม่อ้างอิงก็ตาม

    ไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้น

    ผมเองก็เลยไม่ตอบครับ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...