พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตำรวจเผย 5 ถนน ห้ามขับรถเล่นน้ำ วันสงกรานต์


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ตำรวจ สั่งห้ามขับรถเล่นน้ำสงกรานต์ใน 5 ถนน 13-15 เม.ย.นี้เพื่อความปลอดภัย ฝ่าฝืนปรับ 500 ขณะที่กำลังพิจารณาสั่งห้ามรถทั่วไปเข้าไปเดินรถในย่านข้าวสาร และสีลม ที่เปิดให้ขับรถไปเล่นสงกรานต์ด้วยเช่นกัน

    วันนี้ (8 เมษายน) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ จะมีผู้คนขับรถเข้ามาเล่นสาดน้ำบนถนนหลายสายในกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก

    ดังนั้นแล้ว เพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัด และเพื่อความปลอดภัยของผู้ยืนเล่นสาดน้ำบนรถในช่วงสงกรานต์ พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. จึงได้ออกข้อบังคับห้าม รถที่บรรทุกคน ภาชนะบรรจุน้ำ หรืออุปกรณ์เล่นสาดน้ำต่าง ๆ เข้ามาเล่นสงกรานต์ ในวันที่ 13-15 เมษายน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. โดยผู้ใดฝ่าฝืนจะมีอัตราโทษปรับ 500 บาท

    ทั้งนี้ สำหรับถนนที่ห้ามรถบรรทุกคน อุปกรณ์สาดน้ำ เข้ามาเดินรถในช่วงสงกรานต์ ประกอบไปด้วย

    [​IMG] 1.ถนนโชคชัย 4 ตั้งแต่ปากทางเข้าจนถึงสุดถนนโชคชัย 4

    [​IMG] 2.ถนนลาดพร้าว-วังหิน ตั้งแต่สี่แยกวังหินถึงสามแยกถนนโชคชัย 4 ตัดถนนลาดพร้าว-วังหิน

    [​IMG] 3.ถนนนาคนิวาส ตั้งแต่สามแยกซอยสังคมสงเคราะห์ ตัดถนนนาคนิวาส ถึงสี่แยกถนนนาคนิวาสตัดถนนสุคนธสวัสดิ์

    [​IMG] 4.ถนนสุคนธสวัสดิ์ ตั้งแต่สี่แยกถนนนาคนิวาสตัดถนนสุคนธสวัสดิ์ ถึงสี่แยกถนนประเสริฐมนูกิจตัดถนนสุคนธสวัสดิ์

    [​IMG] 5.ซอยสังคมสงเคราะห์ ตั้งแต่สามแยกถนนโชคชัย 4 ตัดซอยสังคมสงเคราะห์ถึงสามแยกถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตัดซอยสังคมสงเคราะห์

    นอก จากนี้ ผบก.จร.จะได้พิจารณาออกข้อบังคับ ห้ามรถบางชนิดเข้าไปเดินรถชั่วคราวในถนนที่มีการใช้รถบรรทุกคน และอุปกรณ์มาเล่นน้ำสงกรานต์ ในวันที่ 13-15 เมษายน ระหว่างเวลา 10.00-22.00 น. ประกอบไปด้วย

    [​IMG] ย่านข้าวสาร ได้แก่ ถนนบางลำพู ถนนสามเสน ถนนพระสุเมรุ ถนนตะนาวบางส่วน

    [​IMG] ย่านสีลม ได้แก่ ย่านศาลาแดง แยกนรา-ลม (แยกนราธิวาสตัดสีลม)

    ทั้ง นี้ สำหรับถนนอักษะ มักจะมีคนเข้าไปเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในช่วงวันท้าย ๆ ของเทศกาล ทาง ผบก.จร. กำลังพิจารณาวันที่จะประกาศห้ามอีกครั้งหนึ่ง

    อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วในถนนที่มักจะมีประชาชนไปเล่นน้ำ เป็นประจำ เช่น ถนนข้าวสาร ถนนสีลม ถนนอักษะ หากมีประชาชนเดินทางไปเล่นน้ำกันมาก ก็จะมีการติดป้ายห้ามรถบรรทุกน้ำเข้าพื้นที่เพื่อความปลอดภัย


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    กองบังคับการตำรวจจราจร


    ʧ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    อัปเกรดพ.ร.บ.คอมฯ เพิ่มโทษผู้ดูแลระบบ ก๊อปไฟล์โหลดบิทเสี่ยงคุก

    เมื่อ 7 ม.ษ. 2554

    <table id="attachments" class="sticky-enabled sticky-table"><thead class="tableHeader-processed"><tr><th>ไฟล์แนบ</th><th>ขนาดไฟล์</th> </tr></thead> <tbody> <tr class="odd"><td>ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับไอซีทีวันที่ 28 มีนาคม 2554</td><td>49.35 KB
    </td> </tr> </tbody> </table>




    [​IMG]
    <style type="text/css"></style>




    เมื่อวันจันทร์ที่28 มี.ค. 54 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัด ประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย
    ร่าง กฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิกพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 ทั้ง ฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้

    ประเด็นที่1 เพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ”
    มาตรา4 เพิ่ม นิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” หมายความว่า “ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น”
    ใน กฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ “ผู้ให้บริการ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น “ตัวกลาง” ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น
    สำหรับ ร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ “ผู้ให้บริการ” อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
    ตาม ร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่นการเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ1.5 เท่าของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป
    ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี
    สิ่ง ใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา16 ที่ เพิ่มมาว่า “ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
    ทั้งนี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่างๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า “แคช” (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว
    ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด
    ในมาตรา25 “ผู้ ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือ เยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
    เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่อง ลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ “การครอบครอง” อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม
    ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา
    มาตรา24 (1) นำ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน
    เนื้อความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด ห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    หาก พิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ “รัฐบาล” ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิด เห็นโดยไม่จำเป็น
    ประเด็นที่5 ดูหมิ่น ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
    มาตรา26 ผู้ ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ที่ผ่านมามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่น ประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อ ในร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อ หาการดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้นข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
    ประเด็นที่6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ
    มาตรา21 ผู้ ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    จากที่กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่า การส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาเป็นจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
    ทั้ง นี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้
    ประเด็นที่7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี
    มาตรา23 ผู้ ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความ ผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    น่าสังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำ หรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง
    ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ
    สำหรับ กรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท(เพิ่มขึ้น 4 เท่า)
    ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
    ร่าง กฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า “สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “สพธอ.” และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “ETDA” เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที
    หน่วยงานนี้ เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการ ประกาศผ่าน “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มี.. 54
    ใน ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ภายใต้ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับที่กำลังร่างนี้
    นอกจากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การ มหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา
    ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน
    ร่าง กฎหมายนี้เพิ่มกลไก“คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทาง คอมพิวเตอร์” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้ อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี
    คณะกรรมการชุด นี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน
    คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดในพ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง “ปฏิบัติการอื่นใด” เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา


    อัปเกรดพ.ร.บ.คอมฯ เพิ่มโทษผู้ดูแลระบบ ก๊อปไฟล์โหลดบิทเสี่ยงคุก | iLaw.or.th


    .



    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    กินแบบไหนถึงหาย “ร้อน” <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">7 เมษายน 2554 16:00 น.</td></tr></tbody></table>

    <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เข้าเดือนเมษา หน้าสงกรานต์ทีไร ใครๆ ก็ต้องบ่นว่าร้อนเสียเหลือเกิน ถึงแม้ว่าเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมายังได้ใส่เสื้อกันหนาวกันอยู่ แต่พอความหนาวเย็นหายไป ความร้อนก็เข้ามาแทนที่ทันที

    และเมื่อถึงหน้าร้อนแบบนี้ เราก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการกินให้เข้ากับฤดูกาลด้วยเช่นกัน “108 เคล็ดกิน” มีวิธีกินที่จะทำให้คลายความร้อนในร่างกายลงไปได้บ้าง ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้น ก็ลองไปดูกันดีกว่า

    ลดการกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไขมัน และแป้ง เนื่องจากอาหารประเภทนี้ต้องใช้พลังงานในการย่อยค่อนข้างสูง ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานหนัก ซึ่งจะเกิดความร้อนขึ้นภายในร่างกาย นอกจากนั้นก็ยังเป็นอาหารกลุ่มที่ให้พลังงานมาก ซึ่งถ้ากินมากเกินไปก็จะทำให้ได้รับพลังงานเกินความจำเป็น ดังนั้น ควรเปลี่ยนไปกินอาหารพวกผักและผลไม้มากขึ้น

    ดื่มน้ำสะอาดเพิ่มขึ้น ในฤดูร้อนจะทำให้เราเสียเหงื่อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจะต้องดื่มน้ำเข้าไปชดเชยเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะคนที่จะต้องอยู่กลางอากาศร้อนจัด แดดแรง หรือต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรดื่มน้ำให้ได้ 4-6 แก้วต่อชั่วโมง ส่วนน้ำที่ใช้ดื่มนั้นควรเป็นน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้อง ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน เพราะจะทำให้รู้สึกกระหายน้ำเพิ่มมากขึ้น และไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัด เพราะจะทำให้ป่วยได้ง่าย เนื่องจากร่างกายปรับอุณภูมิไม่ทัน และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่าย อีกทั้งในอากาศร้อน แอลกอฮอล์จะซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วกว่าปกติ ทำให้เมาได้ง่าย และอาจช็อกหมดสติได้

    กินอาหารที่สด สะอาด และปรุงสุก เนื่องจากในหน้าร้อนเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ดี ทำให้อาหารเน่าเสียได้ง่าย ซึ่งเมื่อกินเข้าไปอาจเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ จะเห็นได้จากที่กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศเตือนให้ระวังอันตรายจากโรคในหน้า ร้อน เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด เป็นต้น ซึ่งสามารถป้องกันได้จากการดูแลความสะอาดของอาหาร และน้ำดื่ม รวมถึงรักษาสุขลักษณะส่วนบุคคล

    กินอาหารรสขมเย็น อาหารที่มีสรรพคุณทางยาในรสขมเย็น จะช่วยขับร้อน แห้กระหาย ถอนพิษไข้ แก้ร้อนใน ซึ่งอาหารในประเภทนี้ก็มีหลายชนิด เช่น มะระ ฟักเขียว ปวยเล้ง ผักกาดขาว แตงกวา ผักบุ้ง แตงโม สาลี่ เป็นต้น

    Travel - Manager Online -

    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000043672


    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ผีไม่พลาด! เปิดบ้านอัดเจ้าสัว 2-0 นำปืน10แต้ม


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ข่าวฟุตบอล "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านอัดนิ่ม "เจ้าสัว" ฟูแล่ม ไปแบบไม่ยาก 2-0 ได้ประตูจาก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ นาทีที่ 12 และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย นาทีที่ 32 เก็บสามคะแนนเข้ากระเป๋า ทิ้งอันดับสอง อาร์เซน่อล ไปถึง10แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า2นัดก็ตาม

    ผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
    วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2554
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 : 0 ฟูแล่ม
    ประตู :
    1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.12,2-0 อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.32

    ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้

    ครึ่งแรก

    นาที 12 เจ้าบ้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ นานี่ ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลอกนักเตะทีมเยือนสองรายชิ่งกับ อันแดร์สัน ตรงหัวกระโหลก ก่อนป้ายออกซ้ายให้ เบอร์บาตอฟ ที่ยืนในตำแหน่งล้ำหน้าแปเสียบเสาสองเด็ดขาด นับเป็นประตูที่ 21 ของดาวยิงชาวบัลแกเรียนนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดพรีเมียร์ลีก ทว่าไลน์แมนไม่ว่า

    นาทีที่ 19 เจ้าบ้านน่าบวกสกอร์ได้สุดๆ จากความยอดเยี่ยมของ เบอร์บาตอฟ ที่กระชากแตะหลบกองหลัง ฟูแล่ม หลุดถึงด้านขวาแล้วแตะย้อนใส่พานทองให้ อันแดร์สัน จับแล้วซัดตรงหัวกระโหลก ทว่ามิดฟิลด์แซมบ้ายิงหลุดเสาอย่างน่าผิดหวัง

    นาทีที่ 26 ตอนนี้กลายเป็นเกมของแมนฯยูไนเต็ดซะค่อนข้างมากแล้วด้วยเปอร์เซ็นต์การครอง บอลกว่า 80% ส่วนทางฟูแล่มนั้นมักจะผิดพลาดกันในจังหวะที่พยายามเซ็ตเกมบุกขึ้นไปทวง ประตูคืน

    นาทีที่ 32 ปีศาจแดง ก็ได้เฮอีกรอบจนได้เมื่อ นานี่ หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นทางซ้ายแตะหลบ มาร์ก ชวาร์เซอร์ ที่ออกมาขวาง ถึงเส้นหลังเลาะจากซ้ายเข้ามามุมแคบก่อนที่ปีกโปรตุกีสจะชิพหมายให้ตุง ตาข่าย ลูกโดนหัว อารอน ฮิวจ์ส ที่หวังสกัดจากเส้นประตู แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อ วาเลนเซีย ที่ยืนอยู่หน้าประตูเสือกหัวทิ่มเข้าไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนี 2-0

    หลัง จากนั้น เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของเจ้าบ้าน ท้ายครึ่งแรก วาเลนเซีย ทำได้สวยเมื่อลากเลื้อยเลาะถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วตวัดไปหน้าประตูโล่งๆ แต่ ฮิวจ์ส สกัดทิ้งได้สำเร็จก่อนมีคนชาร์จ จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 2-0

    ครึ่งหลัง

    นาที ที่ 62 คุซแซ็คโชว์จังหวะเซฟให้ผู้ทำผลหงายเงิบไปเลยจากจังหวะที่กุ๊ดยอห์นเซ่นที่ ถูกเปลี่ยนลงมาในครึ่งหลังได้บอลและมีเวลาค่อนข้างมากหน้ากรอบเขตโทษ เลยจัดการปั่นโค้งแบบเต็มตีน น้ำหนักได้ลุ้นสุดๆเหมือนบอลกำลังจะพุ่งเสียบเสาแล้ว แต่เป็นคุซแซ็คที่บินสุดตัวปัดเอาไว้ได้ปลายมือ ไม่งั้นหายแน่ๆ

    นาที ที่ 66 ปีศาจแดง ก็ได้เสียวเหมือนกัน จากลูกยิงไกลราว 20 กว่าหลาของ กิ๊บสัน แต่ ชวาร์เซอร์ ล้มตัวตะครุบเอาไว้ได้ ก่อนที่ ฮิวจ์ส จะเปลี่ยนอีกตัวโดยถอดตัวรับอย่าง เอตูฮู ออกแล้วปล่อยตัวรุก โซลตาน เกร่า แทนในนาทีถัดมา

    นาทีที่ 76 ซาโมร่า ตักจากซ้ายไปเสาสองให้ คริส แบร์ด พักแล้ววอลเล่ย์เต็มข้อข้ามคานแบบน่าหวาดเสียว

    นาที ที่ 86 แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยถอด นานี่ ไปเก็บแล้วส่ง ไมเคิ่ล คาร์ริค ลงสนาม จากนั้น ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ปีศาจแดง ชนะไป 2-0 ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง อาร์เซน่อล ที่มีคิวลงเล่นใน 24 ชั่วโมงให้หลังเป็น 10 แต้มแล้ว

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
    โธ มัสซ์ คุสแช็ค, จอห์น โอเชีย, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริซ เอฟร่า, ดาร์รอน กิ๊บสัน, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน(ฟาบิโอ น.76), อันโตนิโอ วาเลนเซีย(โอเว่น น.73), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, หลุยส์ นานี่(คาร์ริค น.87)

    ฟูแล่ม : มา ร์ค ชไวเซอร์, คริส เบียร์ด, อาร์รอน ฮิวจส์, เบรเด้ ฮังเกแลนด์, คาร์ลอส ซัลซิโด้, กาเอล คาคูต้า, แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์(กรีนนิ่ง น.82), ดิ๊กสัน เอตูฮู(เกร่า น.67), คลิ้นท์ เด็มพ์ซี่ย์, มูสซ่า เด็มเบเล่(กุ๊ดยอดเซ่น น.55), บ็อบบี้ ซาโมร่า











    http://football.kapook.com/news_inside.php?id=13384&key=news



     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    'เตาไมโครเวฟ'อันตรายจริงหรือ?

    มีหลายคนกังวลว่า “คลื่นไมโครเวฟ” จะรั่วจากเตาไมโครเวฟที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ บ้างก็สงสัยว่าอาหารที่ได้จากการปรุงด้วยเตาไมโครเวฟ มีคลื่นไมโครเวฟตกค้างหรือไม่ และจะทำให้เกิดอันตรายตามที่มีการส่งต่ออีเมล หรือตามที่มีการโพสต์ข้อความในเว็บ ไซต์ต่าง ๆ หรือไม่?

    ด้วยเหตุนี้จึงสอบถามข้อมูลไปยัง นพ.สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ นายอรรถโกวิท สงวนสัตย์ ผอ.สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ กลุ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประกอบด้วย น.ส.สาธิตา ศักดิ์วิเศษ นักฟิสิกส์รังสี ชำนาญการ นายชัยยศ อินทร์ติยะ นักฟิสิกส์รังสี ปฏิบัติการ และ น.ส.สิริวรรณ กุชโช นักฟิสิกส์รังสี ร่วมกันให้ข้อมูล

    เตาอบไมโครเวฟ คือ เตาที่ทำงานโดยใช้คุณสมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ความถี่ 2,450 เมกะเฮิรตซ์ ที่ผลิตขึ้นจากหลอดแมกนิทรอนแล้วส่งเข้าเตาอบ คลื่นนี้จะทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารมีการเคลื่อนที่ไป-กลับ 2,450 ล้านครั้งใน 1 วินาที ก่อให้เกิดพลังงานความร้อนขึ้น ความร้อนจะถูกถ่ายเทไปสู่อาหารทำให้อาหารร้อนขึ้นได้

    จากข้อมูลการทดสอบคลื่นรั่วของเตาไมโครเวฟ 158 เครื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 9 มี.ค. 2554 ของกลุ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ พบว่า ค่าของคลื่นไมโครเวฟที่รั่วมากที่สุดมีค่าเท่ากับ 4 มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร และบริเวณที่พบการรั่วของคลื่นไมโครเวฟมากที่สุดคือบริเวณด้านหน้าของเตา ไมโครเวฟ ดังปรากฏในตาราง

    ปีงบประมาณ จำนวน(เครื่อง) ค่าที่รั่วมากที่สุด(มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร) บริเวณที่รั่ว
    2548 9 0.7 ขอบประตูด้านล่างของเตาอบไมโครเวฟ
    2549 40 3.0 ขอบบนขวาด้านหน้าของเตาอบไมโครเวฟ
    2550 8 0.1 ปุ่มเปิดประตูของเตาอบไมโครเวฟ,ขอบบนขวากลางด้านหน้าของเตาอบ
    ไมโครเวฟ
    2551 37 1.7 ขอบประตูด้านล่างซ้ายของเตาอบไมโครเวฟ
    2552 45 4.0 รอยเชื่อมต่อขอบประตูด้านบนขวาของเตาอบไมโครเวฟ
    2553 13 1.2 รอยเชื่อมต่อขอบประตูด้านบนกลางของเตาอบไมโครเวฟ
    2554 6 1.4 ปุ่มเปิดประตูของเตาอบไมโครเวฟ

    มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 1173-2548 กำหนดว่า เตาไมโครเวฟสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยจะมีการรั่วของคลื่นไมโครเวฟได้ไม่เกิน 5 มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร โดยวัดที่ระยะห่าง 5 เซนติเมตรรอบเตา แสดงว่าการตรวจที่ผ่านมายังไม่พบการรั่วที่เป็นอันตราย อย่างกรณีที่พบค่ารั่วมากที่สุด 4 มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตรนั้นก็ไม่ได้เป็นเตาไมโครเวฟที่ใช้ในบ้านเรือน แต่เป็นของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งที่ใช้ในการให้ความร้อนสารเคมี แต่ปรากฎว่ามีการระเบิดและเตาเสียหายทำให้วัดค่าได้สูงขนาดนั้นแต่ก็ไม่ได้ เกินมาตรฐาน

    วิธีการวัดปริมาณการรั่วของคลื่นไมโครเวฟ เริ่มจาก ใช้บีกเกอร์บรรจุน้ำ 275 มิลลิลิตร วางตรงกลางภายในเตาไมโครเวฟ ปิดประตูแล้วตั้งความร้อนสูงสุด ตั้งเวลาที่ 5 นาที กดสวิตช์ให้เตาไมโครเวฟทำงาน กดให้ประตูเปิดซึ่งเครื่องจะต้องหยุดทำงาน จากนั้นใช้เครื่องวัดที่เรียกว่า “ไมโครเวฟ เซอร์เวย์ มิเตอร์” หากเข็มเครื่องวัดไม่กระดิกแสดงว่าเครื่องทำงานปกติ จากนั้นปิดประตู เมื่อเครื่องทำงาน ก็ทำการวัดรอบ ๆ เตาไมโครเวฟทั้ง 6 ด้าน คือ หน้า หลัง ด้านข้าง 2 ด้าน ด้านบน และด้านล่าง โดยแต่ละด้านจะวัดรังสี 9 จุดด้วยกัน

    สำหรับประชาชนที่สนใจจะตรวจสอบการรั่วของเตาไมโครเวฟ สามารถมาขอรับการตรวจได้ที่สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ ในเวลาราชการ หรือที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ โดยจะมีค่าใช้จ่าย 100 บาทต่อเครื่อง หรือ หากออฟฟิศใดมี 20-30 เครื่อง ก็สามารถติดต่อให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจนอกสถานที่ได้ โดยจะใช้เวลาตรวจสอบการรั่วประมาณ 30 นาทีต่อเครื่อง

    น.ส.สาธิตา ศักดิ์วิเศษ นักฟิสิกส์รังสี ชำนาญการ กล่าวว่า จากการตรวจเตาไมโครเวฟที่ผ่านมาพบว่า เตาที่รั่วนั้นมักเกิดจากประตูปิดไม่สนิท กระจกแตก มีรอยฉีกขาดของรังผึ้งติดประตู มีการผุพังของผนังรอบตัวเตา ตัวถังเป็นสนิม ซึ่งหากตรวจพบการรั่วของคลื่นไมโครเวฟเกิน 5 มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตรจะแนะนำให้เลิกใช้เตาไมโครเวฟดังกล่าวเพราะอาจ ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้ แต่ที่ผ่านมาก็ยังตรวจไม่พบมีการรั่วมากขนาดนั้น

    ส่วนที่มีความกังวลว่า อาหารที่ได้จากการปรุงด้วยเตาไมโครเวฟ จะทำให้เกิดอันตรายนั้น ก็ยังไม่เคยเห็นผลงานวิจัยในเรื่องนี้ แต่ปกติพลังงานของคลื่นไมโครเวฟจะถูกดูดกลืนโดยน้ำในอาหาร แล้วเปลี่ยนไปเป็นพลังงานความร้อนหมด จึงไม่มีคลื่นตกค้าง หรือคลื่นสะสมในอาหาร สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย

    กรณีที่เกรงว่าจะก่อให้เกิดมะเร็งหรือเป็นอันตรายนั้น น.ส.สาธิตา อธิบายว่า น่าจะเกิดจากการนำภาชนะที่ไม่เหมาะสมมาใช้บรรจุอาหารมากกว่า เช่น การนำจานชามพลาสติกมีสีทั่วไปมาใช้ โดยที่ไม่ได้ระบุว่าใช้กับเตาไมโครเวฟ ซึ่งอาจทำให้มีสารอันตรายปนเปื้อนอาหารได้ ดังนั้นภาชนะที่ใช้กับเตาไมโครเวฟควรเป็นกระเบื้อง ภาชนะแก้วที่ทนความร้อน และภาชนะพลาสติกที่ทำด้วยโพลีโพรพิลีน จะทนความร้อนได้สูงกว่า 120 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ข้อควรปฏิบัติในการใช้ไม่ควรเปิดให้เตาไมโครเวฟทำงานขณะที่ไม่มี อาหารอยู่ภายใน และไม่ควรจ้องมองช่องประตูในระยะใกล้ ในขณะที่เตาทำงานควรอยู่ห่างอย่างน้อย 50 เซนติเมตร เพราะหากมีการรั่วจะได้ไม่เป็นอันตราย

    ด้าน นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า สำหรับผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์บางคนในต่างประเทศที่ระบุถึงอันตรายของ อาหารที่ปรุงด้วยเตาไมโครเวฟ พบว่า ยังไม่มีหลักฐานรองรับที่แน่นหนาพอ และไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก.

    นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน

    ที่มา เดลินิวส์

    Daily News Online > โลกสีสวย > แรงงาน-สาธารณสุข > X-RAY สุขภาพ > 'เตาไมโครเวฟ'อันตรายจริงหรือ?



    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    รักษา'กระดูกพรุน'ในผู้สูงอายุป้องกันตะโพกหัก...เติมชีวิตมีสุข


    โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ เนื่องจากมวลกระดูกลดน้อยลงจนทำให้เปราะบางแตกหักง่ายและปัญหาที่มักตามมาก็ คือ กระดูกหัก โดยเฉพาะกระดูกตะโพกที่สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานถึงแม้ว่าจะผ่าตัดรักษา แล้วก็ตาม แต่ก็ยังทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเหล่านั้นแย่ลงและไม่มีความสุขเท่า ที่ควรจะเป็น..!!

    รศ.นพ.วิวัฒน์ วจนะวิศิษฐ์ หัวหน้าภาควิชา ออร์โธปิดิกส์ กองอายุรกรรมโรคข้อและกระดูก โรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายถึงภาวะเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนว่า เมื่อเป็นกระดูกพรุนแล้วมักมีปัญหากระดูกหัก ซึ่งกระดูกหักในที่นี้ไม่เหมือนกับกระดูกหักทั่วไป เพราะโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุการติดของเนื้อกระดูกจะช้ากว่ากระดูกทั่วไป และเทคนิคการผ่าตัดก็ซับซ้อนยุ่งยาก เพราะเนื้อกระดูกบางมาก การยึดหรือการตรึงจะทำด้วยความยากลำบากต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีกระดูกหักนี้จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าคนปกติทั่วไป โดยเฉพาะตัวเลขของผู้สูงอายุที่เป็นกระดูกพรุนแล้วหกล้มกระดูกตะโพกหัก มีอัตราการรอดชีวิตภายใน 1 ปีแรกเหลืออยู่เพียงแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเราติดตามผลหลังจากการผ่าตัดเรียบร้อยดีสามารถกลับบ้านได้จำนวน 100 คน ภายใน 1 ปี พบว่าเสียชีวิตไป 20 คน เหลืออยู่ 80 คน ถือว่าเป็นอัตราการตายที่สูง นอกจากนี้อีก 80 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือมีเพียงครึ่งเดียวที่กลับไปเดินได้ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งใช้ชีวิตอย่างยากลำบากต้องนั่งรถเข็น มีผู้ดูแลหรือใช้เครื่องช่วยเดิน ฉะนั้นจึงถือว่าเป็นภาวะซึ่งมีทุพพลภาพและเสียชีวิตสูง ซึ่งในแต่ละปีจะพบว่ามีผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนสูงขึ้นด้วย

    ดังนั้นการป้องกันด้วยการทราบว่าตัวเองเป็นกระดูกพรุนหรือไม่เพื่อรับการ รักษาและดูแลไม่ให้เกิดการหกล้มนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยผู้ที่มีปัจจัยหลักเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้แก่ พันธุกรรมและยีนผิดปกติ เช่น เคยมีประวัติกระดูกหักหรือมีประวัติครอบครัวโดยเฉพาะทางมารดาเคยมีกระดูกหัก ง่ายหรือเป็นโรคกระดูกพรุนมาก่อน การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในสตรีวัยหมดประจำเดือนหรือถูกผ่าตัดรังไข่ออกก่อน หมดประจำเดือน ผู้ที่มีรูปร่างเล็ก ผอม น้ำหนักน้อย การรับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น สเตียรอยด์ ยาทดแทนไทรอยด์ ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น ข้ออักเสบ โรคไต โรคตับ ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินไป ส่วนปัจจัยเสี่ยงรองลงมาที่เราสามารถควบคุมได้คือ ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม ต่ำเป็นนิสัย ไม่ค่อยออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มชา กาแฟ สุราในปริมาณมาก ทั้งหมดนี้ควรได้รับการตรวจคัดกรองมวลกระดูกก่อนอายุ 60 ปี เพื่อรับการรักษา

    โดยวิธีการรักษานั้นในปัจจุบันมียามากมายที่ใช้ในการรักษาโรคกระดูกพรุน แต่ยังไม่มียาตัวใดสมบูรณ์แบบทั้งหมด ยารับประทานบางชนิดเป็นยาเสริมสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน เมื่อใช้แล้วจะมีภาวะเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมและมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมาก ขึ้น หรือยาบางชนิดถูกสังเคราะห์ขึ้นมาโดยมีคุณสมบัติสามารถลดการสูญเสียมวล กระดูกและลดอุบัติการณ์ของกระดูกเปราะหักได้ ซึ่งยาเหล่านี้ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องและอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่าง ใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมียาอีกชนิดหนึ่งเป็นยาชนิดฉีดที่ใช้ในการรักษากระดูกพรุน ใช้ฉีดปีละ 1 ครั้ง หลังจากได้รับยาตัวยาจะไปอยู่บริเวณผิวกระดูกเพื่อออกฤทธิ์ในการยับยั้งการ ทำลายกระดูก ส่วนยาที่เหลือจะถูกขับออกทางปัสสาวะและหมดไปจากกระแสเลือดภายใน 7 วัน ซึ่งการฉีดยาปีละครั้งจะสะดวกกว่าการรับประทานที่ต้องมานั่งนับวันหรือบาง ครั้งอาจลืมทำให้ไม่ได้ผลเท่าที่ควรหรือป้องกันกระดูกหักไม่ได้

    สำหรับอาการของโรคกระดูกพรุนในระยะแรกจะไม่มีอาการใด ๆ แต่อาการต่าง ๆ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเนื้อกระดูกลดลงไปมากจนกระทั่งกระดูกขาดความแข็งแรงและ เกิดการแตกหัก ซึ่ง อาการที่สำคัญคือ ปวดกระดูกบริเวณที่มีความผิดปกติมักเกิดกับกระดูกที่ต้องรองรับน้ำหนัก เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกตะโพก เป็นต้น ซึ่งกรณีข้อกระดูกสันหลังหักยุบอาจเกิดภายหลังยกของหนักหรือหกล้มก้นกระแทก ซึ่งจะเกิดการปวดหลังหรือเคลื่อนไหวขยับตัวแล้วปวด ผู้ป่วยส่วนมากจะมีการหักยุบอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยจะสังเกตได้ว่าความสูงลดลงเรื่อย ๆ จนหลังโก่งค่อม

    ส่วน กระดูกตะโพกหักส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ 70 ปี ขึ้นไปมักเกิดขึ้นในท่าหกล้มด้านข้าง ซึ่งผู้ป่วยตะโพกหักมักจะเดินไม่ได้ต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อตะโพก โดย กระดูกตะโพกหักในผู้สูงอายุมี 2 แบบ คือ 1. กระดูกคอตะโพกหักตรงตำแหน่งคอของตะโพก ทำให้ส่วนหัวและก้านของกระดูกตะโพกแยกจากกัน วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอายุของคนไข้และความมากน้อยในการเคลื่อนออกจากกัน และ 2. การหักตรงตำแหน่งฐานคอของกระดูกตะโพกหรือส่วนที่ต่ำกว่าคอตะโพกลงมา การรักษามักยุ่งยากน้อยกว่ากระดูกคอตะโพกหักโดยใช้การดามด้วยโลหะพิเศษ

    อย่างไรก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันให้ห่างไกลโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความเสี่ยงควรหมั่นตรวจสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ เพราะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ แต่หากตรวจพบก่อนเพื่อกินยารักษาโรคกระดูกพรุนก็จะสามารถป้องกันการเกิด ตะโพกหักได้ในระดับหนึ่ง แต่การป้องกันที่ดีที่สุดคือการเร่งสร้างและสะสมมวลกระดูกให้แข็งแรงตั้งแต่ วัยเด็ก กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผักใบเขียว แคลเซียมซึ่งแนะนำต่อวันสำหรับคนไทยคือ 800-1,000 มิลลิกรัม วิตามินดี นมซึ่งเป็นสารอาหารที่มีแคลเซียมดีที่สุด เด็กควรดื่มอย่างน้อย วันละ 2 แก้ว (500 ซีซี) จนถึงวัยหนุ่มสาวเพื่อเพิ่มมวลกระดูกให้สะสมมาก ที่สำคัญควรออกกำลังกายให้เพียงพอและสม่ำเสมอ หยุดสูบบุหรี่ ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

    หากปฏิบัติตัวได้เช่นนี้ในอนาคตข้างหน้าเราอยู่ในวัยสูงอายุถึงแม้จะอยู่ใน กลุ่มเสี่ยงก็ตามก็จะสามารถห่างไกลจากโรคกระดูกพรุนและไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน บาดเจ็บจากข้อกระดูกตะโพกหัก แต่ไม่ใช่ว่าจะดูแลตัวเองเพียงเท่านั้น สำหรับใครที่มีญาติผู้ใหญ่ที่คาดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรดูแลท่านด้วยการพาไปตรวจคัดกรองกระดูกเพื่อรับการรักษาโรคกระดูกพรุนจาก แพทย์ด้วยการรับประทานยาหรือจะฉีดยาก็สะดวกดี เพื่อเติมเต็มให้ท่านมีชีวิตบั้นปลายที่มีความสุขอยู่ฉลอง เทศกาลสงกรานต์ วันผู้สูงอายุ กับเราไปนาน ๆ

    สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าค่ะ.

    .................

    เคล็ดลับสุขภาพดี

    ย่างเข้าหน้าร้อนทีไรเชื่อว่าสาว ๆ ทั้งหลายคงต้องเอาใจใส่เรื่องผิวพรรณเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผิวหน้า” ที่มองเห็นเด่นชัด หากต้องถูกแสงแดดแรง ๆ อาจทำให้ผิวหน้าแห้ง ไหม้เกรียม ที่สำคัญยังมี “กระ” ชนิดต่าง ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “กระ” ตัวการสำคัญที่บั่นทอนความสวยกันดีกว่า โดยกระนั้นมีหลายชนิดได้แก่ กระตื้น เกิดจากแสงแดดหรือลม มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ เกิดขึ้นได้ทั่วใบหน้า ไม่นูน ส่วนมากเป็นสีน้ำตาล กระเนื้อ เกิดจากแสงแดดหรือลม มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร เกิดได้ทั่วใบหน้า โดยมักเน้นเป็นที่บริเวณขมับหรือหน้าผากและจะนูนขึ้นมาจากผิวหนัง ส่วนมากมักเป็นสีน้ำตาล กระลึก เกิดได้จากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมน เป็นกระที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง มีสีเทาอมน้ำเงินถึงดำ มีลักษณะเป็นวงกลม ๆ มีขนาดใหญ่กว่ากระเนื้อ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร มักขึ้นที่บริเวณโหนกแก้ม

    สาเหตุของการเกิดกระนั้นมีปัจจัย 3 ประการ ด้วยกันคือ 1. ฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกระได้ง่าย เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ในหญิงที่ตั้งครรภ์ก็ทำให้มีฮอร์โมนสูงขึ้นเช่นกัน และการรับประทานยาคุมกำเนิด ทั้งหมดนี้จึงมีโอกาสทำให้เป็นฝ้าและกระได้ง่าย 2. กรรมพันธุ์ หากผู้ที่มีแม่และพี่สาวเป็นกระ โอกาสที่ตัวเองจะเป็นกระก็สูงเพิ่มขึ้นด้วย และ 3. แสงแดดและลม เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระ โดยมากมักขึ้นบริเวณใบหน้าและโหนกแก้ม เนื่องจากเป็นบริเวณที่สัมผัสแดดโดยตรง

    ปัจจุบันการรักษากระสามารถทำได้ง่ายและเห็นผลชัดเจนด้วยเลเซอร์ อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นกระชนิดต่าง ๆ แล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถทำให้จางลงได้ แต่มีโอกาสกลับมาเป็นอีกสูง ดังนั้นสาว ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องรู้จักป้องกันและดูแลผิวหน้าให้ดีหรือหลังรับการ รักษาแล้วต้องบำรุงผิวหน้าและทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีแดดแรง เช่น เวลา 09.00-17.00 น. หากมีความจำเป็นต้องเผชิญกับแสงแดดและลมแรงให้กางร่มหรือสวมหมวก ในกรณีที่มีลมแรง ๆ ควรปกปิดใบหน้าเพื่อไม่ให้โดนลมและไอร้อนจากแสงแดดด้วย โดยขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยป้องกันการเกิดกระและยืดระยะเวลาในการเกิดกระขึ้น มาใหม่ได้นาน แต่หากใครที่มีปัญหากระมาก ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำวิธีการรักษาที่ถูกต้องจะดีกว่า

    เมื่อสาว ๆ รู้แบบนี้แล้วก่อนเดินทางไปไหน รวมถึงการเล่นน้ำสงกรานต์อย่าลืมบำรุงผิวด้วยการทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว จากแสงแดดด้วยนะคะ และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือ อย่าลืมพกหมวกติดตัวไปด้วยทุกครั้งเพื่อป้องกันไอแดดที่มากับลมซึ่งจะมากระ ทบกับผิวหน้าสวย ๆ ของเราแล้วทำให้เกิดกระได้ค่ะ.

    (ข้อมูลจาก ยศการคลินิก)

    .................

    สรรหามาบอก

    - โรงพยาบาลพระรามเก้า ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญผู้ใจบุญทุกท่าน ร่วมกันบริจาคโลหิตประจำปี 2554 ใน วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2554 พร้อมเชิญชวนให้ผู้ที่เคยบริจาคโลหิตปีละ 1 ครั้ง ปรับเปลี่ยนมาบริจาคกันเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้มีปริมาณโลหิตเพียงพอสำหรับนำไปใช้กับผู้ป่วยทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2202-9900

    ..............

    ทีมวาไรตี้




    Daily News Online > หน้าวาไรตี้ > รักษา'กระดูกพรุน'ในผู้สูงอายุป้องกันตะโพกหัก...เติมชีวิตมีสุข



    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    คำวัด - ญาณ-ฌาน


    คมชัดลึก :จริต คือ ลักษณะนิสัยพื้นฐานที่ประพฤติปฏิบัติ เป็นพฤติกรรมตามสภาพของจิตใจอันเป็นปกติของบุคคลนั้น โดยแบ่งออกเป็น ๖ แบบ คือ ๑.ราคจริต ๒.โทสจริต ๓.โมหจริต ๔.วิตกจริต ๕.ศรัทธาจริต และ ๖.พุทธิจริต





    การรู้จริตของ ตน ทำให้เกิดการรับรู้ว่า จะต้องพัฒนาตนเองอย่างไร มีสิ่งใดที่เหมาะสมอยู่แล้ว มีสิ่งใดที่ต้องปรับปรุง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตนเอง และการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสร้างสรรค์และมีความสุข ในด้านการปฏิบัติธรรมนั้น การรู้จริตสามารถเลือกแนวทางการปฏิบัติธรรมได้อย่างเหมาะสมกับจริตของตน

    อย่าง ไรก็ตาม ในการปฏิบัติธรรมมีคำอยู่ ๒ คำ ที่ออกเสียงคล้ายหรือใกล้เคียงกัน รวมทั้งมีคนมักเข้าใจมีความหมายคล้าย หรือเหมือนกัน คือ คำว่า "ญาณ" และ "ฌาน"

    ทั้งนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม ได้อธิบายความหมายของคำว่า "ญาณ" อ่านว่า “ยาน” ไว้ว่า ความรู้ คือปรีชาหยั่งรู้ หรือกำหนดรู้ได้ด้วยอำนาจการบำเพ็ญวิปัสสนา เรียกว่า วิชชา
    วิชชา แปลว่า ความรู้แจ้ง คือ ความรู้แจ่มแจ้ง ความรู้ชัดเจน ไม่คลุมเครือ มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า “ตรัสรู้” ซึ่งเป็นความรู้ที่เกิดจากการบำเพ็ญวิปัสสนา มิใช่ความรู้ที่เกิดจากการศึกษาเล่าเรียน หรือ การนึกคิดคาดคะเนเอา

    คำว่า “ญาณ” ในความหมายเฉพาะ หมายถึง พระปรีชาหยั่งรู้ของพระพุทธเจ้า ความรู้แจ้งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เรียกเต็มว่า โพธิญาณ หรือ สัมมาโพธิญาณ ซึ่งมีอยู่ ๓ อย่าง คือ

    ๑.บุพเพนิวาสานุสสติญาณ หมายถึง ความรู้เป็นเหตุให้ระลึกถึงขันธ์ในอดีตได้ คือ ระลึกชาติได้นั่นเอง

    ๒.จุตูปปาตญาณ หมายถึง ความรู้ในจุติและอุบัติของสัตว์โลกได้ เรียกว่า ทิพพจักขุญาณ หรือ ทิพยจักษุญาณ

    ๓.อาสวักขยญาณ หมายถึง ความรู้ในการกำจัดอาสวกิเลสให้สิ้นไป

    ส่วนคำว่า “ฌาน” อ่านว่า “ชาน” เจ้าคุณทองดีได้ให้ความหมายไว้ว่า การเพ่ง ซึ่งหมายถึง การเพ่งอารมณ์จนจิตสงบนิ่งแน่วแน่เป็นสมาธิ หรือ ภาวะที่จิตสงบนิ่งอันเนื่องมาจากการเพ่งอารมณ์

    ฌาน แบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ รูปฌาน และอรูปฌาน ซึ่งมีความหมายดังนี้
    รูปฌาน คือ การเพ่งรูปธรรมเป็นอารมณ์ มี ๔ ระดับ ตามอารมณ์ที่ประณีตขึ้นไปตามลำดับ คือ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และ จตุตถฌาน

    อรูปฌาน คือ การเพ่งอรูปธรรมเป็นอารมณ์ มี ๔ ระดับ คือ อากาสานัญจายตนฌาน วิญญาณัญจายตนฌาน อากิญจัญญายตนฌาน และ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน

    เรียกการที่ผู้ได้ฌานนั่งสงบจิตเพ่งอารมณ์นิ่งแนวอยู่ว่า เข้าฌาน

    "พระธรรมกิตติวงศ์ "


    ���Ѵ - �ҳ-�ҹ ��Ѵ�֡ : �������ͧ : ���Ƿ����


    .

     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    เข้า“ตู้ไอติม”ลองลิ้มความอร่อยกับไอศกรีม-เบเกอรี่โฮมเมด <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">10 เมษายน 2554 15:12 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : ผ่านมาแวะกิน (travel_astvmgr@hotmail.com)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศในร้านตู้ไอติม</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> แม้ว่าฤดูร้อนของบ้านเราในปีนี้จะไม่ได้ร้อนมากมายเหมือนปีก่อนๆ แถมยังได้คว้าเอาเสื้อกันหนาวมาใส่กันในฤดูร้อนกันอีกด้วย แต่ถึงอย่างไร อากาศอันอบอ้าวแบบนี้ก็ต้องมีวิธีผ่อนคลายกันเสียหน่อย และจะมีอะไรดีไปกว่าการกินของเย็นๆ อย่างที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะพาไปลองชิมกันที่ร้าน “ตู้ไอติม” ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ พี่ก้อย ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ นักร้องสาวเสียงดี และพี่กบ ผู้จัดการส่วนตัว ออกมาเป็นร้านไอศกรีมและเบเกอรี่โฮมเมดร้านเล็กๆ แต่อบอุ่น

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">พี่ก้อย ศรัณย่า ชวนมาชิมของอร่อย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ในส่วนของไอศกรีมโฮมเมดจะผลิตโดยพี่กบ ซึ่งไปร่ำเรียนหลักสูตรการทำไอศกรีมโฮมเมดมาจากอิตาลี โดยจะเป็นไอศกรีมเจลาโต้ ที่ส่วมผสมก็นำเข้ามาจากอิตาลีเช่นกัน ไอศกรีมเจลาโตนั้นจะมีความพิเศษอยู่ที่ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย เนื้อแน่นเนียนนุ่ม มีรสชาติเข้มข้น และยังมีไขมันต่ำกว่าไอศกรีมทั่วไป 20-35% หรือหากว่าเป็นรสเชอร์เบทก็จะไม่มีไขมันเลย จึงเหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">Mango Sorbet</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สำหรับไอศกรีมของที่นี่จะมีหมุนเวียนกันให้ชิมในแต่ละวันประมาณ 10 รสชาติ และก็ยังคิดค้นรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อความแปลกใหม่ อย่างเช่นในช่วงร้อนๆ แบบนี้ ก็ขอแนะนำให้มาลองชิม Mango Sorbet ที่จะใช้เนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สดมาปั่นรวมกับน้ำเปล่า และน้ำตาลแลกโตส ปั่นจนออกมาเป็นไอศกรีมรสชาติหวานน้อยนุ่มเนียน หอมกลิ่นมะม่วงแท้ๆ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">Orenge Jelly</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> หรือจะเป็น Orenge Jelly สีสันสดใส ที่รสชาติส้มจี๊ดจ้าด แถมน่ารักด้วยเยลลี่รสส้มที่อยู่ในเนื้อไอศกรีม ชิมแล้วชื่นใจดีจริงๆ กับอีกหนึ่งรสชาติ Pop Corn สูตรนี้พี่กบคิดค้นขึ้นเอง เป็นไอศกรีมที่มีส่วนผสมของนมและครีม แต่รสชาติไม่ได้หวานมากนัก และยังใส่ป๊อปคอร์นคาราเมลลงไปในไอศกรีมด้วย ชิมแล้วหอมนมนุ่มครีม

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">Pop Corn</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ส่วนไอศกรีมรสชาติอื่นๆ ก็น่าลองชิม อย่างเช่น Mint Chocolate, Chocolate Peanut Butter, Blueberry Yogurt , Tiramisu เป็นต้น ซึ่งไปศกรีมของที่นี่จะชั่งขายเป็นกรัม ถ้วยเล็ก 80 กรัม (45 บาท) ถ้วยกลาง 160 กรัม (80 บาท) และถ้วยใหญ่ 240 กรัม (120 บาท)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">Brownie Choc Chip</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ในส่วนของเบเกอรี่โฮมเมดจะผลิตโดยพี่ก้อย ที่จะอบกันสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน ไม่ใส่สี ไม่ใส่กลิ่น และวัตถุกันเสีย เลือกใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีประกอบกับความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้ได้เบเกอรี่ที่ทั้งอร่อย และอิ่มเอมใจ อย่างเช่นเมนู Brownie Choc Chip (ชิ้น ละ 45 บาท) สูตรที่พี่ก้อยปรับปรุงเอง ใช้น้ำมันรำข้าวที่ไม่เพิ่มคอเลสเตอรอล ใช้โกโก้จากเนเธอร์แลนด์ที่ให้กลิ่นหอมชวนกิน และยังโรยหน้าด้วยช็อคโกแลตชิพ ต้องลองชิมจะได้รสช็อคโกแลตเข้มข้น แต่ไม่หวานมาก เนื้อเนียน หน้ากรอบ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">Triple Banana</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ส่วน Triple Banana (ถ้วยละ 49 บาท ถุงละ 59 บาท) เห็นจากชื่อก็แน่นอนว่าใช้กล้วยถึง 3 อย่าง คือ กล้วยไข่ กล้วยหอม และเนื้อกล้วยอบแห้ง นำมาตีรวมกับน้ำตาลทรายแดง ไข่ เนย และซาวครีม ส่วนด้านบนเป็นเนื้อกล้วยอบ ชิมแล้วนุ่มหอม ได้เนื้อกล้วยอบ และยังมี Lemon Loaf (ชิ้น ละ 60 บาท) ที่เป็นเนื้อแบบขนมปัง ที่ด้านในมีส่วนผสมของผิวมะนาวขูดและน้ำเชื่อมมะนาว ด้านบนเคลือบด้วยน้ำตาลและน้ำมะนาวสด มาลองชิมจะได้รสชาติและกลิ่นหอมของมะนาว เนื้อนุ่มหวานน้อยๆ

    ไอศกรีมและเบเกอรี่โฮมเมดอร่อยๆ แบบนี้นอกจากจะกินที่ร้านแล้วจะซื้อกลับบ้านก็ได้ และทางร้านยังรับออกงานนอกสถานที่ และรับสั่งทำเบเกอรี่อีกด้วย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">Lemon Loaf</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “ตู้ไอติม” ตั้ง อยู่ใน ซ.รามคำแหง 110 (ม.สัมมากร) การเดินทางจากเดอะมอลล์บางกะปิ ให้วิ่งตรงไปผ่านสามแยกบางกะปิ แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกนิด้า จากนั้นให้เลี้ยวขวาแล้ววิ่งตรงไปจนถึงสามแยกบ้านม้า แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.สุขาภิบาล 3 ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ แล้วชิดซ้าย และเลี้ยวซ้ายเข้า ซ.รามคำแหง 110 (ม.สัมมากร สังเกตว่าจะมีโครงการเพียวเพลสอยู่ด้านหน้า) วิ่งตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร ร้านตู้ไอติมจะอยู่ทางขวามือ สามารถจอดรถได้ด้านหน้าร้าน ทางร้านรับสั่งทำไอศกรีมและเบเกอรี่ และรับออกงานนอกสถานที่ด้วย ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-20.00 น. โทร. 08-1915-0085</td></tr></tbody></table>

    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ตู้ไอติม" <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">9 เมษายน 2554 23:33 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ตู้ไอติม

    ประเภทอาหาร : ไอศกรีมและเบเกอรี่โฮมเมด

    เมนูจานเด่น : Mango Sorbet,Orenge Jelly,Pop Corn,Brownie Choc Chip,Triple Banana,Lemon Loaf

    บรรยากาศร้าน : ร้านเล็กๆ น่านั่ง

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ใน ซ.รามคำแหง 110 (ม.สัมมากร) การเดินทางจากเดอะมอลล์บางกะปิ ให้วิ่งตรงไปผ่านสามแยกบางกะปิ แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกนิด้า จากนั้นให้เลี้ยวขวาแล้ววิ่งตรงไปจนถึงสามแยกบ้านม้า แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.สุขาภิบาล 3 ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ แล้วชิดซ้าย และเลี้ยวซ้ายเข้า ซ.รามคำแหง 110 (ม.สัมมากร สังเกตว่าจะมีโครงการเพียวเพลสอยู่ด้านหน้า) วิ่งตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร ร้านตู้ไอติมจะอยู่ทางขวามือ

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-20.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-1915-0085


    Travel - Manager Online -


    .

    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044761

    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044758

    .
     
  9. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาบุญ ด้วย ครับ
     
  10. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โมทนาสาธุทุกประการครับพี่หนุ่ม
     
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ‘อุจจาระ’ ชวนมอง บอกโรค!

    วันจันทร์ ที่ 11 เมษายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    พอกล่าวถึงเรื่อง ‘อุจจาระ’ หลายๆ คนคงมีสีหน้าเหยเก เพราะของเสียๆ กลิ่นตุๆ แบบนั้น เมื่อร่างกายขับออกมาก็อยากให้จบๆ กันไป แต่ในความเป็นจริงเรื่อง อึ อึ นี้ ชะล่าใจไม่ได้เอาเสียเลย เพราะอุจจาระสามารถบอกความผิดปกติภายในร่างกายได้ เพียงแค่คุณทั้งหลายต้องหมั่นสังเกต อย่าได้อายสายตาตัวเองเลย ไหนๆ ในห้องส้วมก็มีแต่คุณและอึ สองต่อสองเท่านั้น

    โดยสิ่งที่ต้องสังเกตนั้นเริ่มจาก อุจจาระจมหรือลอย หากจมน้ำบ่งบอกว่า เจ้าของเน้นกินเนื้อสัตว์มากเกินและละเลยผักผลไม้ ดังนั้นอุจจาระควรลอยดีกว่าจม จึงขอแนะนำให้กินผักผลไม้เพื่อเพิ่มกากใยเข้าไปมากๆ ระบบขับถ่ายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งคนที่กินผักและผลไม้มากๆ ลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งทางเดินอาหาร

    อย่างต่อมาดูซิว่า อุจจาระมีสีอะไร ที่เหมาะที่ควรนั้นน่าจะเป็นสีออกเหลือง แต่ถ้าเป็นสีอื่นก็พอจะบอกที่มาได้ เช่น สีเหลืองเขียวขี้ม้า เป็นเพราะทานผักมาก สีแดงๆ ส้ม แสดงว่าเน้นกินมะละกอ-แครอท สีน้ำตาลคล้ำ หมายถึงกินเนื้อสัตว์มาก ซึ่งยังไม่จัดว่าอันตรายมาก เว้นแต่อุจจาระนั้นมีสีดำคล้ำคล้ายยางมะตอย หรือน้ำตาลไหม้แดง แถมมีกลิ่นเหม็นคาวมาก จึงถือว่าเป็นสัญญาอันตรายเตือนว่า คุณอาจมีเลือดออกที่ทางเดินอาหารส่วนต้น ควรไปพบแพทย์ ขณะที่อุจจาระที่มีเลือดปนเป็นสีแดงสด อาจเป็นไปได้ว่า มีเลือดออกที่ลำไส้ใหญ่ใกล้รูทวาร

    นอกจากนี้แล้ว ก้อนอุจจาระควรมีลักษณะเหมือนกล้วย หรือดินเปียก เคลื่อนออกจากทวารหนักลื่นคล้องไม่ต้องออกแรงเบ่งมาก ไม่ควรแบ่งตัวออกเหมือนก้อนกรวด ไม่แข็งเกินไป อาจเป็นเพราะท้องผูก ดื่มน้ำน้อย แต่ก็ไม่น่าจะเหลวหรือเหมือนโคลน ซึ่งอาจเป็นอาการของการติดเชื้อแบคทีเรียทำให้ท้องเสีย ท้องร่วง

    หากลองย้อนคิดดูแล้วพบว่า อุจจาระมีลักษณะที่ไม่เหมาะสม เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการกิน เน้นผัก-ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ เลี่ยงดื่มชาตอนท้องว่างเพราะบางคนอาจท้องผูกได้ และออกกำลังกาย ฝึกนิสัยขับถ่ายเป็นเวลาและให้ถ่ายได้ทุกวัน ระบบย่อยและขับถ่ายก็จะมีประสิทธิภาพที่ดี ไม่มีโรคภัยไข้ร้ายมาเยือน.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <IFRAME id=_atssh578 title="AddThis utility frame" style="BORDER-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: 0px; Z-INDEX: 100000; LEFT: 0px; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px; HEIGHT: 1px" name=_atssh578 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh38.html#cb=0&ab=-&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff179%2F%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%9E%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%83%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%91%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%87%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%99%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%89%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%92-%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%94%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%88%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%85%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%87%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%9B%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%88%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%9A%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%83%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%84%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%83%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%E2%82%AC%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%94%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%9E%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%82%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%85%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%9D%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%83%E0%B9%80%E0%B8%99%E2%82%AC%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81-%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%93%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%89%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%92%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%A2%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%89%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%87%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%92%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%83%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%94%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%88%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%88%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%84%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%9D%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%89-22445-2236.html&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4a38f0f6636e48fa&ssl=0&sid=4da2664577e0af68&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0.5&ver=250&xck=0&rev=96998" width=1 height=1 frameborder="0"></IFRAME>
    เด็กเกษตรฯบุกอิหร่านคว้าแชมป์หุ่นยนต์

    วันจันทร์ ที่ 11 เมษายน 2554 เวลา 6:05 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT>​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ทีม “สคูบา” ม.เกษตรฯ สุดเจ๋ง บุกอิหร่านคว้าแชมป์หุ่นยนต์เตะบอล หลังเอาชนะทีมเจ้าถิ่นมือวางอันดับ 3
    เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน ผลการแข่งขัน RoboCup Iran Open 2011 ที่เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน ซึ่งทีม สคูบา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันด้วย โดยมีทีมจากทั่วโลกส่งเข้าร่วม

    ซึ่งผลการแข่งขัดนัดชิงชนะเลิศประเภท “หุ่นยนต์เตะฟุตบอล” ทีมสคูบาของไทย ซึ่งเป็นแชมป์โลกในปี 2509 และ 2510 ประกอบด้วย นายภูมินทร์ พวงใจศรี นิสิตปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า นายธนุศักดิ์ กาทองทุ่ง นายพีรพัฒน์ กิตติบริลักษณ์ นิสิตปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล และ นายกฤษฎิ์ ชัยโส นิสิตปี 3 ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ นายธีรธัช อริยชาติผดุงกิจ นิสิตปี 2 ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า นายศุภวิชญ์ ศิริวรรณ นิสิตปี 1 นายภาวัต เลิศอริยศักดิ์ชัย นิสิตปี 1 และ นายธนากร ปัญญาเปียง นิสิตปี1 ภาควิชาวิศวกรรมซอฟแวร์และความรู้ สามารถเอาชนะทีม MRL มือวางอันดับ 3 จากประเทศอิหร่านได้ ด้วยคะแนน 9 ต่อ 1 และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งคณะทั้งหมดจะเดินทางกลับด้วยสายการบิน Mahan Ais เที่ยวบิน 5045 ถึงประเทศไทย ในเวลา 07.15 น. วันที่ 11 เม.ย.

    ที่มา เดลินิวส์ ฉบับวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2554
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2011
  13. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    ขอเป็นกำลังใจ

    ช่วงเวลา 2 เดือนมานี้ ผมได้อ่านบทความของคุณสิทธิพงษ์ในกระทู้พระวังหน้าฯ(ยังอ่านไม่หมด แต่จะอ่านต่อไป) ที่เผยแพร่เรื่องราวของพระวังหน้าฯ ทั้งประวัติการสร้าง มวลสาร แบบพิมพ์ เนื้อหาขององค์พระ รวมถึงการปลุกเสกโดยคณะหลวงปู่เทพโลกอุดร ,สมเด็จพุธฒาจารย์(โต),รวมทั้งกล่มหลวงปู่อภิญญาใหญ่ ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าพระวังหน้าฯ มีอยู่จริง ไม่ไช่เรื่องการแต่งนิทานขึ้นมา ดังที่มี กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกล่าวอ้างและโจมตีคุณ และผมเชื่อว่าผู้ใดมีพระวังหน้า ฯ ไว้ในความครอบครองและบูชาจะเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวอย่างสูง ขอเป็นกำลังใจให้คุณสิทธิพงษ์เผยแพร่ความรู้เรื่องพระวังหน้าฯต่อไปนะครับ (พอจะเข้าใจได้ว่า คุณผ่านอะไรมาบ้าง) ถือเสียว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด ครับ ด้วยความนับถือครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ

    แต่ตอนนี้ ผมยอมแพ้แล้วครับ ไม่ไปโต้ตอบอะไรอีกแล้ว

    ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ผม (ทั้งพระภิกษุและฆารวาส) ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ได้ตักเตือน บอกกล่าวผมมาว่า ใครทำอะไร ต้องได้เช่นนั้น ผมก็เลยยอมแพ้ครับ ไม่โต้ตอบอะไรอีกแล้ว

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ผมมีเรื่องครับ จะเล่าให้ฟัง

    ผมได้ออกไปหาลูกค้า เวลาประมาณ 13.17 น. ผมได้โทร.ไปหาคุณnongnooo จะแซวท่านโดจิ ผมบอกว่า ผมฝากบอกท่านโดจิด้วยว่า ผมไปทานข้าวหมกแพะ แถวๆบางรัก เผื่อ คุณnongnooo บอกว่า ท่านโดจิ เกือบได้ไปเจอลุงหนุ่มแล้ว แต่ท่านโดจิบอกว่า เบื่อ ก็เลยไปทานกันที่อื่น

    หลังจากที่ผมคุยกับคุณnongnooo เรียบร้อย ผมได้โทร.ไปหาคนขับรถ ให้เขานำรถมารับผมและเพื่อนที่ทำงาน(2คน) พอจะเดินทางกลับที่ทำงาน ปรากฎว่า มีโทรศัพท์เข้ามาหาผม ผมมองที่โทรศัพท์ปรากฎว่า ขึ้นมาว่าเป็นเบอร์ส่วนตัว ผมก็บอกว่า สงสัยว่าที่โทร.มาจะไม่ดี

    พอผมรับสาย เป็นเสียงตอบรับอัตโนมัติ บอกว่า วันนี้ทางคุณ(คือผม) ได้ใช้บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย จำนวนเงิน สามพันเก้าร้อย..(ผมจำตัวเลขไม่ได้)... หากมีข้อสงสัยให้กด 9 เพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ หากฟังซ้ำให้กด 1

    ผมหันไปบอกเพื่อนร่วมงานที่ไปด้วยกันว่า น่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.มาแน่ ให้เงียบๆ

    ผมก็เลยกด 9

    พอทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์รับสาย สอบถามผมว่า มีเรื่องอะไรที่ได้โทร.เข้ามา

    ผมบอกว่า ก็เห็นว่า ทางคุณโทร.เข้ามาว่า ผมได้ใช้บัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ไปจำนวน สามพันกว่าบาท

    ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บอกว่า แล้วทางคุณ(sithiphong) ได้ใช้บัตรไปตามนั้นจริงหรือเปล่า

    ผมบอกว่า ผมได้ใช้ไปจริงๆ จำนวนเงินประมาณ 3 พันกว่าบาท แต่ผมจำไม่ได้ว่า ยอดเงินเท่าไหร่ สลิปอยู่ที่บ้าน

    ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่า งั้นผมขอชื่อและนามสกุลด้วย

    ผมก็เลยบอกไปว่า อ้าว ธนาคารต้องรู้สิครับว่า ผมชื่ออะไร ไม่อย่างนั้นจะโทร.มาหาผมถูกหรือ

    เดี๋ยวมาต่อครับ

    [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • c3 11-4-54.JPG
      c3 11-4-54.JPG
      ขนาดไฟล์:
      454 KB
      เปิดดู:
      168
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    [​IMG]

    ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่า ทางธนาคารก็ต้องสอบถามข้อมูลลูกค้า แล้วไม่ทราบว่า คุณชื่อ และนามสกุลอะไร

    ผมตอบไปว่า ธนาคารต้องรู้ชื่อและนามสกุลผมอยู่แล้ว เนื่องจากผมเป็นลูกค้าของธนาคาร เอ้ แต่ว่า คุณเป็นพนักงานธนาคารเหรอ พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย ใช่คนไทยแน่หรือ (ลักษณะของการพูด เหมือนกับคนจีนที่พูดภาษาไทยได้แต่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่)

    ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตอบกลับมาว่า ผมเป็นคนไทย (เสียงพูดพยายามจะพูดให้ชัดที่สุด) แล้วทางคุณ(คือผม)ชื่อและนามสกุล อะไร ทางธนาคารจะได้ตรวจสอบข้อมูลให้ว่า ได้ใช้บัตรเครดิตไปถูกต้องหรือไม่

    ผมตอบไปว่า ผมว่าคุณไม่ใช่คนไทยแน่เลย

    ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตอบมาว่า ผมถามชื่อและนามสกุลคุณ แล้วคุณไม่ตอบ แสดงว่า ผมคุยกับหมาอยู่ (พูดลักษณะนี้ประมาณ 3 ครั้ง)

    ผมก็หัวเราะ แล้วบอกไปว่า ผมรู้ว่าคุณเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำแบบนี้ บาปกรรมเยอะน๊ะ ไปหลอกลวงชาวบ้านเขา

    ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บอกมาอีกว่า แล้วมึงจะโอนมาคุยทำเห.. อะไร (พูดลักษณะนี้อีก 2 ครั้ง แล้วให้อีกคนที่เป็นผู้หญิงมาพูดต่อ (คนแรกเป็นผู้ชาย) แต่คราวนี้ ด่าผมมาเป็นชุดสาระพัดสัตว์ ผมก็หัวเราะแล้วบอกว่า กริยาส่อสกุล ปรากฎว่า วางสายไปเลยครับ

    มาเล่าสู่กันฟัง

    เรื่องสำคัญที่สุดของพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็คือ การที่พวกนี้ได้ชื่อ-นามสกุล , หมายเลขบัตรประชาชน และ ให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม

    การที่พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ชื่อ - นามสกุล และหมายเลขบัตรประชาชนไป เขาจะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้หลายๆเรื่อง เช่น การทำบัตรเครดิตปลอม การทำบัตรประชาชนปลอม

    ส่วนการให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม นั่นก็การให้เราโอนเงินให้มัน

    ห้ามบอก ชื่อ - นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ และรายละเอียดส่วนตัวใดๆ และ ไม่ให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มโดยเด็ดขาดครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ฮือฮา! เอฟบีไอ เผย ยูเอฟโอ-มนุษย์ต่างดาวมีจริง

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    จากเว็บไซต์ "The vault" ของเอฟบีไอ เปิดเผยยูเอฟโอ-มนุษย์ต่างดาวมีจริง!!

    จากการศึกษาค้นคว้าเรื่องของมนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นที่สนใจ และมีการถกเถียงกันในวงกว้าง หลังจากที่ยูเอฟโอพุ่งเข้าชนโลกเมื่อปี ค.ศ.1947 ที่เมืองรอสเวล และโคโรนา มลรัฐนิวเม็กซิโก ข้อมูลดังกล่าวในขณะนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นข้อมูลเอ็กซ์ไฟล์ที่มาจากเว็บไซต์ของเอฟบีไอจริง

    โดยรายงานข้อมูลกองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ.1950 ระบุว่า ยูเอฟโอ 3 ลำได้พุ่งเข้าชน และมีมนุษย์ต่างดาวออกมาจากจานบิน ซึ่งยูเอฟโอมีลักษณะกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50 ฟุต พร้อมกับพบร่างที่ออกมาจากจานบิน 3 ร่าง สูงเพียง 3 ฟุตเท่านั้น สวมเครื่องต่างกายด้วยโลหะอย่างดี อยู่ในภาวะหมดสติอยู่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยูเอฟโอพุ่งเข้าชนโลกเนื่องจากมีการติดตั้งเรดาร์ซึ่งมีคลื่นความถี่สูงมากบริเวณดังกล่าว จึงก่อกวนการควบคุมของยูเอฟโอ และทำให้ตกลงมา

    หลังจากที่ข้อมูลของเอฟบีไอเปิดเผยสู่สาธารณชน ทำให้เกิดความเชื่อว่า ปรากฏการณ์ที่ยูเอฟโอพุ่งเข้าชนโลกเป็นเรื่องจริง อีกทั้งทางด้าน นิก โป๊ป ผู้เชี่ยวชาญด้านยูเอฟโอชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้สอบสวนวัตถุลึกลับทางอาการของกระทรวงกลาโหม ก็ได้ระบุเมื่อวันที่ 10 เมษายนว่า ข้อมูลดังกล่าวสามารถพิสูจน์ได้ว่า มนุษย์ต่างดาวและยานอวกาศ "มีอยู่จริง"

    อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ปลุกกระแสให้สาธารณชนสืบหาข้อมูลของยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากข้อมูลที่ปรากฏก็อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับการสืบหาข้อมูลต่อไป


    .

    http://hilight.kapook.com/view/57874

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    [​IMG]

    รูปที่ผมส่งให้สมาชิกชมรมพระวังหน้า และ ผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า จะเป็นรูปโทรศัพท์ที่ผมไม่ได้ปิดเบอร์ที่โทร.มาและโทร.ออก ก่อนหน้าที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.เข้ามาหาผมครับ

    มาย้ำ

    เรื่องสำคัญที่สุดของพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็คือ การที่พวกนี้ได้ชื่อ-นามสกุล , หมายเลขบัตรประชาชน และ ให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม

    การที่พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ชื่อ - นามสกุล และหมายเลขบัตรประชาชนไป เขาจะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้หลายๆเรื่อง เช่น การทำบัตรเครดิตปลอม การทำบัตรประชาชนปลอม

    ส่วนการให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม นั่นก็การให้เราโอนเงินให้มัน

    ห้ามบอก ชื่อ - นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ และรายละเอียดส่วนตัวใดๆ และ ไม่ให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มโดยเด็ดขาดครับ

     

แชร์หน้านี้

Loading...