พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาคท่องเที่ยวภูเก็ตร่วมใจบริจาคแพกเกจทัวร์ช่วยผู้ประสบภัยใต้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>6 เมษายน 2554 18:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายรังสิมันต์ กิ่งแก้ว นายสมาคมธุรกิจสปาจังหวัดภูเก็ต นายกฤษฎา ตันสกุล และนายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ท่องเที่ยวภูเก็ตห่วงใย ร่วมใจ ช่วยภัยใต้” </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภาคธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมใจบริจาคแพกเกจทัวร์หารายได้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ช่วยบริจาค 2,000 บาท รับห้องพักโรงแรมในภูเก็ต 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า คาดทำรายได้จากการบริจาคซื้อแพกเกจไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท

    วันนี้ (6 เม.ย.) ที่ห้องนนทรีย์ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อม นายรังสิมันต์ กิ่งแก้ว นายสมาคมธุรกิจสปาจังหวัดภูเก็ต นายกฤษฎา ตันสกุล และนายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ท่องเที่ยวภูเก็ตห่วงใย ร่วมใจ ช่วยภัยใต้” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2554 ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยร้ายแรงในพื้นที่ภาคใต้โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย

    นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ในหลายจังหวัดของภาคใต้กำลังประสบเหตุอุทกภัยอย่างรุนแรง และผู้ประสบภัยเองก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้ ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เห็นว่าจะต้องรีบให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ และเยียวยาผู้ประสบภัยให้มีความสามารถดำรงสถานะอยู่ได้ท่ามกลางภัยพิบัติที่เกิดขึ้น

    ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จึงได้ร่วมกับสมาคมโรงแรมภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง สมาคมผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมหาดกะตะ-กะรน และสมาคมธุรกิจสปาจังหวัดภูเก็ต โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำโครงการท่องเที่ยวภูเก็ตห่วงใย ร่วมใจ ช่วยภัยใต้

    โดยขอรับการสนับสนุนจากสมาชิกของแต่ละสมาคมด้วยการบริจาคห้องพัก จำนวน 20 ห้อง (20 Room night) จัดทำเป็นเป็นแพกเกจ 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า โดยนำไปจำหน่ายแพกเกจละ 2,000 บาท หรือแพกเกจอื่นๆ หน่วยงานละ 10 แพกเกจ อาทิ ภูเก็ตแฟนตาซี Face2Face สปา ทัวร์หมู่เกาะต่างๆ เป็นต้น เพื่อนำไปจำหน่ายแพกเกจละ 1,000 บาท ซึ่งแต่ละแพกเกจจะมีอายุ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม 2554 หรือจะบริจาคตามความต้องการ โดยคาดว่า จะได้เงินบริจาคไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท จากนั้นจะนำไปมอบให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป นายสมบูรณ์ กล่าว

    ขณะที่ นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการขอรับบริจาคในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะมีการนำกล่องรับบริจาคไปวางตามโรงแรมต่างๆ เพื่อนำรายได้ที่ได้รับไปใช้ในการซื้ออาหารกล่องในราคากล่องละ 30 บาท ด้วย เนื่องจากขณะนี้ได้รับแจ้งจากทางตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังมีความต้องการอาหารที่สำเร็จแล้ว เมื่อได้แล้วก็จะรวบรวมจัดส่งไปให้หน่วยงานของทางตำรวจภูธรภาค 8 เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อนำไปใช้ในการจัดหาอาหารให้กับผู้เดือดร้อนในพื้นที่ต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>Local - Manager Online -
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเคยแนะนำหลายๆท่านไปว่า รอบแรกให้อ่านผ่านๆจนจบ รอบสองอ่านทีละตอน และ อ่านหลายๆรอบได้ยิ่งดี

    รุ่น 2408 ที่ผมให้ไปนั้น ผมเองก็มีน้อย รุ่นนี้หาได้ยากจริงๆ เวลาสวดมนต์ก่อนที่จะห้อย อย่าลืมนึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าด้วยนะครับ

    เนื่องจากแบบพิมพ์เป็นพิมพ์ที่พระองค์ท่านคิดและออกแบบไว้ครับ

    และที่เรียกว่า รุ่น 2408 ก็เนื่องจากว่า เป็นปีที่พระองค์ท่านสวรรคตครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    คลี่ความกังวล “น้ำดื่ม” ปนเปื้อนสารรังสี <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">6 เมษายน 2554 17:07 น.</td></tr></tbody></table>
    แม้ว่าความกังวลต่อน้ำดื่ม ที่ปนเปื้อนสารรังสีในญี่ปุ่นจะคลายลงไปบ้าง แต่ยังมีคำถามตามมาอยู่ โดยสารรังสีบางตัว สามารถกรองออกจากน้ำดื่ม หรือปล่อยให้สลายตัวไปตามธรรมชาติได้ แต่ยังสารรังสีตัวอื่น ที่คงส่งผลกระทบระยะยาวต่อไปอีก

    เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่แผ่นดินไหวและสึนามิได้สร้างความเสียหาย ต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ (Fukushima Daiichi) ของญี่ปุ่น และคนงานก็พยายามอย่างหนัก ที่จะลดความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นของแท่งเชื้อเพลิงที่ร้อนจัด แต่สถานการณ์ยังคง “น่าเป็นห่วงอย่างมาก” ตามที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระบุ

    แม้ว่าการควบคุมพื้นที่ ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนสารรังสีในน้ำดื่ม ที่ครอบคลุมไปไกลถึงกรุงโตเกียว ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 240 กิโลเมตร จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังปรากฏการปนเปื้อนของไอโอดีนรังสีและซีเซียมรังสีในน้ำสำหรับอุปโภคของ 4 หมู่บ้านในเมืองฟูกูชิมะ และมีคำแนะนำ ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบดื่มน้ำก๊อก ซึ่งไซแอนทิฟิกอเมริกันรายงานว่าเรื่องดังกล่าวยังมีผลต่อความกังวลด้านสุขภาพของประชาชนต่อไปอีก

    ทั้งนี้ สารรังสีหรือไอโซโทปรังสีนั้น ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในหลายด้าน หากได้รับรังสีในระดับต่ำมีโอกาสที่จะคลื่นไส้และอาเจียน แต่หากในรับสารรังสีในปริมาณสูงจะทำให้ประสาทส่วนกลางถูกทำลาย และมีอาการตกเลือดภายในร่างกาย โดยไอโอดีนรังสีนั้นจะถูกสะสมอยู่ในต่อมไทรอยด์ และมีผลทำให้เกิดมะเร็งไทรอยด์ได้ โดยเฉพาะในเด็ก

    ไซแอนทิฟิกอเมริกันอ้างรายงานของซีเอ็นเอ็นที่ระบุคำสัมภาษณ์ของ สก็อตต์ เดวิส (Scott Davis) ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) ในซีแอตเทิล สหรัฐฯ ว่า ในอดีตมีคำแนะนำเพียงเล็กน้อย เกี่ยวกับน้ำดื่มในกรณีฉุกเฉินจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยกรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล (Chernobyl) ในยูเครนที่ระเบิดเมื่อเดือน เม.ย.1986 นั้น พบ ผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากการดื่มนมปนเปื้อนสารรังสี แต่การหายใจสูดสารรังสี หรือบริโภคน้ำนั้นเป็นประเด็นสุขภาพน้อยมากสำหรับกรณีเชอร์โนบิล

    จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization) เมื่อปี 2005 ระบุว่า การปนเปื้อนสารรังสีที่ผิวน้ำทั่วยุโรป จากกรณีเชอร์โนบิลนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเจือจาง การสลายตัวทางกายภาพและการดูดกลืนนิวไคล์ดรังสี (radionuclide) โดยตะกอนก้นแหล่งน้ำ และดินของพื้นที่กักเก็บน้ำ อย่างไรก็ดี พบการปนเปื้อนของซีเซียมรังสีเพิ่มขึ้นในปลาที่มาจากทะเลสาบที่อยู่ไกลถึง เยอรมนีและแถบสแกนดิเนเวีย

    ทั้งนี้ ในกรณีที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ ระดับไอโอดีนรังสีและซีเซียมรังสีในน้ำดื่มทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้น เพิ่มสูงสุดในช่วง 1 สัปดาห์หลัง จากสึนามิเข้าถล่มระบบทำความเย็นให้เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิ มะ โดยทีมฉายรังสีเพื่อรักษามะเร็งของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) รายงานว่า มี ไอโอดีน 131 ปริมาณ 170 เบคเคอเรล ต่อ กิโลกรัม ในน้ำดื่มของเมืองฟูกูชิมะ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2011 แต่ระดับสารรังสีก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    สำหรับ 1 เบคเคอเรลนั้น เป็นค่าที่บ่งถึงการอัตราการสลายตัวทางรังสี หรือการปลดปล่อยรังสีของสสาร ใน 1 ครั้งต่อวินาที ซึ่งตัวเลขที่วัดได้ในวันที่ 18 มี.ค.นั้น มีความสำคัญยิ่ง เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นออกข้อบังคับว่า เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบไม่ควรได้รับน้ำที่ปนเปื้อนสารรังสีเกิน 100 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม (น้ำ 1 ลิตร หนัก 1 กิโลกรัม) ส่วนผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่ปนเปื้อนสารรังสีมากกว่า 300 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม ตามมาตรฐานปัจจุบันที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด

    จากรายงานที่รวบรวมโดยกระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม การกีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ไม่พบระดับอันตรายของไอโอดีนรังสีหรือซีเซียมรังสีในพื้นที่ 47 เมืองของญี่ปุ่น นับแต่วันที่ 24 มี.ค. ซึ่งวันดังกล่าว พบไอโอดีน 131 ในปริมาณ 110 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม ที่เมืองโทจิกิซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือ 100 กิโลเมตร และห่างจากเมืองฟูกูชิมะ 160 กิโลเมตร

    แม้ว่าสถาบันสาธารณสุขญี่ปุ่น (Japan Institute of Public Health) ได้รายงานว่า พบระดับสารรังสี 210 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัมในน้ำดื่มของกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 23 มี.ค. แต่ทางหน่วยงานมหานครกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) ได้แถลงในวันต่อมาว่า มีการอ่านค่าผิดพลาดและสูงกว่าระดับความเป็นจริง ซึ่งอยู่ที่ 79 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัมเท่านั้น

    แม้จะมีการรับประกันว่า น้ำดื่มในพื้นที่ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นปลอดภัย แต่ยังมีความต้องการน้ำดื่มบรรจุขวดอยู่มากในเมืองหลวง จนห้างร้านต้องจำกัดให้ซื้อน้ำดื่มได้ไม่เกินคนละ 1 ขวดเท่านั้น ขณะเดียวกันทางสถานีเอ็นเอชเค (NHK) ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า ทางการของกรุงโตเกียวสัญญาที่จะแจกจ่ายน้ำแร่บรรจุขวด 3.5 ลิตรให้แก่ 80,000 ครัวเรือนที่มีเด็กอ่อนอยู่ในบ้าน

    ทั้งนี้ นิวไคลด์รังสีส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงไอโอดีน 131 และ ซีเซียม 134 กับ ซีเซียม 137 นั้น สามารถแยกออกจากน้ำได้ แต่สิ่งปนเปื้อนอย่างอื่น เช่น “ทริเทียม” (tritium) ไฮโดรเจนหนัก ซึ่งเป็นมลพิษทางรังสี ที่พบได้มากอันเป็นผลผลิตจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ไม่อาจกรองออกจากน้ำได้ ซึ่งไอโซโทปรังสีนั้น จะถูกกำจัดออกไปอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าไอโซโทปนั้นคืออะไร

    น้ำที่ปนเปื้อนวัสดุรังสีนั้น ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการต้ม ฟอก หรือฉายรังสีอัลตราไวโอเลต เหมือนน้ำดื่มที่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ อย่าง อี.คอไล (E.coli) หรือเชื้ออื่นๆ แต่จะต้องกรองด้วยระบบกรองที่มีถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ระบบรีเวอร์สออสโมซิส (reverse osmosis) หรือการกรองความกระด้าง

    นอกจากนี้ สารกัมมันตรังสีอาจปนเข้าไปในระบบประปา จากการตกลงสู่เบื้องล่างของแหล่งเก็บน้ำหรือการดูดซับสู่พื้นผิวของเม็ดดิน ในแหล่งเก็บน้ำ

    อีกทางเลือกสำหรับการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีคือ รอคอยจนกว่าสารกัมมันตรังสีเหล่านั้นจะสลายตัวทางรังสีจนอยู่ในระดับปลอดภัย ซึ่งระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับค่าครึ่งชีวิต (half-life) ของสารรังสีเหล่านั้น โดยแต่ละไอโซโทป มีค่าครึ่งชีวิตแตกต่างกัน ตั้งแต่ระยะเวลาสั้นๆ ระดับวินาทีไปจนถึงหลายหมื่นปี

    เดวิด โอโซนอฟฟ์ (David Ozonoff) ศาสตราจารย์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และประธานกิตติคุณจากภาควิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม วิทยาลัยสาธารณสุข ของมหาวิทยาลัยบอสตัน (Boston University) กล่าวว่า ไม่มีวิธีเดี่ยวๆ ที่กำจัดไอโอดีนรังสี ซีเซียมรังสีหรือสารรังสีอื่นๆ ออกจากน้ำ ซึ่งเรา จำเป็นต้องทราบว่า มีสารรังสีชนิดไหนปนเปื้อนในน้ำ และจากนั้นจะบอกได้ว่า จะสามารถกำจัดสารรังสีปนเปื้อนเหล่านั้นได้หรือไม่ และต้องใช้กระบวนการบำบัดน้ำแบบใด

    ทางด้าน ร็อบ เรนเนอร์ (Rob Renner) ผู้อำนวยการมูลนิธิวิจัยน้ำ (Water Research Foundation) กล่าวว่า เรื่องยากอย่างหนึ่ง ในการบำบัดน้ำที่ปนเปื้อนสารรังสีคือ เครื่องกรองและแผ่นกรองน้ำจะกลายเป็นขยะรังสี ซึ่งจำเป็นต้องนำไปกำจัดอย่างระมัดระวัง

    "หากขยะเหล่านั้น สัมผัสสารรังสีที่มีครึ่งชีวิตน้อยกว่า 30 วัน อย่างเช่น ไอโอดีน 131 ที่มีค่าครึ่งชีวิต 8 วันนั้น เครื่องกรองหรือถ่านกัมมันต์ที่ใช้ จะถูกเก็บไว้ไม่กี่เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุเหล่านั้นจะปลอดภัยพอที่จะจัดการได้ แต่ถ้าสารรังสีนั้น มีระดับรังสีสูงมากและมีค่าครึ่งชีวิตที่ยาวมาก ก็จะกลายเป็นปัญหาได้" เรนเนอร์อธิบาย

    สำหรับน้ำที่ปนเปื้อนไอโอดีน 131 นั้น นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมอย่าง คีธ บาเวอร์สต็อค (Keith Baverstock) จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ (University of Eastern Finland) ผู้ศึกษากรณีเชอร์โนบิลกล่าวว่า โดยปกติแล้ว เราจะปล่อยให้สารรังสีสลายตัวไปตามกระบวนการตามธรรมชาติ และกว่าที่ไอโอดีนรังสีจะหมุนเวียนไปแหล่งเก็บน้ำ ก็ใช้เวลานานพอที่สารรังสีจะสลายตัวไปก่อน ที่น้ำจะถูกแจกจ่ายไปถึงผู้บริโภค

    สิ่งที่ต้องทำคือการปกป้องเด็กๆ จากสารรังสีชนิดนี้ โดยการแจกจ่ายน้ำขวดให้แก่เด็ก ส่วนผู้ใหญ่นั้นไม่มีปัญหาเท่าไร เนื่องจากต่อมไทรอยด์ของผู้ใหญ่ ไม่ไวต่อไอโอดีนรังสีเหมือนเด็ก อย่างไรก็ดี ไอโซโทปรังสีอย่างซีเซียม 137 นั้น มีค่าครึ่งชีวิตถึง 30 ปี.

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง

    - ญี่ปุ่นหยุดน้ำปนเปื้อนรังสีรั่วไหลลงสู่ทะเลได้แล้ว (6 เม.ย.54)
    - พบน้ำเปื้อนรังสีใต้เตานิวเคลียร์ญี่ปุ่นสูง5ล้านเท่า ปลาใกล้โรงไฟฟ้าก็มีรังสี 4000 เท่า (5 เม.ย.54)
    - เท็ปโกเริ่มระบายน้ำกัมมันตภาพรังสีกว่า 10,000 ตันลงทะเลหวังเหลือที่กักเก็บเพิ่ม (4 เม.ย.54)
    - เท็ปโกพบน้ำปนเปื้อนรังสีจากเตาปฏิกรณ์เบอร์ 2 รั่วไหลลงสู่ทะเล (2 เม.ย.54)

    Science - Manager Online -
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันพฤหัส รื่นเริง ครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    รูนโป้งผีบุกดับสิงห์, บาร์ซา 5-1 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">7 เมษายน 2554 03:34 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">กิกส์ ปีกจอมเก๋าผีแดงเข้าบอลใส่ เอสเซียง ห้องเครื่องสิงห์บลูส์อย่างน่าเสียวไส้</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ตอร์เรส (เสื้อน้ำเงิน) สะกิดบอลลูกนี้ชนเสาชวดสกอร์แรกกับ เชลซี</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">แลมพาร์ด (8) ซ้ำลูกนี้ก็ยังถูก เอฟรา สกัดคาบเส้น</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ดร็อกบา เสียดายยิงให้ เชลซี ไม่ได้</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">เคราร์ด ปิเก (ซ้าย) กองหลังที่กำลังอินเลิฟยิงให้ บาร์ซา 2 นัดติดต่อกัน</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">เมสซี ไม่มีชื่อทำสกอร์ แต่ป่วนแนวรับ ชัคห์เตอร์ โดเนทสค์ ได้ไม่น้อย</td></tr></tbody></table>



    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> <td> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> วินาทีที่ รูนีย์ (เสื้อแดง) แปบอลเน้นๆ เป็นประตูนำ 1-0 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด

    เวย์น รูนีย์ สวมบทพระเอกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งด้วยการพังประตูชัยในนาทีที่ 24 ช่วยให้บุกไปกำราบ เชลซี ถึงถิ่น 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก กุมความได้เปรียบไว้ได้ก่อน ด้าน บาร์เซโลนา เปิดบ้านต้อนตือ ชัคห์เตอร์ โดเนทสค์ 5-1

    ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
    เชลซี (อังกฤษ) 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)

    คู่รีแมตช์นัดชิงชนะเลิศปี 2008 เชลซี เล่นในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมร่วมเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้เจ้าบ้านอดใช้งาน ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังชาวบราซิลที่ติดคัพไท ทำให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลงคุมหลังบ้านคู่กับ จอห์น เทอร์รี ส่วนแนวรุกมี แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นตัวปั้นเกมให้ คู่หัวหอก ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เข้าทะลวงประตู ด้านทีมเยือนได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษหายเจ็บน่องคัมแบ็กกลับมาในรอบ 2 เดือน ส่วนแดนหน้าจัด “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ประสานงานกับ เวย์น รูนีย์ ที่เพิ่งทำแฮตทริกในเกมลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    เปิดฉากมาทั้งสองทีมเล่นเอาใจแฟนบอลด้วยการเปิดเกมรุกเข้าหากัน โดยเป็น “สิงโตน้ำเงินคราม” ที่มีโอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 7 จาก ตอร์เรส ที่ตัดบอลได้จากการจ่ายพลาดของ “ปิศาจแดง” ก่อนเลี้ยงจี้เข้าหา ไมเคิล คาร์ริค แล้วกดเรียดถูก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวเซฟไว้ได้ ถึงนาทีที่ 16 ทีมเยือนตอบโต้บ้าง ไรอัน กิกส์ เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายถูก ดร็อกบา สกัดออกมาเข้าทาง ปาร์ค จี-ซอง ยิงสวนจากแถวสองแฉลบออกหลังไป

    3 นาทีให้หลัง เชลซี ใกล้เคียงกับการพังประตูขึ้นนำ เมื่อ ดร็อกบา หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้ววางเท้ากระหน่ำคนเดียวเหน่งๆ แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังกระโดดปัดข้ามคานอออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งนาทีที่ 24 กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ใส่สกอร์ 1-0 ได้ก่อนโดย คาร์ริค วางบอลยาวให้ กิกส์ สปีดหนี โชเซ โบซิงวา แล้วเกี่ยวบอลลงก่อนตบจากเส้นหลังย้อนมาที่จุดนัดพบให้ รูนีย์ แปหนีมือ ปีเตอร์ เช็ก เช็ดโคนเสาสองเข้าไป

    จากนั้นเป็น สิงห์บลูส์ ที่บุกกระหน่ำเข้าใส่ ปิศาจแดง อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดนัก นาทีที่ 36 ยูริ เซียร์คอฟ รับใบเหลืองแรกของเกมหลังจากกระโดดเตะสูงใส่ ชิชาริโต ที่โถมเข้ามาโหม่ง ล่วงมานาทีที่ 45 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมออย่างยิ่ง เมื่อ ดร็อกบา หยอดจากด้านซ้ายของเขตโทษ ตอร์เรส สะกิดบอลหนีมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปชนเสา แลมพาร์ด ตามซ้ำแต่ยิงไม่เต็มเท้า ทำให้บอลเบาจึงถูก ปาทริซ เอฟรา สกัดคาบเส้นออกมาได้ จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงนำอยู่ 1-0

    เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี ยังคงหาทางทวงประตูคืน นาทีที่ 50 ดร็อกบา เปิดจากกราบขวาเข้ากลางให้ รามิเรส โฉบโหม่ง แต่มิดฟิลด์บราซิเลียนสัมผัสโดนบอลแค่ถากๆ ลูกจึงผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้น ราฟาเอล ดา ซิลวา มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ หลุยส์ นานี ถูกส่งลงสนามมาแทนแล้วถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงไปเล่นแบ็กขวาแทน

    นาทีที่ 57 แลมพาร์ด เปิดยัดมาที่เสาแรก ดร็อกบา จับบอลได้แต่หันหลังให้ประตูจึงตีลังกายิงกลับหลัง แต่ลูกก็ผ่านเสาสองออกไป ผ่านมาถึงนาทีที่ 70 มิชาเอล เอสเซียง ได้ยิงสวนจากลูกที่ เนมานยา วิดิช โหม่งสกัดมาเข้าทางหลุดเสาแรกออกหลังไป จากนั้น สิงโตน้ำเงินครามแก้เกมด้วยการเปลี่ยน 2 คนส่ง ฟลอร็องต์ มาลูดา กับ นิโกลาส์ อเนลกา ลงมาแทน เซียร์คอฟ และ ดร็อกบา

    ปิศาจแดงขยับบ้างโดยเอา ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอกบัลแกเรียนลงมาสัมผัสเกมแทน ชิชาริโต ขณะที่สิงห์บลูส์ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงมาแทน โบซิงวา นาทีที่ 85 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้งจากการดันสูงขึ้นมาเล่นเกมรุกของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่พาบอลแหวกเข้าไปยิงหน้าเขตโทษ แต่ลูกเข้าซอง ฟาน เดอร์ ซาร์ นาทีสุดท้าย อเนลกา ลองซัดระยะ 20 หลาเยื้องมาทางด้านซ้าย แต่ก็ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ อีก

    ช่วงทดเจ็บ รามิเรส หลุดเข้าเขตโทษแล้วโดน เอฟรา พุ่งเข้ามาหนีบล้มลงแต่ไม่ได้จุดโทษท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเจ้าถิ่น ก่อนที่ ตอร์เรส จะอาศัยจังหวะพัวพันกับ วาเลนเซีย แล้วทิ้งตัวล้มลงบ้างจึงได้รับใบเหลืองจากอัลเบร์โต อุนเดียโน ผู้ตัดสินชาวสเปน จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเฉือน 1-0 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเฝ้าบ้านที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด บ้างในวันที่ 12 เมษายนนี้

    รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
    เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล เอสเซียง, ยูริ เซียร์คอฟ, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, เฟร์นานโด ตอร์เรส

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิกส์, ปาร์ค จี-ซอง, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, เวย์น รูนีย์

    อีกคู่หนึ่ง บาร์เซโลนา จ่าฝูงลา ลีกา สเปน เล่นในถิ่นคัมป์ นู ไล่ต้อน ชัคห์เตอร์ โดเนทสค์ ทีม ชั้นนำจากยูเครนขาดลอย 5-1 โดยได้ประตูจาก อันเดรส อิเนียสตา นาทีที่ 2, ดาเนียล อัลเวส นาทีที่ 34, เคราร์ด ปิเก นาทีที่ 53, เซย์ดู เกอิตา นาทีที่ 60 และ ชาบี เอร์นานเดซ นาทีที่ 86 ส่วนทีมเยือนตีไข่แตกจาก ยาโรสลาฟ ราคิทสกี นาทีที่ 59 ทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" จ่อเข้ารอบตัดเชือก โดยจะบุกไปเยือนบ้างในวันที่ 12 เมษายนนี้



    .

    Sport - Manager Online -


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ผมได้ไปโอนเงินร่วมทำบุญ ของท่านเจ้าสัวน้อย (งานบุญถวายพระพุทธรูป หน้าตัก 12" ที่มีผู้ร่วมทำบุญด้วย)

    ท่านเจ้าสัวน้อย แจ้งกับผมว่า ให้ผมโอนเงินทำบุญช่วยผู้ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ ผมจึงได้ไปโอนเงินร่วมทำบุญกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]

    ขอโมทนาบุญกับท่านเจ้าสัวน้อยด้วยครับ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • chan.jpg
      chan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.1 KB
      เปิดดู:
      703
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    สวัสดีครับทุกท่าน สนุกกับวันสงกานต์นะครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948



    Attachments Posted by sithiphong

    [​IMG]
    6.6 KB, ดาวน์โหลด 130 ครั้ง


    [​IMG]
    153.2 KB, ดาวน์โหลด 5 ครั้ง




    [​IMG]
    76.5 KB, ดาวน์โหลด 87 ครั้ง


    [​IMG]
    74.7 KB, ดาวน์โหลด 86 ครั้ง


    [​IMG]
    65.1 KB, ดาวน์โหลด 75 ครั้ง





    .------------------------------------------------------


    โหลดไปค่อนข้างเยอะแบบนี้ ต้องไปร่วมทำบุญกันนะครับ




    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ชาวประมงไต้หวันจับได้ “ปลาแผ่นดินไหว” ...! <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">8 เมษายน 2554 11:39 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="550"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="550"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพคนงานในตลาดท่า เรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ โชว์ ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือที่ตามความเชื่อโบราณเรียก “ปลาแผ่นดินไหว” ลำตัวยาว 3.5 เมตร (ภาพ “จงซินหวั่ง”)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สื่อจีน สำนักข่าวกลางแห่งจีน หรือ จงซินหวั่ง รายงาน ชาวประมงแซ่เซี่ยจับปลาหวงไต้อี๋ว์ได้ที่บริเวณชายฝั่งจู๋หนัน ไต้หวัน ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือชื่อสากล คือ “ราชาแห่งปลาเฮอริง (皇带鱼/King of herrings)” ยังมีชื่อตามความเชื่อโบราณว่าเป็น “ปลาแผ่นดินไหว”

    นายเซี่ย จับปลาหวงไต้อี๋ว์ตัวนี้ได้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ความยาวตัวปลา 3.5 เมตร น้ำหนักราว 15 กิโลกรัม เมื่อจับปลาได้ นายเซี่ยก็นำปลาไปประมูลขายที่ตลาดท่าเรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ ตำบลจู๋หนัน

    เจ้าของภัตตาคารแห่งหนึ่ง นายเซี่ย เซิงเฟิง เล่าตำนานว่า ปลาหวงไต้อี๋ว ซึ่งโดยธรรมชาติเป็นปลาอาศัยในน้ำลึกใต้ท้องมหาสมุทร เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดความเคลื่อนไหวผิดปกติทางธรณี มันจะตกใจและว่ายลี้ภัยมายังบริเวณน้ำตื้น ดังนั้นชาวท้องถิ่นจึงเรียกปลาหวงไต้อี๋ว์ว่า “ปลาแผ่นดินไหว”

    การจับได้ปลาหวงไต้อี๋ว์บริเวณชายฝั่งที่น้ำตื้นเช่นนี้ จึงทำให้ชาวบ้านโจษจันกันไปต่างนานาว่าปลาหวงไต้อี๋ว์ตกใจแผ่นดินไหวญี่ปุ่น หรือจะเป็นการลางร้ายแผ่นดินไหวกันแน่?

    อย่างไรก็ตาม นายเซี่ยเซิงเฟิงบอกว่า “เจ้าปลาตัวนี้เอามาแล่แจกเนื้อกินกันได้อย่างน้อย 100 คน”

    คลิกอ่าน พญานาคา (King of herrings)


    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพคนงานในตลาดท่า เรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ โชว์ ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือที่ตามความเชื่อโบราณเรียก “ปลาแผ่นดินไหว” ลำตัวยาว 3.5 เมตร (ภาพ “จงซินหวั่ง”)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="334"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="334"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"ปลาแผ่นดินไหว" บนเขียงยักษ์ (ภาพ “จงซินหวั่ง”)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <center></center>

    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> [​IMG]




    .

    China - Manager Online -



    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044131

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติโทร.ลวงเหยื่อลงทุนซื้อหุ้น-ทองล่วงหน้า <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</td> <td class="date" align="left" valign="middle">8 เมษายน 2554 16:55 น.</td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตรสุขศรี ผบก.ทท. นำหมายศาลเข้าค้นภายในบริษัทอีลิท ออฟฟิศ จำกัด ตั้งอยู่บนชั้น 18 อาคารอัมรินทร์ ทาวเวอร์</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">นายไซม่อน เจมส์ อายุ 55 ปี สัญชาติอังกฤษ เจ้าของบริษัท </td></tr></tbody></table>

    ตร.ท่องเที่ยวนำหมายเข้าค้น บริษัทคอลเซ็นเตอร์ ย่านเพลินจิต โทร.ลวงเหยื่อซื้อหุ้น-ทองรูปพรรณล่วงหน้า อ้างได้รับผลกำไรงาม แต่ไม่ได้รับตามที่กล่าวอ้าง ก่อนคุมตัวหนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษเจ้าของบริษัท และพนักงานชาวต่างชาติ อีก 19 คน ดำเนินคดีและยึดของกลางไว้ตรวจสอบ

    วันนี้ (8 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตรสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.สาคร ศรีรัตนประยูร ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.สกล สิทธิวิชัย รอง ผกก.1 บก.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจ กก.1 บก.ทท.นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 77/2554 ลงวันที่ 8 เม.ย.54 เข้าตรวจค้นภายในบริษัท อีลิท ออฟฟิศ จำกัด ตั้งอยู่บนชั้น 18 อาคารอัมรินทร์ ทาวเวอร์ เลขที่ 496-502 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน หลังได้รับร้องเรียนว่าบริษัทดังกล่าวทำการหลอกลวงเหยื่อให้เข้ามาร่วมลงทุน ซื้อขายหุ้น กับทองรูปพรรณล่วงหน้า และซื้อขายประกันภัยประเภทต่างๆ แต่เหยื่อไม่ได้เคยได้รับผลตอบแทน หรือได้รับการคุ้มครองแต่อย่างใด

    บริษัทดังกล่าวเป็นแบ่งออกเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ 1 ห้อง มีโต๊ะทำงานจำนวนมาก โดยแต่ละโต๊ะจะมีโทรศัพท์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊กประจำอยู่ทุกตัว เพื่อให้พนักงานบริษัทใช้ นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งห้องเล็กไว้ให้ 5-6 ห้อง ไว้สำหรับพนักงานระดับหัวหน้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว นายไซมอน เจมส์ อายุ 55 ปี สัญชาติอังกฤษ เจ้าของบริษัท พร้อมทั้งลูกน้องชาวต่างชาติอีก 19 คน ประกอบด้วย อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และฟิลิปปินส์ ไปสอบสวน พร้อมทั้งยึดโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ทุกตัว พร้อมทั้งเอกสารไว้สำหรับแนะนำหรือพูดจาตอบโต้ลูกค้าซึ่งเป็นภาษาอังกฤษไว้ ตรวจสอบ

    พล.ต.ต.อดิศร์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทท.ได้รับการประสานจากตำรวจของประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ว่า มีเหยื่อซึ่งเป็นประชาชนในประเทศดังกล่าวถูกบริษัทดังกล่าวโทรศัพท์ไปชักชวน ให้มาร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น และทองคำล่วงหน้า รวททั้งขายประกันภัยประเภทต่างๆ ให้กับบริษัทนำทัวร์ แต่ปรากฏว่า เหยื่อทั้งสองประเภทไม่เคยได้รับกำไร หรือได้ผลตอบแทนแต่อย่างใด ส่วนประกันภัยนั้น ก็จะหลอกลวงให้โอนเงินซื้อประกันหมู่ให้กับนักท่องเที่ยว แต่บริษัทดังกล่าวกลับเก็บเงินไว้เองไม่มีการทำประกันภัยแต่อย่างใด สร้างความเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

    พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวนั้น พบว่า มีการจดทะเบียนไว้ที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ไม่มีใบอนุญาตในการเปิดการบริษัทดำเนินกิจการในประเทศไทยแต่อย่างใด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาเปิดบริษัทโดยไม่มีใบอนุญาต และเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป พร้อมทั้งจะติดต่อไปยังเหยื่อที่ถูกหลอกลวงเพื่อตรวจสอบว่ามีจำนวนที่แน่ชัด เท่าใด นอกจากนี้ จะทำการขยายผลการตรวจสอบเรื่องเว็บไซด์ที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ทำการชักชวน เหยื่อเข้ามาลงทุนด้วยว่าใชเว็บไซต์อะไร เนื่องจากมีเหยื่อบางรายแจ้งว่าถูกชักชวนให้มาร่วมลงทุนทางเว็บไซต์



    http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044358

    .



    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อิ่มเบา ๆ รับเช้าวันใหม่ ด้วยเมนู คอร์นเฟลก


    [​IMG]


    อิ่มเบา ๆ รับเช้าวันใหม่ ด้วยคอร์นเฟลก (หนังสือแม่บ้าน)
    อร่อยยอด ประหยัดยิ่ง เรื่อง : มะแม สูตร : ส.ปลาทอง

    เช้า ๆ รีบ ๆ เร่ง ๆ คุณแม่บ้านหลายคนอาจจะเตรียมปรุงอาหารเช้าไม่ทัน เพราะมีการกิจมากมายรออยู่ ยิ่งใครที่มีลูกอยู่ในวัยเรียนก็ยิ่งต้องมีภาระประจำวันหลายด้านทั้งอาบน้ำ แปรงฟัน รีดผ้า จัดสรรเสื้อผ้าให้ถูกต้อง รวมไปถึงเรื่องอาหาร

    ...เช้าวันใหม่จึงมักกลายเป็นความวุ่นวาย รีบเร่ง และไม่ได้ตระเตรียมของกินอย่างประณีต ซึ่งบางวันนอกจากไม่ได้เตรียมแล้ว ยังคิดไม่ออกว่าลูกจะกินอะไรก่อนไปโรงเรียนดี

    ในขณะที่คุณแม่อีกหลายท่านก็อาจจะกำลังปวดหัวกับการทำอาหารเข้าให้ลูกกินทุก วัน แต่ลูกกลับไม่ยอมกิน ไม่ว่าจะเป็นเมนูจากเนื้อไก่ เนื้อหมู ผัก ผลไม้ต่างๆ ที่แม้ว่าจะจัดสรรใส่จานให้น่ากินเพียงใด หรือจะหลอกล่ออย่างไรก็ไม่ได้ผล เพราะเจ้าหนูตัวน้อยเอาแต่ส่ายหน้าอยู่ท่าเดียว

    มะแม เลยขออนุญาตแนะนำว่า ลองเปลี่ยนจากอาหารทั่วไปกับข้าวขาว ๆ เปลี่ยนมาเป็นอาหารเช้าจากคอร์นเฟลกกันดูบ้าง ซึ่งคุณแม่แค่ฉีกคอร์นเฟลกใส่ลงไปในนม... อาหารเช้ามื้อนี้ก็น่าจะเรียกความสนใจจากลูกได้แล้ว หรืออาจจะปรุงเป็นเมนูอื่น ๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดและการสร้างสรรค์เมนู เพราะรสชาติหอมมันกรุบ ๆ กรอบ ๆ น่าจะสร้างความถูกใจให้เจ้าหนูตัวน้อยได้ไม่ยาก

    ที่สำคัญนอกเหนือจากความอร่อย คอร์นเฟลก ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้ทั้งพลังงานแถมยังไขมันต่ำอีกด้วย เพราะฉะนั้นเมนูอร่อยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จึงไม่จำเป็นว่าต้องทำให้เด็กกินเสมอไป ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็สามารถอิ่มอร่อยสบายท้องในวันรีบเร่ง หรือในวันที่อยากงดเว้นจากอาหารมื้อหนักด้วยคอร์นเฟลกได้ เช่นกันค่ะ

    [​IMG] คอร์นเฟลกไก่กรอบ


    [​IMG]


    ส่วนผสม

    [​IMG] โคนปีกไก่ 300 กรัม

    [​IMG] ซีอิ๊วขาวสูตร / ตราเด็กสมบูรณ์ 2 ช้อนชา

    [​IMG] พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา

    [​IMG] แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป, น้ำเย็นจัด

    [​IMG] คอร์นเฟลก บีบพอแตก, น้ำมันพืช

    [​IMG]ซอสพริก หรือซอสมะเขือเทศ

    วิธีทำ

    [​IMG] ล้างโคนปีกไก่ ใช้มีดเล็ก ๆ เลาะเนื้อและหนัง รูดลงมาเป็นกระจุกอยู่ตรงด้านล่าง

    [​IMG] โรยพริกไทยป่นและซีอิ๊วขาว ลงบนโคนปีกไก่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 15 นาที นำไปนึ่งให้สุกพักไว้ให้เย็น

    [​IMG] ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นจัดพอข้น นำโคนปีกไก่ลงชุบพอทั่วคลุกด้วยคอร์นเฟลก นำลงทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลือง

    [​IMG] จัดเสริ์ฟคู่กับซอสพริก หรือซอสมะเขือเทศตามชอบ

    [​IMG] คอร์นเฟลกคาราเมลงากรอบ


    [​IMG]

    ส่วนผสม

    [​IMG] คอร์นเฟลก 250 กรัม

    [​IMG] งาขาวคั่วจนหอม 30 กรัม

    [​IMG] น้ำตาลทราย 300 กรัม

    [​IMG] เนยสดชนิดเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ

    [​IMG] น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง

    วิธีทำ

    [​IMG] ผสมน้ำตาลทรายและน้ำเปล่า ตั้งไฟกลางเคี่ยวจนส่วนผสมข้นและมีสีน้ำตาลทองอ่อน ๆ

    [​IMG] เติมเนยสดผสมให้เข้ากัน ใส่คอร์นเฟลกและงาขาวคั่วคลุกเคล้าให้เข้ากัน

    [​IMG] จากนั้นเทใส่ถาด พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

    [​IMG]คอร์นเฟลกถ้วยไส้ไก่


    [​IMG]

    ส่วนผสม

    [​IMG] คอร์นเฟลกบดละเอียด 200 กรัม

    [​IMG] เนยสดละลาย 100 กรัม

    [​IMG] น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ

    [​IMG] ไข่ขาว 2 ฟอง

    วิธีทำ

    [​IMG] ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน กรุลงในถ้วย นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที นำออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็น

    ส่วนผสมไส้ไก่

    [​IMG] เนื้ออกไก่หั่นชิ้นเล็ก 150 กรัม

    [​IMG] มันฝรั่งต้มหั่นชิ้นเล็ก ๆ 150 กรัม

    [​IMG] นมสด ¾ ถ้วยตวง

    [​IMG] แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ

    [​IMG] เนยสดชนิดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ

    [​IMG] หอมใหญ่สับหยาบ 50 กรัม

    [​IMG] ใบกระวาน 2 ใบ

    [​IMG] เกลือป่น, พริกไทยป่น

    [​IMG] มอซซาเรลลาชีส

    วิธีทำ

    [​IMG] เตรียมแป้งรูซ์โดยใส่เนยสดในกระทะ 1 ช้อนโต๊ะ เติมแป้งสาลี ผัดจนแป้งเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ ตักขึ้น

    [​IMG] ใส่เนยสดที่เหลือในกระทะ เติมหอมใหญ่ ผัดจนมีลักษณะสุกใส ใส่เนื้อไก่ลงผัดพอสุก ใส่มันฝรั่ง นมสด ใบกระวาน แป้งรูซ์ที่ผัดไว้ คนพอข้น ปรุงรสด้วยเกลือป่น และพริกไทยป่น ใช้เป็นไส้

    [​IMG] ใส่ส่วนผสมไส้ไก่ลงในถ้วย โรยด้วยมอซซาเรลลาชีส นำเข้าอบอีกครั้ง พอมอซซาเรลลาชีสเกรียมเล็กน้อย ยกออก จัดเสิร์ฟ

    [​IMG] คอร์นเฟลกทอด


    [​IMG]


    ส่วนผสม

    [​IMG] คอร์นเฟลก 100-150 กรัม

    [​IMG] เนื้อกุ้งสับ ¼ ถ้วยตวง

    [​IMG] รากผักชี กระเทียม พริกไทย (โขลกละเอียด) 2 ช้อนชา

    [​IMG] เกลือป่น 1/8 ช้อนชา

    [​IMG] น้ำตาลทราย ¼ ช้อนชา

    [​IMG] แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป, น้ำเย็นจัด

    [​IMG] ผักสลัดตามชอบ, มายองเนสหรือสลัดครีม

    [​IMG] น้ำมันพืช

    วิธีทำ

    [​IMG] ผสมแป้งทอดกรอบสำเร็จรูปกับน้ำเย็นจัดให้มีลักษณะข้น ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำตาลทราย

    [​IMG] ใส่เนื้อกุ้งลงผสมให้เข้ากัน ตามด้วยคอร์นเฟลก คลุกเคล้าให้มีลักษณะปั้นได้ แล้วปั้นเป็นก้อนกลมกดให้แบนเล็กน้อย นำลงทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นเสิร์ฟคู่กับผักสลัดและมายองเนสตามชอบ




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เว็บไซด์ แม่บ้าน

    [​IMG]

    http://women.kapook.com/www.maeban.co.th/







    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” ทรงเผย กล้ามเนื้อต้นขาของ “ในหลวง” ยังไม่แข็งแรง แต่ยังทรงงานทุกวัน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">9 เมษายน 2554 02:37 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG]

    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="middle">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="middle">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="middle">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    [​IMG]


    “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” ทรงเผยพระอาการ “ในหลวง” กล้ามเนื้อต้นขาของพระองค์ยังไม่แข็งแรง ด้านอื่นๆ ปกติดี ทรงเป็นหวัดบ้าง แต่พระองค์ท่านมีจิตใจที่เข้มแข็ง และยังทรงงานทุกวันไม่เคยหยุด พระราชินี และ สมเด็จพระเทพฯ ทรงถวายการดูแลอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชมาเป็นเวลาร่วมปี โดยทรงพักในห้องพักเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา

    ภายหลังจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานวโรกาสพิเศษให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ วู้ดดี้เกิดมาคุย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เวลา 10.00 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ถ.วิภาวดีโดยมี วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ทำหน้าที่ในการสัมภาษณ์

    โดยพระองค์ท่านได้ประทานสัมภาษณ์ตรัสถึง การปฏิบัติพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทั้งสองพระองค์ทรงงานหนักมาโดยตลอด โดยเฉพาะในยามที่ประเทศชาติเกิดวิกฤต จนบางครั้งแทบไม่มีเวลาบรรทม ตรัสอยากได้เวลาจากรายการทีวีวันละ 10 นาที เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงเรื่องความสามัคคีของคนไทย เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองได้นำความทุกข์มาสู่พระองค์ท่านยิ่งนัก กระทั่งอาการพระประชวรที่เริ่มดีกลับทรุดลง สิ่งที่พระองค์หวังก็คือ อยากให้คนไทยกลมเกลียวกัน ชาติจะได้เจริญก้าวหน้า และอยากให้ทั้ง 2 พระองค์ทรงได้รับความยุติธรรมตามที่พระองค์ท่านควรจะได้รับ ซึ่งเทปดังกล่าวออกอากาศสัปดาห์แรกไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา สร้างความปลาบปลื้มให้กับประชาชนคนไทยที่ติดตามชมรายการ ที่มีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมี

    ส่วนเทปที่ 2 จะมีการออกอากาศ ในวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ที่จะถึงนี้ โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเผยถึงพระอาการประชวรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า “เท่า ที่ฉันถวายการดูแล ตอนนี้ท่านมีความไม่แข็งแรงที่กล้ามเนื้อบริเวณต้นขา ด้านอื่นๆ ก็ปกติดี เป็นหวัดเล็กๆ น้อยๆ ท่านมีจิตใจที่เข้มแข็ง ตอนนี้ก็พลัดกันดูแล ท่านก็ยังทรงงานทุกวันไม่เคยหยุด สมเด็จพระราชินีฯ สมเด็จพระเทพฯ ทั้ง 2 พระองค์ก็ทรงพักอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชมาระยะเวลาเป็นปีแล้ว ก็มีห้องพักเล็กๆ ห้องน้ำเล็ก ไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา ท่านก็พักกันได้”

    ติดตามชมประเด็นการสัมภาษณ์พิเศษเทปที่ 2 พร้อมประเด็นและมุมมองที่ตรงไปตรงมาจากส่วนลึกของพระทัยของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อม ทั้งทรงเผยถึงห้องบรรทมอันแสนเล็กและคับแคบ ห้องน้ำส่วนพระองค์ที่ไม่ได้หรูหรา ให้ชมโต๊ะทรงงานและบันทึกพิเศษที่ท่านทรงอักษรจากใจ ความเชื่อเรื่องโลกแตกในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เรื่องสนุกอารมณ์ดีกับเรื่องสุนัขทรงเลี้ยง และ สุนัขประจำตึกที่โรงพยาบาลศิริราช เสียงเพลงแสนไพเราะ ได้ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้ เวลา 22.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

    .

    Entertainment - Manager Online -

    http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044542

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สวัสดีตอนเช้าครับพี่หนุ่ม
     
  17. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    ขอความกรุณาคุณสิทธิพงษ์ ส่งพระตามที่อยู่นี้ ขอบคุณครับ


    สันติ เจริญผล
    77 ถ.เทศบาลสาย 1 อ.ขลุง จันทบุรี 22110
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img007.jpg
      img007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      439.5 KB
      เปิดดู:
      98
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2011
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ขัตติยนารีขี่ม้าขาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 เมษายน 2554 00:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

    เป็นที่ปลื้มปีติไปทั่วทั้งแผ่นดิน

    เป็นที่สำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

    ที่สำคัญคือเป็นขวัญและกำลังใจที่มิอาจประเมินค่าได้สำหรับชาวนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้จากการที่ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี” เสด็จเยี่ยมประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากวิกฤตน้ำท่วมด้วยพระองค์เอง ทั้งๆ ที่พระอูรุ(กระดูกต้นขา)ข้างซ้ายที่หักเมื่อครั้งทรงประสบอุบัติเหตุลื่นหกล้มขณะทรงพระดำเนินไปบรรยายทางวิชาการที่ ม.เกษตรศาสตร์ ยังมิหายดีและต้องประทับรถเข็น

    เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความผูกพันของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประชาชนชาวไทยใต้ร่มพระบารมีเป็นอย่างดี

    นี่คือความเด่นชัดยิ่งในพระกรณียกิจที่ทรงต้องการสืบทอดพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ในยุคที่ต้องยอมรับว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใคร่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของทั้ง 2 พระองค์ จนทำให้ “ขบวนการล้มเจ้า” เติบใหญ่เช่นทุกวันนี้

    และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พสกนิกรชาวไทยได้เห็นถึงความเป็น “ขัตติยนารี” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ อย่างเด่นชัดหลังจากก่อนหน้านี้ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูอย่างสูงสุดต่อ “ท่านพ่อ” ในทางธรรม คือ “หลวงตา มหาบัว ญาณสัมปันโน” ด้วยการเสด็จเยี่ยมและทรงเฝ้าดูอาการอาพาธตั้งแต่ช่วงทรุดหนักจนละสังขาร และเสด็จไปประทับในการพระราชทานเพลิงสรีรสังขารจนเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว รวมทั้งอีกหลายครั้งหลายครา

    ** เสด็จ “นบพิตำ”
    พระกรณียกิจเพื่อพ่อหลวง

    หากยังจำกันได้ ก่อนหน้าที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ จะเสด็จฯ เยี่ยมผู้ประสบภัยที่อำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช คนไทยทั้งประเทศมีโอกาสได้รับทราบความในพระหฤทัยของพระองค์ ในฐานะที่ทรงเป็นสมาชิกแห่งราชวงศ์จักรี จากการที่พระราชทานสัมภาษณ์พิเศษนายวุฒิธร มิลินจินดา พิธีกรผู้ดำเนินรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา

    และต้องบอกว่า เป็นการออกอากาศที่มีประชาชนคนไทยจำนวนมากสนใจติดตามรับชมจนกลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์” ที่กล่าวขานกันทั้งบ้านทั้งเมือง

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพระราชทานสัมภาษณ์เรื่องพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทั้งสองพระองค์ทรงบำเพ็ญเพื่อประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมิเคยว่างเว้น แม้แต่ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเพื่อประทับรักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลศิริราช ก็ยังทรงติดตามสถานการณ์ของบ้านเมือง พร้อมทั้งมีพระราชกระแสรับสั่งให้มีการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตลอดเวลา

    “อยากให้ทูลกระหม่อมพ่อได้รับความเป็นยุติธรรมที่ท่านควรจะได้รับ รวมทั้งสมเด็จแม่ด้วย ท่านทรงตรากตรำเหลือเกินจริงๆ อยาก แต่ยังไม่กล้าขอ อยากขอเวลาทีวี วันละ 10 นาที หลังข่าว อยากจะฉายหนังสั้นพระราชกรณียกิจว่า พระองค์นี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีทรงทำอะไรบ้าง สงสารท่านเถอะ”

    อย่างไรก็ตาม ภายหลังการพระราชทานสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ก็ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นขัตติยนารีในตัวของพระองค์ในการทำหน้าที่แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยการเสด็จไปทรงเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากมหาวิบัติภัยน้ำท่วมภาคใต้

    การเสด็จในครั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ นอกจากจะพระราชทานถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 500 ชุด พระราชทานของเด็กเล่นให้แก่ลูกหลานของผู้ประสบภัย รวมทั้งตรัสถามความเป็นอยู่ ทุกข์สุขของราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ และเยี่ยมอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยจำนวนหนึ่งแล้ว ยังมีพระปฏิสันถารกับประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จด้วยข้อความที่สำคัญตอนหนึ่งด้วยว่า

    “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพสกนิกร ชาวนครศรีธรรมราช และ ชาวภาคใต้ ซึ่งเมื่อปี 2531 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ข้าพเจ้าเคยเสด็จ มาเยี่ยมประชาชนชาวนครศรีธรรมราช เมื่อครั้งนั้น ด้วยความห่วงใย และทำให้มีความผูกพันกับชาวนครศรีธรรมราช มาตลอด และเมื่อเกิดอุทกภัยใหญ่กับชาว อ.นบพิตำ ที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ทำให้มีความเป็นห่วง วันนี้ทั้งสองพระองค์ จึงมีพระราชดำรัสรับสั่งให้ข้าพเจ้า มาดูแลพสกนิกร ชาว อ.นบพิตำ ด้วยความห่วงใย และรับสั่งให้ดูแลทุกข์สุขของราษฎรที่เดือดร้อนในครั้งนี้อย่างเต็มที่ และ วันนี้ ข้าพเจ้าได้นำหน่วยแพทย์อาสา พอ.สว. มาดูแลตรวจรักษาราษฎรที่เจ็บป่วยด้วย”

    และหลังจากปฏิบัติพระกรณียกิจที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ห้องประชุมโรงเรียนนบพิตำวิทยา จ.นครศรีธรรมราชแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ก็ได้เสด็จต่อไปยังศูนย์อพยพชั่วคราว ณ โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งมีพระกระแสรับสั่งแก่ผู้ที่เฝ้ารับเสด็จว่า...

    “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยราษฎรเป็นอย่างมาก และรับสั่งให้ติดตามดูแลความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช พระองค์ทรงมีความรู้สึกว่า มีความใกล้ชิดห่วงใย เนื่องจากทั้งสองจังหวัดมีโครงการในพระราชดำริของพระองค์อยู่หลายโครงการ ตั้งแต่หลังเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2541”

    ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ยังตรัสให้กำลังใจผู้ประสบภัยด้วยว่า....

    “ที่เดินทางมาเพราะเป็นห่วง เพราะรักและต้องการมาให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนต่อสู้ และให้ดูตัวอย่างของชาวญี่ปุ่น เราจะได้มีกำลังใจที่เข้มแข็งต่อสู้ร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ปัญหา”

    พระกระแสรับสั่งดังกล่าวสร้างความปลาบปลื้มปีติใจให้กับผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก โดยบางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จนต้องร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ

    ส่วนถามว่า ทำไมสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ถึงมีความจำเป็นที่จะต้องเสด็จไปด้วยพระองค์เองนั้น คำตอบที่ชัดเจนน่าจะอยู่ที่คำให้สัมภาษณ์ของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวระหว่างการจัดกิจกรรม “บ้านฉัน..รักพระเจ้าอยู่หัว” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า “จากการตรวจสอบข่าวลือในพื้นที่อีสานเรื่องการยุยงปลุกปั่นประชาชนให้ปลดพระบรมฉายาลักษณ์พบว่า มีการยุยงจริง…”

    นี่คือเหตุผลว่า ทำไมถึงต้องเสด็จไปด้วยพระองค์เอง

    ไม่นับรวมถึงการปรากฏสารพัดข้อความจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่นับวันจะยิ่งเหิมเกริมและอหังการ์มากขึ้น

    **ทรงถามหาความยุติธรรม
    ให้พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินี

    อย่างไรก็ตาม ถ้าหากนำสิ่งที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ พระราชทานสัมภาษณ์ในรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” ต่อเนื่องด้วยการเสด็จเยี่ยมเยียนและทรงให้กำลังใจพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ก็จะเห็นชัดเจนว่า ด้วยเหตุอันใดพระองค์จึงต้องทรงปฏิบัติทั้งๆ ที่ยังคงประทับนั่งในรถเข็น และไม่สามารถพระดำเนินได้ตามปกติ

    เพราะนั่นถือเป็นอีกหนึ่งพระกรณียกิจในฐานะที่ทรงเป็น “พระเจ้าลูกเธอ” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

    อย่างไรก็ตาม ถ้าหากนำบทพระราชทานสัมภาษณ์ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยบางช่วงบางตอนมาทำความเข้าใจก็จะพบว่า สิ่งที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ พระราชทานสัมภาษณ์แต่ละช่วงแต่ละตอนในวันนั้น มีนัยที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นการพระราชทานสัมภาษณ์ท่ามกลางความเติบใหญ่ของ “ขบวนการล้มเจ้า” โดยทรงบอกเล่าถึงความห่วงใยในทุกข์สุขของพสกนิกรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงบำเพ็ญมาโดยตลอดนับแต่เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นต้นมา

    “ท่านทรงงานท่านตรากตรำมากนะ เมื่อท่านเสด็จฯ เยี่ยมบ้านชาวเขาแถวเชียงใหม่ บางครั้งไม่มีทาง ก็ต้องเดินทางข้ามเขา บางทีข้ามเขา 7-8 ลูก บางครั้งฉันเคยตามเสด็จฯ แล้วเราคือต้องอยู่หน่วยแพทย์ ก็ต้องแบกเป้ยา เพราะว่าอยู่หน่วยแพทย์ก็ต้องใช้ยาได้ ก็ตอนนั้นยังอายุน้อย คือตอนนั้นยังสาวอยู่รู้สึกว่ามันลำเค็ญ เจอหมู่บ้านก็อยากให้มีคนป่วยเยอะๆ จะได้ระบายยาออกจากเป้ เพราะมันหนักมาก มันหนัก 14 กิโล

    “...คือไม่ได้พูดว่าจะโปรโมตว่าตัวเองเป็นเจ้า แต่อยากให้ทูลกระหม่อมพ่อได้รับความเป็นยุติธรรมที่ท่านควรจะได้รับ รวมทั้งสมเด็จแม่ด้วย ท่านทรงตรากตรำเหลือเกินจริงๆ อยาก แต่ยังไม่กล้าขอ อยากขอเวลาทีวี วันละ 10 นาที หลังข่าว อยากจะฉายหนังสั้นพระราชกรณียกิจว่า พระองค์นี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีทรงทำอะไรบ้าง สงสารท่านเถอะ ตอนท่านทรงงานทุ่มพระทัยเต็มที่สำหรับประชาชนคนไทย ทั้งสองพระองค์ท่านเอาใจใส่มาก พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงตามงานชลประทาน ท่านให้คนมาเข้าเฝ้าฯ ที่โรงพยาบาลทุกวันที่โรงพยาบาล

    “ท่านบรรทมดึกมาก บางครั้งท่านก็บรรทมไม่หลับ บางครั้งก็บรรทมน้อย บางครั้งมีการส่งรูปปัญหาต่างๆ เข้ามา ท่านก็คอยตาม อย่างน้ำท่วมคนลำบากไหม ท่านก็ทรงให้ส่งถุงยังชีพไปให้ แต่พอท่านทอดพระเนตรทางโทรทัศน์ว่าทางนั้นก็น้ำท่วม ทางนี้ร้อน ทางโน้นก็บาดเจ็บ ท่านนี้ตามช่วยเหลือโดยที่ไม่บอกใครด้วย คือท่านปิดทองหลังพระจริงๆ คือถ้าไม่ได้เป็นลูกท่านคงไม่รู้จริงๆ”

    หลายคนถึงกับตกใจถึงสิ่งที่พระองค์พระราชทานสัมภาษณ์ เนื่องจากรับรู้ได้ถึงความสะเทือนพระทัยของพระองค์ และไม่คาดคิดว่า จะได้ยินได้ฟังข้อความในลักษณะนี้ โดยเฉพาะในประโยคที่ว่า “อยากให้ทูลกระหม่อมพ่อได้รับความเป็นยุติธรรมที่ท่านควรจะได้รับ รวมทั้งสมเด็จแม่ด้วย ท่านทรงตรากตรำเหลือเกินจริงๆ อยาก แต่ยังไม่กล้าขอ อยากขอเวลาทีวี วันละ 10 นาที หลังข่าว อยากจะฉายหนังสั้นพระราชกรณียกิจว่า พระองค์นี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีทรงทำอะไรบ้าง สงสารท่านเถอะ”

    และหลังจากการพระราชทานสัมภาษณ์พิเศษในวันนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงกับเต้นแร้งเต้นกาเป็นการใหญ่

    นอกจากนี้ อีกประเด็นสำคัญในการพระราชทานสัมภาษณ์วันนั้นคือ การอธิบายความจริงในฐานะที่ทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่หลายคนเข้าใจว่า ชีวิตมีแต่ความสุขสบาย ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ชีวิตไม่ได้สุขสบายหรือมีความหรูหราฟุ้งเฟ้ออย่างที่หลายคนจินตนาการกันไปเองตามคำบิดเบือนของผู้ไม่ปรารถนาดีต่อสถาบัน

    “ชีวิตฉันนี้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่า เกิดเป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน แล้วท่านก็ใช้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ที่เริ่มออกเยี่ยมราษฎรไปอยู่หน่วยแพทย์อาสา (พอ.สว.) ของท่าน ดูแลประชาชน ท่านเริ่มใช้ตั้งแต่อายุ 14 ปี แล้วการเรียนก็จำเป็นต้องเรียนพิเศษกลางคืน

    “ต้องทำงานถวายก่อนแล้วเรียนพิเศษตอนกลางคืน ทำอย่างนี้มาจนจบปริญญาเอก ซึ่งมันยาก เพราะเวลามีเรียนมันน้อย เวลาพักผ่อนก็น้อย มันก็ง่วง เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แล้วยังต้องเรียนอีก แต่ก็เข้าใจทูลกระหม่อมเสด็จพ่อเสด็จแม่ว่า ท่านให้ทำเพื่ออะไร ทำไมต้องทำงาน เพราะมีหน้าที่ เข้าใจ และยิ่งตอนนี้อายุมากขึ้นด้วยยิ่งเข้าใจเสด็จพ่อมากขึ้นเลย

    “เข้าใจว่าเป็นเจ้า เราต้องบำเพ็ญบารมี คือให้ทานและบารมี ให้ทานให้ความสุขแก่ราษฎร ให้ความสุขยังไง เช่น เขาป่วยเราก็รักษา เขาไม่มีอาชีพทำก็นำมาอบรมให้มีอาชีพทำ เขามีปัญหาทางเกษตรกรรม เช่นน้ำไม่พอ พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงสร้างเขื่อนให้เขา บุกไปดูพื้นที่ว่าต้องทำเขื่อนตรงโน้นตรงนี้เพื่อให้ราษฎรมีน้ำใช้ นี้คือพ่ออยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ทรงทำอย่างนี้มา 60 ปี”

    และท้ายที่สุดคือ การที่ทรงเปิดเผยถึงความทุกข์พระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง

    “...เหตุการณ์ปีที่แล้ว ที่มีการเผาบ้านเผาเมืองกัน อันนั้นนำความทุกข์มาสู่พระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จฯ เหลือเกิน พระเจ้าอยู่หัวจากที่ทรงหัดเดินได้ ตอนนั้นทรงทรุดเลย เป็นไข้ต้องให้น้ำเกลือนอนแบ่บเลย สมเด็จฯ ก็เสียพระทัยมากเลย ท่านรับสั่งว่า คราวที่เราถูกเผาเมืองนั้น คือสมัยเสียกรุงต่อพม่า กรุงศรีอยุธยา แต่คราวนี้สะเทือนใจยิ่งกว่า เพราะเป็นการที่คนไทยเผาเมืองไทยเอง”

    และนั่นเป็นพระดำรัสที่ทำให้นักวิชาการอย่าง “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” อดรนทนไม่ไหวและตั้งคำถามในเว็บไซต์ประชาไทชนิดที่หลายคนถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน
    (

    **สยบข่าวลืออัปมงคล

    อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ พระราชทานสัมภาษณ์ในฐานะ “พระเจ้าลูกเธอ” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หากแต่ทรงกระทำเพื่อชึ้แจงข้อเท็จจริงและปกป้องพระเกียรติของทั้งสองพระองค์มาโดยตลอด

    หากยังจำกันได้ เมื่อครั้งที่เกิดข่าวลืออันอัปมงคล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ก็พระราชทานสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งก็ยังความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรผู้จงรักภักดีอย่างยิ่ง
    วันที่ 14 ตุลาคม 2552 ....ในขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคปิดในแดนบวก อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตลาดหุ้นไทยกลับปรับตัวลดลงสวนทางเหนือความคาดหมาย โดยปิดตลาดที่ระดับ 731.47 จุด ลดลง 15.20 จุด แถมดัชนีระหว่างวันลดลงหนักถึง 32 จุด ต่อเนื่องด้วยวันที่ 15 ตุลาคม 2552 ที่ดัชนีลงแรงถึง 60 จุด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้น หลุด 700 จุด หลังจากที่ทะยานขึ้นต่อเนื่องกว่า 2 เดือน

    ต้นตอของ 2 วันมหาวิปโยคของตลาดหุ้นไทยนั้นมีต้นสายปลายเหตุประการเดียวคือ “ข่าวลือ”
    อย่างไรก็ตาม ข่าวลือทั้งหมดก็คลี่คลายลง เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่เสด็จไปรับการถวายรางวัล วิน เดาส์ เมดัล จากสถาบันอินทรีย์เคมี และชีวโมเลกุลมหาวิทยาลัย เกอ๊อจ เอากุสท์ อูนีแวย์ซิเทท เกิ้ททิงเง่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ทรงตอบคำถามข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต และนักศึกษาไทย ที่ทูลถามถึงพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความเป็นห่วง และจงรักภักดี

    พระองค์ทรงเล่าถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงยืนยันว่า “ตอนนี้นี่ให้ทุกคนสบายใจได้ว่า เรียกว่าทรงปลอดภัยแล้ว”

    ขณะเดียวกันในระหว่างที่ทรงเล่าก็มีพระอารมณ์ขันเกี่ยวกับการท้าดวลผักระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับพระองค์ด้วย

    “ก็มีสนุกขำๆ คือว่า ตัวข้าพเจ้าเองนี่ ขึ้นไปเฝ้าพระอาการ บางครั้งขึ้นไปเฝ้าตอนเสวยข้าว ท่านก็ทรงท้า บอกมาดวลกันไหม รับประทานแข่งกันไหม ท่านรู้ว่าข้าพเจ้าตั้งแต่เล็กมาแล้ว กินผักไม่เป็น ไม่กินผัก แล้วท่านก็บอกว่า แล้วท่านก็บอก วันนี้มีซุปผักโขม มาดวลกันไหม ก็เลยทูลท่านบอกว่า ดวลก็ดวล คือว่ารับประทานถวายพ่อองค์เดียวนะ เพราะกับคนอื่น แหม จะให้กล้ำกลืนทานซุปผักนี่ ก็คงแย่เหมือนกัน แต่วันนั้นก็ได้ทานซุปผักถวายท่านไป 1 ชาม ท่านก็เสวยซุปผักเหมือนกัน 1 ชาม ทรงดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ก็เหลือแต่ว่า ต้องทำกายภาพบำบัด เรื่องการทรงพระดำเนินจะได้คล่องขึ้น และพระกำลังขาจะได้ดีขึ้น

    นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหลายครั้งหลายคราที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ทรงแสดงบทบาทในลักษณะนี้

    …ถึงตรงนี้ พสกนิกรผู้จงรักภักดีคงสบายใจกันอย่างถ้วนหน้า เพราะการที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงลุกขึ้นมาชี้แจงและเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ย่อมเป็นหลักประกันอันดีที่จะป้องกันมิให้ “ขบวนการล้มเจ้า” เติบใหญ่อีกต่อไป รวมทั้งส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวได้ตื่นตัวเพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่เคารพรักยิ่งให้สถิตสถาพรเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป

    ขณะเดียวกันพระกรณียกิจดังกล่าวยังทำให้หลายคนนึกถึงคำทำนายของ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” เด่นชัดขึ้นอีกด้วย

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำทำนายเอาไว้ว่า.....

    คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
    ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
    พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร
    ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
    ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
    ชาวประชาจะปีติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
    จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
    จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
    คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
    ข้าราชการตงฉินถูกประณาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
    เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
    ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
    ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
    พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
    เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
    แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
    เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
    ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
    ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

    ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
    คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
    คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ


    ทรงพระเจริญ พระพุทธเจ้าข้า


    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044466
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2011
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...