ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ภัยวิบัติ8จังหวัดในไทยที่อันตรายที่สุดและวิธีการแก้ไข

1 สกลนคร 2ร้อยเอ็ด 3มุกดาหาร 4ลพบุรี 5ลำพูน 6หนองคาย 7เชียงราย 8บุรีรัมย์ อันตรายที่สุด
และกรีกอันตรายมาก ผลเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายพายุวิบัติจากประเทศนิวซีแลนด์และฝรั่งเศสเพราะฉะนั้นต้องแก้ไขที่นิวซีแลนด์ก่อน กรีกถึงจะได้รับกระทบน้อยที่สุด ฝรั่งเศสแผ่นดินไหวและการเมืองแบ่งแยกการปกครองลับๆ
และอีกหลายประเทศคือ1 เวียดนาม 2ลาว 3พม่าย่างกุ้ง 4อเมริกา 5ฮอลแลนด์
วิธีการแก้ไขภัยธรรมชาติเหล่านี้คือ หยุดสร้างนิวเคลียร์ทั้งหมดทั่วโลก เพราะต่อไปนี้นิวเคลียร์จะทำงานเองเหนือการควบคุม แต่ที่จะช่วยได้มากที่สุดคือ ใช้จิตบังคับไม่ให้เกิดโดยผู้สำเร็จทางจิตและถอดจิตไปที่แห่งนั้นที่กำลังจะเกิดจะช่วยได้ประมาณ70%แต่ถ้าผู้นั้นไปด้วยตัวเองถึงสถานที่แห่งนั้นก็จะช่วยได้95-100%โดยการทำพิธีผลักดันพลังงานออกไปให้ไกลที่สุดหรือสลายพลังงานนั้น

 

ตรังน้ำป่าหลากท่วม 2 อำเภอเดือดร้อนกว่า 80 หลังคาเรือน​

​

ตรัง 25 มี.ค.-นายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.นาโยง และ อ.เมืองตรัง รวม 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 80 หลังคาเรือน

โดยเฉพาะที่หมู่ 7 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนที่หมู่ 8 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง ระดับน้ำไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่ ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำตรัง ได้แก่ชาวบ้านใน ต.บางรัก ต.หนองตรุด ต.นาตาล่วง ต.นาท่ามเหนือ ต.นาท่ามใต้ และ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ขอให้เร่งขนข้าวสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำสุดท้ายก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลตรัง.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 25 มี.ค. 2554

พัทลุงยังอ่วมหนักน้ำท่วมขยายวงกว้าง 8 อำเภอ​

​

สำนักข่าวไทย 26 มี.ค.-น้ำท่วมพัทลุงขยายวงกว้างใน 8 อำเภอ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 28,000 คน พื้นที่การเกษตรจมน้ำเสียหาย 45,000 ไร่ ขณะที่อุตุฯ ยังออกประกาศเตือนมีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกต่อไปอีก 1-2 วัน ขอให้ระวังน้ำป่าไหลหลากดินถล่มในช่วงวันที่ 26-28 มี.ค.นี้

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พัทลุง ซึ่งเกิดจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่ม ล่าสุดวันนี้(26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมได้ขยายวงกว้างเพิ่มเป็น 8 อำเภอแล้ว คือ อ.เมืองพัทลุง ควนขนุน กงหรา ศรีนครินทร์ ป่าพะยอม เขาชัยสน ศรีบรรพต และบางแก้ว พื้นที่ประสบภัย รวม 35 ตำบล 248 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 28,000 ราย 8,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร ทั้งสวนยางพารา สวนไม้ผล และนาข้าวจมน้ำเสียหาย 45,000 ไร่

โดยเฉพาะพื้นที่ของอำเภอเมืองพัทลุง ใน ต.ปรางหมู่ ต.พญาขัน ต.ชัยบุรี และ ต.ลำปำ น้ำป่าที่หลากท่วมมีสภาพขุ่นแดง ไหลเชี่ยวกราก ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร บางหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ต้องขอสนับสนุนเรือท้องแบนเพิ่มอีก 13 ลำ เพื่อให้ชาวบ้านออกซื้อสิ่งของจำเป็นไว้ใช้

ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 6 เรื่องคลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปอีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงมาระมัดระวังอันตราย จากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 26-28 มี.ค.นี้

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้. -สำนักข่าวไทย

วันเสาร์ ที่ 26 มี.ค. 2554

ชาวแม่สายยังผวาเหตุแผ่นดินไหว​

​

เชียงราย 26 มี.ค. - ชาวแม่สาย จ.เชียงราย ยังผวาเหตุแผ่นดินไหว จนหลายครอบครัวต้องออกมานอนนอกบ้าน ขณะที่โรงพยาบาลแม่สาย ยืนยันมีแผนอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล หากเกิดความสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว

ชาวบ้านชุมชนผาแตก ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กว่า 10 ครอบครัว ออกไปกางเต็นท์และขนเครื่องนอนออกไปนอนในที่โล่งห่างจากบ้านพักอาศัย เพราะไม่มั่นใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในคืนนี้ พร้อมทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามประเพณีชาวไทลื้อ หลังจากเมื่อคืนนี้มีหญิงชราในหมู่บ้านถูกกำแพงล้มทับเสียชีวิต 1 คน

ส่วนที่โรงพยาบาลแม่สาย นพ.สุระ คุณคงคาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลไว้พร้อม หากเกิดแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกในระดับรุนแรง โรงพยาบาลจะสามารถขนย้ายผู้ป่วยใน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60 คน ออกจากตัวอาคารได้ภายใน 5 นาที

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ช่วงบนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 หน้าด่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงราย และได้มอบเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือชาวพม่าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว รวมทั้งมอบเงินและถุงยังชีพแก่ครอบครัวนางหงส์ คำปิง ที่เสียชีวิตจากการถูกกำแพงล้มทับ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่. - สำนักข่าวไทย

วันเสาร์ ที่ 26 มี.ค. 2554

วัดดัง-อาคาร กอ.รมน.น่าน เสียหายจากพิษแผ่นดินไหวพม่า​

​

น่าน 25 มี.ค.-แผ่นดินไหวในพม่า ส่งผลกระทบถึง จ.น่าน ทำให้พระวิหารในวัดภูมินทร์ เกิดรอยแตกร้าวทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งอาคารสำนักงาน กอ.รมน.จังหวัด เกิดรอยแตกบนเสารับน้ำหนักอาคาร เป็นแนวยาว จนเจ้าหน้าที่หวั่นอาคารจะทรุดตัว

นายทวีศักดิ์ สิงหราช รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองน่าน พร้อมด้วยนายธีระ คฤหนนท์ ผอ.กองช่าง เทศบาลเมืองน่าน ออกสำรวจโบราณสถานสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในพม่า พบว่าที่วัดภูมินทร์ มีรอยแตกร้าวหลายจุด ทั้งภายนอกและภายในตัวพระวิหาร เศษกระจกประดับเชิงชายพระวิหารหลุดร่วงลงมา

ด้านนายธวัช เพ็ชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบความเสียหายที่สำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ติดกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเสาที่รับน้ำหนักตัวอาคารซึ่งสูง 2 ชั้น มีรอยแตกเป็นแนวยาว ลึก ผนังห้องมีรอยร้าวหลายจุด เจ้าหน้าที่หวั่นจะทรุดตัวลงมา ขณะนี้ได้แจ้งให้หน่วยเหนือรับทราบเพื่อซ่อมแซมโดยด่วน สำหรับอาคารที่อยู่อาศัยของประชาชน ไม่พบความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 25 มี.ค. 2554

ชาวพม่าข้ามฝั่งมาหาซื้อสินค้าไปกักตุนเป็นจำนวนมาก​

​

26 มี.ค. - ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวพม่าในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ข้ามเข้ามาฝั่งไทย เพื่อหาซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค กลับไปเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ แลเนื้อสัตว์ ซึ่งชาวพม่าบอกว่า เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 4 ริกเตอร์ อีกครั้ง และจาการสำรวจเบื้องต้น พบว่า เหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้สะพานข้ามแม่น้ำท่าเดื่อในฝั่งพม่า ที่จะข้ามไปยังเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า พังเสียหาย รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ จึงทำให้รถบรรทุกน้ำเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอุปโภค บริโภค ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกไปยังเมืองเชียงตุง ต้องจอดอยู่หน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า แห่งที่ 2 ชั่วคราว

ผลพวงจากเหตุแผ่นดินไหวในพม่า และรู้สึกได้ถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้หม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เตรียมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อวางมาตรการในการป้องกันภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งจะมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เตรียมรับมือและเหตุด่วนตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอาคารสูงในกรุงเทพฯ ผู้ว่า ฯกทม. ยอมรับว่า ที่ผ่านมาการก่อสร้างไม่ได้คำนึงถึงเรื่องแผ่นดินไหวมากนัก แต่จากนี้ไป หากจะมีการสร้างอาคารเกิดขึ้น ใบอนุญาตต้องดูในเรื่องการป้องกันแผ่นดินไหวด้วย

ส่วนอาคารที่มีอยู่เดิมนั้น ต้องไปดูเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้คนกรุงเทพฯ ตื่นตระหนกมากเกินไป แต่การเตรียมพร้อมครั้งนี้ คือ ความไม่ประมาท รวมถึงเรื่องของสึนามิ เพราะกรุงเทพฯ อยู่ห่างจากทะเลเพียง 4.7 กิโลเมตร ดังนั้น ต้องมีมาตรการและแผนรองรับในเรื่องสึนามิด้วย. -สำนักข่าวไทย

วันเสาร์ ที่ 26 มี.ค. 2554

แผ่นดินไหวพม่าทำถนนเลียบชายแดนแม่สายแตกร้าวกว่า 10 กม.​

​

เชียงราย 25 มี.ค.-ผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศพม่า ทำให้ถนนเลียบชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แตกร้าวลึกเกือบ 1 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่วัดรอยแผ่นดินแยกบริเวณถนนเลียบชายแดนไทย-พม่า ด้านบ้านป่าซางงาม ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบเป็นรอยร้าวกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ลึกเกือบ 1 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร บางจุดถนนทรุดตัวต่ำกว่าผิวถนนเดิมประมาณ 20 เซนติเมตร สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ขณะที่นายบัณฑิต ตะเอ้กา หัวหน้างานพรมแดนแม่สาย กล่าวว่า ผลกระทบจากแผ่นดินไหวทำให้สะพานข้ามแม่น้ำเดื่อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ห่างจากพรมแดนแม่สายประมาณ 50 กิโลเมตร ขาด รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าไป จ.เชียงตุง ได้ รถบรรทุกสินค้าต้องจอดรออยู่หน้าด่านพรมแดนแม่สายเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 25 มี.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศลาวขนาด 4.8 ริกเตอร์​

​

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 ริกเตอร์ที่ประเทศลาว ที่ระดับความลึก 10.2 กิโลเมตร

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 ริกเตอร์ ที่ประเทศลาว ที่ระดับความลึก 10.2 กิโลเมตร ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากจังหวัดเชียงราย 102 กิโลเมตร อยู่ห่างจากย่างกุ้ง 604 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 782 กิโลเมตร

วันที่ 26 มีนาคม 2554 15:02 น.

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com

 

กองกำลังต่อต้านกัดดาฟี

ยอดผู้เสียชีวิตนับร้อย โวยตั้งใจโจมตีพลเรือน ฝ่ายต่อต้านชี้จัดฉาก
26 มี.ค. รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศแจ้งว่า เครื่องบินรบพันธมิตรโจมตีเป้าหมายทางทหารกองกำลังของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย อย่างหนักและต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันนี้ โดยนับเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งเครื่องบินทิ้งระเบิดในเมืองสลิเตน เมืองชายฝั่งทะเลที่อยู่ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางทิศตะวันออก 160 กม.และใช้จรวดโทมาฮอกไปอีกนับร้อยลูก
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ของลิเบียรายงานด้วยข้อความบรรยายใต้ภาพว่า กองกำลังจักรวรรดินิยมผู้รุกราน ได้ทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายพลเรือนและทหาร แต่ไม่ระบุรายละเอียดสถานที่ที่ถูกโจมตี หรือความเสียหาย
ขณะเดียวกัน เครื่องบินรบพันธมิตรทิ้งระเบิดโจมตีฐานเรดาร์กองทัพลิเบีย แถบชานเมืองทาจูรา ทางตะวันออกเช่นกัน พยานที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่เป้าหมายเผยว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้อง 3 ครั้งติดต่อกัน ก่อนที่ฐานเรดาร์จะไฟลุกท่วม
ด้านกองกำลังของกัดดาฟีระดมยิงปืนใหญ่ โจมตีย่านชุมชนในเมืองมิสราตา ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มต่อต้าน ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางทิศตะวันออกราว 214 กม. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน เป็นแม่และลูกอีก 4 คน
ส่วนนายคาห์ลิด โอมาร์ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขลิเบีย เปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศของพันธมิตรในลิเบีย ช่วงระหว่างวันที่ 20 – 23 มี.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 ศพ บาดเจ็บ 445 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตในกรุงตริโปลีและเขตรอบนอก 104 ศพ และอีก 10 ศพในเมืองเซอร์ตี แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า ตัวเลขความสูญเสียตามที่แถลงแยกเป็นพลเรือนและทหารจำนวนเท่าใด
ล่าสุด กองกำลังต่อต้านกัดดาฟี ได้ยึดเมือง อัดดาบียา ทางตะวันออกของลิเบียได้แล้ว พร้อมออกมาตอบโต้รัฐบาลลิเบียว่าจัดฉากกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของกองกำลังพันธมิตร

เรียบเรียงข่าวโดยMthainews
เรดาร์ของกองกำลังกัดดาฟีถูกทำลาย

กองกำลังต่อต้านกัดดาฟียึดเมืองอัดดาบียา

กองกำลังต่อต้านกัดดาฟี

กองกำลังต่อต้านกัดดาฟีรุกคืบ

กองกำลังสนับสนุนกัดดาฟี

ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของกองกำลังพันธมิตร

<LI class=news_src_item><LI class=news_src_item><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนโสมแดงเตรียมโจมตีครั้งใหม่ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายคิม ควาน-จิน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวหาเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ว่า กำลังวางแผนโจมตีครั้งใหม่ และสั่งให้ทหารเกาหลีใต้เตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ โดยนายคิมระบุในข้อความที่ส่งถึงทหารทั่วประเทศว่า เกาหลีเหนือกำลังวางแผนยั่วยุครั้งที่ 2, 3 ซึ่งอาจเหนือความคาดหมาย เหมือนการโจมตีเรือรบเกาหลีใต้เมื่อ 1 ปีก่อน

เกาหลีใต้กล่าวหาเกาหลีเหนือว่ายิงตอร์ปิโดโจมตีเรือรบโชนันเมื่อวันที่ 26 มีนาคมปีที่แล้ว ใกล้พรมแดนพิพาทในทะเลเหลือง ทำให้ทหารเรือเกาหลีใต้เสียชีวิตไป 46 นาย แต่เปียงยางปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว “เราต้องระลึกไว้ในใจว่า เกาหลีเหนือจะยั่วยุอีก”

นายคิม กล่าว พร้อมเรียกร้องให้พร้อมสู้รบเต็มที่ประธานาธิบดีลี มยอง-บัค และคณะรัฐมนตรีของเขา ได้เริ่มประชุมประจำสัปดาห์ด้วยการสงบนิ่งเพื่อรำลึกถึงทหารเรือ 46 นายที่พลีชีพบนเรือโชนัน โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารและประชาชนเกาหลีใต้ จัดพิธีรำลึกถึงทหารหาญเหล่านี้เมื่อวันเสาร์ได้ที่สุสานแห่งชาติในเมืองแตชอน ทางตอนใต้ของประเทศ

ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ก็กำลังอยู่ระหว่างทำการซ้อมรบตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ รำลึกครบรอบ 1 ปีของการจมเรือโชนัน ซึ่งการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งนี้ จะมีรถถัง ยานยนต์หุ้มเกราะ, ปืนใหญ่, เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบเข้าร่วมด้วย ใกล้ชายแดนที่ติดกับเกาหลีเหนือ ส่วนเรือรบและเครื่องบินเกาหลีใต้ จะทำการซ้อมรบ 3 วันจากวันศุกร์ (25 มี.ค.) โดยจะมีการจำลองการโจมตีจากเรือดำน้ำ เรือรบและเครื่องบินรบของเกาหลีเหนือ

ด้านนายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธา นาธิบดีสหรัฐ มีแผนการที่จะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือเป็นการส่วนตัว โดยตั้งใจที่จะหาทางผ่อนคลายความตึงเครียด นายโช เบียง-แจ โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เกาหลีใต้กำลังให้ความสนใจต่อแผนการของนายคาร์เตอร์ในการเยือนเกาหลีเหนือ ส่วนในกรุงวอชิงตัน นายมาร์ค โทเนอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า นายคาร์เตอร์จะไม่เป็นผู้นำสารใด ๆ จากรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไปหารือกับผู้นำรัฐบาลโสมแดง


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><LI class=news_src_item><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พยากรณ์อากาศประจำวัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=#d9d9d9 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR class=14BWhite align=center bgColor=#0f6aaa><TD height=35 colSpan=2 align=center>ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2554</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. </TD><TD>บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้
มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปอีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 26-28 มีนาคม 2554 ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

</TD></TR><TR><TD class=14BWhite bgColor=#0f6aaa height=35 colSpan=2 align=center>พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. </TD></TR><TR bgColor=#faf6f6><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ภาคเหนือ </TD><TD>มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณแม่ฮ่องสอน
เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ ตาก และกำแพงเพชร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ </TD><TD>อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา และมีลมแรง
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. </TD></TR><TR bgColor=#faf6f6><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ภาคกลาง </TD><TD>มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์
อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ภาคตะวันออก </TD><TD>อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา และมีลมแรง
โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร </TD></TR><TR bgColor=#faf6f6><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) </TD><TD>มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
ในหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง
สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD class=subtitle vAlign=top width=140>ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) </TD><TD>มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร </TD></TR><TR bgColor=#faf6f6><TD class=subtitle vAlign=top width=140>กรุงเทพมหานครและปริมณฑล </TD><TD>มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. </TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>

กรมอุตุนิยมวิทยา​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

======================================


25 มี.ค. 54

วันพรุ่งนี้(อาทิตย์ที่ 26) ผมได้นัดพบแนวร่วม อ.วังสะพุง จ.เลย มาพบที่สถานี
รถไฟดอนเมืองเวลาบ่ายหนึ่งโมงเพื่อรับเป็นแนวร่วมถาวร แนวร่วมรายนี้จะนำ
คนเขามาอยู่ฐานผาแบ่นด้วยหกคน ท่านใดสนใจจะไปพูดคุยด้วยก็ขอเชิญ





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

ความกลัวทุกอย่าง จุดสุดท้ายของมันจบที่ "การกลัวความตาย"

 

สารกัมมันตรังสีในน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้าสูงกว่าปกติ​

​

ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นเผยสารกัมมันตรังสีในน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ หมายเลข 1 ขณะนี้สูงกว่าระดับปกติถึง 1,250 เท่า

นายฮิเดฮิโกะ นิชิยามะ โฆษกสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นออกมาแถลงวันนี้ถึงผลการตรวจสอบน้ำทะเลใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ หมายเลข 1 ครั้งล่าสุดปรากฎว่าพบสารกัมมันตรังสีไอโอดีนปนเปื้อนในน้ำทะเลที่หน้าอาคารเตาปฎิกรณ์หมายเลข 1 ในปริมาณที่สูงระดับปกติถึง1,250 เท่า หรือสูงกว่าที่ตรวจวัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 8 เท่า เชื่อว่าเกิดจากสารกัมมันตรังสีที่ปลิวมากับอากาศและที่รั่วไหลจากเตาปฎิกรณ์ลงสู่ใต้ดินก่อนไหลออกสู่ทะเล ซึ่งสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่าแกนนิวเคลียร์ของเตาปฎิกรณ์หมายเลข 3 น่าจะเกิดการแตกร้าว และปล่อยสารกัมมันตรังสีออกสู่บรรยากาศทั้งทางอากาศและซึมลงสู่ใต้ดินไปปนเปื้อนน้ำใต้ดิน

นอกจากนี้ คนงานยังตรวจพบน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีภายในอาคารคุมเครื่องปฎิกรณ์หมายเลข 1 และ 3 และเชื่อว่าน้ำที่พบที่อาคารหมายเลข 2 และ 4 น่าจะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเช่นกัน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคนงานที่พยายามฟื้นฟูระบบหล่อเย็นภายในโรงไฟฟ้า เนื่องจากทำให้คนงาน 3 คนได้รับบาดเจ็บจากการได้รับสารกัมมันตรังสี โดย 2 คนอาการรุนแรงต้องนำส่งโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ เชื่อว่าเกิดจากการรั่วไหลของแกนนิวเคลียร์ หรือท่อน้ำหรือไม่ก็รั่วออกมาจากบ่อเก็บแท่งนิวเคลียร์ ซึ่งวันนี้คนงานได้เร่งสูบน้ำปนเปื้อนออกจากอาคารแล้วเพื่อที่จะเดินหน้าแก้ระบบปั๊มน้ำต่อ

และวันนี้ ญี่ปุ่นก็เปลี่ยนมาใช้น้ำจืดพ่นเข้าหล่อเลี้ยงเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์แทนการใช้น้ำทะเลแล้ว โดยกองทัพเรือสหรัฐได้นำเอาเรือขนาดใหญ่เข้ามาช่วยบรรทุกน้ำจืดเข้าไปช่วยคนงานญี่ปุ่น หลังจากวิตกว่าเกลือจากน้ำทะเลยิ่งทำให้แท่งนิวเคลียร์ผุกร่อนและได้รับความเสียหายสำหรับยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการวันนี้เพิ่มเป็น 10,151 คน สูญเสียกว่า 17,000 คน เชื่อยอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งมากกว่า 18,000 คน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ลิเบียอ้างถูกพันธมิตรถล่มตายไปแล้ว 144 คน​

​

ลิเบียออกมาอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของชาติพันธมิตรไปแล้ว 144 คน ขณะที่เกิดเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งในกรุงทริโปลีในช่วงเช้าตรู่วันนี้

หัวหน้ากรมเฝ้าระวังด้านสุขภาพของลิเบียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของชาติพันธมิตรในเมืองอัจดาบิย่าเพื่อเปิดทางให้กองกำลังฝ่ายต่อต้านพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี สามารถรุกเข้าไปภายในเมืองดังกล่าวเมื่อ 5 วันก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 144 คน บาดเจ็บถึง 455 คน

ขณะที่นายอิบราฮิม มุสซา โฆษกรัฐบาลลิเบียแถลงยืนยันว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านได้รุกคืบเข้าสู่เมืองอัจดาบิย่าโดยมีการคุ้มกันทางอากาศจากเครื่องบินรบพันธมิตร ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายและไร้ศีลธรรมและไม่เป็นไปตามมติของสหประชาชาติขณะที่กองกำลังพันธมิตรกล่าวว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา กองกำลังพันธมิตรยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์คไป 14 ลูก ส่งเครื่องบินรบออกปฏิบัติการ 130 เที่ยว และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

และเมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้มีรายงานว่าเกิดระเบิดดัขึ้นหลายครั้งในกรุงทริโปลี โดยจุดที่เกิดเสียงระเบิดอยู่ทางตะวันออกในย่านทาจูร่าซึ่งถูกพันธมิตรถล่มไปก่อนหน้านี้ และยังมีรายงานด้วยว่า พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ได้ติดอาวุธให้กับเหล่าอาสาสมัครเพื่อเอาไว้ต่อสู้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านแล้ว และดูเหมือนจะมีการเสริมกำลังด้วยการเกณฑ์พลเรือนเข้าร่วม หลังจากที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศถูกทำลายจนได้รับความเสียหาย

ส่วนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลัก ๆ ก็จะเป็นเครื่องบินรบของสหรัฐฯ,อังกฤษและฝรั่งเศส และในวันนี้ เครื่องบินรบของการ์ต้าซึ่งเป็นอาหรับชาติแรกที่เข้าร่วมก็ออกบินลาดตระเวณเหนือเขตห้ามบินเป็นวันแรก

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

เตือนภัยธารน้ำแข็งในเปรู​

​

ที่เปรู นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงกำลังทำให้ธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอนดิสละลายและหดตัวอย่างรวดเร็ว

รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมในเปรูเปิดเผยเรื่องนี้ที่กรุงลิม่า โดยบอกว่า การหดตัวของธารน้ำแข็งในเปรูจะเป็นภัยคุกคามต่อชาวเปรู โดยเฉพาะการจัดหาน้ำบริสุทธิ์ในการอุปโภคและบริโภค เนื่องจากการละลายและหดตัวอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอนดีสจะส่งผลต่อการก่อตัวของทะเลสาบ ซึ่งตอนนี้พบว่า หนึ่งในธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติฮัวคารัน ได้ละลายไปหมดแล้ว และจากข้อมูลของธนาคารโลกปี 2008 ระบุว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในละติน อเมริกา ทำให้ธารน้ำแข็งในเปรูละลายหายไปถึงร้อยละ 22​

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

ขอส่งกำลังใจ และความรักอย่างไร้เงื่อนไขใดๆ
แก่เพื่อนธรรมที่เข้ามาอ่านทุกๆท่านครับ

 

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ให้เราระลึกถึงความเป็นตาย เป็นเรื่องธรรมดา

ตั้งสติ เตรียมพร้อม อยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมือ ครับ

รอดไม่รอด ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน ครับ

 

การรับรู้ข้อมูลข่าวสารเรื่องของภัยพิบัติแบบผู้มีสติปัญญา​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tossapornk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4512745", true); </SCRIPT> สมาชิก

เรียนคุณ K.Kwan

ผมได้ข้อมูลจากคุณอ๋อ ว่าพระอาจารย์รัตน์ท่านบอกไว้น่าฟังดีครับ ท่านบอกว่าคนกรุงเทพส่วนใหญ่เขาก็มีบุญกุศลเก่าของเขาอยู่ และด้วยเหตุนี้คนกรุงเทพจะเจอกับเหตการณ์ที่ไม่สามารถทำมาหากินได้ ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ที่อื่นก่อนจากนั้นกรุงเทพถึงจะจมลงครับ

ถ้าให้ผมเดานะครับ ผมคิดว่าแผ่นดินกรุงเทพจะมีการจมลง 2 ขั้นตอนครับ

ขั้นตอนแรกกรุงเทพจะจมตัวลงก่อนประมาณ 2 - 3 เมตร ช่วงนี้น้ำทะเลจะไหลเข้าท่วมกรุงเทพ กลายเป็นเมืองเวนิสแห่งอินโดจีนครับ ระบบการเงินการธนาคารการธุรกิจการศึกษาทั้งหมดหยุดชะงักเป็นเวลาหลายเดือน ช่วงนี้แหละครับที่คนกรุงเทพได้มีโอกาสอพยพไปยังที่อื่นๆ ที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัย มีการอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญๆ ไปประดิษฐานในที่ๆปลอดภัย โดยเฉพาะพระแก้วมรกต หากท่านไปประดิษฐาน ณ.ที่ใด พวกเราก็น่าจะตามไปอยู ณ.ที่นั้นครับ ผมเชื่อเต็มร้อยว่าที่นั่นปลอดภัย

ขั้นตอนที่สอง กรุงเทพจมลงทั้งหมดอาจจะมากกว่า 10 เมตร ตึกถล่มหมดบ้านเรือนเกือบทั้งหมดจมน้ำ<!-- google_ad_section_end -->

24-03-2011, 01:15 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->i3lack<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4512810", true); </SCRIPT> สมาชิก

ใกล้จะเกิดแล้วหรือยังครับ

24-03-2011, 01:49 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->k.kwan<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4513055", true); </SCRIPT> สมาชิก

ถึงเวลาก็คงจะรู้เอง ล่ะค่ะ
ถ้าเป็นคนช่างสังเกตหน่อย ก็คงจะรอดได้ เพราะรู้หลบรู้หลีก
รู้ข้อมูลไว้เยอะๆ ใครบอกอะไรก็ฟังๆไว้ ถึงเวลามันเกิดจริงก็จะรู้เอง
มันจะนึกออกเอง ถ้าไม่มีอะไร ก็ถือเป็นการฝึกสติฟังข่าวร้ายไปเรื่อยๆ
ไม่สะเทือน ก็รู้ว่าไม่สะเทือน สติแตกก็รู้ว่าสติแตก ไม่สติแตกก็รู้ว่าไม่สติแตก
อะไรที่เราฟังคนอื่นมา ก็อย่าเพิ่งไปหลงว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงอย่างนี้จริง
ขนาดเราเห็นด้วยตาตัวเองเราก็ยังไม่เชื่อตัวเองเลย ต้องรอมันเกิดจริงกับ
ตัวเองจริง ถึงค่อยเชื่อ และอะไรๆที่เรารู้ข้อมูลล่วงหน้า และเราตัดสินใจเลือก
แล้ว เลือกว่าจะทำแบบนี้ เวลามันเกิดอะไรขึ้นมาจะได้ยอมรับชะตากรรม
ว่าเราเลือกแบบนี้ ก็ต้องแก้ไขปัญหาไปตามที่เกิดจากที่เราเลือกเอง เรียกว่า
ยอมรับชะตากรรม เพราะเรารู้และวิเคราะห์ถี่ถ้วนแล้ว ด้วยเหตุผลที่ดีที่สุด
สำหรับตัวเราและคนที่เรารักแล้ว ถึงเวลานั้นมันจะเกิดหรือไม่เกิดอะไร
ก็ไม่ต้องไปโทษใคร ไม่ต้องไปโทษตัวเอง แต่ให้เลือกยิ้มรับทุกสถานการณ์
ที่เกิดขึ้น เพราะเราเลือกเองก็ทำให้ดีที่สุด

ก็มีแผน1 แผน2 แผน3...ไว้ ถ้ามาแบบนี้ เราไปแบบนู้น บริหารสมองไปด้วย
มีแต่ได้กับได้ เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ดีกว่าประมาท เป็นไหนๆ
จิ้งจกทักยังมีคนฟัง นี่บอกให้ฟังจะจะ เขาบอกว่าจากเบาไปหาหนัก ก็พิจารณาไป
ตามสติปัญญา ดีกว่าเกิดจากหนักไปหาเบาจะแก้ไขไม่ทันการณ์ เนาะ

รู้ตัวก่อน ก็ไหวตัวก่อน ก็ล้อฟรีก่อนไง รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป
จะไปไหน จะเอาอะไรไป จะทิ้งอะไร ไม่ต้องคิดนาน วิ่งนำหน้าไปก่อนใคร
คนที่ไม่รู้ไม่เตรียมใจไว้เลย ถึงเวลาก็ห่วงนั่นห่วงนี่ห่วงนู่น สุดท้ายก็หมุนอยู่ตรงนั้น

เวลาคนสติแตกเป็นหมู่มาก ก็เหยียบกันตาย ตัวอย่างก็มีให้เห็นถ้ารู้จักสังเกตบ้าง<!-- google_ad_section_end -->

24-03-2011, 04:49 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Thongkerd<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4514296", true); </SCRIPT> สมาชิก

แต่ก่อนก็เคยนึกคิดอยู่เหมือนกันว่า พระผู้ทรงฌานมองเห็นอนาคต สอนธรรมไม่ผิดเพี้ยน ศีลไม่ด่างพร้อย ทำไมไม่ออกมาเตือนมนุษย์เรื่องการเกิดภัยพิบัติ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าถ้าออกมาเตือน จะเกิดอะไรขึ้น พระก็เสียพระ คนบอกต่อเสียคน หากท่านบอกแล้วเตือนแล้ว ไม่เชื่อไม่หนีตาม ไม่ไปอยู่ ท่านก็อยู่ของท่าน พระท่านไม่ได้บังคับ ขู่เข็นให้เชื่อ

แต่การบอกกับผู้คนแล้วกลับตาลปัด หาว่าไม่เป็นพระ เอ๋ เข้าใจแล้ว เห็นว่าตามข่าวคนที่ไปอยู่เมืองเลยมีทั้งหมอ ดอกเตอร์ ข้าราชการชั้นสูง เศรษฐี คนมีสตางค์ พระท่านคงไม่หลอกคนพวกนี้ได้ง่ายหรอกมั้ง ความรู้ก็มี สติปัญญาก็ดี เขาคงจะมีวิจารณญานพอสมควร เขารับข้อมูลข่าวสาร รับไปวิเคราะห์ดีแล้วมั้ง ดูวิกรม กรมดิฐซิ ไปสร้างที่หลบภัยบนเขาใหญ่ เขาบ้าหรือเปล่า เงินมีเป็นแสนล้าน นอกจากมีเงิน เขาต้องมีอะไรดีแน่ มีพระดีช่วยบอก ช่วยแนะ ที่แน่ ๆ อาจไม่ใช่พระเมืองเลยแน่ ส่วนพวกเรา มัวแต่มาตั้งข้อสงสัยกัน ถามว่าเกิดอะไรขึ้นจริง คงต้องบ้าแน่นอน ฟังหู ไว้หู ไม่ประมาท อะไรก็เกิดขึ้นได้<!-- google_ad_section_end -->

24-03-2011, 10:44 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tossapornk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4522825", true); </SCRIPT> สมาชิก

ก็เข้าใจว่า ไม่ว่าใครจะเอาเรื่องอะไรต่างๆ ที่พระท่านบอกเตือนเอาไว้มาเผยแพร่สูเว็บนี้ ก็คงไม่แคล้วถูกตำหนิถูกแดกดัน หนักหน่อยก็ว่าไม่เห็นมันจะเป็นจริงสักที ไม่เกิดก็ว่าท่านมั่วเอาใครๆก็พูดมั่วแบบนี้ได้ คนที่เขาเอาเข้ามาโพสท์ก็เพื่อให้เป็นข้อมูลอันหนึ่งไว้ให้พิจารณา ไม่ได้ต้องการให้มาเชื่อตาม ทุกๆคนมีวิจารณญานเป็นของตนเองอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องมาแดกดันกันเลยถ้ามีใจเป็นบุญเป็นกุศลอยู่

25-03-2011, 01:37 PM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Aunyasit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4523756", true); </SCRIPT> สมาชิก

ญาณพระแก้วมรกตท่านเคลื่อนย้ายไปเกือบทั้งหมดแล้วครับ ถึงเวลาก็มีเหตุให้องค์พระแก้วมรกตท่านเสด็จไปเอง หรืออาจจะมีผู้ที่มีหน้าที่เขาอัญเชิญพระแก้วไปในสถานที่ ที่ท่านต้องไปประทับอยู่ทางภาคอีสาน

เดือนก่อนผมนั่งพิจารณาดูปู่ฤษีจักรวาล ท่านอัญเชิญญาณของพระแก้วมรกต รวมทั้งที่ปู่ฤษีเรียกเตือนท่านรามสูร ให้เตรียมตัวกลับไปทำหน้าที่ในโลกทิพย์ด้วย ก็นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกดี

ทุกอย่างมีกาลเวลาของเขาอยู่ มนุษย์ไม่ค่อยรู้กัน แต่เทวดาเขาก็รับรู้ทั่วกัน<!-- google_ad_section_end -->

25-03-2011, 07:39 PM

ที่มา http://palungjit.org

 

น้ำท่วมภาคใต้

 

ปีนี้ทำใจไว้แล้ว ภัยธรรมชาติ ต้องได้รับผมกระทบทุกคนแน่นอน กระบวนการเริ่มต้นมานานแล้ว เอ๋สงสัยนะครับว่า ตอนนี้มันหน้าร้อน หน้าหนาว หรือหน้าฝนกันแน่ อากาศ
อึมครึมอย่างไรไม่รู้ หดหูใจ ภาคเหนืออิสานแผ่นดินไหว ภาคใต้น้ำท่วม จะไปเที่ยวทะเล
ก็กลัว ซึนามิ รู้สึกแย่จัง มองอนาคตไม่ออกเลย ลูกหลานจะอยู่อย่างไร แต่ทุกวันนี้ทำให้ดีที่สุด

 

VDO clip (2 ชั่วโมง) ที่ ดร. ก้องภพ พูดเรื่อง การเปลี่ยนแปลงของจักรวาลที่จะส่งผลกับโลก โพสต์เมื่อ มกราคม ๒๕๕๔ นี้ครับ สำหรับคนที่ต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าจักรวาลและโลกกำลังเปลี่ยน
ดร.ก้องภพ Present กลุ่มย่อยที่ Kapook | พัชร

 

การเตรียมตัวของประเทศนอร์เวย์ (เป็นภาษาอังกฤษ)
Project Camelot | Norway update

 

ติดตามอ่านมาหลายปี พอใกล้จะเกิดจริงๆ ขอความกรุณาสงเคราะห์ว่าควรจะรับแจ้งเตือนข่าวสารได้ทางใดบ้าง ขอSMS ชำระเป็นรายเดือนก็ได้ค่ะ (เดิมเว็ปพลังจิตเคยส่งข่าวสารให้แต่ตอนนี้ไม่ได้รับแล้วค่ะ) พอจะมีช่องทางไหนแจ้งบ้างคะ เข้าทาง net บ่อยๆ ไม่สะดวกค่ะ
โชตนา+ลูกสาว+แม่อายุ 80 กว่า อยู่หัวกระบือ ทะเลบางขุนเทียน
พี่สาวโชตนา+กับครอบครัว+ลูก 2 คน อยู่ย่านบางเขน พอมีญาติสามีอยู่ที่ทางอีสาน
ถ้าทราบข่าวพอจะไปอาศัยได้

 

ความเห็นส่วนตัวนะ อาจจะไม่ใช่มาตรฐานกลาง คิดว่าอีสาน ถ้าไม่ใช่อีสานตอนเหนือ น่าอยู่สุด แต่ถ้าอีสานใต้ดินแดนภูเขาไฟโบราณ อย่างบุรีรัมย์ ไม่แนะนำ

เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ลองดูข้อมูล

ภูเขากระโดง



ตั้ง อยู่ในเขตบ้านเสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 6 ก.ม. มีพิกัดประมาณละติจูด 14 องศา 56 ลิปดาเหนือ และลองติจูด 103 องศา 5 ลิปดาตะวันออก การคมนาคมสะดวกมาก เพราะมีถนนลาดยางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัยผ่าน

ภูขากระโดงเป็นภูเขาไฟ ที่ดับ สนิทแล้วอีกลูกหนึ่งของ จ.บุรีรัมย์ ลักษณะทั่วไปของภูเขากระโดง เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ตำแหน่งที่สูงที่สุดอยู่ที่เขาใหญ่ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 265 ม. มีเนินสูง 2 แห่ง ทางทิศใต้ชาวบ้านเรียกว่า เขาใหญ่ และเนินทางทิศเหนือเรียกว่า เขากระโดง ทั้งสองเนินคือซากปล่องช่องปะทุระเบิดทางทิศตะวันออกและตะวันตก มีลักษณะเกือบเป็นที่ราบไม่เห็นร่องรอยชัดเจน พื้นที่ของเนินภูเขาไฟมีประมาณ 1.5 ตร.ก.ม. แต่ถ้าคิดพื้นที่ทั้งหมดที่หินลาวาไหลผ่านปกคลุมจะกว้างขวางมาก คือ ประมาณ 120 ตร.ก.ม. แสดงว่าบริเวณใกล้ปล่องปะทุจะมีความลาดชันมาก

เนิน ภูเขากระโดงเป็นแหล่งต้นน้ำ เล็ก ๆ ประมาณ 10 แห่ง มีน้ำไหลเฉพาะฤดูฝน ที่สำคัญ ได้แก่ ห้วยกระโดง ไหลไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และห้วยตลาดทางทิศใต้ และไหลอ้อมไปทางทิศตะวันตกและทิศเหนือลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก

ลักษณะที่น่าสนใจของภูเขา กระโดง ได้แก่

- มวลหินบะซอลท์หนาและเนื้อแน่นมาก เหมาะอย่างยิ่งในการขุดเจาะหรือระเบิดมาบดทำหินก่อสร้าง ปัจจุบันมีโรงงานโม่หินอยู่บนเนินไหล่เขาทางทิศเหนือถึง 6 โรง หินที่บดแล้วส่งไปจำหน่ายทั่วภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้

- หินระเบิดภูเขาไฟ เป็นมวลหินที่เกิดจากมวลหินหลอมละลายเหลวกระเด็นขึ้นไปในอากาศ บางส่วนเย็นตัวในอากาศ แต่ขณะที่กระเด็นหินเหลวนี้อาจม้วนตัวบิดคล้ายเกลียวเชือก ยืดตัวหัวท้ายแหลม ส่วนกลางป่องออกคล้ายมันเทศ เรียกหินระเบิดภูเขาไฟนี้ว่า Lapilli หรือ Spindle bomb บางก้อนตกลงมาขณะยังไม่แข็งตัวดี กระแทกกับผิวโลกด้านล่าง แผ่ตัวออกมีรูปร่างหยดน้ำคล้ายจานบิน หินระเบิดภูเขาแบบนี้พบบริเวณนี้มากที่สุดในประเทศไทย



ส่วนตอนนี้ภาคใต้มีน้ำป่าไหหลาก น้ำท่วม ดินสไลด์ สเต็ปต่อไป ไม่ควรประมาทหลุมยุบ แต่ก็อย่าวิตกจริตเกินไป แค่ระวังก็พอ

หลุมยุบ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ดินยุบตัวลงเป็นหลุมลึก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-200 เมตร ลึกตั้งแต่ 1 ถึงมากกว่า 20 เมตร เมื่อแรกเกิดปากหลุมมีลักษณะเกือบกลมและมีน้ำขังอยู่ก้นหลุม ภายหลังน้ำจะกัดเซาะดินก้นหลุมกว้างขึ้น ลักษณะคล้ายลูกน้ำเต้า ทำให้ปากหลุมพังลงมาจนเหมือนกับว่าขนาดของหลุมยุบกว้างขึ้น โดยปรกติหลุมยุบจะเกิดในบริเวณที่ราบใกล้กับภูเขาที่เป็นหินปูน เนื่องจากหินปูนมีคุณสมบัติละลายน้ำที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนได้ ประกอบกับภูเขาหินปูนมีรอยเลื่อนและรอยแตกมากมายดังจะสังเกตเห็นได้ว่าภูเขา หินปูนมีหน้าผาชัน หน้าผาเป็นรอยเลื่อนและรอยแตกในหินปูนนั่นเอง บริเวณใดที่รอยแตกของหินปูนตัดกันจะเป็นบริเวณที่ทำให้เกิดโพรงได้ง่าย โพรงหินปูนถ้าอยู่พ้นผิวดินก็คือถ้ำ ถ้าไม่พ้นเรียกว่าโพรงหินปูนใต้ดิน ซึ่งจำแนกเป็น 2 ระดับ คือ โพรงหินปูนใต้ดินระดับลึก (ลึกจากผิวดินมากกว่า 50 เมตร) และโพรงหินปูนระดับตื้น (ลึกจากผิวดินไม่เกิน 50 เมตร) ส่วนใหญ่หลุมยุบจะเกิดในบริเวณท่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น หลุมยุบเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งและเข้าไปตรวจสอบพื้นที่มากกว่า 45 แห่ง โดยพบว่าพื้นที่ที่เกิดหลุมยุบอยู่บนที่ราบใกล้ภูเขาหินปูน ภายหลังการเกิดพิบัติภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 พบว่ามีหลุมยุบเกิดขึ้นมากว่า 19 ครั้ง โดยเกิดใน 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากธรณีพิบัติภัยครั้งนี้คือ จังหวัดสตูล พังงา กระบี่ และตรัง ถึง 14 ครั้ง เกิดขึ้นในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 ครั้ง และเกิดในภูมิภาคอื่นคือ จังหวัดเลย 1 ครั้ง
<hr> ปัจจัยที่ทำให้เกิดหลุมยุบ

1. เป็นบริเวณที่มีหินปูนรองรับอยู่ในระดับตื้น
2. มีโพรงหรือถ้ำใต้ดิน
3. มีตะกอนดินปิดทับบาง (ไม่เกิน 50 เมตร)
4. มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน
5. มีรอยแตกที่เพดานโพรงใต้ดิน
6. ตะกอนดินที่อยู่เหนือโพรงไม่สามารถคงตัวอยู่ได้
7. มีการก่อสร้างอาคารบนพื้นดินที่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น
8. มีการเจาะบ่อบาดาลผ่านเพดานโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น ทำให้แรงดันน้ำและอากาศภายในโพรงถ้ำเปลี่ยนแปลง
9. มีผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกิน 7 ริกเตอร์

สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์
แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 9 ริกเตอร์ ทำให้หินปูนที่มีคุณสมบัติแข็งแต่เปราะได้รับการกระทบกระเทือนเป็นบริเวณ กว้าง เพดานโพรงหรือถ้ำใต้ดินที่อยู่ระดับตื้นและไม่แข็งแรงอยู่เดิมมีโอกาสยุบตัว หรือถล่มลงมาได้ง่าย นอกจากนี้คลื่นยักษ์ (สึนามิ) ที่กระหน่ำเข้ามามีแรงกระแทกมหาศาล ทำให้ระดับน้ำและบนดินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากปัจจัยที่กล่าวมาแล้วบวกกับปัจจัยที่มีอยู่เดิมทำให้เกิดหลุมยุบ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบริเวณที่ได้รับผลระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์โดยตรง และในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพียงอย่างเดียว
สรุปสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ คือ

1. เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเกิดคลื่นยักษ์ทำให้แรงดันของน้ำและอากาศภายในโพรงเสียสมดุล
2. เกิดการขยับตัวของพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าวของเพดานโพรง สืบเนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

ข้อสังเกตก่อนเกิดหลุมยุบ

1. ดินทรุดและยุบตัว ทำให้กำแพง รั้ว เสาบ้าน ต้นไม้ โผล่สูงขึ้น
2. มีการเคลื่อนตัว/ทรุดตัว ของกำแพง รั้ว เสาบ้าน ต้นไม้ ประตู/หน้าต่างบิดเบี้ยว ทำให้ปิดยากขึ้น
3. เกิดแอ่งน้ำขนาดเล็กในบริเวณที่ไม่เคยมีแอ่งน้ำมาก่อน
4. มีต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ และพืชผัก เหี่ยวเฉาเป็นบริเวณแคบๆ หรือเป็นวงกลม เนื่องจากสูญเสียความชื้นของชั้นดินลงไปในโพรงใต้ดิน
5. น้ำในบ่อ สระ เกิดการขุ่นข้น หรือเป็นโคลน โดยไม่มีสาเหตุ
6. อาคาร บ้านเรือนทรุด มีรอยปริแตกบนกำแพง พื้น ทางเดินเท้า และพื้นดิน

<hr> คำแนะนำและข้อปฏิบัติของหน่วยราชการ เมื่อเกิดเหตุการณ์หลุบยุบและโพรงยุบ
กรณีเกิดหลุมยุบใดๆ กรมทรัพยากรธรณี มีข้อแนะนำให้ส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดหลุมยุบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. ล้อมบริเวณด้วยวัสดุชั่วคราว ห่างจากขอบหลุมไม่ต่ำกว่า 15 เมตร เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนหรือสัตว์เลี้ยงตกลงไปในหลุม อันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
2. แจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบของกรมทรัพยากรธรณี กรุงเทพมหานคร (หมายเลขโทรศัพท์ 0 2202 3926 และ 0 2202 3757)และกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสภาพพื้นที่และสภาพทางธรณีวิทยา
3. ทำการถมวัสดุลงไปในหลุม โดยเริ่มจาการถมก้อนหินขนาดใหญ่เท่ามี่จะหาได้ในท้องที่ลงไปก่อน และจึงถมดินลูกรังอัดตามลงไปจนเต็มหลุม พร้อมกดทับให้แน่น ในขณะที่ถมดินลงไป ให้ฉีดน้ำเข้าไปทุกระยะ ทั้งนี้ เพื่อให้ดินเข้าไปอุดช่องว่างของหินที่รองรับพื้นที่ และตามซอกมุมต่างๆๆภายในหลุม
4. ทำรั้วกึ่งถาวร ซึ่งอาจเป็นรั้วหนาม กันพื้นที่รอบนอกในระยะไม่ต่ำกว่า 15 เมตร พร้อมทำป้ายประกาศเตือนภัย เพื่อป้องกันประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จนกว่าจะแน่ใจว่าชั้นดินจะไม่ทรุดลงไปอีก ซึ่งเวลาในการอัดแน่นของดินภายหลังที่ถมลงไปในหลุมนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพของดินในแต่ละพื้นที่
5. อย่าทิ้งขยะ ของเสีย หรือสารพิษลงในหลุม เนื่องจากจะทำให้เกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำธรรมชาติ

<hr> สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู่ใกล้เขาหินปูน

1. เกิดเสียงดังคล้ายเสียงฟ้าร้องจากใต้ดิน ซึ่งเป็นผลมาจากการถล่มของเพดาน โพรงหินปูนใต้ดินหล่นลงมากระแทกพื้นถ้ำใต้ดิน ก่อนที่จะเกิดการยุบตัวของหลุมในเวลาต่อมา ซึ่งอาจจะหลายนาที หลายชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้
2. บางกรณีจะมีน้ำทะลักพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ภายหลังการเกิดเสียงดังจากใต้ดิน เนื่องจากเกิดการยุบถล่มของเพดานถ้ำที่มีน้ำอยู่ในโพรงใต้ดิน
3. ก่อนเกิดการยุบตัว พื้นดินรอบข้างจะมีรอยแตกร้าวอย่างผิดสังเกต ซึ่งรูปร่างของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าว ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี คล้ายร่างแหหรือใยแมงมุม ขนาดของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าวจะใกล้เคียงกับขนาดโพรงหรือถ้ำที่อยู่ใต้ดิน โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5 เมตร
4. สิ่งก่อสร้างที่หยั่งลึกลงไปในดิน เช่นท่อน้ำ เสา รั้ว จะมีลักษณะคดโค้งหรือเลื่อนตัวผิดสังเกต
5. บางครั้งจะพบว่าน้ำตามบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำที่อยู่ใกล้เคียงจะมีสีขุ่นข้นหรือเป็นโคลน อันเนื่องจากการพังทลายของผนังถ้ำ

<hr> ข้อปฏิบัติตนในกรณีที่พบสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู๋ใกล้เขาหินปูน

1. เมื่อได้ยินเสียงดัง หรือพบสิ่งบอกเหตุอื่นๆ ข้างต้น ให้รีบออกจากบริเวณนั้นทันที หรือถ้าเป็นเขตบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ให้อพยพออกไปจากจุดนั้นอย่างน้อย 100 เมตร
2. ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เพื่อทำการกั้นเขต
3. สังเกตเบื้องต้นถึงขนาด และทิศทางการขยายตัวของสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบ ถ้าเป็นลักษณะวงกลมหรือวงรี ให้กั้นแนวห้ามเข้าใกล้อย่างน้อย 10-15 เมตร จากบริเวณนั้น แต่ถ้ามีลักษณะเป็นแนวยาว ให้กั้นแนวห้ามเข้าบริเวณปลายทั้งสองเพิ่มกว่าปกติ เนื่องจากการขยายตัวของหลุมจะอยู่ในแนวยาว
4. ทำรั้วกันพื้นที่รอบทิศ ติดป้ายประกาศเตือนภัยตามแบบประกาศเตือนภัยหลุมยุบของกรมทรัพยากรธรณี หรือป้ายเตือนอื่นๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร อย่างน้อย 4 ด้าน
5. หลังจากเกิดสิ่งบอกเหตุ อาจจะเกิดหลุมยุบภายในระยะเวลาไม่กี่นาที หรืออาจขยายไปถึงหลายวัน ดังนั้นพึงระวังไว้ว่าไม่ควรเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดหลุมยุบก็ตาม ทั้งนี้ควรให้เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณีหรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมตรวจสอบ

แผนที่แสดงพื้นที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ แสดงเป็น PDF File www.dmr.go.th/geohazard/sinkhole/thailand.pdf หลุมยุบ แสดงเป็น PDF Filewww.dmr.go.th/brochure/snkhle/sh.pdf

 

ก็นะ ส่วนตัวอีกแระ ที่ว่าพื้นที่ไหน ภัยธรรมชาติจะมาบ้าง ก็ดูเอาว่า ตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นที่ไหนแบบไหน ก็น่าจะรู้ได้ระดับนึงแล้ว

ยกตัวอย่าง ถ้าจะแยกภัยธรรมชาติ เดือน มีค. 2554 จะเห็นว่ามี แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ที่ภาคเหนือ (เมื่อเดือนก่อนมีถนนทรุดเป็นแนวยาวที่อยุธยา)

แผ่นดินโก่งตัว ที่ภาคอีสานตอนเหนือ

ฝนตกหนัก น้ำท่วม น้ำป่า ดินสไลด์ ที่ภาคใต้

ดูปัจจุบัน จะเห็นอนาคตมั้ย เรื่องนี้ฟันธงไม่ได้ ต้องสังเกต แต่อย่าวิตกเกินจนชีวิตขาดความสุข

ถ้าเป็นคนดี พูดดี คิดดี ทำดี ตลอดมาตลอดไปไม่หลุดคอนเซ็ป ยังไงก็ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้

 

โรงพยาบาลมหาสารคาม รับมือผู้ป่วยจากอากาศเปลี่ยนวันละ 500 ราย​

​

มหาสารคาม 27 มี.ค.- นพ.สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สภาพอากาศในพื้นที่ค่อนข้างแปรปรวนมาก โดยอุณหภูมิเย็นลงอย่างฉับพลันต่ำสุดที่ 16 องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียส

ทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุปรับตัวไม่ทันและป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ล่าสุดมีผู้ป่วยเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคามเพิ่มขึ้นวันละกว่า 500 ราย จนพื้นที่ภายในอาคารไม่เพียงพอ ทางโรงพยาบาลต้องจัดพื้นที่ด้านนอกไว้รองรับ ทั้งนี้ หากผู้ปกครองพบว่าบุตรหลานมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ จาม น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร และอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นอาการติดต่อมากัน 3 วัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันที โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 2 เดือน จะมีอาการไม่ดื่มน้ำ ไม่ดื่มนม มีไข้สูง หายใจหอบ ปากเล็บ มือเท้าเขียว และกระสับกระส่าย ต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัย

สำหรับวิธีป้องกันโรคในระบบทางเดินหายใจ ควรดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อผ้าให้พอเหมาะกับสภาพอากาศ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่มีมีคนแออัด.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 27 มี.ค. 2554

ที่มา http://mcot.net/cfcustom/cache_page/187013.html

 

อันตราย!! ระดับกัมมันตรังสีในทะเลเข้มข้น 1,850 เท่า <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">27 มีนาคม 2554
</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สารกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนในน้ำทะเลใกล้โรงงานไฟฟ้าฟูกุชิมะไดอิจิ เพิ่มความเข้มข้นจากเดิม 1,250 เท่า เป็น 1,850 เท่า ในระยะเพียงวันเดียว และคาดว่า จะมีสาเหตุมาจากการรั่วไหลจากเตาปฏิกรณ์แน่นอน

 

ตามติดข่าวน้ำท่วมเมืองไทยปีก่อน เห็นชาวบ้านส่วนใหญ่ได้แต่นั่งตาปริบๆ อยู่บนบ้านตัวเอง ข้าวของเสบียงอาหาร น้ำดื่ม เทียนไข ไม้ขีด ไม่มีติดบ้านไว้ หรือมีไม่พอจะประทังชีวิต

ได้แต่รอความช่วยเหลือจากภายนอก ที่กว่าจะเข้าไปถึงตรอกซอกซอยก็ทุลักทุเล แล้วยังแผ่นดินไหวจัดหนักมาหลายระลอก หลายที่บนโลกนี้ รวมถึงที่เพิ่งเขย่าเตือนพี่ไทยไปเมื่อวันก่อนอีก งานนี้ก็มีภาพชวนสลด คือคนถูกอาคารทับตายเยอะแยะมากมาย

ก็มาสรุปกับตัวเองว่า คนไทยอยู่บนผืนแผ่นดินที่สงบและผาสุกมาช้านาน แต่ก่อนแต่ไรไม่ต้องเจอภัยธรรมชาติใหญ่ๆ จนชินกับการไม่ต้องเตรียมตัวหรือเตรียมพร้อม เรื่องเลยเอวังอย่างว่า

แต่ถ้ามีการเตรียมเป้ใส่ของจำเป็น ทั้งหยูกยา อาหาร น้ำดื่ม เครื่องกันหนาว ไฟฉาย ติดบ้านติดตัวเอาไว้อย่างที่สมาชิก คุณก้อง เอามาลงในบอร์ดนี้ประจำ อันนั้นท่าจะดี

เพราะแต่นี้ต่อไป ที่ไหนๆ ในโลก อาจจะเจอภัยธรรมชาติรูปแบบต่างกันไปได้ทุกเวลา ไม่เว้นแม้แต่เมืองที่ในน้ำมีปลาในนามีข้าว อย่างไทยแลนด์นี่ก็ด้วย

แล้วถ้าถึงที่สุด มันมีแต่คนเดือดร้อนทั่วบ้านทั่วเมือง สมมติว่า ตรงโน้นดินถล่ม ตรงนั้นแผ่นดินไหว ตรงนี้น้ำท่วม แล้วใครจะไปช่วยใครได้

ก็ตนนั่นแล เป็นที่พึ่งแห่งตนที่ดีที่สุด