ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?

ขอรินให้ท่าน k.kwan หนึ่งจอก เอ้า หนึ่งโอ่งเลย
เป็นแนวทางที่ดีคับ เมื่อท่านปล่อยวางได้จะอยู่หรือไปก็มิเปงปัญหา ดีเสียอีก ทำให้ชีวิตทุกขณะในตอนนี้ดูมีค่ามากขึ้น

แล้วถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น???
เรื่องนี้ช่วยผลักดันให้ท่านก้าวหน้าในทางธรรมและปัญญา นึกถึงความตายทุกวัน เข้าทางหลวงปู่หลวงตาที่เคยพร่ำสอน แต่ไม่เคยได้ทำจริงๆ ก็ดีแล้วนิ ตกลงดีๆทั้งน้านนนน

ต่ออีกนิด ขาประจำ YT พยายามหาที่มาของภาพที่เคยนำมาลง ว่าไม่น่าใช่ภาพสะท้อนกิ๊กก๊อก เราก็เก็บข้อมูลกันไปละกัน

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/FMBAMeeUjJg?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/FMBAMeeUjJg?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

 

เผื่อจะช่วยไขข้อข้องใจได้บ้าง

-ยานนะมีแน่ เยอะเสียด้วย อย่างที่เห็นในกระทู้นี้ แค่สองสามลำก็พอจุคนได้ทั้งโลกแล้ว

และถ้าเอาตามตาลุงขาโหด ก็พอมีคำตอบให้บ้าง

-การช่วย ไม่ได้หมายถึง"การช่วยชีวิต" อย่างที่เราเข้าใจเสมอไป เพราะตะแกให้ค่าร่างกายนี้เหมือนเสื้อผ้า ใช้แล้วทิ้งปายยย

-การที่จะรอดไปได้ด้วยร่างกายนี้หรือไม่ ไม่มีใครอยากแทรกแซง ลุงแกว่า จริงๆแล้ว จิตรวิญญาณของแต่ละคนรู้ดี ว่าวางแผนอะไรไว้ก่อนมาเกิด และที่สุดจะตายอย่างไร

-บางคนเลือกที่จะตายก่อนได้เจอ บ้างอยากมีประสบการณ์นี้ บ้างเลือกที่จะรอดเพื่อทำหน้าที่บางอย่างให้โลกใบนี้ (ถามใจตัวเองดู บางทีอาจได้คำตอบ)

-สำหรับคนประเภทหลังสุดเท่านั้นที่จะได้รับการอพยพออกไปจากพื้นผิวโลก และจะต้องเปลื่ยนร่างกายใหม่

รอดยังไง?? แกอธิบายไว้สองทาง

กลุ่มแรก ชาว Repterian รับให้เข้าไปพักใต้โลกชั่วคราว รอจนคลื่นลมสงบ ซึ่งตอนนี้พวกได้เข้ามาปะปนอยู่กับคนบนโลกแล้ว (ดูคนแปลกๆข้างๆเอาไว้ เผื่อได้เจอตัวเป็นๆ ร่างแปลงพระยานาค อิอิ)

กลุ่มที่สอง รับขี้นไปลอยในอวกาศ หรือไม่ก็ไปพักอยู่ดาวอะไรซักดวงที่จัดเตรียมไว้ให้แล้ว เพื่อรอการเปลี่ยนร่างใหม่ อาจกลับมายังโลกในภายหลัง หรือไม่ก็ไปเป็นอีทีทางโน้นซะเลย (น่าตื่นเต้นดีออกว่ามะ ส่วนตัวเชื่อว่าการที่มีข่าว UFO มาลอยอยู่ทั่วโลก คือการสร้างโครงข่ายเพื่อการอพยพนี้)

ส่วนที่เหลือ พวกที่เลือกที่จะตาย จะถูกนำไปรวมอยู่ที่ๆนึง เพื่อเลือกชะตากรรม เอ้อ ไม่ใช่ เลือกว่าตนเองต้องเรียนรู้อะไร ในโลกใหม่

และพวกหลังสุด ที่มีสัดส่วนความเห็นแก่ตัวมากผิดปกติ ตะแบงอยู่อย่างนั้น จะถูกบังคับให้เลือกไปเรียนรู้ที่ๆแกบอกว่า เป็นสถานที่ที่ไม่น่าไปเอาเสียเลย ก็เดากันเอาเองแล้วกันว่าใครจะได้ไป แถวนั้นเค้าว่า ตอแหลสับขาหลอกเหมือนโพสท์เล่นในกระทู้ไม่ได้หนิ

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/XpIn0lNKUqY?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/XpIn0lNKUqY?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

ณ ตอนนี้มีหลายเผ่าพันธุ์ เข้ามาร่วมในแผนการณ์นี้ หลายพวกพยายามชะลอเวลาภัยพิบัติออกไป เพื่อรออะไรบางอย่าง หากปล่อยให้เกิดขี้นเร็วเกินไป อาจผิดแผน เพราะฟังดูเหมือน เที่ยวนี้จะต้องล้างผลาญรุนแรงกว่าคราวแอตแลนติส จะต้องเบ็ตเสร็จล้มเป็นโดมิโนในคราวเดียว และเพื่อไม่ให้พวกที่เอาเปรียบ ขุดรูรอเป็นเจ้าโลกรอดไปได้ จึงไม่มีการเปิดเผยวันเวลาที่ชัดเจน

สุดท้ายมีคนถามว่า จะไปรู้ได้ไงว่าใครจะจับเราไปตอน เอ้อ เอาไปเปงถ่านไฟฉาย ล่าสุดลุงแกบอกว่า เปงไปไม่ได้

จะเห็นชัดเจนว่ามีชุดข้อมุลขัดแย้งกับกลุ่มอื่นตรงที่ว่า กลุ่มนี้มาล้างโลกให้สะอาด แต่อีกกลุ่มว่า มาล้างโลกให้บรรลัย

ปล ดังนั้น เหมียนเดิม ฟังหูไว้หู ใส่บ่าแบกหามเน้อ คงไม่หนักเกินไปนัก

เฮ้อ...เหนื่อย กว่าจะจิ้มเสร็จ
zzzzz

 

ขอบคุณ คุณAmpeera สำหรับข้อความดีๆครับ

สำหรับคนที่ทำผิดบาป จะต้องโดนชำระแน่นอน

 

รายงานข่าวครับผม ตอนนี้สมุยที่บ้านผมน้ำท่วมแล้วครับ T^T ท่วมฤดูร้อนซะด้วย


จบการรายงานครับ

 

อ่าว....เพื่อนเรา อุส่าพักร้อนไปเที่ยวสมุย สวนกระแสภัยพิบัติ ซะด้วยจิ
ไปตั้งกะ พฤหัส กลับวันจันทร์นี้พอดี ไปเจอแต่มรสุมแถมน้ำท่วมอีกดอก
จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้ จะมีเรือกลับไหมก็ไม่รู้ --"

 

ผมเพิ่งจะเจอนะครับน้ำท่วมตอนมีนา - -" พฤศจิกาก็เพิ่งจะโดนไป

 

ขอบคุณมากครับ คำของคุณขวัญตอบคำถามผมได้หมดทุกซอกมุม ขอบคุณมากจริงๆนะ ทุกครั้งที่ผมคิดอะไรไปไกลก็มักจะได้คุณนี่หล่ะที่คอยฉุดไว้ ยอมรับเลยว่าตัวเองคิดว่าจะทำได้อยู่แล้วพอเอาเข้าจริงมันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย ผมคงต้องฝึกอะไรอีกมากเลยหล่ะครับ ขอบคุณคุณขวัญและเพื่อนๆนะที่มีข้อมูลมาให้อ่าน ผมเองไม่มีความสามารถอะไรเลยในการหาข้อมูล พยายามแล้วนะแต่ได้แค่นี้ เฮ่อ({)

 

ห๊า... จริงเหรอเนี่ย ขอบคุณมากนะครับคุณแอมแปร์ ไม่รู้เรียกถูกไหมนะ

 

ชอบมุมมองและวิธีคิดของคุณขวัญและ คุณ AmpeerA มากค่ะ ในสถานการณ์ปัจจุบันเอะอะที่ไหนๆก็ภัยพิบัติ ข้อมูลที่อ่านและรับรู้ในแต่ละวันต่อให้เรามีสติ ฝึกสติขนาดไหน บ้างครั้งสติก็อยากจะแตกง่ายๆ..........ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองได้สัญญาอะไรบ้างว่าจะทำอย่างไรถ้าน้ำเขาจะท่วมจริงๆ เพราะตัวเองไม่กลัวตาย แต่กลัวการจมน้ำที่สุด ฮ่าๆ ฝึกตายแต่กลัวจมน้ำ หุๆ รู้ถึงไหนอายถึงนั่นนะนี้ กร๊ากๆๆ ถึงจะอยู่กะลมหายใจปัจจุบันแค่ไหน แค่น้ำเข้าจมูกแค่นั้นแหละลืมไปเลยว่าเคยหายใจ

 

ถ้าเราไม่ได้ขึ้นยานทำไงอ่ะหรือต้องยอม ตาย :'''''(
เอ่อหรือว่าได้ขึ้นทุกคนแล้วจะไปต่อยังไง

 

ผมคงไม่มีวาสนาได้ขึ้นยานมนตด.หรอกครับ คงตายอยู่บนใลกใบนี้นี่แหละ
ใครได้ขึ้นก็ขอให้โชคดีครับแล้วส่งข่าวมาบอกกันบ้างนะครับ

 

กฏแห่งกรรมที่คุ้มครองโลกใบนี้อยู่ ผมมั่นใจครับมนตด.จะไม่กล้าทำอะไรที่ผิดไปจากกฏแห่งกรรมครับ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องรับเละครับ

 

แนะนำให้ดูหนังเรื่อง Knowing อาจจะพอบิ๊วอารมณ์ให้ได้ใกล้เคียง อิอิ

สมมุติ ถ้าได้ขึ้นยานไป แต่ มันไม่เหมือนอยู่บนโลก ไม่มีสิ่งบำรุงบำเรอความสุข
เหมือนที่เคยได้เสวยสุขบนโลก อะ จะอยู่ได้ไหม อยู่กับตัวเอง ตลอดเวลา
ไม่มีคนรู้จักไปอยู่ด้วย เพราะคนอื่นเขาอาจจะไม่ยอมไปกะเรา แหะ แหะ
ไม่มีส้มตำปลาร้า ไม่มีปลากระพงนึ่งมะนาว ไม่มีซีฟูด กะน้ำจิ้มแซ่บๆ
ไม่มีละครน้ำเน่า กะซีรี่เกาหลี ให้ดู มีแต่ อวกาศ กะดวงดาวเคว้งคว้าง
ถ้าโชคดีหน่อย ก็ได้อยู่ในโลกที่มีแต่ต้นไม้กะสัตว์ แบบ อดัมกะอีฟ
ไม่มีอินเตอร์เน็ต BB DS WII P3 Facebook twitter ไม่มีคนให้ด่า
เพราะเขาห้ามบิ๊ว โทสะ โมหะ โลภะ เหลือแต่ สมถะ สันโดษ แอนด์ วิเวก วิเหวโหว
กะทำตามหน้าที่ของตัวเอง ถ้าทำไม่ได้ทั้งหมด อาจโดนเหมือนเมตริกซ์ คือ
จับให้นอนหลับ ไปอยู่ในความฝันแทนเพราะอยู่ในโลกความจริงไม่ได้มันทุกข์
เขาก็จะอนุเคราะห์ให้ เข้าไปอยู่ในเครื่องซิมมูเลเตอร์ตลอดชีพ แล้วก็อยากได้
อะไร จะสนองตัณหาอะไรให้ตัวเองก็ไปฝันเอา อยู่ในฝันเป็นอมตะกันไปเลย อิอิ
ทั้งหมดนี้ เราล้อเล่น นะ แหะๆ เราดูหนังมาเยอะ คำตอบส่วนใหญ่เราก็เลย
เอามาจากในหนัง อะ มีอีกเรื่องลืมบอกไป ลองหาการ์ตูนเรื่องมาครอส มาดูจิ
อาจพบคำตอบให้ตัวเอง ก็ได้นา บางที ตอนนี้เรากำลังฝันอยู่ก็ได้นะ
อีกครึ่งนึงของเราที่ไม่ฝัน อาจจะกำลังตื่นขึ้นมาก็ได้ ถ้าฝันครึ่งนึงตื่นครึ่งนึง
เราจะเป็นไงหว่า จะยอมรับอีกครึ่งนึงของเราที่อาจจะสวยงามหรืออัปลักษณ์สุดๆ
ถ้าเราเห็นความจริงอีกครึ่งนึงของเราแล้ว เราทำใจยอมรับไม่ได้ จะเป็นไงเนี่ย
แบบว่า คนเรามักจะเห็นแต่ตัวเองดีเลิศไม่เคยเห็นความเลวของตัวเอง เพราะ
โดนปิดตาไว้ แล้ววันนึง ต้องมาถูกบังคับให้เห็นความเลวของตัวแบบเลี่ยง
ไม่ได้ จะเป็นไง ถ้ายอมรับความจริงของตัวเองไม่ได้นี่ยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเลยนะ
เหมือนผู้หญิงที่เคยสวยเวลาออกนอกบ้าน ที่สวยเพราะแต่งและมีคนชื่นชมมาตลอด
วันดีคืนดีโดนบังคับให้เดินออกจากบ้านในสภาพเพิ่งตื่นนอน ไม่ได้แปรงฟัน
ไม่ได้ล้างหน้า ไม่ได้แต่งตัวให้สวย แบบว่าเป็นสภาพเดิมๆ ตัวจริงๆ ของเราเลย
แล้วต้องไปยืนต่อหน้าคนที่เคยชื่นชมเราในสภาพสวยงาม จะเป็นไง
จะยอมรับสภาพตนเองในแบบธรรมชาติของตัวเอง แบบไม่แต่งสวยได้ไหม
หรืออาจจะเป็นแบบว่า เราพูดอย่างนึง ต่อหน้าคนอื่น แต่ความคิดเรามันดันพูด
อีกอย่างหนึ่งสวนออกมา แล้วความคิดมันก็คิดดังด้วย คนอื่นๆ เขาได้ยิน
ความคิดของเรา ถ้ามันไปทางเดียวกันก็ยังโอเค รอดตัวไป แต่ถ้าพูดอย่างหนึ่ง
แต่คิดไปทางตรงข้าม นี่ดิ จะอยู่ในสังคมได้ไง มันขัดแย้งในตัวเองตลอดเวลา
แล้วก็ไม่มีอะไรบังแล้ว มันรู้ถึงกันหมด
สภาพแบบนี้จะทำใจได้ไหม จะอยู่อย่างมีความสุขได้ไหม ???
เราแต่งนิยาย เพื่อบิ๊วอารมณ์ เฉยๆ นะ ถามเล่นๆ สำหรับเตรียมตัวเล่นหนังเรื่องโลกเก่า-โลกใหม่

Earth Changes The New World Just Begin !!!

 

ผมว่ามันอาจจะไม่เลวร้ายถึงขั้นล้างโลกกันไปหมดเลยก็ได้ อย่าลืมว่าพระสมณโคดมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระสัพพัญญูเหนือกว่าพวกมนุษย์ต่างดาวอย่างเปรียบกันไม่ได้บอกว่าตั้งศาสนาพุทธในสมัยพระองค์อยู่ได้ถึง 5000 ปี ดังนั้นกลับมาปฏิบัติตามแนวทางของพุทธศาสนาจะเป็นทางรอดที่แท้จริง

 

ทางสายกลาง ใช่หรือเปล่านะ

 

ขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ศีลหนักแน่น สมาธิมั่นคง ปัญญาย่อมเกิดในทางที่ถูกไม่มีผิดเพี้ยนไปจากสัจธรรม

ศีลกระพร่องกระแพร่ง กระดำกระด่าง บ้างก็ทุศีล ทุจริตในศีล ถึงจะมีสมาธิมั่นคงเลิศล้ำ
แต่เข็มทิศมันชี้มั่วๆ ไม่มีศีล ไม่มีธรรม มีแต่กิเลสตัณหามานะ ปัญญาจะเกิดในทิศทางแห่ง
สัมมาทิฏฐิ ดำเนินในมรรค8 ที่ถูกต้องตรงทางในทางสายกลาง จะมีมาแต่ไหน???

ศีลหนักแน่นมั่นคง ถึงแม้สมาธิจะไม่มั่นคง แต่อาศัยศีลที่บริสุทธิ์ด้วยความจริงใจ
ถึงจะไม่ได้มีอะไรเป็นตัวช่วยเป็นเนื้อเป็นหนัง แต่พระท่านหลายๆองค์ก็ยังสอนว่า
เมื่อเรารักษาศีลได้ ศีลนั้น ก็จะกลับมารักษาเรา ศีลคือการกระทำในกรอบของความดีงาม
คือกรรมดี ที่เราสร้างเองให้เกิดในใจเรา กรรมดีที่เราตั้งใจจริงทำจริง จะเป็นที่พึ่งของตัวเราเอง
ศีลที่หนักแน่นมั่นคง จะนำไปสู่สัมมาสมาธิและสัมมาทิฏฐิและสัมมาปัญญา ได้แน่นอน

ศีลคือเข็มทิศที่จะนำไปเราไปสู่ สัมมาสมาธิ และสัมมาปัญญา และทำให้เราดำเนินอยู่ใน
ทางแห่งสัมมาทั้ง8 มรรค8 ได้ในที่สุด

เป็นความเชื่อของเราเองนะ การอ้อนวอนขอพรขอโอกาสจากคนอื่น ยังไงก็ไม่สู้สิ่งที่เรา
พากเพียรทำเอง ทำความดีให้เกิดในใจของตัวเราเอง ทำเองรู้เอง เมื่อเราทำความดีได้
คนที่เขาเห็นความดีเขาก็อยากจะช่วยเราเอง แต่ถ้าทำความดีเพื่อให้คนอื่นมาช่วยพอเขา
ไม่มาช่วยเราก็อาจจะเผลอไปด่าเขากลายเป็นทำดีหวังผลแล้วไม่ได้ก็ก่อกรรมไม่ดีขึ้นมาอีก
จะทำความดีให้ได้ดี ก็ต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ทำดีแต่อย่าหวังผลว่าจะได้ดีแล้วจะได้ดีเอง

 

ได้อ่านบทความนึง แล้วชอบ ก็เลยเอามาแบ่งปัน เผื่อจะมีคนชอบเหมือนเรา


สืบเนื่องจากการเตือนภัยพิบัติ

เรื่องภัยพิบัตินี้ทำให้ได้เห็นอะไรเยอะมาก โดยเฉพาะทิษฐิมานะ ความหลง ความยึดติดในเรื่องต่างๆของคน ทั้งในรูปธรรมและนามธรรม ทำให้ได้เห็นข้ออ้าง เงื่อนไข ภาระ ห่วง หวง บ่วง กรอบ ภาระ วิบากทั้งหลาย ที่ผูกยึดเราไว้กับบทบาท หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ ความร่ำรี่ร่ำไรในสังสารวัฎ ยากยิ่งนักที่ใครสักคนจะสละ ละ ทิ้ง ตัดเยื่อใยในสังสารวัฎ หากไม่มีกัลยาณมิตรให้สติ ถีบโครมออกจากที่ยึดที่กอดเอาไว้ ก็ยังคงกอดนัวเนียกันอีกนาน แม้จะลากถูลู่ถูกังให้ออกไป ก็ไม่วายจะกลับเข้าไปอีก ต่างคนก็ต่างลีลากรรมหลากหลาย ต่างประเด็นผูกพันตัวเองเอาไว้ ยากจริงๆ

ทั้งหมดนี้สืบเนื่องมากจากความหลง หลงเป็น หลงอยู่ หลงในบทบาทชีวิตที่กำลังดำเนินอยู่ แม้จะมีผู้มาบอกว่าไม่ต้องอิน ไม่ต้องยึด ทิ้งได้แล้ว แต่ลึกๆแล้วก็อดยึดอดเกาะเอาไว้ไม่ได้ ยังคงมีเยื่อใยที่ตัดไม่ขาดอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าไปปฏิสัมพันธ์

บางคนก็อาจหวังลึกๆว่าเหตุการณ์ต่างๆมันจะไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก และหนีปัญหาโดยการทำอย่างอื่นโดยคาดว่าจะผัดผ่อนสถานการณ์ ผ่อนร้ายให้กลายเป็นเบา เช่น ทำบุญ อธิษฐานเข้าไว้

การผัดผ่อน มีข้อแม้ มีเงื่อนไข และคือการร่ำรี่ร่ำไร ไม่เด็ดขาดนั่นเอง
คือการที่ยังคงมีหวังว่าเราจะยังคงยึดสิ่งนั้นสิ่งนี้ตามความเคยชินไว้ได้อยู่ ทั้งที่อะไรๆมันก็ยึดไม่ได้ คาดหวังไม่ได้อยู่แล้ว
ความหวังความปรารถนาคือคำที่สวยหรูของตัณหา...หรือความอยากความยึด ไม่ว่าจะอยากให้โลกพ้นภัยหรืออะไรทำนองนั้น

ตราบใดที่เรายังไม่ตาย เราก็ยังคงต่อรองเล่นเอาเถิดกับโลกอยู่ด้วยความหวัง ในแง่มุมของความตายและและการเข้าถึงสัจธรรม ไม่มีการต่อรองใดๆทั้งสิ้น

การตื่นจากการหลงยึดในสิ่งต่างๆอย่างแท้จริงนั้น เบ็ดเสร็จ เด็ดขาดในตัวมันเอง ไม่ยึด ก็คือไม่ยึด ยึดนิด ยึดหน่อย ก็ยังคงยึดเอาไว้นั่นเอง
เบ็ดเสร็จ เด็ดขาดเหมือนกับความตายที่ไม่มีการต่อรองใดๆ


ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ทุกคนจะได้เรียนรู้
สืบเนื่องจากการเตือนภัยพิบัติ | rombodhidharma.net

 

ถ้าเราห้ามตนเองและผู้อื่นไม่ให้ทำความชั่วได้ เราถึงจะมีคุณสมบัติที่ดีพอจะห้ามภัยพิบัติ
ไม่ให้เกิดแก่ตนเองและผู้อื่นได้ เพราะทุกอย่างมันเป็นกฏแห่งกรรม กฏแห่งแรงดึงดูดและ
ผลักดัน เป็นแรงที่กระทำต่อกันและกัน ถ้ายังมีคนทำความชั่วได้เรื่อยๆ แต่เราไปหยุดยั้งภัยพิบัติ
ที่เกิดจากแรงกรรมนั้นได้ แล้วใครจะเป็นคนรับผลแห่งการกระทำกรรมนั้น มันก็เกิดเป็นความไม่
สมดุลย์ในกฏแห่งกรรม แต่อาจจะมีคนทำได้ก็ได้นะ แต่คนที่ทำนั้นต้องเป็นคนรับผลแห่ง
กรรมนั้นทั้งหมด เพราะกฏแห่งแรงทั้งหลายในโลกมันไม่มีสูญ มีคนทำให้เกิดกรรมก็ต้องมี
คนรับผลกรรม ตอนที่เขียนนี้นึกถึงเรื่องพระเยซูเลยนะ ที่ยอมรับบาปแทนมนุษย์ แต่รู้สึกว่า
จะมีหมายเหตุนะ ว่ามนุษย์คนนั้นต้องสำนึกผิดกลับใจหันหลังให้กับการทำบาปทั้งมวล
อันนี้ก็เป็นความเชื่อเรื่องหนึ่งนะ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้รู้จริงอ่านตำรามาแล้วจินตนาการไป

ในทางพุทธของเรา ก็มีเรื่องของทำความดี รักษาศีล แล้วศีลจะรักษาเรา
มีตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มีความดีของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

หลวงพ่อพุทธทาส ท่านก็สอนไว้ว่า
"ศีลธรรมไม่กลับมา โลกกาจะวินาศ"

ถ้าเรารู้เหตุรู้ผล รู้ปัจจัย รู้การกระทำของตัวเราเองได้ตามจริงไม่เข้าข้างตัวเองแล้ว
เราทุกคนย่อมรู้อนาคตของตัวเอง รู้ภัยพิบัติที่คุกคามเราจากการกระทำของพวกเราเองอยู่แล้ว
เหมือนที่เรารู้ว่า ตัดต้นไม้มากๆ ก็ทำให้เกิดภัยจากน้ำท่วมแผ่นดินถล่ม
ใช้พลังงานมากๆ ก็ทำให้โลกร้อนเสียสมดุลย์
เจาะน้ำมันในแผ่นดิน ในมหาสมุทร ก็ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์
ใช้พลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ต้องเกิดการรั่วของรังสีได้จากเหตุไม่คาดฝัน
จาก อุบัติเหตุ ไม่มีอะไรที่จะป้องกันได้ 100%
สร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ มีผลดีเรื่องหนึ่ง ก็สร้างผลกระทบในเรื่องหนึ่ง
ทุกสิ่งที่เราเบียดเบียนธรรมชาติ กอบโกยทรัพยากร เพื่อสร้างความสุขสบายให้พวกเรา
แล้วเรายังเชื่อว่าธรรมชาติจะไม่เกิดภัยพิบัติร้ายแรงจากกระทำของพวกเรา
ก็เหมือนพวกเราจะโกหกตัวเอง หรือเปล่า ถึงแม้วันนี้จะไม่เกิด แล้ววันหน้าจะเกิดไหม
ถ้าพวกเรายังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยลง
ลดความสะดวกสบายให้น้อยลง กินดีอยู่ดีให้น้อยลง และถ้าเราห้ามตัวเราเองได้
แต่คนอื่นล่ะ เขาจะคิดได้เหมือนเราไหม ถ้าเราทำให้คนอื่นคิดเหมือนเราได้
ทุกคนเบียดเบียนโลกให้น้อยลง เสียสละความสุขส่วนตัวให้มากขึ้น โลกก็คงจะสงบ
ขึ้นมาได้บ้าง และคงจะห่างไกลจากภัยพิบัติได้ แต่มันจะเป็นไปได้ไหม เราก็รู้ๆกันอยู่
ถ้าไม่โกหกตัวเอง ไม่เข้าข้างตัวเอง เราก็คงจะมองเห็นความจริงได้ชัดแจ้ง ไม่ต้องถามใครอีก

ปล.จากกระทู้ดูนก Px กลายเป็นกระทู้ดูภัยพิบัติ ไปซะละ ถือว่าขั้นรายการด้วยโฆษณาแระกันเนาะ

 

จัดให้ตามคำขอนะท่านๆ

หนูมีคำถาม เยอะเยะเลย ลุงตอบหน่อยนะ
- ลุงบอกหน่อยได้เปล่าวว่าพวกลุงมาเอาอ่ะไรที่ “The dome rock, Jerusalem”
E: บอกไม่ได้หรอก

- พวกลุงกลัวของที่เก็บไว้ที่ The dome rock มันจะถูกทำลายเหรอ แล้วถ้าแผ่นดินไหวจะทำลายของชิ้นนี้ได้มั้ยเนี่ย
E: นี่ลุงบอกได้แค่ว่า ของสิ่นั้น ได้นำเอาออกไปแล้ว และ ปลอดภัยแล้ว

ลุงบอกหน่อยได้เปล่าวว่าตอนนี้ “ark of the convenant’ อยู่ที่ไหน
E: นี่ยัยหนูรู้ใช่มั้ยว่า ลุงไม่สามารถ จะพูดเรื่องพวกนี้ได้ มันเป็นความลับของสวรรค์

แล้วเรื่องที่ เค้าลือกันว่าไอ้เจ้า supernove ของดาว Betelgeuse เป็นเรื่องที่ นาซ่ากุขึ้นมาเพื่อเบี่ยงแบนความสนใจพวกเราจาก นิบิรุ
E: มันก็ เป็นเรื่องนึ่ง ของหลายเรื่องที่เค้ากุขึ้นมานั่นแหละ

แล้ว ปรากฏการ ที่พวกเราจ้องรอคอยจะได้เห็นกันบนท้องฟ้าภายในต้นปีหน้ามั้ย
E: ก็แล้วแต่ว่าหนูอยู่ส่วนไหนของโลกอ่ะน่ะ

พวกลุงได้ทำการเตรียม ที่อยู่ให้พวกหนูบนดาวอังคารตอนที่โลกเราแตกใช่เปล่า หนูรู้นะเพราะหนูแอบสังเกตว่ามีอะไรเปลี่ยนไปมากมาย บนดาวอังคาร
E แหมแสนรู้จังนะ ลุงก็กำลัง เตรียมสถานที่ให้พวกหนูอยู่นั่นแหละ ทำให้พวกหนูอาศัย อยู่บนพื้นผิวดาวอังคารโดยไม่ต้องใช้โดมด้วยนะ

ลุงว่าที่เค้าตีความหมายจาก crop circle ของ Avebury Manor ว่า solar จะ go nova จริงเป่าเนี่ย
E: ไร้สาระ มันก็แค่จะเปลี่ยนไปสู่ ระดับคลื่อนความถี่ที่สูงขึ้น และก็จะมีสีเปลี่ยนเป็นสีส้มเข้มขึ้นก็เท่านั้นเอง

………………………………………………………………………………………………………………..
คำถามของผมมันค่อยข้างเกี่ยวโยงกันนะลุง ผมแค่พยาม ปะติดปะต่ออะไรเล่นสำหรับเวลาน้อยนิดที่เหลืออยู่นะ

ผมอายุ 47 และก็ทำงานเกือบทุกตำแหน่ง ในบริษัท ผมทำมาทุกอย่างที่อยากทำ เป็นอย่างที่อยากเป็น และก็พร้อมแล้วที่จะที้งอดีตไว้กับอดีต แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเพราะมันข่มขืนนะ แต่ทิ้งเพราะ ผมรู้สึกว่า ผมได้ทุกอย่างที่ผมต้องการแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในชีวิต ตอนนี้สิ่งที่ผมห่วงที่สุดคือลูกสาวสี่ขวบของผม และนี่คือสาเหตุที่ผมต้องการคำตอบ ผมอยากรู้ว่า สิ่งที่ผมเคยคิดฝันหวาน วาฝันไว้ว่า โลกของเรามันกำลังดีขึ้นและน่าอยู่ และมันจะไม่มีนรกอีกต่อไป ลุงว่ามันจะเกิดขึ้นในชีวิตของผมและลูกสาวมั้ย

E: นี่ลุงไม่ใช่หมอดูนะลุงบอกไม่ได้หรอกว่า ชะตาของเธอเป็นยังไง และลุงก็บอกไม่ได้ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกะเธอตอนที่โลกของเราได้เปลี่ยนไป

………………………………………………………………………………………………………..
ลุงคิดถึงบ้านมั้ย

E พลังงานไม่คิดถึงบ้านนะ ถ้าแปลตามตัว ลุงก็ไปเยี่ยมบ้านอยู่นะส่งจิตไป ส่วนความคิดที่อยากจะกลับไปอยู่ ลุงก็คิดว่ามันก็อาจจะเป็นเร็วๆนี้ ซึ่งอาจจะเหมือนกับคนบางคนที่ ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว

แล้วลุงมาที่นี่ทำไมอ่ะ
นี่ก็เป็นเรื่องนึงที่ ลุงชอบถามตัวเอง ลุงมาทำไมเนี่ย อิอิอิอิ
………………………………………………………………………………………………………

ลุงว่าไง
ผมรู้สึกว่าต่อมในสมองผมมันจะระเบิด
อืมมม
สิ่งที่ผมเห็นเหมือนกับว่าผมเมาอยู่ 24 ชม
ความจำผมก็แย่มากๆ และก็ กระวนกระวายใจ
ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย
ฟังดูเหมือนบ้านของหนูอยู่ไกล้กับ โรงงานนิวเคลียร แน่นอน
ผมคิดว่า ผมจะไปสแกน คลื่อนสมองด่วนเพราะว่าผมกินไรไม่ลงแล้ว
อืมก็น่าจะยังเกี่ยวกับนิวเคลียร
มีความคิดเห็นยังไงมั่งลุง
อ้อออ อิอิอิอิอิ ลืมแล้วเหรอวว่า เราเป็น พี่น้องกัน อิอิอิอิอิ

ผมว่าถ้าใคร อยากถามเรื่องเกียวกับพระเยซู และพระเจ้า ผมก็ไม่ห้ามเค้าไว้หรอกนะ มันก็แล้วแต่ใครเชื่อไม่เชื่อ ผมไม่สามารถตัดสินใจแทนคนอื่นได้หรอก
ขอบคุณมากหลานรัก ลุงขอบอกว่า พวกลุงไม่มี ความเชื่อที่ล้าหลัง และงมงายแบบพวกหลานๆหรอก

ใช่ผมรู้ว่าดี ที่ลงบอกว่าการเกิดของเยซูเป็นเรื่อง แต่งขึ้นมาทั้งนั้น
เป็นการกระทำที่ลวงโลก มาก ทั้งหลอกลวงการเกิด ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องจริงนะ เกิดหลังจากนั้นนานมาก แล้วก็ คนละเวลา คนละสถานที่ และก็แน่นอนแหละ เรื่องราวเกี่ยวกับ เมืองเบธเลเฮมและ คอกม้าก็เป็นเรื่อง ที่สร้างขึ้นมาทั้งนั้น

แต่ผมก็เชื่อว่า พระเยซูได้เกิดบนโลกนี้จริง
เอออ ได้ข่าวว่าไม่เคยเกิดนะ อย่างไรก็ตาม ประมาณ 7 ปีก่อน ที่จะมีการจัดฉากการเกิด นั้น ได้มีการวางแผนขึ้น เพื่อที่จะรวม ให้พวกมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เท่านั้นเอง

มันก็น่าสนใจนะว่าเยซูที่พวกเราพูดถึงนี่เป็นเรื่องจริงหรือโกหก
โอ้ยก็เรื่อง แต่งขึ้นทั้งนั้นแหละ จริงๆแล้วก็มีอีกเรื่องนะที่เกิดขึ้นจริง เรื่องที่ว่านี่ก็คือ Apollonius of Tyana

(หลักปรัชญาของ พิธากอรัส(Pythagoras) นั่นไงละ นักปรัชญากรีกคนนี้เสนอหลักเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดของจิตวิญญาณ ตรงกับแบบของพุทธหรือพรหามณ์อ พิธากอรัสคนนี้แหละที่คิดค้นทฤษฎีบทที่ 47 ของหลักเรขาคณิตของยูคลิด
พิธากอรัสมีอายุ ก่อนพ.ศ. ๒๗ (ตอนที่พระพุทธเจ้ามีพระชนมายุได้ ๕๓ พรรษา) จนถึง พ.ศ. ๔๖ (หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ๔๖ ปี)
น่าแปลกไหมที่ช่วงเวลามาตรงกันพอดี อาจจะเป็นว่ามีพระในศาสนาพุทธได้เผยแพร่หลักพุทธธรรมไปถึงกรีกในยุคนั้นแล้วก็ได้
สำนักปรัชญาพิธากอรัสใหม่(Neo-Pythagoreanism) ซึ่งเกิดในยุคคริสต์ศตวรรษต้นๆ คือประมาณ หกเจ็ดร้อยปีหลังยุคพิธากอรัส ก็เน้นหลักปรัชญาเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด นักปรัชญาสำคัญของสำนักนี้ชื่อ Apollonius of Tyana
(แต่ว่า ก่อนหน้านั้นนิดหน่อย คือประมาณ ๖ ร้อยปีก่อนคริสต์กาลหรือประมาณ ไม่กี่สิบปีก่อนพุทธกาล ก็มีสำนักปรัชญาในกรีกที่มีแนวคิดเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด มาก่อนแล้ว เรียกแนวคิดนี้ว่าพวก Orphism)

มันก็ขึ้นอยุ่กับความเชื่อส่วนตัวแล้วแหละว่า การเกิดของเยซูนั้นเป็นเรื่องแต่งหรือจริง
ไหนๆเราก็มาอยู่ในยุค ของ การมีตัวตนของเยซุแล้ว เราก็สามารถบอกได้ว่า เรื่องของเยซูมันเป็นเรื่องแต่ง ขึ้นมา เพื่อเป็นเหยื่อล่อหลอก สำหรับพวกคนในยุคนั้น จนมาถึงปัจจุบัน และพวกที่ไม่รู้ตัว ว่าจริงๆแล้ว มันคืออะไร

การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงแล้วมันยังมาไม่ถึงหรอก

------------------------

ลุงขอบคุณที่ตอบคำถามเรามาตลอด
คำถามของหนูดูเหมือนว่าทุกคนจะรู้คำตอบแล้วว่าคงมีแค่ส่วนน้อยที่จะรอดจากเหตุการ์ณที่จะเกิดขึ้นแต่หนูก็อยากถามอยู่ดี

หนูคิดเหรอว่าจะรอดชีวิต บนผิวโลกตอนที่เจ้าดาวนิบิรุมาเยือน ถ้ารอดก็โชคดีไปแต่ก็ไม่รู้ว่าโชคดีจริงเปล่าว เพราะหนูก็จะมาหนาวตายกันทีหลังเพราะตอนที่
บนพื้นผิวโลกเหรอ ถ้าโชคดี พอที่จะรอดจากการมาเยือนรอบแรกของนิบิรุ (นี่ยังไม่รวมถึงพวกสิ่งที่มนุษ์ยสร้างอีกนะหรืharrp
ก็หนาวตายอยู่ดีแหละก็หลังจากภูเขาไฟดับลง อุณภูมิโลกก็จะลดลงแบบรวดเร็วเรียกว่าแบบติดจรวด เลยลดลงตามวินาทีไปถึงที่ลบ259นะ พวกหนูนี่ตลกจริงๆ



แล้วพวกเราจะรอดในรูปแบบของวิญาญ มั้ยเนี่ย
โอย ตามที่พวก นิวเอจ ไม่ใช่ในรูบแบบของจิตวิญญานตามพวก นิวเอจพูดกันหรอกนะหนู ที่รอดไปนะมันคือพลังงาน ที่อยู่ในร่างพวกเธอที่ทำใหพวกเราขยับได้อยู่นะ มันคือพลังงานไม่ใช่จิตวิ ญ. าน ไม่เข้าใจหรือไง พลังงานก็จะเดินทางไปสถานีขนส่งมาตรวจสอบรีวิว พฤติกรรมที่ผ่านมาเพื่อที่จะมอบหมายงานใหม่ให้ทำ นอกซะจากว่าเธอได้ทำการเจรจาตกลงก่อนมาเกิดแล้วว่าจะไปไหน ต่อ


เอ่อแล้ววิณณานของพวกหนูจะถูก พวกเพื่อนๆลุงจับมั้ยเนี่ย
โอ้ยน่าเบื่อจริง บอกว่าไม่ก็ไม่สิ. ถ้าใช่ก็ไม่บอกหรอก

แล้วพวกหนูจะเตรียมจิตวิณานของพวกหนูได้ยังไงอ่ะลุง
บอกว่าพลังงานไม่ต้องห่วงหรอกพลังงานในตัวหนูมันพร้อม. มาตั้งนานแล้วมีแต่พวกหนูนี่แหละไม่รู้เรื่องเลย


ลุงผมสงส้ยว่ามันมีจานบินที่มาพร้อมๆกับนิบิรุมั้ยเนี่ย
พวกเค้าต้องการอะไรเหรอลุงบอกหน่อยได้มั้ย
อัม. แหมมถามได้อิอิอิอิอิ




--------------------------