ปฏิบัติธรรมโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

การเจริญสติปัฏฐานสี่ คือ ทางสายเอก
มรรค มี องค์ ๘ เป็นทางดำเนินของพระอริยะเจ้าฯ

ทางสายอื่นไม่มี ที่จะทำให้บรรลุมรรคผลนิพพาน
มีแต่สัทธรรมปฏิรูป ดัดแปลงคำสอนของพระพุทธเจ้า
ทำให้หลงงมงาย เชื่อลัทธิติงต๊อง เพี๊ยนๆ เสียเวลา ไร้สาระ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ท่านอโศ กล่าวไว้ดีแล้วครับ

โมทนา ในคำโพสต์ของ คุณปุณฑ์ ด้วยครับ

ลองอ่านข่าววันนี้ดูนะครับ

ตื่นโลกแตก พระ-ฆราวาส หนีขึ้นภูเขา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

กระพี้ นี่ สมาธิใช่ไหม
ลองอ่านเม้นท์ในกระทู้นี้ดีๆ นะ
ใครที่เพ้อเรื่องฤทธิ์ เรื่องภาคกายทิพย์ ให้คนนั้นคนนี้มารวมบารมีให้ไปนิพพาน ... อื่นๆ อีกมากมาย

ของจริงของคุณ ไปเปิดสัมผัสสัมผัสอะไร ไตรลักษณ์ไหม
หรือว่ายังทุกข์อยู่ ยังอยากมีเงิน ยังอยากไปสวรรค์ อยากไปนิพพาน ..
หรือว่าไปนิพพานกันอยู่แล้ว ทุกข์หมดไปแล้วซิเนอะ

 

สาธุ สาธุ
-ภายนอก็คนปกติ
-มีภายในด้วยนะคับ ที่มีความรู้ post มาก ๆ ภายนอกที่เข้าใจกันได้ แต่ภายในยังมีอีกนะคับ
-ถ้าเห็นของจริงภายใน สงสัยตกใจสติแตกแน่ๆ

 

อนุโมทนาคุณอโศ คุณอวตาร และอีกหลายท่านค่ะ
แม้นจะมาต่างสาย ต่างรายละเอียด ติดขัดในส่วนต่างๆกัน
แต่ก็มีหลักใหญ่ไม่ต่างกัน คือ อริยมรรค สติปัฏฐานสี่ หนทางดับทุกข์



คิดว่าเรื่องภัยพิบัติ คงมีหลายคนเกาะกระแสหาประโยชน์
มาหากินกันตอนนี้ก็มากค่ะ เพราะแค่ค้นเน็ต ก็เอามาตัดตอนแต่งเติมได้สบายๆ



แต่คนที่พูดมานับสิบปี หลายสิบปี คนที่ห่วงคนไทย ทั้งพระ นักวิชาการ นักวิทยาศตร์ นักธรณีวิทยา .. ฯลฯ เพื่อหาทางป้องกัน ใครที่สนใจ ลองไปชมค่ะ
http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539158873&Ntype=9

 

คุณอย่าสบประมาทคนอื่นเลย
เขาไม่พูดกันแค่นั้น
เชิญงมงายไปเถิด

 

คุณปุณฑ์ครับ ธรรมชาติของมนุษย์นั้น ต้องมีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัวเอง

เมื่อใดที่กรรมไม่ดีส่งผล เขาก็จะมีความคิดที่ไม่ดี ไม่ถูก เป็นปกติธรรมดา

แต่เมื่อใดที่กรรมดีส่งผล เขาก็จะมีความคิดที่ดี และถูก เป็นธรรมชาติของคนเรา

แม้แต่พระโพธิสัตว์ หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็มีบางชาติที่มีความคิดเป็นมิจฉาทิฎฐิ

เพื่อให้ชาติที่จะบรรลุให้ตนเองได้เห็นทุกข์และโทษในสังสารวัฏ

เหมือนคำสอนที่กล่าวไว้ว่า " ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม "

บางคนจึงมีความเห็นผิด และต้องพบทุกข์ก่อนจึงจะพบธรรม

ทุกสิ่งทุกอย่างกรรมได้จัดสรรกำหนดไว้แล้ว ถึงแม้ชาตินี้เขาจะมีความเห็นที่ผิด

แต่ในชาติต่อไปก็อาจมีความเห็นที่ถูกก็ได้ เพราะคนที่เกิดมาแล้วได้พบพระพุทธศาสนา

ผมถือว่าเป็นคนดีเคยทำกรรมดีมาก่อนทุกคน จึงมีโอกาสได้มาพบและรู้จักกัน

ขอให้ถือว่า เป็นโอกาสในการฝึกพรหมวิหาร ๔ ก็แล้วกัน

ส่วนการปฏิบัติธรรมนั้น ศีล สมาธิ ภาวนา ต้องปฏิบัติหรือไม่ ดูเท่านี้พอ

 

อนุโมทนาค่ะ

;aa2

 

เร็วๆๆๆๆมาดูของจริงเลวๆๆ ทีมงาน ยันตระ อะอะอะ

http://palungjit.org/posts/4509669

 

กรรมที่คิดทำลายพระพุทธศาสนา และมาทำมาหาแดกกับศรัทธาชาวบ้าน
กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก เตือนแล้วยังไม่ฟัง
เดียวก็
THE END.

 

สาธุ สาธุ
-เดินทางธรรม ใช้ปัญญา ถ้าไม่มีชาญ ถ้ามีชาญก็รู้เห็นเอง แต่จะไม่กล่าวเหมือนปุตุชน จะกล่าวแต่ทางเจริญ
-เรื่องศรัทธา มีปัญหาตลอดกับการเดินทางธรรม ไม่ว่าที่ไหน เป็นธรรมดาไปแล้ว
-ทานยังไม่มั่นคง ยังทำเพื่อเอา มิใช่ธรรม
-ศีล ยังก็พลอยไม่บริสุทธิ
-ภาวนา ก็ยังผลไม่ทะลุทะลวง
-หากินกับศรัธทา ผู้เดินทางธรรม เขาธรรมดาแล้วกับการจาคะ ไม่ยึดติด สละทรัพย์เพื่อศาสนา
-ญาติธรรมหลายๆ คนที่รู้จัก เขาก็นัดกันไปทำบุญ ตามวัดต่างๆ ที่ขาดแคลน เป็นเพื่อนกับข้าพเจ้าเอง ไปบ่อยมาก ยอมรับในทานบารมีของเขาเหล่านั้น ทำแบบ ทำทิ้ง มิได้ทำเอา หรือสนใจจะไปทัวร์บริจาคกับเพื่อน ก็ได้นะคับ
-ศรัทธา กับ บริจาค จะธรรมดาสำหรับผู้เดินทางธรรม ทำทิ้ง มิได้ทำเอา ถ้าทำเอา ก็ไปเสวยสิ่งที่กระทำ ก็ยังจะวนเ้วียนเพื่อเสวยผลที่กระทำนั้น มิได้ออกจากการวนเวียนใน 31 ภูมิ
-มีโอกาสได้ไปกราบครูบาอาจารย์ หลายๆวัด ท่านก็เตรียมตัว หาทางกับเก็บ น้ำ อาหาร สำรองเมื่อเกิดภัยพิบัติก็จะยังดำรงชีพอยู่ได้ ก็น่าจะแสดงว่า คงจะต้องมีคนดีเหลือรอดที่จะทำการสร้างสรรค์ต่อไป แต่ผู้เดินทางธรรม ส่วนมาก ตายก่อนตายมาแล้ว ไม่กลัวตายแน่นอน จึงต้องสมควรอยู่เพื่อสร้างสรรค์ต่อไป มิควรไปก่อน ทิ้งให้ผู้รอดเดียวดายไร้ศาสนาค้ำจุน
-จะร่วมช่วยสร้างพระอีก 7 องค์ ที่สระแก้ว ยังขาดปัจจัยอยู่จะถวายวันที่6 เมษายน 2554 ก็ขอเชิญผู้เดินทางธรรม ที่ต้องการ จาคะเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวของลูกหลาน เป็นที่สักการะ ต่อไป (พระพุทธยอดฟ้า ; พระแก้วมรกต ; หลวงปู่มั่น ; หลวงปู่คง ;

สมเด็จพระพุฒาจารย์ [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]([/FONT][/FONT]โต พฺรหฺมรํสี[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]) [/FONT][/FONT]
[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]- ธรรม ไม่มีเส้น ไม่มีสาย มีแต่ว่าง (สูญญตา วิหารธรรม) การเดินทางธรรมของข้าพเจ้า มิต้องการสาย บุญ บารมี มิต้องลูกน้อง มิต้องการบุญ มิต้องการบริวาน ทำทิ้ง บอกให้รู้จักครูบาอาจารย์องค์ต่าง แล้วเลือกตามอัทยาศัย ไม่บังคับ เพราะแต่ละคนมีกุศลผลบุญทำมามากน้อยใหญ่ต่างกัน จึงมีบุญสัมพันธ์ต่างกัน เมื่อได้ไปพบบุญสัมพันธ์นั้นแล้ว ก็จะเมตตากันไปตามโอกาส แล้วก็ทำงาน เผยแผ่ศาสนาต่อไป สร้างวัด อุปถัมป์ กันไปตามวาระ ตามสภาพ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New]
- อย่างที่มีผู้คนหลายคนอพยพไป ดังมีข่าว ส่วนตัวผมคิดว่า ท่านเหล่านั้น น่าชื่นชม ว่าเขาไม่ยึดติด พร้อมที่จะสละ เมื่อไม่มีอะไร ก็ดีกลับมาทำงานเหมือนเดิม ดีที่ได้ซ้อมเตรียมตัวไว้ เพราะวันหนึ่งก็ต้องเกิด ก็ไม่ติดขัดสิ่งใด พร้อมจะทิ้งได้ตลอด แต่สำหรับเรา ๆ ไม่เคยได้เตรียมตัวสละเลย จะมีโอกาสได้รอดหรือเปล่าก็ยังเป็นที่น่าคิด คนเหล่านั้นเป็นคนมีฐานะ ก็แสดงว่าคงไม่ใช่โง่ ถ้าโง่คงไม่รวย แล้วคนรวยจะถูกหรอก ก็ไม่น่าจะทั้งหมด
-ถ้ามีคนรวย ไม่มีศิลธรรม กับ คนจน ไม่มีศิลธรรม ถ้าเป็นผมจะเลือกช่วยคนรวยก่อน เพราะคนรวยจะเอาทรัยพ์มาจาคะ สละให้กับคนอื่นๆ ได้ และยังสามารถเป็นการได้ดูแลผู้ขัดสนที่จะเข้ามาพึ่งพาได้
-เหมือนกับบ้านเมือง ค่าเงินตก ก็ส่งออกมากๆ อุ้มคนส่งออก ถ้าไม่สนคนนำเข้าก็เจ้ง ก็ปล่อยไม่ได้ ต้องอุ้มผุ้นำเข้าด้วย ให้พอดีกัน จะเกิดผลดีกว่าปล่อยให้มีฝ่ายใดเจ้ง
-หรือมีเงิน 1 ล้าน จะให้คนรวยหรือคนจน ดี ผมก็คิดว่า ให้คนรวยดีกว่า เพราะเขาสามารถเอาไปจ้างงานสร้างงาน รายได้ เพิ่มได้ ทำให้คนอื่นมีเงินใช้ แต่ถ้าเอาไปให้คนจน ก็คงเอาไปซื้อรถ กินเหล้า เมายา ซื้อมือถือ หรือนำไปเกิดประโยชน์ได้ไม่เท่าไหร่ แล้วจะมิให้อุ้มคนรวยได้อย่างไร คนรวยไม่โง่ที่จะเอาเงินมาแล้วดองไว้เฉยๆ [/FONT]

 

สาธุ สาธุ
-จะไปวัดถ้าเราไปวัดคนรวยๆเยอะ ก็สบาย ไปอย่างเดียวมีการจัดสรรค์จากคนรวยไว้ให้แล้ว สบายเหมือนมาเที่ยวเมืองสวรรค์ คนจนก็ได้พึ่งพิงไม่เดือดร้อนเงินทอง สบายใจ
อันนี้มองในแง่ดี คนรวจเขาช่วยจาคะ ปูทางเดินไว้ให้แล้ว
-หรือจะสนใจไปวัดที่ยังไม่เจริญ คนจนก็คงเข้ายากเพราะเข้าไปแล้วก็ต้องจาคะ ๆ ๆ จนเดือดร้อน
-หรือคนจนเกิดมาขัดสน ไม่มีอะไรจะสนับสนุนให้เดินได้อย่างสบายๆ ก็น่าจะเพราะทำบุญมาไม่มากพอ จึงขัดสน จะได้มีโอกาสแก้ตัวเข้าัวัดได้ง่ายๆ
-ส่วนคนรวยก็สอนให้เขาจาคะ ทำทิ้ง อย่าทำเอา ถ้าจะทำเอาก็ไปเสวยผลบุญที่ทำ แล้วก็วนเวียนอยู่ใน 31 ภูมิ เหมือนเดิม มิได้ออกจาก 31ภูมิ

ดีหมดเลย ถ้าจะมองในแง่ดี เพราะผู้เดินทางธรรมก็มองในเง่ดีอยู่แล้ว เป็นปกติผู้เจริญ

 

ทำตัวเป็น......แล้วยังเลียแบบ......อีก คนรวยหน้าแข้งเลอะหมดแล้ว
5555555555555555555555555555555555555

 

เห็นมีคอมเม้นท์แนวนี้ เลยขออนุญาติคุณ onizukaGTO
ยกมาที่นี่ เพื่อเอามาให้พิจารณาค่ะ
แต่ที่จริง เราทราบเรื่องประมาณนี้อยู่แล้ว เพราะพี่คนที่เข้าไปบวช
นี่ชวนทำบุญจัง แรกๆ ก็มารยาทนะ (ระบบเน็ตเวิร์คมากๆ)
เห็นแก่พี่เขา ที่ในอดีตเคยชวนไปฟังธรรมของหลวงพ่อเทียน
แต่หลายคนก็เลิกรักษามารยาทกันไป คือเลิกเกรงใจพี่เขาไป
(เข้าใจ เห็นใจ เพราะพี่เขามาสายศรัทธาเกิน )

 

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้นไม่มี

 

<table id="post4513873" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">M </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #358 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> พศวีร์
สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2011
ข้อความ: 38
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_4513873" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้นไม่มี
__________________
คุณหวังในนิพพานมากเท่าใด คุณยิ่งห่างไกลนิพพานมากเท่านั้น

นิพพานนี่ต้องหวัง ไม่หวังจะไปไม่ถึง
ส่วนนรกนี่ซิ ไม่หวังเลย แต่ไปง่ายนะ

</td></tr></tbody></table>

 

สาธุ สาธุ
-ธรรม ยุค แรก เป็นยุคเขียว ต้องออกเสาะหาในป่า
-ธรรม ยุค 2 คือยุคแดง มีเป็นรูปแบบ วัด อาราม
-ธรรม ยุด สุดท้าย คือ ยุคขาว ประชาชนสามารถรู้ธรรม แล้วอยู่ในครัวเรือนเป็นปกติสุข หรือ อริยชน นั่นเอง
-ประคำมี 108 เม็ด ความหมาย คือ ข้อเตือนใจว่า ให้ระวังภัยพิบัติ ใหญ่ ๆ รวมกันทั้ง 3 ยุด มีทั้งหมด 108 ครั้ง แบ่งตามยุค ซึ่งยุคสุดท้ายจะมากที่สุด เป็นอันสิ้นสุด กัปป์นี้ (จะถูกทำลายล้างด้วยไฟ)
-ผู้ไปก็ขอให้ไปด้วยสวรรค์เป็นอย่างน้อย หรือ นิพพาน เป็นสิ้นสุด แต่ผู้อยู่ก็ต้องหลบภัยพิบัติให้ได้ และก็ขอให้เหลือแต่คนดีๆ มีศีลธรรม เพื่อจะได้สร้างกันใหม่ จนไปสู่ยุคหน้า ซึ่งจะมีแต่ผู้คนที่พร้อมด้วยศีลธรรม เป็นส่วนใหญ่ และสำเร็จธรรม กับพระศรีอารย์ ครั้งละเป็น แสน แค่น้อมถึงเท่านั้น (ตามพุทธทำนาย)
ขอให้เหล่าผู้ปฎิบัติธรรม ที่ได้พบปะกันในครั้งนี้ ถึงพร้อมด้วยนิพพาน ทั่วหน้า ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา และชวนคนข้างๆ เราหรือญาติเรา ให้ไปร่วมกันเพราะเกิดมาร่วมกัน ย่อมมีเหตุ มีบุญสัมพันธ์ร่วมกัน

 

เข้ามาฟังนิทานหลอกเด็ก^^

 

สาธุึ สาธุ
-สิ่งใดที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ก็เป็นของแปลกเป็นธรรมดา แต่ระวัง การละเมิดธรรม

-ใช้วิจารณญาณ จากการเดินทางธรรม ที่ละ โลภ โกรธ หลง ได้ระดับหนึ่งก็สามารถเห็นธรรม เข้าใจธรรมที่ไม่เคยได้รู้ ได้เห็นได้โดยง่าย

-สิ่งที่กล่าวมีตำราอ้างอิง ผู้ไม่มีหน้าที่ ก็จะไม่ได้รับรู้ ขั้นตอนนี้ คือหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย มิได้หมายถึง จะปฎิบัติธรรม แบบไหน อย่างไร แต่หมายถึงภาคการทำงานตามโพธิสัตว์ ขนเหล่าสรรพสัตว์เข้าสู่นิพพาน มิได้อยู่ภาคกำลังเดินทาง ตอนนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวอีกแล้ว ที่กรุงเทพ (วันที่ 24มีนาคม54) คงมิผิดว่าภัยพิบัติ ไกล้แค่เอื้อม แต่ร่วมช่วยกันภาวนา อย่าได้เกิดในเร็ววันเลย

 

สาธุ สาธุ

-เตือนภัย ก็ว่า พอมีเกิดขึ้นจริงตาม ก็ว่าเรื่องอื่นอีก คงไม่คิดว่า ทำไม ไม่เห็นตายเลย แสดงว่าไม่จริงก็ว่าอีก ถ้าถึงขนาดตาย ก็มิเห็นการใดจะต้องเตือนกันอีกแล้ว

-ผู้เดินทางธรรม โทษะ โมหะ โลภะ ลด ๆ ลง จะไม่เหมือนคนธรรมดา การพูด การแสดง จะไม่เหมือนปุตุชน สำรวม สำรวม สำรวม

-ทำหน้าที่ได้แค่เดือน และ ชี้บอกแนวทาง มิสามารถช่วยใครได้

-ความยึดติดจนเป็นปกติ ทำให้ทิ้งไม่ได้ วางใจลง ให้เบาลงไม่ได้ ส่งผลให้เกิดความประมาท ไม่มีการเตรียมตัวเพราะ ถึงแม้จะตายก็ขอตายที่นี่ ไม่รู้จะไปไหน ผลก็คือ อย่ามาเตือนไม่กลัวหรอก หรือตกใจสติแตกเมื่อเกิดขึ้นจริง

-แต่เตือนพราะต้องการคัดเลือกบุคคนดีมีศีลธรรม ปล่อยวางได้ แยกกลุ่มออกมา อยู่ในที่สมควร เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เขาเหล่านั้นก็จะทำหน้าที่เป็นคนดีต่อไป

-แค่เตือน เกิด ช้า เร็ว เกิดแน่ เด็กประถมก็คำนวนออก ว่ากราฟภัยธรรมชาิติมันเกิดเกี่ยวเนื่องกัน แต่บอกไม่ได้เท่านั้น ว่าเมื่อไหร่ ทางธรรม ก็ได้แค่เตือน บอกไม่ได้เหมือนกัน

-เตือนสำหรับผู้ปล่อยวางได้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ตอนไหน เขาจะเตรียมตัว แต่มิใช่ว่า เขาจะรอด แต่เขาตาย ก็ตายอย่างฉลาด ตายตรงไม่ยึดติด ตายตรงนิพพาน ผู้ที่ยังยึดหลาย ๆ อย่าง เมื่อเกิดบรรยากาศฉับพลันที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ก็ประมวลอะไรมากมาย สำหรับผู้มีการถอดจิตได้ ขึ้นไป ก็เอาตัวรอดไป

-ขอแลกเปลี่ยนแบบใช้สติ โทษะ โมหะ โลภะ ลด ๆลง ธรรมอันสูงยิ่งขึ้นไปก็จะเห็นเอง เปิดออกเอง มิได้ไปเปิดตำราแล้วอ่านแล้วทำใจตาม แล้วรู้ พลังของโลภะ โทษะ โมหะ เป็นพลังฝ่ายต่ำ จะบดบังพลังกระแสธรรม ที่สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป แต่ไม่ต้องทำแบบไหน แค่ลด โทษะ โมหะ โลภะ ลง ๆ ๆ ๆ กระแสธรรมอีกฝั่งก็จะปรากฎเอง เหมือนคานไม้กระดก

ผู้เดินทางธรรม มองมุมสูง มิควรมองมุมต่ำ

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เหตุัดับผลก็ดับ

ขอน้อมอำนาจพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า เมตตา มหาเมตตา ค้ำจุนประเทศไทยให้เกิดภัยพิบัติน้อยที่สุด(อย่าประมาท)

-กาลสมัยบัดนี้ เป็นการโปรด 3 ภพ 3 โลก พร้อมกัน เพื่อให้เมตตาซึ่งกันและกัน ภัยพิบัติจะได้เบาลง

น้อมความสว่างไสวในสัจธรรม ที่องค์อรหันต์พุทธ ได้กระทำมาแล้ว และจะกระทำในกาลต่อไป ขอทุกจิตญานทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกชั้น ได้มีส่วน