พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันจันทร์ แจ่มใส ครับ



    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  3. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    เห็นรูปแล้วน่าประทับใจจริงๆนะครับ ขอโมทนาบุญทุกประการครับผม
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ทำเอง แล้วจะรู้เอง ว่า ดีหรือไม่ อย่างไร

    อย่างที่น้องปฐมเคยทำมาแล้ว

    สะสมแต้ม(กรรมดี)ไว้นะครับ

    อย่าไปสะสมแต้ม(กรรมชั่ว)เลย ผลที่ได้รับตอนที่ต้องรับนั้น หนีไม่ได้ ดังนั้น อย่าหลงระเริงกับการสะสมแต้ม(กรรมชั่ว)

    "ระมัดระวัง ทั้ง กาย วาจา ใจ ของเรา ดีที่สุด คนอื่นจะทำอย่างไร ช่างเขา ช่างมัน ใครทำอะไร ต้องได้เช่นนั้น" เป็นคำสอนที่พระภิกษุรูปหนึ่งสอนพี่ไว้เมื่อวันอาทิตย์(ที่ 20 มีนาคม 2554) นี้เอง

    ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

    .
     
  5. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบพระคุณครับพี่หนุ่มที่คอยชี้แนะเสมอมา
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    [FONT=Tahoma,]ออฟฟิศซินโดรม ภัยเงียบสาวทำงาน



    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#e0e0e0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>หาก คุณเป็นคนหนึ่งที่ไปทำงานก่อนสัมผัสแดดเช้าและกลับบ้านเมื่อตะวันตกดิน ใช้ชีวิตทั้งวันอยู่ในห้องปรับอากาศ ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน หน้าคอมพิวเตอร์ หรือนั่งในห้องประชุมเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย คุณมีความเสี่ยงสูงต่อโรคออฟฟิศซินโดรม ที่มักมีอาการเหล่านี้

    ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ ปวดข้อมือและข้อนิ้วมือ หมอนรองกระดูกเคลื่อน

    ปวดตา เคืองตา คันตา ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง น้ำตาไหล ตากระตุก

    ปวดศีรษะ สมองตื้อ มึนงง


    บมจ.ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ จำกัด มีเคล็ดลับสำหรับสาวๆ ออฟฟิศเพื่อป้องกันปัญหาแต่เนิ่นๆ

    เริ่ม ที่ 1.นั่งทำงานและใช้คอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย นั่งหลังตรง หลังแนบติดเก้าอี้ ลำตัวเป็นมุมฉากกับขาช่วงบน ขาช่วงบนเป็นมุมฉากกับขาช่วงล่าง เท้าทั้งสองวางแนบกับพื้นพอดี

    จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ระดับสายตาพอดี มือ แขนช่วงล่าง และคีย์บอร์ดอยู่บนแนวระนาบเดียวกัน ปล่อยไหล่เป็นธรรมชาติขณะพิมพ์งาน

    ระยะ ห่างสายตาและหน้าจอประมาณ 2 ฟุต ปรับความสว่างหน้าจอให้เท่ากับความสว่างจากภายนอก อย่าให้มีแสงจ้าเข้าทางด้านหลังผู้ใช้งาน และอย่าลืมพักสายตาบ่อยๆ<table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#e0e0e0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    2.ไม่ นั่งไขว่ห้าง กอดอก หลังค่อม 3.ไม่ยืนลงน้ำหนักบนขาข้างเดียว หรือยืนแอ่นพุง หลังค่อม 4.ไม่นอนขดตัวหรือนอนตะแคงนานๆ โดยไม่มีหมอนข้างช่วย 5.ไม่ใส่ส้นสูงเกินนิ้วครึ่ง 6.ไม่สะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว หรือหิ้วของหนักด้วยนิ้วบ่อยๆ 7.ไม่เล่นเกม หรือทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป ไม่อยู่กลางแดดจ้า หรือที่มีฝุ่นลมมากเกินไป

    8.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 9.พักและบริหารสายตาด้วยการกะพริบตาถี่ๆ 10 ครั้ง ทุก 30 นาทีที่ใช้คอมพิวเตอร์ ยืดเส้นยืดสายเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หยุดคิดหยุดเครียดด้วยการตามลมหายใจเพื่อพักสมองเป็นช่วงๆ 10.กินอาหารหลัก 5 หมู่ที่หลากหลายครบถ้วน และบอกลาอาหารขยะ

    นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับ พิทักษ์กระดูกมาฝากสาวๆ กันด้วย คือ ดื่มนมที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูงเป็นประจำ หรือ รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลาตัวเล็ก งา ใบยอ ยอดแค

    ลด โปรตีนจากสัตว์ อาหารเค็ม-หวาน กาแฟ-เครื่องดื่มกาเฟอีน ออกกำลังกายวันละประมาณ 30 นาที สัมผัสแดดช่วงเช้า (08.30-10.30 น.) วันละประมาณ 20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามิน D เพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียม

    เพื่อความแข็งแรงของกระดูกแบบ องค์รวม ควรออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวกระดูกสันหลังให้ครบ 4 ทิศทาง คือ ก้ม-แอ่น-เอียง-บิด ด้วยท่าโยคะแบบง่ายๆ วันละอย่างน้อย 30 นาที

    คอมพิวเตอร์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฝุ่น ควัน แสงแดด เครื่องปรับอากาศในสำนัก งาน ล้วนเป็นตัวการทำลาย "ดวงตา" หน้าต่างมองโลกของคุณให้แห้ง พร่ามัว และมืดมิด สัญญาณเตือนภัยของสายตา จะมีอาการตาแดง ตาพร่า ตามัว ตาเมื่อยล้า ปวดตา มีอาการตาแห้ง เคืองตา ทำให้ต้องกะพริบตาบ่อย ปวดศีรษะ อ่านหนังสือไม่ชัดเมื่ออายุมากขึ้น ควรกินอาหาร 5 หมู่อย่างครบถ้วนหลากหลาย พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย เพื่อป้องกันโรคสายตา

    อาจผ่อน คลายดวงตาด้วยตัวเอง ด้วยการนวดคลึงเบาๆ รอบดวงตาและบริหารดวงตาด้วยการกวาดสายตามองเป็นวงกลม 5-6 รอบ ใช้นิ้วแตะที่หัวตาแล้วคลึงเบาๆ แช่ผ้าขนหนูผืนเล็กในน้ำเย็น บิดพอหมาด วางปิดดวงตาทั้งสองข้างนานประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าผ้าจะหายเย็นแล้วเปลี่ยนผ้าเย็นผืนใหม่

    อาหารบำรุง สายตา ได้แก่ อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน A วิตามิน E วิตามินซี ลูทีน ซีแซนทีน ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย ดื่มนมที่มีวิตามินเอและลูทีน ผักใบเขียวและผักผลไม้สีเข้มที่มีลูทีนและซีแซนทีน เช่น ปวยเล้ง บร็อกโคลี่ องุ่นแดง หอมแดง มะเขือม่วง ไข่แดง มีลูทีนและซีแซนทีนที่ร่างกายดูดซึมง่าย ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดธัญพืช มีวิตามิน E

    สำหรับอาหารที่ช่วยบำรุงสมองให้ปลอดโปร่งแจ่มใส ยับยั้งอาการสมองเสื่อมก่อนวัยอันควร ได้แก่ นมที่มีวิตามินบี 12 และโอเมก้า 3 ผักและผลไม้ที่มีวิตามิน E และวิตามิน C ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม เช่น มะเขือเทศ แครอต ผักขม กะหล่ำปลี บร็อกโคลี่ ไข่ มีสารอาหารโคลีน มีส่วนช่วยในเรื่องการจำ ปลาทะเลและปลาน้ำจืดที่มีโอเมก้า 3 ช่วยให้สมองเจริญเติบโต เส้นใยจากธัญพืช ทำให้ปริมาณน้ำตาลที่เข้าสู่สมองไม่แปรปรวน สมองไม่เหนื่อยล้า

    นอก จากอาหารบำรุงสายตาแล้ว การฝึกสมาธิและโยคะยังช่วยให้สมองรู้ตื่นและเบิกบาน อาจหาเกมฝึกสมองทดลองเล่นเป็นประจำ เช่น เกมลับสมอง อักษรไขว้ ซูโดกุ หรือหากิจกรรมแปลกใหม่ที่ท้าทายให้ทำอยู่เสมอ
    [/FONT]


     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    เทคนิคเลือกวิตามิน กินดีได้ กินร้ายเสีย

    หลายๆ คนพอเข้าใจตัวเองว่า หน้าที่การงานรัดตัวจนเหลือเวลาดูแลสุขภาพน้อยลง อาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพก็ไม่ค่อยได้ตกถึงท้องสักเท่าไหร่ พึ่งได้ก็แต่จานด่วนๆ ยิ่งเป็นอย่างนี้บ่อยๆ ร่างกายก็ยากที่จะได้สารอาหารที่ครบถ้วน จึงต้องเรียกหาอาหารเสริม วิตามินเสริม มาเป็นตัวช่วย
    แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะ ให้ดี นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ จะช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้เอง...

    วารสารโภชนาการคลินิกอเมริกันเผยว่า วิตามินอีธรรมชาติจะซึมซับเข้าเนื้อตัวเราได้ดีกว่าวิตามินอีสังเคราะห์ถึง 2 เท่า ซึ่งการศึกษาส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า วิตามินเทียมสู้วิตามินแท้ไม่ได้ในแง่ของการดูดซึม เพราะความลับอยู่ที่คำว่า “ครบทีม”

    วิตามินธรรมชาติมีเพื่อนฝูงครบทีมคือสุดยอดปรารถนาของวิตามิน ดียิ่งกว่าวิตามินเทียมที่แยกออกมาเป็นตัวๆ และวิตามินธรรมชาติที่ดีที่สุดก็คืออาหารสดครับ

    ส้มลูกหนึ่งไม่ได้มีแต่วิตามินซีหากแต่มีไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยดึงวิตามินซี เข้าได้ดีด้วย มะเขือเทศลูกเดียวมีวิตามินเอนับร้อยชนิด มากกว่าวิตามินเอในอาหารเสริมยี่ห้อใดๆ

    และยังอีกมากที่หากจับรวมกันเป็นทีมแล้วจะดีกว่ากินเดี่ยวให้มันออกฤทธิ์ อย่างเดียวดายเหนื่อยยาก เป็นพระเอกคนเดียวสู้กับผู้ร้ายตั้งพัน ถ้าได้พระรองสักทีมหนึ่งถึงค่อยสมน้ำสมเนื้อ เรามาดูวิตามินที่เป็นพระเอกตัวจริงกันครับ...

    4 เทคนิคเลือกวิตามิน จาก “วิตามินโหล” ถึง “โหงวเฮ้งวิตามิน”

    ปัญหา “ทางสายเกิน” ของวิตามินเป็นเรื่องใหญ่พอดูครับถึงแก่มีงานวิจัยที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร เลื่องชื่ออย่าง New England Journal of Medicine ว่าวิตามินอีสังเคราะห์ยิ่งทำให้เกิดเสี่ยงโรคหัวใจมากขึ้น

    กินก็เสี่ยง ไม่กินก็ไม่ได้ ใช้วิธี “กินๆหยุดๆ” เป็นเทคนิคที่ผมเคยให้ไว้ดีกว่าไม่ต้องอึดอัดใจว่าจะมีอะไรมาสะสมด้วย ให้ใช้เวลาที่เราไม่แน่ใจในอาหารเสริมที่เรากินอยู่ ซึ่งปัญหาที่ดูจะพบบ่อยมีอยู่ 2 ประการหลักครับคือ

    1 เลือกไม่ถูก
    2 ไม่รู้ที่เหมาะกับตัว


    ปัญหาข้อแรกแก้ได้ง่ายเพราะผมได้เคยเขียนหนังสือไว้กว่ายี่สิบเล่มแล้ว เกี่ยวกับการเลือกอาหารสดและอาหารเสริมครับ หรือจะลองเสิร์ชดูด้วยชื่อผมในกูเกิลก็จะเห็นบทความที่เคยเขียนโผล่ขึ้นมา

    ทีนี้ก็มาถึงปัญหาข้อสองที่ต้องลึกซึ้งนิดหนึ่งครับคืออาจ ตรวจจากเลือดว่าเราขาดวิตามิน,เกลือแร่และฮอร์โมนตัวใดก่อนที่จะไปหามากิน เพื่อไม่ให้เกิดปรากฏการณ์ “วิตามินเกิน” และก่อผลตรงกันข้ามให้ร่างกายยิ่งโทรมเร็ว

    ทีนี้เมื่อก้าวมาถึงขั้นรู้ตัวทั่วพร้อมดีหมดแล้ว ก็ขอพาท่านที่รักข้ามขึ้นไปอีกระดับคือการเลือกวิตามินธรรมชาติ ซึ่งมีเทคนิกดูโหงวเฮ้งวิตามินให้เหมาะกับตัวเราอยู่ 4 ประการดังนี้ครับ...

    ดูชื่อข้างฉลาก อัน เป็นชื่อวิทยาศาสตร์สากลแล้วตรวจดูกับตำราวิตามิน หรือวิธีง่ายกว่านั้นคือดู “ราคา” ครับ วิตามินธรรมชาติไม่ควรถูกจนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่น่าแพงเกินไปเช่นกัน

    ดูว่าไม่ได้ “รวมมิตร” ส่วนใหญ่วิตามินแบบรวมหลายมิตรในเม็ดเดียวกันมักทำมาจากวิตามินสังเคราะห์ครับ

    ดูการดูดซึม โดยดูจากชื่อและนามสกุล เช่น แคลเซียม-ซิเตรท,วิตามินอี-ดีอัลฟ่าโทโคฟีรอล, โครเมียม-พิโคลิเนต ดังนี้เป็นต้น

    ดูการจับคู่ ประการ นี้สำคัญเพราะต้อง mix and match ให้ถูกคู่ถึงจะดูดซึมได้ดีไม่เช่นนั้นกินเข้าไปเป็นเม็ดอย่างไรก็ออกมาอย่าง นั้น ตัวอย่างเช่น วิตามินซี-ไบโอฟลาโวนอยด์(สัดส่วน 2:1), แคลเซียม-แมกนีเซียม(2:1), น้ำมันปลาอีพีเอ-ดีเอชเอ, โคคิวเท็น-วิตามินอี, ลูทีน-ซีแซนทิน ฯลฯ

    จะเห็นว่าเรื่องราคาก็เข้ามามีส่วนเหมือนกันไม่ใช่ยิ่งถูกจะดีเสมอไปอาจได้ “วิตามินโหล” ที่มีแต่แป้งกับน้ำตาลบานพะเรอก็ได้ ซึ่ง 4 ข้อนี้ก็ช่วยแก้ปัญหาไดเล็มม่าคิดไม่ตกของวิตามินได้ส่วนใหญ่แล้วครับ

    สำหรับคำถามเดิมๆว่าควรกินหรือไม่ควรกิน ก็กราบเรียนได้เลยครับว่าได้ทั้งนั้นแล้วแต่ศรัทธา ส่วนจะยี่ห้อไหนดีก็ให้ใช้คาถาศักดิ์สิทธิ์สี่ประการเป็นหลัก แล้วพักกินอาหารสดสลับฉาก.

    takecareDD@gmail.com



    Daily News Online > โทรโข่ง > หน้ามุมสุขภาพ > เทคนิคเลือกวิตามิน กินดีได้ กินร้ายเสีย

    ที่มา เดลินิวส์

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>


    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันอังคาร เบิกบาน ครับ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2011
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วิธีการแปลงไฟล์จาก pdf เป็นไฟล์รูปง่ายๆ

    1.เปิดไฟล์ pdf

    [​IMG]

    เมื่อเปิดไฟล์ pdf แล้ว ให้เปิดโปรแกรม Paint

    2.ใช้วิธีการ print screen โดยกดปุ่ม print screen แล้วนำไป paste (วาง) ลงในโปรแกรม Paint

    [​IMG]

    3. หลังจากนั้น ให้ save as แล้วตั้งชื่อไฟล์ โดยให้นามสกุลของไฟล์เป็น jgp

    [​IMG]

    เท่านี้เป็นอันเรียบร้อยในการทำไฟล์รูป jpg

    หากว่า ไม่ต้องการให้เห็นส่วนหนึ่งส่วนใด ให้ทำดังนี้

    1.ให้ไปที่ edit โดยเลือก paste from

    [​IMG]

    จะปรากฎให้หน้าต่างให้เราเลือกว่า จะเลือกรูปจากที่ไหน(ในคอมฯ) เมื่อเลือกรูปได้แล้ว ให้กดไปที่รูป แล้ว กดที่ open รูป(ที่เราเลือก)จะไปปรากฎที่ ไฟล์รูปเรา

    [​IMG]

    เมื่อรูปไปปรากฎแล้ว รูปนั้นสามารถที่จะขยาย หรือ ย่อ หรือทำให้เล็กอย่างไรก็ได้ โดยรูปที่ปรากฎนั้น จะมี จุด บริเวณ มุมของรูป และ ตรงกลางของทุกด้าน สามารถที่จะทำรูปนั้นให้เล็ก หรือ ใหญ่ได้

    [​IMG]


    สุดท้ายอย่าลืม Save ครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เภสัชกรแนะใช้ 'รางจืด'ต้านพิษ ลดสารพิษของยาฆ่าแมลงในตัวเกษตรกร



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    รางจืด- มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีน บุรีแนะนำชารางจืด สมุนไพรต้านพิษ เหมาะสำหรับการส่งเสริมให้ปลูกเป็นสมุนไพรประจำบ้าน ใช้สำหรับแก้พิษ แก้ร้อนใน เป็นสมุนไพรที่สามารถช่วยขับพิษ ทั้งภายในและภายนอกร่างกายได้เป็นอย่างดี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปราจีนบุรี - ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร จากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แนะนำรางจืดสมุนไพรต้านพิษเป็นสมุนไพรเหมาะกับเกษตรกรและคนเมือง

    รางจืดมีใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนานในหมอยาพื้นบ้านในด้านการยาแก้พิษ ไม่ว่าจะเป็นพิษยาเบื่อ ยาสั่ง ยาฆ่าแมลง พืชพิษ เห็ดพิษ รวมไปถึงพิษสุราและยาเสพติด ไม่เว้นแม้แต่พิษงู แมงป่องหรือตะขาบ นำไปใช้แก้พิษในสัตว์ที่ได้รับยาพิษเช่นสุนัขหรือแมว ตำรายาพื้นบ้านระบุว่า รากและเถา รับประทานแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ใบและราก ใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ผดผื่นคัน เริม สุกใส ทำลายพิษยาฆ่าแมลง หรือยาเบื่อ พิษจากการดื่มเหล้ามากเกินไป

    ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่าภูมิปัญญาอีสาน มีประสบการณ์สืบต่อกันมาว่า เมื่อจะปรุงอาหารที่เก็บมาจากป่าทุกครั้งให้ใส่ใบและและดอกของเถารางจืดเข้าไปด้วย เพื่อป้องกันพิษที่อาจเกิดจากพืชหรือสัตว์ป่าที่นำมารับประทาน ซึ่งคล้ายคลึงกับหมอยาไทยใหญ่ที่แนะนำให้นำยอดและดอกของรางจืดมาแกงกินเป็นอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพหมอยาพื้นบ้านยังนิยมให้รางจืดในการลดความดันโลหิต นอกจากนี้ รางจืดยังช่วยลดพิษของตะกั่วเหมาะกับสถานการณ์มลพิษในเมืองกรุงที่ปนเปื้อนสารตะกั่วจากไอเสียน้ำมันเบนซินซึ่งสารตะกั่วสะสมเป็นโรคพิษสารตะกั่วเรื้อรังในระยะยาวได้ สารตะกั่วจะสะสมในส่วนสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ มีการศึกษาพบว่าสารสกัดจากรางจืดสามารถลดอัตราการตายของเซลล์สมองอันเนื่องจากพิษของตะกั่วและสามารถยับยั้งการลดลงของสารต้านอนุมูลอิสระในสมองที่เกิดจากพิษของตะกั่วได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่ารางจืดยังช่วยลดพิษจากสารหนู สตริกนิน ทั้งยังป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายด้วยเหล้าได้อีกด้วย ซึ่งพบว่ารางจืดมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับที่สูงมาก

    รางจืดสามารถปลูกได้ทั่วไป เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไป เพราะมีสารสำคัญทางยาอยู่ในปริมาณสูง สำหรับการใช้ประโยชน์จากรากรางจืด ให้เลือกรากที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป

    ที่มา ข่าวสด

     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949



    อ่า พี่เปี๊ยกครับ

    พอมีแบ่งให้ผมสัก 2 - 3 ต้นหรือเปล่าครับ

    จะได้ไปเตรียมหากระถางมาปลูกครับพี่
    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เตือนภัยเว็บลวงรับบริจาคช่วยญี่ปุ่น

    เทรนด์ ไมโคร เตือนภัยฟิชชิ่งลวงจากเว็บไซต์รับบริจาคเงินช่วยภัยพิบัติ

    นอ ริอากิ ฮายาชิ นักวิจัยอาวุโสด้านภัยคุกคาม ศูนย์วิจัยเทรนด์แล็บส์ บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ รายงานว่า ล่าสุดเทรนด์ ไมโคร ตรวจพบไซต์ฟิชชิ่งที่มีลักษณะเป็นไซต์รับบริจาคเพื่อระดมเงินไปช่วยเหลือ เหยื่อผู้ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ไซต์ฟิชชิ่งดังกล่าว คือ http://www.japan{BLOCKED}.com ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์แบบโอเพ่นซอร์สที่ชื่อว่า Jcow 4.2.1 และไซต์แห่งนี้โฮสต์อยู่ที่ไอพีแอดเดรส 50.61.{BLOCKED}.{BLOCKED} ซึ่งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทยืนยันว่าไซต์ดังกล่าวยังคงดำเนินการอยู่ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้

    นอก จากการโฮสต์ไซต์ฟิชชิ่งดังกล่าวแล้ว อาชญากรไซเบอร์ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ยังใช้ฟังก์ชันบล็อก (blog) ของเว็บไซต์และแทรกข้อความประกาศ (โพสต์) ที่มีลักษณะเหมือนการโฆษณาด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อทำให้เว็บของตนติดอันดับต้นๆ ในหน้าผลการค้นหาของเว็บไซต์ให้บริการค้นหา (SEO) นั่นเอง

    การโจมตี ในลักษณะนี้พบได้ทั่วไป โดยจากข้อมูลก่อนหน้านี้ที่เราบันทึกไว้พบว่ามีการใช้ประโยชน์จากภัยพิบัติ ธรรมชาติหลายกรณี เช่น เฮอร์ริเคนแคทรีนาปี 2548, เฮอร์ริเคนกุสตาฟปี 2551, เหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนของจีนปี 2551 และการโจมตีครั้งล่าสุดที่ใช้กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติปี 2553 ดังนั้นผู้ใช้จึงควรเลือกองค์กรที่เชื่อถือได้ที่จะรับผิดชอบเข้ามาจัดการ กับเงินบริจาคของตน

    ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีการตรวจสอบประวัติเว็บของ เครือข่ายป้องกันภัย อัจฉริยะของเทรนด์ ไมโคร (สมาร์ท โพรเทคชั่น เน็ตเวิร์ค) สามารถบล็อกการเข้าถึงไซต์ฟิชชิ่งดังกล่าวแล้ว ดังนั้นจึงแน่ใจได้ว่าผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าถึงไซต์ดังกล่าวได้แม้ว่าจะ ถูกลวงให้คลิกลิงค์ที่เป็นอันตรายนั้นแล้วก็ตาม


    โพสต์ทูเดย์ ดิจิตอลไลฟ์ : เตือนภัยเว็บลวงรับบริจาคช่วยญี่ปุ่น

    http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/โลกออนไลน์/79964/เตือนภัยเว็บลวงรับบริจาคช่วยญี่ปุ่น


    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    มีความรู้ดีๆ นำมาฝากกันครับ

    ผมเชื่อว่า รู้กันไม่มากครับ

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2" style="padding-left: 10px;" background="../../images/webboard/bg.gif" bgcolor="#4ea6e6" height="25">กระดานถาม-ตอบ</td> </tr> <tr> <td align="center" height="22" width="27">[​IMG]</td> <td style="padding-left: 10px;"> ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ </td> </tr> <tr> <td align="center" height="22"> </td> <td style="padding-left: 10px; padding-right: 10px;"> ทำไม อ่านดูในกระดานถามตอบ คปภ.บอกว่า บริษัทประกันต้องจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหากซ่อมรถให้ช้าเกินกว่าที่ ควรจะเป็น แต่พอเรียกร้องไปแล้ว บริษัทประกัน ปฏิเสธ "อย่างไม่มีเยื่อใย" ว่า ไม่อยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์ แถมยังท้าทายให้ไปฟ้อง คปภ. เสมือนว่า จะมั่นใจว่า ไม่ต้องจ่ายแน่ ๆ
    </td> </tr> <tr> <td align="center" height="22"> </td> <td style="padding-left: 10px;" align="right">

    ชื่อผู้ถาม : รุจิพรรณ Mar 22 2011 8:01AM IP Address : 125.24.xxx.xxx

    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" align="center"><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"> <tbody><tr> <td height="5" valign="top" width="19">
    </td> </tr> <tr> <td background="../../images/home/dot.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top">
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="22" valign="top">[​IMG]</td> <td style="padding-left: 10px; padding-top: 4px;"> ตาม เงื่อนไขกรมธรรม์ กรณีเป็นรถคันเอาประกันภัย หากบริษัทประวิงการซ่อม หรือซ่อมซ่อมล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็นโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ก็ต้องจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถให้ ส่วนรถคู่กรณี เรียกได้ตั้งแต่วันทีเกิดความเสียหายไม่ได้ใช้รถครับ
    </td> </tr> <tr> <td align="center" height="22" valign="top"> </td> <td style="padding-left: 10px;" align="right">

    ชื่อผู้ตอบ : คุ้มครองสิทธิประโยชน์ Mar 22 2011 8:36AM</td></tr></tbody></table>


     
  18. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณมากครับ คุณ SITHIPHONG เรื่อง การทำไฟล์ PDF เซฟ เป็น ไฟล์ JPG
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 15 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 14 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สวัสดีตอนเย็นๆ วันพุธ สุขใจ

    กลับมาจากการเข้าอบรมบ่มนิสัยเรียบร้อยแล้วครับ

    นิสัยน่าจะดีขึ้นกว่านี้ครับ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...