แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. sakuda

    sakuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +2,214
    ใครบ้านอยู่ใกล้เซนทรัลบางนา ลองไปที่ศูนย์พระเครื่องชั้นบนนะครับ ร้านหลังสุดใส่กรอบลูกอมได้สวยงามและดีมากครับ ผมใช้กรอบเบอร์127ใส่ไป 5 ลูก. งามทุกลูกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  2. nicklc

    nicklc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +143
    พอจะจัดรูปมาใช้ชมได้มั้ยครับ
     
  3. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    714
    ค่าพลัง:
    +12,050
    มีเก็บไว้เฉพาะที่จำเป็นครับ

    ให้คุณหนุ่มไปทำกุศลแล้วมีความรู้สึกโล่งปลอดโปร่ง เหมือนได้ปลดปล่อย
    บางสิ่งบางอย่างออกไปครับ
     
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พลังเหนือมนุษย์ ; สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี


    “พลังเหนือมนุษย์ ; สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี” ได้อัญเชิญพระโอวาทจากดวงวิญญาณบริสุทธิ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี โดยผ่านร่างของมนุษย์ผู้เคยมีกรรมพัวพัน และชาตินี้ครองชีวิตอย่างสะอาดดั่งผู้ทรงศีลที่ดี (ต่อมาได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาและบำเพ็ญอยู่อย่างสงบในป่า ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้วในปีพ.ศ. 2548) คำเทศน์เหล่านี้ก็ได้บันทึก วัน เดือน ปี ไว้ เรียกว่า เป็นเรื่องของวิญญาณมาทำงาน ท่านจะเชื่อว่า สมเด็จโตมาเทศน์หรือไม่ ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของท่าน แต่ขอให้ท่านอ่านสำนวนโวหารของการโต้ตอบนั้น ผู้รวบรวมคิดว่า ไม่ใช่คนธรรมดาจะตอบได้ และใคร่ขอร้องท่านผู้อ่าน โปรดอ่านอย่างใจเป็นกลางก่อนที่จะลงความเห็น เชื่อหรือไม่ พระพุทธเจ้าทรงสอนหลักกาลามสูตรไว้ให้พิจารณา เราควรใช้หลักนั้นให้เป็นประโยชน์


    สิ่งลี้ลับ สิ่งเหนือความจริง
    ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาเนื้อ
    และยังมีอีกมากมายที่มนุษย์....รู้ไม่ได้
    เพราะไม่ถึง ก็พลอยสำคัญผิดว่าคนอื่นก็ไม่ถึงด้วย
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระเครื่องที่เลี่ยมพลาสติกพลังจะออกมาช่วยได้หรือไม่

    (วันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๓)


    พระเชาวน์ ญาณวีโร : มีบางคนเอาพระเครื่องไปเลี่ยมพลาสติก เขาหุ้มปิดหมดเลย น้ำก็เข้าไม่ได้ พลังของพระเครื่องจะออกมาช่วยได้อย่างไร

    สมเด็จ : สภาพการณ์ พลังทิพย์นี้ทะลุได้แม้แต่กำแพง แต่ถ้าผู้ที่ห้อยนั้นไม่มีศีลธรรม แบบซึ่งอาตมาก็บอกว่า พระสมเด็จที่อาตมาสร้างนั้นสร้างมีแต่กระแสแห่งความเมตตา และในการแคล้วคลาด ไม่ใช่สร้างเป็นการเหนียวให้พวกโจรเขาปล้นกัน สภาวการณ์บางคราว ที่เขาไปปล้นแล้วเหนียวนั้น เพราะว่ากรรมวิบากของเขายังดี ในพลังแห่งการเขาเรียกว่าสภาพ ในวันตายยังไม่ถึง เพราะฉะนั้นก็อาจจะคุ้มครองเขาไปรอด

    ฉะนั้นอันนี้บางคนเขาก็ยึดว่ามีพระเยอะแยะ ต้องอย่าลืมว่า กระแสจิตของเกจิอาจารย์ก็ดี ของเหล่าเทพพรหมก็ดี เขาลงพลังในสิ่งใดๆ ให้สมมติว่าเป็นเหรียญที่ดี เป็นตะกรุดที่ดี เป็นอะไรก็ดี เขาล้วนแต่มีคำสาปของเขาไว้ทั้งนั้น แต่เขาปิดไว้ลับเฉพาะ ว่าสิ่งนี้ ถ้าบุคคลเอาไปใช้เฉพาะที่เขาสาปไว้แล้ว ย่อมที่จะไม่ขลัง ไม่มีการคุ้มครอง อันนี้มีความลับของอารรถกาจารย์ เกจิอาจารย์ พวกนักปลุกทั้งหลาย เขามีสัจจะของเขาไว้อันหนึ่ง แต่เขาไม่เพ่นพ่านให้ใครรู้ซึ่งกันและกัน

    เพราะฉะนั้น ในการที่จะหวังสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเรานั้น เป็นการที่จะมีเพียงช่วยเหลือเราได้ ๓๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนมากขึ้นอยู่กับตัวเรา ตัวเราต้องประพฤติดี ประพฤติชอบ มีศีล มีสัจจะ มีหลักมีธรรม มีความเมตตา ไม่เบียดเบียนเพื่อมนุษย์ด้วยกันแล้ว ใช้ของย่อมที่จะขลังขึ้น เรามีความเบียดเบียนซึ่งกันและกัน มีความคิดแต่จะทำลายของเขา ให้ห้อยพระเป็นพระเจดีย์ทั้งกรุ มันก็ช่วยไม่ได้
     
  6. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    'ไทพูซาม'การเจาะร่างกายสู่การหลุดพ้น


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ภาพการเจาะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอาจดูน่าหวาดเสียวในสายตาของคนภายนอก หากแต่สำหรับผู้ที่มีศรัทธาและเลื่อมใสในพิธีกรรมสำคัญของศาสนาที่นับถือแล้ว นี่คือหนทางหนึ่งที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้เข้าใกล้ชิดพระเจ้าที่พวกเขาศรัทธา

    “ไทพูซาม” เป็นเทศกาลของชาวฮินดูที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวราวหนึ่งล้านคนมายังถ้ำบาตูในประเทศมาเลเซีย ในแต่ละปีผู้แสวงบุญจะก้าวขึ้นบันไดหิน 272 ขั้นขึ้นไปยังวิหารเทพเจ้าฮินดู เพื่อนมัสการพระขันทกุมาร ขณะที่ตามท้องถนนผู้เลื่อมใสศรัทธาจะแสดงความสามารถทางร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติตามประเพณีนิยม

    ดร.คาร์ล วาดิเวลล่า อนุศาสนาจารย์ฮินดู มหาวิทยาลัยฟลิน เดอรส์ เมืองแอดิเลด ออสเตรเลีย ตัดสินใจย้ายจากเมืองแคนเบอร์ร่ามาอยู่ที่นี่หลังจากเพื่อนร่วมงานรับไม่ได้กับการสวมกาวาดีตามความเชื่อทางศาสนา คาร์ลมีโอกาสได้รู้จักกับไทพูซามครั้งแรกในปี ค.ศ. 1978 ขณะเดินทางมาทำงานให้ออสเตรเลียน ไฮ คอมมิชชั่นที่มาเลเซีย หลังจากนั้นเขาก็พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเขา คาร์ลจึงตั้งใจว่าจะกลับไปที่ถ้ำบาตูอีกครั้ง รวมทั้งเริ่มสวมกาวาดี

    ขณะที่ กูน่า คือผู้อุทิศตนชาวฮินดู เขานับถือศาสนาฮินดูโดยกำเนิด อาศัยอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย กับครอบครัวที่ล้วนเป็นผู้ปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนาฮินดู ในช่วงเทศกาลไทพูซาม เขาจะกินอาหารมังสวิรัติอยู่เกือบหนึ่งเดือนเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองสำหรับการเข้าร่วมเทศกาลไทพูซาม ณ ถ้ำบาตู

    ถ้ำบาตูอยู่บนผาหินปูนที่งดงามมาก ภายในมีถ้ำหลายถ้ำ มีวิหารศักดิ์สิทธิ์มากมายสร้างอยู่ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูมาช้านาน ผู้แสวงบุญชาวฮินดูพากันเดินทางมาแสวงบุญ ณ ถ้ำแห่งนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 การกลับมาแสวงบุญที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้ความผูกพันของคาร์ลที่มีต่อพระเจ้าหยั่งรากลึกซึ้งขึ้น

    ชาวฮินดูที่เลื่อมใสศรัทธา จะสวมกาวาดีเพื่อเป็นการบูชาพระเจ้า ซึ่งมาจากตำนานการเจาะศีรษะปิศาจ ซึ่งถูกสั่งให้แบกภูเขาสองลูกไว้ จึงแขวนภูเขาสองลูกนั้นไว้ที่ปลายคาน และปล่อยให้แกว่งไปมา เป็นภาระที่เขาต้องแบกเดินทางลงใต้ เมื่อเดินทางไปถึงตอนใต้ของอินเดีย ในดินแดนที่เรียกกันว่า ปาลานี ปิศาจจึงวางภูเขาสองลูกนั้นลง และภูเขาทั้งสองนั้นก็ได้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นดิน ปิศาจได้พบกับพระเจ้าบนเขานั้น และแน่นอนว่าเป็นพระขันทกุมาร พระองค์ตรัสว่า นับแต่นี้ไป ใครที่แบกรับภาระอันหนักอึ้งได้เช่นเจ้า จะได้รับพร นั่นเป็นที่มาของการสวมกาวาดี นี่จึงเป็นพิธีการ ที่แสดงถึงภาระทางจิตวิญญาณที่มนุษย์แบกรับไว้ เพื่อแบกขึ้นไปยังถ้ำและวางภาระนั้นลงแทบเท้าผู้จาริกแสวงบุญ

    ในเดือนที่จะมีเทศกาลไทพูซาม ผู้อุทิศตนจะต้องตระเตรียมจิตใจ ร่างกาย และวิญญาณ ให้พร้อมรับกับงานหนักที่กำลังจะมาถึง หลายคนเริ่มอดอาหาร หรือกินอาหารมังสวิรัติ และสวดมนต์ทำสมาธิอย่างเคร่งครัด เทศกาลไทพูซามทำให้เมืองบริกฟีลด์ ซึ่งเป็นย่านชาวอินเดีย มีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อชุมชนชาวอินเดียมาร่วมกันเตรียมงาน และจับจ่ายสิ่งของที่ต้องใช้

    สองวันก่อนถึงเทศกาลไทพูซาม ผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งหมดจะมารวมกันที่วัด เราจะผูกผ้าเหลืองและลงแป้ง เพื่อแสดงว่าเราจะสวมกาวาดี เมื่อผูกแล้วก็จะมีข้อกำหนดว่าในช่วงนี้ห้ามไปร่วมพิธีศพ ห้ามใช้ห้องน้ำสาธารณะ และห้ามไปนั่งกินอาหารตามร้านอาหาร โดยจะต้องกินอาหารที่บ้าน หรือไม่ก็กินอาหารที่คนคุ้นเคย เช่น เพื่อนของแม่ปรุงให้กิน พวกนั้นกินได้ แต่ห้ามไปนั่งตามร้านอาหาร เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าอาหารตามร้านนั้นสะอาดแค่ไหน และเมื่อผูกผ้าเหลืองแล้ว ทุกคนจะต้องอุ้มลูกมะพร้าว ซึ่งจะจุดไฟเผาและทุ่มลงพื้นเพื่อป้องกันวิญญาณอันชั่วร้าย

    เวลาเที่ยงคืน สองคืนก่อนจะถึงวันไทพูซาม วัดมาเรียมมานในกรุงกัวลาลัมเปอร์เต็มไปด้วยเหล่าผู้อุทิศตน กลุ่มคนมารวมกัน ณ สถานที่ที่รถม้าจะออกเดินทางจากวัดแห่งนี้ไปยังถ้ำบาตู การครอบครองรถม้านี้สำคัญมาก และจะเกิดขึ้นก่อนวันไทพูซาม โดยทั่วไปแล้ว การครอบครองรถม้านั้นเป็นพิธีกรรมที่แสดงความเป็นราชา และรถม้าก็ออกเดินทางจากวัด ไปยังถ้ำบาตู รถม้าจะเดินทางเป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร และใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงเพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย ผู้อุทิศตนที่ซื่อสัตย์นับพันคนจะเดินเท้าไปกับรถม้าตลอดทั้งคืนนั้น

    เช้าตรู่ของวันสุดท้ายก่อนจะถึงวันไทพูซาม รถม้าก็เดินทางมาถึงถ้ำบาตู คนจำนวนมากจะมารอการมาถึงของรถม้า และจะเดินเข้าไปยังวัด ที่ซึ่งองค์เทพจะได้พำนัก และจากนั้นการสวดมนต์ก็จะเริ่มขึ้น เมื่ออัญเชิญองค์เทพเข้ามายังวัดแล้ว ก็จะประดิษฐานไว้ อาวุธทองคำหรือเวล ซึ่งเป็นอาวุธของไทพูซามจะถูกปลดออก และนำขึ้นไปยังถ้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์จะรับผู้อุทิศตนไว้พร้อมกับเครื่องบรรณาการ การมอบอาวุธหรือการปลดอาวุธนั้น เป็นหัวใจของเทศกาลไทพูซาม เวล หมายถึง หอก ซึ่งพระแม่ปารวตีถวายแด่พระขันทกุมาร เป็นอาวุธที่ใช้ต่อกรกับเหล่าอธรรม

    เมื่อธงขึ้นสู่ยอดเสา ก็แสดงว่าบัดนี้ เทศกาลไทพูซามมาถึงแล้ว ผู้อุทิศตนทั้งหมดจะมารวมตัวกันริมแม่น้ำ และอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ด้วยน้ำสะอาดจากแม่น้ำ การชำระร่างกายเป็นเพียงขั้นตอนแรกจากพิธีกรรมหลาย ๆ อย่างที่ผู้อุทิศตนจะต้องทำในวันไทพูซาม บ้างก็ทำสมาธิในขณะที่กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ภาวะภวังค์

    ผู้ศรัทธาจะเต้นรำทำท่าคลุ้มคลั่งเมื่อเวลหรือหอกถูกนำออกมาเพื่อทำพิธีเจาะร่างกาย ในขั้นนี้ผู้อุทิศตนหลายคนจะเริ่มเข้าสู่ห้วงภวังค์ ในขณะที่จิตใจและร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ภวังค์ที่เกิดขึ้นในตอนแรกนั้นไม่ยาวนาน และจะถูกแทนที่หลังจากที่ห่วงเจาะถูกแทงเข้าสู่ร่างกาย เหลือเพียงการรับรู้ในระดับเบาบาง การสวมกาวาดีในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเจาะร่างกาย แต่แท้จริงแล้วการเจาะก็เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง

    ห่วงที่เจาะนั้นเป็นตัวแทนของความไม่จีรังแห่งเนื้อหนังมังสา เนื้อหนังเป็นของชั่วคราว แต่ตัวตนภายในนั้นเป็นจิตวิญญาณอันถาวร และในทางปฏิบัติ ผู้เลื่อมใสจะเน้นย้ำสารนั้น เป็นการแสดงว่าผู้อุทิศตนนั้นเป็นตัวเชื่อมรวมแห่งวิญญาณ และร่างกายนั้นเป็นเพียงช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่าน แต่ความน่าอัศจรรย์มิใช่แค่นั้น สิ่งที่คนมากมายตื่นตาตื่นใจยังรวมไปถึงการที่ผู้อุทิศตนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าคุณต้องได้รับการยอมรับจากพระเจ้าเท่านั้น จึงจะประกอบพิธีกรรมนี้ได้โดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด หลังจากนั้นก็คือการเดินเท้าเปล่าขึ้นไปยังถ้ำบาตู
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ทุกวันนี้ ปู่หลาบ (หมอหลาบ) ศิษย์เอกของ ลป.ทิม นอกจากจะจัดยาสมุนไพรให้คนนำไปใช้รักษาอาการต่างๆแล้ว ยังสร้างพระโดยใช้ผงพรายในยุคเก่าที่มีอยู่ผสมทำพระขุนแผนออกมาให้คนที่อยากได้พระที่มีส่วนผสมผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมได้ไว้ใช้บูชากัน โดยเป็นการทำแจกเฉพาะกลุ่มแคบๆไม่ได้สร้างออกมาขายแบบเซียนพระบางคนในระยอง หรือกรุงเทพ หลายคนที่เอาไปใช้ก็บอกว่ามีประสบการณ์ดี แบบก็คล้ายๆพระขุนแผนของหลวงปู่ทิม ปู่หลาบเล่าว่า ผงพรายที่โยมสาย(ปู่สาย)มีอยู่นั้นเป็นของดีมากแบบหัวเชื้อเกรดเอ หนึ่งช้อนชาผสมผงเพื่อทำพระได้ 1 ตุ่มมังกร
     
  8. namo_2009

    namo_2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,432
    ค่าพลัง:
    +10,228
    สวัสดียามเช้า ขอให้วันนี้เป็นวันดีๆของทุกๆท่านครับ
     
  9. dorn3698

    dorn3698 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    524
    ค่าพลัง:
    +832
    อนุโมทนาผู้ร่วมสร้างพระทุกๆท่านครับ
     
  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การเขียนเรื่อง เล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับผงพราย ของอาถรรพ์ในกระทู้นี้ ก็ห่วงเหมือนกันว่าจะไปกระทบอารมย์ของอีกหลายๆคนที่ทั้งเจตนาดีและเจตนาแอบแฝง รวมถึงเวปมาสเตอร์ด้วยที่อาจเข้าใจไปว่าส่งเสริมให้มีการลุ่มหลงในกามกิเลส อันจะทำให้คิดและมองต่างมุมกันไปได้ไกลเลยเถิด หรือมีคำพูดประหนึ่งหวังดีแต่ประสงค์ร้าย

    คนอีกจำนวนมาก(มากกว่าผู้ปฏิบัติภาวนา)ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร ยังไม่หลุดพ้นในกามคุณห้าประการ ยังไม่มีเส้นทางบำเพ็ญเพื่อนิพพานเช่นที่บางคนใฝ่ฝันและนำมากล่าวอ้างไว้ การพูดดี การอวดว่าทำได้ดี ที่พบกันมากนั้นก็ตาม จะต่างกับการคิดดีและการทำดีมากมายนัก โลกเรามีสองด้านเสมอ มองในมุมใหนก็มีปรัชญาชีวิตให้ได้คิดและค้นหาไม่ต่างกัน แต่อยู่ที่ปัญญาจะแสวงหาสิ่งที่ดีและเป็นคุณกับตัวเองและสังคมส่วนใหญ่ มองให้เห็น ดูให้รู้ คิดให้ได้ และทำให้เป็น สำคัญกว่าการพูดดี

    การสร้างวัตถุมงคลเป็นอีกวิถีหนึ่งในสังคมชาวพุทธ เพียงแต่มีเป้่าหมายต่างๆกันไปและมีเนื้อในที่หลากหลาย ในกระทู้นี้เองก็ละเลี่ยงการนำพามาซึ่งสิ่งอันจะสื่อไปเฉพาะทางกามและเดรัจฉานวิชาทั้งปวง การสร้างวัตถุมงคลนั้นก็ได้ทำเพื่อประโยชน์สังคมส่วนใหญ่อย่างแท้จริงและเป็นแนวทางของฝ่ายขาว สิ่งอาถรรพ์ดำมืดต่างๆก็นำมาทำให้ขาวสะอาดก่อนการสร้างเป็นมงคลวัตถุที่ดี ไม่ได้ส่อไปในแนวยุยงหลงแหย่หรือมอมเมาให้ไหลหลงเช่นสำนักน้ำมันผีและตำหนักโหงพรายต่างๆ แต่ยังมีหลายคนจ้องมองและจับจุดไม่ถูกต้องและกล่าวหาว่าร้าย บางคนไม่เดียงสาและไม่เปิดหูเปิดตาให้รู้เรื่องอะไรมากไปกว่าชามที่คว่ำครอบตัวเองไว้ ก็หลับตาตั้งหน้าทำปากขมุบขมิบ สวดและชยันโต บางทีสิ่งที่คุณรู้อยู่ข้างเดียวและนิดเดียวนั้น หลายคนเลยผ่านมาแล้ว การเข้าใจธรรมชาติของคนและของโลกจึงจะนับว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ไม่ใช่แค่นั่งหลับๆตื่นๆแล้วบอกว่านี่คือทางนิพพาน
     
  11. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เสาร์ อาทิตย์ สองวันนี้ต้องไปดูงานต่างจังหวัด คงไม่ได้เข้ามาคุยกัน สถานปฏิบัติธรรมยังดำเนินโครงการอยู่ที่โคราช แต่ไม่อยากเอามาเขียนลงเท่านั้น เพราะมีบางท่านไปเที่ยวบอกว่ามาสร้างพระเพื่อหาเงินไปสร้างโครงการนี้ แท้จริงนั้นไม่ใช่เลย และเคยบอกแต่ต้นแล้วว่าไม่รับเงินบริจาคแม้สักบาทเดียว เมื่อเสร็จแล้วจะเปิดให้ใช้ฟรี ขอให้มีความสุขทุกคนนะครับ
     
  12. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173
    ดีเลยครับ เจอหน้าเมียพี่ภูครั้งหน้าจะได้มีเรื่องคุย...:cool:
     
  13. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    เมียพี่ภูใจดีครับ ไม่ค่อยพูด อยากเจอพวกเรากันอีกซักครั้ง ไม่รู้ว่าเมื่อไรดี แจ้งพี่ภูเมื่อวานโทรมาผมไม่ได้โทรกลับเพราะไม่ได้ยินนะครับพี่ ไปเห็นโทรศัพท์ miss call ขึ้นจะโทรกลับก็ดึกแล้ว เลยไม่กล้าโทร ขอโทษด้วยนะครับพี่
     
  14. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวัสดีทุกๆๆท่านครับ วันนี้ว่างทั้งวันครับ เดี๋ยวโทรหา โจ เจ อาร์ท เตอร์ นะครับ อิอิอิ
     
  15. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,573
    แหมมม ครบเซ็ทเลย....

    ถ้าโทรมาชวนไปทำงาน ผมป่วย

    โทรมาชวนไปดูสาวสวยๆ ผมไป

    โทรมาชวนหาของอร่อยไม่ว่าที่ใหน ผมไปหมด

    ที่ว่ามาทั้งหมด พี่เลี้ยงนะ ตามลำดับอาวุโส อิอิ(k)
     
  16. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160

    เห็นด้วยกับคำกล่าวของพี่หนุ่มครับ
     
  17. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160

    หวังว่าอนาคตใกล้ ๆ นี้ผมจะมีโอกาสไปร่วมกุศลที่สถานปฏิบัติธรรมที่โคราชด้วยคนนะครับ

    เดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพนะครับพี่หนุ่ม
     
  18. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    ขุนแผนพิมพ์ของหมอหลาบ มีพรรคพวกผมหลายคนนำไปใช้แล้วมีประสบการณ์ดีครับ เพียงแต่วงการไม่ยอมรับเท่านั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  19. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    ตำนานผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    เมื่อกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกร ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่องวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแด่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ ต่อไปในวันข้างหน้าโดยเฉพาะงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในการนี้หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้นั้น ในบรรดาลูกศิษย์ยุคแรกของหลวงปู่ทิมอิสริโกทั้งหมดไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการ เพราะต่างคนต่างก็เกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งโบราณกล่าวไว้ว่ามีความดุร้ายและหวงลูกมาก ถึงขั้นตามเอาชีวิตกันเลยทีเดียว มีแต่เพียง “หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ “ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำ ” กะโหลกพรายกุมาร “ วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสยดสยอง ทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด ) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น ”ผงพรายกุมารมหาภูติ “ ซึ่งหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา บารมีของหลวงปู่ทิม และคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิให้นั้น ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจ เกิดความปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ “ วิญญาณของาจารย์นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่ “ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวย้ำ การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งาม ยามดีวันดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ๙ รูป โดยหลวงปู่ทิมอิสริโก เป็นประธานสงฆ์ เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตินี้ หลวงปู่ทิมท่านได้
    ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูติเป็นมหาภูติขวาและซ้าย(พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูติซ้าย-ขวา) วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้วได้ผงพรายกุมารมหาภูติบริสุทธิ์สีขาวหม่นอมเทาประมาณ 1 ถาดใหญ่ เมื่อแบ่งผสมผงว่านมหามงคลจะได้ผงพรายกุมารมหาภูติเนื้อละเอียดสีน้ำตาลเข้มประมาณ 1 กะละมังใหญ่ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกุฎิหลวงปู่ทิม เมื่อจะทำพระเครื่องจึงจะขออนุญาตหลวงปู่ทิมไปตักแบ่งเอามาผสมผงที่จะกดพิมพ์พระอีกครั้งหนึ่ง.หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวยืนยันโดยเห็นกับตาตนเองว่า “ผงที่หลวงปู่ทิมอิสริโก เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ นั้น หลุดร่วงทะลุลอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นพระอุโบสถวัดละหารไร่ “ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินความจริงแต่อย่าง แต่กล่าวเปิดเผยเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ศรัทธาหลวงปู่ทิมอิสริโก จะได้เกิดความปิติ และซาบซึ้ง ในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิมอิสริโก หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา พระผงขุนแผนพรายกุมาร นับว่าท่านมีของวิเศษขั้นสูงอยู่กับ จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา หลวงปู่ท่านกล่าวว่าพระของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปไม่ช้าก็เร็ว
     
  20. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    ประมาณว่า วงการไม่ยอมรับ เพราะไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่มีของในมือให้ปั่นราคา ประมาณนี้ รึเปล่าครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...