พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การเดินรังสีจิตในพระเครื่อง หรือ ศิลปการใช้พระเครื่อง ตอนที่ 3<O:p</O:p

    ปรัศนี ประชากร (เขียนเมื่อ ปี พ.ศ. 2525)<O:p</O:p
    ลิขสิทธิ์ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลักษณะการเดินของรังสีจิต กับรังสีจิตที่อยู่ในสภาพถูกบรรจุในวัตถุมันต่างกัน ไฟฟ้าไม่เปิดสวิตมันก็ไม่เกิดแสงส่วาง การกรอกน้ำลงในขวดเสร็จแล้วรินออกได้ แต่ถ้าปิดจุกมันก็ไหลออกไม่ได้ สายไฟฟ้าดูดคนตายแต่ถ้าใช้สายยางห่อหุ้มมันก็ทำอันตรายเราไม่ได้ ถ้าเกิดรั่วก็เป็นอันตรายกระแสน้ำกระแสไฟฟ้ามีทางเดินคล้ายกระแสจิตไปกั้นมันเข้ามันก็ไม่มีทางออก ถึงจะออกได้ก็ชักช้าไม่ทันการ เป็นเช่นนี้พระสมเด็จราคาแสนจึงไม่สามารถช่วยอะไรได้ เห็นตายสนิททุกราย ใครว่าใช้พระสมเด็จแล้วไม่ตายโหง อาจเป็นได้ถ้ารู้จักการใช้ นายแพทย์ประจำ วัชรปานเคยกล่าวว่าผู้ใดที่มีพระร่วงหลังรางปืนสนิมแดงกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สวรรคโลก เรื่องการตายโหงแล้วรับรองไม่มี สำหรับเหตุผลในข้อนี้วินิจฉัยยากเพราะพระร่วงชนิดนี้มี จำนวนน้อยราคาสูงมาก และมักอยู่กับผู้มีชะตาวาสนาสูงส่ง โอกาสที่จะผจญอันตรายมีเปอร์เซ็นต์น้อย แต่ก็ปรากฏแล้วว่าผู้ที่แขวนพระร่วงชนิดนี้ และเป็นองค์ที่ได้รับรางวัลที่หนึ่ง ชนะการประกวดมาแล้วตายโหงไปแล้วว่าไงครับ วงการเงียบกริบ ควรออกหนังสือแสดงการตายของพระเครื่องเสียบ้างจะได้หยุดเล่นกันเสียที เล่นไม่ยุติธรรมเซียนพระผู้ยิ่งยงสองท่านขอสงวนนาม คนหนึ่งดูพระสมเด็จเก่งชะมัดถูกตีที่ศีรษะเย็บ 15 เข็ม อีกคนหนึ่งแขวนพระสมเด็จเต็มคอถูกฟาดด้วยเก้าอี้เหล็กฐานไปหลอกลวงเขาเย็บ 18 เข็มเท่านั้นครับไม่<O:p</O:p
    มากมายอะไรทหารปฏิบัติการรบที่จังหวัดชายแดนแขวนพระชนิดสายนับได้ 108 องค์เก๊ดีผมไม่ทราบ ทราบแต่เลี่ยมอัดหมดโดนสหายตอกด้วยปืนอาก้าเบาะ ๆ หยุดพูดเลย ต้องเชิญอาจารย์ชุมไชยคีรีไปแสดงอรรถาธิบาย คงมีพระของท่านปนอยู่ด้วย อาจารย์ชุมบอกว่ามันถึงคราวตาย สำหรับศาสตร์นี้จะอธิบายในตอนหลัง ผมจะยกตัวอย่างในการใช้พระอัดพลาสติกให้ดูสักหลายเรื่อง
    <O:p</O:p
    1. รูปไหว้ห้าครั้งของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจริญ ญาณวร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลือชื่อมาช้านานในด้านกันภูตผีปีศาจ ศิษย์หน้าวัดเขาบางทรายมีอาชีพขับรถยนต์รับจ้างถูกผีเข้าขณะที่มีรูปไหว้ห้าครั้งติดตัว เขาเชื่อพระคุณเจ้าว่าไม่มีอะไรกางกั้นกระแสจิตได้ จึงนำไปเลี่ยมอัดพลาสติกและได้รับผล ผีมันคอยโอกาสมานานแล้ว เกิดสงสัยจึงนำไปพิจารณาทางในดูปรากฏว่ารังสีจิตหมุนวนอยู่ภายในกรอบพลาสติกไม่สามารถออกมาได้ จริงตามที่เล่าลือ อีกรายหนึ่งถูกสุนัขที่บ้านกัดเข้าก็มีรูปไหว้ห้าครั้งอัดพลาสติกเช่นเดียวกัน ความจริงของ ๆ ท่านเก่งทางเขี้ยวงา และเคยปรากฏความศักดิ์สิทธิ์มาแล้วมากครั้ง จริงของ ๆ ท่านเก่งทางเขี้ยวงา และเคยปรากฏความศักดิ์สิทธิ์มาแล้วมากครั้ง <O:p</O:p
    2. เพื่อนฝูงคนหนึ่งเป็นหัวหน้าส่วนรัฐวิสาหกิจ แขวนพระชั้นดีเต็มคอแท้ทั้งนั้นแนะนำอย่างไรก็ไม่เชื่อ เชื่อวงการดีกว่า ถูกยิงด้วยปืนลูกกรด .22 ห้านัดเข้าทุกนัดอาการสาหัส เจอหน้าเข้าตีหน้าชอบกล <O:p</O:p
    3. เมื่อวันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 มีคนถูกยิงตาย และยิงไม่เข้าหลายรายผมขอร้องให้คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องนำเรื่องลงพร้อมกับถ่ายภาพคนที่ถูกยิงไม่เข้าปรากฏว่าเป็นชายชาวชนบท แขวนพระเครื่อง 3 องค์ ที่จำได้มีพระถ้ำเสือ พระปิดตาวัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ และพระอะไรอีกองค์หนึ่งจำไม่ได้ ปรากฏว่า เลี่ยมเปิดหมด ถ้าไม่เปิดรับรองสบายแน่ ส่วนที่เลี่ยมปิดตายเรียบทุกราย ไม่ตายก็สาหัส <O:p</O:p
    4. ที่ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกงชายผู้หนึ่งมีเหรียญหลวงพ่อดิ่งรุ่น 2481 ของแท้ติดตัวอยู่เหรียญหนึ่ง เคยถูกแทงด้วยมีดไม่เข้า และถูกตีด้วยไม้พายจนตกเรือก็ไม่เป็นไร ต่อมาขัดสนทางการเงินจึงขายให้นักเลงพระผู้หนึ่งไป เขาผู้นั้นก็นำไปเลี่ยมอัดอย่างดีตามคตินิยมได้ผลทันที ครั้งแรกถูกสุนัขกัดเป็นแผลเหวอะ ครั้งที่สองไปชนเหลี่ยมเสาเพียงเบาะ หน้าผากแตก ทำให้ผู้เป็นเจ้าของเหรียญงงยิ่งกว่าไก่ตาแตกจนมีเพื่อนล้อเลียนว่าแขวนเหรียญเก๊<O:p</O:p
    5. ที่ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกงมีผู้แขวนพระไตรภาคี คือพระสมเด็จ พระนางพญาพิษณุโลก พระผงสุพรรณวงการรับรองว่าเป็นของแท้ ขณะนั่งดูงิ้วรบกับเพลิน มีใครไม่ทราบแสดงงิ้วนอกโรงใช้มีดแทงทะลุหน้าอกถึงแก่ความตาย ปรากฏว่าเป็นพระเลี่ยมอัดพลาสติกตามคตินิยมเป็นการใช้พระนอกครู <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์
    (เป็นความเชื่อ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง

    <TABLE class=tborder id=post423082 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">20-12-2006, 06:42 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #47 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>toe<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_423082", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:02 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 1,595 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,221 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 11,597 ครั้ง ใน 1,471 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1430 [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_423082 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->โต..(ตัวปลอม)..เล่าเรื่องให้ฟังหน่อย..นะ...มีคุณโยมท่านหนึ่งมาทำบุญที่สำนัก ฯ..พระอาจารย์ท่านก็มอบพระสมเด็จผงยาวาสนาคะแนนร้อย..ให้ไปหนึ่งองค์...แกมาเล่าให้พระอาจารย์ฟังว่า..แกไปหาหมอๆ ฉีดยาให้แทงสามครั้งเข้า..แต่น้ำยาไม่เดิน...หมอถามว่า..มีของขังหรือเปล่าว..แกก็นึกถึงสมเด็จ ฯ ก็เลยเอาออกใส่กระเป๋า..ตอนนี้หมอฉีดยาให้สบายเลย...แกบอกว่า..ไม่อยากจะเชื่อเลย..แต่ก็ต้องเชื่ออย่างสนิดใจเลย...
    แต่เป็นที่น่าเสียดาย..เพราะพระของแกที่เหลี่ยมใส่กรอบพลาสติกอย่างดี..อากาศไม่เข้า..เพราะแกกลัวถูกน้ำ..พระแตกอยู่ในกรอบพลาสติก...(คุณสิทธิพงศ์ เคยบอกพระ อ. ว่า ต้องให้มีช่องอากาศธาตุ)
    และอีกอย่างแกเล่า..ว่า ใครคิดไม่ดี..ที่จะทำร้าย..หรือวางแผนการกลั้นแกล้ง..ผลจะสนองกับไปหาคนผู้นั้น...แต่แกบอกว่า..เราอย่างไปคิดไม่ดีกับเขานะ..แผ่เมตตาส่งไปให้ผู้นั้น..เราจะไม่รับสิ่งที่ไม่ดี..ขอส่งคืนไปให้ผู้นั้น...แกบอกว่า..ได้ผลมากๆๆ เลย..เพื่อนๆ หลายคนที่ได้รับไปก็บอกว่า..ได้ผลมากสมดังตั้งใจไว้ (แต่ต้องไม่เกินเลยนะ)
    มีคุณโยมท่านหนึ่ง..แกชอบนั่งสมาธิ มีความศรัทธาหลวงปู่เทพอุดร(นักปฏิบัติกัมมัฏฐาน)แกบอกว่า..พุทธคุณมากกว่าสมเด็จราคา 1-2 ล้าน 30 เท่าตัว อาตมาเอง..ขอพระ อ. ได้มาองค์แล้วแหละ..ได้ยินพระ อ. ท่านบอกว่า คุณสิทธิพงศ์ มอบให้ไว้ 200 กว่าองค์..หรือมากกว่านั้นก็ไม่ทราบ..แต่ที่ทราบใครทำบุญ 2,000 บาท ท่านจะมอบให้องค์หนึ่ง (ท่านบอกว่าไม่ใช่ขายพระแต่ให้ไว้เป็นอนุสรณ์ในการทำบุญ)สาธุ..สาธุ..สาธุ..
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
    โมทนาสาธุครับ


    ผมนำมาลงนี้จะให้เห็นมุมมองของทั้งพระคุณเจ้าที่วัดบ่อเงินบ่อทอง และผู้ที่ได้รับพระพิมพ์ผงยาวาสนา(ซึ่งบูชาจากหลวงพ่อแผนที่วัดบ่อเงินบ่อทอง)ครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post424588 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 09:02 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #469 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>toe<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_424588", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:02 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 1,595 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,221 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 11,597 ครั้ง ใน 1,471 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1430 [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_424588 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->[​IMG]

    โต...กุมารน้อย วันนี้ได้นำรูปภาพกุฎิดินที่สร้างเสร็จแล้ว(ต้นแบบ) ขณะนี้กำลังก่อสร้างกุฎิดินอยู่ โดยมีความยาว 5 เมตร ความกว้าง 3 เมตร โดยมีขนาดใหญ่กว่ากุฎิต้นแบบด้านกว้างและด้านยาวข้างละ 1 เมตร จึงขอแจ้งให้ญาติโยมทุกท่าน ที่ได้ร่วมบริจาคมา..นะ..จ๊ะ..สาธุ..สาธุ..สาธุ..
    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว
    <TABLE class=tborder id=post424651 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 10:02 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #470 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>toe<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_424651", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:02 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 1,595 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,221 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 11,597 ครั้ง ใน 1,471 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1430 [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_424651 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขออธิบาย..สูตรสร้างกุฏิดิน..เพื่อให้เป็นธรรมทานแก่..ท่านที่สนใจ..โดยใช้ดินตามท้องนา..นี้เละ..แต่ถ้ามีทราบผสมอยู่กับดิน..ต้องเป็นดิน 70% เป็นทราย 30% วิธีดูว่าดินกับทรายอย่างไหนจะมากกว่ากัน..ให้เอาแก้วน้ำมาใส่เกือพอประมาณแล้ว นำน้ำสอาดมาใส่ในแก้ว แล้วก็เอาดินใส่แก้วน้ำ..คนให้เข้ากันปล่อยทิ้งไว้ทรายกับดินจะแยกออกจากกัน เท่านี้ก็จะรู้แล้วว่า..ดินกับทราบอย่างไหนจะมากกว่ากัน...
    วิธีการทำอิฏดิน..เอาดินกับแกลบมาผสมกัน..สามต่อหนึ่ง โดยดินสองส่วนใช้แกลบหนึ่งส่วน...ทำแบบเท่ากับอิฏบล๊อคคือ ยาว 0.40 ซ.ม.กว้าง 0.20 ซ.ม.จะทำกี่ช่องก็ได้เท่าที่เรายกไหว...นำดินที่ผสมกับแกลบมาใส่ลงในแบบที่ทำไว้..ตากแดดไว้สักสาม..สี่..วัน ก็จะได้อิฏดินแล้ว..จ๊ะ..
    วิธีการก่ออิฏดิน..ให้ก่อทางแบนๆ ทับกัน (ไม่เอาสันทับ) เวลาฉาบก็ใช้ดินกับแกลบนั่นแหละฉาบเหมือนฉาบปูนซีเมนต์....วิธีแต่งหน้าต้องใช้แป้งเปียกกับทราบหยาบผสมกันและก็สีที่เราต้องการด้วย....
    ที่สร้างที่สำนัก ฯ นั้นพื้นปูกระเบื้อง...วงกบ หน้าต่าง ประตู ใช้ไม้เนื้อแข็ง มุงหลังคาด้วยหญ้าคา..(อันละ 9 บาท)โครงหลังคาเป็นไม้..อายุของดินอยู่ทนกว่าอิฏบล๊อคที่ทำด้วยปูน...(ยืนยันจากผู้ศึกษางานที่มาสารทิศให้) คุณภาพเวลาหน้าร้อนจะไม่ร้อนมาก...เวลาหน้าหนาวจะอุ่นสบายดี....มี ซี.ดี สาธิตการทำบ้านดิน..โดยอาจารย์อิสรา 085-777-8967 ลองสอบถามดู นะ..จ๊ะ..
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน

    http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-meditation.html#1


    <!-- InstanceBeginEditable name="content" --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "เกิดเป็นคนต้องช่วยตนเสียก่อน แล้วกลับย้อนช่วยคนอื่นจึงจะได้
    ต้องรู้จักฝึกหัดทั้งกายใจ จึงค่อยไปแนะคนอื่นให้ทำตาม"​

    [​IMG]วิปัสสนากรรมฐานคืออะไร
    วิปัสสนากรรมฐาน เป็นเรื่องของการศึกษาชีวิตเพื่อจะปลดเปลื้องความทุกข์นานาประการ ออกเสียจากชีวิต เป็นเรื่องของการค้นหาความจริงว่า ชีวิตมันคืออะไรกันแน่ ปกติเราปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามความเคยชินของมัน ปีแล้วปีเล่า มันมีแต่ความมืดบอด
    วิปัสสนากรรมฐาน เป็นเรื่องของการตีปัญหาซับซ้อนของชีวิต เป็นเรื่องของการค้นหาความจริงของชีวิตตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำมา
    วิปัสสนาฯ เป็นการเริ่มต้นในการปลดเปลื้องตัวเราให้พ้นจากความเป็นทางของความเคยชิน
    ในตัวเรานั้น เรามีของดีที่มีคุณค่าอยู่แล้ว คือ สติสัมปชัญญะ แต่เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่เป็นของมีคุณค่าแก่ชีวิตหาประมาณมิได้ วิปัสสนาฯ เป็นการระดมเอาสติทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวเรา เอาออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์
    วิปัสสนากรรมฐาน คือการอัญเชิญ สติ ที่ถูกทอดทิ้งขึ้นมานั่งบัลลังก์ของชีวิต เมื่อสติขึ้นมานั่งสู่บัลลังก์แล้ว จิตก็จะคลานเข้ามาหมอบถวายบังคมอยู่เบื้องหน้าสติ สติจะควบคุมจิตมิให้แส่ออกไปคบหาอารมณ์ต่าง ๆ ภายนอก ในที่สุดจิตก็จะค่อยคุ้นเคยกับการสงบอยู่กับอารมณ์เดียว เมื่อจิตสงบตั้งมั่นดีแล้ว การรู้ตามความจริงก็เป็นผลตามมา เมื่อนั้นแหละเราก็จะทราบได้ว่าความทุกข์มันมาจากไหน เราจะสกัดกั้นมันได้อย่างไร นั่นแหละผลงานของ สติ ละ
    ภายหลังจากได้ทุ่มเทสติสัมปชัญญะลงไปอย่างเต็มที่แล้ว จิตใจของผู้ปฏิบัติก็จะได้สัมผัสกับสัจจะแห่งสภาวธรรมต่าง ๆ อันผู้ปฏิบัติไม่เคยเห็นอย่างซึ้งใจมาก่อน ผลงานอันมีค่าล้ำเลิศของสติสัมปชัญญะ จะทำให้เราเห็นอย่างแจ้งชัดว่า ความทุกข์ร้อนนานาประการนั้น มันไหลเข้ามาสู่ชีวิตของเราทางช่องทวาร ๖ ช่องทวาร นั้นเป็นที่ต่อและบ่อเกิดสิ่งเหล่านี้คือ ขันธ์ ๕ จิต กิเลส
    ช่องทวาร ๖ นี้ ทางพระพุทธศาสนาท่านเรียกว่า อายตนะ อายตนะมีภายใน ๖ ภายนอก ๖ ดังนี้ อายตนะภายในมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อายตนะภายนอกมี รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (กายถูกต้องสัมผัส) ธรรมารมณ์ (อารมณ์ที่เกิดจากใจ) รวม ๑๒ อย่างนี้ มีหน้าที่ต่อกันแบบ คู่ คู่ คือ ตาคู่กับรูป หูคู่กับเสียง จมูกคู่กับกลิ่น ลิ้นคู่กับรส กายคู่กับการสัมผัสถูกต้อง ใจคู่กับอารมณ์ที่เกิดจากใจ เมื่ออายตนะคู่ใดคู่หนึ่ง ต่อถึงกันเข้า จิตก็จะเกิดขึ้น ณ ที่นั้นเองและจะดับไป ณ ที่นั้นทันที จึงเห็นไดว่า จิตไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน การที่เราเห็นว่าจิตเป็นตัวตนนั้น ก็เพราะว่าการเกิดดับของจิตรวดเร็วมาก การเกิดดับของจิต เป็นสันตติคือ เกิดดับต่อเนื่องไม่ขาดสาย เราจึงไม่มีทางทราบได้ถึงความไม่มีตัวตนของจิต ต่อเมื่อเราทำการกำหนด รูป นาม เป็นอารมณ์ตามระบบวิปัสสนากรรมฐาน ทำการสำรวม สติสัมปชัญญะอย่างมั่นคง จนจิตตั้งมั่นดีแล้ว เราจึงจะรู้เห็นการเกิด ดับ ของจิต รวมทั้งสภาวธรรมต่าง ๆ ตามความเป็นจริง
    การที่จิตเกิดทางอายตนะต่าง ๆ นั้นมันเป็นการทำงานร่วมกันของขันธ์ ๕ เช่น ตากระทบรูป เจตสิกต่าง ๆ ก็เกิดตามมาพร้อมกันคือ เวทนา เสวยอารมณ์ สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ สัญญา จำได้ว่ารูปอะไร สังขาร ทำหน้าที่ปรุงแต่ง วิญญาณ รู้ว่ารูปนี้ ดี ไม่ดี หรือเฉย ๆ ขาดสติกำหนดเป็นโมหะ อันนี้เองจะบันดาลให้อกุศลกรรมต่าง ๆ เกิดติดตามมา อันความประพฤติชั่วร้ายต่าง ๆ ก็จะเกิด ณ ตรงนี้เอง
    การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน โดยเอาสติเข้าไปตั้งกำกับจิตตามช่องทวารทั้ง ๖ เมื่อปฏิบัติได้ผลแก่กล้าแล้ว ก็จะเข้าติดต่ออายตนะทั้ง ๖ คู่นั้นไม่ให้ติดต่อกันได้โดยจะเห็นตามความเป็นจริงว่า เมื่อตากระทบรูปก็จะเห็นว่า สักแต่ว่าเป็นแค่รูปไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน บุคคลเราเข้าไม่ทำให้ความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่งให้เกิดความพอใจหรือไม่ พอใจเกิดขึ้น รูปก็จะดับลงอยู่ ณ ตรงนั้นเอง ไม่ให้ไหลเข้ามาสู่ภายในจิตใจได้ อกุศลกรรมทั้งหลายก็จะไม่ตามเข้ามา
    สติที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น นอกจากจะคอยสกัดกั้นกิเลสไม่ให้เข้ามาทางอายตนะแล้วยังเพ่งเล็งอยู่ที่รูปกับนาม เมื่อเพ่งอยู่ก็จะเห็นความเกิดดับของรูปนาม นั้นจักนำไปสู่การเห็นพระไตรลักษณ์ คือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีตัวตนของสังขารหรืออัตภาพอย่างแจ่มแจ้ง
    การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น จะมีผลน้อยมากเพียงใด อยู่ที่หลักใหญ่ ๓ ประการ
    ๑. อาตาปี ทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน
    ๒. สติมา มีสติ
    ๓. สัมปชาโนมีสัมปชัญญะอยู่กับรูปนามตลอดเวลาเป็นหลักสำคัญ
    นอกจากนั้นผู้ปฏิบัติต้องมีศรัทธา ความเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้มีผลจริง ความมีศรัทธาความเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้มีผลจริง ความมีศรัทธานี้ เปรียบประดุจเมล็ดพืชที่สมบูรณ์ พร้อมที่จะงอกงามได้ทันทีที่นำไปปลูก ความเพียร ประดุจน้ำที่พรมลงไปที่เมล็ดพืชนั้นเมื่อ เมล็ดพืชให้น้ำพรมลงไป ก็จะงอกงามสมบูรณ์ขึ้นทันที เพราะฉะนั้น ผู้ปฏิบัติจะได้ผลมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ด้วย
    การปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติจะต้องเปรียบเทียบดู จิตใจของเราในระหว่าง ๒ วาระ ว่า ก่อนที่ยังไม่ปฏิบัติและหลังการปฏิบัติแล้ว วิเคราะห์ตัวเองว่ามีความแตกต่างกันประการใด
    หมายเหตุ เรื่องของวิปัสสนากรรมฐานที่เขียนขึ้นดังต่อไปนี้ จะยึดถือเป็นตำราไม่ได้ ผู้เขียนเขียนขึ้น เป็นแนวปฏิบัติเท่านั้น โดยพยายามเขียนให้ง่ายแก่การศึกษา และปฏิบัติมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้เท่านั้นเอง
    วิปัสสนากรรมฐานธุระในพระศาสนามี ๒ อย่างคือ
    ๑. คันถธุระ
    ๒. วิปัสสนาธุระ
    คันถธุระ ได้แก่การศึกษาเล่าเรียนให้รู้เรื่องพระศาสนา และหลักศีลธรรม
    วิปัสสนาธุระ ได้แก่ธุระหรืองานอย่างสูงในพระศาสนา ซึ่งเป็นงานที่จะช่วยให้ผู้นับถือพระพุทธศาสนาได้รู้จักดับทุกข์ หรือเปลื้องทุกข์ออกจากตนได้มากน้อยตามควรแก่การปฏิบัติ ทางนี้ทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้คนพ้นทุกข์ตั้งแต่ทุกข์เล็กจนถึงทุกข์ใหญ่ เช่น การเกิด แก่ เจ็บตาย และเป็นทางปฏิบัติที่มีอยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
    วิปัสสนาธุระ คือ ส่วนมากเราเรียกกันว่า วิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง เมื่อกล่าวถึงกรรมฐานขอให้ผู้ปฏิบัติแยกกรรมฐานออกเป็น ๒ ประเภทเสียก่อนการปฏิบัติจึงจะไม่ปะปนกัน กรรมฐานมี ๒ ประเภทคือ
    • สมถกรรมฐาน กรรมฐานชนิดนี้เป็นอุบายให้ใจสงบคือ ใจที่อบรมในทางสมถะแล้วจะเกิดนิ่ง และเกาะอยู่กับอารมณ์หนึ่งเพียงอย่างเดียว อารมณ์ของสมถะกรรมฐานนั้น แบ่งออกเป็น ๔๐ กอง คือ กสิณ ๑๐ อสุภ ๑๐ อนุสติ ๑๐ พรหมวิหาร ๔ อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๑ จตุธาตุวัฏฐาน ๑ อรูปธรรม ๔
    • วิปัสสนากรรมฐาน เป็นอุบายให้เรืองปัญญา คือ เกิดปัญญาเห็นแจ้งหมายความว่า เห็นปัจจุบัน เห็นรูปนาม เห็นพระไตรลักษณ์ และเห็น มรรค ผล นิพพาน
    การเรียนรู้วิปัสสนากรรมฐานนั้นเรียนได้ ๒ อย่างคือ ๑. เรียนอันดับ ๒. เรียนสันโดษ
    การเรียนอันดับ คือ การเรียนให้รู้จัก ขันธ์ ๕ ว่าได้แก่อะไรบ้าง ย่อให้สั้นในทางปฏิบัติ เหลือเท่าใด ได้แก่อะไร เกิดที่ไหน เกิดเมื่อไร เมื่อเกิดขึ้นแล้วอะไรจะเกิดตามมาอีก จะกำหนดตรงไหนจึงจะถูกขันธ์ ๕ เมื่อกำหนดถูกแล้วจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง เป็นต้น นอกจากนี้ก็ต้องเรียนให้รู้เรื่องใน อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ อริยสัจ ๔ ปฏิจจสมุปบาท ๑๒ โดยละเอียดเสียก่อน เรียกว่า เรียนภาคปริยัติ วิปัสสนาภูมินั่นเอง แล้วจึงจะลงมือปฏิบัติได้
    การเรียนสันโดษ คือ การเรียนย่อ ๆ สั้น ๆ สอนเฉพาะที่ต้องปฏิบัติเท่านั้น เรียนชั่วโมงนี้ก็ปฏิบัติชั่วโมงนี้เลย เช่น สอนการเดินจงกรม สอนวิธีนั่ง กำหนด สอนวิธีกำหนดเวทนา สอนวิธีกำหนดจิต แล้วลงมือปฏิบัติเลย
    หลักใหญ่ในการปฏิบัติวิปัสสนาฯ มีหลักอยู่ ๓ ประการ คือ
    • อาตาปี ทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน
    • สติมา มีสติ คือระลึกอยู่เสมอว่าขณะนี้เราทำอะไร
    • สัมปชาโน มีสัมปชัญญะ คือขณะนี้ทำอะไรอยู่นั้นต้องรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน (ต่อครับ)

    http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-meditation.html#1

    [​IMG]สติปัฏฐาน ๔
    มักจะมีคำถามอยู่เสมอว่า เราจะปฏิบัติธรรมในแนวไหน หรือสำนักใด จึงจะเป็นการถูกต้องและได้ผล คำถามเช่นนี้เป็นคำถามที่ถูกต้องและไม่ควรถูกตำหนิว่าชอบเลือกนั่นเลือกนี่ ที่ถามก็เพื่อระวังไว้ไม่ให้เดินทางผิด ทางปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ ปฏิบัติตามสติปัฏฐาน ๔
    สติปัฏฐาน ๔ แปลให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ฐานที่ตั้งของสติ หรือ เหตุปัจจัยสำหรับปลูกสติให้เกิดขึ้นในฐานทั้ง ๔ คือ
    ๑. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การพิจารณากาย จำแนกโดยละเอียดมี ๑๔ อย่างคือ
    • อัสสาสะปัสสาสะ คือ ลมหายใจเข้าออก
    • อิริยาบถ ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน
    • อิริยาบถย่อย การก้าวไปข้างหน้า ถอยไปทางหลัง คู้ขาเหยียดขาออก งอแขนเข้า เหยียดแขนออก การถ่ายหนักถ่ายเบา การกิน การดื่ม การเคี้ยว ฯลฯ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายต่าง ๆ
    • ความเป็นปฏิกูลของร่างกาย (อาการ ๓๒)
    • การกำหนดร่างกายเป็นธาตุ ๔
    • ป่าช้า ๙
    ๒. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การเจริญสติ เอาเวทนาเป็นที่ตั้ง เวทนาแปลว่า การเสวยอารมณ์ มี ๓ อย่างคือ
    • สุขเวทนา
    • ทุกขเวทนา
    • อุเบกขาเวทนา
    เมื่อเวทนาเกิดขึ้น ก็ให้มีสติสัมปชัญญะกำหนดไปตามความเป็นจริงว่า เวทนานี้เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เวทนาก็สักแต่ว่าเวทนา ไม่ใช่สัตว์บุคคล ตัวตนเราเขา ไม่ยินดียินร้าย ตัณหาก็จะไม่เกิดขึ้น และปล่อยวางเสียได้ เวทนานี้เมื่อเจริญให้มาก ๆ เป็นไปอย่างสมบูรณ์แล้ว อาจทำให้ทุกขเวทนาลดน้อยลง หรือไม่มีอาการเลยก็เป็นได้ อย่างที่เรียกกันว่า สามารถแยก รูปนาม ออกจากกันได้ (เวทนาอย่างละเอียดมี ๙ อย่าง)
    ๓. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ได้แก่ การปลูกสติโดยเอา จิตเป็นอารมณ์ หรือเป็นฐานที่ตั้งจิตนี้มี ๑๖ คือ
    • จิตมีราคะ จิตปราศจากราคะ
    • จิตมีโทสะ จิตปราศจากโทสะ
    • จิตมีโมหะ จิตปราศจากโมหะ
    • จิตหดหู่ จิตฟุ้งซ่าน
    • จิตยิ่งใหญ่ (มหัคคตจิต) จิตไม่ยิ่งใหญ่ (อมหัคคตจิต)
    • จิตยิ่ง (สอุตตรจิต) จิตไม่ยิ่ง (อนุตตรจิต)
    • จิตตั้งมั่น จิตไม่ตั้งมั่น
    • จิตหลุดพ้น จิตไม่หลุดพ้น
    การทำวิปัสสนา ให้มีสติพิจารณากำหนดให้เห็นว่า จิตนี้เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้
    ๔. ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ มีสติพิจารณาธรรมทั้งหลายทั้งปวง คือ
    ๔.๑ นิวรณ์ คือ รู้ชัดในขณะนั้นว่า นิวรณ์ ๕ แต่ละอย่างมีอยู่ในใจ หรือไม่ ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้นได้อย่างไร ที่เกิดขึ้นแล้วจะละเสียได้อย่างไร ที่ละได้แล้วไม่เกิดขึ้นอีกต่อไปอย่างไร ให้รู้ชัดตามความเป็นจริงที่เป็นอยู่ในขณะนั้น
    ๔.๒ ขันธ์ ๕ คือ กำหนดรู้ว่าขันธ์ ๕ แต่ละอย่างคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร ดับไปได้อย่างไร
    ๔.๓ อายตนะ คือ รู้ชัดในอายตนะภายในภายนอกแต่ละอย่าง รู้ชัดในสังโยชน์ที่เกิดขึ้น เพราะอาศัยอายตนะนั้น ๆ รู้ชัดว่าสังโยชน์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้นได้อย่างไร ที่เกิดขึ้นแล้วละเสียได้อย่างไร
    ๔.๔ โพชฌงค์ คือ รู้ชัดในขณะนั้นว่า โพชฌงค์ ๗ แต่ละอย่างมีอยู่ในใจตนหรือไม่ ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้นได้อย่างไร ที่เกิดขึ้นแล้ว เจริญเต็มบริบูรณ์ได้อย่างไร
    สรุป ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน นี้คือ จิต ที่คิดเป็น กุศล อกุศล และ อัพยากฤต เท่านั้น ผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ต้องทำความเข้าใจอารมณ์ ๔ ประการให้ถูกต้องคือ
    ๑. กาย ทั่วร่างกายนี้ไม่มีอะไรสวยงามแม้แต่ส่วนเดียว ควรละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้
    ๒. เวทนา สุข ทุกข์ และไม่สุขไม่ทุกข์นั้นแท้จริงแล้วมีแต่ทุกข์ แม้เป็นสุขก็เพียงปิดบังความทุกข์ไว้
    ๓. จิต คือ ความนึกคิด เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงแปรผัน ไม่เที่ยง ไม่คงทน
    ๔. ธรรม คือ อารมณ์ที่เกิดกับจิต อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น เมื่อเหตุปัจจัยดับไป อารมณ์นั้นก็ดับไปด้วย ไม่มีสิ่งเป็นอัตตาใด ๆ เลย
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน (ต่อครับ)

    http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-meditation.html#1

    [​IMG]วิธีปฏิบัติกรรมฐานเืบื้องต้น
    การเดินจงกรม
    ก่อนเดินให้ยกมือไขว้หลัง มือขวาจับข้อมือซ้าย วางไว้ตรงกระเบนเหน็บ ยืนตัวตรง เงยหน้า หลับตา ให้ทำความรู้สึกโดย จิต สติ รู้อยู่ตั้งแต่กลางกระหม่อมแล้วกำหนด ยืนหนอ ๕ ครั้ง เบื้องต่ำตั้งแต่ปลายผมลงมาถึงปลายเท้า เบื้องบนตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมา ยืนหนอ ๕ ครั้ง แล้ว หลับตา ตั้งตรง ๆ เอาจิตปักไว้ที่กระหม่อม เอาสติตามดังนี้ ยืน……..(ถึงสะดือ) หนอ…..(ถึงปลายเท้า) หลับตาอย่าลืมตา นึกมะโนภาพ เอาจิตมอง ไม่ใช่มองเห็นด้วยสายตา ยืน……(จากปลายเท้าถึงสะดือ หยุด) แล้วก็หนอ…….ถึงปลายผม คนละครึ่ง พอทำได้แล้ว ภาวนา ยืน….หนอ จากปลายผม ถึงปลายเท้า ได้ทันที ไม่ต้องไปหยุดที่สะดือ แล้ว คล่องแคล่วว่องไว ถูกต้อง เป็นธรรม
    ขณะนั้นให้สติอยู่ที่ร่างกายอย่าให้ออกไปนอกกาย เสร็จแล้วลืมตาขึ้น ก้มหน้า ทอดสายตาไปข้างหน้าประมาณ ๔ ศอก สติจับอยู่ที่เท้า การเดิน กำหนดว่า ขวา ย่าง หนอ กำหนดในใจคำว่า ขวา ต้องยกส้นเท้าขวาขึ้นจากพื้นประมาณ ๒ นิ้ว เท้ากับใจนึกต้องให้พร้อม คำว่า ย่าง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าให้ช้าที่สุด เท้ายังไม่เหยียบพื้น คำว่า หนอ เท้าเหยียบพื้นเต็มฝ่าเท้า อย่าให้ส้นเท้าหลังเปิด เวลายกเท้าซ้ายก็เหมือนกัน กำหนดคำว่า ซ้าย ย่าง หนอ คงปฏิบัติเช่นเดียวกับ ขวา ย่าง หนอ ระยะก้าวในการเดินห่างกันประมาณ ๑ คืบ เป็นอย่างมาก เพื่อการทรงตัวขณะก้าวจะได้ดีขึ้น เมื่อเดินสุดสถานที่ใช้เดินแล้ว พยายามใช้เท้าขวาเป็นหลักคือ ขวา ย่าง หนอ แล้วตามด้วย เท้าซ้าย ย่าง หนอ จะประกบกันพอดี แล้วกำหนดว่า หยุดหนอ จากนั้นเงยหน้า หลับตากำหนด ยืน หนอ ช้า ๆ อีก ๕ ครั้ง เหมือนกับที่ได้อธิบายมาแล้ว ลืมตา ก้มหน้า ท่ากลับ การกลับกำหนดว่า กลับหนอ ๔ ครั้ง คำว่ากลับหนอ
    • ครั้งที่หนึ่ง ยกปลายเท้าขวา ใช้ส้นเท้าขวาหมุนตัวไปทางขวา ๙๐ องศา
    • ครั้งที่ ๒ ลากเท้าซ้ายมาติดกับเท้าขวา
    • ครั้งที่ ๓ ทำเหมือนครั้งที่ ๑
    • ครั้งที่ ๔ ทำเหมือนครั้งที่ ๒
    หากฝึกจนชำนาญแล้วเราสามารถกำหนดให้ละเอียดขึ้น โดยการหมุนตัวจาก ๙๐ องศา เป็น ๔๕ องศา จะเป็นการกลับหนอทั้งหมด ๘ ครั้ง
    เมื่ออยู่ในท่ากลับหลังแล้วต่อไปกำหนด ยืน หนอ ช้า ๆ อีก ๕ ครั้ง ลืมตา ก้มหน้า แล้วกำหนดเดินต่อไป กระทำเช่นนี้จนหมดเวลาที่ต้องการ
    การนั่ง
    กระทำต่อจากการเดินจงกรม อย่าให้ขาดตอนลงเมื่อเดินจงกรมถึงที่จะนั่ง ให้กำหนด ยืน หนอ อีก ๕ ครั้ง ตามที่กระทำมาแล้วเสียก่อน แล้วกำหนดปล่อยมือลงข้างตัวว่า ปล่อยมือหนอ ๆ ๆ ๆ ๆ ช้า ๆ จนกว่าจะลงสุดเวลานั่งค่อย ๆ ย่อตัวลงพร้อมกับกำหนดตามการการที่ทำไปจริง ๆ เช่น ย่อตัวหนอ ๆ ๆ ๆ เท้าพื้นหนอ ๆ ๆ คุกเข่าหนอ ๆ ๆ นั่งหนอ ๆ ๆ เป็นต้น
    วิธีนั่ง ให้นั่งขัดสมาธิ คือ ขาขวาทับขาซ้าย นั่งตัวตรง หลับตา เอาสติมาจับอยู่ที่สะดือที่ท้องพองยุบ เวลาหายใจเข้าท้องพอง กำหนดว่า พอง หนอ ใจนึกกับท้องที่พองต้องให้ทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน หายใจออกท้องยุบ กำหนดว่า ยุบ หนอ ใจนึกกับท้องที่ยุบต้องทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน ข้อสำคัญให้สติจับอยู่ที่ พอง ยุบ เท่านั้น อย่าดูลมที่จมูก อย่าตะเบ็งท้องให้มีความรู้สึก ตามความเป็นจริงว่าท้องพองไปข้างหน้า ท้องยุบมาทางหลัง อย่าให้เห็นเป็นไปว่า ท้องพองขึ้นข้างบน ท้องยุบลงข้างล่าง ให้กำหนดเช่นนี้ตลอดไป จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด
    เมื่อมีเวทนา เวทนาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะต้องบังเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติแน่นอน จะต้องมีความอดทนเป็นการสร้างขันติบารมี ไปด้วย ถ้าผู้ปฏิบัติขาดความอดทนเสียแล้ว การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้นก็ล้มเหลว
    ในขณะที่นั่งหรือเดินจงกรมอยู่นั้น ถ้ามีเวทนาความเจ็บ ปวด เมื่อย คัน ๆ เกิดขึ้นให้หยุดเดิน หรือหยุดกำหนดพองยุบ ให้เอาสติไปตั้งไว้ที่เวทนาเกิด และกำหนดไปตามความเป็นจริงว่า ปวดหนอ ๆ ๆ เจ็บหนอ ๆ ๆ คันหนอ ๆ ๆ เป็นต้น ให้กำหนดไปเรื่อย ๆ จนกว่าเวทนาจะหายไป เมื่อเวทนาหายไปแล้ว ก็ให้กำหนดนั่งหรือเดินต่อไป
    จิต เวลานั่งอยู่หรือเดินอยู่ ถ้าจิตคิดถึงบ้าน คิดถึงทรัพย์สินหรือคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ นา ๆ ก็ให้เอาสติปักลงที่ลิ้นปี่พร้อมกับกำหนดว่า คิดหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจิตจะหยุดคิด แม้ดีใจ เสียใจ หรือโกรธ ก็กำหนดเช่นเดียวกันว่า ดีใจหนอ ๆ ๆ ๆ เสียใจหนอ ๆ ๆ ๆ โกรธหนอ ๆ ๆ ๆ เป็นต้น
    เวลานอน
    เวลานอนค่อย ๆ เอนตัวนอนพร้อมกับกำหนดตามไปว่า นอนหนอ ๆ ๆ ๆ จนกว่าจะนอนเรียบร้อย ขณะนั้นให้เอาสติจับอยู่กับอาการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อนอนเรียบร้อยแล้วให้เอาสติมาจับที่ท้อง แล้วกำหนดว่า พองหนอ ยุบหนอ ต่อไปเรื่อย ๆ ให้คอยสังเกตให้ดีว่า จะหลับไป ตอนพอง หรือตอนยุบ
    อิริยาบถต่าง ๆ การเดินไปในที่ต่าง ๆ การเข้าห้องน้ำ การเข้าห้องส้วม การรับประทานอาหาร และการกระทำกิจการงานทั้งปวง ผู้ปฏิบัติต้องมีสติกำหนดอยู่ทุกขณะในอาการเหล่านี้ ตามความเป็นจริง คือ มีสติ สัมปชัญญะ เป็นปัจจุบัน อยู่ตลอดเวลา
    สรุปการกำหนดต่าง ๆ พอสังเขป ดังนี้
    ๑. ตาเห็นรูป จะหลับตาหรือลืมตาก็แล้วแต่ ให้ตั้งสติไว้ที่ตา กำหนดว่า เห็นหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าเห็นก็สักแต่ว่าเห็น ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้ ถ้าหลับตาอยู่ ก็กำหนดไปจนกว่าภาพนั้นจะหายไป
    ๒. หูได้ยินเสียง ให้ตั้งสติไว้ที่หู กำหนดว่า เสียงหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าเสียง ก็สักแต่ว่าเสียง ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้
    ๓. จมูกได้กลิ่น ตั้งสติไว้ที่จมูก กำหนดว่า กลิ่นหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกว่ากลิ่น ก็สักแต่ว่ากลิ่น ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้
    ๔. ลิ้นได้รส ตั้งสติไว้ที่ลิ้น กำหนดว่า รสหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกว่ารส ก็สักแต่ว่ารส ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้
    ๕. การถูกต้องสัมผัส ตั้งสติไว้ตรงที่สัมผัส กำหนดตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้
    ๖. ใจนึกคิดอารมณ์ ตั้งสติไว้ที่ลิ้นปี่ กำหนดว่า คิดหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าความนึกคิดจะหายไป
    ๗. อาการบางอย่างเกิดขึ้น กำหนดไม่ทัน หรือกำหนดไม่ถูกว่าจะกำหนดอย่างไร ตั้งสติไว้ที่ลิ้นปี่ กำหนดว่า รู้หนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าอาการนั้นจะหายไป
    การที่เรากำหนดจิต และตั้งสติไว้เช่นนี้ เพราะเหตุว่าจิตของเราอยู่ใต้บังคับของความโลภ ความโกรธ ความหลง เช่น ตาเห็นรูป ชอบใจ เป็นโลภะ ไม่ชอบใจ เป็นโทสะ ขาดสติไม่ได้กำหนด เป็นโมหะ หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายถูกต้องสัมผัส ก็เช่นเดียวกัน
    การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน โดยเอาสติเข้าไปตั้งกำกับตามอายตนะนั้น เมื่อปฏิบัติได้ผลแก่กล้าแล้ว ก็จะเข้าตัดที่ต่อของอายตนะต่าง ๆ เหล่านั้นมิให้ติดต่อกันได้ คือว่า เมื่อเห็นรูปก็สักแต่ว่าเห็น เมื่อได้ยินเสียงก็สักแต่ว่าได้ยิน ไม่ทำความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่งให้เกิดความพอใจหรือความไม่พอใจในสิ่งที่ปรากฎให้เห็น และได้ยินนั้น รูป และ เสียงที่ได้เห็นและได้ยินนั้นก็จะดับไป เกิด และดับ อยู่ที่นั้นเอง ไม่ไหลเข้ามาภายใน อกุศลธรรมความทุกข์ร้อนใจที่คอยจะติดตาม รูป เสียง และอายตนะภายนอกอื่น ๆ เข้ามาก็เข้าไม่ได้
    สติที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น นอกจากจะคอยสกัดกั้นอกุศลธรรม และความทุกข์ร้อนใจที่จะเข้ามาทางอายตนะแล้ว สติเพ่งอยู่ที่ รูป นาม เมื่อเพ่งเล็งอยู่ก็ย่อมเห็นความเกิดดับของ รูป นาม ที่ดำเนินไปตามอายตนะต่าง ๆ อย่างไม่ขาดสาย การเห็นการเกิดดับของ รูป นาม นั้นจะนำไปสู่การเห็น พระไตรลักษณ์ คือ ความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความไม่มีตัวตนของสังขาร หรือ อัตภาพอย่างแจ่มแจ้ง

     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน (ต่อครับ)

    http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-meditation.html#1

    [​IMG]อานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม
    จากหนังสือกฏแห่งกรรมเล่มที่ ๗ ภาคธรรมบรรยาย-ธรรมปฏิบัติ เรื่อง คติกรรมฐาน หน้า ๓๐๓ - ๓๐๔
    ๑. มีวินัยในตัวเอง 3 ประการคือ
    • ๑ รู้จักระวังตัว
    • ๒ รู้จักควบคุมตัวได้
    • ๓ รู้จักเชื่อฟังผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเด็กจะไม่เถียงผู้ใหญ่
    ๒. มีกิจนิสัย ๔ ประการ
    • <LI class=dotstyle>๑ ขยันไม่จับจด รักงาน สู้งาน <LI class=dotstyle>๒ ประหยัด รู้จักใช้ชีวิตและทรัพย์สินอย่างถูกต้องและคุ้มค่า <LI class=dotstyle>๓ พัฒนา รู้จักพัฒนาตัวเอง และอาชีพให้ดีขึ้น
    • ๔ สามัคคี รักครอบครัว รักหมู่คณะ และรักประเทศชาติ
    ๓. มีลักษณะนิสัย ๔ ประการ
    • <LI class=dotstyle>๑ มีสัมมาคารวะ <LI class=dotstyle>๒ อุตสาหะพยายาม <LI class=dotstyle>๓ ปฏิบัติตามระเบียบวินัย
    • ๔ รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ วางตัวได้เหมาะสม
    ๔. มีความรู้คู่กับคุณธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ๔ ประการได้
    • ๑ รู้จักคิด
    • ๒ รู้จักปรับตัว
    • ๓ รู้จักแก้ปัญหา
    • ๔ มีทักษะในการทำงานและค่านิยมที่ดีงามในอนาคต เจ้านายทิ้งลูกน้องไม่ได้ ลูกน้องทิ้งเจ้านายไม่ได้ เข้าหลักที่ว่า ผู้ใหญ่ดึง ผู้น้อยดัน คนเสมอกันจะได้อุปถัมภ์ค้ำจุนต่อไป
    ๕. อานิสงส์ในการเดินจงกรม
    • ๑. อดทนต่อการเดินทางไกล
    • ๒. อดทนต่อความเพียร
    • ๓. มีอาพาธน้อย
    • ๔. ย่อยอาหารได้ดี
    • ๕. สมาธิที่ได้ขณะเดินตั้งอยู่ได้นาน (ในปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย เล่ม ๓๒)
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน (จบครับ)

    http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-meditation.html#1


    [​IMG]วีดีโอสอน "การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน" โดย หลวงพ่อจรัญ
    วีดีโอการสอนชุดนี้ ได้ตัดต่อเป็นตอนๆ จาก "VCD การสอนสติปัฏฐาน ๔" ของ อ.สุจิตรา โดยคุณสมศักดิ์ ชูศรีขาว เป็นผู้นำมามอบให้ครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย่าประมาทนะ ขอบอก
    <O:p</O:p
    Date:<ST1:d Month="10" Day="18" Year="2005 Tue, 18 Oct 2005 </ST1:d<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]13:40:04</st1:time><O:p</O:p
    จาก FWD Mail ครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เพื่อนเป็นคนระยองไปเยี่ยมญาติป่วย ที่โรงพยาบาลจันทบุรี ด้วยความหิวน้ำจึงได้ซื้อโค้กมากินแต่เช็ดฝากระป๋องไม่สะอาด เมื่อกลับบ้านที่ระยอง
    ตกกลางคืนจู่ๆก็มีไข้แล้วชัก ภรรยานำส่ง ร.พ. ระยอง นอนอยู่สามวันหมอหาสาเหตุไม่พบ มีอาการไม่รู้ตัวตาถลน ญาติจึงนำเข้า ร.พ. กรุงเทพ เพราะสงสัยเป็นโรคฉี่หนู ปรากฏเป็นเช่นนั้นจริงๆ นอนไม่รู้ตัวอยู่สองอาทิตย์หลังจากนั้นค่อยดีขึ้นรักษาตัวอยู่หนึ่งเดือนครึ่ง
    หมดค่ารักษาแปดแสนกว่า แต่ความจำเสื่อม
    ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่งฟื้นฟูความจำพูดจาวกวน
    หมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพบอกว่านี่เป็นคนที่ไม่ถึงสิบที่หายจากโรคนี้ในเมืองไทยและถ้าเพื่อนหรือญาติใครเป็นให้ส่ง ร.พ. กรุงเทพ ด่วน เพราะเป็นที่เดี่ยวที่มีแพทย์เชี่ยวชาญเรื่องนี้เฉพาะ

    ช่วยอ่านหน่อย อันนี้สำคัญนี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ !!
    ซื้อโค้กกระป๋องหรือเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องชนิดใดก็ตาม
    ก่อนดื่มคุณต้องแน่ใจว่าได้ล้างฝากระป๋องด้วยน้ำก๊อกและสบู่แล้ว
    หรือถ้าไม่มีก็ขอให้ใช้หลอดดูดแทน
    เพื่อนคนหนึ่งของครอบครัวได้เสียชีวิตหลังจากดื่มโซดากระป๋อง
    โดยไม่ได้ล้างฝากระป๋องก่อนดื่มปรากฏว่า
    ที่ฝากระป๋องเต็มไปด้วยฉี่หนู
    ที่แห้งแล้วและเป็นพิษซึ่งมีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต!!!!
    เครื่องดื่มกระป๋องและอาหารกระป๋องมักถูกเก็บไว้ในโกดังเก็บของและตู้container
    ซึ่งมีหนูเข้ามาอยู่เต็มไปหมดและของเหล่านี้ก็จะถูกส่งต่อไปจำหน่ายยังร้านค้าปลีก
    ต่างๆ โดยที่ไม่ได้ทำความสะอาดอย่างถูกต้อง !!!
    โปรดส่งข้อความนี้ต่อไปยังคนที่คุณห่วงใย

    ขอบคุณ
    กองสาธาณสุข 02 564-6539
    <O:p</O:p
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มหาสติปัฏฐานสูตร และ อานิสงค์ของสติปัฏฐาน4<O:p</O:p


    สูตรว่าด้วยการตั้งสติอย่างใหญ่
    <O:p</O:p

    พระผู้มีพระภาคประทับ ณ นิคม ชื่อกัมมาสธัมมะ แคว้นกุรุ ตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า หนทางเป็นที่ไปอันเอกเพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ เพื่อก้าวล่วงความโศก ความคร่ำครวญ เพื่อให้ความทุกข์กายใจตั้งอยู่ไม่ได้ เพื่อบรรลุที่ต้องถูกต้อง เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน คือการตั้งสติ ๔ อย่างได้แก่-
    ๑. ตั้งสติกำหนดพิจารณากายในกาย ( กายส่วนย่อยในกายส่วนใหญ่ ).
    ๒. ตั้งสติกำหนดพิจารณาเวทนาในเวทนา ( ความรู้สึกอารมณ์ส่วนย่อยในความรู้สึกอารมณ์ส่วนใหญ่ ).
    ๓. ตั้งสติกำหนดพิจารณาในจิต ( จิตส่วนจิตย่อยในจิตส่วนใหญ่ คือจิตดวงใดดวงหนึ่ง ในจิตที่เกิดขึ้นดับไปมากดวง ).
    ๔. ตั้งสติกำหนดพิจารณา ธรรมในธรรม ( ธรรมส่วนย่อยในธรรมส่วนใหญ่ ).

    <O:p</O:p

    การพิจารณากายแบ่งออกเป็น ๖ ส่วน<O:p</O:p


    ๑. พิจารณากำหนดลมหายใจเข้าออก ( อานาปานบรรพ ).
    ๒. พิจารณาอิริยบถของกาย เช่น ยืน เดิน นั่ง นอน ( อิริยาปถบรรพ ).
    ๓. พิจารณารู้ตัวในความเคลื่อนไหว เช่น ก้าวไป ก้าวมา คู้แขน เหยีบดแขน กิน ดื่ม เป็นต้น ( สัมปชัญญบรรพ ).
    ๔. พิจารณาความน่าเกลียดของร่างกาย ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนย่อยต่าง ๆ มีผม ขน เป็นต้น ( ปฏิกูลมนสิการบรรพ).
    ๕. พิจารณาร่างกายโดยความเป็นธาตุ (ธาตุบรรพ ) .
    ๖. พิจารณาร่างกายที่เป็นศพ มีลักษณะต่าง ๆ ๙ อย่าง ( นวสีวถีกาบรรพ ).
    <O:p</O:p

    <O:p</O:p
    การพิจารณาเวทนา ( ความรู้สึกอารมณ์ ) ๙ อย่าง <O:p</O:p


    ๑. สุข
    ๒. ทุกข์
    ๓. ไม่ทุกข์ไม่สุข
    ๔. สุขประกอบด้วยอามิส ( เหยื่อล่อมีรูป เสียง เป็นต้น )
    ๕. สุขไม่ประกอบด้วยอามิส
    ๖. ทุกข์ประกอบด้วยอามิส
    ๗. ทุกข์ไม่ประกอบด้วยอามิส
    ๘. ไม่ทุกข์ไม่สุขประกอบด้วยอามิส
    ๙. ไม่ทุกข์ไม่สุขไม่ประกอบด้วยอามิส. <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    การพิจารณาเวทนาจิต ๑๖ อย่าง <O:p</O:p

    ๑. จิตมีราคะ ๒. จิตปราศจากราคะ ๓. จิตมีโทสะ ๔ . จิตปราศจากโทสะ ๕. จิตมีโมหะ ๖. จิตปราศจากโมหะ ๗. จิตหดหู่ ๘. จิตฟุ้งซ่าน ๙. จิตใหญ่ ( จิตในฌาน ) ๑๐. จิตไม่ใหญ่ ( จิตที่ไม่ถึงฌาน ) ๑๑. จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า ๑๒. จิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า ๑๓. จิตตั่งมั่น ๑๔. จิตไม่ตั่งมั่น ๑๕. จิตหลุดพ้น ๑๖. จิตไม่หลุดพ้น.

    <O:p</O:p

    การพิจารณาธรรมแบ่งออกเป็น ๕ ส่วน <O:p</O:p


    ๑. พิจารณาธรรมที่กั้นจิตมิให้บรรลุสมาธิ ที่เรียกว่านีวรณ์ ๕ ( นีวรณบรรพ ).
    ๒. พิจารณาขันธ์ ๕ คือ รูป , เวทนา , สัญญา , สังขาร, วิญญาณ ( ขันธบรรพ ).
    ๓. พิจารณาอายตนะภายใน ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ( อายตนบรรพ).
    ๔. พิจารณาธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ ๗ ที่เรียกว่าโพฌงค์ ( โพฌงคบรรพ ).
    ๕. พิจารณาอริยสัจจ์ ๔ (สัจจบรรพ). อนึ่ง การพิจารณากาย , เวทนา , จิต , ธรรม ทั้งสี่ข้อนี้ นอกจากมีรายการพิเศษดังกล่าวมาแล้ว ยังมีรายการพิจารณาที่ตรงกันอีก ๖ ประการ คือ ๑. ที่อยู่ภายใน ๒. ที่อยู่ภายนอก ๓. ที่อยู่ทั้งภายในภายนอก ๔. ทีมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ๕. ทีมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ๖. ที่มีทั้งความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา.

    <O:p</O:p

    อานิสงส์สติปัฏฐาน <O:p</O:p

    ครั้นแล้วทรงสรุปผลของการปฏิบัติ ในการตั้งสติ ๔ อย่างนี้ว่า จะเป็นเหตุให้ได้บรรลุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง คือบรรลุอรหัตตผลในปัจจุบัน ถ้ายังมีเชื้อเหลือ ก็จะได้บรรลุความเป็นพระอนาคามี ( ผู้ไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ) ภายใน ๗ ปี หรือลดลงมาโดยลำดับถึงภายใน ๗ วัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    *******************************************

    <O:p</O:p
    ขอแถมอีก 3 เรื่องนะครับ ตาม File ที่ผมแนบมา(จาก Fwd Mail ครับ)

    มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่เป็นเรื่องของรถยนต์ที่จอดอยู่ พวกมิจฉาชีพทำงานเร็วจริงๆ ระมัดระวังภัยกันด้วยครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]
    และขอขอบคุณ คุณสิทธิพงศ์ ที่นำความรู้หลากหลายมาเผยแพร่
    นับว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างยิ่ง สาธุครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รายนามผู้ร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง

    1.คุณลัดดา...จากชลบุรี จำนวน 5,000 บาท<O:p</O:p
    2.คุณ sacrifar จำนวน 300 บาท<O:p</O:p
    3.คุณhongsanart จำนวน 3,000 บาท<O:p</O:p
    4.คุณพรหมประกาศิต จำนวน 1,000 บาท<O:p</O:p
    5.คุณขุนท้าว จำนวน 1,000 บาท<O:p</O:p
    6.คุณพงษ์สิทธิ์ (น้องกานต์) จำนวน 50 บาท<O:p</O:p
    7.คุณramaniyo จำนวน 200 บาท<O:p</O:p
    8.นางลัดดา - นางสาว นารี - นางสาวนลินี ดำรงค์วิทย์ พ.จ.อ.สุริยะ - นางจารุวรรณ - นางสาวจรีรัตน์ เรืองเพิ่มพูล จำนวน 5,000 บาท<O:p</O:p
    9. คุณสุมาลี ขจรไชยกูล จำนวน 100.- บาท
    10. คุณนัยนา วุฒิไชยาธำรงศิลป์ จำนวน 300.- บาท
    11. คุณดรุณี แซ่ห่าน จำนวน 500.- บาท
    12. คุณวรรยา จิรายุพา จำนวน 100.- บาท<O:p</O:p
    13.คุณนิพนธ์ จำนวน 3,500 บาท<O:p</O:p
    14.คุณตามดูจิต จำนวน 600 บาท<O:p</O:p
    15.คุณMOUNTAIN จำนวน 300 บาท<O:p</O:p
    16.คุณpang 1972 จำนวน 5,400 บาท<O:p</O:p
    17.คุณguawn จำนวน 100 บาท<O:p</O:p
    18.คุณsithiphong จำนวน 300 บาท

    [​IMG]<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2006
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ยอดของคุณ KDUSIT เป็นยอดสร้างพระแม่ 200.- ครับ คุณหนุ่ม

    ยอดรวมจะเหลือ 26,750.-บาท ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2006
  16. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=61609
    บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม


    <TABLE class=tborder id=post406748 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">06-12-2006, 03:41 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_406748", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 08:57 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 879 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,748 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,069 ครั้ง ใน 793 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 708 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_406748 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]

    [​IMG]


    เนื่องจากสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ยังขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ปัจจุบัน ต้องซื้อน้ำจากเอกชนทีละหลายคันรถ ทำให้แต่ละเดือนต้องมีค่าใช้จ่ายมากพอสมควร หลวงพ่อแผนจึงมีดำริที่จะขุดบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำจากธรรมชาติมาใช้ แต่ก็ยังขาดแคลนปัจจัยที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 45,000 บาท หากท่านใดประสงค์จะช่วยเหลือ ก็สามารถบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีด้านล่างได้เลยครับ

    โรงเรียนปริยัติธรรม สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ก็ด้วยทุกท่านได้เมตตาช่วยเหลือ จนถึงปัจจุบันผ่านมา 1 ปีเต็มแล้ว ผมหวังว่าทุกท่านโปรดเมตตาช่วยเหลืออีกต่อไปคนละเล็กละน้อย อีกไม่นานโรงเรียนแห่งนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งการศึกษาเพื่อพระ-เณร และเด็กด้อยโอกาส และผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพออกมาเป็นกำลังสำคัญ ของพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ

    คุณ sithiphong ได้มอบพระพิมพ์มามอบให้ผู้ร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความเมตตาที่ท่านได้หยิบยื่นให้สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ดังนี้ครับ

    1. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้า เนื้อผงสีขาว ลงรักปัดด้วยผงทอง

    [​IMG]
    ขนาด 2.4 x 3.8 ซม เสกโดยหลวงปู่พระโสณเถรเจ้าและหลวงปู่อิเกสาโร
    มีจำนวน 4 องค์
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 1,000 บาท

    2. พระพิมพ์ไกเซอร์เล็ก เนื้อขาว

    [​IMG]
    ขนาด 2.2 x 3.2 ซม เสกโดยหลวงปู่อิเกสาโร
    มีจำนวน 5 องค์
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 500 บาท

    3. พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าคะแนนร้อย เนื้อขาวลงรักสีน้ำเงิน, แดง และดำ

    [​IMG]
    ขนาด 2.5 x 3.8 ซม เสกโดยสมเด็จโตและหลวงปู่อิเกสาโร
    มี สีน้ำเงิน 8 องค์, สีแดง 2 องค์ และ สีดำ 3 องค์
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 300 บาท

    4. พระพิมพ์จิตรลดาจิ๋ว เนื้อปัญจสิริ

    [​IMG]
    ขนาด 1.4 x 2 ซม เสกโดยหลวงปู่พระอุตรเถรเจ้า อิทธิคุณแรงมากแต่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้หญิงและเด็ก
    มีจำนวน 3 องค์
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 800 บาท

    5. พระพิมพ์สมเด็จผงยาวาสนาคะแนนร้อยแบบธรรมดา

    [​IMG]
    ขนาด 2.5 x 3.8 ซม เสกโดยคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์ เท่าที่ทราบนอกจากพระพิมพ์ผงยาจินดามณี(สีเทาดำ)แล้ว พิมพ์นี้เป็นอีกพิมพ์ที่เสกโดยหลวงปู่ทั้ง 5 องค์ จัดว่าเป็นสุดยอดของพระพิมพ์กรุวังหน้า
    มีจำนวน 15 องค์
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 2,200 บาท



    การบริจาค
    โอนเงินเข้าบัญชีต่อไปนี้
    พระมหาแผน ฐิติธัมโม 01-9408541
    สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง
    ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
    หมายเลขบัญชี : 203-0-06304-5
    ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ชื่อบัญชี : ร.ร.ปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง

    เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่คุณนักเดินทาง แล้วคุณนักเดินทางจะจัดส่งให้ครับ

    ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้จากกระทู้ เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ค่าแรงขุดเจาะ เครื่องสูบน้ำให้วัดป่าทุรกันดาร อุบลราชธานี
    http://larndham.net/index.php?showtopic=23122&st=0

    หรือกระทู้ สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ
    http://www.palungjit.org/board/showt...=43806&page=68


    ผมได้ฝากพระพิมพ์สมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี(สีดำ) ซึ่งเป็นพิมพ์พระคะแนนร้อยให้กับคุณนักเดินทาง เพื่อมอบให้กับผู้ที่ทำบุญกับวัดภูเหล่าเงินฮาง องค์ละ 2,200 บาท
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ


    <TABLE class=tborder id=post310544 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">วันนี้, 05:37 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right>#666 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_310544", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:38 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38
    ข้อความ: 785 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 2,343
    Thanked 3,612 Times in 633 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 554[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_310544><!-- message -->พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาจินดามณีคะแนนร้อยแบบขอบชิดซุ้ม คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ เสกโดยบรมครูพระเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์

    [​IMG]
    องค์ละ 2,200 บาท


    บูชาโดยการบริจาคให้วัดภูเหล่าเงินฮาง
    พระอ่อนสา ฐิติคุโณ
    ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด สาขากิโลศูนย์
    เลขบัญชี 340-4-11629-9
    เบอร์โทรพระอาจารย์สา 0895789600

    บริจาคแล้วแจ้งชื่อ-ที่อยู่มาที่คุณนักเดินทางผ่านทางข้อความส่วนตัว คุณนักเดินทางจะเป็นผู้จัดส่งพระพิมพ์ให้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ค่าแรงขุดเจาะ เครื่องสูบน้ำให้วัดป่าทุรกันดาร อุบลราชธานี

    http://larndham.net/index.php?showtopic=23122&st=0

    <TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD>เนื้อความ : (nina)</TD><TD></TD><TR><TD colSpan=2>
    ขอเรียนเชิญเพื่อนสมาชิกชาวลานธรรมและท่านผู้ใจบุญทุกท่านร่วมสมทบทุน
    ซื้อ เครื่องสูบน้ำ ท่อน้ำ ค่าแรงขุดเจาะน้ำบาดาล และ สร้างโรงครัวถวายแด่วัดภูเหล่าเงินฮาง หมู่บ้านศรีสมบูรณ์ ต.หนองทันน้ำ อ.กุดข้าวปุ้น จ.อบลราชธานี

    งบประมาณ 100,000 บาท โดยประมาณโครงการละ 50,000 บาท

    และถ้าเหลือจากนั้นจะใช้สำหรับสร้างแท๊งก์น้ำหรือเครื่องกรองน้ำสำหรับเป็นน้ำดื่ม สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาต่อไปค่ะ


    ได้สอบถามทางพระอาจารย์สาทำให้ทราบว่าตอนนี้วัดมีอยากจะได้แหล่งน้ำโดยจะขุดเจาะน้ำบาดาล แต่ยังไม่มีปัจจัยเพียงพอในค่าแรง ค่าซื้อเครื่องสูบน้ำ และท่อน้ำ ปัจจุบันน้ำดื่มใช้เป็นน้ำที่เป็นขวดที่ทางวัดต้องซื้อและอีกส่วนได้จากผู้จิตศรัทธาบริจาคให้ค่ะ
    ถ้ามีงบมาขุดเจาะน้ำบาดาลได้ ท่านก็จะนำดินนั้นมาถมสร้างโรงครัว เพราะพื้นวัดเป็นหินส่วนใหญ่ ถ้ามีโรงครัว ชาวบ้านก็สามารถมาหุงข้าวทำกับข้าวให้พระฉันได้ค่ะ

    ท่านที่มีจิตศรัทธาอยากร่วมทำบุญกับวัดป่าพระป่าก็สามารถร่วมทำได้โดยโอนเงินปัจจัยไปที่ท่านเจ้าอาวาสโดยตรงค่ะ นอกจากนี้ ถ้ามีปัจจัยพอจะนำไปสร้างแทงค์น้ำถวาย เพื่อจะได้แก้ปัญหาน้ำดื่มถาวรค่ะ


    ชื่อบัญชี พระอ่อนสา ฐิติคุโณ
    ธนาคาร กรุงเทพฯ จำกัด
    สาขา กิโลศูนย์
    เลขบัญชี 340-4-11629-9
    เบอร์โทรพระอาจารย์สา 089-578-9600
    เบอร์ฆารวาส อนุชา 01-966-5710 ( กรุงเทพ )

    โปรดแจ้งนาม หรือนามแฝงของท่านเพื่อนำรายชื่อกราบถวายพระอาจารย์
    ในกระทู้นี้ หรือแจ้งได้ที่ liusasitorn@yahoo.com

    โครงการนี้จะมีคุณอนุชาเป็นผู้ประสานงานที่กรุงเทพค่ะ

    รูปภาพในเบื้องต้นนี้สามารถเข้าไปชมได้ค่ะที่เว็บล่างนี้ ซึ่งคุณอนุชาจะนำมาโพสอัพเดทให้อีกเป็นระยะค่ะ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=43806 รูปภาพและเรื่องราวได้รับการขออนุญาตจากพระคุณเจ้าและคุณอนุชา ซึ่งเพื่อนเพื่อนสามารถอ่านข้อมูลเริ่มต้นในการร่วมกันสร้างวัดนี้ให้เป็นวัดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาค่ะ


    วัดนี้ยังจัดเป็นวัดที่ทุรกันดารอยู่มาก แม้ว่าจะทำบุญทอดกฐินผ่านไป ปัจจัยที่ได้ได้นำไปใช้ในการสร้างพระองค์ปฐม กุฏิพระ หนังสือธรรมะและติดตั้งไฟให้วัดได้มีไฟใช้ ซึ่งตอนนี้กำลังติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้ก็มีเรื่องน้ำและโรงครัวที่รอปัจจัยอยู่ค่ะ ขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมด้วยช่วยกันให้พระภิกษุสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาได้มีน้ำดื่ม น้ำใช้ และอาหารได้ฉันทุกมื้อค่ะ


    ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo-->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว
    บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม


    <TABLE class=tborder id=post386737 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>toe<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_386737", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:48 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 1,578 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,178 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 11,304 ครั้ง ใน 1,454 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1399 [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_386737 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ผู้ที่บริจาก1000บาทขึ้นไป ทางคณะผู้จัดสร้างพระแม่จะมอบ"ถุงมงคล" ให้หนึ่งใบ เป็นถุงผ้าแดงมีคำว่า"ซังอี้"(มงคลคู่)สีทองสวยงามมากๆ ข้างในถุงมงคลจะมีของมงคลมากมายจากทั้งในและต่างประเทศดังนี้:
    1.โหงวจี่(ถั่วงา-ข้าวสารเสกจาก9วัดใหญ่ในและต่างประเทศ)*หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง*


    2.ผงธูปอธิฐานจาก 7วัดใหญ่ในประเทศไทยและผงธูปจาก"องค์ไต๋ฮงกง"(อากงปอเต๊กตึ้งประเทศจีน)ผงธูปจากองค์"ตั่วเหล่าเอี้ย"(เจ้าพ่อเสือที่มีชื่อเสียงจากประเทศจีน)*หมายถึงพระญานของพระ-เทพเจ้าทั้งหลาย*


    3.ผ้ายันต์ขององค์พระแม่กวนอิม(พระอวโลกิเตศวร)ได้รับความอนุเคราะจากยาติผู้ใหญ่ที่นับถือเมื่อทราบข่าวในการบุญครั้งนี้จึงได้ให้ผ้ายันต์"กวนอิม"ที่เก็บมากว่า30ปีแล้ว 1 กล่องใหญ่*หมายถึงการปกปักรักษาคุ้มครอง*


    4.ไข่มุกเจ้าแม่กวนอิมจากวัด"เล่ง เร่ย ยี่(วัดมังกร เยาวราช)*หมายถึงความมั่งมีศรีสุขที่แปลว่า"ไฉจู"*


    5. ยันต์ขององค์"ไต้ ฮง กง"(หลวงปู่ปอเต๊กตึ้ง)*กันสิ่งอัปมงคล
    เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ท่านและครอบครัว*


    6.ทรายเสกหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลึงดำ)


    7.ทรายเสกคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมหลาย10ปีมาแล้ว "ของหายากไม่มีอีกแล้ว"


    8.ทรายเสกหลวงพ่อใหญ่(หลวงปู่สังวาล เขมโก)สุพรรณบุรี (หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วเพราะท่านทำให้คุณแม่เท่านั้น)

    9.แป้งเสกของ"หลวงปู่บุดดา" (หาไม่ได้อีกแล้วของเก่าของคุณแม่)
    ของมงคลทั้งหมดนี้ได้มาจากความอนุเคราะจาก"คุณแม่" "ญาติผู้ใหญ่"และ"ท่านผู้ใหญ่"ที่เคารพ เมื่อท่านทราบว่าจะทำบุญใหญ่ครั้งนี้จึงนำเอาของมงคลทั้งหลายมาให้เพื่อจัดสร้างองค์พระแม่กวนอิม ข้าพเจ้า(โต)ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้มีพระคุณทุกๆท่านที่เมตตาในครั้งนี้....กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง สาธุ สาธุ สาธุ


    จะมีพิธีสวดมนต์ใหญ่จากคณะ(บ้านบึง)ในงาน"ถวาย"พระแม่กวนอิม ของมงคลทุกอย่างจะเข้าร่วมพิธีด้วยเพื่อขอบรามีพระแม่กวนอิมให้ทุกๆท่านและครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญยึ่งๆขึ้นไป ...สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post414432 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 10:29 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#414 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>toe<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_414432", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:55 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 1,581 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,210 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 11,374 ครั้ง ใน 1,457 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1407 [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_414432 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->หลังวันที่16ม.ค ก็จะปิดรับร่วมบริจากสร้างพระแม่กวนอิมแล้วครับ....เพราะโตยุ่งมากจริงๆ จะเข้ามาในกระทู้บ่อยๆเหมือนทุกๆครั้งไม่ได้แล้ว ....จึงกราบเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมบุญกันเพื่อสร้างพระแม่กวนอิมปิดท้ายรายการ...สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>


    จากกระทู้ ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว
    บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

    <TABLE class=tborder id=post389238 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MOUNTAIN<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_389238", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:01 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 2,813 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 8,785 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 13,847 ครั้ง ใน 2,293 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1987 [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_389238 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->
    ผมจะนำรายชื่อผู้บริจาคทั้งหมดจารึกลงบนแผ่นโลหะ
    แล้วใส่ไว้ในถ้วยกังไสที่มีพระคาถา ไต่ปุ่ยจิว เขียนด้วยตัวหนังสือสีทอง
    รอบถ้วย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่านและครอบครัว สืบไปตราบนานเท่านาน และจะนำไปวางไว้หน้าแท่นบูชาพระแม่ฯวันประดิษฐาน ตลอดไป
    [​IMG]


    นอกจากนี้ ทุกรายชื่อ จะนำมาจับสลากเสี่ยงทาย ต่อหน้าองค์พระแม่
    เพื่อมอบสิ่งมงคลศักดิ์สิทธิ์ ให้กับผู้โชคดี จัดเป็นชุด(จำนวน 8 ชุด) ซึ่งอาจไม่เหมือนกันในแต่ละชุด
    ถือว่าเป็นสื่อแห่งความเมตตาของพระโพธิสัตว์กวนอิมที่จะมอบให้ นะครับ


    ผมกำลังเปิดกรุ หาของรางวัล สำหรับเสี่ยงทาย
    จับสลาก ต่อหน้าองค์พระแม่ฯ เพื่อมอบให้กับผู้
    ร่วมทำบุญ ที่มีโชค
    พอจะบอกคร่าวๆ เกี่ยวกับของรางวัล ดังนี้-

    พระพุทธรูปบูชา ขนาด 3 นิ้ว แกะจากหินที่ประทับ
    ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเทศอินเดีย
    ที่เขาคิชกูฏ

    พระพุทธรูปหินแกะ จากสถานที่พระพุทธองค์เสด็จประทับ
    เมืองอะไรจำไม่ได้แล้ว โดนน้ำแล้วจะกลายเป็นสีดำ ขนาด 2-3 นิ้ว

    พระพุทธรูปหินพระธาตุแกะสีขาว จากเขาสามร้อยยอด

    หินหยกแกะเป็นพระแม่กวนอิน ขนาดห้อยคอ

    ถ้วยใส่น้ำมีฝาปิด พานรองรูปบัว มีพระคาถาสีทอง
    มนต์มหากรุณาธารณีสีทอง รอบถ้วย จำนวน 8 ชุด
    ภายในถ้วยจะมีของมงคลใส่ไว้ให้อีกด้วย
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    ฯลฯ

    งานนี้จะพยายาม จัดให้ได้มากชุด เท่าที่จะจัดได้
    และคงเป็นงานที่ผมจะทุ่มเทของที่ผมเก็บสะสมมานาน
    มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ ด้วยวิธีเสี่ยงทายจับสลาก
    ท่านหนึ่งจะทำบุญเท่าไรก็ได้ ถือว่าได้ 1 สิทธิ์


    ขอให้ทุกท่านมีดวงตาเห็นธรรม นำพาชีวิตสู่บรมสุข และถึงซึ่ง
    พระนิพพานเป็นที่สุด สาธุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...