ซัดดัมเป็นพระโพธิสัตว์ ?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 21 ธันวาคม 2010.

  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : ..........................

    ตอบ : ถ้าใช้คำว่า เลว ไม่มีคนเลว แล้วก็ไม่มีคนดี มีแต่คนที่กำลังเป็นไปตามกรรม ซัดดัมนี่พวกเดียวกับคุณนั่นแหละ นั่นต้องพระโพธิสัตว์นะ ถ้าไม่ได้อย่างนั้นกำลังใจมันบ้าไม่พอ รู้ว่ารบไปก็แพ้ แต่กูจะสู้

    ถาม : อย่างนั้นนะหรือ โพธิสัตว์ ?

    ตอบ : เออ! ดูหน้าไว้ นั่นน่ะเพื่อนเอ็งล่ะ จำไว้ว่า พระโพธิสัตว์ ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ตามจะต้องเป็นผู้นำเขาเสมอ แล้วจิตใจจะเข้มแข็งกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคอะไรง่ายๆ

    ถาม : พระโพธิสัตว์ก็ลงนรกเยอะแยะเหมือนกัน

    ตอบ : เยอะ ขนาด นิตยะโพธิสัตว์ ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว เกิดเมื่อไหร่ ตรัสรู้เมื่อไหร่ ป่านนี้ยังอยู่ในนรกอยู่เลย

    ถาม : ใครครับ ?

    ตอบ : โตเทยยพราหมณ์


    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ (ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
  2. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ระวัง คำว่าพระโพธิสัตว์จะถูกเบี่ยงเบนกลายเป็นเรื่องของความชั่ว เหมือนคำว่าอรหันต์ที่ถูกสื่อมวลชนนำไปเป็นคำขยายของความชั่วแบบสูงสุด
     
  3. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    นิตยะโพธิสัตว์ ไม่มีตกนรกครับ
     
  4. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    หลวงปู่จาม ที่คำชะอี มุกดาหาร ก็เคยบอกว่า ทั้งซัดดัม และเหมา ก็เป็นพระโพธิสัตว์
     
  5. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,199
    ค่าพลัง:
    +3,381
    ใช่ โตเทยยพราหมณ์ท่านนี้หรือเปล่าคะ

    เรื่องมีอยู่ว่า สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน กรุงสาวัตถี มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อ โตเทยยะ ตาโตเทยยะนั้นเวลาพระพุทธเจ้าเดินผ่านบ้านเพื่อทรงบิณฑบาตรก็ด่ากราด เพราะตะแกเป็นพราหมณ์ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับศาสนา แกบอกกับลูกแกเสมอว่า ตายไปพระพรหมจะรับพ่อไปอยู่ด้วย
    หลังจากสิ้นอายุขัย ตาพราหมณ์ก็ไม่ได้ไปอยู่พรหมโลกอย่างที่หวัง กลับเกิดเป็นลูกหมาน้อยในเรื่อน มันมีลักษณะพิเศษคือ มันชอบกินอาหารหรูๆ นอนบนผ้าหรูๆ อาบน้ำด้วยน้ำหอม ไม่ชอบซุกซนเหมือนหมาทั่วๆไปและมันก็เป็นที่รักที่ชอบใจของลูกของพราหมณ์มากๆ
    อยู่มาวันหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จผ่านบ้านพราหมณ์ หมาน้อยก็กระโดดมาขวางทางแล้วเห่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    โตเทยยะ ท่านจะก่อเวรไปถึงไหน คราวก่อนๆที่ท่านด่าเราทำให้ท่านต้องมาเกิดเป็นสุนัขเช่นนี้ ยังไม่เพียงพอหรือ และเราจะบอกให้ท่านทราบ ท่านหลังจากตายไปจากชาตินี้จะได้ถือกำเนิดในมหานรก
    หมาน้อยได้ฟังก็สลดใจ เดินคอตกไปซุกฝุ่นที่เตา ลูกพราหมณ์กลับมาเห็น สอบถามคนใช้ในบ้านได้ความก็โกรธพระพุทธเจ้าสุดๆ จึงเดินทางไปวัดเชตวัน ไม่ไหว้ ไม่นั่ง ตะคอกว่า
    พระองค์มาว่าหมาข้าพระองค์ยังไม่พอ ยังว่าหมาคืออดีตพ่อหม่อมฉันอีก
    ดูก่อนพราหมณ์น้อย เรื่องที่เราตถาคตจะกล่าว จะกล่าวก็ต่อเมื่อมีประโยชน์ และเรื่องคราวนี้มีประโยชน์ต่อท่านตถาคตจึงได้กล่าว
    มีประโยชน์เช่นไร พระองค์มาว่าบิดาของข้าพระองค์เป็นหมา บิดาบอกเสมอว่าตายไปพระพรหมจะพาไปอยู่ด้วย
    ดูก่อนพราหมณ์ หากท่านไม่เชื่อ เราขอถามท่าน ก่อนตายบิดาของท่านได้ซ่อนอะไรไว้บ้าง
    ก็มีถาดทองคำราคาแสนตำลึง(สี่แสน) มาลาทองคำราคาแสนตำลึง รองเท้าทองคำและหม้อทองคำอย่างละแสนตำลึง
    ถ้าเช่นนั้นเราจะวิธีแก่ท่าน ถ้าท่านอยากรู้ว่าของเหล่านั้นอยู่ที่ไหน ให้บำรุงสุนัขของท่านให้ดี ให้นอนบนที่นอนอย่างดี หากสุนัขหรี่ตาเคลิ้มจะหลับ ให้กระซิบข้างหูว่า
    พ่อ ทรัพย์ที่ท่านไว้นั้น ลูกอยากได้
    สุนัขของท่านก็จะนำไปยังที่ซ่อนสมบัติ
    พราหมณ์น้อยคิดว่า หากไม่จริงเราก็จะโพนทนาพระพุทธเจ้าว่าพูดโกหกได้ แต่ถ้าจริงเราก็จะได้สมบัติคืน
    จึงไปทำตามที่พระพุทธเจ้าบอก พอหมาหรี่ตาก็กระซิบ หมาได้ยินก็รู้ว่าลูกรู้แล้วว่าตนเป็นใคร จึงกระโดดขึ้นแล้ววิ่งไปคุ้ยตรงดินที่ซ่อนสมบัติ นอกจากนี้ข้างล่างยังมีแก้วแหวนเงินทองอีกแปดสิบโกฏิ(แปดร้อยล้าน) พราหมณ์น้อยจึงเชื่อสนิทว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสนั้นจริง เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นบุคคลเหนือโลกจริงๆ และหันมานับถือพระพุทธศาสนา ใช้เงินทำบุญจนตลอดชีวิต ส่วนหมาโตเทยยะเพราะด่าพระพุทธเจ้าไว้เยอะ ตายไปเลยต้องตกนรก ถูกนายยมบาลเขามัดกับหลัก ใช้คีมลากลิ้นดึงจนขาด เป็นอย่างนี้นับหลายล้านปี


    [​IMG]


    คำพยากรณ์ เกี่ยวกับโตเทยยพราหมณ์ค่ะ

    อุเทศที่ ๘ เรื่อง พระนรสีห์พุทธเจ้า
    เมื่อศาสนาพระเทพพุทธเจ้าล่วงไปแล้ว โตเทยยพราหมณ์ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า นรสีห์ มีพระวรกายสูง ๖0 ศอกมีต้นแคฝอยเป็นไม้ตรัสรู้ ด้วยพุทธนุภาพจะมีข้าวสาลีหอมเกิดเป็นปกติ มหาชนไม่ต้องทำไร่ไถนา ไม่ต้องค้าขายอาศัยข้าวสาลีหอมบริโภค มีต้นกัลปพฤกษ์อุบัติขึ้นให้มหาชนอาศัย ใครต้องการสิ่งของอะไร ก็ไปสอยเอาจากต้นกัลปพฤกษ์นั้น ในอดีตชาาติโตเทยยพราหมณ์ เป็นพ่อค้าฃื่อนันทมาณพ ได้ถวายทานผ้ากัมพลผืนหนึ่งและทองแสนตำลึงแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ได้ตั้งความปรารถนาขอให้อานิสงค์แห่งการถวายทานนี้ ให้มีอำนาจแผ่ไปตลอดโยชน์ ๑ ในเบื้องบนและแผ่ไปตลอดโยชน์ ๑ ในเบื้องล่าง นางกุมารีคนหนึ่งพบพระปัจเจกพุทธเจ้า เรียนถามความเป็นไปในการถวายทานของนันทมาณพ แล้วถวายผ้าผืนหนึ่ง ปรารถนาเปรมเหสีในเวลาทสี่นันทมาณพเป็นพระราชา นันทมาณพและนางกุมาสรีได้ช่วยกันสร้างศาลาหลังหนึ่งในที่ถวายทานและให้ช่างสลักรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าทสสี่เสาศาลา เมื่อกาลผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งสองก็จุติไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นันทมาณพจุติจากดาวดึงส์สวรรค์ ลงมาเกิดเป็นพระเจ้าธรรมราชาในเมืองทวารวดี ส่วนนางกุมารี ครั้นจุติแล้ว ก็ได้มาเกิดเป็นธิดาเศรษฐี ในที่สุดได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าธรรมราชานั้น ครั้งจุติแล้ว พระโพธิสัตว์ ก็ได้เสวยมนุษย์สมบัติและเทพสมบัติเป็นอันมาก มาบังเกิดเป็นโตเทยยพราหมณ์ได้รับพุทธพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ ๑ ในอนาคต
     
  6. jedsadaphol

    jedsadaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +102
    ---

    สนใจอะไรคับ เพชรแท้จะแช่อยู่ในขี้ ก็ยังเป็นเพชรแท้ บางคนนี้ก้อแปลก ข้อมูลอะไรขัดกับความคิดตัวเอง แทนที่จะรับฟัง ก็ค้านลูกเดียว
     
  7. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +3,656
    พระโพธิสัตว์ตอนเริ่มปราถนามา ท่านก็ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ทั้งถูกและผิด ต้องรู้ว่าผิดเป็นยังไงถึงจะรู้จักถูกได้ ดังนั้นอาจจะต้องทำผิดก่อน กว่าจะมาทำถูกได้ กว่าจะบำเพ็ญบารมีแบบตรงตามทางก็ต้องใช้เวลาหลายชาติ ซัดดัมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
     
  8. เฉยฉิบ

    เฉยฉิบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +251
    ทำความเข้าใจเสียใหม่นะ
     
  9. hamstertaro

    hamstertaro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +406
    บางอย่างเราไม่รุ้จริงก็รับฟังกันนะครับ

    คนจะดีต้องรับฟังแล้วพิจารณา ครับ
     
  10. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    เห็นด้วยครับ นิตยโพธิสัตว์ยังไม่ได้บรรลุอริยผล ก็ลงนรกได้
    นรกเขาไม่เอาผู้ที่ได้ โสดาปัตติผลขึ้นไปลงนรกครับ
    พระโพธิสัตว์(ทุกระดับ) ก็ ยังมีความหลงผิดกันได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ธันวาคม 2010
  11. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ไม่อยากจะขัดน๊ะครับถ้าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผมว่าไม่น่าเอามานำเสนอน๊ะ
    ซัดดัมนี่ตามข่าวว่าโหดใช่ย่อย ความเป็นผู้นำน๊ะมี แต่ความไร้ซึ่งเมตตากรุณา
    อันเป็นปัจจัยหลักที่พระโพธิสัตว์ควรจะมี ซัดดัมมีเหรอ? แถมซัดดัมไม่ได้เป็นชาวพุทธ
    ซะด้วย...ระวังนิดนึงครับ ถ้าเป็นเรื่องพระพุทธเจ้าทรงทำนาย อันนี้จะไม่ขัดเลยน๊ะครับ
     
  12. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ความแม่นยำ ของญาณทัศนะ แม้แต่ พระอรหันต์ แต่ละองค์ ก็แม่นยำ ไม่เท่ากัน เปรียบเทียบกับ พระผู้มี ฤทธิ์ เป็นเลิศรองจาก พระพุทธเจ้า ก็คือ พระโมคคัลานะ ส่วนพระอรหันต์ แต่ละองค์ ก็จะน้อย ลดหลั่นกันไป
    กลับมาที่ ความแม่นยำ ของญาณทัศนะ มีแต่ พระพุทธเจ้า ที่จะแม่นยำ 100 % ดังนั้น การตรัส พยากรณ์ พระโพธิสัตย์ จึงมีเพียง พระพุทธเจ้า ที่ตรัส พยากรณ์ ส่วนพระอรหันต์ องค์ อื่น จึงไม่ พยากรณ์ พระโพธิสัตย์ เพราะจะไม่แม่นยำ 100 %
    ดังนั้น พระ ผู้มี รู้ มี ญาณทัศนะ ในปัจจุบัน ท่านอาจจะ พูดในสิ่งที่ ท่าน รู้ จาก ญาณทัศนะ ของท่าน จริง แต่ ญาณทัศนะของท่าน ยังไม่แม่นยำ 100 % จึงอาจจะมี ผิดพลาด คลาดเคลือน ได้ ครับ

    ขอกราบ อนุโมทนา สาธุ กับทุกท่านที่ สร้างบารมีเพื่อ พุทธภูมิ ครับ


    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น สรณะ คือที่พึ่งที่ระลึก อันสูงสุด สิ่งอื่นไม่ใช่
    พระโพธิสัตย์ ยังไม่ใช่ สรณะ คือที่พึ่งที่ระลึก อันสูงสุด
    นอกจากว่า พระโพธิสัตย์ท่านนั้น จะได้บวชเป็นพระสงฆ์แล้ว

    ข้าพเจ้าขอขมา ต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หากได้ล่วงเกิน ด้วยกาย วาจา ใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2010
  13. jedsadaphol

    jedsadaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +102
    ้เห็นด้วยคับ นาทีนี้ ไม่ใช่หลวงตาบัวพูด ไม่เชื่อหรอก อิอิ
     
  14. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    ไม่เห็นต้องทำความเข้าใจอะไรใหม่เลย

    ผมยืนยันคำเดิม พระนิตยโพธิสัตว์ ไม่ตกนรก

    บารมีของท่านหาประมาณไม่ได้ พระนิตยโพธิสัตว์

    เที่ยงตรงต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างไม่หวั่นไหว

    บารมีทั้ง10 ก็บำเพ็ญอย่างปรมัตรบารมี แล้วจะหานรกจากไหน

    ประตูนรกมันปิดไปนานแล้วสำหรับท่าน แต่คนที่กล่าวหาท่านนั้นนรกรับหรือป่าว

    ผมก็ไม่อาจกล่าวได้
     
  15. สยามจินดา

    สยามจินดา Siamjinda

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2010
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +70
    พระโพธิสัตว์ นี้ นั้น ท่านได้อยุ่เหนือ เวลา เหนือแสง เหนือกรรมแล้วหรือยัง ถ้ายัง ก็มีนรกมีสวรรค์ได้ แต่หากเหนือแล้ว ก็ไม่มีปัจจัยอีกครับ

    เราท่านนั้นเป็น ปุถุชน มิอาจเข้าใจ พระโพธิสัตว์หรอก
     
  16. wirat_lor

    wirat_lor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +788
    ลองลงไปดูให้เห็นจริงดีกว่ามั้ยครับ จะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน

    ใครลองลงไปดูได้ ช่วยมาตอบให้ด้วยนะครับ
     
  17. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,642
    ลองไปศึกษาทศชาดกและบุพกรรมของพระพุทธเจ้าใหม่ดูน่ะครับ คุณได้จะเข้าใจมากยิ่งขึ้น :)
     
  18. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    แล้วคุณรู้มั้นว่า พระนิตยโพธิสัตว์ท่านเทียบได้เท่ากับ พระอริยชั้นพิเศษ

    บุพกรรมของพระพุทธเจ้า ท่านเล่ามั้ยว่านานเท่าไหร่ และสมัยไหน ก่อนบำเพ็ญหรือหลังบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ และก่อนหรือหลังพุทธทำนาย

    บารมีพระนิตยโพธิสัตว์นั้นล้นฟ้ามหาสมุทร แต่ผู้มากล่าวว่าท่านอยู่นรกนี่เทียบไม่ได้เลย

    อย่าเอาไม้ขีดไปแข่งกับตะวันเลยครับ บำเพ็ญยังได้ไม่ถึงครึ่งท่านด้วยซ้ำ

    ประตูนิพพานน่ะ พระนิตยโพธิสัตว์ ท่านจะเปิดเมื่อไหร่ก็ได้ ท่านจ่ออยู่แค่ปากประตูแล้ว แต่ท่านไม่ทำ เพราะท่านเมตตาไม่อยากทิ้งใครไว้ให้ลำบาก

    ผมยอมรับว่าท่านก็ดีของท่านในระดับนึง แต่ถ้าให้เทียบกับพระนิตยโพธิสัตว์นั้น
    มันคนละเรื่องเลย
     
  19. unlogi

    unlogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +41
    ชอบๆ..................
     
  20. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603

    ใจเย็นๆๆนะครับ ผมจะอธิบายให้ท่านอ่าน ตามที่ท่านโพสต์มานะครับ

    - องค์นิตยโพธิสัตว์(เป็นพุทธภูมิ) เทียบกับพระอริยะเจ้า(โสดาบัน สกทาคา อนาทาคาและอรหันต์ = สาวกภูมิ) ไม่ได้นะครับ เพราะคนละภูมิและในด้านบารมีก็ต่างกันมากด้วย

    - เรื่องบุพกรรมของพระพุทธเจ้า นั้น พระองค์ตรัสไว้แล้วมี 13 อย่าง(ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ตอนไหนเพราะไม่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฏก)

    - ครับบารมีขององค์นิตยโพธิสัตว์เยอะมาก เช่น องค์พระเวสสันดรมหาโพธิสัตว์ก็สั่งสมบารมีมา ๒๐ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์

    - ในที่นี้ยังไม่มีใครไปแข่งบารมีกับองค์นิตยโพธิสัตว์ เลยนะครับ ท่านอ่านดีๆๆนะ

    - เรื่องประตูนิพพานนั้น องค์นิตยโพธิสัตว์จะเปิดไม่ได้เลย และท่านก็ไม่ได้ไปจ่อที่ประตูด้วย ท่านมีแต่พยายามสร้างบารมีให้เต็มทั้ง ๓๐ ทัศน์เพื่อที่จะให้ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าและหลังจากนั้น พระองค์ก็จะได้รื้อสัตว์ขนสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นทะเลทุกข์ทั้งหลาย นั้นละครับตอนนั้นท่านได้เปิดประตูนิพพานนะ

    ท่านลองอ่านบุพกรรมบางข้อขององค์โชติปาละนิตยโพธิสัตว์(ที่พระพุทธเจ้าทรงเทศน์ไว้นะครับ)


    เรื่อง สบประมาทผู้อื่น จึงต้องประสบทุกข์

    คราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้ทรงตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์ ให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า
    เราเมื่อครั้งเกิดเป็นมาณพ ชื่อโชติปาละ ได้กล่าวประสบประมาทพระกัสสปพุทธเจ้าว่า การตรัสรู้ที่โคนต้นโพธิ์จักมีมาแต่ที่ไหน การตรัสรู้หาได้แสนยาก
    ด้วยผลกรรมนั้น(ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระโพธิสัตว์ต้องเสวยทุกข์ในอบายเป็นเวลานาน ) เราจึงได้บำเพ็ญทุกรกิริยานานถึง ๖ ปี แต่ว่า เราก็มิได้บรรลุพระโพธิญาณที่สูงสุด ด้วยทางนี้ ต่อมา จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ ที่ตำบลอุรุเวลา เราถูกกรรมในปางก่อนตักเตือนแล้ว จึงแสวงหาโพธิญาณผิดทาง เราสิ้นบาปสิ้นบุญแล้ว ปราศจากความเร่าร้อนทุกอย่าง ไม่มีความเศร้าโศก ไม่มีความคับแค้น ไม่มีอาสวะ จักปรินิพพาน พระพุทธเจ้าได้ทรงบรรลุกำลังแห่งอภิญญาทั้งปวง ทรงพยากรณ์บุพกรรมเช่นนี้ มุ่งหวังประโยชน์สำหรับหมู่ภิกษุ ณ สระอโนดาต ด้วยประการฉะนี้แล
    ตรงนี้ มีเนื้อความกล่าวไว้ว่า หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถโพธิสัตว์ ทรงครองฆราวาสอยู่ ๒๙ ปี ทรงเห็นนิมิต ๔ ทำความสังเวชให้เกิดขึ้น ขึ้นม้ากัณฐกะพร้อมกับนายฉันนะออกไป ทรงรับสมณบริขารที่มหาพรหมถวาย แล้วผนวชที่ริ่มฝั่งแม่น้ำอโนมานทีบำเพ็ญเพียรประพฤติทุกรกิริยาอย่างหนักอยู่ ๖ ปี อาทิเช่น กดฟันด้วยฟัน ใช้ลิ้นดันเพดานไว้แน่น ใช้จิตข่มคั้นจิต ทำจิตให้เร้าร้อน เมื่อทำเช่นนั้น เหงื่อก็ไหลออกจากรักแร้ทั้ง ๒ ข้าง กลั้นลมหายใจเข้า-ออกทั้งทางปาก-จมูก ทำให้ลมออกทางหูทั้ง ๒ ข้าง มีเสียงดังอู้ ๆ และเกิดลมแรงกล้าเสียดแทงศีรษะ ทำให้เกิดทุกขเวทนาในศีรษะอย่างแรงกล้า ทำให้เกิดลมอันแรงกล้าบาดในช่องท้อง
    เมื่อพระองค์ประพฤติตนเช่นนี้แล้ว ทำให้เกิดความกระวนกระวายในร่างกายอย่างแรงกล้า ทำให้เกิดกายกระสับกระส่ายไม่สงบ ต่อมาก็ลดอาหารที่ละน้อย จนฉันอาหารประมาณเท่าเมล็ดถั่วพูและเมล็ดบัว จึงทำให้ร่างกายซูบผอมมาก เดินไปไหนก็ซวนเซล้มลง ณ ที่นั้น จนชนทั้งหลายเห็นแล้ว พากันทักต่าง ๆ นานา ทำให้ได้คิด จึงเปลี่ยนวิธีปฏิบัติเสียใหม่ กลับมาฉันอาหารตามเดิม แล้วปฏิบัติฌาน ๔ และวิชชา ๓ จึงตรัสรู้พระพุทธเจ้า (จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ) ภายใต้ต้นโพธิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...