ใครเคยอ่านหนังสือ The Secret บ้างคะ

อ่านเถอะค่ะ ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร ไม่ได้อยู่ที่หนังสือนะค่ะ หนังสือแค่ชักจูง ชักนำ แต่ความคิดเราเป็นใหญ่ สำเร็จ หรือไม่สำเร็จ ก็อยู่ที่เราคิดค่ะ ไม่ลองไม่รู้ ไม่ดูไม่เห็น ไม่ทำ็ก็ไม่เป็นค่ะ ใครพูดอะไรอย่าไปยึดคำพูดใคร หากเรารองปฎิบัติดูแล้วก็เชื่อตามสิ่งที่เราประสบพบเจอเองค่ะ เพราะไม่มีใครมายืนยันกับเราได้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรจริงไม่จริงค่ะ นอกจากตัวเราเอง

 

ขอถามอีกนิดค่ะ คุณอุ้ม
กฎของแรงดึงดูด สามารถใช้ในการดลใจคนได้ด้วยหรือป่าวคะ
เช่น เราอยากให้แฟนเก่ากลับมาหาเรา ต่างคน ต่างยังไม่มีใคร
เราสามารถใช้ ความเชื่อกฎของแรงดึงดูด ดลใจให้ใครคนนั้นกลับมารักกันกับเราได้อีกไหมคะ

ขออภัยหากฟังดูไร้สาระ แต่ดิฉัน สงสัยจริงๆค่ะ

^^

 

อุ้มเคยรองใช้กฎของแรงดึงดูด ให้ดึงคนที่เราต้องการมาหาเรา อุ้มคิดไม่ถึงสามชั่วโมงก็มีข้อความเข้ามาเลยค่ะ แต่ก่อนหน้านั้น อุ้มคิดอยู่หลายวันก่อนแล้วค่ะ ก็แสดงว่ากฎแห่งการดึงดูดรับรู้ความคิดเราตั้งแต่วันแรกที่เราคิดถึงเขาแล้วค่ะ แล้วจะดึงดูดสิ่งที่เราคิดมาหาเรา ให้เราประสบพบเจอจริงๆ เรื่องนี้อุ้ืมเจอจนชินแล้วค่ะ เวลาคิดถึงใครมากๆ มาเลย แต่ในส่วนของเรื่องความรักที่จะกลับมารักกัน ก็ขึ้นอยู่ที่ความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายยังมีต่อกันอยู่หรือไม่ค่ะ คุณอย่าลืมว่าถ้าพลังกฎแห่งการดึงดูดทำงานให้เราก็ต้องทำงานให้เขาเช่นกัน ถ้าความคิดเขายังไม่ได้อยากที่จะกลับมา มันก็จะขัดแย้งกัน แต่ถ้าความคิดเขาตรงกับเราพลังดึงดูเหมือนกันทั้งสองคน ก็น่าจะกลับมาแฮปปี้ได้เหมือนเดิม

คุณไม่ได้ไร้สาระหรอกค่ะ เพราะบนโลกใบนี้มีอะไรที่ไร้สาระกว่าความคิดเราอีกเยอะ เพียงแต่เราต้องรู้จักนำสิ่งที่ดีๆออกมาใช้ ตอนแรกอุ้มก็รู้สึกขัดแย้งมาว่ามันจะเป็นไปได้ไง แต่หลังๆพอทำจริงๆก็ เอ้อ แฮะ มันได้ผลจริงๆนี่หว่า ทำไปๆ เรื่อยๆก็ยิ่งเชื่อเต็มร้อยว่ามันได้จริงๆ เนี่ยถ้าอุ้มเขียนประสบการณ์ตัวเองเกี่ยวกับกฎแห่งการดึงดูดนะ ก็คงจะได้พ๊อกเก๊ตบุ๊กเล่มนึงแล้วละค่ะ จากที่เคยแต่อยากได้ แล้วไม่ได้ เดี๋ยวนี้ความอยากได้อะไร อุ้มได้มันทุกอย่าง ที่เป็นสิ่งที่ดีๆ แต่ที่ไม่ดีอุ้มก็ไม่อยากนะ เพราะมันจะมาจริงๆ อิอิอิ ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังค่ะ

 

อุ้มจะบอกว่าหนังสือเล่มแรกที่อุ้มอ่าน ที่ให้ความคิดอุ้ืมเป็นบวก และทำให้อุ้มสามารถได้พลังกฎแห่งการดึงดูดมา ก็คือเล่ม The Law of Attraction ไม่ใช่ The Secret

The Secret อุ้มพึ่งได้มาไม่กี่เดือนนี่เอง เมื่อปีที่แล้ว ตั้งแต่ได้มาอุ้มก็อ่านน้อยมากแค่สองรอบ ยังไม่จบดีด้วยซ้ำ แต่เล่มแรก อุ้มอ่าน 10 รอบค่ะ อ่านแล้วอ่านอีก เพราะเล่มไม่ได้หนา เล่มบาง อ่านเข้าใจได้ง่ายมากเลยเล่มนั้น แต่ The Law of Attraction ไม่มีวางขายตามแผงหนังสือแล้วค่ะ ที่อุ้มมีอยู่ก็ได้ถ่ายเอกสารแจกไปให้คนหลายคนแล้ว แต่เหมือนเขาขี้เกียจอ่านกันเลยไม่มีฟีดแบ๊กอะไรกลับมาเลย ก็ยังนึกเสียดายว่าอุตสาห์ลงทุนถ่ายเอกสารไปให้แต่ก็ไม่ยอมอ่านกัน สู้เราเก็บไว้รู้ความลับคนเดียวดีกว่า การที่เราจะช่วยใคร ถ้าเขาไม่เล่นตามเรา มันก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ หนังสือให้ไปก็ไม่อ่าน ไม่ปฎิบัติ แล้วจะมาบอกว่าไม่ได้ผลมันก็ไม่ได้ค่ะ คุณรองสังเกตุคนที่เขาทำธุรกิจขายตรงที่มุ่งมั่น แล้วทำเป้าได้ตามที่เขาต้องการสิค่ะ คนพวกนี้เขามีความเชื่อไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องของกฎแห่งการดึงดูด เขาถึงประสบความสำเร็จ จากแม่ค้าส้มตำ จบแค่ ป4 ก็ยังรวย บ้านหลังไม่รู้กี่ร้าน รถไม่รู้กี่คัน เพราะอะไรเพราะเขาเชื่อมั่นในความคิดของเขา ว่าเขาต้องทำได้ อุ้ืมละทึ่งคนพวกนี้มากเลยค่ะ

 

ขอบคุณ คุณอุ้มมากๆ ค่ะ ทั้งเรื่องข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อความคิดเรื่อง law of attraction ขอบคุณมากค่ะ รวมถึงความคิดที่ให้กำลังใจด้วยค่ะ
ตอนนี้บอกตรงๆ เรากำลังต้องการความหวังในกำลังใจมาก
หันหน้ามาหา ธรรมมะ สวดมนต์ปฎิบัติธรรมค่ะ เนื่องจากทุกข์เพราะความรักเจ็บเจียนตาย ทั้งๆที่รักกันอยู่ ไม่มีมือที่สาม แต่มีเหตุการณ์หลายๆอย่างที่ทำให้เราต้องแยกจากกัน

พอได้ยินเรื่องหนังสือเล่มนี้ เลยตั้งกระทู้ถาม แล้วมีคุณอุ้มเสียสละเวลามาช่วยตอบคำถาม แบบนี้รู้สึก ชื่นใจมากๆนะคะ ^^

 

ด้วยความยินดีค่ะ อุ้มเข้ามาแบ่งปันจากประสบการณ์ อุ้ืมก็ไม่ได้ดีหรือเก่งมาจากไหน แต่อุ้มพูดจากสิ่งที่เคยเจอๆมามากกว่าค่ะ อุ้มเข้าใจความรู้สึกดีค่ะ เรื่องของความรักมันเจ็บปวด โดยเฉพาะหากจะต้องพลัดพราก แต่อุ้มอยากจะบอกว่า นอกจากเน้นเข้าหา ธรรมะ สวดมนต์ปฎิบัติธรรมแล้ว เราต้องอาศัยกฎแห่งการดึงดูดมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ กรณีของคุณถ้าแฟนไม่ได้เลิกกันเพราะมือที่สาม อุ้มไม่เห็นต้องห่วงหรือกังวลในเรื่องของการกลับมาดีกันเลยนะค่ะ ใช้พลังความรัก ความต้องการที่อยากให้มาคืนดีกัน ใช้ตรงนี้ ใช้ให้มันเป็นกิจวัตรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ขนาดคนทีเ่ราเกลียดพอคิดถึงในเรื่องไม่ดีๆ ยังมาให้เห็นให้เจออีก นับประสาอะไรกับคนรักกัน ยังไงก็ต้องวิ่งเข้าหากันได้แน่ค่ะ อย่าคิดมาก นะค่ะ อุ้มเป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ก็มีข้อนึงที่อุ้มอยากจะบอก คนเราทุกคนต้องการความรัก ความรักเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงหัวใจเรา เป็นพลังให้เราก้าวเดินไม่กลัวเกรงอุปสรรค แต่รักมากไปมันก็อาจจะทำให้หัวใจเราตายได้ ดังนั้น รักใครก็รักแบบมีสติ รักด้วยความปรารถนาดี ต้องการเห็นคนที่เรารักดี มีความสุข อย่าไปรัก แบบลุ่มหลงนะค่ะ อุ้มว่าแบบนั้นมันจะก่อให้เกิดพลังอีกแบบนึงขึ้นมา

เคยได้ยินใช่ไหมค่ะ รักมากทุกข์มาก รักน้อยทุกข์น้อย ไม่รักไม่ทุกข์ สิ้นรักก็สิ้นทุกข์ค่ะ ถามว่าจะมีใครทำได้สักกี่คน อุ้มคนนึงที่ยังทำไม่ได้ สำหรับอุ้ม ความรักคือยิ่งใหญ่ อุ้มยังรักใครต่อใครได้อีกมากมาย และไม่เคยคิดจะหยุดรัก แต่ต่อไปนี้มันต้องเป็นไรที่แบบว่า มีสติ มีเหตุผล มีแต่เจตนาดีมากกว่าที่จะรักแบบหัวปรักหัวปรำค่ะ

 

เดี๋ยวเวลาผ่านไปก็ช่วยได้ครับ ..อาการคล้ายๆของผม จากกันด้วยดี
แม้จะมีเหตุให้ต้องเสียใจ . .แต่เราก็ต้องผ่านมันไปได้ ก่อนมาเจอเขา เรายังอยู่มาได้
คนเดียวเลย จริงไหม? . .

หนังสืออีกเล่มที่แนะนำ คือ เข็มทิศชีวิต ให้แง่คิดอะไรหลายๆอย่าง เตือนสติตนเองได้ดี
ในระดับหนึ่ง . .เขาเปรียบความทุกข์ ความผิดหวัง เหมือนหลุม ทั้งๆที่เราผ่านมันมาแล้ว
ก็ยังจะถอยไปลงหลุม ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก . . .ตอกย้ำตนเอง ด้วยความทุกข์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว

หรือจะเป็นหนังสือของ คุณ ดังตฤน ก็เยี่ยมไม่แพ้กัน เวปเขาก็มีให้อ่านฟรีด้วยครับ
dungtrin.com - ดังตฤณ มองให้เข้าใจโลกนะครับ มองให้กว้าง จากที่เคยมอง
มองทะลุกาลเวลา ..มิใช่มองแค่เบื้องหน้าอย่างทุกที 10 ปี 20ปี ...

" ยังมีอะไร..ที่เรายังไม่ได้ทำอีกเยอะนะครับ " . .

 

เรื่องกฏธรรมชาติ ไม่มีใครสอนได้ดีกว่า พระพุทธเจ้าแล้วครับ เพราะสอนเป็นเหตุเป็นผล

ปฏิบัติธรรมเถิดครับ มันเป็นเพราะกรรม ไม่มีใครใหญ่กว่ากฏแห่งกรรมแม้นพระพุทธเจ้าเอง

ก็ตาม เรื่องความรักปล่อยวางเถอะครับ ถ้ายังมีกรรมร่วมกัน(ไม่ว่าจะกรรมดีหรือไม่ดี)ก็จะ

ทำให้เจอกันอีกครับ เรื่องกฎแรงดึงดูดนี่ถ้าจิตไม่มีพลังมันก็ได้ผลน้อยตามไปครับ ไม่งั้นก็

ทำได้ทุกคน ได้ทุกอย่างในสิ่งที่อยากได้กันไปหมดแล้วครับ(ถึงบอกว่าเค้าสอนไม่ครับตาม

หลักของธรรมชาติครับมันมีอะไรมากกว่านั้นครับ มีสติเถอะครับ

ฟังผมพูดอาจจะดูโหดร้ายในเรื่องความรัก แต่ก็หวังดีครับ อยากให้พ้นไปได้ไวไวนะครับ

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=n4vu5Yg63TA"]YouTube - My Valentine Lyrics[/ame]

Sweet temper.Some people love to find mistakes.

 

เล่มนี้รึเปล่าครับ the law of attraction

 

ไม่ใช่เล่มนี้ค่ะ ที่อุ้มอ่านจะเป็นเล่มภาษาไทย แต่ดูเนื้อหาแล้วไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับที่ คุณ Stradale ส่งมาเลยค่ะ เดี๋ยวขอเก็บเล่มนี้ไว้อ่านด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

ไม่ใช่ประเด็นการถกเถียงเรื่องศาสนา ทุกคนที่ปฎิบัติธรรม ย่อมเข้าใจศาสนาพุทธดี และเข้าใจเรื่องของธรรมชาติ กฎแห่งกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทำกรรมไรไว้ต้องได้รับผลกรรมนั้นเป็นสัจธรรมความจริง เรื่องของหนังสือก็ไม่ได้ชี้ชวนให้ออกนอกเรื่องของพระพุึทธศาสนาเพียงแต่มาแสดงให้เห็นว่าพลังความคิดสามารถที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ไม่ใช่จำเป็นว่าต้องมีพลังมากมายมหาศาลเหมือนจะเป็นนักสะกดจิต นักมายากล นำพลังมาใช้ควบคุมใครก็ได้อย่างงั้นก็ไม่ใช่ แต่ที่ในหนังสือสอนก็แค่ให้เอาความคิดบวกๆ มาปรับใช้ เหมือนที่ศาสนาพุทธสอนถ้าเรานั่งสมาธิ ก็ทำใจให้สงบ อย่าวอกแวก อย่าเก็บเรื่องอื่นเข้ามาคิดในขณะที่นั่งทำสมาธิ แนวเดียวกันหนังสือก็เป็นการสอนให้เราคิดแต่ด้านบวก คิดแต่ด้านดีๆ เพื่อจิตเราจะได้ไปดึงสิ่งดีๆเข้ามาหาตัว หนังสือก็สอนให้คนมีสติ สมาธิก็สอนให้คนมีสติ สติตัวเดียวทุกคนก็รู้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจสำหรับนักปฎิบัติ

 

Agreed, some people not only love to find mistakes but are also good at finding faults.

 

ขอบคุณมากค่ะสำหรับเพลงเพราะๆ
หื่อๆ อยากจะบอกว่าพอได้ฟังเพลงนี้แล้ว ยิ่งเศร้า
เพราะหลังเลิกกันไป ดิฉันได้ทำวิดีโอ รูปสไลด์ให้เค้า
แล้วใช้เพลงนี้เป็นแบล๊กกราวน์ หารูปพอเท่าที่จะหาได้
เพราะรูป ถ่ายคู่ตอนเลิกกันไป ลบทิ้งไปหมดแล้วค่ะ

แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ ที่อุตสาห์หาเพลงมาโพสให้ฟังแก้เศร้า
บอรด์นี้มีแต่คนใจดีทั้งนั้นเลย ^^

 

ขอบคุณคุณ อุ้ม มากค่ะ
คุณอุ้มเป็นอีกแรงใจที่ช่วยให้ ดิฉัน มีกำลังใจในการรอคอยอย่างมีความสุขค่ะ
จากเมื่อก่อนที่รอคอยด้วยความทรมาณว่าเมื่อไหร่เค้าจะกลับมา
เพราะถ้าจะให้ดิฉันตัดใจ ดิฉันบอกเลย ว่า "ทำไม่ได้"
เพราะ ตอนนี้ดิฉันยังไม่เข้มแข็ง หรือ บางที อาจจะไม่พร้อมที่จะเข้มแข็งด้วยซ้ำ

เรา 2 คนเพิ่งเลิกกันไปได้ 2 เดือน ด้วยเหตุึผลหลายๆอย่าง อุปสรรค์หลายๆอย่างในชีวิต ที่ยากจะประคับประครอง เชื้อชาติ ศาสนา ครอบครัว
เค้าดีกับดิฉันมาตลอด ดีมากๆ จนดิฉันรู้สึกว่า นอกจากครอบครัวแล้ว เค้าคือ อีกหนึ่งคนที่รักดิฉัน และ่ห่วงใยดิฉัน

จนกระทั่งวันที่เค้าบอกเลิกดิฉัน ด้วยเหตุผลที่บอกว่า หากไม่มีเค้าแล้วขีวิตดิฉันจะีดีขึ้น แล้วอีกอย่าง ระหว่างเรา มันเป็นไปได้ยากที่จะลงเอย
(เขาฝืนใจทำเป็นใจร้าย บอกเลิกดิฉัน ทั้งทีเขาเอง ตอนที่บอกเลิก ก็ร้องไห้ เสียน้ำตาไม่ต่างกัน)

ดิฉันเสียใจ ยังกะคนขาดสติ กรีดร้อง ยังกะคนบ้า
ยังดีที่วันนั้นที่บ้าน มีคุณพ่อ อยู่
คุณพ่อ วิ่งเข้ามาในห้องดิฉัน กอดดิฉัีน นั่งฟังดิฉันปรับทุกข์
และวันนั้นเป็นวันที่ทำให้ดิฉัน มีโอกาศได้กราบเท้าคุณพ่อค่ะ (rose)

วันต่อมา เลยตัดสินใจไป ปฎิบัติกรรมฐาน
(ก่อนหน้า นี้ ไม่ชอบการปฎิบัติทำเลย ใครชวนไปก็ บ่ายเบี่ยง ตลอด)

แต่ มหัศจรรย์มากค่ะ พอได้ไปที่วัด แค่ได้นั่งสมาธิ สวดมนต์
ดิฉันจิตใจเย็นลงมากๆ (ถ้าไม่ได้ไปวัด วันนั้นป่านนี้ ไม่รู้จะเป็นยังไง)

ขอโทษนะคะ พี่พร่ำเพ้อ พรรณา มา
หวังว่าคุณอุ้ม คงจะไม่เบื่อการนั่งอ่านเรื่องราวของดิฉัน นะคะ ^^

 

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับอีกหนึ่งความคิดเห็นนะคะ

 

ขอบคุึณมากๆค่ะ สำหรับอีกหนึ่งกำลังใจ
ตอนนี้ดิฉันก็จะพยายาม ร่าเริงคะ
ถึงแม้ในใจจะรอคอยให้เขากลับมา
แต่ดิฉันจะรอคอยไปอย่างมีความสุขค่ะ

อย่างน้่อย ณ วันนี้ ดิฉันยิ้มได้ หัวเราะ กะเพื่อนๆได้
กิน อิ่ม นอนหลับ ดีกว่าช่วงแรกๆที่เลิกกันค่ะ


ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงและแนะนำหนังสือดีๆให้อ่าน
เห็นที ต้องไปหา เข็มทิศชีวิต มาอ่านด้วยซะแล้ว

 

ไม่ต้องขอโทษอุ้มหรอกค่ะ แล้วคุณก็ไม่ได้พร่ำเพ้อ พรรณาด้วย อุ้มไม่เบื่อการที่จะอ่านเรื่องราวของใคร เพราะที่คุณพูดมาทั้งหมด อุ้มเคยผ่านมาหมดแล้ว ความรู้สึกรัก ความรู้สึกผูกพัน ไม่ยอมพลัดพราก ชอบที่จะอินกับมัน แต่เดี๋ยวนี้อุ้มไม่มีแล้วค่ะ ความรู้สึกแบบนั้น อะไรที่ทำแ้ล้วมีความสุขทำไปเถอะค่ะ แต่ถ้าเรารู้ว่าเราทำอะไรแล้วเกิดความทุกข์ ความเจ็บปวดกับจิตใจเมื่อไหร่ ให้เลิกทำมันทันทีแล้วให้รีบตัดสิ่งนั้นออกไปจากใจเสีย อย่าเอามาเก็บไว้ให้มันบั่นทอนสุขภาพจิตของเรานะค่ะ อะไรที่จะได้มา หรือจะเสียไปเราห้ามมันไม่ได้ค่ะ แม้กระทั่งความรักจะสังเกตุได้ว่าในเรื่องของความรัก ไม่มีใครบังคับใครได้เลย เรารักคนนี้ จะไปบังคับให้เขามารักเราตอบก็ไม่ได้ เราไม่รักคนนี้ เราก็จะไปห้ามเขาให้มาหยุดรักเราไม่ได้ เรื่องของหัวใจมีกันทุกคน ยกเว้นพวกที่ตายด้านไม่รู้สึก รู้สา อันนี้เราไม่ต้องพูดถึง แต่หมายถึุงพวกที่เขามีความรักเป็นปกติ หัวใจสีชมพู ทุกคนต้องการอยากมีความรักทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่มีใครอยากเหงา

ทุกวันนี้นายอุ้มเห็นอุ้มไม่มีแฟน ยังมาตระโกนว่าอุ้มทุกครั้งว่า ยูต้องการความรัก ยูต้องการใครสักคน ไม่งั้นยูจะแก่ตาย โดยไม่รู้จักว่าความสุขนั้นคืออะไร 5555 เขาพูดมากี่ครั้งอุ้ืมก็ปล่อยก๊ากใส่หน้าเขาทุกที แล้วก็บอกเขาว่าฉันเห็นแต่ความทุกข์ ฉันก็เลยสุขไม่ออก แกก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้จะทำอะไรกับเราดี ไม่ใช่อุ้มไม่มีใครมารักนะขอบอก แต่ยังไงดีละ มันเห็นจนเบื่อแล้ว ตัวอย่างความทุกข์ทั้งหลาย เลยปล่อยวางทั้งหมด อุ้มยินดีเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ แม้จะต้องรอเป็นเพื่อนคุณอุ้มก็จะรอนะ เพราะว่าอุ้มว่าอุ้มรู้เยอะนะ เห็นอุ้มต๊องๆ เซอร์ๆ อย่างงี้แต่อุ้มรู้อะไรหลายอย่างที่หลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจมันก็ได้ ตอนนี้อุ้มไม่ใช้กฎแห่งการดึงดูดเพื่อสิ่งที่อุ้มไม่ต้องการได้ อุ้มจะใช้สำหรับสิ่งที่อุ้มต้องการเท่านั้น

 

เข้าใจสถานการณ์ จากกันทั้งๆที่ยังรักกันค่ะ เจอมาเหมือนกัน ตอนนั้นหนักมากๆไม่เป็นอันกินอันนอน เเต่พอเราได้นึกถึงสิ่งดีดีที่ผ่านมา เข้าใจ เเละยอมรับความจริงได้ สิ่งดีดีก็จะเข้ามาหาเราเองค่า สู้ๆนะคะ^^

 

555 อ่านแล้วต้องหัวเราะเลย... เลิกกันเคสแทบจะเหมือนผมเปี๊ยบเลยคับ
เขามีอนาคต จะให้มาหยุดที่เราได้อย่างไร..ช่วงแรกก็กระอัก ช้ำในไปนานเหมือนกัน
ก็ได้ธรรมะ และสติ คอยพยุงไว้ ทำให้รอดมาได้

ช่วงเลิกใหม่ๆ ก็ไปทำกรรมฐานที่วัดเหมือนกัน คนรอบข้างยังว่า เฮ้ย!..หนักขนาดนั้น
เลยเหรอ แต่ไม่ใช่หรอก แค่เรายังไม่เคยไปแค่นั้นเอง.. ออกวัดมา ก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
สักเท่าไร ไม่ใช่ธรรมะไม่ช่วย . . . ยังมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนเดิม

จนวันหนึ่ง..นั่งๆอยู่คนเดียว ก็สว่างวาบขึ้นในจิตว่า " ชีวิตก็แค่นี้เอง " ..ไม่ได้มีอะไร
มากมายเลย เกิด โต ชอบ รัก ครอบครัว แก่ ตาย . .เป็นวงเวียนชีวิต จบ.
งั้นอีกไม่กี่ปีเราก็ตายแล้วสิ เดี๋ยว พ่อ แม่ พี่ คนที่เรารัก ก็ต้องตายต่อหน้าเรา..เหมือนกัน
เป็นทุกคน และวันนั้นเราก็ต้องเสียใจอีก ...เกมส์ชีวิต เป็นเช่นนี้เอง
ใครเข้าใจกติกาของเกมส์ชีวิตก่อน ก็สุขก่อน ..มีโอกาสสร้างสะพานบุญได้ก่อน

ผมอยากบอกว่า ความทุกข์ ความปวดร้าว ..ไม่มียาใดรักษา นอกจากยาชื่อ " เวลา "
เมื่อมีเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็คงอยู่ไม่นาน แล้วก็สลายไป ...เหลือเพียงใจที่เข้าใจกฏธรรมชาติ
แล้วความสุขก็อยู่ข้างในนี้เอง . .