พระปรอทหลวงปู่ละมัยของแท้ยังมีให้เช่า ที่วัดนะคร้บ

นิทาน : แค่วางลง
มีชายหนุ่มคนหนึ่ง รู้สึกว่าชีวิตตนเองน่าเบื่อหน่าย จึงไปขอพบพระอาจารย์เซ็นอู๋จี้
เพื่อขอคำชี้แนะ ทำอย่างไรเขาจึงจะมีความสุข

พระอาจารย์ก็หยิบตะกร้าไม้ไผ่ให้ใบหนึ่ง นำชายหนุ่มไปยังริมแม่น้ำเล็กๆข้างวัด
เดินเลาะไปตามริมฝั่ง
แล้วพระอาจารย์อู๋จี้ก็บอกกับชายหนุ่มว่า เจ้าเห็นก้อนหินที่อยู่ตามทางไหม

นับจากนี้ไป เมื่อเจ้าเดินไปหนึ่งก้าว ก็เก็บก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วใส่ลงไป
ในตะกร้าไม้ไผ่บนหลัง

แม้ชายหนุ่มจะไม่เข้าใจเจตนาของพระอาจารย์อู๋จี้ แต่ก็ทำตาม เดินไป
ก็เก็บก้อนหินใส่ตะกร้าไปพลาง
ไม่นานเขาก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า ตะกร้าไม้ไผ่บนหลังหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเดินไปสุดทาง

พระอาจารย์อู๋จี้ก็ถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
เขาตอบว่า ตะกร้าหนักขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะแบกไม่ไหวแล้ว

พระอาจารย์อู๋จี้จึงกล่าวว่า รู้ไหมว่าเหตุใดจึงไม่เป็นสุข เพราะเจ้าแบก
สิ่งของเอาไว้มากเกินไป
จากนั้นพระอาจารย์อู๋จี้ก็หยิบก้อนหินในตะกร้าไม้ไผ่ออกมาทีละก้อน แล้วพูดว่า…

ก้อนนี้คืออำนาจ ก้อนนี้คือเงินทอง

ก้อนนี้คือหญิงงาม ก้อนนี้คือความทุกข์

ก้อนนี้คือความกลัดกลุ้ม ก้อนนี้คือความเหงา

...

เมื่อหยิบก้อนหินโยนทิ้งจนหมด ชายหนุ่มสะพายตะกร้าขึ้นมาอีกครั้ง
ก็รู้สึกเบาโล่ง ทำให้เขาได้สติขึ้นมาทันที...

แต่ผมก็ไม่วางมันเลย แบกอยู่อย่างนั้น หนักนักเอาไหม ๆๆ

 

ผมก็เดินทางตลอดเหมือนกันครับ คุณอุ้ม... เหนื่อย แต่ก็เพื่องานบุญ ช่วยครูบาอาจารย์ท่านไปครับ ตามแต่ท่านจะเรียกใช้...สำหรับอาบน้ำเพ็ญ เดิมท่านก็จะอาบของท่านเอง... แต่ก็เห็นแก่ลูกศิษย์ตาดำๆๆ พระอาจารย์สมชาย ท่านก็เลยช่วย.. อาบน้ำมนต์ให้...(ที่แรกจะขอพระอาจารย์ท่านจารย์ตะกรุดใต้น้ำให้..อิอิ เกรงใจพระอาจารย์ท่าน)..แถมด้วยกินยาวาสนา จินดามณีด้วย... ถ้าถามว่าหนาวมั้ย... ก็คงจะเย็นยะเยือกครับคุณอุ้ม... ลูกศิษย์ก็น่าจะเสียค่าคำนับครู เพื่อรับ ยาและ ตะกรุดท่านละ 99 บาทครับ ตะกรุดถ้าผมได้ไป..ถ้าจะเหลือก็จะขอไว้ให้ครับ...(ตะกรุดเหลือ.. หรือพระเหลือ..ท่านว่าดี..เหลือกินเหลือใช้).. ถ้ามีโอกาส..หรือว่างก็ลองไปกราบท่านดูครับ..ท่านมียาดีหลายอย่างครับ ตามตำหรับหลวงปู่ศุข...วัดปากคลองมะขามเฒ่า...

 

ผมกับน้องเขา เป็นศิษย์พี่ น้อง กันครับ. เคยปฏิบัติธรรม กับครูบาอาจารย์มาด้วยกันระยะหนึ่งครับ.. ก็แปลกใจมากที่ได้เจอน้องเขาเมื่อครั้งได้ไปตอกคต รุ่น เสาร์ 111 ครับ..เขาไม่เล่าให้ฟังคงเพราะ...กลัวหาว่าโม้.... ที่น้องเขามีประสพการณ์ก็คือเรื่อง ปิรามิดครับ... ไว้รอเจ้าตัวมาเล่าให้ฟังดีกว่า.. (ถ้่าเขาอยากเล่านะครับ..)

 

ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกครับเอาอีกๆๆๆ55555(deejai)(deejai)(deejai)

 

ค่ะ โมทนาบุญด้วย กับการที่ได้ช่วยเหลือครูบาอาจารย์ ตัวอุ้มเองก็เคยคิดนะ ว่าเรานะเหนื่อยๆกับงาน แล้วทำไมเรายังต้องตะลอนไปไหนต่อไหน พอเหนื่อยทีก็จะมานั่งคิดทีว่าไม่ไปแล้ว แต่พอถึงเวลามันก็เหมือนมีอะไรมาดลจิต ดลใจ ให้ไปอีกทุกครั้งเลย ถ้ามีโอกาสอุ้ืมจะรองแวะไปกราบท่านดูค่ะ

 

ขอบคุณนะค่ะ ที่มาเล่าให้ฟังทีนี้ก็เข้าใจแล้วค่ะ ว่าคุณกับน้องเขามีสัมพันธ์กันมาอย่างไร ส่วนเรื่องอภินิหารเดี๋ยวรอเจ้าตัวมาเล่าเอง 5555

 

เคยไปกราบหลวงพ่อสมคิดวัดเขาวงศ์ สุพรรบุรี ครั้งหนึ่ง
ไปสามคน ท่านชี้มาที่ผมคนเดียว บอกว่าคนนี้ไม่ค่อยดี แล้ว ชี้ไปที่แฟนผมแล้วบอกว่าไม่อยากมา มาทำไหม 555555 (ผมอยากให้เขาไป เขาเองคิดว่าไปก็ได้ไม่ไปก็ได้ตาใจผม หลวงพ่อท่านก็เลย ทักเอา) แล้วก็ไม่ได้ไปอีกเลย ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ดีมากๆ ทุกอย่างอยู่ที่เราใช่ไหมครับ

 

ใช่ครับ...ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ดีมาก จริงๆ ครับ......มีโอกาส หรือ ว่างก็ไปครับ..ภาวนาในสถานที่(บ้าน)บ้าง.. ไป ภาวนานอกสถานที่บ้าง... เปลี่ยนบรรยากาศ...ได้พบ ได้ปรนบัติ.. ได้ทำบุญ กับครูบอาจารย์บ้าง...แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่เรานั่นแหละครับ...

 

กระแสคิดถึงหลวงปู่ละมัย เริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ มีโอกาสจัดรถไปกราบท่าน โปรดมาสะกิดยิ้มบ้างนะคะ

 

ลูกศิษย์หลวงตาม้า เขาจะใช่ประคำยาว นี้เป็นปกติครับ
จะมีอยู่สองสี สีดำน้ำตาล กับ สีขาวงาช้าง ใส่เป็นปกติทั้งหญิง ชาย ไม่แปลกเลยครับ รู้สึกว่า เขาจะเรียกสร้อยประคำว่าสังวารจักรพรรดิ์(ถ้าจำไม่ผิด) คนที่เขาทำเป็นเขาว่าสามารถเอาสมบัติจักรพรรดิ์ ออกมาใช้ได้ เช่น จักร, พระขรรค์
แต่ที่ผมเคยทำ คือทำกับแหวนของหลวงตาม้าอยู่วงหนึ่ง เขาเรือกกันว่าแหวนพระจักรพรรดิ์ เนื่องจากจำเป็น ตอนนั้นไปนอนรอแฟนที่ทำงานเขา เนื่องจากเขาต้องทำงานดึก นอนหันหัวติดกับประตู หลับไปสักพักหนึ่ง รู้สึกตัวขึ้นมาแต่เอ ทำไมเราไม่ตื่นว่า รู้สึกมีตัวอะไรเหมือนแมว เหมือนหมา มาส่งเสียงกวนๆ วิ่งไปวิ่งมาที่หัว เราก็ไม่รู้จะทำงัยดี นึกได้ว่ามีแหวนอยู่ที่นิ้วก็เลย อาราธนาขอพระขรรค์ ออกมา แค่นั้นแหละเจ้าตัวนั้นร้องเสียงหลงหายไปเลย แล้วผมก็ตื่นขึ้นมา ก็งงๆ ว่า เราฝันแปลกๆ ดี

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ลัก...ยิ้ม, panamool, chaiwat13 </TD></TR></TBODY></TABLE>

สมาชิกยังมาไม่ครบทีมนะคะ 55

 

ได้เลย ไม่มีปัญหา ถ้ามีการจัดทริปไปกราบหลวงปู่คราวหน้า ข้อยจะไปสะกิดเจ๊เอง(ขอค่าสะกิดซัก500นะเจ๊) 55555

 

อยากรู้มากมายครับ
ท่านเล่นพูดกระตุกต้อม

ช่วยกล่อมเค้าให้เล่า....ให้พี่น้องในนี้ฟังบ้างนะครับ
ใครเห็นด้วยช่วย ยกมือ โหวต ให้ด้วยครับ

 

ผมก็เคยพาแฟนไป ครั้งนึง เหมือนกันครับ
เห็นบันไดไม่สูง เดินขึ้นไป ลิ้นห้อยเลยครับ
คุยกับท่านสนุกมากๆ ผมไปทู้ซี้ ขอตะกรุดเสาร์ห้าจากท่าน
ท่านบอกหมดแล้ว ผมก็ขอท่านอีก ขอไป 3 หน ท่านก็บอกจะลองหาให้
ซักพักท่านก็กลับมาพร้อมกับตะกรุดเงิน 2 ดอก ผม กับ แฟน คนละดอก
ท่านมีเมตตา มากครับ ยืนยันอีกเสียงครับ

 

ใช่ครับ เดินออกกำลังได้ดีมากๆ ที่ถ้ำก็ดีนะครับ

 

ยกมือเห็นด้วยครับ อยากฟังคนที่มีประสพการณ์ตรงครับ

 

สงสัยน้องเขาจะไม่ยอมเล่า...เข้าทำน้องพูดน้อยต่อยหนัก... เรื่องที่จะพูดก็ไม่พูด เรื่องไม่อยากให้พูดก็ดันพูด..เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังดีกว่า.. เดี๋ยวชาวประชาจะประณามไปมากกว่านี้...

เรื่องมีอยู่ว่า... กระทาชายนายประกายทอง..ได้เดินทางไปทำงานหาเงิน ที่เกาะพีพี.. โดยตั้งใจว่า..จะทำงานเก็นเงินสักระยะ...โดยเงินที่ได้จาก ทิป ต่างๆๆ ก็เก็บใส่เป้เดินทางไว้ในห้องพัก..

เวลาผ่านไป..หลายเดือน...จนมาถึงเดือนธันวาคม..เงินในเป้ก็เต็มแล้ว...ถ้าจะนับก็คงหลายหมื่นบาท.."นี้ก็จะวัน X-mas แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ เราเข้าเมื่องเอาเงินไปฝากดีกว่า " นายประกายทองพูดกับตัวเอง..

จนรุ่งเช้า(ของวันที่จะเกิดเหตุมหาคลื่นสึนามิถล่ม)...นายประกายทอง กะว่าถ้าเลิกงานกะนี้ ก็จะเข้าเมืองแล้ว....ขณะที่ทำงานบริการลูกค้าบริเวณลอบบี้โรงแรม... พลั้นเท้าเขาสัมผัสกับน้ำ ที่พื้น...เขาเริ่มสงสัย... และน้ำเริ่มเพิ่มระดับ อย่างรวดเร็ว..เริ่มได้ยินกระแสความวุ่นวาย..และเห็นคนแตกตื่น วิ่งหนี..แย่งกันขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปสู่ชันบนสุด... คนมากมายเบียดเสียด แย่งกันขึ้นบันได จนไม่มีที่ว่างให้คนอื่นๆ ที่มาใหม่ได้ก้าวขึ้นไปได้.. นั้นหมายรวมไปถึงนายประกายทองของเรา.. เพียงไม่นาน...ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระคนกับการเบียดเสียดและเสียงกรี๊ดร้อง... ระรอกน้ำ ระลอกคลื่น ใหญ่ได้พัดเขามาอย่างรวดเร็ว...พลันนายประกายทองพบว่า เขามาอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมได้อย่างไร...ทั้งๆๆ ที่เมื่อตะกี้ เขายังเบียดเสียดแย่ง ขึ้นบันใดอยู่เลย.. ชั้นสองก็ยังไม่ถึง.. แต่นี้เขามาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมได้อย่างไร..

เขาเอามือคลำไปที่คอ... ในตัวเขาตอนนั้น.. มีเพียง เหรียญหลวงพ่อทวด เปิดโลกและ ปิรามิดกลับธาตุ ที่อาจารย์ของเขาสร้างขึ้นมอบให้ติดตัวไว้.. โดยอาจารย์ได้กำชับเสมอว่า.. "ให้ใส่ติดตัวไว้...เวลาคับขัน ครูบาอาจารย์จะไปช่วย แล้วเอ็งจะเห็นเอง" เขาได้รู้ ได้เห็น กับตัวเอง.. ความรู้สึกปิติ ท้วมท้น..
..
.. เหตุการณ์ในครั้งนี้..เขาสูญเสียทรัพย์สิน(เงิน)ที่เก็บไว้ทั้งหมด... รอดชีวิตอย่างอัศจรรย์ ได้เห็นว่า คุณพระ คุณครูบาอาจารย์ สิ่งวิเศษที่ครูบาอาจารย์บอก เป็นเรื่องจริง...

... ผมพยายามเล่า ให้ใกล้เคียงกับที่ได้รับฟัง และรับรู้มา อย่างที่สุด....
... ถือว่าผมเล่า ให้ฟังนะครับ... ไม่ได้เล่าให้เชื่อ... ที่ที่เกิดเป็ยเรื่องจริงครับ...

 

สุดยอดครับ สุดยอด เป็นเรื่องอัศจรรย์จริงๆ ครับ

 

โหตื่นเต้นมาก ขอบพระคุณที่มาเล่าให้ฟังค่ะ พุทธคุณสุดยอดเลยนะค่ะเนี่ย ดีใจแทนประกายทองที่รอดชีวิตมาได้ เงินทองของนอกกาย มิตายหาใหม่ได้ชิมิ แต่การมีชีวิตอยู่เพื่อเร่งสร้างบุญสร้างกุศล เลือกที่จะมีชีวิตดีกว่ามีเงินเนาะ อ่านแ้ล้วน้ำตาซึมเลย แต่ประกายทองเป็นอย่างงั้นจริงๆ พูดน้อยมากแต่ของดีเต็มตัวเลย