ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. of_bd

    of_bd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +304
    สวัสดีครับ พี่ทางสายธาตุ พี่จงรักภักดี พี่โมเย พี่ไก่เหลืองหางขาว และทุกๆคน
     
  2. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    สวัสดีจ้าน้องออฟ พี่โมเย สบายดีจ้า

    สวัสดี กับน้องไก่เหลืองด้วยนะคะ หายไปนานเลย

    สวัสดีทักทายกับคุณพี่ ดอกไม้เมืองบน ด้วยอีกท่าน ค่ะ
     
  3. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518

    สาธุ..พระมหาวีรราชเจ้าที่ทรงเปิดช่องทางให้ข้าในพระองค์ที่กระจัดกระจาย
    แตกแยกย้ายไปตามวัฏสงสารและรอยกรรมที่กระทำโดยเจตนาหรือภาวะจำเป็น
    ให้หวนกลับมา แม้จะไม่เหมือนเดิม แต่ด้วยสัญญาณที่ติดมาแต่ครั้ง่ไหน ไหน สัญญาณเดิมที่เตือนให้เกิดความมักคุ้น....และจูนถึงกันได้

    เป็นเรื่องน่าแปลกที่ระยะหลัง ๆมานี้ ไม่ว่าจะไปที่ใด จะเจอคนที่บอกว่า เขามีความเกี่ยวพันที่ลึกล้ำและเทิดทูนพระองค์แทบทั้งนั้น และเมื่อพบ และมีโอกาสสนทนากันเพียงสั้น ๆ ทุกคนก็ต่างพิศวงที่ทำไมเหมือนกัน
    แต่หลายคนที่พบ ต่างก็ดีใจและกระตือรือล้น ขณะที่ปากก็ว่า
    "อุ๊ย ใจเดียวกันเลย" และต่างเล่าเรื่องของตนสู่กัน ทั้งที่พึ่งเจอกันครั้งแรกก็มี
    (เป็นเรื่องพิลึก จริง ๆ ค่ะ)

    ต่างคนต่างรู้สึกลึก ๆ ว่า พวกเขากำลังรอ ภาระกิจ(อะไรก็ไม่รู้ )
    แน่นอนค่ะ ไม่มีสิทธิ์จะรู้แม้เมื่อกระทำไปแล้ว

    และที่แปลกอีก ก็คือช่วงเวลาแต่ก่อนมาทำไมแต่ละคนจึงไม่รู้สึก หรือถูกดึงมาพบเจอกันทำไมจึงต้องเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันทั้งนั้น
    และแต่ละคนล้วนอยู่คนละทิศละทาง

    เมื่อมาลองนึก ๆ ดู จึงสังเกตได้ว่า เป็นคราวที่ดวงเมืองกำลังตกต่ำ ตามดวงเมืองที่ผูกไว้แต่โบราณยามแผ่นดินลุกเป็นไฟ ู่ในมือของคนท
    ี่ถูกกำหนดมาให้เป็นผู้ทำลาย

    แต่สรุปแล้ว เรา ๆ ก็ยังมองไม่ออกว่า จากนี้ไป..เราต้องทำอะไร
    ใครกำหนดให้เราต่างจากคนทั่วไปที่เสี่ยงต่อการถูกมองว่า..บ้า...
    ชนิดเส้นยาแดงผ่ามากกว่าสิบ

    ดังนั้นการที่เปิดกระทู้นี้ขึ้นมาแบบที่คุณว่า....

    "เพื่อให้เป็นแหล่งพบปะเป็นเสมือนบ้านเก่าที่พวกเรา
    ได้เคยพำนักพักพิงได้เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในฐานะบริวารหรือข้าราชบริพาร
    ของพระองค์ในอดีตนั้น"

    จึงเป็นสิ่งที่ดีอย่างน้อยเรายังได้อยู่และพูดคุยกับคนที่สื่อกันได้ ได้มีช่องทางระบายความพิศวง ต่างๆนานาแลกเปลี่ยนกัน

    แต่ขออนุญาตมองต่างมุมนิ๊ดเดียว ...ที่คุณว่า "โดยที่เราจะไม่ยึดติด" คงไม่น่าจะใช่ร้อยเปอร์เซนต์ เพราะการที่เราเกิดความรู้สึกเศร้า ผูกพัน ค้นหา อาลัยอาวรณ์ หรือ อินเวลาฟังเพลงที่เกี่ยวข้องมากกว่าปกติชนนั้น
    น่าจะเป็นการยึดติดนะคะ

    แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ถ้าการยึดติดทำให้เรามีความสุขโดยไม่กระทบกระเทือน หรือทำใครเสียหายก็คงปล่อยให้ยึดติดไป

    แต่.............(อีกครั้ง)เรื่องการยึดติดนี้บรรดาครูบาอาจารย์ทั้งที่เป็นบรรพชิตและฆราวาสท่านจะบอกเสียงเดียวกันเลยค่ะว่า..

    "ไม่ให้ยึดติด เพราะสิ้นชาติสิ้นภพไปแล้ว ให้อยู่ในภพปัจจุบัน"

    (ก้อ อดโต้แย้งในใจไม่ได้ว่า แล้วมาให้เรารู้ทำไม )

    คุณจงรักภักดีคะ ..

    ทั้งหมดที่ว่ามามีคำหนึ่งที่มักจะเป็นคำตอบให้เรารู้ด้วยจิตสำนึกลึก ๆ โดย...?....(ปัตจัตตัง)...ว่า "ถึงเวลาแล้วรู้เอง"

    เฮ้อ ! ดังนั้น ก็ต้องอยู่แบบสุก ๆ ดิบ ๆ ไปพลาง ๆ

    อนุโมทนานะคะ ที่เปิดกระทู้นี้ขึ้นมา ...และถือว่าตัวเองโชคดีที่จับพลัดจับผลู
    หลุดเข้ามาในเว็ปพลังจิตได้ยังงัย..โดยไม่ได้ตั้งใจ.ไม่รู้เลย.โชคดีที่ได้เจอคนที่คุยกันเข้าใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2010
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ...แต่ขออนุญาตมองต่างมุมนิ๊ดเดียว ...ที่คุณว่า "โดยที่เราจะไม่ยึดติด" คงไม่น่าจะใช่ร้อยเปอร์เซนต์ เพราะการที่เราเกิดความรู้สึกเศร้า ผูกพัน ค้นหา อาลัยอาวรณ์ หรือ อินเวลาฟังเพลงที่เกี่ยวข้องมากกว่าปกติชนนั้น
    น่าจะเป็นการยึดติดนะคะ

    แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ถ้าการยึดติดทำให้เรามีความสุขโดยไม่กระทบกระเทือน หรือทำใครเสียหายก็คงปล่อยให้ยึดติดไป .....


    นัยตรงนี้ขอสารภาพว่าคุณดอกไม้เมืองบนไม่ได้มองต่างมุมดอกครับ เรามองมุมเดียวกัน เพียงแต่ว่าผมต้องขีดเส้นเป็นแนวไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาจริงๆแล้วการเดินจะล้ำเส้นออกไปทางซ้ายทางขวาบ้าง ก็ไม่ว่ากัน (ถ้าไม่เป็นการละเมิดในข้ออื่นๆ) เปรียบเสมือนนักมวยก่อนจะชกก็ต้องการ์ดให้รัดกุมไว้ก่อน แต่เมื่อชกไปแล้วการ์ดจะตกไปบ้างก็ต้องระมัดระวังเอาเอง ถ้าเปิดคางก็จะถูกน็อคได้ง่าย

    สำหรับคำครู ..."ไม่ให้ยึดติด เพราะสิ้นชาติสิ้นภพไปแล้ว ให้อยู่ในภพปัจจุบัน"
    ก็คงจะคล้ายๆกัน แม้กระทั่งคำที่ว่า...."ถึงเวลาแล้วรู้เอง" น่าจะทำนองเดียวกัน คำครูคำแรกนั่นถือว่าเป็นกฎเกณฑ์กติกาหลัก แต่เมื่อครรลองมันดำเนินไปมันก็ต้องมีการลดหย่อนกันไปบ้างจะได้ไม่เครียด พอแค่หอมปากหอมคออะไรประมาณนั้น อาจกล่าวได้ว่า ไม่ตึงเกินไปไม่หย่อนเกินไป แต่ถ้าใครอยากรู้จริงๆท่านก็ไม่ห้าม(คิดเอาเองครับ) แต่ท่านจะต้องพากเพียรปฎิบัติเอาเอง ก็แฟร์นะครับ อยากได้ก็ต้องลงทุนลงแรงเอาเอง แต่จะอย่างไรก็ตาม จึงเป็นสิ่งที่ดีอย่างน้อยเรายังได้อยู่และพูดคุยกับคนที่สื่อกันได้ ได้มีช่องทางระบายความพิศวง ต่างๆนานาแลกเปลี่ยนกัน ข้อความนี้ของคุณดอกไม้เมืองบนนี่แหละครับที่เป็นคำตอบสำหรับเรื่องทั้งหมด

    ถ้าเคยขับรถแรลลี่ ความหมายของคำว่า "ถึงเวลาแล้วรู้เอง" คงจะคล้ายๆกับปัญหาที่จะได้รับและต้องคลี่คลายกันในแต่ละจุด คล้ายกับว่ารู้ตามความจำเป็นเท่านั้น สังเกตไหมครับคนที่มีความสามารถระลึกชาติได้ก็จะระลึกได้เพียงบางเรื่องบางราวบางตอน เช่นเคยเป็นใคร เหตุการณ์สำคัญสั้นๆเท่านั้น แต่ เอ !คำว่ารู้เองนี่จะหมายถึงว่าต้องคิดเอาเองด้วยเปล่าหนอ


    แต่ทว่าจะรู้หรือไม่รู้อย่างไร จะยึดติดหรือไม่เพียงใดก็ขอให้ยึดหลักเกณฑ์และหลักธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันไว้บ้าง และถ้า....ถ้าการยึดติดทำให้เรามีความสุขโดยไม่กระทบกระเทือน หรือทำใครเสียหายก็คงปล่อยให้ยึดติดไป ....ก็คงไม่ผิดกติกาแน่...แต่..กลับจะเป็นสิ่งที่สมควรถ้าเราได้น้อมนำเอาความทรงจำที่ดีนำมาใช้เป็นสติในชาติภพปัจจุบัน นั่นก็คือความจงรักและภักดีต่อชาติ บ้านเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมคิดอย่างนั้นครับ


    อ้อ สำหรับข้อความประโยคนี้
    "อนุโมทนานะคะ ที่เปิดกระทู้นี้ขึ้นมา ...และถือว่าตัวเองโชคดีที่จับพลัดจับผลู
    หลุดเข้ามาในเว็ปพลังจิตได้ยังงัย..โดยไม่ได้ตั้งใจ.ไม่รู้เลย.โชคดีที่ได้เจอคนที่คุยกันเข้าใจ" จะอนุโลมได้กับวลีที่ว่า "ถึงเวลาแล้วรู้เอง" บ้างไหมครับ


    ต้องขออนุโมทนาสาธุการ กับทุกเนื้อถ้อยกระทงความและขอต้อนรับสู่บ้านหลังนีอีกครั้งนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ บ้านก็คือบ้านครับ home sweet home
     
  5. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +493
    สวัสดีทุกๆท่านครับผม
     
  6. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    สวัสดีครับคุณไก่เหลืองหางขาว วันนี้มาแต่เช้านะครับ มาตามแรงอธิษฐาน หรือมาต้อนรับคุณดอกไม้เมืองบนกันครับ หรือด้วยกันทั้งสองอย่าง วานนี้คุณไก่สอบถามถึงความเย็นความร้อนทางด้านเขมร เท่าที่ฟังดูอุณหภูมิคล้ายจะลดลงนะครับ ผมว่าเขมรเขาเล่นเป็นนะครับ ข้อใหญ่ใจความคือเขาเล่นเพื่อชาติก่อน (แต่หลังจากนั้นแล้วอีกเรื่องหนึ่ง ที่เรียกว่าคนละเรื่องเดียวกันมังครับ) เมื่อหมากบนกระดานของชาติเขาขึ้นมาอย่างนั้นในตอนนั้น เขาก็ควรต้องเดินหมากให้สอดคล้องกันกับหมากบนกระดานซึ่งก็คือสถานการณ์ในเวลานั้นนั่นเอง เมื่อต่อมาเมื่อเหตุการณ์เปรียบเหมือนเบี้ย ขุน ในกระดาน มีความเสียเปรียบได้เปรียบเปลี่ยนแปลงไป เพื่อผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ผู้เล่นก็ต้องเปลี่ยนแผนเปลี่ยนความคิดอ่านครับ เป็นประเทศเล็กๆต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ อะไรควรเสีย อะไรต้องยอม ก็ต้องทำ ของเราสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทุกคนคงจำกันได้ ว่าไทยเราถูกคุกคามจาก อังกฤษและฝรั่งเศสอย่างหนัก พระพุทธเจ้าหลวงจำต้องทรงยินยอมเสียสละดินแดนส่วนน้อยเพื่อแรกกับส่วนใหญ่ทำให้ไทยเราสามารถรักษาเอกราชมาได้จนถึงทุกวันนี้
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    สวัสดีคะ พี่จงรักภักดี พี่ศรัทธา_พิสุทธ์ พี่ดอกไม้เมืองบน น้องFort น้องไก่ฯ น้องโมเย น้องอ๊อฟ น้องwanakonth พระราชมนู จมื่นราชฯ และแฟนๆกระทู้ ^_^

    เพิ่งกลับมากรุงเทพฯเมื่อคืน ได้หาข้อมูลวัดตาลเอน บางปะหัน มีเรื่องบังเอิญอีกแล้ว เมื่อมีเหตุสิ่งนั้นจึงเกิดสิ่งนี้ๆ

    ตอบน้องอ๊อฟ พี่มหาอุปราช คือ พี่มังสามเกียด (พระมังสามเกียดมีพระชันษาสูงกว่าสมเด็จพระนเรศวร พระมหาฤทธิชัยฯท่านจึงเรียกพี่ทำให้คนฟังครึกครื้นค่ะ ท่านยังเรียกพระเจ้าบุเรงนองว่า พี่จะเด็ดในบางครั้ง มิใช่เป็นการลบหลู่พระเจ้าแผ่นดินพม่าแต่ประการใด แต่พระมหาฯท่านมีวิธีเจรจาเล่าเรื่องตามแบบของท่านให้คนฟังหัวเราะ โยมทางสายธาตุยังเคยหัวเราะตอนที่พระมหาฯเรียกพี่จะเด็ด ยังถามพระมหาฯท่านไปว่า พระเจ้าบุเรงนองนี้เป็นเพื่อนหลวงพี่หรือคะ พระมหาฯท่านก็หัวเราะว่าท่านพูดให้สนุกไปเพื่อให้คุยออกรส พระท่านจึงตอบโยมโดยการหัวเราะ)

    สวัสดีพี่ดอกไม้ฯ ชื่อพี่ดอกไม้เมืองบนย่อเรียกย่อว่า พี่ดอกไม้ ชื่อเพราะนะคะ

    พระราชมนูยังเข้ามาหรือเปล่าคะ ทางสายธาตุได้อ่านพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพฯเกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทยสมัยกรุงศรีฯและรัตนโกสินทร์ พระองค์ท่านเรียนวิชาประวัติศาสตร์กับ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ และทรงบันทึกไว้ก่อนจะทรงเสด็จเข้าศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในคณะอักษรศาสตร์ ทางสายธาตุเจอตำแหน่งที่จะต้องกำกับดูแลความสงบของพระนคร มี 4 ตำแหน่งจริงๆด้วย สังกัดกรมวัง (แล้วจะเอาส่วนนี้มาอ่านเขียนให้อ่าน แต่ที่มีถึง 7 คนคงเหมือนทีมฟุตบอล ผู้เล่นตัวจริง 4 คน ผู้เล่นตัวสำรอง 3 คน
     
  8. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เรื่องบังเอิญเกี่ยวกับเจ้าอาวาส วัดตาลเอน บางปะหันที่ประสบโดยบังเอิญก่อนจะไปพบพระท่านองค์จริงๆ

    1) เมื่อประมาณปี 2545 ทางสายธาตุไปปฎิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน เป็นช่วงวันเฉลิมพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ คนไปปฎิบัติธรรมเยอะ ทางสายธาตุไปปฎิบัติธรรมในศาลาสุธรรมฯริมแม่น้ำเจ้าพระยา คนเยอะมากจนเบียดๆกัน ได้พระมหาจิรยุทธ์ท่านขึ้นเวทีหน้าศาลาถือไมโครเฟน ให้บรรดาพ่อขาวแม่ขาวจัดแถวเป็นหน้ากระดาน แล้วก็จัดโซนให้เดิน จัดแถวกันอยู่เกือบ20 นาที ทุกคนก็มีพื้นที่ให้เดินจงกรม ทางสายธาตุแอบคิดในใจว่า พระองค์นี้เคยเป็นทหารมาหรือยังไงหนอ เอาวินัยทหารมาใช้กับนักปฏิบัติธรรม ตลกดี แถมผิดท่านดำจนจะเขียวสงสัยตอนเป็นทหารจะฝึกหนัก คิดไปโน่น แบบนี้ จนทางสายธาตุออกมาเดินที่ระเบียงศาลาเพราะว่าคนมากๆหายใจไม่สะดวกจะเป็นลม ท่านก็ออกมานั่งคุมการ ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ ของโยมๆที่นอกศาลาด้วย

    พอตอนพักก็ไปกวาดลานวัดข้างๆโบสถ์ ก็บังเอิญเป็นลานวัดหน้ากุฏิพระมหาจิรยุทธ์ จึงถามไถ่นามกรท่านไว้ กะไว้ว่าวันหลังมาอีกจะนำเครื่องสังฆทานมาถวาย เพราะชอบที่จริตท่านเหมือนจะเคยเป็นทหาร เข้มแข็งดี
     
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    วานนี้ได้หยิบยกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณในหัวข้อของ "แรงอธิษฐาน" วันนี้จะขอนำเรื่องในเทร็นด์ของจิตวิญญาณมานำเสนออีกเรื่องหนึ่งในหัวข้อ"ปัจจุบันจิตวิญญาณไปเกิดได้ไกลขึ้นกว่าแต่ก่อน" โดยผู้เขียนท่านเดิม คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา ครับ

    เหตุผลคือว่า สมัยโบราณ ข้อมูลข่าวสารไม่ดีเหมือนสมัยนี้ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าประเทศอื่นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สมัยนี้ข้อมูลข่าวสารทั่วโลกมีอย่างทั่วถึงและกว้างขวาง ทำให้คนรับรู้สนใจในประเทศอื่นๆได้มากกว่าแต่ก่อน ผู้อ่านคงเคยได้ยินว่าก่อนตายถ้าเราคิดเรื่องบุญหรือสิ่งที่ดีๆ เราก็จะไปใช้บุญก่อน คือไปสู่สุขภูมิ แต่ถ้าก่อนตายเราคิดเรื่องไม่ดีที่ทำ เราก็ไปใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำมาหรือที่เรียกกันว่าไปตกอยู่ในอบายภูมิ ในกรณีที่คิดแต่เรื่องดีๆก่อนตายและเราต้องไปเกิดใหม่ เราก็จะเสมือนหนึ่งว่ามีโอกาสเลือกภพภูมิที่จะไปเกิดว่าจะไปเกิดเป็นอะไร เกิดที่ไหนที่เหมาะสมกับบุญบารมีของเรา แต่ถ้ามีบุญบารมีน้อยเราก็ยังอาจจะคิดว่าจะไปเกิดที่ไหนก็ได้เหมือนกัน แต่ก็อาจจะไปเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน หรือเกิดมามีร่างกายที่ไม่สมประกอบ
    สาเหตุที่กล่าวว่า เราไปเกิดได้ไกลขึ้น เพราะเราเห็นและฟังจากข่าวสารมากขึ้น และถ้าจิตของเราจดจ่อสนใจในเรื่องนั้นๆของประเทศนั้นๆ จิตวิญญาณของเราก็จะไปเกิดในภูมิภาคที่ตรงนั้น สำหรับคนที่มีบารมีสูงและยังทำความดีทำบุญกุศลไว้มาก อาจารย์........ก็บอกว่า จะหาที่เกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติใหม่ได้ยากขึ้น เพราะจิตวิญญาณที่มีบารมีสูงก็จะเกิดกับพ่อแม่ที่มีบารมีสูงกว่าหรือทัดเทียมกันเท่านั้น
    บารมีทางจิตวิญญาณของพ่อแม่จะต่ำกว่าบารมีทางจิตวิญญาณของผู้เป็นลูกที่จะมาเกิดใหม่กับตนไม่ได้ ฉะนั้นคนที่ทำความดีมากๆโอกาสที่จะเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยากขึ้น เพราะต้องมีบิดามารดาที่มีบารมีสูงมารองรับ จึงต้องดำรงสภาพเป็นเทพเทวดาไปอีกนานเลยจนกว่าจะมีบิดามารดาที่ถึงพร้อม
    ขอแนะนำว่าควรหมั่นทำบุญทำกุศลให้มากขึ้น เพราะการทำบุญทำกุศลเป็นการเสริมสร้างบารมี ส่งผลดีอื่นๆตามมาอีกอย่างน่าอัศจรรย์


    ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หนังสืออมรินทร์ธรรมะ "ได้อย่างที่คิด" โดย บุญเกียรติ โชควัฒนา
     
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    วัดตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

    วัดตาลเอน อ. บางปะหัน จ. อยุธยา



    . . . . . . . . . . . . . . . .




    [​IMG]

    ( พระสถูปเก่า วัดตาลเอน จ. อยุธยา ที่จะดำเนินการบูรณะ )




    พระครูสมุห์ จิรยุทธ์ อธิฉันโท


    [​IMG]


    เรื่องบังเอิญ
    1 เคยไปปฎิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน วันเฉลิมพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ไป 7 วัน คนเยอะมาก ได้พระมหาจิรยุทธ์ช่วยจัดแถวโยมที่มาบวชให้เรียบร้อย เจอท่านครั้งแรกที่ศาลาศรีสุธรรมฯ ริมน้ำเจ้าพระยา วัดอัมพวัน ยังคิดในใจว่า ทหารมาบวชพระหรือเปล่าเนี่ย จัดแถวนักปฎิบัติธรรมแบบจัดแถวทหารเลย ที่ต่างจากทหารมีแค่ว่าเอามือไปจับหัวไหล่คนหน้าเพื่อกะระยะห่าง เพราะนุ่งขาวห่มขาวจะไปจับไหล่คนหน้าไม่ได้ ถ้าไม่ติดนุ่งขาวห่มขาว พระท่านให้พวกเราวิดพื้นทำโทษแน่ๆเพราะไม่เป็นระเบียบ จึงจำท่านได้ เพราะอันดับแรกท่านเหมือนทหาร อันดับที่สองท่านดำจนเขียว(คิดเองในใจไม่ได้บอกใครถือว่าทางสายธาตุทำแค่มโนกรรมนะคะ) อันดับสาม ตอนว่างจากปฎิบัติธรรมไปกวาดลานวัดก็ไปกวาดข้างโบสถ์ซึ่งกุฏิท่านอยู่ข้างโบสถ์ จึงได้เข้าไปกราบท่านและถามไถ่นามและฉายาท่านไว้ กะว่าวันหลังจะนำสังฆทานมาถวายท่าน ท่านเป็นคนสอนเรื่องชั้นต่างๆในสวรรค์ด้วย หนังสือที่ท่านแนะนำให้อ่าน เส้นทางสายพระนิพพาน ทางสายธาตุก็ไปซื้อมาอ่านตั้งแต่นั้น รู้จักท่านปีพ.ศ. 2545 ค่ะ
     
  11. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434

    อ้าวนึกว่าข้อความหายไป ที่แท้ขึ้นหน้าใหม่นี่เอง จึงเขียนซ้ำเข้าไปอีกความเห็นหนึ่ง ขออภัยท่านผู้อ่านต้องอ่านสองรอบเสียแล้ว

    เรื่องการบวชของพระมหาจิรยุทธ์ ท่านน่าเคยบวชครั้งแรกที่วัดชุมพลฯ บางปะอิน

    พระครูสมุห์จิรยุทธ์ ฉายา อธิฉนฺโท
    อายุ ๓๓ พรรษา ๑๓ วิทยฐานะ น.ธ. เอก

    สถานะเดิม
    ชื่อจิรยุทธ์ จ่ายพอควร เกิดวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๑๘ เป็นบุตรของ นายสายหยุด จ่ายพอควร และนางกอบทิพย์ รื่นถวิล


    สถานที่เกิด
    บ้านเลขที่ ๔๔ หมู่ ๑ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา


    บรรพชา


    ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ณ วัดชุมพลนิการามราชวรวิหาร อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพระอุปัชฌาย์ พระญาณรังสี

    ครั้งที่ ๒เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๔ ณ วัดอัมพวัน ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรีพระอุปัชฌาย์ พระภาวนาวิสุทธิคุณ (จรัญ ฐิตธมฺโม) ( ปัจจุบันได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมสิงหบุราจารย์)

    อุปสมบท
    เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๓๘
    ณ พระอุโบสถวัดอัมพวัน ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
    พระอุปัชฌาย์ พระราชสุทธิญาณมงคล (จรัญ ฐิตธมฺโม) ปัจจุบันได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมสิงหบุราจารย์
    พระกรรมวาจาจารย์ พระครูสังฆ์รักษ์ (ชูชัย อริโย) ปัจจุบันได้รับตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูภาวนานุกูล
    พระอนุสาวนาจารย์ พระครูปัญญาประสิทธิคุณ ---
     
  12. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระมหาฤทธิชัย ท่านบอกว่าพระมหาจิรยุทธ์ผูกพันสมเด็จพระนเรศวรมากๆ อ่านประวัติตอนสร้างพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรที่วัดตาลเอน บางปะหันดูนะคะ

    [​IMG]

     
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    คุณไก่เหลืองฯ พระมหาจิรยุทธ์ท่านมีโครงสร้างสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตามที่พระมหาฤทธิชัยท่านเล่ามา


    ทางสายธาตุไปกราบนมัสการท่านเจ้าอาวาสก่อนนะคะแล้วจะมาแจ้งข่าวกันอีกที ดูเหมือนสิ่งที่คุณไก่เหลืองฯดำริอยากจะเห็นพระบรมราชานุสาวรีย์ขององค์มหาราชองค์ใหญ่ๆ คงคล้ายกับความคิดของพระมหาจิรยุทธ์ที่ดำระจะสร้าง ถ้าร่วมบุญกันโครงการนี้คงสำเร็จ บอกบุญให้กว้างๆออกไป ชาวไทยจะได้มาร่วมบุญกัน พวกเราคงจะมีบุญสัมพันธ์กันกระมังคะ

    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  14. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    คุณทางสายธาตุคงจะกลับมาแล้วหรือเป็นการแวะเวียนมา หรืออาจเป็นด้วยแรงอธิษฐานครับ เพราะ.....จิตใต้สำนึกเป็นสิ่งที่เชื่อฟังจิตสำนึกอย่างไม่มีเงื่อนไข ฉะนั้นจิตสำนึกต้องการอะไร จิตใต้สำนึกซึ่งมีพลังมากกว่าจิตสำนึก ก็จะช่วยผลักดันให้ผู้นั้นได้ในสิ่งที่ตนอธิษฐานไว้ด้วย....

    ในความหมายนี้พลังของจิตใต้สำนึกจึงเป็นพลังที่สำคัญของแรงอธิษฐาน

    คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา ผู้เขียนหนังสือ "ได้อย่างที่คิด" ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องของ จิตใต้สำนึก ไว้ตอนหนึ่งว่า...

    การคิดหรือการนึกคือ กระบวนการหนึ่งของการใช้จิตสำนึก เพียงแต่ว่าการคิดนั้นมีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ ว่าเราจะคิดไปทำไมหรือเพื่ออะไร ส่วนการนึกก็คือ การย้อนรำลึกถึงประสบการณ์ เหตุการณ์ ความรู้ และการรับรู้ที่มีใครมาป้อนให้เรา หรือพบประสบโดยอายตนะทั้ง 6 ของเรา มนุษย์ส่วนใหญ่มักมีจิตสำนึก และมนุษย์ทุกคนก็มีจิตใต้สำนึกเป็นของตนเองเช่นกัน เพียงแต่จิตใต้สำนึกนั้นไม่สามารถคิดหรือนึกด้วยตนเองได้ แต่จะรับรู้ทุกอย่างที่จิตคิดหรือนึก เหมือนเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยความจำมหาศาล แต่ไม่ได้เก็บข้อมูลในทุกเรื่องในระดับที่เท่ากันหมด ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับนั้นเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน หรือขึ้นอยู่กับว่าจิตสำนึกคิดหรือนึกถึงเรื่องเหล่านี้บ่อยแค่ไหน หรือความรุนแรงของเรื่องนั้นๆมากน้อยเพียงใด

    จิตใต้สำนึกยังเก็บเรื่องราวตั้งแต่อดีตชาติไว้ด้วย เรื่องในอดีตชาติที่ใกล้ก็จะชัดกว่าอดีตชาติที่ไกล (เหมือนกล้องที่ถ่ายระยะใกล้จะชัดกว่าระยะไกล) จิตใต้สำนึกจะรับรู้และเชื่อจิตสำนึกอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะจิตใต้สำนึกคิดหรือนึกเองไม่ได้ การที่จะให้จิตใต้สำนึกรับรู้อะไรได้ชัดๆ จำเป็นต้องใช้ความคิดในเรื่องนั้นบ่อยๆ หรือพูดถึงเรื่องนั้นบ่อยๆ ถึงแม้จิตใต้สำนึกจะคิดอะไรไม่เป็น แต่มีพลังบันดาลและเหนี่ยวนำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้ตามความคิดของจิตสำนึก

    ฉะนั้น ถ้าจิตสำนึกคิดหรือนึกอะไรดีๆ จิตใต้สำนึกก็จะบันดาลหรือเหนี่ยวนำสิ่งดีๆนั้นให้เกิดขึ้น ดังที่เราเคยได้ยินบ่อยๆว่า "คิดอะไรก็ได้อย่างนั้น"

    ขอขอบคุณ หนังสืออมรินทร์ธรรมะ "ได้อย่างที่คิด" บุญเกียรติ โชควัฒนา
     
  15. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เมื่อวานระหว่างเดินทางจากวังน้ำเขียว จากปักธงชัยไปปากช่อง แวะทานข้าวเที่ยงตอนบ่ายสองโมง เพลงนี้มันซ้ำหลายรอบระหว่างทานข้าว เสียงสุเทพ วงศ์กำแหงบ้าง เสียงเท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์บ้าง เสียงสวลี ผกาพันธ์บ้าง ถ้าไม่ได้ฟังหลายรอบคงลืมเพลงนี้ไปแล้ว เมื่อวานฟังหลายรอบเลยค่ะในร้านอาหารที่แวะ ขอเสริมบรรยากาศด้วยเพลงเก่านะคะ นอกเรื่องออกไปฟังเพลงนิดหน่อย คุยกันในกระทู้นี้ด้วยบรรยากาศสบายๆนะคะ วันนี้หาเจอเพลงนี้ในห้องคาราโอเกะด้วย เพลง "รอ"


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  16. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    ดู..สิ นั่น สายพระเนตรเศร้า คราวมองมา...



    ดูสิ นั่น...สายพระเนตรเศร้า คราวมองมา



    กลางดารา..หยาดน้ำค้าง..จึงจางแสง
    มิอาจแข่ง...รัศมี ..ดาราฉาย
    กลางดวงใจ..ที่เปี่ยมล้ำ..ด้วยน้ำใจ
    ย่อมขจัด...ความแห้งไร..้ในหมู่เรา


    หนาวเหน็บร้าว..กลางใจ..ไทยทั้งชาติ
    ด้วยต่างขาด..ไฟรักอุ่น.. .หนุนไล่หนาว
    ขาดรอยยิ้ม..เคยพริ้มละมัย.. เหลือคล้ายเงา
    ดวงตากร้าว...สื่อหากัน.. นั้นฤา..ไทย


    หยุด ! แล้วคิด ..เพียงสักนิด..ในมุมสงบ
    ปล่อยเสียงใจ...ให้ตลบ..ก่อนจักสาย
    แว่วเสียงใคร.. ถอนใจลึก...ระทมใจ
    ได้ยินไหม ...ทรงกำศรวล...หวนอาดูร..

    แม้พระชนม์..จอมคนมหาราช.
    ยังยอมทอด..เพื่อรวมชาติ...มิให้สูญ
    หมายวางทอด..สืบไว้ให้ค้ำจุน
    เพียงสี่ร้อยปีกว่า ..วุ่น.. กรุ่นล้างกัน.



    ไร้ข้าศึก ศัตรูร้าย... ทำลายชาติ.
    อเนจอนาถ..! ล้วนระเริง..เพลิงใจผลาญ
    ลุกเข่นฆ่า ..คล้ายต่างวงศ..์พงศ์เผ่าพันธุ์
    กี่ร่างบรรพชนกัน...ถมแผ่นดิน


    ถึงเวลาซับน้ำตา...มหาราช
    พระโลหิต..ที่รินหยาด ...ควรถวิล
    กตัญญู..รู้พระคุณ..จอมบดินทร์
    หันมาริน..หยาดน้ำใจ... ถวายพระองค์


    กราบน้อมนำ..พระคุณไท้..ต่างน้ำทิพย์
    แล้วต่างหยิบ..รินรดใจ... ไม่ใหลหลง
    ให้น้ำทิพย์...รินโลมไล้ ...ไทยทุกวงศ์
    ดับไฟตรงกลางแผ่นดิน..สิ้นชิงชัง
     
  17. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518

    จาก..“ จิตใต้สำนึกยังเก็บเรื่องราวตั้งแต่อดีตชาติไว้ด้วย

    เป็นความเหงา.. เศร้าสร้อย..ละห้อยหา
    สุดเหว่ว้า..สับสน..บนทางฝัน
    คงเป็นด้วย..ความทรงจำ ย้ำอนันต์
    จะไขว่คว้า..หากัน..นั้นมิเจอ


    ได้แค่แล..ไปแสนไกล..ในขอบฟ้า
    ข้ามเทือกเขา..เนาพนา.. พาใจเผลอ
    ได้แต่แล..เมฆเลื่อนลอย..พลอยละเมอ
    ภพเก่า..ชะเง้อ ..นับวันถอย..ลอยห่างไกล


    แม้น..อยากตัด..ภพชาตินั้น.. สะบั้นขาด
    แสนอนาถ..ลึกล้ำเกิน...จะผลักไส
    คงเหลือทาง..เดินตามรอย..พระพุทธองค์ไป
    สำรวมใจ..บริสุทธิ์..เป็น..พุทธบูชา


    อนุโมทนาค่ะ คุณจงรักภักดี สำหรับข้อความที่จริงแท้ แต่เกินปัญญาหาทางออก..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2010
  18. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ...จิตใต้สำนึกเป็นสิ่งที่เชื่อฟังจิตสำนึกอย่างไม่มีเงื่อนไข ฉะนั้นจิตสำนึกต้องการอะไร จิตใต้สำนึกซึ่งมีพลังมากกว่าจิตสำนึก ก็จะช่วยผลักดัน...

    ...การคิดหรือการนึกคือ กระบวนการหนึ่งของการใช้จิตสำนึก ...

    ...จิตใต้สำนึกนั้นจะรับรู้ทุกอย่างที่จิตคิดหรือนึก...

    ...จะรับรู้และเชื่อจิตสำนึกอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะจิตใต้สำนึกคิดหรือนึกเองไม่ได้ การที่จะให้จิตใต้สำนึกรับรู้อะไรได้ชัดๆ จำเป็นต้องใช้ความคิดในเรื่องนั้นบ่อยๆ หรือพูดถึงเรื่องนั้นบ่อยๆ แต่ถึงแม้จะคิดอะไรไม่เป็น แต่มีพลังบันดาลและเหนี่ยวนำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้ตามความคิดของจิตสำนึก

    ที่ได้นำมาย้ำในเรื่องนี้อีกก็เพราะคำที่ว่า จิตใต้สำนึกยังเก็บเรื่องราวตั้งแต่อดีตชาติไว้ด้วย หากเราเชื่อมั่นและเข้าใจต่อกระบวนการของจิตใต้สำนึกนี้แล้ว เราก็ต้องหาทางที่จะถอดระหัสหรือหา pass word ที่จะเข้าไปสู่ memory นี้ให้ได้ ส่วนจะโดยอย่างไรนั้นกระบวนการนี้ก็ได้บอกวิธีการไว้อย่างชัดเจนแล้ว นอกจากนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับตัวเราเองเท่านั้น จะมีสติและปัญญามากน้อยเพียงใด

    จะอย่างไรก็ดีในความเป็นปุถุชน ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เราจะทำหรือได้ทำลงไปแล้วนั้นเรามีความสามารถที่จะทำได้(โดยไม่เดือดร้อนทั้งเราและเขา)ด้วยความไม่งมงาย ทำไปแล้วสบายใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน บางครั้งอาจจะเป็นในแง่ของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ก็เป็นเรือ่งที่สมควรมิใช่หรือ "ให้เพราะให้ได้" ถ้าถามว่าให้แล้วได้อะไร "ให้ได้เพราะได้ให้"

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดเรายังมี

    "คงเหลือทาง..เดินตามรอย..พระพุทธองค์ไป
    สำรวมใจ..บริสุทธิ์..เป็น..พุทธบูชา"

    ขออนุโมทนา ด้วยครับ คุณ ดอกไม้เมืองบน

     
  19. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,904
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พี่ดอกไม้เป็นนักกลอน ไพเราะแท้ๆค่ะพี่

    พี่จงรักภักดี พี่นำวิทยาศาสตร์ทางจิตมาอธิบายพระพุทธศาสนาได้ดียิ่งเลยค่ะ คนเรียนสายวิทย์จะชอบศึกษาพุทธศาสนาแนวประยุตก์แบบที่พี่นำมาอธิบายนี้มากเลยค่ะ ซึ่งจะน้อมนำคนให้เข้าสู่การศึกษาพุทธศาสนาแบบเต็มรูปแบบต่อไปค่ะ สาธุค่ะพี่

    หนูไปเป็นเพื่อนกับ ศ.ดร. สันติ เล็กสุขุม ในfacebookค่ะ ติดตามครูบาอาจารย์ด้านศิลปกรรมงานช่างไทย ได้ความรู้ดี หนูอยากจะตามเรื่อง ดอกโบตั๋นในงานช่างไทย แต่ติดที่ข้อมูลที่หนูจะต้องหาและนำแสดง หนูอยากให้ความสำคัญในเนื้อหาเพื่อพระเทิดพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์เป็นอันดับแรก เรื่องลายดอกโบตั๋นจึงเก็บไว้ก่อนค่ะ

    หนูคอมเม้นท์ไว้ในFB อาจารย์สันติ เล็กสุขุมดังนี้ค่ะ

     
  20. 77WILL77

    77WILL77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,674
    ทรงเป็นผู้เสียสละอย่างยิ่ง


    พระมหากรุณาธิคุณ ตราตรึงในดวงจิตข้าพระพุทธเจ้าไม่เสื่อมคลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...