ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

แผ่นดินไหวที่อิหร่าน
เมื่อเวลา 06.49 น.ตามเวลาในประเทศไทย ขนาด 5.7 ริกเตอร์ ลึก 10 กม.

 

น่าแปลกที่ประเทศที่เกิดภัยพิบัติ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยถูกกับสหรัฐ คุณfalkman และท่านอื่น ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรคะ..หรือบังเอิญจัง..

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทั่วไทยมีฝน เหนือ-อีสาน ระวังน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศเช้าวันนี้(27 ส.ค.)ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุก หนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก......

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 27 ส.ค.เมื่อเวลา 04.00 น.

ว่าร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางพาดผ่านภาค เหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุก หนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านโดย เฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาสูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนชาวบ้านริมแม่นำโขงระวัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จนท.ออกตรวจแม่น้ำโขงพบมีปริมาณสูงขึ้นเกือบ 10 เมตร เริ่มทะลักท่วมพื้นที่เกษตร เตือนชาวบ้านระวัง


เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานหลังฝนตกหนักทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลลงมารวมกันที่แม่น้ำน่าน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านสถานีดงตะขบ ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมขัง

ส่วนที่ จ.อำนาจเจริญ นายนิรันดร์ บุญสิงห์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ

พร้อมคะออกสำรวจสภาวะน้ำท่วมตามลำแม่น้ำโขง หลังเกิดฝนตกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พบปริมาณน้ำสูงขึ้นเกือบ 10 เมตร บางจุดน้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรบางแห่งแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ตลิ่งระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ส.ส.ปากน้ำป่วยไข้หวัด2009เริ่มดีขึ้น หมอเผยคนป่วยเยอะผิดสังเกต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นพ.ธงชัย ฉัตรยิ่งมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิครินทร์ กล่าวเมื่อวันที่ 27 ส.ค.

ถึงรณีนางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า จากการตรวจร่างกายผู้ป่วยครั้งล่าสุด พบว่าอาการเริ่มดีขึ้น โดยผู้ป่วยมีอาการไข้ลดลง ไม่ปวดศีรษะ ไม่อาเจียรหรือมีอาการปวดเมื่อย มีแต่หายใจเหนื่อยหอบเป็นบางครั้ง แพทย์ยังคงต้องรอดูอาการให้นอนพักรักษาต่อไปซักระยะ จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้

นพ.ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า พบว่าโรงพยาบาลมีผู้ป่วยเข้ารักษาโรคไข้หวัดเป็นจำนวนมาก โดยที่โรงพยาบาลมีผู้ป่วยนอนพักรักษาเกินกว่าโรคทั่วไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตำรวจ กก.สส.อุตรดิตถ์ รวบ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ค้ายาบ้าผงะเจอของกลางกว่า 4,000 เม็ด

โดยเหตุการณ์สร้างความเสื่อมเสียให้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับวงการศาสนา แต่กลับหันไปค้ายาเสพติดมนครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น.ของคืนวันที่ 27 ส.ค. ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับรายงานว่าจะมีการขนยาบ้ามาจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถโดยสารประจำทาง และจะมีการนัดส่งยาเสพติดกันที่ สถานีขนส่งอุตรดิตถ์ พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ ผบก.อุตรดิตถ์ จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ไปคอยดักซุ่มเพื่อทำการจับกุม

จนกระทั่งเมื่อเวลา 01.00 น. ได้ปรากฏว่า มี นายธงชัย เอกา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.7 ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จว.อุตรดิตถ์ และมีนามบัตรเป็นเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และ นายประวิก (ตี๋) สมบูรณ์ทรัพย์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181/5 ม.9 อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย เดินทางมาถึง และได้เดินไปยังจุดนัดพบเพื่อรับมอบยาเสพติด จาก นายจะหา ชามวู่ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82ม.21 นายจะสี คะติ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.21 และ น.ส.นะสี ไอ้ลา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.21 โดยทั้ง 3 คนเป็นคน ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น และจากการตรวจค้น นายจะหา และ นาจะสี พบยาบ้ายัดใส่รูทวารหนักนายจะหา จำนวน 1,141เม็ด นายจะสี 569 เม็ด ส่วน น.ส.นะสี นำยาบ้าซุกในกางเกงใน ซุกซ่อนอยู่จำนวน 1,197 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมด มาที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ และตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความรอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทางผู้ต้องหาทั้งหมดได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รัฐบาลเวเนฯจับชาวเม็กซิขนโคเคน4ตัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>รัฐบาลเวเนซูเอลา นำเครื่องบินรบ ตามประกบเครื่องบินพาณิชย์ เพื่อจับผู้ต้องหาชาวเม็กซิกัน ขนโคเคน 4 ตัน ที่ซุกไว้ใต้ดินในฟาร์มแห่งหนึ่งทางตอนกลางของรัฐการ์ริโก ติดกับชายแดนเม็กซิโก

กระทรวงกิจการภายในของรัฐบาลเวเนซูเอลา แถลงข่าว เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ระบุว่านักบินของหน่วยปราบปรามยาเสพติดนำเครื่องบินรบรุ่น เอฟ-16 ตามประกบเครื่องบินพาณิชย์รุ่นคิง-200เพื่อบังคับให้แล่นลงจอดที่ฟาร์มแห่งหนึ่งทางตอนกลางของรัฐการ์ริโก ติดกับชายแดนเม็กซิโกเมื่อ 26 ส.ค.และสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดชาวเม็กซิกันได้ 1 ราย แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดบางรายหลบหนีไปได้ ส่วนของกลางที่ได้จากการตรวจค้นฟาร์มที่เกิดเหตุเป็นโคเคนบริสุทธิ์น้ำหนัก ประมาณ 4 ตันถูกซุกซ่อนไว้ใต้ดิน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ด่วน! รถไฟพุ่งชนชานชลาหัวลำโพง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ม้าเหล็กเบรกขัดข้อง พุ่งชนชานชลา เกยฟุตบาตกลางหัวลำโพง ประชาชนวิ่งหนีตายจ้าละหวั่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 27 ส.ค. ขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ขบวน 1222 ขณะกำลังจะเข้าเทียบชานชลา เพื่อรับผู้โดยสาร เกิดเหตุขัดข้องระบบเบรก ทำให้พุ่งชนชานชาลา 10 สถานีรถไฟหัวลำโพง ก่อนตัวรถจะพุ่งออกมานอกราง เกยขึ้นฟุตบาตเกือบถึงร้านค้า ส่งผลให้ นายสุนันท์ มณีพันธ์ พขร. ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ประชาชนที่มารอรับญาติ และกำลังจะรอโดยสารรถไฟ วิ่งหนีเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อเมริกาเองก็อ่วม เพราะธรรมชาติจัดมาให้หลายดอก ไปหลายรัฐเหมือนกันนี่ ตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศที่เจอๆ กันอยู่ มักจะมีวีรกรรมร้ายๆ มากกว่า มาดูเรื่องนี้กันเหอะ





<CENTER>ความผิดปกติของสัตว์น้อยใหญ่ : สัญญาณเตือนภัยธรรมชาติ</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>ธัญญลักษณ์ เหล็กพิมาย</CENTER><CENTER>สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา</CENTER>[
ท่านผู้ฟังเคยสงสัยไหมคะว่า ในสมัยก่อนนี้ทั้งที่ไม่มีวิทยาการอันก้าวหน้าหรือว่าเครื่องมือที่ทันสมัยเหมือนดังเช่นปัจจุบัน แต่ผู้คนก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าอีกไม่นานฝนจะตก ฝนจะแล้ง น้ำจะหลาก หรืออาจเกิดแผ่นดินไหว นั่นเป็นเพราะคนสมัยก่อนค่อนข้างมีความใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อม ทั้งป่า เขา ลำเนา ไพร และรู้ถึงธรรมชาติของสัตว์น้อยใหญ่เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อเห็นพฤติกรรมหรือลักษณะบางอย่างที่เปลี่ยนไปของสัตว์ จึงทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าอาจมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้น

เช่น เมื่อเห็นฝูงแมลงเม่าบินเข้ามาเล่นไฟในบ้าน แสดงว่าฝนกำลังจะตก เห็นมดขนไข่แสดงว่ามันหนีฝน เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากสัตว์แต่ละชนิดซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาตินั้นจะมีสัมผัสที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมมากและมีสัญชาตญาณสูง เมื่อเกิดความผิดปกติบางอย่าง พวกสัตว์เหล่านั้นก็จะพยายามปรับตัวเพื่อให้สามารถปลอดภัยจากความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมที่มันอยู่อาศัยได้

แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง บางครั้งสัตว์จะปรับตัวไม่ได้ จึงเกิดการตื่นกลัวหรือวิ่งวุ่นกระวนกระวาย มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป หรือไม่เช่นนั้นก็เกิดอาการช็อคตายได้ ดังเช่น การที่สัตว์หลายชนิดเกิดความตื่นกลัว นกร้องผิดปกติในตอนกลางคืน หรือแมลงหลายชนิดพากันอพยพไปเป็นฝูง ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว การที่วาฬและโลมาตายเกยตื้นตามชายหาดครั้งละจำนวนมาก อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

หรือที่เห็นชัดที่สุดคือ ก่อนเกิดเหตุการณ์มหันตภัยสึนามิเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น สัตว์หลายชนิดแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างชัดเจน ทั้งสัตว์ทะเลและสัตว์บก เช่น ปลาทะเลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีจำนวนน้อยมาก รวมทั้งปลิงทะเลก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นและอยู่ให้จับได้ง่าย ๆ ในบริเวณน้ำตื้น ทั้งที่ความจริงแล้วปลิงทะเลจะอยู่ในน้ำลึกและจับได้ยากมาก ตลอดจนการที่จู่ๆ ฝูงควายที่ปล่อยให้เล็มหญ้าอยู่ตามทุ่งก็พากันวิ่งเตลิดขึ้นเขาอย่างไม่คิดชีวิต (ประมาณ 10 นาทีก่อนเกิดสึนามิ) เหล่านี้เป็นต้น

นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว การที่สัตว์บางชนิดพิการ คือมีรูปร่างผิดปกติหรือมีส่วนขาดเกินบางอย่างนั้น ก็เป็นสิ่งที่สะท้องถึงความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมเช่นกัน กล่าวคือ มลพิษของสิ่งแวดล้อมจะส่งผลให้สิ่งมีชีวิตมีความผิดปกติไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์จำพวกที่ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศนั้น ๆ โดยตรง เช่น สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก อย่างพวก กบ เขียด อึ่งอ่าง ดังที่เราจะเคยเห็นข่าวการพบกบ 3 ขา กบ 5 ขา 23 นิ้ว เขียด 2 หาง เป็นต้น

ทั้งนี้เนื่องจาก วงจรชีวิตของสัตว์พวกนี้เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศโดยตรงและไวต่อมลพิษมากเป็นพิเศษ เพราะสัตว์จำพวกนี้จะดูดซึมมลพิษผ่านเข้าทางผิวหนัง ดังนั้นหากสิ่งแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่มีมลพิษ ก็จะส่งผลให้เกิดความพิการขึ้นนั่นเอง


ภาพสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ - เมื่อหนอนคืบระบาด (หนอนผีเสื้อ) บุกบ้านคน ที่กาฬสินธุ์ <SUP></SUP>




ในช่วงนี้ มีสัญญาณเตือนภัยถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมหลายอย่างจากธรรมชาติ เพราะการเสียสมดุลของสิ่งแวดล้อม ทำให้บางอย่าง ขาด และบางอย่างมากเกินไป เช่น การระบาดของหนอนคืบ ที่บ้านโคก หมู่ที่ 4 ตำบลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

ใครจะคิดว่า หนอนตัวเล็กๆ ที่กินพืชในธรรมชาติ และไม่เคยเกิดปัญหามาก่อน กลับ เกิดการระบาดหนัก คืบคลานเข้ามากัดกินใบต้นประดู่ในบริเวณบ้านของคน แล้วยังคืบเข้าไปในบ้านคน กลายเป็นข่าวที่กาฬสินธุ์ ดังในคลิปวิดีโอข่าวท้องถิ่นของ เอ็มที เคเบิ้ลทีวี กาฬสินธุ์


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=p5QFNrjB8oY&feature=player_embedded"]http://www.youtube.com/watch?v=p5QFNrjB8oY&feature=player_embedded[/ame]


เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำเอาเจ้าของบ้าน ต้องรีบไปพักที่บ้านญาติพี่น้องทันที ไม่รู้ว่า หนอนคืบ จะเป็นอันตรายแค่ไหน ไม่เคยพบเคยเจอแบบนี้ จนวันที่ 8 มิ.ย. เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ และข้าราชการหลายฝ่าย ต้องลงพื้นที่ ถึงได้รู้ว่า เป็นหนอนชนิดไหน มีอันตรายกับคนหรือไม่อย่างไร

คนเราพยายามที่จะเอาชนะธรรมชาติ จนเสียสมดุลหลายอย่าง นี่คือสัญญาณเตือนภัยธรรมชาติ ที่หลายคนอาจไม่ใส่ใจมากนัก จนกว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

คนเรายังขาดความรู้หลายอย่าง แม้จะมีแหล่งความรู้ให้ค้นคว้า ศึกษาได้เยอะ สัญญาณธรรมชาติที่เกิดขึ้น น่าจะค้นหาสาเหตุ จากสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ และหาทางป้องกัน แต่คิดว่า ต่อไปคงจะได้เจอกับสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติที่ไม่เคยพบเจออีกหลายอย่าง


สัญญาณเตือนภัยธรรมชาติของสัตว์




สัตว์นั้นมีสัญชาติญาณ สามารถรู้ล่วงหน้าถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้จริงหรือ

ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2551 มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมแพนด้า ต่างรายงานว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวไม่นาน แพนด้าก็ต่างแสดงอากัปกริยาลุกลี้ลุกลน เหมือนจะรู้ว่ากำลังจะมีภัยร้ายเกิดขึ้น


2518 แผ่นดินไหวเมืองไฮชิง



หลายครั้งที่สัญชาติญาณชี้เตือนภัยของสัตว์ถูกเมิน ไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2518 นักวิทยาศาสตร์ในเมืองไฮชิง ประเทศจีน ต่างสงสัยเมื่อแมวแสดงอากัปกริยาหวาดระแวง และหมาก็เริ่มเห่าหอนไม่หยุดหย่อน จนนักวิทยาศาสตร์เกิดความเชื่อมั่นว่ากำลังจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ทำการอพยพผู้คน หนีภัยออกจากเมืองในทันที เพียง 5 ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่เมือง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ระดับ 7.3 ริกเตอร์ ในครั้งนั้นมีผู้คนเสียชีวิตแค่ 2,000 คน ส่วนตัวเมืองนั้นพังราบ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าหากไม่ได้ทำการอพยพ คงจะมีผู้เสียชีวิตถึง 150,000 คน

นับเป็นครั้งแรกที่เมืองได้รับการอพยพหนีก่อนเกิดแผ่นดินไหว ในครั้งนี้สัตว์ก็ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายว่าช่วยเตือนถึงอุบัติภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น

2538 แผ่นดินไหวเมืองโกเบ



ในเดือนมกราคม 2538 ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหว ระดับ 7.2 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตถึง 6,400 คน ผู้บาดเจ็บ 27,000 คน โดยก่อนหน้าเกิดแผ่นดินไหว ผู้คนในเมืองต่างสังเกตว่าสุนัขทั่วทั้งเมืองต่างเห่าต่อเนื่อง ไม่มีหยุดตลอดวันตลอดคืน

น.พ.คิโยชิ ชิมามูระ ได้ศึกษาแผ่นดินไหวครั้งนี้โดยละเอียด และพบว่ามีรายงานสุนัขกัดคนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว จึงตั้งสมมุติฐานว่าสัตว์นั้นรู้ล่วงหน้าถึงแผ่นดินไหวจึงเกิดอาการเคร่งเครียด

2547 พายุเฮอริเคนชาร์ลี



ในเดือนสิงหาคม 2547เกิดพายุเฮอริเคนถล่มรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 10 คน ก่อความเสียหาย 16 ล้านดอลลาร์

เมื่อทีมนักชีววิทยาทางทะเลได้กลับมาทบทวนดูข้อมูล ก็พบว่ากลุ่มฉลาม 14 ตัวซึ่งได้ติดเครื่องส่งสัญญาณวิทยุเพื่อศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหว นั้นรู้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่าพายุกำลังจะมา จึงได้ว่ายหนีจากพายุไปไกล รอคอยจนภัยพิบััติผ่านพ้นไปแล้วถึงสองสัปดาห์ จึงได้กลับมาหากินแหล่งเดิม คุณมิเชล ฮูเพล นักวิทยาศาสตร์นั้นกล่าวว่า “สัตว์เหล่านี้รับรู้ถึงสภาวะแวดล้อมได้มากกว่าที่เราคิด”

2519 แผ่นดินไหวเมืองตังฉาน



ในเดือนกรกฏาคม 2519 ประเทศจีนถูกแผ่นดินไหว ระดับ 7.8 ริกเตอร์ เมืองตังฉาน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมนั้นถูกกระทบอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตถึง 240,000 คน

ช่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดแผ่นดินไหว สถานีวิทยุท้องถิ่นได้รายงานถึงหมีแพนด้าซึ่งเอามือกุมหัว ร้องโหยหวนไม่มีหยุด คนเลี้ยงแพนด้านั้นรู้สึกแปลกใจ แต่ในภายหลังจึงเข้าใจและเชื่อว่าแพนด้าคงรู้สึกได้ล่วงหน้าว่าแผ่นดินไหวกำลังจะมา

2482-2488 สงครามโลกครั้งที่สอง



ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีคนอังกฤษเสียชีวิตกว่า 450,000 คน มีผู้กล่าวว่าคงจะมีผู้เสียชีวิตมากยิ่งกว่านี้อีก ถ้าหากไม่ได้รับเสียงเตือนภัยจากสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์

ในขณะที่เรือบินรบจากเยอรมันกำลังจะเข้ามาทิ้งระเบิดอังกฤษ สุนัขและแมวก็มักจะร้องเห่าหอนเตือนให้เจ้าของหาที่หลบกำบัง

“บางคนคิดว่ามีแรงสั่นไหวเบาๆ ก่อนเกิดเหตุซึ่งคนไม่สามารถรู้สึกได้ บางทฤษฏีก็ว่ามีการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบกาซในอากาศหรือประจุไฟฟ้า” คุณรูเพิร์ต เชลล์เดรก นักวิทยาศาสตร์ ผู้ศึกษาถึงประสาทสัมผัสที่หกของสัตว์อย่างลึกซึ้ง กล่าว “แต่นั่นก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าสัตว์รู้ได้อย่างไรว่ากำลังจะถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง”

2542 แผ่นดินไหวเมืองอิซมิท



ในรุ่งเช้าของวันที่ 17 สิงหาคม 2542 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.4 ริกเตอร์ ใกล้กับเมืองอิซมิท ประเทศตุรกี ระยะเวลาเพียงแค่ 37 วินาที แต่ก็ส่งผลให้คน 45,000 คนเสียชีวิต บาดเจ็บ 40,000 คน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่าล้านคน ส่งผลต่อพื้นที่กว่า 100 ไมล์

ในช่วงหลายวันก่อนเกิดแผ่นดินไหว ชาวบ้านต่างรายงานว่าสุนัขนั้นเห่าหอนไม่มีหยุด รวมทั้งแมว หนู และนก ก็มีพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนผิดปกติ เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงน้ันพยายามเตือนถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมา

2547 คลื่นยักษ์สึนามิ คาบสมุทรอินเดีย



ในเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นับเป็นอุบัติภัยทางธรรมชาติที่ส่งผลอาณาเขตกว้างขวางหลายประเทศ และมีรายงานของสัตว์ที่รู้ภัยล่วงหน้าหลายชนิดเช่นเดียวกัน

ที่ประเทศไทยมีรายงานช้างแสดงอาการเคร่งเครียดร้องแผดเสียงอย่างต่อเนื่องหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ และช่วงหนึ่งชั่วโมงก่อนคลื่นยักษ์จะมา มีช้างบางตัวที่วิ่งหนีจากชายทะเลขึ้นพื้นที่สูง คุณคริส ครุซ ครูสอนดำน้ำที่ภูเก็ต นั้นล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจากฝูงโลมา “มันกระโดดไปมาข้างหน้าเรือผมเลย ผมจึงรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ”

ที่ศรีลังกา ค้างคาวซึ่งปกติต้องนอนหลับเวลากลางวัน กลับบินไปมา

ที่อินเดียฝูงฟลามิงโกซึ่งทำรังวางไข่อยู่ได้หนีพื้นที่ราบต่ำขึ้นไปอยู่พื้นที่สูงเพื่อหนีคลื่นยักษ์สึนามิ


เรียบเรียงโดย น.สพ. กานต์ เลขะกุล

 

อ่านแล้ว ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ พายุสนามแม่เหล็กในเกมส์ Red Alert ภาค ๒ ที่เคยเล่นเลยครับ(เกมส์ฮิตเมื่อหลายปีก่อน) แต่ในเกมส์ แค่บ้านเรือน สิ่งก่อสร้างพัง ผู้คนบาดเจ็บล้มตาย รถยนต์พัง เท่านั้น ไม่มีผลกระทบที่มากกว่านี้ครับ...

 

ตะลึง! งูจงอางแผ่แม่เบี้ยบนรูปปั้นสมเด็จโต

ชาวบ้านที่สำนักสงฆ์ ที่อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ตะลึงเมื่อเห็นงูจงอางเลื้อยไปพันรูปปั้นองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี กลาง สำนักสงฆ์ โดยชาวบ้านเชื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ทรงลงมาโปรด ส่วนชาวบ้านบางรายยังเชื่ออาจจะเกิดอาเพศครั้งใหญ่เหมือนการเกิดน้ำท่วมที่ อำเภอแม่พริกเหมือนกับปีที่แล้วก็เป็นไปได้
พระวิศาล ถาวโร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดถ้ำผางาม สำนักปฎิบัติธรรมพรหมรังสี ต. พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง เปิดเผยว่า เกิดเหตุการณ์ประหลาดมีงูจงอาง ขนาด 3 เมตรเลื้อยไปพันบริเวณรูปเหมือนขนาดใหญ่ของสมเด็จพุฒาจารย์โต ที่มีขนาดสูงกว่า 3 เมตร โดยส่วนหัวงูจงอาง ยังได้ชูอยู่เหนือศรีษะสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พร้อมยังแผ่ได้แม่เบี้ย
ผู้พบเห็นต่างขนลุกในความน่าอัศจรรย์ และเป็นปาฎิหาริย์ ในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากว่าเป็นงูศักดิ์สิทธิ์ ที่มาแสดงปาฎิหาริย์ให้ประชาชน ที่ได้พบเห็น ส่วนชาวบ้านบางรายยังได้นำไม้มาไล่งูจงอางแต่งูไม่ยอมหนีแต่อย่างใด ทั้งนี้ ชาวบ้านหลายคนที่พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวต่างเชื่อว่า เป็นความศักดิ์สิทธิ์ และบารมีของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่ได้มาโปรดให้พระสงฆ์ แม่ชี และชาวบ้านของอำเภอแม่พริก
ผ่านไปกว่า 7 ชั่วโมง งูก็ได้เลื้อยลงเข้าไปใต้ต้นโพธิ์ด้านข้างวัด แล้วเลื้อยหายเข้าป่าไปเอง ส่วนชาวบ้านบางรายต่างร่ำลือว่าเป็นบารมีของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ที่ได้มาสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็น แต่ก็มีบางส่วนวิพากษ์วิจารย์กันว่าอาจจะเกิดอาเพศครั้งใหญ่ก็เป็นไปได้

​

 

อุตุฯเตือนเหนืออีสานระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนปชช. ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น ยกเว้นภาคใต้ฝั่งตะวันออกและฝั่ง ตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลาง พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนัก บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน โดย เฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร และหนองบัวลำภู อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


สนับสนุนเนื้อหา



น้ำป่าทะลักแม่ฮ่องสอน-ชาวบ้านขนของหนีวุ่น แถมทางขึ้น“พระธาตุดอยกองมู”ถูกดินถล่มมิด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 สิงหาคม 2553 15:39 น.

แม่ฮ่องสอน - น้ำป่าทะลักท่วมเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนตั้งแต่เช้ามืด แถมดินถล่มปิดทับเส้นทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู

รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้(28 ส.ค.) ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จนกระทั่งเวลา 05.00 น. ได้เกิดน้ำป่าจากลำห้วยแม่ฮ่องสอน ที่ไหลลงสู่ลำห้วยนามะปิน หมู่ที่ 11 ต.ปางหมู องเมือง จ.แม่ฮ่องสอน ผ่านตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะบริเวณหมู่บ้านนามะปิน หมู่ที่ 11 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน บ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวนมาก ราษฎรต้องรีบเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นไปอยู่บนพื้นที่สูง เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเป็นช่วงเวลาเช้ามืด

นางสาวนัทธมน แก้วมาลี ผู้ใหญ่บ้านนามะปิน หมู่ที่ 11 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลา 02.00 น. และช่วงเวลา 05.00 น. น้ำป่าได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรอย่างรวดเร็ว จึงได้แจ้งผ่านทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและให้ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณ ใกล้ทางน้ำไหลให้รีบเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นมาอยู่บนพื้นที่สูง และประสานมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เข้ามาช่วยเหลือราษฎร ที่ติดอยู่ภายในบ้านพักที่น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม ซึ่งก็สามารถช่วยเหลือราษฎรดังกล่าวได้ ขณะนี้ได้เร่งสำรวจความเสียหายทั้งพื้นที่ทางการเกษตรและทรัพย์สินของราษฎร

ขณะที่นายธานินทร์ สุภาแสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน และกำลัง อส.เข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากอย่างเร่ง ด่วน ส่วนความเสียหายให้ทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนสำรวจและรายได้ให้ทราบ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากนำป่าไหลหลากแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าถนนที่ขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ถูกดินถล่มปิดทับเส้นทาง รถยนต์นักท่องเที่ยวไม่สามารถผ่านได้ ในขณะที่ถนนสายหมู่บ้านทุ่งกองม ต.ปางหมู น้ำป่ากัดเซาะเหลือ 1 ช่องทางการจราจร เสาไฟฟ้าหัก โค่นได้รับความเสียหายหลายจุด

ด้านนายพีรัตน์ เรืองสุกใส หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้ฝนตกลงในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่เวลา 02.00 - 06.00 น. วัดปริมาณน้ำฝนที่สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน 95 มม. ในระยะนี้ขอให้ประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนใกล้ทางน้ำไหล ให้เคลื่อนยายสิ่งของขึ้นมาอยู่บนพื้นที่สูง



[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]กรุงเก่าอ่วม!ฝนตกหนักสุดรอบ 50 ปี หลายพื้นน้ำท่วมสูงกว่า 70 -100 ซม.

[/FONT]วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:33:21 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi][/FONT][FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ผู้ สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ว่ามีหลายพื้นที่ในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจรกที่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาฝนตกลงมาอย่างหลักใน รอบ 50 ปี โดยที่ อ.ภาชี หนักที่สุด เพราะฝนตกลงมาแต่ช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม จนถึงเกือบเช้าตรู่ของวันที่ 28 สิงหาคม ทำให้ อ.ภาชี ซึ่งถือเป็นอำเภอซึ่งเป็นพื้นที่ดอนสูงที่สุดของจังหวัดและไม่ค่อยถูกน้ำ ท่วมเท่าใดนัก แต่กลับต้องพบกับปัญหาน้ำท่วมในตลาดเก่าแก่ของอำเภอ ที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชีเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่ถูกน้ำฝนท่วมเป็นพื้นที่ท้องกระทะกว่า 10 ไร่ของอำเภอ เป็นที่ตั้งของชุมชนขนาดใหญ่และหนาแน่นที่สุดของ อ.ภาชี อยู่หน้าสถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี และอยู่ในเขตเทศบาลตำบลภาชี มีบ้านเรือนกว่า 300 หลังคาเรือน และร้านค้าจำนวนมาก รวมถึงสถานศึกษา อีกหลายแห่งถูกน้ำฝนท่วมในระดับ 70-100 ซม. แต่ในส่วนของรางรถไฟและสถานีรถไฟไม่ถูกน้ำท่วมแต่อย่างใด

นางวรรณาพร พร้อมไพบูลย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านหน้าตลาดสถานีรถไฟ เลขที่ 256 ม.5 ต.ภาชี อาชีพขายส้มตำไก่ย่าง กล่าวว่า ฝนตกลงมาอย่างหนักและน้ำไม่สามารถบายลงท่อได้ทันจนน้ำฝนท่วมชุมชนสูงเกือบ 1 เมตร ในระยะเวลาอันรวดเร็ว บ้านเรือนชั้นล่าง ข้าวของของพ่อค้าแม่ค้าและของใช้ในบ้านของคนในชุมชนถูกน้ำท่วมเสียหาย และระดับน้ำลดลงอย่างเชื่องช้า ถึงแม้เทศบาลจะมาตั้งเครื่องสูบน้ำแล้วก็ตาม เพราะว่าน้ำในลำคลองระบายน้ำรอบเขตเทศบาลก็มีระดับน้ำในคลองสูง น้ำในเขตเทศบาลไม่สามารถไหลลงคลองได้ ต้องมีการสูบน้ำแต่ก็เป็นการทำงานที่ลำบาก เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่น้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก


ส่วนที่โรงเรียนรอตเสวกวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่ของอำเภอ ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร โดยนางสาวคะนึงนิจ รอตเสวก ผอ.โรงเรียน อายุ 55 ปี กล่าวว่า คนเฒ่าคนแก่บอกว่าเป็นฝนตกหนักในรอบกว่า 50 ปี ไม่เคยพบแบบนี้มาก่อน โดยฝนตกหนักมากและน้ำฝนท่วมโรงเรียนอย่างรวดเร็วเมื่อคืนที่ผ่านมา จนพื้นที่โรงเรียนถูกน้ำท่วมเกือบ 1 เมตร และมีการเร่งระบายน้ำออกจนถึงเช้าระดับน้ำยังสูง 70 ซม. ซึ่งหากฝนตกลงมาอีกปัญหาและความเสียหายคงเพิ่มขึ้นอีก โดยน้ำท่วมเพียงคืนเดียวทำให้ทรัพย์สินของโรงเรียนเสียหายไปเกือบ 1 ล้านบาท โดยรถยนต์ของโรงเรียนจมน้ำไป 3 คัน ห้องเรียนจมน้ำไปหลายห้อง อุปกรณ์การเรียนจมน้ำไปจำนวนมาก สนามโรงเรียนและพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังสูง

ขณะที่มีรายงานความเสียหายจาฝนที่ตกหนักไปทั่วจังหวัด โดยนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า นาอกจากชุมชนเมืองหลายแห่งระบายน้ำฝนไม่ทันแล้ว พื้นที่ทางการเกษตรอีกจำนวนมากได้รับความเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นนาปรังที่ออกรวงและใกล้เก็บเกี่ยว เช่นที่ อ.ผักไห่ จำนวนกว่า 8,000 ไร่ , อ.บางบาล ที่ ต.บ้านกุ่มและข้างเคียงอีกจำนวนมาก ส่วนที่ อ.อุทัย ในเขต ต.หนองไม้ซุง , ต.สามบัณฑิต , ต.หนองน้ำส้ม พื้นที่นาปรังก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก โดยได้ประสานให้ท้องถิ่นทุกแห่ง อำเภอ และหน่วยงานกรมชลประทาน จัดหาเครื่องสูงน้ำเพื่อไปช่วยเหลือที่ชุมชนและพื้นที่เกษตร เพื่อให้ระดับน้ำลงลงอย่างเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน และให้อำเภอที่ประสบปัญหาเร่ง ทำเรื่องเสนอจังหวัดเพื่อประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ



[/FONT]

 

โจรชั่วงัดโบสถ์มหาอุตตม์วัดประจำตระกูลเจ้าพระยาพระคลังสมัยกรุงศรีอยุธยา

วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 11:04:39 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อ วันที่ 28 ส.ค. พ.ต.ท.เอนก พงษ์สวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจาก พระครูอาทรบุญวิสุทธิ์ หรือพระอาจารย์งาม ฐานวโร อายุ 67 ปี เจ้าอาวาสวัดสมณโกฏฐาราม ม.7 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนงัดประตูโบสถ์มหาอุตตม์ที่สร้างมาแต่สมัยกรุง ศรีอยุธยาด้วยการตัดแม่กุญแจที่คล้องไว้หน้าประตู และเจ้าไปงัดตู้บริจาคไปอีก 4 ตู้บริจาค โดยคนร้ายได้เงินไปเกือบ 30,000 บาท หลังรับแจ้งพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ เมื่อไปถึง วัดสมณโกฏฐาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อยู่ใกล้ตลาดน้ำอโยธยาสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และเป็นวัดตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวทำบุญอยุธยามหามงคล แต่วัดดังกล่าวไม่มีรั้วรอบ สามารถเข้าออกได้หลายทาง ประกอบกับเมื่อคืนฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้คนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้ามาใช้คีมขนาดใหญ่ตัดแม่กุญแจที่คล้องไว้กับสายยูตรงประตูโบสถ์ และเมื่อเข้าไปในโบสถ์ที่ภายในมีการเก็บรักษาตู้บริจาคไว้ 27 ตู้บริจาค แต่มีจำนวน 4 ตู้ที่มีเงินทำบุญจำนวนมากเพราะเป็นตู้ทำบุญเพื่อทอดกฐินประจำปี โดยคนร้ายใช้คีมตัดแม่กุญแจตู้บริจาคที่ทำจากไม้จำนวน 4 ตู้และนำเงินบุญไปรวมเป็นเงินเกือบ 30,000 บาท ส่วนตู้บริจาคตู้อื่นที่มีเงินทำบุญน้อย และทรัพย์สิน รวมพระพระพุทธรูป คนร้ายไม่ได้แตะต้อง อย่างไรก็ตาม พบว่าคนร้ายเตรียมตัวมาอย่างดีเพราะทิ้งหลักฐานรอยนิ้วมือน้อยมากจนแทบจะไม่ มีร่องรอยให้ตำรวจใช้เป็นประโยชน์สำหรับติดตามจับกุม

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีคนร้ายบุกเข้าไปโจรกรรมตู้บริจาคจำนวน 4 ตู้จากวัดดุสิตดาราม ที่ห่างจากวัดสมณโกฏฐารามเพียง 1 กม.เท่านั้น ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ขอความร่วมมือจากพระสงฆ์โดยขอแจ้งเตือนว่าช่วงนี้ ควรเปิดตู้บริจาคทุกวันในช่วงเย็น เพื่อนำเงินทำบุญออกจากตู้บริจาคไปเก็บในที่ปลอดภัย

สำหรับวัดสมณโกฏฐาราม สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น และต่อมามีปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยอยุธยาตอนปลายโดยเจ้าพระยาโกษา (ปาน) และเจ้าพระยาโกษา( เหล็ก) อดีตเจ้าพระยาพระคลังในสมัยกรุงศรีอยุธยา และถือว่าเป็นวัดประจำตระกูล ในจดหมายเหตุของแกมเฟอร์ แพทย์ชาวเยอรมันที่ทำงานในบริษัทอีสต์อินเดียของฮอลันดาเดินทางเข้ามากรุง ศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2233 ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา ได้บันทึกไว้ว่าห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกมีวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เรียกว่า "วัดพระยาคลัง" แผนผังที่นายแกมเฟอร์เขียนประกอบไว้ปรากฏว่าเป็นวัดสมณโกฏฐารามและวัดกุฎี ดาว และยังระบุว่าสมเด็จพระเพทราชาได้เสด็จไปที่วัดนี้เพื่อราชทานเพลิงศพเจ้า แม่ดุสิตซึ่งเป็นมารดาของเจ้าพระยาโกษา (เหล็ก) และเจ้าพระยาโกษา (ปาน) และยังเป็นพระแม่นมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อ พ.ศ. 2331


<!--BEGIN WEB STAT CODE--> <script language="javascript1.1">page="ÁµÔª¹Í͹äŹì-ÀÒ¾¢èÒÇ";</script> <script language="javascript1.1" src="http://hits0.truehits.net/data/a0000314.js"></script><script src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></script><script src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></script>
[/FONT]

 

ปากีสถานอ่วม น้ำท่วมรอบใหม่ เฮอริเคน"แดเนียล"แรงระดับ 4​

​

ปากีสถานฝนยังตกหนัก แม่น้ำอินดุสเอ่อล้นฝั่ง คาดเกิดน้ำท่วมระลอกใหม่ ขณะที่พายุเฮอริเคน “แดเนียล” มีความรุนแรงระดับ 4 พัดเข้าใกล้เกาะเบอร์มิวด้า...

สหประชาชาติเผยเมื่อ 27 ส.ค.ว่า มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในจังหวัดซินด์อีกกว่า 1 ล้านคนใน 48 ชั่วโมงหลัง เพราะน้ำยังท่วมไม่หยุดทางภาคใต้ปากีสถาน ทำให้ยอดผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา สูงกว่า 7 ล้านคน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตขั้นสุดท้าย เชื่อว่าจะพุ่งสูงกว่า 1,600 คนดังที่รัฐบาลระบุมา ทางการยังอพยพผู้คนอีกกว่า 300,000 คน ออกจากเมืองธัตตา เพราะแม่น้ำอินดุสเอ่อล้นฝั่ง ขณะที่ฝนยังตกหนักและคาดว่าจะเกิดน้ำท่วมระลอกใหม่

วันเดียวกัน พายุเฮอริเคน “แดเนียล” ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทวีความรุนแรงถึงระดับ 4 มีความเร็วลมถึง 215 กม./ชม. ขณะพัดเข้าใกล้เกาะเบอร์มิวด้า

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

ดินถล่มตุรกี คร่าชีวิตพลเรือน 12 ศพ​

​

ดินถล่มทางตอนเหนือของตุรกี เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทับอาคารบ้านเรือนพังเสียหาย ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน สูญหาย 1 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่า ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) เป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินถล่ม ที่เมืองกันดอกดู แถบทะเลดำ มณฑลริเซ ทางตอนเหนือของประเทศตุรกี มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน สูญหาย 1 คน ประชาชนอย่างน้อย 7 คน ได้รับบาดเจ็บ และได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยแล้ว

ทั้งนี้ อาคารบ้านเรือน ยานพาหนะ ภายในเมืองส่วนมากถูกดินทับถม การคมนาคมถูกตัดขาด เหตุดินถล่มเกิดขึ้นขณะประชาชนกำลังรับประทานอาหาร หลังจากถือศีลอด ในเทศกาลเดือนรอมฎอน

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

ฟิเดล คาสโตร แฉ'บิน ลาเดน'เป็นสายลับ "ซีไอเอ"​

​

ฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบาออกโรงแฉ ที่แท้โอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อการร้ายหมายเลขหนึ่งของโลกทำงานให้กับ " ซีไอเอ"ของสหรัฐฯ มาโดยตลอด...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ว่า ฟิเดล อเลฮันโดร กัสโตร รูซ หรือ "ฟิเดล คาสโตร" อดีตประธานาธิบดีคิวบา ระบุว่า แท้ที่จริงแล้ว โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล เคดาทำหน้าที่เป็นสายลับให้กับสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ "ซีไอเอ" มาโดยตลอด

อดีตผู้นำคิวบาวัย 84 ปี ระบุว่าเอกสารลับต่างๆ ที่ถูกนำมาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ของ "วิกิลีคส์" เมื่อไม่นานมานี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบิน ลาเดน ทำงานแบบ "รับค่าตอบแทน" ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ มาโดยตลอด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล เคดา ชาวซาอุดีอาระเบียรายนี้ มักจะออกมาทำตัวให้ "เป็นข่าว" ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เผยแพร่เทปเสียงในช่วงจังหวะเวลาเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ออกมาปลุกกระแสความหวาดกลัวภัยก่อการร้ายต่อชาวโลกแบบพอดิบพอดี

"ในช่วงที่บุช ยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขามักจะออกมากล่าวสุนทรพจน์ครั้งใหญ่เป็นประจำหลังจากที่บิน ลาเดน ออกมาขู่ผ่านเทปหรือวีดิโอว่าจะลงมือโจมตีเป้าหมายครั้งใหม่ และการทำงานแบบสอดประสานกันเช่นนี้ เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่าทั้งคู่ร่วมมือกันมาโดยตลอด" คาสโตรกล่าวผ่านสื่อของรัฐในระหว่างการพบกับดาเนียล เอสตูลิน นักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนชื่อดังชาวลิธัวเนียที่กรุงฮาวานา

สำหรบ คาสโตร ก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำคิวบาตั้งแต่เมื่อปี 2006 เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ก่อนจะส่งมอบอำนาจให้กับราอูล น้องชายของเขาให้ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศสืบแทนอย่างเต็มตัว ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2008 เป็นต้นมา

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดปรากฏการณ์แปลกน้ำทะเลตลอดชายหาดชะอำกลายเป็นสีเขียวเข้ม-มีกลิ่นเหม็น </TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 สิงหาคม 2553 13:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>เพชรบุรี - เกิดปรากฏการณ์แปลกน้ำทะเลตลอดชายหาดชะอำ กลายเป็นสีเขียวเข้ม แถมมีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้นบริเวณชายหาดทะเลชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวหวาดผวาไม่กล้าลงเล่นน้ำ

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์แปลกน้ำทะเลเปลี่ยนจากสีฟ้าใส กลายเป็นสีเขียวเข้ม แถมมีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้นบริเวณชายหาดทะเลชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่อ ทำให้วันนี้นักท่องเที่ยวบางตาเนื่องจากเกิดความผิดหวัง เมื่อเดินทางมาถึงแต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ เนื่องจากน้ำทะเลมีสีเขียวเข้มคล้ายกับสีของตะไคร่น้ำ แม้กระทั่งฟองคลื่นก็เป็นสีเขียว อีกทั้งมีสิ่งสกปรกจำพวกเมล็ดพืช และเศษขยะปะปนมากับคลื่นซัดมาติดตลอดแนวชายฝั่ง รวมถึงมีกลิ่นเหม็นคาว รวมถึงเกิดอาการคันเมื่อลงไปเล่นน้ำ

โดยชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ เชื่อว่า น่าจะเกิดปรากฏการณ์น้ำเบียด หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการที่มีฝนตกหนักแล้วน้ำจืดลงไปในทะเลมากเกินไป จึงทำให้น้ำเปลี่ยนสี แต่ปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่หาดชะอำ

จากการสอบถาม นายสุชาติ สว่างอารีรักษ์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะลและชายฝั่ง เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียว ว่า เกิดจาก “แพลงก์ตอนบลูม” หรือ NOCTILUCA ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ ชนิดตามแนวชายฝั่งทะเล เมื่อระดับน้ำไม่เท่ากัน จึงเกิดการหมุนเวียน มวลน้ำเย็นที่อยู่ใต้ทะเลเคลื่อนเข้ามาใกล้ฝั่งมาก และดึงเอาธาตุอาหารชั้นสูงใต้ทะเลขึ้นมาบนผิวน้ำด้วย ซึ่งเป็นอาหารอย่างดีสำหรับสาหร่ายและแพลงก์ตอน ทำให้แพลงก์ตอนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วสะพรั่งเต็มบนผิวท้องทะเลในบริเวณนั้นๆ เรียกว่า แพลงก์ตอนบลูม โดยปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลา 2-3 วันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของน้ำด้วย

แพลงก์ตอนที่พบครั้งนี้ เป็นแพลงก์ตอนพืชชนิดไม่มีพิษ จึงไม่ก่อให้เกิดพิษต่อสัตว์น้ำที่จะนำมาใช้เป็นอาหาร และบริเวณที่เกิดเป็นแนวนอกชายฝั่งที่น้ำมีการแลกเปลี่ยนไหลเวียนดี จึงไม่น่าจะทำให้เกิดการลดลงของออกซิเจน จนกระทั่งปลาหรือสัตว์น้ำในพื้นที่ต้องตาย และแพลงก์ตอนที่พบนี้เป็นแพลงก์ตอนชนิดที่พบทั่วโลก ชอบอยู่ทั้งแหล่งน้ำใกล้ชายฝั่งและแหล่งน้ำที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง พบได้ทั้งในฝั่งอ่าวไทยและฝั่งมหาสมุทรอินเดีย เมื่อเกิดแพลงก์ตอนบลูม ทัศนียภาพของท้องทะเลอาจเปลี่ยนไปบ้าง แต่ไม่เป็นอันตรายใดๆ จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หวั่นวิตกกับปรากฏการณ์ดังกล่าว

แต่แพลงก์ตอนบลูมที่พบเป็นชนิด นอกติลูก้า (Noctiluca) ซึ่งไม่เป็นพิษกับคน แต่จะมีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงชายฝั่ง ประเภทนากุ้ง การเลี้ยงปลาในกระชัง เนื่องจากแพลงก์ตอนชนิดนี้หากถูกสูบเข้าในบ่อกุ้ง จะเข้าไปแย่งออกซิเจนในน้ำแล้วปล่อยก๊าซแอมโมเนียที่เป็นของเสียออกมา ทำให้กุ้งตายได้ เช่นเดียวกับผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แพลงก์ตอนนอกติลูก้า (Noctiluca) จะปิดกั้นผิวน้ำหนาประมาณ 1-2 เมตร ทำให้ปลาขาดออกซิเจน และตายได้เช่นเดียวกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000116733

 

<TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>Tropical Storm LIONROCK (07W) # 07 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “พายุโซนร้อน LIONROCK (ไลออนร็อค/07W </TD></TR><TR><TD>
<TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Tropical Storm LIONROCK (07W) # 07 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง “พายุโซนร้อน LIONROCK (ไลออนร็อค/07W)” ฉบับที่ 7
ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 01.00น.
ประจำวันที่ 29 สิงหาคม 2553 ออกประกาศเวลา 04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 29 สิงหาคม 2553 / 04.32 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 2 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 2 ลูก
1)Tropical Storm LIONROCK (07W,19.6N 116.2E,35kts) : เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(29ส.ค.2553) พายุโซนร้อน LIONROCK (ไลออนร็อค/07W) มีศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน หรือใกล้ชายฝั่งเกาะฮ่องกง อยู่ที่ละติจูด 19.6องศาเหนือ ลองจิจูด 116.2 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะฮ่องกง ห่ างประมาณ 398 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกด้วยความเร็ว 7 นอต(13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 35 นอต(65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 45นอต(83กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 996 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 3 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา... / คาด พายุโซนร้อน LIONROCK (ไลออนร็อค/07W) จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกโดยส่วนใหญ่ต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้านี้พายุลูกนี้จะยังคงทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าพายุนี้มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ หรือเกาะฮ่องกง ในช่วง 30-31 ส.ค.53 นี้ ….. : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

2)Tropical Storm 08W (20.1N 137.1E,35kts) : เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(29ส.ค.2553) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง 98W ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลแปซิฟิคทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ล่าสุดได้พัฒนาเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ฯ ติดตามประกาศล่าสุดได้ในกระทู้ของ พายุโซนร้อน LIONROCK (ไลออนร็อค/07W) : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

3) Tropical Disturbance 92W (23.9N 122.3E,15kts): เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(29ส.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำ 92W มีศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนตะวันออก อยู่ที่ละติจูด 23.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 122.3 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกจากเกาะไต้หวัน ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 5 นอต( 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างช้าๆ . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15 นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 25นอต(46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา……. / คาดหย่อมความกดอากาศต่ำ 92W จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือโดยส่วนใหญ่ต่อไป 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 72-96 ชั่วโมงนี้ (ประกาศ Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

4) Tropical Disturbance 93W (8.0N 151.8E,15kts): เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(29ส.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำ 93W มีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลแปซิฟิค อยู่ที่ละติจูด 8.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 151.8 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะกวม ประเทศสหรัฐฯ ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 5 นอต( 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างช้าๆ . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15 นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 25นอต(46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา……. / คาดหย่อมความกดอากาศต่ำ 93W จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกโดยส่วนใหญ่ต่อไป 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า จากนั้นจะเริ่มมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้นในระยะต่อไป มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 72-96 ชั่วโมงนี้ (ประกาศ Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

<เพิ่มเติม/ความเห็น> พายุทั้งหมดไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ไทย หย่อมฯ 98W มีแนวโน้มเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยัง ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ ในช่วง 3 ก.ย.53 นี้ ล่าสุดเมื่อช่วง 04.00น. 98W ได้พัฒนาเป็นดีเปรสชันเขตร้อน 08W อย่างรวดเร็วแล้วครับ , พายุโซนร้อน LIONROCK(ไลออนร็อค/07W) มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปยังมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนตอนใต้ และประเทศฮ่องกง ช่วง 30-31 ส.ค.53 นี้, หย่อมฯ 92W มีแนวโน้มเคลื่อนตัวด้านตะวันออกของประเทศจีน หรือหัวเกาะไต้หวันช่วง 1 ก.ย.53 นี้, หย่อมฯ 93W มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปยังประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่นช่วง 11-13 ก.ย.53 นี้ สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำทางด้านตอนกลางของแปซิฟิค ผมจะยังไม่ลงประกาศจนกว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเขตแปซิฟิคตะวันตกครับ เส้นสีน้ำเงินคือทิศทางพายุ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ---- กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน" ฉบับที่ 2 (102/2553) ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2553 “ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านโดยเฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย อนึ่ง เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ พายุโซนร้อน “ไลออนร็อก (LIONROCK)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่***งประมาณ 400 กิโลเมตรทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะฮ่องกงหรือประเทศจีนตอนใต้ประมาณวันที่ 1 กันยายน 2553 สำหรับพายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย” / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คืนเงินครึ่งแสน หนุ่มสองแถว สาวยุ่นสุดปลื้ม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>คนขับรถสองแถวเมืองเชียงใหม่น้ำใจงาม เก็บกระเป๋าผู้โดยสารที่ภายในมีเงินกว่าครึ่งแสนบาท มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาเจ้าของ สาวยุ่นเจ้าของสุดปลื้มชื่นชมคนไทยใจดี

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ส.ค.53 พ.ต.ต.ถิรวัฒน์ แก้วตา สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ กก.2บก.รฟ. ประจำศูนย์บริการ สถานีรถไฟเชียงใหม่ ส.ต.อ.วรพันธ์ วิริยะพันธ์ ผบ.หมู่.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ กก.2 บก.รฟ. ได้รับแจ้งจากนายประเสริฐ ผัดตันตุ่น อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/46 ถ.ราษฎร์อุทิศ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อาชีพคนขับรถสองแถวรับจ้างประจำคิวรถสถานีรถไฟเชียงใหม่ ถ.เจริญเมือง ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่ามีผู้โดยสารลืมกระเป๋าสีดำไว้สองใบไว้ในรถขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานหาเจ้าของมารับคืนด้วย

ต่อมามี น.ส.ยูโกะ ซาไก อายุ 37 ปี น.ส.ยูคะริ อากิยามะ อายุ 45 ปี และ น.ส.เซ็ตซูโกะ นาริตะ อายุ 56 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เดินทางมาแจ้งว่าลืมกระเป๋าสีดำไว้จำนวน 2 ใบ ในกระเป๋ามีเงินสดไทยจำนวน 4 หมื่นบาท เงินสกุลญี่ปุ่นหลายหมื่นเยน กล้องถ่ายภาพดิจิตอล และพาสสปอร์ต เอกสารสำคัญ เครื่องสำอาง และของสำคัญหลายอย่าง ไว้บนรถโดยสารสองแถวสีแดง ทางตำรวจจึงนำกระเป๋าทั้งสองใบมามอบไว้ให้ดู ก็ยืนยันว่าเป็นกระเป๋าของตน

โดยนายประเสริฐ คนขับรถสองแถวคนซื่อ เปิดเผยกับไทยรัฐว่า หลังจากส่งผู้โดยสารซึ่งมีชาวต่างประเทศหลายคนและมีชาวญี่ปุ่นอยู่ด้วยแล้ว ได้ขับกลับมาเพื่อรอรับผู้โดยสารชุดใหม่ แต่ตรวจบนรถพบว่ามีคนลืมของไว้ ซึ่งตนเองก็ไม่กล้าเปิดดูและเอาไป เพราะของคนอื่นก็เป็นของสำคัญ เราไม่ควรเอาของเขามาเป็นของเรา จึงรีบนำมาคืนตำรวจประจำสถานีรถไฟจนติดต่อเจ้าของได้ เมื่อยืนยันของเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นพยานในการส่งของคืนในที่สุด พร้อมกับเชิญสื่อมวลชนมาถ่ายรูปเพื่อยกย่องให้คนขับรถสองแถวคนนี้เป็นตัวอย่างสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นทั้งสองคนที่มาเยือนเชียงใหม่เป็นอย่างมาก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฟิเดล คาสโตรแฉ "บินลาดิน" เป็นสายลับซีไอเอ </TD></TR></TBODY></TABLE>
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
28 ส.ค. 53 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ได้เกิดเหตุ 3นักศึกษาเทคโนปทุมธานีถูกคู่อริต่างสถานบันกว่า 30 คนตะลุมบอนยิงฟันหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิตท่ามกลางประชาชนที่เข้ามาจับจ่าย ใช้สอยซื้อของของภายในห้าง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2
ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตต่อมา คือ นายนพรัตน์ เดชบุญ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 2 โรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานี ถูกฟันเข้าที่ใบหูซ้าย และมีบาดแผลตามร่างกาย ,นายวัชรปกรณ์ แสงจันทร์อายุ 19ปี แผนกช่างยนต์ ปีที่ 3 โรงเรียนเดียวกันถูกฟันเข้าที่ด้านหลัง 2 แผล ข้อศอกขวา 1 แผล
ส่วนนายยุทธจักร แข่งขัน อายุ 19 ปี เรียนอยู่ชั้นปีที่3แผนกช่างยนต์ โรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานี ถูกฟันเข้าที่ด้านหลังหลายแผล และเสียชีวิตต่อมาขณะนำส่ง รพ.ประชาธิปัตย์เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
จากการสอบสวน นายนพรัตน์ ผู้บาดเจ็บให้การว่า ขณะที่ตนและเพื่อนเดินผ่านหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค เพื่อจะไปขึ้นรถประจำทางกลับบ้านนั้น จู่ ๆ ก็มีนักศึกษาต่างสถาบัน ที่เป็นอริกันกว่า 30 คน วิ่งออกมาจากในห้าง
แล้วกรูเข้ามาหาพวกตน โดยใช้มีดและปืน ไล่ฟันยิงพวกตน จากนั้นก็พากันหลบหนีขึ้นรถประจำทางและรถแท็กซี่หนีไปคนละทิศละทาง เมื่อหันไปก็พบว่าเพื่อนถูกแทงถูกฟันเลือดอาบ จากนั้นก็มีชาวบ้านช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตุน้ำจุฬา ได้ส่งติดตามคนร้ายกลุ่มดังกล่าวแล้ว
.
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

 

ภัยพิบัติในหลายเหตุการณ์ก็เกิดจาก "จิตใจของคน" เบียดเบียน แก่งแย่ง เข่นฆ่า อิจฉา ริษยากัน

ผมเดินทางไปสอนสมาธิที่จังหวัดตรัง ระหว่างบนเครื่องบินมองออกมา เห็นปรากฏการณ์บางอย่างทั้งดี และร้าย

ระหว่างเครื่องบินผ่านกลางอ่าวไทย เห็นก้อนเมฆก่อตัว เป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมยืนประทานพรประทับบนหลังมังกร เห็นชัดเจนจนต้องยกมือไหว้ท่านแม้เรานั่งบนเครื่องบินไม่มีใครรู้เห็น

เรื่อง"เมฆจิต" หรือ"เมฆนิมิตร"แบบนี้ก็มีหลายท่านที่ประสพพบเห็นและถ่ายรูปได้บ่อยๆเช่น น้องนาคามูระ และที่ล่าสุดในงานที่ศูนย์พุทธศรัทธา ก็มีพี่กุ้งถ่ายรูปเมฆติดเป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้อย่างชัดเจน

นั่นหมายถึงว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็ยังเมตตาสงเคราะห์ บุคคลที่พึงสงเคราะห์อยู่ ขอเพียงมั่นคงในความดี ในบุญกุศล

เมื่อนั้นย่อมมีโอกาสรอดพ้นจากภัยพิบัติได้ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศล

และในขณะเดียวกัน เมื่อเครื่องบินถึงเหนือจังหวัดตรัง มองลงไปเป็นเมฆแผ่นดินไหวประปรายกระจายคลุมจังหวัดอยู่ และก็ปรากฏรูปลูกตา ดวงตา คู่หนึ่ง เหนือเมฆนั้น ดังที่กำลังเป็นข่าวอยู่

ใจรู้ทันทีว่าเป็นนิมิตรร้าย พอไปถึงวิทยาลัยที่ไปสอนก็ทราบเรื่อง ของ

"ใจคน" ที่เปลี่ยนไป เรื่องคนดีถูกใส่ความ ถูกเข้าใจผิด

ก็ได้แต่ให้กำลังใจ คนดีให้เสียสละต่อไป ทำเพื่อส่วนรวมต่อไป อย่าย่อท้อ ให้อดทนต่อทุกปัญหาและอุปสรรค

เมฆดำ ดวงตา นั้น คลอบงำ ฟอกย้อมจิตใจ เราลองสังเกตุดูได้ว่า ช่วงนี้คนเราทำอะไร ที่ปราศจากความยับยั้งใจได้ง่าย ทำสิ่งที่ไม่ควร ทั้งที่ควรแยกแยะถูกผิดดีชั่วได้ง่าย


ขอจงมั่นใจในความดี มั่นคงในกุศล ไม่หวั่นไหว มีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยะสงฆ์แนบจิตคิดเป็นสรณะที่พึ่งอาศัยของใจให้มั่นคงเอาไว้

ย่อมไม่ถูกครอบงำ ฟอกย้อมจิตไปได้

รักษาใจ รักษาจิตเราให้ผ่องใสเอาไว้ครับ

ตั้งสติ คิดก่อน พิจารณาก่อน

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านครับ

 

ภูเขาไฟอิเหนาระเบิดครั้งแรกในรอบ 400 ปี-อพยพคนนับหมื่น​

​

​

ภูเขาไฟ "ซินาบัง" สูง 2,460 เมตร ในจังหวัดสุมาตราเหนือ บนเกาะสุมาตรา ทางภาคตะวันตกของอินโดนีเซีย ระเบิดขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 400 ปี พ่นเถ้าถ่านและควันขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 1,500 เมตร ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ส.ค. หลังเริ่มปะทุตั้งแต่ 2-3 วันก่อน...

ทางการต้องอพยพผู้คนอย่างน้อย 12,000 คนออกจาก 18 หมู่บ้าน ไปอยู่ตามที่พักพิงชั่วคราว และประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุดในระดับสีแดง อีกทั้งแจกจ่ายหน้ากากป้องกันฝุ่นควันพิษให้ชาวบ้าน ซึ่งเริ่มมีปัญหาเรื่องระบบหายใจจากเถ้าควันและสารกำมะกัน ซึ่งแผ่ไปไกลกว่า 30 กิโลเมตร และปกคลุมพืชผลเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ มีเพียงชายคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวขณะอพยพ ส่วนเที่ยวบินในภูมิภาคนั้น ซึ่งอยู่ใกล้เมืองเมดาน ยังไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ “ลาวา” ที่ไหลออกจากปากปล่องภูเขาไฟก็ลดระดับความรุนแรงลง แต่ทางการยังสั่งเฝ้าระวังภัยให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและสาธารณสุข เตรียมพร้อมกรณีที่ภูเขาไฟระเบิดต่อเนื่อง

นายซูโรโน ผู้อำนวยการศูนย์แผ่นดินไหววิทยาของรัฐบาลอินโดฯ เผยว่า ภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดครั้งก่อนเมื่อ ค.ศ. 1600 ซึ่งนานมากจนผู้เชี่ยวชาญไม่รู้รูปแบบการระเบิดของมัน ได้แต่เฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

สำหรับอินโดฯ เป็นประเทศหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนแนวเหลื่อมซ้อนของเปลือกโลกที่เรียกว่า “วงแหวนอัคคี” ทำให้เกิดภูเขาไฟปะทุและแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เมื่อต้นเดือนนี้ ภูเขาไฟ “คารังเกตัง” สูง 1,784 เมตรบนเกาะซิอูใน จ.สุลาเวสีเหนือก็ระเบิด มีผู้สูญหาย 4 คน ส่วนภูเขาไฟ “บารู จารี” บนเกาะลอมบ็อค ใกล้เกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ก็ระเบิดเมื่อเดือน พ.ค.ปีนี้ พ่นลาวาและเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงอย่างน้อย 1,500 เมตร ทำให้พืชผลเสียหายแต่ชาวบ้านปลอดภัย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมหนักทางภาคใต้ปากีสถานซึ่งดำเนินมานับเดือน ระดับน้ำท่วมเริ่มลดลง แต่ที่เมืองธัตตา ในจ.ซินด์ ซึ่งมีประชากรกว่า 300,000 คน สถานการณ์ยังวิกฤต เพราะแม่น้ำอินดุสเอ่อล้นฝั่ง ชาวบ้านกว่า 95% รวมทั้งผู้หญิงและเด็กทั้งหมดต้องอพยพ เหลือเพียงผู้ชายคอยเฝ้าทรัพย์สิน ทำให้มีสภาพไม่ต่างจากเมืองร้าง ทหารรวมทั้งหน่วยกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ได้รับคำสั่งให้ปฎิบัติหน้าที่ในระดับ “ภาวะสงคราม” ส่วนทางการระบุยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ 1,643 คน ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 7 ล้านคน การช่วยเหลือยังล่าช้ามาก ทำให้เหยื่อภัยพิบัติหิวโหยและมีความเสี่ยงเกิดโรคระบาดตามมา

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width="99%"><TBODY><TR><TD class=text_head>ภูเขาไฟในไทย (ข่าวสด วันที่ 18 ธ.ค. 2549 )



</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text_normal border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="99%" align=center><TBODY><TR align=left><TD vAlign=top colSpan=3>ภูเขาไฟ (Volcano) คือภูเขาที่เกิดขึ้นโดยการปะทุของหินหนืดร้อน แรงดันสูงภายใต้เปลือกโลก ปรากฏตัวเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งทางภูมิศาสตร์ มีหลายชนิดแบ่งตามสภาพของความรุนแรงในการปะทุ การเกิดภูเขาไฟตามทฤษฎีพลูม (Plume Theory)

โดยเจสัน มอร์แกน (Jason Morgan) กล่าวว่า การเกิดภูเขาไฟระเบิดเกิดจากจุดศูนย์รวมความร้อน (Hot Spot) หรือ "พลูม" (Plume) เกิดการถ่ายเทพลังงานของมวลที่แข็งและร้อนในชั้นของเปลือกโลกแมนเทิล (Mantle)

ซึ่งเป็นชั้นหินหลอมเหลวใต้เปลือกโลก ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดภูเขาไฟและภูเขาไฟระเบิด ตัวอย่างที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ ได้แก่ การแทรกตัวของมวลหินร้อนที่โผล่พ้นระดับน้ำทะเล กลายเป็นหมู่เกาะฮาวาย

การระเบิดของภูเขาไฟนอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติอื่นๆ เช่น คลื่นสึนามิ (Tsunamis) หรือเถ้าภูเขาไฟตกทับถมอยู่ใกล้ภูเขาไฟ

ทำให้เมื่อมีฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมและโคลนถล่มตามมา เช่น กรณีภูเขาไฟพินาตูโบ ที่ฟิลิปปินส์ระเบิด เป็นต้น ส่วนประโยชน์จากการระเบิดของภูเขาไฟก็คือเป็นการปลดปล่อยพลังงานภายใต้เปลือกโลก

ทำให้เกิดสภาวะสมดุล และธารลาวาที่ไหลออกมาผ่านหินอัคนีและหินชั้นเดิมจะทำให้เกิดกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหินแปร เป็นแหล่งแร่ที่สำคัญ เช่น เพชร รัตนชาติ เป็นต้น นอกจากนั้น แหล่งภูเขาจะเป็นบริเวณที่ดินมีคุณภาพดี

เช่น บริเวณอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นต้น ฝุ่นเถ้าภูเขาไฟที่ฟุ้งกระจายลอยในในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ ยังทำให้บรรยากาศของโลกเย็นลงด้วย ปัจจุบันทั่วโลกยังคงมีภูเขาไฟมีพลังอยู่ประมาณ 850 ลูก

โดยภูเขาไฟที่เพิ่งเกิดเมื่อประมาณ 1-2 ล้านปีมาแล้ว มักเกิดโอกาสปะทุได้อีก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม สามารถจำแนกประเภทของภูเขาไฟจากปรากฏการณ์ ได้เป็น 3 ประเภท



คือ ภูเขาไฟมีพลัง (Active Volcanoes)

ภูเขาไฟที่สงบ (Dormant Volcanoes)

และภูเขาไฟที่ดับแล้ว (Extinct Volcanoes)

เช่น ที่ภูเขาไฟหลวง จ.สุโขทัย ในประเทศไทย พบว่าภูเขาไฟส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณภาคเหนือ กระจายตัวและตำแหน่งที่ไม่แน่นอน สันนิษฐานว่าเป็นภูเขาไฟเมื่อประมาณ 2-4 ล้านปีที่แล้ว

จากรายงานทางธรณีวิทยาและแผนที่ทางธรณีวิทยา พบบริเวณที่เป็นหินภูเขาไฟ หรือหินบะซอลต์อยู่ 5 บริเวณ ได้แก่

บริเวณที่ 1 ทางภาคเหนือ ได้แก่ อำเภอแม่ทา อำเภอสบปราบ และอำเภอเมืองลำปาง ทางด้านทิศตะวันตกของจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก และสุโขทัย เป็นหินบะซอลต์ ไรโอไลต์ แอนดีไซต์ และแอกโกเมอเรต (ศิลาแลง)

บริเวณที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเขากระโดง เขาพนมรุ้ง และภูอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และทางทิศใต้ของจังหวัดศรีสะเกษ

บริเวณที่ 3 ที่ราบสูงภาคกลาง พบที่จังหวัดสระบุรี โคกสำโรง หล่มเก่า ท่าลี่ และทางด้านทิศตะวันตกของภูกระดึง จังหวัดเลย อำเภอเดิมบางนางบวช อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

บริเวณที่ 4 ภาคตะวันตก พบที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

บริเวณที่ 5 ภาคตะวันออก พบที่บ้านบ่อไร่ จังหวัดตราด บ้านบ่อพลอย จังหวัดจันทบุรี ภูเขาไฟที่พบในประเทศไทยทั้งหมดเป็นภูเขาไฟที่สิ้นพลังแล้วทั้งสิ้น อายุอย่างน้อยที่สุดประมาณ 7 แสนปี

ส่วนใหญ่มีสัณฐานแบบรูปโล่ (Shield Volcanoes) คือสัณฐานไม่สูงมากนักมีความลาดเอียงไม่เกิน 10 องศา ส่วนความเอียงที่ฐานไม่เกิน 2 องศา และมีแร่รัตนชาติอยู่มาก เช่น ทับทิม บุษราคัม และเขียวส่อง เป็นต้น

ส่วนภูเขาโคลนที่พบในทะเลอันดามัน มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นภูเขาไฟ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์ที่ชัดเจนต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อุตุฯ เตือนด่วนภาคเหนือเสี่ยงน้ำป่า-ฝนถล่มหนัก​

​

ภาคเหนือส่ออ่วมอีก อุตุฯ ออกประกาศเตือนภัย ให้จังหวัดภาคเหนือระวังอันตราย จากน้ำป่าและน้ำท่วมฉับพลัน ส่วน จ.พิจิตรน้ำถล่มอนามัยบ้านวังแดง...

สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือยังน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือออกประกาศด่วนเตือนภัยฉบับที่ 1 เรื่องฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดทางภาคเหนือ โดยให้ระวังอันตรายจากน้ำป่า น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วม

ส่วนที่ จ.พิจิตร เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ส.ค. ยังมีฝนตกอยู่ตลอดเวลาในหลายพื้นที่ ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ซึ่งไหลมาจาก อ.วังโป่ง และ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาในเขตหมู่ 2, 3, 4 และ 12 ตลอดจนอีก 16 หมู่บ้าน ใน ต.เขาเจ็ดลูก และ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ส่วนโรงเรียนวัดวังแดงถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร

นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมสถานีอนามัยบ้านวังแดง ทำให้เจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัยต้องเร่งขนย้ายเตียงคนไข้และเอกสารต่างๆ หนีน้ำ ขณะเดียวกันกระแสน้ำไหลบ่าท่วมถนนทางหลวงสาย 11 ช่วงเขาทราย – วังทอง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 75-76 สูงประมาณ 70 เซนติเมตร เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ส่วนช่วงบายวันที่ 29 ส.ค. คาดว่าน้ำจะเข้าท่วมในเขตเทศบาล ต.ทับคล้อ ซึ่งนายประวิทย์ ประวัติเมือง นายอำเภอทับคล้อ ได้ประกาศเตือนให้ชาวบ้านอพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

วันเดียวกัน นางธวัลรัตน์ ไชยอินปัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พะเยา กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่มในพื้นที่ จ.พะเยานั้น ขณะนี้ ได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาขึ้นพร้อมกับเตรียมแผนปฏิบัติการ ขณะเดียวกันต้องร้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้เตรียมความพร้อมอีกด้านเพื่อป้องกันและลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการติดตามข้อมูลข่าวสารการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

น้ำป่าทะลัก เพชรบูรณ์ จมทั้งเมือง​

​

น้ำป่าไหลทะลัก ท่วมหลายอำเภอ ใน จ.เพชรบูรณ์ บ้านเรือนประชาชน ไร่นา และระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยระดับน้ำเฉลี่ยท่วมสูงกว่า 2 เมตร...

เมื่อเวลา 11. 00 น. วันที่ 28 สิงหาคม ได้เกิดเหตุน้ำจากเทือกเขาใหญ่ เขาย่า เขาปู่ ต.ซับเปิบ ได้ไหลทะลักท่วม ไร่ นา เลือกสวนผลไม้กว่า หนึ่งหมื่นไร่ ทำให้ชาวสวน ชาวไร่ได้รับความเสียหาย ส่วนถนนสาย ชนแดน - วังโป่ง ระยะยาวกว่า 5 กิโลเมตร น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้การจราจรในพื้นที่กลายเป็นอัมพาต

เบื้องต้น นายเสน่ห์ อินการทุม ปลัดเทศบาลตำบลวังโป่ง และนายขาบ นุ่มขึง นายกเทศมนตรี เทศบาลวังโป่งและคณะ ได้ขอความช่วยเหลือจากอำเภอตะพานหิน จ.พิจิตรให้ส่งเจ้าหน้าที่และเรือท้องแบนมาช่วยเหลือประชาชนแล้ว ขณะที่ฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ เมื่อเวลา 17.00 น. มีรายงานว่า ชาวบ้านวังขอน ตำบลท้ายดง อ.วังโป่ง ได้กระโดนน้ำหนีน้ำแต่หายไปกับกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วิทยุขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิร่วมกตัญญูชนแดนให้นำกำลังมาช่วยแต่ยังไม่พบ

ส่วนที่อำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ น้ำจาก เทือกเขาซับจรัญ เขาซับหมาแสน เขาซับป่าแดง เขาซับหิ้วหมู่ ได้ไหลเข้าท่วมบ้านโคกสาร หมู่ 6 ซับพุทรา อ.ชนแดน ทำให้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่หมู่บ้านโคกสารติดอยู่ที่ภายในบ้านไม่สามารถออกมาได้ 4 ครอบครัว เบื้องต้นมูลนิธิร่วมกตัญญูชนแดนได้ใช้ลวดสลิงโรยตัวเข้าไปช่วย ท่ามกลางน้ำป่าที่ไหลบ่ามาอย่างต่อเนื่องโดยสามารถเสี่ยงชีวิต ช่วยออกมาได้ 1 คน เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ นามสกุล ถูกนำส่ง โรงพยาบาลชนแดนก่อน ยังเหลือ อีก 9 คน ไม่สามารถช่วยออกมาได้

ขณะที่ถนนระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร สายโคกสาร - ซับป่าคาย ถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหาย ส่วนที่บ้านโคกยาวมูลนิธิร่วมกตัญญูชนแดน ได้นำเรือท้องแบนออกไปช่วยชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในบ้านออกมาได้สามคน เบื้องต้น นายชาติชาย เพชระบูรณิน นายอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ได้ลงไปช่วยเหลือและขอความช่วยเหลือ จาก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

ปภ.มุกดาหาร สรุปความเสียหายพื้นที่อุทกภัย​

​

ปภ.มุกดาหาร สำรวจความเสียหายพื้นที่ประสบภัยพิบัติ พบพื้นที่เกษตรเสียหาย 52,554 ไร่ เป็นพื้นที่นา 6,394 ไร่ พื้นที่การเกษตรอื่น 570 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 414 บ่อ ถนนลาดยางชำรุด 10 สาย ถนนลูกรังในหมู่บ้าน 270 สาย มีหมู่บ้านได้รับผลกระทบ 367 แห่งใน 35 ตำบล และมีผู้ประสบภัยรวม 22,500 คน...

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร สำรวจความเสียหายพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ จากสาเหตุฝนตกหนักช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พบมีพื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 52,554 ไร่ โดยมีผู้ประสบภัยจำนวน 22,500 คน สภาพบ้านเรือนประชาชนทั้งในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารและพื้นที่โดยรอบ ตลอดจนพื้นที่นา แหล่งน้ำสาธารณะ ถนน และบ้านเรือนประชาชนในอำเภอรอบนอก ที่ประสบภัยพิบัติจากสาเหตุของฝนตกหนักช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้รับความเสียเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทั้ง 7 อำเภอ ขณะนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแจกจ่ายถุงยังชีพ ขยายท่อระบายน้ำ ปรับสภาพพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร สำรวจความเสียหายพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ พบมีพื้นที่ทำการเกษตรเสียหายประมาณ 52,554 ไร่ แยกเป็นพื้นที่นา 6,394 ไร่ พื้นที่การเกษตรอื่น 570 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 414 บ่อ ถนนลาดยางชำรุด 10 สาย ถนนลูกรังในหมู่บ้าน 270 สาย โดยมีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 367 แห่ง ใน 35 ตำบล และมีผู้ประสบภัยรวม 22,500 คน โดยจ.มุกดาหารจะสรุปความเสียหายภาพรวม เพื่อขอรับการสนับสนุน งบทดลองฉุกเฉินช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

และในขณะเดียวกัน เมื่อเครื่องบินถึงเหนือจังหวัดตรัง มองลงไปเป็นเมฆแผ่นดินไหวประปรายกระจายคลุมจังหวัดอยู่ และก็ปรากฏรูปลูกตา ดวงตา คู่หนึ่ง เหนือเมฆนั้น ดังที่กำลังเป็นข่าวอยู่

ใจรู้ทันทีว่าเป็นนิมิตรร้าย พอไปถึงวิทยาลัยที่ไปสอนก็ทราบเรื่อง ของ

"ใจคน" ที่เปลี่ยนไป เรื่องคนดีถูกใส่ความ ถูกเข้าใจผิด

ก็ได้แต่ให้กำลังใจ คนดีให้เสียสละต่อไป ทำเพื่อส่วนรวมต่อไป อย่าย่อท้อ ให้อดทนต่อทุกปัญหาและอุปสรรค

เมฆดำ ดวงตา นั้น คลอบงำ ฟอกย้อมจิตใจ เราลองสังเกตุดูได้ว่า ช่วงนี้คนเราทำอะไร ที่ปราศจากความยับยั้งใจได้ง่าย ทำสิ่งที่ไม่ควร ทั้งที่ควรแยกแยะถูกผิดดีชั่วได้ง่าย

***************************************************

อนุโมทนา....สาธุ กับคุณคณานันท์ด้วย ครับ

Nirvana วิเคราะห์แล้วว่า สิ่งที่จะก่อให้เกิดอาเพทภัยพิบัติได้มากที่สุดประการหนึ่งคือ

ผู้คนจำนวนมากหลงผิด เห็นสีดำเป็นสีขาว เห็นเรื่องผิดเป็นเรื่องถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

ด้วยเหตุนี้สังคมจึงมีความขัดแย้งกันอย่างไม่รู้จบ แล้วจะเริ่มลงมือใช้กำลังกระทำต่อกันและกัน จนลุกลามไปอย่างที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้กลายเป็นความหายนะของชาติในที่สุด

 

งั้นไพ่นิวเวิรด์ออเดอร์ ที่หลายๆท่านตั้งข้อสังเกต ว่าสหรัฐเป็นตัวการก็อาจเป็นจริงนะ ไม่งั้นคาสโตรคงไม่กล้าออกมาระบุ น่ากลัว