พระเดชพระคุณ หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร วัดส้มเกลี้ยง จ.จตาก(เสกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ)

สวัสดีครับ



วันนี้เบี้ยแก้หลวงปู่ดีที่สร้างมาเพื่อบูชาครูและได้มอบให้ คุณพี่ปื๊ดปู่นนท์ คุณพี่เด็กด่านฯ คุณ Pig_Never_Die เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆก็ได้สำเร็จเสร็จลงซะที ...เฮ้อ ...จะมารับเมื่อไหร่ก็บอกละกัน จะขอลำดับเหตุการณ์อีกครั้ง

ครั้งที่ 1 16 สค 53หลวงปู่ดีท่านเมตตากรอกปรอทและอุดชันโรงด้วยตัวท่านเอง และปลุกเสก ตามสาย จ.อ่างทอง หลังจากนั้นนำไปตีตะกั่วปิดหุ้มเบี้ยตามสาย จ.นครปฐม
ครั้งที่ 2 18 สค 53หลวงปู่ดี ท่านเมตตาจารเบี้ยแก้ที่ปิดทับตะกั่วและเมตตาเป่าปลุกเสกทีละตัวที่กุฏิท่าน
ครั้งที่ 3 19 สค 53(พฤหัสเก้า)หลวงพ่อสืบท่านได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งปรก ณ.วัดนามะตูม จึงทำการฝากใส่ย่ามไปเข้าพิธีปลุกเสก พอดีวันนี้(25 สค 2553)ได้เจอบุคคลที่ไปร่วมพิธีในวันนั้นก็เลยได้รายนามมาแต่ยังไม่ทราบทั้งหมด รายนามพระเกจิอาจารย์ในวันนั้นเท่าที่ทราบ(จำได้) 1.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร 2. หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ 3. หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ 4. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม 5.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว 6.ท่านเจ้าคณะอำเภอพนัสนิคม(ขออภัยจำนามท่านไม่ได้)7.หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ และพระเกจิดังอีกหลายท่านในภาคตะวันออกแต่ผมจำชื่อได้ไม่หมดเพราะเยอะมาก
ครั้งที่ 4 25 สค 53(พระใหญ่)ฝากปลุกเสกพระอุโบสถวัดสิงห์ เนื่องจากมีนิตยสารฉบับหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม)มาขอใช้สถานที่ปลุกเสกวัตถุมงคลเพื่อการกุศล หารายได้ไปสร้างพระอุโบสถของวัดไทยในประเทศอินเดีย รออ่านรายละเอียดจากในนิตยสารอีกทีน่าจะหลังสิ้นเดือน รายนามพระเกจิอาจารย์ 1. หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ 2. หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร 3. หลวงพ่อสาคร จ.ปราจีนบุรี 4. หลวงพ่อแถม จ.เพชรบุรี 5. หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม 6. หลวงพ่อเพ้ง วัดหอมเกร็ด 7.หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ 8.พระอาจารย์พร วัดบางแก้ว 9. พระเลขาหลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร (พระอาจารย์เชษฐ์)

ประมวลภาพพิธีในพระอุโบสถวัดสิงห์จะนำมาให้ชมที่กระทู้ พระครูพิทักษ์วีรธรรมแต่คงเป็นหลังจากที่นิตยสาร(เจ้าของงาน)ออกโฆษณาวางแผงแล้ว งานนี้พระเกจิที่มาทุกๆท่านมาด้วยจิตแห่งการกุศล(ไม่รับซองปัจจัยในการเดินทางมา)ที่ตั้งใจจะมาปลุกเสกเพื่อหารายได้ไปสร้างพระอุโบสถที่ประเทศอินเดีย

คิดว่าคงเป็น เบี้ยแก้หลวงปู่ดี ที่ดีที่สุดแล้ว สมชื่อและความตั้งใจที่มีให้แก่ศิษย์ที่คอยดูแลหลวงปู่ดี

ขอบคุณครับ

 

เห็นด้วยครับกับพระคุณเจ้า...ตามศรัทธาและความสะดวก
คนเรามีปราณีต...มีหยาบ
ดูที่เจตนาดีกว่าครับ
แต่ทำได้ก็ดี ไม่ทำก็ไม่เป็นไร

ส่วนเรื่องกิจนิมนต์ ผมว่าอยู่ที่ตัวหลวงปู่ท่านครับ
ผมมีเรื่องเล่ากรณีอย่างนี้เรื่องหนึ่ง
เมื่อครังที่หลวงปู่เจือ ยังทรงสังขารอยู่
พี่ท่านหนึ่งในคณะบุญของผม
จะนิมนต์ท่านมามาฉันเพลพร้อมพระอาจารย์องค์อื่นๆ
ในวันเกิดพี่ท่านนี้ เหมือนที่เคยนิมนต์ปีที่แล้ว
แต่หลวงปู่เจือท่านไม่รับ ทั้งที่ตารางว่าง
นิมนต์ถึง 3 ครั้ง หลวงปู่บอกว่าไม่ไหว
ซึ่งปกติท่านจะไปและจะดีใจมากหากพี่ท่านนี้ไปหา
คราวใดไม่ไปก็จะถามถึงตลอด
ผมได้แต่คิดในใจว่าสงสัยหลวงปู่จะ...
สุดท้ายก็เป็นอย่างที่ผมคิด
และในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็ไปนิมนต์เจ้าคุณธรรมวัดหนัง
ท่านก็บอกว่า "ไปไม่ได้ฉันอยู่ไม่ถึงหรอก"
สุดท้ายก็เป็นอย่างท่านว่า...

 

สุดยอดมากครับหลวงพี่ เสียดายที่ไม่ได้ฝากของเข้าร่วมพิธี กลับไปไม่ทันจริงๆครับ

 

สวัสดีครับ

หลวงปู่เจือสำหรับผมแล้วจะมีความรู้สึกคุ้นเคยกับท่านมาก การที่ได้มารับใช้หลวงพ่อสืบก็เพราะว่าในปี 2551 หลวงปู่ท่านแนะนำมา คำสอนของหลวงปู่เจือทำให้ผมได้พบกับคำว่า " การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนและเห็นเขามีความสุขตัวเราเองก็มีความสุข " และได้พบสิ่งที่ดีที่สุดแล้วในทุกวันนี้เมื่อได้มาพบกับหลวงพ่อสืบตามคำแนะนำของท่าน

ขอบคุณครับ

ภาพที่หาดูได้ยากที่สุด หลวงปู่เจือท่านสูบบุหรี่ไปแล้วก็ยิ้มหัวเราะไปอย่างมีความสุข ดูกี่ทีๆก็คิดถึง:'(

 

พูดถึงบุหรี่แล้ว สมัยก่อนผมเก็บก้นบุหรี่ท่านไว้หลายอัน
แจกๆกันไป กะว่าจะไปเก็บมาอีกแต่ไม่ทัน
ยังดีที่ท่านเมตตาให้ไปป์ไว้ 2 อัน
อันนึงมีก้นบุหรี่ติดด้วย ^_^
ตอนที่ท่านให้มา เป็นปลื้มจริงๆครับ
เห็นรูปท่านแล้ว คิดถึงจริงๆครับ.

 

สวัสดีครับ

ว่าแล้ววันนี้ลืมอะไร (พอดีวันนี้ยุ่งสุดๆ ทั้งงานรับญาตโยมในวันพระใหญ่บนศาลาและปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์)... เห็นพี่ปื๊ดแล้วนึกออก ... ลืมเก็บข้าวตอกดอกไม้และเทียนชัยที่ผ่านการปลุกเสกไว้ให้ เทียนชัย สามต้นใหญ่แจกคนอื่นเขาไปหมดแล้ว ส่วนข้าวตอกดอกไม้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูในโบสถ์ให้ถ้ายังอยู่จะเก็บใส่ถุงไว้ให้ เผื่อพี่ปื๊ดจะเอาไปทำประโยชน์อะไรได้

ขอบคุณครับ

 

กราบนมัสการ พระคุณเจ้า
ผมมีเรื่องอยากเรียนพระคุณเจ้า
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกต้องขออภัยไว้ก่อนครับ
ไม่รู้ว่าเอามะพร้าวห้าว ไปขายสวนหรือเปล่านะครับ
แต่เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ของผมสอนมา
เรื่องมีอยู่ว่า กรณีของที่ถวายสงฆ์แล้ว
สิ่งของต่างๆนั้นจะเป็นของพระพุทธศาสนา
กรณีนำสิ่งของต่างๆมา ผมว่าจุดธูปจุดเทียนบอกกล่าวก็ดีนะครับ
หรือชำระหนี้สงฆ์ หรือถวายของสิ่งนั้นๆคืนแก่สงฆ์
ก็เป็นการดีนะครับ ถึงแม้จะกระทำด้วยจิตเจตนาที่ดีก็ตาม
ผิดพลาดต้องขออภัย ด้วยความรู้ผมมีเพียงน้อยนิด _/\_

 

โอ้โห่...เทียนชัย เก็บๆอยู่พอดีเลยครับ ตอนนี้ก็เก็บเทียนทำน้พมนต์ เผื่อมีโอกาสได้ทำสีผึ่งกับเค้าบ้าง น่าเสียดายครับ สำหรับข้าวตอกดอกไม้ กราบขอบพระคุณหลวงพี่ล่วงหน้าครับ

 

สวัสดีครับ

ครั้งสุดท้ายที่หลวงปู่เจือกับหลวงพ่อสืบท่านได้สนทนากันก่อนหลวงปู่เจือท่านมรณะภาพก็เรื่องบุหรี่นี่แหละครับ วันนั้นเท่าที่ทราบ หลวงพ่อสืบท่านกล่าวกับหลวงปู่เจือว่า " พี่เจือลดบุหรี่ลงบ้างเถอะเดี๋ยวสุขภาพจะแย่เอานา " คำตอบที่หลวงพ่อสืบท่านได้รับจากหลวงปู่เจือก็คือ " ช่างมัน ถึงคราวที่จะตายถึงไม่สูบก็ตายอยู่มาถึงขนาดนี้แล้ว ช่างมันเถอะ " แล้วไม่กี่เดือนต่อมาท่านก็มรณะภาพจริงๆ

ขอบคุณครับ

 

หลวงป่เจือท่านเคยพูดกับคณะบุญผมว่า
"ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้สูบ พอกลับมาวัดก็เหมือนเดิม"
(พูดทำนองอย่างนี้ อาจไม่แป๊ะทุกคำพูดนะครับ)
พูดเสร็จท่านก็ยิ้มตามแบบของท่าน

 

ผมจำได้ตอนเอาปรอทไปถวายท่าน ท่านยิ้มแบบเมตตามากครับ ท่านยกขวดแล้วบอกว่า หนัก ยกไม่ใหว (ปรอทหนักประมาณ๓กิโล) ชื่นใจครับ ที่ได้ช่วยท่าน แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ ถือว่าปรอทจำนวนนั้น ถ้านำไปทำเบี้ย ก็ได้หลายตัวอยู่ คงจะเกิดปรพโยช์นไม่มากก็น้อยครับ

 

สวัสดีครับ

สิ่งที่กล่าวถึงนี้คือสิ่งของที่มีญาตโยมนำมาถวายเป็นสิ่งมีค่าและควรจะเป็นสมบัติของวัดในอนาคต ซึ่งจะแตกต่างจากวัตถุที่ใช้ในงานปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ในหลายๆที่โดยเฉพาะวัดที่ชอบจัดงานสวดภาณยักษ์เมื่อปลุกเสกวัตถุมงคลเสร็จ ทางสถานที่จัดงานนั้นก็จะนำเอาสิ่งของต่างๆออกมาเพื่อบูชาจำหน่ายโดยเฉพาะ ต้นกล้วย ,ต้นอ้อย , ต้นมะพร้าว ,เทียนชัย จะจำหน่ายกันในราคาแพง แต่ทางวัดสิงห์ ในวันนี้ที่ได้คุยกับป๊ะ(พระมหาไพบูลย์)ท่านให้แจกเพื่อเป็นทานต่อไป ถ้าออกบูชาจำหน่ายก็จะเป็นสมบัติของคนๆเดียวที่มีสตางค์ แต่ถ้าแจก ทุกคนที่มาในงานก็จะได้รับกันทั่วถึงโดยการหั่นแบ่งกันถือเป็นทานอันยิ่งใหญ่ เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ก็แจกไปหมดตั้งแต่ต้นกล้วย , ต้นอ้อย , ต้นมะพร้าว , สายสิญ , เทียนชัย , เทียนทำน้ำมนต์ โดยผู้ร่วมพิธี จำนวนประมาณ 20-30 คน(ที่คนมาน้อยเพราะเป็นการปลุกเสกแบบไม่มีการโปรโมตเพื่อป้องกันความวุ่นวาย) นำไปแบ่งกันเองเก็บเป็นของศิริมงคลอย่างทั่วถึง ที่เห็นเหลือก็คือข้าวตอกดอกไม้ จึงต้องการแจกต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการจะได้(ทางวัดเก็บไว้ก็แห้งแล้วก็ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์)

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ

วันนี้(26.08.53)ได้เข้าไปดูให้ที่โบสถ์ในตอนเช้าช่วงสวดมนต์เช้า ปรากฏว่าไม่มีเหลือเลยครับ พอในช่วงสาย พอดี หลวงพี่เหนือ จาก วัดท่าใน(สหายธรรมและไปรับมอบวิชาจากหลวงปู่ดีพร้อมกัน)มาช่วยทำความสะอาดโบสถ์ต่อ ก็เลยถามหลวงพี่เหนือว่ามีเก็บพวกดอกไม้,เทียนและอื่นๆไว้ที่วัดท่าในบ้างไหม หลวงพี่เหนือก็บอกว่า " เป็นผู้เก็บไปเองบางส่วนแล้วเดี๋ยวจะทำการมอบแบ่งให้ " ก็เลยจะไปตามขอมาให้ เพื่อเอาไว้ไปเป็นมวลสารผสมกับไม้หัวเตียงหลวงปู่ดี

ขอบคุณครับ

 

กราบนมัสการ พระคุณเจ้า
รับทราบตามพระคุณเจ้าดำริครับ _/\_

 

สวัสดีครับ

แหม๊...คุณพี่praram7 เรียกผมว่า พระเอก หรือ หลวงพี่เอก น่าจะดีกว่านะครับ อย่าเรียกพระคุณเจ้าเลยครับ ฟังแล้วรู้สึกเขินๆอย่างไรก็ไม่รู้ ไม่ค่อยคุ้น ความจริงแล้วโดยปกติแล้วส่วนตัวผมจะไม่ค่อยแสดงตนในที่สาธารณะ เพราะมันเป็นอาบัติอย่างหนึ่ง แต่พอดีเว๊ปนี้เป็นเว๊ปเพื่อการศึกษาที่สามารถเข้ามาศึกษามนต์พิธีได้ แล้วก็มีพระมาเล่นหลายรูปในบล๊อคเสียงธรรมผมก็เลยมีโอกาสมาโผล่ที่บล๊อคพระเครื่องบ้างหลังจากออกมาจากบล๊อคเสียงธรรม(deejai)

ขอบคุณครับ

 

กราบนมัสการ หลวงพี่เอกครับ
หลวงพี่เอกพอมีเกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย
เกี่ยวกับหลวงปู่ม่วง วัดยางงาม บ้างหรือเปล่าครับ

 

สวัสดีครับ

หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ได้ยินชื่อเสียงท่านมานานแต่ไม่เคยได้ทราบเรื่องของท่านเลยครับ คุณพี่ปื๊ดปู่นนท์ น่าจะพอมีข้อมูลของท่านอยู่บ้างครับ

ขอบคุณครับ

 

นมัสการครับหลวงพี่ สวัสดีครับคุณพระราม๗

หลวงปู่ม่วง นาคเสโน วัดยางงาม ผมไปกราบท่านช่วงบั้นปลายชีวิตของท่านแล้วครับ

ที่มั่นใจและไปกราบท่านอย่างสนิทใจก็เพราะท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่นนท์ วราโภ

ผู้ที่ผมเคารพบูชาอย่างที่สุด ท่านทั้ง๒จะไปใหนไปกัน งานพิธีปลุกเสกของหลวงปู่นนท์

หลายๆงานก็นิมนต์หลวงปู่ม่วงท่านมานั้งปรกด้วย หลวงปู่ม่วงอายุน้อยกว่าหลวงปู่นนท์

ประมาณ๒ปีครับ สิ่งที่หลวงปู่ม่วงท่านแน้นหนักก็คือการปฏิบัติและธรรมะครับ

จะเห็นได้ว่าหลวงปู่ท่านจะชอบแจกหนังสือธรรมะถ้าสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยก็CDธรรมะครับ

ตามประวัติการสืบสายวิชา ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ในยุคเดียวกับหลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ
ท่ั้งสองท่านก็สนิทสนมกันมากเช่นกัน ไปมาหาสู่กันตลอดครับ

วัตถุมงคลของหลวงปู่ม่วง เหรียญรุ่นแรก อกกปี๒๘ มากด้วยประสบการณ์ครับ

วันที่ผมไปกราบหลวงปู่ มีงานบวชพอดี ลูกศิษย์ท่านเล่าให้ฟังว่า ที่บวชนี้ก็เพราะ

รอดตายมา โดนรถไฟชนจังๆไม่เป็นอะไรเลย คล้องเหรียญรุ่นแรกองค์เดียว

ก็เลยมาบวชกับหลวงปู่ ที่ช่วยให้รอดชีวิตมาได้

อย่างอื่นก็มีพระปิดตาและก็ตะกรุดครับ ตะกรุดช่วงหลังๆทำออกมาเรื่อยๆ ลูกศิษย์

เป็นผู้จาร เป็นยันต์ครูที่หลวงปู่ท่านใช้ใส่หลังเหรียญ ศิษย์ท่านนี้หลวงปู่ท่านครอบมือให้

ลายมือสวยมากครับ สวยอย่างกับปั๊มออกมาจากบล็อก จารเสร็จ ม้วนเสร็จ พอกผงด้วย
หลวงปู่ท่านก็จะทำการเสก ก่อนจะแจกจ่ายให้กับญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ ผมไม่เคย

เห็นตะกรุดที่ใหนออกจำหน่ายราคาถูกเท่ากับวัดยางงาม ตะกรุดขนาก๔นิ้ว จารมือ

พอกผง ทำบุญเพียง๑๐๐บ. ดอกเล็กหน่อย ใส่หลอด ใส่เกศา จีวร พร้อมใหม๕สี

ก็ ๑๐๐บ. มีเพียงขนาด๗นิ้ว ที่ออกบูชาแพงหน่อย ๕๐๐บ. ครับ ผมไม่ได้เข้าไป

ที่วัดยางงามก็นานพอสมควรแล้ว เข้าไปกราบสังขารหลวงปู่ ตอนที่มรณะภาพครบ๕๐วัน

ตอนนี้ที่วัดยางงามก็ยังมีครูบาอาจารย์ที่น่าเคารพกราบไหว้อยู่อีก๑องค์ครับ นั้นก็คือ หลวงตาโต๊ะ
ท่านอายุร่วม๑๐๐ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรงอยู่ เชิญไปกราบท่านได้ครับ

 

ขอบคุณมากครับคุณปื๊ด.
ผมเองด้วยเป็นคนที่ผลัดวันประกันพรุ่ง
จึงทำให้ไม่ได้ไปกราบหลวงปูม่วง เสียที
จนกระทั่งท่านมรณะภาพ
ทำได้แต่เพียง เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมร่วมกับคณะบุญของผม
วัตถุมงคลของท่าน ก็มีไม่กี่ชิ้น เป็นรุ่งหลังๆ
ส่วนหลวงตาโต๊ะ ยังดีที่ได้กราบท่าน
ทุกวันนี้ก็คล้องตระกุดของท่านอยู่ที่คอ
ท่านใจดีมาก คุยเป็นกันเอง
ท่านบอกว่า(ผมจำได้คร่าวๆ)ท่านซื้อยานัตถ์ตั้งแต่ขวดละ 5 สตางค์
จนเดี๋ยวนี้ ขวดละ 18 บาทกว่าๆแล้วแต่ที่
ท่านบอกว่าตระกุดท่าน ใช้ได้ทุกอย่าง อีกทั้งยังสามารถกันชงได้
ดวงไม่ดี มีเคราะห์ สามารถช่วยได้
เห็นในกระทู้ เรียกตระกุดท่านว่าตระกุดกันชงไปเลย
วันที่เป็นเจ้าภาพสวดนั้น ผมได้แอบขอยาหอมของหลวงปู่ม่วง
กับผู้ที่ดูแลหลวงปู่ฯมา 1 หลอดใหญ่
กะว่าจะมาชงกิน ก็ยังไม่ได้กินเสียที
เสียดายที่ไม่ทันได้กราบหลวงปู่ท่าน T T

 

เยี่ยมชมครับ

เพื่อนสนิทแนะนำมาอีกแล้วครับ แต่เดี๋ยววันหลังจะตามเข้ามาอ่าน