พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 15 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 12 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, :::เพชร:::+, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ่าครบทีมปล่าวครับ หุ หุ
     
  2. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 21 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 17 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, :::เพชร:::+, nongnooo+, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีภาคบ่ายครับท่านผู้อาวุโสทั้งสาม


    ใครทำงานในกลุ่ม UN ,ทุก 3 ปี ต้องสอบ Advanced Security in the Field (ASITF) certificate ให้ผ่าน ยากส์พอตัว เพราะเปลี่ยนข้อสอบเรื่อยๆ ฮ่วย!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ได้เปิดบาตรวิระทะโยนำปัจจัยร่วมทำบุญถวายอาหารเพล และทำบุญทุกอย่าง กับน้องอุ้ม และคณะ ๕๐๐ บาทครับ บ่ายนี้จะไปโอนเข้าบัญชีสะพานบุญคุณหนุ่มให้ครับ

    อนุโมทนา
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หุ..หุ...มาชุมนุมงานบุญน้องอุ้มกันเหรอ ....

    ด้วยอำนาจบุญที่สั่งสมมา ขอให้สอบได้ทุกชั้น ทุกบท ทุกแห่ง มีเคล็ดการทำสอบมาบอกนะ เผื่อไว้ไม่เสียหลาย ใช้ได้ผลดี รอดตัวมาทุกครั้งก็เพราะพระคาถาบทนี้ล่ะ..


    แล้วตั้งจิตระลึกถึงเสด็จปู่พระอินทร์ บอกกล่าวท่านก่อนว่าพระคาถานี้ แล้วคว่ำกระดาษคำถามข้อสอบ แล้วตั้ง นะโม 3 จบ

    สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ (9 จบ) แล้วลงมือทำข้อสอบ จิตแรกมักถูกเสมอ อย่าได้ลังเล สงสัย
     
  5. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    สาธุ สาธุครับท่านพี่
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    [​IMG] น่าปิดทองมากกกกกกกกกกก.....
     
  7. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ปิดแทนที่ฐานแล้วครับพี่ หุหุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    โอนเข้าบัญชีสะพานบุญคุณหนุ่ม จำนวน ๕๐๐ บาท เวลา ๑๓.๒๘ น.เรียบร้อยแล้วครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • motana1.JPG
      motana1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.2 KB
      เปิดดู:
      63
    • motana2.JPG
      motana2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49.2 KB
      เปิดดู:
      64
    • sithiphong.JPG
      sithiphong.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.3 KB
      เปิดดู:
      56
    • motana3.JPG
      motana3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      184
  10. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    งานบุญอย่างนี้จะขาดผมได้ยังงัย พี่หนุ่มขอรับ ขอเลขที่ บ/ชด้วยจ้า
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    สอบผ่านแล้วนะครับ!

    อีก 3 ปีค่อยว่ากันใหม่ (ถ้ายังมีแรงบุญหนุนอยู่ที่นี่นะ หุหุ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • AS.png
      AS.png
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      494
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ยินดีด้วยครับ:cool:
     
  13. sira

    sira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,331
    รบกวนพี่ๆๆหน่อยครับ วันนี้พุธที่ 25 สิงหาคม 2553 ขึ้น 15 ค่ำครับ วันเพ็ญวันพุธ จะมีประเพณีทางภาคเหนือเขาเรียกว่า "วันเป็งปุด " เป็นพิธีตักบาตรพระอุปคุต ตอนเที่ยงคืน แต่เราอยู่กทม อย่างนี้ผมนำของถวายพระอุปคุตที่เป็นองค์ที่บ้านแทนจะได้ไหมครับ ขอความรู้นิดหนึ่งนะครับ
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh624 height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh21.html#cb=0&ab=pz-1&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff179%2F%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-22445-1979.html&dt=&inst=1&lng=th&pc=men-250&pub=&ssl=0&sid=4c75061f8159f198&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0&ver=250&xck=0&rev=80002&xd=1" width=1 name=_atssh624 frameborder="0"></IFRAME>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sira [​IMG]
    รบกวนพี่ๆๆหน่อยครับ วันนี้พุธที่ 25 สิงหาคม 2553 ขึ้น 15 ค่ำครับ วันเพ็ญวันพุธ จะมีประเพณีทางภาคเหนือเขาเรียกว่า "วันเป็งปุด " เป็นพิธีตักบาตรพระอุปคุต ตอนเที่ยงคืน แต่เราอยู่กทม อย่างนี้ผมนำของถวายพระอุปคุตที่เป็นองค์ที่บ้านแทนจะได้ไหมครับ ขอความรู้นิดหนึ่งนะครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ยังไม่มีใครตอบน้องเค้า เลยลองซ้อมๆตอบนะ

    ประเพณีเป็งปุ๊ด ตักบาตรเที่ยงคืน..."วันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำ"

    <SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js#username=xa-4b6806b250a1123b"></SCRIPT>

    [​IMG]

    ประชาชน จ.เชียงราย และนักท่องเที่ยวหลายพันคน ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้งไปใส่บาตรกลางคืนในวัน "เป็งปุ๊ด"


    [​IMG]

    ประชาชน จ.เชียงราย และนักท่องเที่ยวหลายพันคน ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้งไปใส่บาตรกลางคืนในวัน "เป็งปุ๊ด"


    [​IMG]

    ประชาชน จ.เชียงราย และนักท่องเที่ยวหลายพันคน ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้งไปใส่บาตรกลางคืนในวัน "เป็งปุ๊ด"


    [​IMG]

    ประชาชน จ.เชียงราย และนักท่องเที่ยวหลายพันคน ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้งไปใส่บาตรกลางคืนในวัน "เป็งปุ๊ด"


    [​IMG]



    [​IMG]




    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    <SCRIPT type=text/javascript>var id='70840';function addCommas(nStr){ nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2;}function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก :"พิธีตักบาตรเที่ยงคืน" เป็นการใส่บาตรด้วยเวลาที่ผิดแผกแตกต่างไปจากการทำบุญตักบาตรโดยทั่วไป ทำให้ดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น แต่สำหรับพุทธบริษัทในภาคเหนือแล้ว การตักบาตรในยามเที่ยงคืนในวัน "เป็งปุ๊ด" ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญทางศาสนา ที่สืบทอดปฏิบัติมาหลายร้อยปี

    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1282731724&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.53.64&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20100824%2F70840%2F%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%2599...%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B6%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2591%25E0%25B9%2595%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B3.html&dt=1282731724390&shv=r20100812&correlator=1282731724406&frm=0&adk=2841150207&ga_vid=398068253.1282731724&ga_sid=1282731724&ga_hid=1843325895&ga_fc=0&u_tz=420&u_his=2&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1004&bih=581&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Furl%3Fsa%3Dt%26source%3Dweb%26cd%3D6%26ved%3D0CDoQFjAF%26url%3Dhttp%253A%252F%252Fwww.komchadluek.net%252Fdetail%252F20100824%252F70840%252F%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%25259E%2525E0%2525B8%252593%2525E0%2525B8%2525B5%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B9%252587%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525B8%2525E0%2525B9%25258A%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%25259A%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%252597%2525E0%2525B8%2525B5%2525E0%2525B9%252588%2525E0%2525B8%2525A2%2525E0%2525B8%252587%2525E0%252&dtd=63"></SCRIPT>


    ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน หรือพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ด เป็นประเพณีของทางภาคเหนือ ในทุกปีที่มีวันขึ้น ๑๕ ค่ำที่ตรงกับวันพุธ โดยไม่เจาะจงว่าต้องอยู่ในเดือนใด พระภิกษุสามเณรในเมืองทุกรูปจะออกบิณฑบาตในตอนเที่ยงคืน โดยมีความแตกต่างของการนับเวลาคือ ที่ จ.เชียงใหม่ จะตักบาตรคืนวันอังคารหลังเวลา ๐๐.๐๐ น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เข้าสู่วันพุธ ในขณะที่ จ.เชียงราย ลำปาง และแม่ฮ่องสอน จะใส่ตักบาตรในคืนวันพุธเวลา ๒๔.๐๐ น. เป็นต้นไป
    ทั้งนี้ บางปีอาจมีครั้งเดียว หลายครั้ง หรือไม่มีเลย ก็ได้ เป็นประเพณีนิยมที่มีเฉพาะในภาคเหนือเท่านั้น
    สำหรับประวัติความเป็นมาของประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่เข้าใจว่าทางภาคเหนือคงรับเอามาจากพม่าอีกต่อหนึ่ง พม่ามีความเชื่อว่า พระอุปคุตซึ่งเป็นภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ ณ สะดือทะเล ในรอบ ๑ ปีจะขึ้นมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณ
    ชาวพม่ามักตื่นแต่ดึก เพื่อเตรียมอาหารไว้ใส่บาตรพระอุปคุต โดยมีคติความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้วจะได้บุญใหญ่หลวง เกิดโชคลาภ และความเป็นสิริมงคลในชีวิต คติความเชื่อนี้จึงทำให้พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ
    พระครูพัฒนาธิมุต เจ้าอาวาสวัดอุปคุต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นวัดเพียงหนึ่งเดียวในดินแดนล้านนา ที่สืบสานประเพณีตักบาตรเป็งปุ๊ดมาไม่ต่ำกว่า ๒๕๐ ปี จากหลักฐานประวัติของวัดที่มีการบูรณะฟื้นฟูครั้งใหญ่ใน พ.ศ.๒๓๐๐ พบว่ามีการสืบทอดประเพณีตักบาตรเป็งปุ๊ดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าอาวาสวัดทุกยุคทุกสมัยได้จัดประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนถือปฏิบัติโดยทั่วไปในภาคเหนือ แต่พบมากใน จ.เชียงใหม่ และเชียงราย เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพม่า ในยุคที่อาณาจักรล้านนาเป็นเมืองขึ้นของพม่า ในช่วง พ.ศ.๒๑๐๑-๒๓๑๗ กระทั่งวัฒนธรรมไทยลื้อได้หล่อหลอมผสมผสานกับวัฒนธรรมล้านนา และวัฒนธรรมของคนไทยใหญ่ในรัฐฉาน ของพม่า ปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้
    ในคืนวันอังคารที่ ๒๔ สิงหาคม นี้ วัดอุปคุตจะจัดพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ดขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีขึ้นครั้งแรกของปีนี้ คือในคืนวันที่ ๒๗ เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. พระสงฆ์จะประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในวิหารหลวง จากนั้นเป็นพิธีถวายข้าวมธุปายาสแด่พระมหาอุปคุต จวบจนเวลาล่วงเข้าเที่ยงคืนวันเพ็ญ ขบวนพระสงฆ์ สามเณร จะเดินออกจากวิหารไปรับบาตรจากพุทธศาสนิกชนภายในบริเวณวัด เป็นอันเสร็จพิธี โดยทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่ทั้งในบริเวณวัด เพื่อรองรับชาวพุทธล้านนา ที่คาดว่าจะร่วมประเพณีสำคัญนี้หลายพันคน เช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านๆ มา
    "พุทธศาสนิกชนล้านนา ผู้มีจิตศรัทธาจะทำบุญตักบาตรในคืนเป็งปุ๊ดจำนวนมาก และจะเป็นการทำพิเศษกว่าวันอื่น เพราะถือว่าได้อานิสงส์แรง โดยจะตระเตรียมสำรับข้าวสาร อาหารแห้ง คอยใส่บาตร ยามเที่ยงคืน ขณะที่ปัจจุบัน วัดอุปคุตได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ใส่บาตรด้วยยารักษาโรค นอกเหนือไปจากข้าวสารอาหารแห้ง โดยปัจจัยเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังวัดในถิ่นทุรกันดาร" พระครูพัฒนาธิมุต กล่าว
    ด้าน พระอธิการประพันธ์ อินฺทญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธสันติวิเวก ต.บุญนาคพัฒนา อ.เมือง จ.ลำปาง บอกว่า การทำบุญตักบาตรเป็งปุ๊ด ไหว้สาพระมหาอุปคุตเถรเจ้า ของวัด เป็นแห่งเดียวใน จ.ลำปาง โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. จะทำพิธีอัญเชิญพระมหาอุปคุตเถรเจ้า ขึ้นประดิษฐานบนปราสาทจำลอง เวลา ๒๐.๐๐ น. ไหว้พระรับศีล เจริญพระพุทธมนต์ พระเกจิอาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต สมโภช พระมหาอุปคุตเถรเจ้า เทศนาเรื่องประวัติและอานิสงส์ใส่บาตรพระมหาอุปคุตเถรเจ้า และถวายทาน เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยงคืน พระสงฆ์ ๕๐ รูปของวัดจะออกมารับบาตรข้าวสารอาหารแห้ง โดยผู้ที่ใส่บาตรมีความเชื่อว่า พระอุปคุตจะมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณ ชาวบ้านจะตื่นแต่ดึก เตรียมอาหารไว้ใส่บาตรพระอุปคุต เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตรุ่งเรืองด้วยโชคลาภ แคล้วคลาดจากอุบัติภัยทั้งปวง

    มติคณะสงฆ์มิอาจขวางศรัทธา
    อย่างไรก็ตาม โดยก่อนหน้านี้ ทางมติคณะสงฆ์หลายจังหวัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ได้มีการสั่งห้ามแล้ว แต่เนื่องจากประเพณีดังกล่าวเป็นประเพณีความเชื่อที่สืบทอดกันมานาน การห้ามความเชื่อแรงศัทธา ถือได้ว่าเป็นเรื่องยาก
    พระราชสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรวิหาร กล่าวว่า การตักบาตรกลางคืนเป็นประเพณีของชาวพม่ามาตั้งแต่โบราณกาล ส่วนชาวเหนือในพื้นที่ ๘ จังหวัด ที่มีอาณาเขตติดต่อกัน และมีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกับพม่า จึงมีความกลมกลืนกันไป ซึ่งการออกมาบิณฑบาตในตอนกลางคืนของพระสงฆ์และสามเณรตามหลักของพระพุทธศาสนาถือว่าผิดวินัย เพราะเป็นยามวิกาล พระสงฆ์จะออกมาบิณฑบาตได้ในเวลาประมาณตีห้า หรือ ภาษาเหนือเรียกว่า "ตีนฟ้ายก" หรือ แบมือจนเห็นเส้นลายมือแล้ว จึงจะสามารถออกไปบิณฑบาตได้ ซึ่งเรื่องนี้ ทางคณะสงฆ์ได้มีการนำเอาเข้าที่ประชุมมาหลายครั้งแล้ว พร้อมกับได้ประกาศให้พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตได้ตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐ น. แต่พอมาถึงวันเป็งปุ๊ด จะพากันออกมาบิณฑบาตกันตั้งแต่เวลาห้าทุ่ม ไปจนถึงตีสี่ตีห้าของอีกวัน เรื่องนี้คงจะไปห้ามปรามไม่ได้
    ดร.พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์ ภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า คำว่า แสงเงินแสงทอง คือ การขึ้นไปแห่งอรุณ เป็นการเปรียบเทียบว่า แสงจากรุ่งอรุณเปรียบเป็นแสงเงินแสงทอง แต่ในสมัยโบราณยังไม่มีความเจริญทางเทคโนโลยี ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีนาฬิกาบอกเวลา ก่อนออกบิณฑบาตพระสงฆ์จึงต้องดูลายมือของตัวเอง หากไม่ปรากฏเส้นลายมือ ให้ถือว่ายังไม่รุ่งอรุณ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีเจริญแล้ว สถานที่ต่างๆ มีไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้กลางคืนเหมือนกลางวัน การดูลายมือจึงนำมาเป็นมาตรฐานไม่ได้ เมื่อกระแสสังคมเห็นว่า พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตในย่านชุมชนยามวิกาล เป็นสถานที่ไม่เหมาะสม แต่เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามไว้ ก็สมควรที่จะปรับเปลี่ยนมาจัดพิธีในวัด ให้ชาวบ้านรวมตัวทำบุญตักบาตรเป็งปุ๊ดในวัด ก็ไม่น่าจะเสียหายแต่อย่างใด
    "พุทธศาสนิกชนล้านนาผู้มีจิตศรัทธา จะทำบุญตักบาตรในคืนเป็งปุ๊ดจำนวนมาก และจะเป็นการทำพิเศษกว่าวันอื่น เพราะถือว่าได้อานิสงส์แรง โดยจะตระเตรียมสำรับข้าวสาร อาหารแห้งคอยใส่บาตรยามเที่ยงคืน"
    0 เรื่อง เอกพงศ์ ประดิษฐ์พงษ์ 0
    0 ภาพ สุระกิจ รัตนศรี 0


    เรื่องตักบาตรยามวิกาลก็ว่ากันไป บ้างว่าผิดวินัยสงฆ์เพราะเป็นยามวิกาล บ้างว่าเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาช้านาน เอาเป็นว่าทำจิตเป็นสมาธิระลึกถึงหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า สำรวม กาย วาจา ใจ ระลึกถึงพระธรรมที่หลวงปู่ท่านบรรลุความเป็นอรหันต์ ขอให้เข้าใจธรรมนั้นเฉกเช่นเดียวกัน แบบนี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่เราท่านโดยตรงอย่างยิ่ง

    เมื่อตรวจดูปฏิทินทางจันทรคติ(ถือเอาข้างขึ้นข้างแรมเป็นหลัก) ก่อน 6 โมงเช้าจะยังถือเป็นวันเดิมอยู่ วันเป็งปุดปีนี้เป็นปีที่แปลก เพราะ ตรงกับคืนวันพุธ และเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ อีกต่างหาก และหากยึดหลักทางโหราศาสตร์กันแล้ว วันขึ้น ๑๕ ค่ำ จะหมดลงในเวลา เลยเที่ยงคืนมาเล้กน้อย ราว ๔ นาที คือ ๐๐.๐๔ น. นั่นเอง เลยจากจุดนี้ไป จะกลายเป็นวันแรม ๑ ค่ำ ไป ไม่ใช่ วันขึ้น ๑๕ค่ำแล้วนะครับ ต้องระมัดระวังในเรื่องของเวลากันหน่อยหากจะถือเอาตามประเพณีกันจริงๆ

    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&channel=9989085094&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.53.64&dt=1282737624468&shv=r20100812&correlator=1282737624468&frm=1&adk=3805495853&ga_vid=1685454474.1282219532&ga_sid=1282737127&ga_hid=1818112655&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=5&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1004&bih=581&ifk=2318221558&fu=4&ifi=1&dtd=16"></SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เรื่องราวความเป็นมาของท่าน จากที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์อโศกอวทาน มีกล่าวไว้ว่า พระอุปคุตเถระ ท่านถือกำเนิด มาในตระกูลของพ่อค้า ที่เมืองมถุราซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนา ท่านมีพี่ชาย 2 คน ส่วนท่านนั้น เป็นคนสุดท้อง มูลเหตุที่ทำให้พระอุปคุตได้บวชนั้น ก็สืบเนื่องมาจาก บิดาของท่าน ได้เคยให้สัญญาไว้กับ พระเถระรูปหนึ่ง คือ พระสาณวาสี ว่าถ้าตนมีลูกชาย ก็จะให้บวชในพระพุทธศาสนา ทีนี้พอมีลูกชายคนแรก ก็ไม่ยอมให้บวช ด้วยอ้างว่าจะต้องเอาไว้ดูแลทรัพย์สิน ในเหย้าเรือน เอาไว้ถ้ามีลูกชายคนที่ 2 เมื่อไร แล้วจะยอมให้บวช แต่พอมีลูกชายคนที่ 2 เข้าจริง ๆ ก็หาเรื่องบิดเบือนอีก ว่ามีความจำเป็น ต้องเอาไว้สำหรับ ทำธุระตามหัวเมือง ขอให้รอไว้มีลูกชายคนที่ 3 แล้วจะต้องบวชให้อย่างแน่นอน
    [​IMG]

    พอลูกชายคนที่ 3 ซึ่งมีชื่อว่า “อุปคุต” เกิดมาก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้กับสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระเถระ พระเถระท่านเห็นว่า ยังไม่ถึงเวลา ท่านจึงนิ่งไว้ก่อน และก็ไม่ได้ไปทวงถามถึงสัญญานั้น จนกระทั่งอุปคุตโตเป็นหนุ่ม

    ตอนนั้นอุปคุตได้มาช่วยบิดาขายเครื่องหอมอยู่ที่ร้านในตลาด ตั้งแต่อุปคุตมาอยู่ที่ร้าน ก็ปรากฎว่า เครื่องหอม ขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ผู้คนมาซื้อหากันไม่ขาดสาย นี่เป็นธรรมดาของผู้มีบุญไปอยู่ที่ไหน ทรัพย์สิน ก็จะหลั่งไหลมา ด้วยอำนาจแห่งบุญ
    [​IMG]

    เพราะฉะนั้นจึงเชื่อกันว่า ผู้ที่ค้าขาย หากได้บูชาพระอุปคุตเป็นประจำทุกเช้าตอนเปิดร้าน ก็จะทำให้ค้าขายดี มีคนมาซื้อหาไม่ขาดสายทรัพย์สิน ก็จะหลังไหลมาเทมา กิจการเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป

    วันหนึ่งพระสาณวาสีเถระ ได้แวะเข้าไปในร้านที่อุปคุตขายของ และได้กล่าวธรรมกถาให้อุปคุตฟัง ปรากฏว่า อุปคุตฟังแล้ว เกิดสังเวช ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น ในพระพุทธศาสนา เมื่อพระสาณวาสีเถระเห็นว่า อุปคุตได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว จึงได้ไปทวงสัญญากับนายพาณิชย์ ผู้เป็นพ่อของอุปคุต “ไหนว่าจะถวายลูกชายคนที่ 3 แก่อาตมา เพื่อให้บวชยังไงล่ะ” พอนายพาณิชย์ถูกทวงถามเช่นนั้น ก็อับจนปัญญา ไม่อาจหาวิธีพูดบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงได้อีก จึงตัดสินใจอนุญาตให้อุปคุตออกบวชได้


    [​IMG]

    กิตติศัพท์ขจรขจาย

    เมื่ออกบวชแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ตั้งใจเจริญกรรมฐาน จนได้บรรลุพระอรหันต์ เป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงสุด ในพระพุทธศาสนา และต่อมาท่านพระอุปคุต ก็ได้เป็น พระอาจารย์สอนกรรมฐานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มากที่สุด ในยุคนั้น โดยในคัมภีร์ได้กล่าวว่า ท่านมีพระอรหันต์ผู้เป็นศิษย์อยู่ถึง 18,000 รูป ส่วนสำนักของท่าน ตั้งอยู่ ณ วัดนตภัติการาม ภูเขาอุรุมนท์


    ศรัทธาของพระเจ้าอโศก

    กิตติศัพท์ด้านความรู้ความสามารถของท่านได้แพร่สะพัดไป จนทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ จึงตั้งพระทัย จะเสด็จไปอาราธนา ท่านพระอุปคุตให้มาโปรดยังกรุง ปาฏลีบุตร

    แต่วิสัยของพระอรหันต์ผู้ยิ่งด้วยอภิญญาเฉกเช่นท่านพระอุปคุตนั้น เพียงแค่พระเจ้าอโศกทรงดำริเท่านั้น ท่านก็ทราบแล้ว จึงได้รีบลงเรือเดินทางมาสู่กรุงปาฏลีบุตรในทันที ฝ่ายพระเจ้าอโศก เมื่อทรงทราบว่า ท่านพระอุปคุต ได้เดินทางมาแล้ว จึงได้โปรดให้ตั้งพิธีต้อนรับ และเสด็จมารับ ท่านพระอุปคุต ด้วยพระองค์เอง อันเป็นตำนาน ที่ปรากฎอยู่ ใน คัมภีร์อโศอวทาน

    กำเนิด ประวัติ เรื่องราวความเป็นมา พระอุปคุต - คัมภีร์ปฐมสมโพธิ์

    [​IMG]


    ตำนานใน คัมภีร์ปฐมสมโพธิ์ ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ของ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีเนื้อความดังนี้

    ในคัมภีร์ปฐมสมโพธิ์ได้กล่าวถึงพระเจ้าอโศกว่า แต่เดิมนั้นพระเจ้าอโศกทรงนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน แต่พอมาได้ฟังธรรม จากสามเณรนิโครธ ก็เกิดพระศรัทธา ในพุทธศาสนาอย่างมาก จนถึงขนาด ทรงนำหลักธรรมวินัย ของพระพุทธเจ้า มาเป็นนโยบายในการปกครองไพร่ฟ้า ประชาราษฎร์ ซึ่งระบบนี้เรียกว่า ระบบธรรมาธิปไตย คือการถือเอาธรรมะเป็นใหญ่

    และในสมัยต่อมา พระเจ้าอโศกก็ได้โปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์และพุทธวิหารขึ้นทั่วชมพูทวีป โดยพุทธวิหาร ที่โปรดให้สร้างขึ้นนั้น ที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่ มหาวิหารที่ชื่อว่า “อโศการาม” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแคว้นมคธ ส่วนพระสถูปเจดีย์นั้น โปรดให้สร้างขึ้นถึง 84,000 องค์ และเมื่อพระสถูปเจดีย์ได้สร้างสำเร็จ สมพระราชประสงค์แล้ว พระเจ้าอโศกก็จึงได้ตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่า จะสามารถหาพระบรมสารีริกธาตุ แต่ที่ใดมาบรรจุ ในพระสถูป ให้ถ้วนทั่วทั้ง 84,000 องค์ พระภิกษุทั้งหลาย ถวายพระพรว่า “พวกอาตมาภาพเคยได้สดับสืบ ๆ กันมาว่า การกระทำพิธีฝัง พระบรมสารีริกธาตุ นั้นมีอยู่ แต่มิทราบว่าสถานที่กระทำพิธีฝังพระบรมสารีริกธาตินั้นอยู่ที่ไหน” เมื่อพระเจ้าอโศก ทรงทราบเช่นนั้น จึงรับสั่งให้รื้อทำลาย พระสถูปเจดีย์ใน เมืองราชคฤห์ เพื่อค้นหา พระบรมสารีริกธาตุ แต่ก็ไม่ทรงพบ จึงทรงรับสั่งให้ก่อขึ้นไว้เป็นปกติดังเดิม

    [​IMG]

    แต่มีเรื่องน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น ตอนที่ไปขุดค้นหาพระบรมสารีริกธาตุ ที่รามคาม ปรากฎได้เกิดเหตุชนิดที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง คือหมู่นาค ไม่ยอมให้รื้อทำลายพระเจดีย์ โดยบันดาลทำให้ จอบเสียม สิ่ว ขวาน แตกหัก เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ ไม่สามารถขุดรื้อได้ดังใจปรารถนา


    ในเมื่อการค้นหาพระบรมสารีริกธาตุไม่พบ ดังพระราชประสงค์ พระองค์จึงเสด็จนิวัติสู่กรุงราชคฤห์อีกครั้งหนึ่ง รับสั่งให้พุทธบริษัททั้ง 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เข้าร่วมประชุม แล้วจึงตรัสถามว่า “ใครเคยได้ยิน มาบ้างว่า มีการกระทำพิธีฝังพระบรมสารีริกธาตุไว้ ณ ที่ ไหน” ในที่ประชุมนั้น ปรากฎว่า มีพระมหาเถระผู้เฒ่ารูปหนึ่ง อายุ 120 ปี บอกว่าสมัยที่มีอายุได้ 7 ขวบนั้น พระมหาเถระ ผู้เป็นบิดา ได้เคยพาท่านไปบูชาสถูปศิลาองค์หนึ่ง และสั่งย้ำว่า จงจำสถานที่นี้เอาไว้ให้ดี แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ที่นั่น จะเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุหรือไม่

    [​IMG]

    เมื่อพระเจ้าอโศกได้ทรงสดับเช่นนั้น ก็ดำริว่า ที่นั้นชะรอยจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเป็นแน่แท้ จึงมีรับสั่ง ให้พระมหาเถระนำเสด็จไปยังสถานที่แห่งนั้น เมื่อขุดลงไปก็ปรากฎว่าได้พบพระบรมสารีริกธาตุจริง ๆ ทำให้ พระเจ้าอโศก ทรงปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อกลับมาถึงเมืองปาฏลีบุตรแล้ว ก็ได้ทรงกระทำสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุโดยวิธีอเนกประการ หลังจาก ทรงทำพิธีสักการะบูชาเสร็จ พระองค์ก็ทรงแจกพระบรมสารีริกธาตุไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ทั้ง 84,000 แห่ง ทั่วชมพูทวีป

    [​IMG]

    เมื่อได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์ทั้งหลายทุก ๆ พระนครเสร็จแล้ว ต่อจากนั้น จึงทรงรับสั่ง ให้ก่อสร้าง พระมหาสถูปองค์ใหญ่ขึ้นใหม่องค์หนึ่ง มีความสูงประมาณครึ่งโยชน์ ประดับประดาด้วยแก้วต่าง ๆ และแสงแห่งแก้วเหล่านั้น ก็สว่างรุ่งเรืองประดุจเขาไกรลาศ ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ใกล้กับ กรุงปาฏลีบุตร นั่นเอง ครั้นสร้างเสร็จแล้ว จึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เหลืออยู่ 1 ส่วน ไปบรรจุไว้

    [​IMG]

    ในกาลต่อมา พระเจ้าอโศกมหาราช มีพระราชประสงค์ ที่จะทำการฉลองพระสถูปเจดีย์ เป็นเวลา 7 ปี 7 เดือน 7 วัน จึงนำความไปปรึกษากับหมู่สงฆ์ ซึ่งมีพระโมคคัลลีบุตรเถระเป็นประธาน พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ พร้อมกับ พระภิกษุสงฆ์ ผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย ได้เล็งญาณดูแล้วเห็นว่า ในการทำพิธีฉลองครั้งนี้จะมีพญามาร มาทำลายพิธี จึงได้ทำการเฟ้นหาพระเถระ ผู้มีฤทธิ์ที่จะมาทำการป้องกันภัย อันจะพึงเกิด ขึ้นในครั้งนี้


    แต่ปรากฎว่า ไม่มีผู้ใดที่สามารถจะทำการนี้ได้ จะเห็นมีอยู่ก็แต่ ท่านอุปคุต ซึ่งไปเนรมิตปราสาทแก้ว 7 ประการ จำพรรษาอยู่ในท้องมหาสมุทร เพื่อหลบหนีความวุ่นวาย โดยท่านไปนั่งเข้าฌาณสมาบัติ อยู่บนรัตนบัลลังค์ใน ท่ามกลางปราสาทแก้วนั้น โดยไม่ได้ฉันภัตตาหาร มาเป็นเวลานาน พระอุปคุตนี้แหละ หากได้นิมนต์มา ก็จะสามารถ ปราบพญามารได้ จึงตกลงใจที่จะไปนิมนต์พระอุปคุตมา สำหรับการไปนิมนต์ ครั้งนั้นก็ได้มอบหมาย ให้พระภิกษุ ผู้มีฤทธิ์ ได้อภิญญาสมาบัติ 2 รูป เป็นผู้ไปนิมนต์


    เมื่อไปถึงที่อยู่ของท่านอุปคุต และได้แจ้งความประสงค์ให้ท่านทราบ ท่านก็ไม่ได้แสดงความขัดข้องแต่ประการใด บอกให้พระภิกษุที่ไปนิมนต์กลับมาก่อน แล้วท่านจะตามมาทีหลัง แต่ที่ไหนได้ …พอพระภิกษุที่ไปนิมนต์กลับมาถึง ก็เห็นท่านอุปคุตมาถึงก่อนแล้ว….นี่แสดงให้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์อันน่าอัศจรรย์ของท่านพระอุปคุต


    ก่อนที่จะถึงกำหนดการฉลองพระสถูปเจดีย์ พระเจ้าอโศกต้องการจะดูตัวว่าพระเถระไหนหนอ ที่จะมาทำหน้าที่ ป้องกันภัย จากพญามาร พอประธานสงฆ์ชี้ให้ดูว่ารูปนี้ไง ที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่ป้องกันภัยจากพญามาร พระเจ้าอโศก ก็ชักไม่ค่อยเชื่อใจ เพราะรูปร่างของพระอุปคุตนั้นผอมมาก จะทำการป้องภัยจากพญามารผู้มีฤทธิ์มากได้อย่างไร ในเมื่อไม่เชื่อก็ต้องทดสอบ


    วิธีการทดสอบของพระเจ้าอโศกก็คือ ในตอนเช้า ขณะที่ท่านอุปคุตเข้าไปบิณฑบาตรในพระราชนิเวศน์ พอออกมา ก็ให้ปล่อยช้างตกมันเพื่อจะทดลองกำลังฤทธิ์ของท่านพระอุปคุตว่า จะสู้กับช้างของพระองค์ได้หรือไม่ เพราะถ้าหาก ต่อสู้กับช้างไม่ได้แล้ว ไฉนเลยจะต่อสู้กับพญามารได้


    และแล้ว พระเจ้าอโศกก็ได้เห็นประจักษ์ เมื่อช้างตกมันได้วิ่งไปหมายจะบดขยี้ท่านพระอุปคุต…แต่ช้างนั้นต้องพลัน ชะงักงันหยุดนิ่ง ไม่ไหวติง ร่างกายด้วยอำนาจฤทธิ์ของท่านอุปคุต

    พระเจ้าอโศกเห็นดังนั้น จึงได้เข้าไปขอขมาต่อท่านพระอุปคุต ที่ได้ทำการลองดี ท่านอุปคุตก็ได้คลายฤทธิ์ ทำให้ช้างนั้น สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ และกลับไปสู่โรงช้างอันเป็นที่อยู่ของตน เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้พระเจ้าอโศก มีความมั่นใจในฤทธานุภาพของท่าน พระอุปคุตว่าจะสามารถ ป้องกันภัยจากพญามารได้

    [​IMG]

    [​IMG]


    และแล้ววันสำคัญก็มาถึง นั่นคือวันที่จัดให้มีการฉลองพระมหาสถูปเจดีย์พระเจ้าอโศกพร้อมด้วยข้าราช บริพาร และประชาขนได้พร้อมใจกันจัดเครื่องบูชาอย่างมโหฬาร ตามริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีการจุดประทีป เป็นอเนกอนันต์ นับไม่ถ้วน จนทำให้บริเวณนั้นโชติช่วง มองดูแล้วสว่างไสวคล้ายเวลากลางวัน ขณะที่ทุกคนกำลังปีติอยู่กับ การบูชาพระมหาเจดีย์ นั้น เหตุการณ์ที่ใครๆ ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น คือได้เกิดลมพายุใหญ่พัดมา ชนิดที่ไม่มีเค้ามาก่อนเลย


    ท่านพระอุปคุตเห็นดังนั้น ก็จึงได้ใช้ฌาณอภิญญาตรวจดูเหตุที่ทำให้เกิดพายุใหญ่ ก็จึงได้ทราบว่า ที่แท้เป็นเพราะอำนาจ แห่งพญามารที่หวังจะมาทำลายพิธีนี่เอง ในเมื่อรู้ชัดเช่นนั้นแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ไม่รอรี รีบใช้ฤทธิ์ปัดเป่า ให้พายุใหญ่ของพญามาร อันตรธานหายไปในบัดดล

    เมื่อพญามารเห็นว่าใช้พายุใหญ่เพื่อทำลายพิธีไม่ได้ผล ก็รู้สึกโกรธแค้น จึงใช้วิธีการอย่างอื่น ๆ แต่ท่านพระอุปคุต ก็สามารถจะเอาชนะได้ทุกอย่าง จนผลที่สุด พญามารก็ได้ถูกพระอุปคุตปราบ โดยวิธีเนรมิตซากสุนัขเน่า ซึ่งมีกลิ่นเหม็น คละคลุ้ง และเต็มไปด้วยหมู่หนอนมองดูแล้วน่าขยะแขยง แล้วเอาผูกติดไว้ที่คอของพญามาร ผูกไม่ผูกเปล่า พระอุปคุตยังได้อธิษฐานจิตลงไปอีกว่า “ไม่ว่าเทพยดา พรหมหรือใครก็ตาม ถ้าจะแก้ ก็ขอให้แก้ไม่ออก”


    พญามารพยายาม จะแก้เอาซากสุนัขนั้นออกจากคอของตนแต่ก็จนปัญญา ไม่สามารถจะแก้ออกได้ จึงจำใจ ต้องไปไหว้วอนท้าวจาตุมหาราช ให้ช่วยแก้ให้ แต่ท้าวจาตุมหาราชก็ไม่สามารถจะช่วยได้ พญามาร จึงขึ้นไปขอร้องเทพยดา ในชั้นสูง ๆ ขึ้นไปอีก จนถึงชั้นพรหม แต่ก็ได้ผลอย่างเดิมคือไม่มีใครช่วยได้

    ในที่สุดก็กลับไปอ้อนวอนขอร้องท่านพระอุปคุตให้ช่วยแก้ให้ เพราะมีท่านอุปคุตเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่สามารถ จะช่วยแก้ให้ได้ แต่ก่อนจะแก้ให้ ท่านพระอุปคุตก็ได้สั่งให้พญามารไปทีภูเขา แล้วจึงตามไปแก้ให้ เมื่อแก้ให้แล้ว ท่านพระอุปคุตพิจารณาเห็นว่า ถ้าขืนปล่อยไปตอนนี้ พญามารอาจจะไปรังควาญ การทำพิธีของพระเจ้าอโศกอีก ก็จึงได้มัดพญามาร ไว้ที่ภูเขา บอกว่ารอให้พิธีฉลองพระสถูปเจดีย์ ของพระเจ้าอโศกผ่านพ้นไปเสียก่อน แล้วจึง จะมาแก้มัดให้ พญามารจึงเป็นอันต้องถูกผูกมัดติดกับภูเขาเป็นการประจานด้วยโทษฐานเป็นผู้ มีใจบาปคอยขัดขวาง และทำลายการทำความดีของผู้อื่น


    เมื่องานฉลองพระสถูปเจดีย์ผ่านพ้นไป ท่านพระอุปคุตก็ได้ไปยังภูเขา เพื่อจะไปปลดปล่อยพญามารตามสัญญา เมื่อไปถึง แทนที่พระอุปคุตจะแสดงตัวให้พญามารได้เห็น ท่านก็กลับซ่อนเร้นอยู่ทางเบื้องหลัง เพื่อว่าจะฟังว่า พญามารจะว่ากล่าวอย่างไรบ้าง

    [​IMG]

    พญามารเมื่อละพยศหมดความดุร้ายแล้ว ก็ได้หวนระลึกไปถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ในวันที่พระองค์จะตรัสรู้นั้น ตนได้เคยไปรังควาญต่าง ๆ นานา แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่เคยโต้ตอบเลยแม้แต่น้อย พญามารรู้สึกสำนึก ถึงโทษ ที่ตัว ได้กระทำ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเลื่อมใสในคุณของพระพุทธเจ้า จึงได้เปล่งวาจาอุทานออกมาว่า “ถ้าหากข้าพเจ้า มีกุศลที่ได้เคยสร้างสมไว้แล้ว ดังที่พระผู้มี่พระภาคเจ้า ทรงบำเพ็ญบุญมารมีไว้ เพื่อการตรัสรู้ ในอนาคตกาล ฉันใด ก็ขอให้ข้าพเจ้าจงได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้นในโลกนี้ฉันนั้น เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ และกระทำ ประโยชน์โปรดเวไนยสัตว์ทั้งปวงในสากลโลก”

    เมื่อพญามารได้เปล่งวาจาปรารถนาพุทธภูมิจบลง ท่านพระอุปคุต ก็ได้แสดงกาย ให้ปรากฎแล้วเดินเข้าไปแก้มัดให้ ในทันที ต่อจากนั้นท่านก็ได้ให้โอวาทแก่พญามาร ให้ละจิตอันเป็นบาปเสีย อย่าได้กระทำกรรม อันหยาบช้า ต่อไปอีกเลย และนับตั้งแต่นั้นมา พญามารก็มีจิตอ่อนน้อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไม่มีความดุร้าย เหมือนดังแต่ก่อน นี่เป็นเพราะฤทธานุภาพของท่านพระอุปคุตโดยแท้ จึงทำให้พญามารได้ละพยศหมดความดุร้าย และกลับใจมาปรารถนาพุทธภูมิ


    บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมในสมัยที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พญามารจึงไม่ได้สำนึก ทำไมมาได้สำนึก ในสมัยของพระอุปคุต เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่ว่า พระอุปคุต กับพญามาร เคยเป็นคู่ปรับกันมา และพระพุทธเจ้า ก็เคยพยากรณ์ไว้แล้ว ว่า หลังจากพระองค์ดับขันธ์ไปแล้วจะมีพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์รูปหนึ่ง เป็นผู้มาปราบพญามารตนนี้


    ตรงนี้แหละ จึงเชื่อกันว่า อุปสรรคใด ๆ จะไม่ยิ่งไปกว่าพญามาร เมื่อพระอุปคุตสามารถปราบพญามารได้ มารอื่น ๆ ย่อมไม่มีฤทธิ์เหนือพญามาร ผู้ที่ต้องการชนะอุปสรรค ชนะมารที่มาผจญชีวิต หรือธุรกิจการค้าขายของตน ก็มักบูชาพระอุปคุตอยู่เป็นประจำ

    [​IMG]


    http://www.phuketvariety.com/buddhism/uppakut-pathom/index.htm
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วิธีบูชาพระอุปคุต ตำรับสมเด็จพระสังฆราชแพ

    เคล็ดนี้บันทึกโดยท่านอาจารย์ อุรคินทร์ วิริยะบูรณะ ในตำราพระเวทย์108พิสดารโดยเป็นตำรับสมเด็จสังฆราชแพ

    จะใช้ไว้ขอพรใน วันธรรมสวนะ คือวันพระขึ้น 15 ค่ำเท่านั้น
    จะไม่บูชาท่านในวันพระแรม 8 ค่ำ เป็นเคล็ดว่าชีวิตจะได้ขึ้น ตลอดเวลา เครื่องบูชาที่ใช้คือ

    1. ดอกไม้สีเหลือง เช่นดอกเบญจมาศ หรือหากเป็นพวงมาลัยก็พวงมาลัยดาวเรือง จะเป็นมะลิดาวเรืองก็ได้แต่ห้ามเป็นกุหลาบ
    2. เทียนสีผึ้งเหลืองหนัก 1บาท 1คู่
    3. น้ำเปล่าสะอาด 1แก้ว
    4. ธูปหอมอย่างดี 3ดอก
    5. หมากพลูจัดใส่พาน 5 คำ หมายความว่าหมากพลูบูชา พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์(การใช้หมากพลูเป็นการบูชามาแต่โบราณ)

    เมื่อเตรียมเครื่องบูชาเสร็จแล้ว ก่อนจะไหว้พระอุปคุต ให้จุดธูป 5ดอก บอกพระภูมิ เจ้าที่ เทวดา ว่าวันนี้จะทำการไหว้ขอลาภและความสำเร็จจากพระอุปคุตเถระเจ้า ขอให้เทวดาทั้งหลายมาร่วมยินดี อนุโมทนา

    เสร็จแล้ว ให้นำน้ำเปล่าไปตั้งหน้าองค์พระอุปคุต พร้อมทั้งจัดดอกไม้เหลือง ใส่แจกัน หรือเอาพวงมาลัยคล้องไปที่องค์ เสร็จแล้วให้จุดธูป 9ดอกบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และเหล่าทวยเทพเสียก่อน ดังนี้

    ตั้งนะโม 3 จบ
    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ (สวดหลายคนใช้ อภิปูชะยามะ)
    อิมินา สักการเนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
    อิมินา สักการเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ
    พุทธบูชา มหาเตชะวัณโต
    ธัมมะบูชา มหาโภคะวาโห
    สังฆะบูชา มหาปัญโญ
    พุทธัสสะ ปูเชมิ สหัสะเนตโต เทวินโท ทิพย์จักขุง วิโสธายิ

    ข้าพเจ้า ชื่อ....... นามสกุล......ขออาราธนาคุณพระพุทธบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์แห่งภัทรกัปป์นี้ คุณพระธรรมะเจ้า คุณพระสังฆเจ้า อีกทั้งคุณพระอินทร์ พระพรหม พระยม พระปรเมศวร สิทธิธาดาและเหล่าพระฤาษี อิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย พร้อมเหล่าเหล่าทวยเทพน้อยใหญ่ทั้งหลาย วันนี้ลูกจะขอทำการบูชาองค์พระอุปคุต เพื่อ.....ตามที่เราปรารถนา.......ขอพุทธบารมี ธรรมบารมี และสังฆบารมี ตลอด จนฤาษีสิทธิธาดาและเหล่าเทพยเจ้าจงเสด็จมาเป็นองค์พยานด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

    แล้วปักธูปบูชาพระประธาน เสร็จแล้วให้นำหมากพลู มาวางหน้าพระประธาน ต่อมามาที่ที่บูชาพระอุปคุต จุดธูปสามดอก สวดพระคาถาดังนี้

    นะโม 3 จบ
    กิจจะมาคะ อุปคุตโต มหาเถโร สัมพุทธเรวิญญาคะโต โสมารัญจะ ลาภะรัญจะโส อิทานิ มหาเถโร นมัสสิตวา ปติฏฏิโต อะหังวันทามิสัพพะทา ทาเวนะอุปคุตตัง มหาเถระยัง
    ยังอุปัตถังวา ชาตัง อิทังเสนติ อะโสสะโต นะชาลิติ สิทธิลาภา นะชาลิติ เอหิมามา สรรพทุก ทิศา สะมาลาภา คะตา

    ให้อธิษฐานนึกถึงชื่อบุคคลที่เราต้งการ (อาทิคู่ค้าบริษัท) หรือสิ่งของที่เราต้องการ หรือ ให้พระอุปคุตมาปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกไป

    กล่าวพระคาถานี้ 3 จบ เป็นอันเสร็จพิธี


    นี่ก็เป็นเคล็ดง่ายๆ ที่จาก ตำราพระเวทย์ 108 พิศดาร ของท่านอาจารยอุรคินทร์ วิริยะบูรณะ เป็นเคล็ดที่ทำได้ง่ายๆๆ ไม่ยุ่งยากแต่เป็นเคล็ดที่ทำแล้วดีแก่ตัวเราอีกวิธีนึง

    http://www.mahathep.com/webboard/index.php?topic=969.0
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เชียนจินใหม่กู่ : "ซื้อกระดูกด้วยเงินพันตำลึงทอง"

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    25 สิงหาคม 2553 09:15 น.

    《千金买骨》

    千(qiān) อ่านว่า เชียน แปลว่า พัน
    金(jīn) อ่านว่า จิน แปลว่า ทอง
    买(mǎi) อ่านว่า ใหม่ แปลว่า ซื้อ
    骨(gǔ) อ่านว่า กู่ แปลว่า กระดูก


    [​IMG]
    ภาพจาก wftxy2006.blog.sohu.com


    ในสมัย 314 ปีก่อนคริสตกาล ขณะที่รัฐเอียนเกิดจลาจลภายใน รัฐฉีจึงถือโอกาสนำกำลังทหารมาบุกโจมตีและยึดดินแดนบางส่วนของรัฐเอียนไป

    กระทั่งเมื่อ อ๋องเอียนเจา ขึ้นครองรัฐเอียน ได้ทำการปราบปรามจลาจลภายในจนราบคาบ และให้มีการป่าวประกาศเพื่อรับคนที่มีความรู้ความสามารถทั่วแผ่นดินมาช่วยงานราชการแผ่นดินและเอาดินแดนที่ถูกยึดไปกลับคืนมา ทว่าคนที่มาเข้าร่วมสวามิภักดิ์ต่ออ๋องเอียนเจากลับมีไม่มาก ดังนั้นอ๋องเอียนเจาจึงนำปัญหานี้ไปปรึกษากับขุนนางคนสนิท นามว่า กัวเหว่ย เพื่อหาแนวทางที่จะทำให้คนดีมีคุณธรรม-ความสามารถ เข้ามารับใช้แผ่นดิน

    เมื่อได้ทราบปัญหา กัวเหว่ยจึงได้เล่าเรื่องราวหนึ่งถวายอ๋องเอียนเจา ดังนี้

    "กาลครั้งหนึ่ง มีกษัตริย์ผู้หนึ่งทุ่มเงินหนึ่งพันตำลึงทองเพื่อต้องการซื้อยอดอาชาพันลี้ ทว่าเวลาผ่านไป 3 ปียังมิอาจหาซื้อได้ กษัตริย์ผู้นี้มีข้ารับใช้อยู่ผู้หนึ่งไม่ปรากฏนาม เป็นผู้ขอรับอาสาทำหน้าที่หาซื้อยอดอาชา โดยเขาใช้เวลาจากนั้นตลอด 3 เดือน จึงค่อยสืบเสาะพบว่ามีชาวบ้านบ้านหนึ่งได้เลี้ยงม้าพันธุ์ดีเอาไว้ ทว่าเมื่อไปถึงหน้าประตูบ้านหลังนั้น ม้าตัวดังกล่าวกลับชิงตายไปเสียก่อน ข้ารับใช้ของกษัตริย์จึงนำเงิน 500 ตำลึงทองขอซื้อกระดูกของม้ากลับมา เมื่อกษัตริย์ทราบว่าต้องเสียเงินมากมายเพียงเพื่อได้มาซึ่งกระดูกม้าเปล่าๆ จึงโมโหเป็นอันมาก ข้ารับใช้คนดังกล่าวจึงรีบชี้แจงว่า "ที่ข้าน้อยทำเช่นนี้ก็เพื่อบอกให้ผู้คนทราบว่า ท่านเป็นกษัตริย์ที่ต้องการซื้อยอดอาชาในราคาสูงด้วยใจจริง มิใช่ต้องการหลอกลวงผู้อื่น" ซึ่งวิธีการนี้ได้ผลดียิ่งนัก เมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่ถึงปีก็มีผู้มาเสนอขายยอดอาชาของตนเองให้กับกษัตริย์ผู้นั้นถึง 3 รายด้วยกัน"

    เมื่อเล่าจบ กัวเหว่ยจึงกล่าวกับอ๋องเอียนเจาต่อไปว่า "หากท่านอ๋องต้องการที่จะได้ผู้มีความรู้ความสามารถมาช่วยงานแผ่นดินจริงๆ ก็ย่อมต้องทำอย่างกษัตริย์ในเรื่องเล่า โดยทำให้ทุกผู้คนทราบว่าท่านอ๋องมีความตั้งใจจริง อาจเริ่มจากตัวข้าน้อย ซึ่งหากคนทั่วไปทราบว่าแม้แต่คนธรรมดาอย่างข้าน้อย ก็ยังได้รับบทบาทหน้าที่สำคัญในราชสำนัก คนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าข้าน้อยย่อมมีโอกาสยิ่งกว่า ย่อมต้องการมาเข้าร่วมกับท่านอ๋องเอง"

    อ๋องเอียนเจาเห็นพ้องกับข้อเสนอของกัวเหว่ย จึงตั้งกัวเหว่ยเป็นที่ปรึกษา ทั้งยังมอบค่าตอบแทนเป็นเงินมหาศาล และรับสั่งให้กัวเหว่ยสร้าง "หอทอง" เพื่อใช้เป็นที่สำหรับรับสมัครผู้มีความรู้ความสามารถ เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไปไม่นาน ก็มีผู้คนทยอยมาสมัครเข้ารับราชการอย่างไม่ขาดสาย และแสดงเจตจำนงที่จะช่วยเหลืออ๋องเอียนเจาปกครองบ้านเมือง

    เมื่อผ่านความพยายามมากว่า 20 ปี รัฐเอียนจึงได้กล้าแข็งขึ้นจนกระทั่งสามารถรบชนะรัฐฉี นำเอาดินแดนที่ถูกแย่งไปกลับคืนมาได้ในที่สุด

    สำนวน "เชียนจินใหม่กู่" หรือ "ซื้อกระดูกด้วยเงินพันตำลึงทอง" ใช้เปรียบเทียบกับการให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความรู้ความสามารถ หรือการทุ่มเทเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้มีความรู้ความสามารถ

    ที่มา

    ที่มา
    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000117883


    .


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่ไม่ทราบครับในเรื่องนี้


    .
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อาทิตย์ก่อนได้พบญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ชื่อ"ป้ากล้วย" แต่ชีวิตไม่ได้กล้วยเหมือนชื่อ มาหมดตัวเอาวัย 70 กว่า เนื่องจากสามีติดการพนัน ดันเอาบ้านช่องไปจำนองไว้ ถึงเวลาเจ้าของคนใหม่มาทวงสิทธิ์ เลยต้องจำจากไปอย่างอาวรณ์ การเปลี่ยนชื่ออาจจะช่วยได้เพียง 15% แต่ท้ายสุดก็ไม่สามารถฝืนดวงชะตาเกิดไปได้

    วันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีโอกาสได้ไปเคารพศพอาจารย์ผู้สอนแพทย์แผนไทย เสียชีวิตด้วยเริ่มต้นจากงูสวัดขึ้นที่บริเวณหู รักษาไม่ถูกทางตามหลักการแพทย์แผนไทย แทนที่จะกระทุ้งพิษ กลับไปครอบไข้(อันนี้อาจารย์แพทย์แผนไทยผู้ทรงคุณวุฒิบอกเล่าให้ฟัง) ท้ายสุดก็รั้งชีวิตเอาไว้ไม่อยู่ เป็นไตวาย ลงไปที่ลูกอัณฑะโตเท่าลูกมะพร้าว ชีวิตก็เท่านี้จริงๆ เหลือแต่คุณงามความดีที่ชนรุ่นหลังจะเอาไว้จดจำ และบอกเล่ากันสืบไปอีกนาน...

    แก่แล้ว(ไม่เหมือนคนชื่อหนุ่ม แก่ยังไงก็ยังมีคนเรียกหนุ่ม ..หุ..หุ..) เลยเล่าแบบบ่นๆให้ฟังกัน
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หลังแบบนี้ชอบม๊าๆ...........
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...