พระเดชพระคุณ หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร วัดส้มเกลี้ยง จ.จตาก(เสกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ)

สวัสดีครับ

วัตถุมงคลชุดนี้ที่สร้างไม่ผิดหรอกครับ เพราะเจตนาของพวกท่านทั้งหลายทำนั้นทุกท่านก็ทราบกันดี เพราะไม่ใช่เป็นการสร้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแต่สร้างเพื่อหาปัจจัยมารักษาอาการอาพาธของพระเถระผู้ชราภาพ การที่สร้างแล้วนำออกมาจำหน่ายและหลวงปู่ดีท่านก็เมตตาจารด้วยตัวท่านเอง มีจำนวนการสร้างที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สมควรเพราะถ้าออกวัตถุมงคลในนามหลวงปู่ดีแล้วให้ลูกศิษย์ผู้อื่นจารถวายอย่างที่เคยเห็นผ่านสายตากันมาบ้างในสถานที่อื่นๆ เมื่อโดนผ่าและได้รับรู้รับทราบในภายหลังก็จะเสียชื่อถึงหลวงปู่ดีผู้อนุญาตสร้าง เพราะจะกลายเป็นต้มตุ๋นหลอกหาผลประโยชน์ในทันที แต่ถ้าจารเองทำแจกเล่นๆเองเพื่ออวดอุตริสิ่งที่ไม่มีในตนและเพื่อทำปลอมมาทับสายกับหลวงปู่ดีผู้เป็นพระอาจารย์มอบวิชาก็เป็นอีกเรื่อง เพราะหลวงปู่ดีเวลาที่ท่านมอบวิชาให้ใครแล้วท่านก็จะกล่าวเตือนแล้ว ว่า " วิชาสายนี้เอาไปทำเล่นๆไม่ได้นะ ต้องตั้งใจศึกษา ต้องเชื่อและเคารพครูบาอาจารย์ "

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากศิษย์ผู้เคารพหลวงปู่ดี รูปหนึ่งเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับผู้หนึ่งผู้ใด

ขอบคุณครับ

 

ระวังงานเข้านะหลวงพี่ อิอิอิ...

 

วันนั้นผมก็คิดว่าน่าจะได้พบกับท่าน praram7 เหมือนกัน
แต่เผอิญผมรีบกลับเพราะช่วงนี้กำลังปรับปรุงบ้าน ก็เหลือน้องๆ
สามท่านที่ท่าน praram7 พบตอนเดินสวนกันมานั่นแหละครับ
ไว้โอกาสหน้าพบกันนะครับ

 

สวัสดีครับ

" ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ผู้ที่พูดความจริงมักทำให้ผู้อื่นไม่พอใจ "เป็นสมณะ มิอาจอาจพูดปดได้ เพราะ จะไปอาบัติศีล ข้อ มุสาวาทา เวระมะณี ...เฮ้อลำบาก

ขอบคุณครับ

 

ตามคติของผมนะครับหลวงพี่ การเป็นลูกศิษย์ที่ดีนอกจากไม่ทับครูบาอาจารย์แล้ว ครั้งจะไปกราบครูบาอาจารย์ ขอให้ท่านเมตตาสงเคาระห์ ควรจะมีอะไรติดไม้ติดมือไปบ้าง ธูป เทียน พวงมาลัยซักพวง ถือเป็นการบูชาคุณครับ ถ้าพอมีสตุ้งสตางค์ไม่เดือดร้อนก็ถวายท่าน เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป ผมถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับผม ไปครั้งใหนแล้วมันไม่มี มันรู้สึกว่าขาดครับ แม้แต่เอาปัจจัยใส่ซองถวายท่าน แต่ไม่มีดอกไม้ธูปเทียน ผมยังรู้สึกแปลกๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ดีครับ

นมัสการหลวงพี่ครับ

และสวัสดีครับพี่ๆ ทุกท่านนะครับ

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไปถึงกุฏิหลวงปู่่ประมาณ 09.30 น. เปิดประตูกุฏิ

มองไปที่หลวงปู่เคยนั่งไม่เห็นหลวงปู่ ตกใจนึกว่าหลวงปู่ติดกิจนิมนต์ที่อื่น นึก
ว่ามาเก้อซะแล้ว แต่พอมองไปที่เตียงเห็นหลวงปู่กำลังจำวัด พอจะปิดประตูเพื่อ
ให้หลวงปู่ท่านพักผ่อนได้เต็มที่ หลวงปู่ลืมตาแล้วบอกกับผมว่า มาแล้วเหรอ...
เมื่อคืนหลวงพ่อเืกือบแย่ เกือบตายแล้ว เช้านี้รู้สึกไม่ดี ไม่รู้จะตายเมื่อไร เก้าสิบ
กว่าแล้ว ตายในเมืองหรือในป่าก็ไม่รู้ ผมเลยบอกกับหลวงปู่ว่า นิมนต์อยู่ไปก่อน
ให้เกินร้อยปีค่อยไปนะหลวงปู่ เดี๋ยวผมพาไปหาหมอ หลวงปู่บอกไม่ต้อง ไม่เป็นไร
อย่าเอะอะไป ไม่เป็นไรแล้ว และวันนี้มากันเยอะมั๊ย ผมบอกว่า ไม่ทราบครับหลวงปู่
แต่ก็เห็นว่าจะมากันหลายคนอยู่เหมือนกัน หลวงปู่จำวัดก่อนแล้วกัน เดี๋ยวสิบโมงสิบห้า
ผมขึ้นมาหุงข้าวให้ครับ หลังจากนั้นผมก็ไปนั่งตรงโต๊ะหิน มีลูกศิษย์หลวงปู่จะมาถวาย
สังฆทาน ผมเลยบอกกับลูกศิษย์ว่า หลวงปู่กำลังจำวัด ท่านไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวสิบโมง
กว่าๆ ค่อยขึ้นไปถวายนะ ช่วงนี้เดินชมวัดไหว้พระก่อนครับ ลูกศิษย์หลายๆ ท่านน่ารักมาก
ครับ ไม่เอะอะโวยวาย หรือกล่าวหาว่าผมเป็นทศกัณฑ์ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเลยครับ
หลังจากนั้นท่านอาจารย์ยิ้ม มาพร้อมกับท่านหมูอมตะ ผมเลยบอกว่าอยู่ว่างๆ แกะลำใยสด
และลองกองใส่จานเตรียมถวายหลวงปู่ดีกว่า ส่วนกับข้าวเดี๋ยวค่อยไปเตรียมตอนใกล้เพล
พอได้เวลาผมก็ชวนลูกศิษย์ที่มาถวายสังฆทานให้ขึ้นไปกราบหลวงปู่ พอเปิดกุฏิเข้าไป
ก็เห็นหลวงปู่นั่งอยู่ที่เดิมที่เคยนั่งอยู่ก่อนแล้ว ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ผมก็ไปหุงข้าว หลวงปู่บอกว่าให้หุงเยอะๆ เพื่อคนที่มาด้วย จะได้ล้อมวงกินข้าวกัน พอได้เวลาเพลอาหารทุกอย่าง
พร้อม ก็เลือกเอาอาหารที่ผมและอาจารย์ยิ้มกับน้องหมูอมตะและน้องท่ามะกานำมาถวาย
เพราะพวกเราพอรู้ว่าอะไรที่หลวงปู่ฉันได้และอะไรบ้างที่ฉันไม่ได้ ส่วนของท่านอื่นๆ บางอย่างที่หลวงปู่พอฉันได้ก็แกะถวายท่าน ที่เหลือกะว่าจะนำไปถวายหลวงพี่องค์อื่นๆ แต่
ท่านก็ติดกิจนิมนต์กันหมด ก็เลยเก็บไว้ให้เด็กวัดและแม่บ้านที่วัดครับ พอหลวงปู่ฉันเสร็จพวกเรา อ้อ..ลืมบอกว่า ท่านกำนันและพรรคพวกก็มาสมทบด้วย พวกเราก็ล้อมวงกินข้าว
เป็นที่น่าแปลกใจมาก กับข้าวแม้กระทั่งปลาทอดหรือปลาเค็มทอดไม่ยุบเลย มีแต่ "ลองกอง" ที่ผมซื้อมากิโลกว่าๆ และแกะถวายหลวงปู่ยุบไปเกือบหมด มาถึงบางอ้อ...
ตอนหลังหลวงปู่บอกว่า "วันนี้ฉันเข้ากับลางสาดอร่อยมากๆ หลวงพ่อฉันได้ตั้งเยอะ" ผม
บอกกับหลวงปู่ว่า ลองกองครับ ไม่ใช่ลางสาด หลวงปู่บอกว่า นั่นแหละ อร่อยดี....ผมก็
เลยนึกคิดในใจว่า หลวงปู่นี่คนโบราณแท้ๆ บางทีก็เห็นฉันฝรั่งกับข้าว โดยเฉพาะเมล็ดฝรั่ง
ท่านชอบมาก เอาทิ้งให้เห็นไม่ได้เลย ท่านจะเก็บไว้ฉันกับข้าวสวยร้อนๆ แปลกดีครับ บางที
เรานึกไม่ออกว่าจะซื้อหรือทำอะไรไปถวายหลวงปู่ เตรียมซะดิบดี หลวงปู่ท่านฉันอะไรก็ไม่รู้
ง่ายแสนง่าย นึกไม่ถึงจริงๆ ดูเหมือนว่าหลวงปู่จะยุ่งยาก แต่ท่านไม่ยุ่งยากเรื่องอาหารการกินแต่ที่ท่านต้องเลือก เพราะผมเคยถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่รักษามะเร็งหายได้อย่างไร" หลวงปู่บอกว่า "อย่าไปให้อาหารมันก็เท่านั้น" ผมเลยกราบเรียนถามต่อไปว่า "แล้วอาหารมัน (ในที่นี้คือมะเร็ง) คืออะไรละครับ หลวงปู่" หลวงปู่ก็บอกว่า "อาหารที่เรากินเข้าไปแล้ว เรารู้สึกอร่อยนั่นแหละคืออาหารของมะเร็งทั้งนั้น" มิน่าละครับ หลวงปู่ถึงงดเนื้อสัตว์
ประเภท หมู่ ไก่ เนื้อ (ยกเว้นเนื้อเค็มทอด) ท่านฉันเฉพาะผัก ปลา และผลไม้ เสียเป็นส่วนใหญ่ ลูกศิษย์ท่านอื่นได้อ่านที่ผมเขียนและบอกไว้ จะได้เลือกซื้ออาหารไปถวายหลวงปู่ได้
ถูก ส่วนท่านอื่นๆ ที่ซื้อไปถวายแล้ว หลวงปู่ไม่ค่อยฉันก็อย่าได้น้อยใจนะครับ เพราะเราได้
ทำบุญไปแล้ว กุศลผลบุญเกิดแล้วครับ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า หลวงปู่ระวังไม่ให้มะเร็งกลับมาถามหาท่านได้อีกครับ ขอบพระคุณครับผ๊ม
​

 

ผมรู้สึกว่าหลวงปู่ท่านชอบพวงมาลัยดอกมะลิสดนะครับ
ผมไปถวายหลวงปู่เกือบทุกครั้ง หลวงปู่ท่านจะให้ศีลให้พร
ยาวเหยียดเลย และเหมือนกับเป็นการขอขมากับครูบาอาจารย์ด้วย
ท่านใดถวายพวงมาลัย ดอกไม้ให้หลวงปู่ ลองฟังดูนะครับ ถ้าความจำดีๆ
จดมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับผ๊ม

 

วันจันทร์ว่าจะโทรหาพี่ ถามถึงหลวงปู่ซะหน่อย แต่ก็ยุ่งเหลือหลายครับ
ช่วงนี้มีโปรเจกใหญ่๙วัน ตัวเป็นเกลียวเลยครับ มาทราบว่าหลวงปู่ไม่ค่อยดี
ทำเอาใจหายใจคว่ำไปเหมือนกันครับ

เรื่องอาหารถ้าสามารถจัดเตรียมได้ ก็อย่างพี่เด็กด่านฯว่าไว้ครับ จัดเตรียม
ไปอย่างที่ท่านสามารถฉันได้ เราก็จะนั้งมองท่านฉันอย่างปิติครับ

 

น่าจะจริงครับพี่ ผมยังเคยขอหลวงปู่ท่านมาเป็นถุงๆเลยครับ ฮ่าฮ่า

วันนั้นนาจะมีคนมากราบท่านเยอะ พวงมาลับเป็น๑๐พวงเลย ท่านบอกว่า

เอาไปผสมสร้างพระดี เมตตาดี เอาไปสิ มีหรือครับที่ผมจะไม่รับ ฮ่าๆๆ

 

สวัสดีครับ...ถ้ามีเวลาไปกราบหลวงปู่นะครับ

 

ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ

 

ขอออกความเห็นเรื่องการสร้างวัตถุมงคลหน่อยครับ
ผมเห็นว่าการสร้างนั้นอยู่ที่เจตนาครับ
หากเราสร้างโดยมีวัตถุประสงค์และไม่นำปัจจัยมาใช้ส่วนตัวหรือพวกพ้อง
เป็นการทำขึ้นมาเพื่อบูชาคุณครูบาอาจารย์หรือเพื่อกิจที่ท่านมุ่งหวังของครูบาอาจารย์
ผมว่าทำได้ครับ ไม่ต้องกลัวใครจะว่าอย่างไร ก็"ช่างเขา ช่างมัน"
(ยืมคำหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกาท่านมาใช้)
มันอยู่ที่เจตนาของเรา อย่างกรณีของหลวงปู่ดี
ส่วนตัวผมยังอยากสร้างวัตถุมงคลถวายท่านเลยครับ
โดยมอบให้ท่านทั้งหมด เพื่อใช้บำรุงธาตุขันธ์และกิจที่ท่านประสงค์จะทำ
ใจยังคิดๆว่าจะเริ่มที่ผ้ายันต์ก่อน เพื่อให้ท่านมอบให้คนที่ไปทำบุญกับท่าน
เพราะท่านมีแต่ให้อย่างเดียว แจกจริงๆครับ
หรือวางไว้ให้คนทำบุญกับท่าน โดยไม่ได้กำหนดราคาค่างวด ตามศรัทธา
แต่ต้องขอปรึกษาและขออนุญาติกับท่านก่อน ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
หรือใครมีไอเดียอย่างไรแล้วถ้าเป็นบุญ และทำเพื่อท่านจริงๆ รีบเร่งดำเนินการเถอะครับ
ก่อนหน้านี้ผมเคยปล่อยเวลาไป สุดท้ายก็ได้แต่เพียงคิด
หรือใครจะเอาไอเดียผมไปต่อยอดก็ได้นะครับ ไม่หวงห้าม
อ้ออีกย่างครับ วันก่อนผมเข้าไปล้างแก้วในห้องน้ำหลวงปู่
จำได้ว่า ไม่เห็นเครื่องทำน้ำอุ่น หากจำไม่ผิด
นี่ก็ใกล้หน้าหนาวแล้วกะว่า จะรวบรวมปัจจัยคณะญาติธรรมของผมจัดถวายหลวงปู่
เดี๋ยวต้องประสานงานดูก่อนว่าท่านมีหรือยัง
ไอเดียนี้ก็ไม่หวงนะครับ แต่ตรวจสอบกันนิดเดี๋ยวซ้ำกัน
อ่านที่ท่านเด็กด่านฯเล่าแล้ว น่าห่วงหลวงปู่จริงๆ
จะทำอะไรเร่งรีบทำเถอะครับ อย่าประมาททำบุญกับหลวงปู่ผมว่าเป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น
เราพบนาดีที่ควรทำแล้วครับ

 

ขออนุโมทนาครับผม...เรื่องสุขภาพหลวงปู่ พวกเราคำนึงถึงมากที่สุดครับ

ผมได้ปรึกษากับพี่เด็กด่านฯเกี่ยวกับสาเหตุของอาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่แล้วครับ
ซึ่งน่าจะเกิดจากการรับนิมนต์ของหลวงปู่ในเย็นวันเสาร์ และกลับมาพักผ่อนดึก
จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอครับ ต่อไปใครจะนิมนต์หลวงปู่ คงต้องคำนึงถึงเรื่องเวลาด้วย
ถ้านิมนต์งานเย็นและกลับค่ำถึงดึก น่าเป็นห่วงสุขภาพของหลวงปู่มากครับ

ท่านอายุ๙๐แล้ว ซึ่งก็ถือว่าชราภาพมากแล้วครับ

 

เห็นด้วยครับ

 

สวัสดีครับ

แหะๆ...เรื่องตรงนี้ ผมเป็นพระครับ ไม่สามารถเสนอความเห็นได้ครับ(เดี๋ยวงานจะเข้าอีก...มีดวงตาคอยจ้องจับผิดอยู่) เอาเป็นว่าการบูชาครูก็ให้เป็นตามวิธีการของแต่ละท่านที่ถนัดและเคยปฏิบัติกันมาละกันนะครับ

ขอบคุณครับ

 

นมัสการครับหลวงพี่...

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ดีครับ

ขอบคุณครับพี่ปื้ด กำลังหาโอกาสดีๆ ไปกราบหลวงปู่อยู่ครับ

พูดถึงรับกิจกนิมนต์ ที่ผมเห้นส่วนใหญ่พระอาวุโสหลายท่าน ท่านมีความเมตตาบวกเกรงใจสูงท่านเลยรับกิจครับ เราก็ไม่รู้จะทำไงก็ได้เเต่ปรนนิบัติท่านที่พอจะให้ท่านคลายเหนื่อยได้ละครับ

 

ทำอะไรไม่ได้จริงๆครับ ถ้าตั้งเงื่อนไข ก็กลายเป็นว่าเราเป็นทศกัณฐ์(กัน)

ทำได้แต่บำรุงธาตุขันธ์ท่านให้แข็งแรงเตรียมพร้อมรับมือกับกิจนิมนต์ครับ

แต่ถ้าเจ้าภาพคำนึงถึงความเหมาะสม ก็จะช่วยได้เยอะเลยครับ ขอบคุณครับ

 

เห็นด้วยกับพี่ปื้ด อย่างยิ่งครับ