ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ปลายักษ์มาเตือน
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องน่าพรั่นพรึงได้เกิดขึ้นแล้ว
    โดยคุณ jesdath

    [​IMG]
    ภาพแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ

    ---ขอนำบทความจากคุณ 1พี2เอ็ม ที่ส่งมาเป็นข้อความหลังไมค์ ซึ่งยังติดตามดาวนิบิรูและแผ่นดินไหวอยู่ตลอด

    ---ปัญหาที่ผมพบใหม่คือว่า ดาวนิบิรู หายตัวได้ ผมก็เพิ่งนึกจุดนี้ได้ว่า มีชาวต่างดาว คือมนุษย์ยักษ์ อาศัยอยู่บนดาวนิบิรู โดยที่พวกนี้มีเทคโนโลยี่ที่สามรถพรางดาวทั้งดวงได้ เช่นสร้างหลุมดำขนาดเล็กที่ดูกกลืนแสง หรือใช้ฉากใส ให้แสงทะลุผ่านไปแบบจอภาพนะครับ

    --คราวนี้มาดูการวิเคราะห์ไบเบิ้ล ส่วนใหญ่ผมคิดว่าจะดูจากอักขระต้นฉบับในภาษาฮีบรู คืออ่านขวาง อ่านทะแยงเอา เช่นเดียวกับที่เขาถอดรหัสเรื่องตึกเวิลดิ์เทรดครับ น่ามหัศจรรย์ทีเดียว

    --จากเว็ปต้นเค้ามีการถอดรหัส 21 ธค.2010 คือปีนี้ ดาวเทียมทุกดวงจะตกจากฟ้า เพราะมีสะเก็ดดาวเคราะห์น้อยวิ่งเฉียดหรือชน ซึ่งจะทำให้การสื่อสารข้ามประเทศล้มเหลาว โทรศัพท์ โทรทัศน์ อินเตอร์เนตล่มครับ คอยดูกันไปครับ และเรื่องแผ่นดินไหวในอเมริกาอีก

    --------------------------------------------------------------------------
    From : 1p2m [5 กุมภาพันธ์ 2553 01:58]

    ลองเข้าไปดูเรื่องวันสิ้นโลกตามแนวทางพระคัมภีร์ของคริสเตียนบ้าง เพิ่ง Update บล็อกใหม่ มีหลายเรื่อง

    From : 1p2m [4 กุมภาพันธ์ 2553 03:59]

    สวัสดีคุณ jesdath ว่าง ๆ ก็แวะมาที่บล็อกได้ พอดีจะทำเรื่องวันสิ้นโลกในแนวทางคริสเตียน มีเรื่องนิมิตร ฝัน และอื่น ๆ ที่อยากเผยแพร่ เช่น สงครามโลกครั้งที่ 3 แผนที่สงครามที่จะเกิดขึ้น เมืองที่ถูกโจมตี ภัยพิบัติต่าง ๆ จากคริสเตียนที่ได้เห็นนิมิตรมาสำแดง บอกกล่าว ว่าง ๆ เข้ามาคุยกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้

    ตามเรื่องดาวนิบิรุ ไปถึงไหนแล้ว มีข่าวคราวอะไรบ้างตอนนี้ ในส่วนคริสเตียนนั้นก็มีการเปิดเผยจากผู้เชื่อที่เห็นนิมิตร ในหลายสิบปีก่อนโดยที่เขาไ่ม่เคยรู้เรื่องดาวนิบิรุมาก่อน ว่าดาวนี้มันมีจริง ๆ และกำลังใกล้เข้ามาทำให้โลกหายนะแน่นอน

    ในพระคัมภีร์ส่วนของวิวรณ์ได้กล่าวถึง นิบิรุ ว่าเป็นดาวบอระเพ็ด ที่จะทำให้ท้องฟ้าของโลกติดไฟ !! ซึ่งมันอาจแพร่ก๊าซมีเธนที่ติดไฟได้เข้ามาในบรรยากาศโลก และนำเศษหินอุกกาบาตมาตกถล่มโลกด้วย ส่วนเรื่องวันเวลานั้นไม่อาจจะฟันธงไปว่าต้องเป็นปี 2012 ได้เป๊ะมันคลาดเคลื่อนได้ และที่ยืนยันได้ว่าดาวนี้จะไ่ม่ชนโลกอย่างที่เชื่อกัน จะเพียงแค่เ้ข้าใกล้แค่นั้น ว่าง ๆ จะนำมาเสนอภายหลัง ครับคุณ jesdath

    เรื่องปี 2012 นั้น จริง ๆ แล้วส่วนตัวไม่เชื่อและไม่คิดว่าคือวันสิ้นโลกแน่นอน แต่จะมีเหตุการณ์ใหญ่บางอย่างเกิดขึ้นและจะต้องเกิดก่อนหน้านั้นด้วย มีเรื่องหนึ่ง Bible Code ที่ำกำลังศึกษา ตามข่าวอยู่ เพราะอยู่ในวงการผู้พยากรณ์ในแวดวงคริสเตียนอยู่ ตอนแรกไม่เชื่อเรื่อง Bible Code เลยเพราะดูมันน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเล่นกลทางคณิตศาสตร์ แต่พอได้ศึกษาก็รู้ว่า บางโค้ดนั้นเืชื่อได้ว่าไม่ใช่เรื่องบังเิอิญ แต่ไม่ใช่ว่าทุก ๆ Code จะจริงและเชื่อได้หมด

    แผ่นดินไหวที่เฮติ ก็มีอยู่ใน Code ที่แกะจากหนังสือปฐมกาล (GENESIS) ตรงทุกอย่างดังนี้ (แปลจากภาษาเดิมแล้ว)

    BIBLE CODE: GEN:6:3:
    HAITI - MAJOR EARTHQUAKE-
    JANUARY 2010 - DESTRUCTION - DEVASTATION
    MASS DEATH

    From : 1p2m [25 กุมภาพันธ์ 2553 20:49]

    ส่วน Code อื่นในปี 2010 ที่น่าสนใจต้องตามดูว่าจะเกิดจริงหรือไม่เช่น

    BIBLE CODE: EX:39:10, DEUT:1:36:
    MARCH 01, 2010- COMET IMPACT- UTAH
    DAYTIME - DAYLIGHT- IN THE MORNING
    HOLOCAUST - CATASTROPHE- ANNIHILATION
    SOUTH - PATH - TRAJECTORY - SOUTH
    PREVENTION - PREVENTABLE - STOPPED
    ACTUAL DATE: 15 ADAR 5770 (HC).

    หรือในปีนี้จะมีอุกกาบาตตกใ่ส่โลก และ Code จากแหล่งอื่น ๆ ก็บอกว่า อุกกาบาตนี้จะใหญ่ขนาดตกใส่มหาสมุทรแอตแลนติก จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์อย่างในหนัง Deep Impact ได้ทีเดียว ต้องรอดูกัน

    ส่วนดาว NIBIRU นั้นก็มีบอกอยู่ใน BIBLE CODE ว่ามันมีอยู่จริง ๆ และกำลังใกล้เข้ามาและจะได้เห็น แม้ตอนนี้จะไม่เห็น BIBLE กล่าวว่า มันเป็นดาวที่หลบ ๆ ซ่อน ผลุบโผล่ ๆ ที่เรียกว่า HIDDEN STAR จึงไม่เห็นตลอดเวลาหรืออยู่ที่เดียวตลอด และยังมี Bible Code ที่กล่าวเตือนถึงการบุกรุกของมนุษย์ต่างดาวด้วย ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลมานำเสนออยู่

    ยังมีเรื่่องที่อยากนำเสนออีกเช่น นิมิตรที่พระเจ้าสำแดงให้เห็นว่าจะมีอุกกาบาตใหญ่ 3 ลูกตกที่อ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย ใหญ่ขนาดทำให้เกิดคลื่นยักษ์อย่างที่ดูในหนัง Deep Impact เลยนั่นแหละ และผู้เ็ห็นนิมิตรจากพระเจ้าได้เปิดเผยแผนที่อเมริกาที่จะถูกคลื่นถล่มจนเละด้วย

    รอติดตามน่ะ พวกนี้เป็นคำเตือนจาก Bible Code ในปี 2010

    BIBLE CODE: EX:39:10, DEUT:1:36:
    MARCH 01, 2010- COMET IMPACT- UTAH
    DAYTIME - DAYLIGHT- IN THE MORNING
    HOLOCAUST - CATASTROPHE- ANNIHILATION
    SOUTH - PATH - TRAJECTORY - SOUTH
    PREVENTION - PREVENTABLE - STOPPED
    ACTUAL DATE: 15 ADAR 5770 (HC).

    BIBLE CODE: 2010 (5770) ISRAEL - WAR - IRAN

    BIBLE CODE: 2010 (5770) - NIBIRU- COMET PLANET-
    SIGHTED- VISIBLE

    BIBLE CODE: 2010 (5770) - SWINE FLU- MUTATION - NYC -
    DALLAS - MARTIAL LAW - MASS DEATH - BANKS SEIZED -
    WALL STREET CRASH

    BIBLE CODE - 2010 (5770) OBAMA ASSASSINATED-
    HILLARY PRESIDENT - 2010 - HILLARY WELCOMES
    AND ACCEPTS ANTICHRIST 666

    BIBLE CODE 2010? (5770) MAY- EBOLA BIO-ATTACK-
    PHILADELPHIA - OBAMA - SPEECH- INFECTED - DEAD

    BIBLE CODE 2010 (5770)- ANTICHRIST- UFO ARRIVAL- JERUSALEM

    BIBLE CODE 2010 (5770)- SEPTEMBER- IRAN - MAJOR EARTHQUAKE

    BIBLE CODE 2010 (5770) - WALL STREET - COLLAPSE - CRASH
    UNDER OBAMA - SECOND YEAR - PANIC

    From : 1p2m [25 กุมภาพันธ์ 2553 23:04]

    แนะนำเวปของคริสเตียนคนหนึ่ง ที่เป็นอาจารย์และได้ถอด Bible Code มาเตือนเป็นระยะ ข้อมูลเยอะมาก http://www.satansrapture.com/ ไบเบิลโค้ดปีนี้ถูกหมดทุกรายละเอียดเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เฮติและ ชิลี

    BIBLE CODE: GEN:6:3: HAITI - JANUARY 2010-
    EARTHQUAKE - DESTRUCTION - MASS DEATH

    BIBLE CODE: GEN:1:14: CHILE- FEBRUARY 2010
    MAJOR EARTHQUAKE- DESTRUCTION -DEATH

    และที่สำคัญคำเตือนว่าประเทศที่จะโดนต่อไปคือ อเมริกา และ อิหร่าน ดังนี้

    Matthew 27:54-Phil. 2:19 ANDREAS (ELS=58201) คือรอยเลื่อนที่อยู่ผ่านแถบชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา หรือรัฐแคลิฟอเนียร์เป็นส่วนใหญ่ LA จะถล่ม

    -- EARTHQUAKE
    -- EIGHT
    -- TWO TEN (year 2010?)
    -- BE DIVIDED, HE CANNOT STAND, SAND, THRUST US OUT
    -- BE BROKEN, THE DEAD (the
    -- YEAR, FROM BENEATH

    BIBLE CODE 2010 (5770)- SEPTEMBER- IRAN - MAJOR EARTHQUAKE

    ครั้งต่อไป

    วันที่เกิด - วันที่ 3 กันยายน 2010 เิกิดเล็กประมาณ 7.4 ริกเตอร์ บริเวณเกิิด - ฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ
    วันที่เกิด - วันที่ 10-11 กันยายน 2010 บริเวณเกิิด - เกิดใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิค และทำให้เกิดคลื่นซึนามิยักษ์สูงหลายร้อยฟุตพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกา

    ถ้าผิดก็อย่าว่ากันเพราะไม่มีใครทำนายแผ่นดินไหวได้ ถึงบอกว่าทำนายได้ก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี ถ้าถูกตามนี้ก็ค่อยถามแ้ล้วกันว่า รู้ได้ยังไง เอาข้อมูลมาจากไหน SAVE กระทู้นี้เก็บไว้เป็นหลักฐานหน่อยก็ดี เพื่อรอดูผลว่าจะิเกิดหรือไม่ (วันตั้งกระทู้ วันที่ 13 มีนาคม 2010)

    เพิ่มเติมครับ เรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ที่แปซิฟิกครั้งนี้ ใหญ่หลวงมากขนาดทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงเป็นร้อยฟุตถล่มชายฝั่งตะวันอเมริกาเหนือ คือกวาดลอสแองเจลิส และเมืองใหญ่ชายฝั่งตะวันเรียบเลยทีเดียว ไม่ใช่ซึนามิแบบเด็ก ๆ ที่เคยเกิดที่เมืองไทยน่ะ

    ที่มาทำนายนี้ มาจากนิมิตร ไม่ใช่ Bible Code และที่สำคัญต่อมาคือ เขาทำนายว่า จะเกิดกลียุคหรือสงครามกลางเมืองในอเมริกาพร้อม ๆ กับการใช้ Martial Law หรือ พรก. ฉุกเฉิน + กฎอัยการศึก แบบบ้านเรานั่นแหละ และ รัสเซียกับจีนอาจจะถือโอกาสบุกอเมริกา เกิดสงครามโลกครั้งที่สามได้ในปีนี้ 2010 เรื่องสงครามนิวเคลียร์นี้ กำลังแปลนิมิตรที่เขาเห็นมาให้อ่าน อเมริกาจะถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ในเมืองใหญ่ ๆ คนตายเป็นล้าน ๆ

    และหลายฝ่ายทำนายคล้ายกันว่าปี 2012 จะมีผู้มาจากต่างแดนไกลหรือมนุษย์ต่างดาวมาเพื่อยุติสงครามโลกนิวเคลียร์นี้ และประกาศตัวเป็นจ้าวโลกควบคุมมนุษย์ทั้งหมด แต่ที่แน่ ๆ แผ่นดินไหวใหญ่ใน กันยายน ปีนี้ต้องจับตาดูอย่ากระพริบตา รับรองว่าช๊อกกันทั้งโลกแน่ ๆ เพราะอาจะทำให้โกลาหลวุ่นวายทั้งโลกเพราะมันจะทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่าหายนะ 2012 คงเกิดจริงแน่ ๆ !

    ------------------------------------------------------------------------------
    ไม่ค่อยมีรูปให้ดูนะครับ เพราะกำลังทำวงจรเครื่องเสียง กับตอบอีเมล์เมืองนอกครับ ไม่ค่อยมีเวลาเลย เว็ปส่วนตัวก็ต้องรีบทำครับ
    --ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ<!-- End main-->

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">Create Date : 05 มีนาคม 2553 </TD></TR><TR><TD width="50%">Last Update : 14 มีนาคม 2553 23:58:05 น.

    ที่มา Bloggang.com : jesdath
    </TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 59277.jpg
      59277.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.7 KB
      เปิดดู:
      1,889
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2010
  3. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    ทุกอย่าง ไม่ใช่ " เรื่อง บัง เอิญ"
    ชายผู้นั้น ถูก กำหนด ให้ ตกปลา ได้
    ปลาตัวนั้น ถูก ลิขิต ให้ ขึ้นมา เพื่อเตือน ดินแดน แถบนั้น

    ตอนนี้ มี อยู่ 3 ปัจจัย คือ คน ปลา และ กรรม
    หาก ชายผู้นั้น ได้ปลา แล้ว ปล่อยปลาเป็นอิสระ กรรมนั้น จะส่งผลให้ภัยพิบัตินั้น เบาบางลง เพราะไม่ได้เป็นปลาธรรมดา(ปัจจุบันนอกจาก ปลาไหล ปลาดุก ปลาช่อนแล้ว จะมีมนุษย์คนไหนทำบุญปล่อยปลาขนาดใหญ่เท่านี้ได้)
    หาก นำปลา ไปเป็นอาหาร กรรมนั้น ซ้ำรอยเดิม เหมือนที่ปรากฎ ในตำนานไว้ แน่นอน
    ขอแผ่ พลังเมตตา แด่ปลาตัวนั้น และท่านทั้งหลายที่เป็นเพื่อนร่วมทุก ขอให้มีความสุขพ้นภัยทุกท่านเถิด.
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** อาณาจักรโยนก ****

    โยนกนครได้ล่มลงกลายเป็นหนองน้ำ
    เพราะ ชาวเมืองต่างพากันกินปลาไหลเผือกทั้งเมือง
    http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%81


    *** ตำนานทะเลสาบเชียงแสน ****


    [​IMG]

    มีตำนานว่าเจ้าเมืองเชียงแสนได้เลี้ยงเป็ดและห่านไว้ในหนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง แต่มีปลาไหลเผือกตัวหนึ่งออกมากินเป็ดและห่านทุกวัน จนเจ้าเมืองทนไม่ได้ จึงขอฝ้ายบ้านละ 1 ปี๊บเพื่อมาพันหลังเป็ดและห่านทุกตัวให้เป็นสายเบ็ด เมื่อปลาไหลออกมากินเป็ดอีกจึงติดเบ็ด ชาวบ้านจึงช่วยกันจับขึ้นมาที่บ้านแม่ฮะ แล้วใส่เกวียนมายังบ้านแม่ลัวเพื่อทำเป็นอาหารแจกจ่ายไปทั่วเมือง

    วันนั้นเองลูกชายของพระอินทร์ได้มาเที่ยวบ้านแม่ม่ายคนหนึ่งและได้ถามว่าเมืองนี้มีกลิ่นอะไรหอมไปทั่ว แม่ม่ายจึงเล่าให้ฟัง ลูกชายพระอินทร์จึงถามแม่ม่ายว่าได้กินปลาไหลเผือกกับเขาด้วยไหม แม่ม่ายตอบว่าชาวเมืองไม่ได้แบ่งให้ ลูกชายพระอินทร์บอกว่าดีแล้วและสั่งว่าคืนนี้ถ้าได้ยินเสียงอะไรห้ามออกนอกเรือนเด็ดขาด

    พอตกกลางคืนก็มีเสียงดังกึกก้อง แม่ม่ายนึกถึงคำเตือนที่ได้ยินมา จึงปิดประตูบ้านเงียบอยู่ พอตอนเช้าก็ไม่เห็นเมืองเสียแล้ว มีแต่น้ำเวิ้งว้างไปทั่ว กลายเป็นทะเลสาบใหญ่โต เหลือแต่บ้านที่แม่ม่ายอยู่ซึ่งเหมือนเป็นเกาะ จึงเรียกว่า “เกาะแม่ม่าย”
    http://www.tambonyonok.com/index.php?name=noanimal


    รายนามกษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรโยนกไชยบุรีศรีช้างแสน
    (จากพงศาวดารโยนก ของพระยาประชากิจกรจักร)

    1. สิงหนกุมาร 2. คันธกุมาร 3. อชุตราช
    4. มังรายนราช 5. พระองค์เชือง 6. พระองค์ชืน
    7. พระองค์ดำ 8. พระองค์เกิง 9. พระองค์ชาติ
    10. พระองค์เวา 11. พระองค์แวน 12. พระองค์แก้ว
    13. พระองค์เงิน 14. พระองค์ตน 15. พระองค์งาม
    16. พระองค์ลือ 17. พระองค์รวย 18. พระองค์เชิง
    19. พระองค์กัง 20. พระองค์เกา 21. พระองค์พิง
    22. พระองค์ศรี 23. พระองค์สม 24. พระองค์สวรรย์ (สวน)
    25. พระองค์แพง 26. พระองค์พวน 27. พระองค์จักทร์
    28. พระองค์ฟู 29. พระองค์ผัน 30. พระองค์วัง
    31. พระมังสิงห์ 32. พระมังแสน 33. พระมังสม
    34. พระองค์ทิพ 35. พระองค์กอง 36. พระองค์กม (กลม)
    37. พระองค์ชาย (จาย) 38. พระองค์ชิน (จิน) 39. พระองค์ชม (จม)
    40. พระองค์กัง (ปัง) 41. พระองค์กิง (พึง) 42. พระองค์เกียง (เปียง)
    43. พระองค์พัง (พังคราช) 44. ทุกชิต 45. มหาวัน
    46. มหาไชยชนะ

    อาณาจักรโยนก ได้มีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกันมาจนสมัยพระองค์มหาไชยชนะ
    อาณาจักรจึงได้ถึงกาลล่มจม ดังปรากฏในตำนานสิงหนวัติที่กล่าวว่า
    ได้มีชาวเมืองไปได้ปลาไหลเผือก (บางตำนานก็ว่าปลา

    มหากษัตริย์ พระองค์จึงให้ตัดเป็นท่อนแจกกันกินทั่วทั้งเวียง
    และในคืนนั้นก็ได้เกิดมีเหตุเสียงดังสนั่นเหมือนกับแผ่นดินไหวถึงสามครั้ง
    จนเป็นเหตุให้เมืองโยนกถล่มกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่
    แต่ก็เป็นน่าอัศจรรย์ที่ยังคงเหลือบ้านของหญิงหม้ายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับส่วนแบ่งเนื้อปลานั้นจากชาวเมืองไปบริโภค
    ในปัจจุบันหนองน้ำดังกล่าวจึงได้มีผู้สันนิษฐานไปต่าง ๆ กัน บ้างก็สันนิษฐานว่าคือทะเลสาบเชียงแสน (หนองบงกาย) ในเขตอำเภอเชียงแสน
    บ้างก็ว่าคือเวียงหนองล่ม (เวียงหนองหรือเมืองหนองก็ว่า) ในเขตอำเภอแม่จัน เนื่องจากมีชื่อสถานที่ต่าง ๆ ได้ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้น เช่น บ้านแม่ลาก ก็หมายถึงตอนที่ชาวเมืองได้ช่วยกันลากปลาไหลตัวนั้น
    บ้านแม่ลัว (คงเลือนมาจากคำว่าคัว) ก็หมายถึงตอนที่ได้ชำแหละปลาไหลนั้นเพื่อแจกจ่ายกัน
    แม่น้ำกก หมายถึงตัดเป็นชิ้น ๆ ซึ่งชื่อดังกล่าวนี้ปัจจุบันมีอยู่ในท้องที่ของอำเภอท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน
    ละยังมีผู้สันนิษฐานว่าคือหนองหลวง ในเขตอำเภอเวียงชัยอีกด้วย

    หลังจากที่อาณาจักรโยนกได้ล่มสลายพร้อมด้วยราชวงศ์ดังกล่าวแล้ว
    ชาวเมือง จึงได้ปรึกษากันพร้อมใจกันยกให้ขุนลัง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านขึ้นมาเป็นผู้ปกครองแทนราชวงศ์
    และได้มีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ชื่อ เวียงปรึกษา (เวียงเปิ๊กษา)
    ซึ่งเมืองใหม่นี้ ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของประชาธิปไตย เนื่องจากผู้นำได้มาจากการประชุมปรึกษาหารือกันคล้ายระบบการเลือกตั้ง
    จึงเป็นที่มาของชื่อเวียงปรึกษา เวียงปรึกษาได้มีผู้ปกครองสืบต่อกันมา 15 คน เป็นระยะเวลา 93 ปี
    http://st.mengrai.ac.th/users/doremon/31_CHOTRAWEE/pingpong/yonok.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • map.jpg
      map.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.5 KB
      เปิดดู:
      1,512
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2010
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับพระเชียงใหม่แปลงกายงัดตู้เงินบริจาค</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เชียงใหม่ 9 มิ.ย. - ตำรวจเชียงใหม่จับกุมพระลูกวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ กลางวันเป็นไกด์ให้นักท่องเที่ยว แต่กลางคืนจะแต่งเป็นไอ้แมงมุมโจรกรรมเงินตู้บริจาค

    พระจอมใจ อาวิโย อายุ 27 ปี พระลูกวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่

    ถูกจับกุมภายในกุฏิพร้อมของกลาง อุปกรณ์งัดแงะ เสื้อ กางเกง หมวกไอ้โม่ง และเงินเกือบ 30,000 บาท ตำรวจจึงคุมตัวไปลาสิกขา

    เบื้องต้น พระจอมใจ หรือนายจอมใจรับสารภาพว่า

    ช่วงกลางวันจะเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวต่างชาติเดินชมความสวยงามของวัด แต่ช่วงค่ำจะสวมเสื้อผ้าใส่หมวกไอ้โม่งขึ้นไปซ่อนตัวบนเพดานใต้หลังคาพระวิหาร เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดพระวิหาร จะเป็นไอ้แมงมุมปีนลงมาด้านล่างงัดตู้บริจาครอบพระวิหาร และองค์พระบรมธาตุ. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ค้างคาว หมา แมว ในร่างเดียวกัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวานนี้ (7มิ.ย.)ชาวบ้านวังสามหาบ ต.เทพคีรี จ.หนองบัวลำภู ต้องแตกตื่นกับสัตว์ประหลาด หลังจากที่เจ้าของบ้านพบว่านอนซมอยู่ใต้ตู้กับข้าวในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นไม้ชั้นเดียว ก่อนที่สัตว์ประหลาดดังกล่าวจะตายลง โดยนางแสงเดือน แสนพุ อายุ 49 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า สัตว์ประหลาดมีรูปร่างคล้ายค้างคาว มีเขี้ยวแหลมเล็ก ใบหูกาง มี 4 ขาคล้ายสุนัข มีหาง 1 หาง ไม่มีขน ผิวหนังคล้ายคน คาดว่าเป็นสัตว์เพศเมีย ซึ่งชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างแห่มาดูและขอเลขเด็ดกันไม่ขาดสาย
    ด้านพี่สาวของเจ้าของบ้านเล่าว่า ตนพบสัตว์ประหลาดดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคืนก่อนหน้านั้นมีฝนตก ฟ้าคะนอง มีฟ้าผ่าบ้านใกล้เคียง เกิดเสียงดังสนั่น จากนั้นตนได้ยินเสียงเหมือนมีของตกใส่หลังคาบ้าน แต่ไม่มีใครออกไปดู จนรุ่งเช้าก็พบกับสัตว์ดังกล่าว ก่อนจะเรียกเพื่อนบ้านมาดู พร้อมกับทำการบุญอุทิศส่วนกุศลให้
    นายไวพจน์ หิมารัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภูกล่าวว่า จากที่เห็นภาพ ตนไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไร เพราะมีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิดอยู่ในตัวเดียวกัน
    จากการเปรียบเทียบสัตว์ดังกล่าว หลายคนเชื่อว่าเป็นแมวสายพันธุ์สฟริงค์ หรือแมวไม่มีขน ซึ่งตัวแรกพบที่ประเทศแคนาดา ใน พ.ศ. 2509 และต่อมาจึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกามาผสม แต่สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่ก็ยังไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้เนื่องจากเชื่อกันว่า การที่ไม่มีขนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อแมวได้ และไม่ได้เป็นลักษณะเฉพาะคล้ายกับการกลายพันธุ์ นอกจากนี้การไม่มีขนอาจทำให้แมวอ่อนแอเปราะบางต่อความหนาวเย็นและอากาศร้อน
    [​IMG]



    [​IMG]
    แมวสายพันธุ์สฟริงค์


    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สธ.ร่วม สปสช. เตรียมสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลรวม 3 สายพันธุ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. - กรมควบคุมโรค เตรียมสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่รวม 3 สายพันธุ์ ทั้งไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A H3N2 และไข้หวัดใหญ่ ชนิด B จำนวน 2.1 ล้านโด๊ส มูลค่า 500 ล้านบาท เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงฟรีในเดือน ก.ค.นี้

    นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา และในฐานะ ประธานที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับชาติกล่าวว่า
    ในวันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้มีการวางแนวทางการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่จะมาบรรจุรวมอยู่ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลโดยมีการปรับเพิ่มกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนโดยความสมัครใจเป็นกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไป ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มเสี่ยงตามหลักเกณฑ์เดิมที่จะได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้งกลุ่มคนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้พิการทางสมอง บุคลากรทางการแพทย์

    นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

    ได้มีมติเตรียมสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจากต่างประเทศ จำนวน 2.1 ล้านโด๊ส มูลค่า 500 ล้านบาท เพื่อฉีดให้กับประชาชนด้วยความสมัครใจโดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวเป็นการบรรจุรวมไข้หวัด 3 สายพันธุ์ ได้แก่ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ไข้หวัดใหญ่ ชนิด A H3N2 และ ไข้หวัดใหญ่ ชนิด B โดยการฉีดวัคซีนนั้นจะเน้นเรื่องความสมัครใจและให้บริการฟรีพร้อมคำแนะนำก่อนฉีด ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีประชาชนมาขอรับบริการส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นยืนยันมีเช่นเดียวกับต่างประเทศและขณะนี้เป็นวัคซีนรวมเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลดังนั้นไม่ต้องกังวล

    นพ.โอภาส กล่าวว่า การนำเข้าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลนี้จะมีการสั่งซื้อ และนำเข้าประเทศในกลางเดือนมิถุนายน

    พร้อมฉีดให้กับประชาชน ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ส่วนราคาวัคซีนนั้นตกเข็มละ 300 บาทแต่ในโรงพยาบาลเอกชนนิยมจำหน่ายตั้งแต่เข็มละ 500-900 บาท ส่วนผลการรณรงค์การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เดิมที่กำหนดให้ฉีดให้กลุ่มเสี่ยงแล้วเสร็จ เดือนพฤษภาคม ขณะนี้เหลือวัคซีนอยู่ที่ส่วนกลางเพียง 100,000 โด๊ส เท่านั้น และเชื่อว่าประชาชนจะไม่เกิดความสับสนการรับวัคซีนของใหม่และเก่าและสำหรับประชาชนที่เคยรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 มาแล้วเกินระยะเวลา 1 เดือน ก็สามารถขอรับวัคซีนประจำฤดูกาลใหม่ได้และถือว่าเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มซ้ำ.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=3 width=600 align=center border=1><TBODY><TR bgColor=#cccc66><TD noWrap align=middle width=70>วันที่</TD><TD noWrap align=middle width=60>เวลา</TD><TD noWrap align=middle>ขนาด</TD><TD noWrap align=middle width=50>lat</TD><TD noWrap align=middle width=50>long</TD><TD noWrap align=middle width=120>บริเวณที่เกิด</TD><TD noWrap align=middle>ข้อมูลอื่นๆ</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>2553-06-08</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>19:41:56</TD><TD vAlign=top align=middle>
    3.9
    </TD><TD vAlign=top align=middle>20.210</TD><TD vAlign=top align=middle>98.330</TD><TD vAlign=top>ประเทศพม่า</TD><TD vAlign=top>- ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 77 กม.</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>2553-06-08</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>15:29:03</TD><TD vAlign=top align=middle>
    3.5
    </TD><TD vAlign=top align=middle>19.880</TD><TD vAlign=top align=middle>98.480</TD><TD vAlign=top>ประเทศพม่า </TD><TD vAlign=top>- ทางทิศเหนือของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 38 ก.ม.</TD></TR></TBODY></TABLE>



    ที่มา แผ่นดินไหวในประเทศ และใกล้เคียง
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    [​IMG]
    ค้างคาว หมา แมว ในร่างเดียวกัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวานนี้ (7มิ.ย.)ชาวบ้านวังสามหาบ ต.เทพคีรี จ.หนองบัวลำภู ต้องแตกตื่นกับสัตว์ประหลาด หลังจากที่เจ้าของบ้านพบว่านอนซมอยู่ใต้ตู้กับข้าวในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็น ไม้ชั้นเดียว ก่อนที่สัตว์ประหลาดดังกล่าวจะตายลง โดยนางแสงเดือน แสนพุ อายุ 49 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า สัตว์ประหลาดมีรูปร่างคล้ายค้างคาว มีเขี้ยวแหลมเล็ก ใบหูกาง มี 4 ขาคล้ายสุนัข มีหาง 1 หาง ไม่มีขน ผิวหนังคล้ายคน คาดว่าเป็นสัตว์เพศเมีย ซึ่งชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างแห่มาดูและขอเลขเด็ดกันไม่ขาดสาย
    ด้านพี่สาวของเจ้าของบ้านเล่าว่า ตนพบสัตว์ประหลาดดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคืนก่อนหน้านั้นมีฝนตก ฟ้าคะนอง มีฟ้าผ่าบ้านใกล้เคียง เกิดเสียงดังสนั่น จากนั้นตนได้ยินเสียงเหมือนมีของตกใส่หลังคาบ้าน แต่ไม่มีใครออกไปดู จนรุ่งเช้าก็พบกับสัตว์ดังกล่าว ก่อนจะเรียกเพื่อนบ้านมาดู พร้อมกับทำการบุญอุทิศส่วนกุศลให้
    นายไวพจน์ หิมารัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภูกล่าวว่า จากที่เห็นภาพ ตนไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไร เพราะมีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิดอยู่ในตัวเดียวกัน
    จากการเปรียบเทียบสัตว์ดังกล่าว หลายคนเชื่อว่าเป็นแมวสายพันธุ์สฟริงค์ หรือแมวไม่มีขน ซึ่งตัวแรกพบที่ประเทศแคนาดา ใน พ.ศ. 2509 และต่อมาจึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกามาผสม แต่สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่ก็ยังไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้เนื่องจากเชื่อกัน ว่า การที่ไม่มีขนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อแมวได้ และไม่ได้เป็นลักษณะเฉพาะคล้ายกับการกลายพันธุ์ นอกจากนี้การไม่มีขนอาจทำให้แมวอ่อนแอเปราะบางต่อความหนาวเย็นและอากาศร้อน


    -----------------------------------------------------------------

    สันนิฐาน ว่าเป็น "เวตาล" ครับ


    เริ่มมีสัตว์ ประหลาด ปลาประหลาด ปรากฏให้พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆครับ แต่ช่วงนี้ที่ปรากฏออกไปในทาง ไม่ค่อยโสภาครับ

    ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็ จัดอยู่ในสัญญานเตือนก่อนการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ เช่นกัน

    สัตว์ประหลาดเริ่มปรากฏให้พบมากขึ้น

    เกิดการมิวเตชั่น การเกิดผ่าเหล่ามากขึ้น

    การเพิ่มของสัตว์มีพิษ สัตว์ที่น่าเกลียด สัตว์ที่ทำลายล้างแหล่งอาหาร อย่างมหาศาล


    ต่อไป เมื่อมหาสมุทร เกิดภูเขาไฟระเบิดหรือประทุ จะปรากฏสัตว์ทะเลขนาดมโหฬาร ที่ซ่อนตัวใต้ทะเลลึก หนีขึ้นมาปรากฏให้เห็น

    ถึงเวลานั้น เป็นสัญญาน ว่า มหาสมุทร เกิดอันตรายอย่างยิ่ง

    ซึ่งหากเราลองจัดลำดับความรุนแรง และอันตรายที่มีต่อมหาสมุทร ทั้ง 7 อันเป็นแหล่งอาหาร อู่ชีวิต ของมวลสิ่งมีชีวิตที่มากมายมหาศาลยิ่งกว่า สิ่งมีชีวิตบนพื้นแผ่นดิน มากมายนัก


    ตอนนี้ หากมี 5 สเกล

    อันตรายที่เกิดปะการังฟอกขาวลุกลามอย่างรวดเร็วขณะนี้ อยู่ที่ระดับ 3

    หากปลาตายมากขึ้นจนเกิดสาหร่ายแดง เป็นทะเลสีเลือด ก็อันตราย ระดับ 4


    หากน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือน ซากศพ ปราศจากชีวิต นั้นคือ ระดับ 5

    ถึงเวลานั้น ความอดอยากยากเข็ญเกิดขึ้นแน่นอน ด้วยปัจจัยเร่งดังต่อไปนี้

    -ภูเขาไฟใต้ทะเล ประทุและระเบิด ทั่วโลก ซึ่งทำให้เกิดผล อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

    และมีปัจจัย ที่นักวิทยาศาสตร์และนักสมุทรศาสตร์ ยังไม่ได้คาดคำนวณคือ

    ผลที่กระทบต่อ กระแสน้ำเย็น กระแสน้ำอุ่น วงจรชีวิต วงจรของลม ฝน พายุ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย

    -การที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ละลายเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ 10ปี ซึ่งภายในปีสองปีนี้ ละลายหมดลงไปแน่นอน คิดง่ายๆว่า

    ที่คำนวณของนักวิทยาศาสตร์ ใช้ปัจจัยการเพิ่มขึ้นของอุณหภููมิอากาศ ที่เพิ่ม ขึ้น 2- 3 องศา

    เหมือเอาน้ำแข็งก้อนใหญ่ตากแดด

    แต่สถานการณ์จริง ขณะนี้ ใต้ก้อนน้ำแข็ง มีเพลิงลาวา อุณหภููมิกว่า 1,000 องศา คอยละลายด้วยอัตตราเร่งที่สูงกว่ามหาสาร

    น้ำแข็งที่ถูกเตาแก๊ซแรงสูงต้มอยู่กลางแดด จะละลายเร็วแค่ไหน

    -น้ำมันรั่ว ในแปซิฟิค วันละ 1 ล้านบาเรล ต่อวัน แผ่กระจายฟิลม์น้ำมันปกคลุมผิวมหาสมุทรไม่ให้มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ผิวน้ำ เกิดความเป็นพิษต่อสัตว์ทะเล

    สถานะการณ์ปัจจุบัน ส่งผลให้ ราคาอาหารทะเลที่อเมริกา และย่านแปซิฟิคราคาสูงขึ้นอย่างมาก ชาวประมง จับสัตว์ทะเลได้น้อยลง

    ที่สำคัญก็คือ มหาสมุทรกำลังจะตาย พร้อมๆกับชีวิตของสัตว์ทะเลอีกมากมายครับ

    ดังนั้น อย่าประมาท เฝ้าติดตามสถานการณ์ เอาไว้ หากมหาสมุทรเป็นทะเลแห่งความตาย นี่เป็นภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ ต้องจดจำและเรียนรู้ที่จะไม่นำ

    "ทองคำดำ" หรือ "ทองของซาตาน" ขึ้นมาใช้อีก

    เวตาลที่พบเป็นการประกาศการมาของ .............

    ก่อนการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ครับ
     
  8. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    น่ากลัวจังโนะ
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจำนวนมากยังตื่นเต้น แห่ไปยลโฉมซากศพ "สัตว์ประหลาด" ตัวเท่าแมว หัวคล้ายค้างคาว แต่ไม่มีปีก มีเท้าคล้ายสุนัข มีหาง ที่ บ้านพักของนางแสงเดือน แสนพุ ที่บ้านวังสามหาบ ต.บ้านเทพคีรี อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู โดยชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็นสัตว์ชนิดนี้มาก่อน นางแสงเดือนยืนยันว่า จะเก็บซากสัตว์ประหลาดตัวนี้เอาไว้ในบ้าน โดยประแป้งจัดหิ้งเพื่อกราบไหว้จนกว่าจะเน่า

    อย่างไรก็ตาม นายเจษฎา แสนประสิทธิ์ ปศุสัตว์อำเภอนาวัง เดินทางไปพิสูจน์ บอกว่าน่าจะเป็นแมวพันธุ์สฟิงซ์ ซึ่ง เป็นแมวพันธุ์ที่ไม่มีขน และไม่ใช่แมวท้องถิ่นของไทย เพียงแต่ยังไม่ทราบว่ามาพบมันอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้อย่างไร เพราะมีราคาแพงตัวละ 15,000-25,000 บาท พวกเศรษฐีหรือคนมีเงินนิยมเลี้ยง แต่ในหมู่บ้านคงไม่มีใครซื้อมาเลี้ยงแน่นอน คาดว่าเจ้าของอาจเป็นชาวต่างชาติ หรือหญิงไทยที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติ ซื้อมาเลี้ยง และหนีออกจากบ้าน แต่มาเจอพายุฝนตกหนัก ขณะที่ปีนหลังคาบ้านและตกลงมาตาย ไม่แปลกใจที่ชาวบ้านจะตื่นเต้น เพราะไม่มีใครเคยเห็นแมวสายพันธุ์นี้มาก่อน

    แมวสายพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx) บางครั้งก็เรียกว่า "แมวไม่มีขน" แต่ ความจริงแล้วตัวมันมีขนปกคลุมอยู่บาง ๆ โดยจะเห็นได้ชัดเจนบริเวณปลายลำตัวทั้ง 2 ข้างแมวชนิดนี้ปรากฏตัวที่แคนาดาใน พ.ศ. 2509 ต่อมาได้กลายเป็นแมวอีกพันธุ์หนึ่ง แต่สมาคมผู้เลี้ยงแมวยังไม่ยอมรับ ที่สำคัญตัว "อีที" ในภาพยนตร์ คาดว่าได้แรงบันดาลใจมาจากรูปร่างหน้าตาของแมวสายพันธุ์นี้และใคร ๆ ก็เรียกว่า "เจ้าเหมียวอีที

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. rin5297

    rin5297 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +569
    ฝันว่าเครื่องบินรบพม่าบินมาทิ้งระเบิด หรือว่าจะเป็นจริง
     
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    แพทย์แผนพุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค [หมอที่ดีที่สุด คือ ตัวคุณเอง]

    วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

    แพทย์แผน พุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค

    ศูนย์บาท รักษาทุกโรค "หมอเขียว" ใจเพชร กล้าจน
    ณ สวนป่านาบุญ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

    [​IMG]การที่ ชายคนหนึ่งเปลี่ยนชื่อตนเองจาก "สำเริง มีทรัพย์" เป็น "ใจเพชร กล้าจน" ในทางหนึ่งเป็นความพยายามบอกกับทุกคนถึงสิ่งที่เขายึดเหนี่ยว

    จุด หมายชีวิตแท้จริงที่ชายผู้นี้ยึดถือ คือ ความพยายามช่วยเหลือให้เพื่อนมนุษย์ได้หายจากโรคภัย โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท... ด้วยการรักษาแบบ "แพทย์วิถีพุทธ"

    "หมอเขียว" หรือ ใจเพชร กล้าจน จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เขาพยายามรักษาผู้ป่วยตามวิชาแพทย์ที่ได้ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่ แต่พอทำไปได้ชั่วระยะ คนเป็นหมอก็ต้องผจญกับคำถามในใจที่ไหนคำตอบกับตัวเองไม่ได้เสียที

    "ทำไมทุกคนยังป่วย ทั้งที่เครื่องมือแพทย์ทันสมัยขึ้น ทำไมรักษาไปแล้วแพงขึ้นทุกวัน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกลับป่วยแซงหน้าชาวบ้านอีก"

    ยิ่งคิด ก็ยิ่งงง เขาว่า ไม่เพียงเท่านั้น ตัวหมอเองที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดและปวดข้อ ใช้ยาที่ดีที่สุดของโรงยาบาลรักษาแล้วแต่ก็ไม่หายความสงสัยนี้ทำให้หันกลับ มาศึกษาแพทย์ ทางเลือกและนำมาใช้ร่วมกับแผนปัจจุบันผลปรากฏว่าคนไข้หายเพิ่มขึ้นเกือบเท่า ตัว แต่นับแล้วก็ยังได้แค่ 40 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ทั้งหมด ซึ่งทำให้หมอเขียวยังคาใจต่ออีกว่า ทำไมอีก 60 เปอร์เซ็นต์ รักษาไม่ได้ คนที่รักษาได้ก็กลับมาเป็นใหม่ หรือการแพทย์ที่ทำอยู่จะมาผิดทาง หมอเขียวเครียดกับเรื่องนี้มากจนต้องไปปฏิบัติธรรม แต่พอได้อ่านพระไตรปิฎกก็พบว่า คำตอบทั้งหมดอยู่ในนี้แล้ว

    หนึ่ง ในคำสอนที่นำมาพิจารณา คือ เรื่องสังคีติสูตร หมอเขียวคิดไปถึงเรื่องสมดุลของร่างกาย เรื่องปรับร้อน-ปรับเย็น ซึ่งมีในศาสตร์แพทย์แผนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ยังใช้ไม่ได้ผลดี เพราะมัวแต่ปฏิบัติตามตำราซึ่งเขียนในสมัยโบราณ ในขณะที่โลกปัจจุบันร้อนขึ้น การปรับร้อน-เย็นจึงต้องเปลี่ยนตามโลก เพื่อให้เกิดสมดุลที่แท้จริง

    หมอเขียวลองรักษาโดยวิเคราะห์ ธาตุร้อน - เย็น ด้วยตนเอง ให้ยาฤทธิ์เย็นมากขึ้นตามโลกที่ร้อนขึ้น เริ่มจากรักษาแม่ที่ปวดมดลูกให้หายได้ ทั้งที่แพทย์ปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ จากนั้นก็ใช้แนวทางดังกล่าวไปรักษาโรคมะเร็ง โรคไต โรคความดัน และบันทึกการรักษาทุกครั้ง ผลปรากฏว่าคนไข้ร้อยละ 90 อาการทุเลา รู้สึกสบายขึ้น เมื่อค้นพบว่าการรักษาที่ได้ผลจริงนั้น พระพุทธเจ้าได้สอนไว้หมดแล้ว หมอจึงประมวลความรู้ทั้งหมด และเรียกชื่อว่า "การแพทย์วิถีพุทธ"

    ใจความของการแพทย์แผนนี้ คือ ใช้คำสอนของพระพุทธเจ่าเป็นแก่นแกน นำจุดดีของการแพทย์ต่าง ๆ มารวมกัน โดยมีธรรมะเป็นตัวเชื่อมประสานบูรณาการ โดยมีหลักการ 3 ข้อ คือ ใช้สิ่งที่ประหยัดและเรียบง่าย มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา เพราะแก้ที่ต้นเหตุ และแต่ละคนทำเองได้ ไม่ต้องให้หมอรักษา แต่รักษาตัวเอง

    ยา 9 เม็ดที่หมอเขียวใช้รักษาก็ไม่มีราคาค่างวด เพราะเป็นหลักปฏิบัติ 9 ประการที่ทำได้เอง ได้แก่ รับประทานสมุนไพรปรับสมดุล แช่มือเท้าในน้ำสมุนไพร รับประทานอาหารปรับสมดุล ใช้ธรรมะคลายเครียด ออกกำลังกายกดจุดลมปราณรู้จักเพียรและพักให้พอดี ทำกัวซา ดีทอกซ์ และพอก ทา หยอด ประคบ อบ อาบ ด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน เมื่อไม่ต้องเสียค่ายาแพง ๆ หรือเสียค่าหมอ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "ศูนย์บาท รักษาทุกโรค"

    นอก จากเหนือจากมิติทางสุขภาพ หมอเขียวยังให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตแบบพุทธอย่างครบวงจร ดังที่ได้สละพื้นที่กว่า 40 ไร่ เพื่อตั้ง "สวนป่านาบุญ" ซึ่งเป็นศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ใช้ปลูกข้าว ผัก พืชสมุนไพร เพื่อเตรียมความพร้อมในการพึ่งพาตนเองก่อนที่ต่อมาจะเปิดเป็นศูนย์สุขภาพให้ ผู้คนเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้เรื่องการใช้ชีวิตตามแนววิถีพุทธอีกด้วย

    ความตั้งใจทั้งหมดของหมอเขียว ไม่เพียงทำให้หลาย ๆ คนได้เห็นว่า ชีวิตที่ดี ไม่มีโรคภัย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากๆ ไปแลกหาจากการแพทย์สมัยใหม่ หากแต่ยังมีนัยไปถึงวิถีพุทธ วิถีไทย ในแบบที่เราเป็นนั่นเอง ที่เพียงพอแล้วสำหรับความสุข



    คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 1 ( วันที่ 01 มิถุนายน 2553 )


    <object width="480" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/hKWqyYOm1rA&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

    คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 2 (วัน ที่ 01 มิถุนายน 2553

    <object width="480" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/v_Ejy8vVzIo&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>



    คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 3 (วันที่ 01 มิถุนายน 2553)


    <object width="480" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/AD7Ua9NFwbs&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>


    คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 4 (วันที่ 01 มิถุนายน 2553)

    <object width="480" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/I5qIVE7evQA&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>


    อาหาร อากาศ อารมณ์ บ่อเกิดแห่งโรคภัยไข้เจ็บ หากเรียนรู้ที่จะปรับให้เป็นประัโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย นั่นหมาย ถึงว่าสุขภาพร่างกายของเราย่อมแข็งแรงและต่อสู้เอาชนะโรคภัยไข้เจ็บได้เอง

    " อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา
    อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ. "

    ตนแลเป็นที่พึ่งของตน, บุคคลอื่นใครเล่า พึงเป็นที่พึ่งได้ เพราะบุคคล มีตนฝึกฝน ดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่ง อันบุคคลได้โดยยาก.

    ที่มา: My Inspiration For Life: แพทย์แผนพุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    [​IMG]ตนแลเป็นที่พึ่งของตน, บุคคลอื่นใครเล่า พึงเป็นที่พึ่งได้ เพราะบุคคล มีตนฝึกฝน ดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่ง อันบุคคลได้โดยยาก
     
  13. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ขออนุโมทนาบุญ กับคุณหมอเขียว ผู้ใจบุญด้วยค่ะ
    เรื่อง bible code ของ คุณ jesdath น่ากลัวจังค่ะ ที่ว่าจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ในปี 2012 ก็ว่า ใกล้เข้ามามากอยู่แล้ว แต่นี่จะเกิดปีนี้.... อุกกาบาตชนโลก หรือสงครามโลกครั้งที่ 3 โอย ไม่รู้จะทำใจยังไง สงสารเด็กๆค่ะ
    อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด เราคงทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้ามีชีวิตอยู่ก็คงต้องพยายามเอาชีวิตรอดต่อไปตามสัญชาตญาณ
    ปลงค่ะปลง ไม่อยากคิดอะไรมาก ถือว่าได้ข้อมูลมาเตือนตัวเองไม่ให้ประมาท จะได้หมั่นทำความดี ทำบุญกุศลมากขึ้น เตรียมพร้อมเอาไว้ค่ะ
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เวตาล ****


    เรื่องย่อนิทานเวตาล

    ณ ฝั่งแม่น้ำโคทาวรีมีพระมหานครแห่งหนึ่งตั้งอยู่นามว่า ประดิษฐานที่เมืองนี้ในสมัยบรรพกาลมีพระราชาธิบดีองค์หนึ่ง ทรงนามว่า ตริวิกรมเสนได้ครองราไชศวรรย์มาด้วยความผาสุกพระองค์เป็นราชโอรสของพระเจ้าวิกรมเสนผู้ทรงเดชานุภาพเทียมท้าววัชรินทร์

    ต่อมาได้มีนักบวชชื่อ ศานติศีล ได้นำผลไม้มาถวายทุกวันมิได้ขาดซึ่งพระราชาแปลกใจ และได้ไปพบในคืนหนึ่งตามนัดได้ถามถึงเหตุผลและเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณโยคีศานติศีลจอมเจ้าเล่ห์ได้ขอให้พระราชาตริวิกรมเสนนำเวตาลมาให้ตนเพื่อจะประกอบมหายัญพิธี <O:p

    พระราชาผู้มีสัจจะเป็นมั่น ได้ไปนำเวตาลมาให้โยคีเจ้าเล่ห์แต่เวตาลก็พยายามหน่วงเหนี่ยวด้วยการเล่านิทานทั้งสิ้น ๒๔ เรื่องด้วยกันซึ่งแต่ละเรื่องจะมีคำถามให้พระราชาตอบ โดยมีข้อแม้ว่าหากพระราชาทราบคำตอบแล้วไม่ตอบ ศีรษะของพระราชาจะต้องหลุดจากบ่าและหากพระราชาเอ่ยปากพูดเวตาลก็จะกลับไปสู่ที่เดิม <O:p
    และก็เป็นดังนั้นทุกครั้ง ที่พระราชาตอบคำถามของเวตาลเวตาลก็จะหายกลับไปสู่ต้นไม้ที่สิงที่เดิมพระราชาก็จะเสด็จกลับไปเอาตัวเวตาลทุกครั้งไป จนเรื่องสุดท้ายพระราชาไม่ทราบคำตอบก็ทรงเงียบไม่พูด เวตาลพอใจในตัวพระราชามาก เพราะเป็นพระราชาผู้ไม่ย่อท้อผู้มีความกล้าหาญ ทำให้เวตาลบอกความจริงในความคิดของโยคีเจ้าเล่ห์ว่าโยคีนั้นแท้จริงแล้ว ต้องการตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธรโดยจะเอาพระราชาเป็นเครื่องสังเวยในการทำพิธี และอธิบายถึงวิธีกำจัดโยคีเจ้าเล่ห์<O:p

    เมื่อพระราชาเสด็จมาถึงโยคีตามที่นัดหมายไว้ก็ปรากฎว่าโยคีได้เตรียมการทำอย่างที่เวตาลได้บอกกับพระราชาไว้พระราชาจึงแก้โดยทำตามที่เวตาลได้อธิบายให้พระราชาฟังพระราชาจึงได้ตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร และเวตาลได้บอกกับพระราชาตริวิกรมเสนว่า

    "ตำแหน่งนี้ได้มาเพราะความดีของพระองค์ตำแหน่งนี้จะคอยพระองค์อยู่หลังจากที่ทรงเสวยสุขในโลกมนุษย์จนสิ้นอายุขัยแล้วข้าขอโทษในกาลที่แล้วมาในการที่ยั่วยวนประสาทพระองค์ แต่ก็ไม่ทรงถือโกรธต่อข้าบัดนี้ข้าจะถวายพรแก่พระองค์ ขอทรงเลือกอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาเถิด"

    พระราชาก็ตรัสว่า
    "เพราะเหตุที่เจ้ายินดีต่อข้าและข้าก็ยินดีในความมีน้ำใจของเจ้าเช่นเดียวกันพรอันใดที่ข้าจะปรารถนาก็เป็นอันสมบูรณ์แล้วข้าเพียงแต่อยากจะขออะไรสักอย่างเป็นที่ระลึกระหว่างข้ากับเจ้านั่นก็คือนิทานที่เจ้ายกปัญหามาถามข้าถึงยี่สิบสี่เรื่องและคำตอบของข้าก็ให้ไปแล้วเช่นเดียวกัน และครั้งที่ยี่สิบห้าคือวันนี้ถือเป็นบทสรุปแสดงอวสานของเรื่อง ขอให้นิทานชุดนี้จงมีเกียรติแพร่กำจายไปในโลกกว้าง” <O:p</O:p

    เวตาลก็สนองตอบว่า
    “ขอจงสำเร็จ โอ ราชะ บัดนี้จงฟังเถิดข้าจะกล่าวถึงคุณสมบัติที่ดีเด่นของนิทานชุดนี้สร้อยนิทานอันร้อยรัดเข้าด้วยกันดังสร้อยมณีสายนี้ประกอบด้วยยี่สิบสี่เรื่องเบื้องต้น แลมาถึงบทที่ยี่สิบห้า อันเป็นบทสรุปส่งท้ายนับเป็นปริโยสาน นิทานชุดนี้จงเป็นที่รู้จักกันในนามของเวตาลปัญจวิงศติ (นิทานยี่สิบห้าเรื่องของเวตาล) จงมีเกียรติยศบันลือไปในโลกและนำความเจริญมาสู่ผู้อ่านทุกคน ใครก็ตามที่อ่านหนังสือแม้แต่โศลกเดียวหรือเป็นผู้ฟังเขาอ่านก็เช่นเดียวกัน จักรอดจากคำสาปทั้งมวล บรรดาอมนุษย์ทั้งหลายมียักษ์ เวตาล กุษมาณฑ์ แม่มด หมอผีและรากษส ตลอดจนสัตว์โลกประเภทเดียวกันนี้จงสิ้นฤทธิ์เดชเมื่อได้ยินใครอ่านนิทาน อันศักดิ์สิทธิ์นี้” <O:p</O:p

    พระศิวะได้ฟังเรื่องของต่าง ๆของเวตาลจบก็กล่าวชื่นชมในองค์พระราชาตริวิเสนมาก
    ซึ่งพระศิวะได้สร้างจากอนุภาคโดยให้มาปราบอสูรคนร้ายต่าง ๆ
    เมื่อพระราชาตริวิกรมเสนได้เป็นจอมราชันแห่งวิทยาธรทั้งโลกและสวรรค์แล้วก็เกิดความเบื่อหน่าย หันไปบำเพ็ญทางธรรมจนบรรลุความหลุดพ้น
    ����ͧ��͹Էҹ�ǵ��

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      1,421
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2010
  15. tianhui

    tianhui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +59
    เอามาให้ดูคะเห็นแล้วน่ากลัว

    <TABLE style="mso-cellspacing: 0cm; mso-yfti-tbllook: 1184; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #f0f0f0; BORDER-LEFT: #f0f0f0; PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #f0f0f0; BORDER-RIGHT: #f0f0f0; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top><TABLE style="mso-cellspacing: 0cm; mso-yfti-tbllook: 1184; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #f0f0f0; BORDER-LEFT: #f0f0f0; PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #f0f0f0; BORDER-RIGHT: #f0f0f0; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>
    <TABLE style="mso-cellspacing: 0cm; mso-yfti-tbllook: 1184; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #f0f0f0; BORDER-LEFT: #f0f0f0; PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #f0f0f0; BORDER-RIGHT: #f0f0f0; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>www.wimp.com/heavyrain<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    แผ่นดินถล่มเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ

    <object width="480" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/xoWKzC4Shz8&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

    แผ่นดินถล่มเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ ของการสึกกร่อนชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

    ต่อบริเวณพื้นที่ที่เป็นเนินสูงหรือภูเขาที่มีความลาดชันมาก เนื่องจากขาดความสมดุลย์ในการทรงตัวบริเวณดังกล่าว

    ทำให้เกิดการปรับตัวของพื้นดินต่อแรงดึงดูดของโลก และเกิดการเคลื่อนตัวขององค์ประกอบธรณีวิทยาบริเวณนั้นจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ

    แผ่นดินถล่มมักเกิดในกรณีที่มีฝนตกหนักมาก บริเวณภูเขาและภูเขานั้นอุ้มน้ำไว้จนเกิดการอิ่มตัว

    จนทำให้เกิดการพังทลายตามลักษณะการเคลื่อนตัวได้ 3 ชนิดคือ


    1. แผ่นดินถล่มที่เคลื่อนตัวอย่างแผ่นดินถล่มที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เรียกว่า Creep เช่น Surficial Creep

    2. แผ่นดินถล่มที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเรียกว่า Slide หรือ Flow เช่น Surficial Slide

    3. แผ่นดินถล่มที่เคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน เรียกว่า Fall Rock Fall

    นอกจากนี้ยังสามารถถแบ่งออกได้ตามลักษณะของวัสดุที่ล่วงหล่นลงมาได้ 3 ชนิด คือ


    แผ่นดินถล่มที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของผิวหน้าดินของภูเขา

    แผ่นดินถล่มที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของวัตถุที่ยังไม่แข็งตัว

    แผ่นดินถล่มที่เกิดจาการเคลื่อนตัวของชั้นหิน


    1. แผ่นดินถล่มในประเทศไทย มักเกิดขึ้นเมื่อไร และบริเวณใด

    แผ่นดินถล่มในประเทศไทย ส่วนใหญ่มักเกิดภายหลังฝนตกหนักมากบริเวณภูเขาซึ่งเป็นต้นน้ำลำธาร

    บริเวณตอนบนของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มเนื่องมาจากพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านในระหว่าง เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม

    ในขณะที่ภาคใต้จะเกิดในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม


    2. ความรุนแรงของแผ่นดินถล่ม มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ?

    1. ปริมาณฝนที่ตกบนภูเขา

    2. ความลาดชันของภูเขา

    3. ความสมบูรณ์ของป่าไม้

    4. ลักษณะทางธรณีวิทยาของภูเขา


    [​IMG]


    รูปที่ 6 แผ่นดินถล่ม ที่จังหวัดโคจิ ประเทศญี่ปุ่น ปี พ.ศ. 2515

    ที่มา: Thai Meteorological Department
     
  17. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <object width="480" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/7xasdpElqw8&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>






    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/er2q4U7760s&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/er2q4U7760s&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     
  18. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    สันโดษ เล่นดนตรีไม่เป็น เเละ ไม่ชอบบทกวี ขอบเป็น ศิลปินเดี่ยว

    ไม่เคยถ่ายทอดวิชชาให้กับใครเพราะเป็นคนขี้รำคาญ

    เเละที่สำคัญ สันโดษ ไม่เคยคิดถึง ศรีอารายาห้าในสารระบบสมองของสันโดษเลย

    อันนี้เเถม ดาราที่โปรดปราน
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2010
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    (sing)จิตไต้สำนึก ตื่นตะหนกและว่างเปล่า
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ทหารไทย-เขมร ปะทะกันอีก ใกล้'พระวิหาร'

    [​IMG]

    ทหารไทย-กัมพูชา เปิดฉากยิงกันบริเวณพรมแดนใกล้ประสาทพระวิหาร แต่ไม่มีรายงานความสูญเสีย ด้านกลาโหมเขมรระบุ เป็นเพราะความเข้าใจผิด เพราะพื้นที่ดังกล่าวมักมีการลอบตัดไม้ทำลายป่า...

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคาร 8 มิ.ย. ทหารกัมพูชากับทหารไทย เปิดฉากยิงกันอีกครั้งบริเวณพรมแดนใกล้ประสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ หรือชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา การยิงปะทะกันเกิดขึ้นนานราว 6 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายติดต่อสื่อสารหยุดยิง โดยไม่มีรายงานความสูญเสีย

    ทั้งนี้ นายชุม โสเชียต โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงระบุเหตุยิงกันเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างปราสาทพระวิหารราว 40 กิโลเมตรระหว่างที่กองกำลังทหารของไทยและกัมพูชา ต่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่ท่ีมักมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งทำให้ทหารของทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิดและเกิดการยิงกันขึ้น

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2553

    บีพีเร่งโกยน้ำมัน หวั่นถึงฝั่งฟลอริดา

    [​IMG]

    เพิ่มระบบฟื้นฟู รวมถึงติดตั้งระบบตรวจจับซึ่งสามารถตัดการส่งน้ำมันและเชื่อมต่อใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เสร็จทันก่อนเกิดพายุเฮอริเคนในช่วงสิ้นเดือนนี้...

    นายโทนี เฮย์วาร์ด ประธานฝ่ายบริหารบริษัทน้ำมันบีพี ของอังกฤษ เผยว่า ทางบริษัทเริ่มสูบน้ำมันจากท่อใต้ทะเลที่รั่วเฉลี่ยวันละ 12,000-19,000 บาร์เรล/วัน ในอ่าวเม็กซิโกตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ได้โดยช่วง 24 ชม.แรก 6,500 บาร์เรล 24 ชม.ต่อมาเมื่อ 6 มิ.ย. ก็เก็บได้ถึง 10,500 บาร์เรล พร้อมวางแผนช่วงกลางเดือน มิ.ย.จะเพิ่มระบบฟื้นฟู รวมถึงติดตั้งระบบตรวจจับซึ่งสามารถตัดการส่งน้ำมันและเชื่อมต่อใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เสร็จทันก่อนเกิดพายุเฮอริเคนในช่วงสิ้นเดือนนี้ รวมถึงคาดว่าภารกิจสกัดน้ำมันรั่วจะสำเร็จราวเดือน ก.ค.

    ขณะที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินว่าควรสูบน้ำมันให้ได้ถึง 19,000 บาร์เรล/วัน เพราะหวั่นว่าน้ำมันดิบเสียจะลอยขึ้นฝั่งริมหาดฟลอริดา สถานที่ตากอากาศชายทะเลเลื่องชื่อที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวตกปีละ 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอาจถึงรัฐมิสซิสซิปปีและรัฐอลาบามา กระนั้น ศูนย์ตอบรับโพ้นทะเลน้ำลึก ซึ่งเริ่มตรวจสอบตามบริเวณเกาะแก่งตอนใต้สุดของรัฐฟลอริดาระบุว่ายังไม่พบคราบน้ำมันแต่อย่างใด

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2553

    นักวิทย์กังวลน้ำมันรั่ว แย่กว่า'บีพี-รบ.มะกัน'คาด

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ ปริมาณการรั่วไหลของน้ำมันดิบสู่อ่าวเม็กซิโก น่าหวาดวิตกเกิดกว่าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทบีพีคาด ส่วน บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ จ่อลงพื้นที่ชายฝั่ง 3 รัฐ ตรวจดูผลกระทบเป็นครั้งที่ 4 ในสัปดาห์หน้า...

    สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ว่า ปริมาณการรั่วไหลของน้ำมันดิบสู่อ่าวเม็กซิโก อาจน่าวิตกเกินกว่า ข้อความที่รัฐบาลสหรัฐฯและบริษัทบีพีอ้าง ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ มีกำหนดการเดินทางเยือนพื้นที่ชายฝั่งเม็กซิโกอีกเป็นครั้งที่ 4 ในสัปดาห์หน้า

    สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ จะไปตรวจความเสียหายจากคราบน้ำมันบนชายฝั่ง อุตสาหกรรมการจับปลา และการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบนับตั้งแต่แท่นขุดเจาะระเบิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ใน 3 รัฐ คือ มิสซิสซิปปี อลาบามา และฟลอริดา

    ล่าสุดบีพีอ้างว่า สามารถระงับการรั่วไหลของน้ำมันได้ยอดเยี่ยมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มากถึง 620,000 แกลลอน และตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึงเที่ยงวัน ของวันจันทร์ที่ผ่านมา จัดเก็บได้ 330,000 แกลลอน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...