เจ้าแม่กวนอิมลาพุทธภูมิ

เจ้าแม่กวนอิมลาพุทธภูมิ




ผู้ถาม
มี ผู้ถามว่า ที่บ้านของลูกมีทุกอย่าง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพเทวะ อะไรต่างๆ มีคนเขาบอกว่า ลองเอา เจ้าแม่กวนอิม ไปบูชาบ้าง จะทำให้เจริญรุ่งเรือง แล้วลูกก็เลยซื้อมา เมื่อนำมาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะตั้งตรงไหนดี จะตั้งกับพระพุทธก็เห็นว่าเป็นผู้หญิง จะซื้อโต๊ะใหม่สะตุ้งสะตังค์ก็ไม่มี ขอให้หลวงพ่อช่วยชี้แนะวิธีตั้งสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ
หลวงพ่อ
ไม่ต้อง ตั้ง...ห้อยก็ได้ ใช้ห้อยคอไว้...(หัวเราะ) ก็หาโต๊ะเล็กๆ ซิ ม้าเล็กๆ ถ้าตั้งโต๊ะพระพุทธรูป ก็ตั้งให้ต่ำกว่า ขั้นต่ำกว่าไม่เป็นไรนะ เพราะท่านกวนอิมจริงๆ เดิมทีเป็น พระโพธิสัตว์ ตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้หญิง และต่อมานานๆ เข้า ใกล้จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เอาแค่ใกล้นะ บารมีเริ่มเป็นปรมัตถบารมีก็ขอลาพุทธภูมิ เวลานี้เป็นพระอรหันต์ไปนิพพานแล้ว
ผู้ถาม
เจ้าแม่กวนอิมไม่ใช่พระศรีอาริย์หรือครับ?
หลวงพ่อ
ไม่ ใช่...คนละองค์ ไกลกันลิบลับ พระศรีอาริย์ ท่านจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณอยู่แล้วแต่เจ้าแม่กวนอิมนี่ยัง ความจริงก่อนนั้นฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ไปพบกันจริงๆ จึงรู้เรื่อง ไปควานหาประวัติตามหนังสือเอาแน่นอนไม่ได้ หาตัวไม่พบ
ผู้ถาม
เอ...หลวงพ่อ อย่างงานเทศกาลไหว้พระจันทร์เอารูปเจ้าแม่กวนอิมมาไหว้ อยากจะทราบว่าองค์จริงท่านจะมาหรือเปล่าครับ?
หลวงพ่อ
ความเป็นทิพย์มี ถ้าเรานึกด้วยความเคารพก็ถึงทันที
ผู้ถาม
ถ้าไหว้พร้อมกันทั่วโลกล่ะครับ?
หลวงพ่อ
อย่าลืมว่าความเป็นทิพย์น่ะ ท่านจะไปพบกับคนได้ทุกคนในขณะเดียวกันทั่วโลก ทั้งภาษาต่างกันใครต้องการอะไรก็ได้
ผู้ถาม
พูดถึงเรื่องภาษา เวลาเจ๊กสวดมนต์เจ๊ก อิสลามสวดมนต์อิสลาม คริสต์สวดมนต์คริสต์ แล้วเวลาตายจะมีสิทธิ์ไปอยู่ชั้นยามาไหมครับ?
หลวงพ่อ
อย่า ลืมนะเจ๊กนี่ส่วนใหญ่จริงๆ เขาศาสนาพุทธนะ เจ๊กธิเบต ก็ต้องยามาเจ๊ก ยามาอิสลาม ยามาคริสต์ แต่ส่วนใหญ่จริงๆ เขาศาสนาพุทธ แต่ว่าเป็น ฝ่ายมหายาน ก็ที่เดียวกันนั่นแหละ แต่อิสลามยังสงสัย ไปทีไรไม่เจออิสลามสักที ถ้าอย่างคริสต์เขามีสิทธิชั้นกามาวจรเหมือนกัน อย่าง พระเยซู ท่านอยู่ชั้นดาวดึงศ์ แต่จริงๆแล้วเขาอยู่ชั้นดุสิต แต่ว่ากำลังของพระเยซู กำลังของตัวเองก็ดี กำลังที่สอนลูกศิษย์ก็ดี ถึงขั้นกามาวจรสวรรค์ ไม่ถึงพรหมนะ ศาสนาคริสต์นี่ไม่ถึงพรหมนะ แต่ว่าอิสลามนี่ไม่รู้ลามไปถึงไหน เพราะไม่เคยเจอะข้างบนเลย

 

กระทู้ค่อนข้างหมิ่นเหม่ม ไม่เห็นควรที่จะนำเสนอ เพราะแสดงถึงการกระทบกระทั่งศรัทธาและความเชื่อของศาสนาอื่น ควรมิควร ก็แล้วแต่จะพิจารณาด้วยปัญญา

 

กล่าวกันว่า ความเกลียดชังมักจะเกิดขึ้นไปทั่วระแหง แม้คนเพียงแค่หยิบมือเดียว ก็สามารถนำความเสื่อมและหายนะมาให้ได้ กรณีนี้ก็เช่นกัน จะเห็นว่าได้สร้างมานะเพราะยึดมั่นถือมั่นในคติตน จนไปเบียดเบียนคนศาสนาอื่นๆ คิดว่าคติตนนั่นประเสริฐสุดแล้ว หาอื่นใดเทียบไม่ได้อีกแล้ว

หากเรามองย้อนอดีต คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่หลงในอวิชชา และความไม่เจียมเนื้อเจียมตัวนี้เอง ทำให้ศาสนาเกิดความแตกแยกและความหายนะมายังพวกที่ไม่รู้อีโน่อีเน่ ก็คงไม่ผิดนักที่ผู้นำจีนกล่าวไว้ว่า ศาสนาคือยาพิษ ก็เพราะพวกคนเหล่านี้เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกแยก

ฉันใดก็ฉันนั้น ความเลื่อมล้ำทางสังคมและศาสนาก็ได้คืบคลานเข้าสู่ประเทศเรามากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้ประเทศชาติของเรากำลังรับชะตากรรมนี้อยู่ ยิ่งกระแสต่อต้านศาสนาทั้งจากภายนอกประเทศและทางภาคใต้ยิ่งกำลังคุกกรุ่นอยู่ขณะนี้ ยังจะต้องให้ประเทศชาติฉิบหายมากกว่านี้หรือไง ถึงจะสาแก่ใจ

คราวที่แล้ว ไปนำเสนอลักษณะอย่างนี้กับคนที่นับถือศาสนาคริสต์ โดนเขากระแทรกจิตกลับมาว่า

"หากพระเยซูของเราเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ในชั้นดุสิตท่าน ก็คงไม่ต่างกับที่พระพุทธเจ้าของท่านอยู่ในชั้นนรกของเรา"

เป็นไงบ้าง สะใจไหม อย่างเป็นชาวพุทธแค่ลมปาก

หากตนเองยังไม่ดีพอ ก็อย่าติเตียนผู้อื่น

 

1 คนก็ หลายความคิด ใครเล่าจะมาถูกได้ตลอดเวลา และใครกันจะปิดไปทั้งหมด

เราทุกคน ยึดมั่นในพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ที่คุณๆ ทั้งหลาย ติเตียนเจ้าของกระทู้ทั้งหลาย
ว่าไม่ดีพอ แล้วคุณเล่า ??


ถ้าเรามีแขกมาบ้านเรา เรายกน้ำไปเลี้ยงแขก แต่แขกที่มานั้น ไม่ดื่มน้ำ

ถามหน่อยว่า น้ำนั้น จะตกเป็นของใคร ??? ก็ของเจ้าของบ้านใน

ความโกรธนั้นก็เหมือนกัน . . .

คิดเอา

 

จงพิจารณาด้วยธรรม แต่โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อครับ อนุโมทนาสาธุ

 

กระทู้นี้ไม่หมิ่นเหม่ พูดไปตามความจริง หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเห็นตามนั้น

มีลูกศิษย์ไปถามท่าน ท่านก็พูดตามความเป็นจริงที่ท่านได้เห็นได้รู้

ก็มันจริงนิ พระเยซู ท่านเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ชั้นดุสิต พิสูจน์ได้

และพระพุทธเจ้า ท่านก็ไปได้ทุกที่ นิพพาน พรหม สวรรค์ นรก

 

คนเราก็แปลกดีนะ แถได้ไปเรื่อยๆ กับเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คติพุทธมหายานเกี่ยวกับมหาพระโพธิสัตว์ มีที่ไหนวะปรารถนานิพพาน คิดมาได้อย่างไรเนี้ย ปฏิปทามันคนละเรื่องเลย มหาโพธิสัตว์เขาไม่เหลียวแลนิพพานแม้แต่น้อยนิด แค่พลิกกายพระองค์ท่านก็เข้าได้แล้ว ท่านเฮียปอมาสายไหนละนั้น เห็นรูปเคารพท่านจี้กงที่นำเสนอแล้ว ว่างๆ ก็สื่อท่านพระอรหันต์โพธิสัตว์จี้กงบ่อยๆ นะ ธาตุรู้จะได้แจ่มชัด มัวงมโข่งสวดแต่ก่งเต๋กอยู่ละซิท่า เสียชื่อหมดสายพระโพธิสัตว์จริงๆ หากท่านเข้านิพานแล้ว ก็คงไม่ต้องมาโปรดคนเป็นแล้วละซิ เห็นทั้งทรงทั้งแฝงเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด กรรมเวรจริงๆ ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด จะสร้างบารมีทั้งนี้ก็ให้เชื่อมั่นตัวเองหน่อย

 

ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ พระอรหันต์อย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พูดมุสา อย่างนั้นรึ


คุณเชื่อว่าพิสูจน์ไม่ได้ เพราะ คุณทำไม่ได้ต่างหาก


มนุษย์ที่มีแต่กิเลสพอกพูน จะเอาอะไรไปพิสูจน์ พระอริยะ



แล้ว วาจาที่กล่าวให้เป็นปัญญาชนด้วยน่ะ คุณภราดรภาพ

 

เรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้ก็ว่าพิสูจน์ไม่ได้...ก็มัวแต่เป็นเต๋าล้านปีอยู่ละซิถึงว่าพิสูจน์ไม่ได้..ชาวบ้านชาวเมืองเดี๋ยวนี้เขาพิสูจน์กันได้ตั้งเยอะแล้ว..คุณมัวแต่อยู่ในกระดองอยู่ล่ะซิ..โผล่หัวออกมาดูตะวันกับเขาบ้างก็ดีนะ

 

หลวงพ่อและลูกหลานไม่เคยต่อต้านศาสนาใดเลย มีแต่เป็นมิตรกัน

แต่"ความจริง"..ที่ผู้รู้นั้น เห็นแล้วย่อมคือ "ความจริง"

หากผู้ไม่รู้จริงจะตอบโต้ออกมาด้วยความไม่เชื่อ ไม่รู้ไม่เห็นด้วย ก็เป็นธรรมดา

ลองหาสิ มีวิธีทดสอบทดลอง พระองค์ท่านสอนไว้ ลองเปิดใจให้กว้างแล้วหาคำตอบดูให้ถึงที่สุด


"หากตนเองยังไม่ดีพอ ก็อย่าติเตียนผู้อื่น"

แล้วคุณภราดรภาพล่ะ กำลังทำอะไรอยู่ คุณเองกำลังทำเช่นนั้น

ปัญญาชน ควรโต้แย้งด้วยปัญญา มิใช่อย่างนักเลงข้างถนน

ลองพิจารณาดูนะจ๊ะ

 

ยิ่งคุณเขียนมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็แสดงความเป็นตัวตนของคุณมากขึ้นเท่านั้น

คุณนี่คงจะไม่เข้าใจจริง ๆ การที่มหาโพธิ์สัตว์ไม่ได้เข้านิพพานในตอนนี้ นั้นถูกต้อง แต่ในที่สุดท่านก็ต้องเข้านิพพาน

ที่คุณบอกว่าท่านมาโปรดคน คำว่าโปรดคนนั้น คือการช่วยเหลือให้ทุกคนนั้นเข้าพระนิพพานให้หมด แล้วท่านค่อยเข้าพระนิพพานทีหลัง

แล้วอย่างนี้มันแปลว่าท่านไม่ได้ปรารถนาพระนิพพานหรือเปล่า?

ลองคิดดูดี ๆ แล้วค่อยตอบก็ยังไม่สาย
ไม่ใช่ว่าเอาแต่ตอบ แล้วไม่ได้คิด

มันก็แค่การแสดงความโง่ของตัวเอง ก็เท่านั้น
เหอะ ๆ ๆ

 

พระโพธิสัตว์นั้น ท่านก็มีพระนิพพานเป็นอารมณ์เสมอ เพราะท่านต้องสอนให้สัตว์โลกเข้าใจในพระนิพพานได้..มิใช่ท่านไม่เหลียวแล ท่านพร้อมเสมอ แต่ยังไม่ถึงเวลาบำเพ็ญบารมีได้เต็ม และท่านพร้อมเสมอเพื่อจะลงนรก ขึ้นสวรรค์ เช่นกัน หากแต่เพื่อรื้อถอนขนสัตว์ไปพระนิพพานกับท่านให้ได้มากที่สุด หากท่านเข้าพระนิพพานแล้ว ท่านก็สามารถไปได้ทุกที่ ใน สามโลก

และผู้บำเพ็ญพุทธภูมิ หรือสาวกภูมิก็ตามที ท่านต้องเจริญในพรหมวิหาร 4 เสมอ จากคำโพสต์ของคุณ ว่ากล่าว ดูหมิ่น ผู้อื่นนั้น ไม่ใช่ในทางของชาวพุทธเลย โปรดพิจารณาใจตนเองด้วย ก่อนไปดู(ถูก)ใจผู้อื่น

 

<TABLE class=tborder id=post3310971 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ภราดรภาพ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3310971", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 1,210
Groans: 2
Groaned at 27 Times in 18 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 119
ได้รับอนุโมทนา 2,787 ครั้ง ใน 799 โพส
พลังการให้คะแนน: 217


</TD><TD class=alt1 id=td_post_3310971 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Namushakamunibutsu
การเกิดใหม่ที่คาบเกี่ยวระหว่างภพชาติไม่ใช่เรื่อนอจินไตยนะครับ
เพราะกระบวนการณ์ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก แต่กระบวนการของกรรมปรุงแต่ง
อันนี้จะซับซ้อน ไม่ควรคิด แต่ควรรู้ รู้ด้วยการเห็นตามเป็นจริง ไม่ใช่คิดแบบมั่วๆ

ฮินดูเขามั่วๆครับ คนละเรื่องกับพุทธเลย
พุทธใช้เรื่องเหตุปัจจัยครับ สำหรับการหลุดพ้นจริงๆแล้ว
ใช้ปัญญาตัดสังโยชน์ทั้งสิบ กิเลสทั้งสิบครับผม เป็นกระบวนการที่ทำให้จิตสิ้นสภาพ
เมื่อจิตไม่เหลือความเป็นจิต ก็จะปรุงแต่งต่อไม่ได้ ไม่เหลือภาชนะไว้รองรับ ก็เป็นอิสระ
แต่ไม่ได้บอกว่าจิตเป็นอมตะนะครับ แต่มันเกิด-ดับ ตลอดเวลา และเปลี่ยนแปลงตามความคิดที่ส่งมาเรื่อยๆ จนเป็นความรู้สึกเป็นเจตนารมณ์... เรื่องนี้ซับซ้อนครับ

ถ้าอยากปรึกษาเรื่องนี้ ก็ลองไปติดต่อ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ดูสิครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปติเตียนศาสนาฮินดูเขาไปทำไม ในเมื่อไม่เชื่อไม่ศรัทธาเขาก็ไม่ควรไปปรามาสเขา แบบนี้เขาว่าใจมันยังสกปรกอยู่ คุณนับถือคติพุทธ ก็บอกว่าพุทธประเสริฐสุด แต่คนที่นับถือฮินดู ก็บอกว่าฮินดูประเสริฐสุด ฉันใดก็ฉันนั้น คติของใครก็บอกว่าดีกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ควรเบียดเบียนซึ่งกันและกัน

แต่จะให้ผมวิพากษ์ โดยมองเป็นกลาง ไม่มีศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ศาสนาพุทธก็ไม่เกิด อภิปรัชญาศาสนาของพราหมณ์เป็นรากฐานให้กับศาสนาและนิกายต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พุทธ เชน วัชรยาน (ตันตระยาน)

หลักคัมภีร์พระเวทก็ถูกต่อยอดเป็นคัมภีร์ให้กับศาสนาต่างๆ บ้างก็นำไปดัดแปลงให้เหมาะสมกับวิถีของตนตามความเชื่อของตน การที่คุณไปดูถูกดูแคลนศาสนาฮินดู ก็เท่ากับว่าคุณกำลังว่าร้ายบิดามารดาหรือบรรพบุรุษของตนเอง เขาเรียกว่า คนเนรคุณ

ขนาดศาสนาพุทธเอง ความเชื่อก็ยังแตกต่างกันเลย เพราะต่างกันความคิด ต่างก็มีแต่ความเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น ไม่งั้นศาสนาพุทธคงไม่มีมากนิกายเช่นกัน นี้ยังไม่รวมปาฏิหารย์ที่เติมใส่เข้าไปให้กับพระพุทธองค์ท่าน จนโว่นะเนี้ย

ก่อนติเตียนผู้อื่นให้ดูจิตตัวเองเสียก่อน ทำได้หรือเปล่าในสิ่งที่พูดนะ อย่าใช้คำว่านิพพาน โมกษะ ไกรวัลยะ มาเป็นเพียงเครื่องประดับหรือเพียงแค่มโนทัศน์ที่เลิศหรู ทำได้เมื่อไร ก็จะอนุโมทนาเต็มกำลัง<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post3311221 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ภราดรภาพ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3311221", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 1,210
Groans: 2
Groaned at 27 Times in 18 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 119
ได้รับอนุโมทนา 2,787 ครั้ง ใน 799 โพส
พลังการให้คะแนน: 217


</TD><TD class=alt1 id=td_post_3311221 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ผมว่าเจตนาคุณมีแต่อคติ หลงติดกับความเชื่อผิดๆ ที่เล่าสู่กันมา
ทุกอย่างเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้งทางศาสนาที่รุนแรง
มักนำพาหายนะมาแล้วหลายยุคหลายสมัย ยิ่งถ้าเราบิดเบือนความจริง
ก็ยิ่งทำให้ตาบอดเพราะอวิชชา

เอาเวลาไปสร้างบารมีและปฏิบัติให้ถึงแก่นธรรมน่าจะดีกว่า
สิ่งที่ยึดหมั่นถือมั่น ก็ไม่มีอะไรหยั่งยืน แล้วไม่ต้องไปยึด แม้แต่พระพุทธองค์<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

อย่ามั่นใจในตัวมากไปน๊ะครับคุณ รู้สึกว่ามองคนอื่นนี่แย่ไปหมด การใช้คำพูดโปรดระวังสักนิดน๊ะครับ ปากคุณมันบอกว่ากลัวกระทบถึงศรัทธาความเชื่อของบุคคลอื่น คล้อยหลังนิดเดียวคุณกับพูดจาแดกดันผู้อื่นต่างๆนาๆ มารยาทการอยู่ร่วมในสังคมของตัวคุณนี่มันช่างน้อยนิดเสียจริงๆ

คำพูดสอนชาวบ้านต่างๆนี่สวยหรูจังน๊ะครับ น่าจะเอากลับไปสอนตัวเองให้ดีซะก่อนไม่ดีกว่าหรือ ความรู้เท่าหางอึ่ง ไม่รู้จริงอย่ามาโชว์เหนือเลยดีกว่าครับ อายเค้าเปล่าๆ

 

แบบนี้ไงพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงอธิษฐานว่า

" ขอให้มีแต่กลุ่มคนของเราที่ตามกันมา เข้ามาสู่สำนัก เพราะสายอื่นจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ขอให้ท่านช่วยกันให้ด้วย "

นี่คือคำพรที่หลวงพ่อขอพรจากพระพุทธเจ้าและท่านปู่ ....

 

คนเราก็แปลก พูดกระทบจิตบ้าง ก็ตามจิตไม่ค่อยจะทัน ความรู้เพียงแค่หางอึ่ง นะมันคุณ ส่วนผมนะมันมีวิถีของผมอยู่แล้ว กลับไปสอนใจตัวเองก่อนนะครับ หลงจนตามืดมัว น่าจะหาเครื่องถ่างตาให้กว้างเสียบ้างก็ดีนะ

 

โถ แค่เห็นจิตตนก็อยากแล้ว แต่นี้ต้องให้เห็นสภาวะจิตนั้น ก็อยากเข้าไปอีก คุณไปแปลความเอาเอง ผมไม่ได้กล่าวว่าสักหน่อย ผมก็ให้เหตุผลอันควร โดยไม่ได้เข้าข้างศาสนาใดศาสนาหนึ่ง การเป็นผู้นำจิตวิญญาณที่ดี เขาไม่กล่าวหาให้มีมานะหรอก เกิดเป็นมนุษย์ก็ย่อมมีกิเลสพอกพูนกันทั้งนั้นแหละ บริสุทธิ์จริงไม่ต้องเกิด จะให้พิสูจน์ความพระอริยะเจ้าไม่เห็นจะอยากเลย แต่พิสูจน์ใจตนเองนะอยากกว่าเยอะ เฮียปอ ว่างๆ โทรมาคุยกันบ้างก็ดีนะครับ

 

โอ้โห้ เข้าใจพูดนะครับ คุณผู้หญิงข้างเมรุ ความจริงที่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นกันอยู่โทนโท่ ยังกับหลงอวิชชา ไว้ให้คุณเข้ากระแสพระอริยะสัจจ์สี่ เสียก่อนนะครับ แล้วค่อยมาคุยกัน