###พระกริ่ง vs หลวงพ่อทวด นารายณ์รุ่งเรือง .....เสกครบตำนาน###

อนุโมทนาเช่นกันนะครับ

 

เห็นภาพนี้แล้วทำให้นึกถึงวันวานเมื่อครั้งร่วมเดินทางเก็บมวลสารกับคนวังหน้า ณ ดินแดนศรีวิชัย ในตอนนั้นทุกๆคนที่ร่วมเดินทางไปเก็บมวลสารต่างบอกว่ามีความสุขมากที่ได้ร่วมกันทำความดีเพื่อชาติ เพื่อพระศาสนา เพื่อพี่น้องทหารหาญที่คอยปกป้องบ้านเมืองโดย เฉพาะทหารหาญใน3จังหวัดชายแดนใต้

เห็นภาพในวันวานลอยในใจตลอดครับ
พี่อาร์ม

 

ที่มาอันอัศจรรย์
อัฐิหลวงพ่อรุ่ง วัดเชิงท่า
(องค์อาจารย์ของหลวงปู่ถม วัดเชิงท่า พระอรหันต์เเห่งเมืองละโว้)







หลวงพ่อรุ่ง พรหมสโร ท่านเป็นชาวบ้านตำบลท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี เกิดเมื่อปี 2407

อุปสมบท ณ วัดเชิงท่า เมื่อปี พ.ศ. 2427 หลวงพ่อพุก เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อคล้ายเป็นพระกรรมวาจารย์
ปกครองวัดเชิงท่าสืบต่อจากหลวงพ่อคล้าย เมื่อปี พ.ศ. 2440 และ

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส


ในปี พ.ศ. 2457 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส โปรดให้พระอธิการรุ่ง เจ้าคณะหมวดวัดเชิงท่าเป็นพระครูเจ้าคณะแขวงเมือง ลพบุรีที่พระครูโวทานสมณคุต พร้อมทั้งท่านเองยังเคยตรัสกับผู้ที่มาเฝ้าด้วยว่า สมภารรุ่ง ไปที่ไหนสร้างเเต่
ความเจริญไปที่นั่น เเละเกียรติคุณของท่านเสมอด้วยหลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม
หลวงพ่อรุ่งมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2480 สิริอายุรวม 73 ปี พรรษา 53



<CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> ก่อนหลวงพ่อถม วัดเชิงท่า ลพบุรี จะมรณภาพเพียงสามปีโดยประมาณทางวัดได้ทำการซ่อมเเละบูรณะพระเจดีย์สมัยอยุธยาของวัดเชิงท่าเองตอนนั้นได้ทำการรื้อพระเจดีย์ที่ผุพังตามกาลเวลาหนึ่งในพระเจดีย์รายล้อมพระเจดีย์องค์ใหญ่ได้ขุดพบถาดพร้อมทั้งเเก้วสีพร้อมฝาครอบอันเป็นเเก้วน้ำที่หลวงพ่อรุ่ง วัดเชิงท่า ท่านใช้ประจำพร้อมกันนี้ภายในเเก้วพบอัฐิธาตุพร้อมกระดาษเขียนนามพระครูโวทานสมณคุต อย่างชัดเจนเเละมีโกศเจดีย์ล้อมเเก้วน้ำอันนี้ต่างเป็นบรรพบุรุษของตระกูลเสงี่ยมงาม เป็นสกุลเดิมของท่านนั่นเอง สมัยที่หลวงพ่อถม ยังดำรงขัณฑ์อยู่ได้พิจารณาอัฐิธาตุนี้พร้อมทั้งกล่าวว่าเป็นอัฐิหลวงพ่อรุ่ง อาจารย์ของฉันเอง นับว่าเป็นของสูงล้ำค่ายิ่งอัฐิส่วนที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญจะบรรจุในพระเจดีย์เเก้วให้คนกราบไหว้องค์ปรมาจารย์ในพิพิธภัณฑ์ ส่วนชิ้นอัฐิเล็กๆจะอัญเชิญมาบรรจุพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองเป็นกรณีพิเศษรุ่นเเรกเเละรุ่นเดียวสืบไปให้เป็นประวัติศาสตร์ของยุคเลยทีเดียว</CENTER>

 

วัดเชิงท่า ตำบลท่าหิน
อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ​

ประวัติวัดเชิงท่า วัดเชิงท่า เป็นวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำลพบุรีฝั่งตะวันออก กล่าวกันว่า

เดิมชื่อวัดท่าเกวียนด้วยเป็นท่าของเกวียนลำเลียงสินค้าขนลงมาที่ท่าน้ำในบริเวณวัดแห่งนี้ ก่อนที่จะลำเลียงลงเรือส่งไปยังที่อื่นๆ

พื้นที่ของวัดเชิงท่าตั้งขวางหน้าพระราชวัง “ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ” ด้านที่หันหน้าสู่แม่น้ำ ลพบุรีเกือบครึ่งด้าน จึงชวนให้สันนิษฐานว่า วัดเชิงท่าน่าจะสร้างก่อนพระราชวัง
ข้อมูลประวัติศาสตร์ระบุว่า พระราชวัง “ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 ฉะนั้นวัดเชิงท่าก็ควรจะสร้างขึ้นก่อนหน้านั้น หรืออย่างน้อยที่สุดก็ใกล้เคียงกับพุทธศักราชนั้น วัดเชิงท่าจึงมีอายุนานไม่น้อยกว่าสามร้อยปี

​

พระอุโบสถหันไปทางทิศเหนือ (หันขวางตะวัน) ซึ่งไม่เป็นไปตามธรรมเนียมในการสร้างสถาปัตยกรรมไทยที่นิยมสร้างพระอุโบสถหันไปทางทิศตะวันออก แต่ธรรมเนียมการสร้างพระอุโบสถหันไปทางทิศเหนือเป็นความนิยมกันในสถาปัตยกรรมมอญ จึงเชื่อกันว่าวัดนี้สร้างขึ้นโดยความดำริของชาวมอญในเมืองลพบุรีแต่เดิม

ศตวรรษที่ 23 ) และสมัยรัตนโกสินทร์ (รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว-รัชกาลปัจจุบัน ) กล่าวคือ

• สมัยอยุธยาตอนปลาย ได้แก่ พระอุโบสถพระเจดีย์ประธานของวัด ( หลังพระอุโบสถ)
• สมัยรัตนโกสินทร์ ได้แก่ กุฏิสงฆ์เป็นแบบตึกสองชั้นทรงเก๋งจีน ศาลาตรีมุข อาคารโวทานธรรมสภา หอระฆัง ศาลาการเปรียญและพิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์

อาคารหลายหลังในวัดเชิงท่าทรงคุณค่าในระดับชาติ


กรมศิลปากรจึงได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2531 ได้แก่พระอุโบสถ พระเจดีย์ ตึกทรงเก๋งจีน หอระฆังอาคารโวทานธรรมสภา

วัดเชิงท่า จึงเป็นวัดที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมแห่งหนึ่งที่เชิดหน้าชูตา สร้างความงามสง่าทางวัฒนธรรมให้กับจังหวัดลพบุรี
อาคารวัดเชิงท่าสมัยอยุธยา
พระอุโบสถ มีลักษณะสถาปัตยกรรมคล้ายกับอุโบสถของวัดอื่น ๆ ทีสร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชในจังหวัดลพบุรี ตัวพระอุโบสถตั้งอยู่บนฐานสูง มีลานกว้างโดยรอบ
ตรงขอบลานมีกำแพงแก้วและมีซุ้มประตูกำแพง หน้าบันซุ้มทำเป็นรูปจั่ว ผังพระอุโบสถแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสองส่วนคือ ส่วนหน้าเป็นห้องโถงไม่มีผนัง เสาคู่หน้าสุดของพื้นที่ส่วนนี้เป็นเสาสี่เหลี่ยม มีปูนปั้นประดับหัวเสาเป็นรูปดอกบัวกลีบยาว ส่วนหลังมีพื้นที่ยาวกว่าคือ ห้องโถงมีผนังรอบ หลังคาของพระอุโบสถมุงด้วยกระเบื้องกาบ ช่อฟ้าและหางหงส์ทำเป็นรูปหัวนาค พระอุโบสถได้รับการบูรณะหลายครั้ง ซึ่งช่างผู้บูรณะได้เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาและปั้นปูนส่วนประดับอาคารใหม่หมด แต่ก็ได้พยายามคงรูปแบบลวดลายของเดิมไว้

สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ สำหรับพระอุโบสถก็คือเสมาคู่รอบพระอุโบสถ ซึ่งมักทำให้มีผู้สันนิษฐานว่า เสมาแบบนี้คือวัดหลวงไม่ใช่วัดราษฎร์ นอกจากนั้นในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ที่สร้างขึ้นด้วยหินทราย ลักษณะศิลปกรรมของพระพุทธรูปคล้ายกับพระประธานของวิหารวัดไลย์อำเภอท่าวุ้น เป็นพระพุทธรูปแบบที่นิยมสร้างขึ้นครั้งรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จนถึงต้นรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2172 – ราว พ.ศ. 2220 )
อนึ่งในพระอุโบสถยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกจำนวนหนึ่ง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธินาคปรก ทำด้วยหินทราย ศิลปกรรมของพระพุทธรูปเป็นศิลปกรรมเขมรแบบบายนและศิลปกรรมแบบลพบุรีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นศิลปกรรมก่อนสมัย
อยุธยาเข้าใจว่าเมื่อมีการสร้างวัดเชิงท่าคงมีผู้รวบรวมพระพุทธรูปเก่าแก่จากวัดอื่นๆ นำมาประดิษฐานในวัดนี้
พระเจดีย์ ตั้งอยู่บนลานเดียวกันกับพระอุโบสถแต่อยู่ด้านหลัง มีด้วยกันทั้งหมดสามองค์กล่าวคือองค์เจดีย์ประธานตั้งอยู่กึ่งกลางลาน เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำเพรียวยาวลักษณะเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบนี้คล้ายกับเจดีย์ของวัดอัมพวัน อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งเป็นวัดในชุมชนมอญบ้านบางขันหมาก ส่วนเจดีย์บริวารอีกสององค์เป็นเจดีย์ทำเป็นรูปดอกบัวบานรองรับองค์ระฆัง มีลักษณะคล้ายกับเจดีย์วัดตองปุ อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งสร้างขึ้นครั้งปลายสมัยอยุธยานอกจากนั้นบริเวณนอกลานพระอุโบสถด้านทิศตะวันออกยังมีเจดีย์บริวารอีก 3 องค์ แต่ชำรุดทรุดโทรม เป็นเจดีย์แบบย่อมุมไม้สิบสอง ซึ่งเป็นแบบที่แพร่หลายตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ทำเนียบนามเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า
หลักฐานโบราณวัตถุสถานในวัดเชิงท่านั้นระบุได้ว่ามีอายุเก่าแก่ไม่น้อยกว่าสามร้อยปีก่อน แต่ทำเนียบนามเจ้าอาวาสวัดเชิงท่านั้นสืบสาวได้ไกลราวหนึ่งร้อยปีเท่านั้น เจ้าอาวาสบางรูปทราบเพียงชื่อก็มี กล่าวคือ
พระอุปัชฌาย์คล้าย พระคุณเจ้ารูปนี้ทราบเพียงชื่อว่าคล้าย เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่าก่อนพระครูโวทานสมณคุต ไม่มีผู้ใดทราบประวัติชาติภูมิของท่าน แต่ยังโชคดีที่ยังปรากฏภาพถ่ายของท่านเก็บรักษาไว้ที่วัดเชิงท่า
พระครูโวทานสมณคุต (รุ่ง) มีประวัติว่าเกิดเมื่อ พ.ศ. 2406 ที่บ้านน้ำหัก ท่าโพธิ์ ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี ได้ทำหน้าที่เจ้าอาวาสวัดเชิงท่า และรักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรีก่อน และในที่สุดได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดลพบุรีใน พ.ศ. 2468 รวมทั้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัด กวิศรารามฯ ด้วย หลักฐานการก่อสร้างหอระฆังในวัดเชิงท่าเมื่อ พ.ศ. 2462 โดยพระครูโวทานสมณคุต ชี้ชวนให้เห็นว่าพระคุณเจ้ารูปนี้คงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่าอย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2469 พระครูโวทานสมณคุตมรณภาพเมื่อ พ.ศ. 2479 อายุได้ 73 ปี
พระอธิการกราน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่าภายหลังจากพระครูโวทานสมณคุตได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯ ประวัติของพระคุณเจ้ารูปนี้ทราบเพียงเล็กน้อยว่าท่านเกิดที่คลองบางปี่ ตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมืองลพบุรี แต่ไม่ทราบว่าท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่าเมื่อใดและมรณภาพเมื่อใด
พระภิกษุพิณ สุภัทโท ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่าตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ท่านผู้นี้เดิมชื่อ พิณ บุญหนัก เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2451 ที่บ้านกระทุ่งสูง หมู่ 5 ตำบลลาดสาลี่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี บิดาชื่อ หรุ่น มารดาชื่อ เกตุ บุญหนัก บรรพาเมื่อ พ.ศ. 2469 อุปสมบทเมื่อ พ.ศ.2471 ที่วัดตะเคียน ตำบลท้ายตลาด อำเภอเมืองลพบุรี พระครูโวทานสมณคุต (รุ่ง) เป็นอุปัชฌาย์ พระอุปัชฌาย์ปิ่น ธมฺมโชโต วัดตะเคียนเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการกราน วัดเชิงท่าเป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาที่วัดเชิงท่า พ.ศ.2472 สอบนักธรรมโทได้ พ.ศ. 2475 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า พ.ศ. 2476 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลพรหมาสตร์ อำเภอเมืองลพบุรี ครั้นถึง พ.ศ. 2482 ได้ลาสิกขา

 

นึกเเล้วคิดถึงพี่ๆในชมรมคนรักหลวงปู่ทวดทุกคนเเม้จะเพิ่งเจอกันเมื่อวันเสาร์ห้าที่ผ่านมาเองเเต่ก็ยังคิดถึงตลอดครับผม

 

พระกริ่งองค์นี้เป็นพระกริ่งนะโภคทรัพย์ที่หลวงพ่อถม ท่านสะสมไว้ ซึ่งผมจะอัญเชิญพิมพ์นี้มาถอดพิมพ์เเล้วเเต่งให้มีเอกลักษณ์เททองร่วมกับพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองเเต่ว่า
พิมพ์นี้ไม่มีให้ทำบุญหรือจำหน่ายเเต่อย่างใด

 

พิมพ์นี้คุณหมอแจก...

 

เเจกกับผู้ทำบุญร่วม200000บาท ท่านละหนึ่งองค์ อิๆๆ

ล้อเล่นนะครับ
พิมพ์นี้หล่อเก็บเข้ากรุอย่างเดียวเลยครับ

 

มวลสารพิเศษที่ได้จากวัดเชิงท่าครั้งนี้นับว่าพิเศษจริงๆเเละสุดยอดมากๆเพราะว่าสิ่งที่ได้นับว่ามีความหมายอย่างมากอาทิ






1 ก้อนชนวนก้นเบ้าที่หล่อพระศรีอาริยเมตไตรของวัดเชิงท่า ที่เนื้อนี้ได้นำเนื้อลงหินโบราณพระโบราณนำไปหล่อจำนวนมากเรียกว่าชนวนทั้งวัดว่างั้นเทอะ
ก้อนชนวนเหลือสามก้อนสุดท้าย ที่ใหญ่ที่สุดรวมน้ำหนักหลายสิบกิโล

2 ทัพพีตักบาตรพระร้อยปีของโยมเเม่หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี ที่หลวงปู่ถมท่านใช้จนถึงบั้นปลายชีวิตอายุ90กว่า ช้อนทัพพีนี้ถึงหักเเละเก็บรักษาเอาไว้จะนำมาหล่อพระในครั้งนี้เคล็ดเหลือกันเหลือใช้ ช้อนทัพพีลงหินนี้อายุนับร้อยปีสมัยโยมเเม่หลวงพ่อถมใช้ตกทอดมาหลายรุ่น

3 เเท่งโลหะเเละเเผ่นจารเสกโดยหลวงพ่อถม พระยันต์นาคราช

4 ก้อนชินโบราณ พระเครื่องรุ่นเก่าๆของหลวงพ่อถม

5ขันน้ำพระพุทธมนต์โบราณ บางเฉียบ ตีขึ้นมือเเบบโบราณเก่ามาก จะนำมาหล่อพระกริ่งในครั้งนี้

เรียกได้ว่ามวลสารเเบบสุดๆจริงๆ

 

บุญการสร้างเมรุเป็นบุญที่มองไม่เห็นผมว่าเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆยิ่งวัดอยู่ในเมืองด้วยเเล้วเมรุหรือเตาไร้ควันยิ่งจำเป็นดังนั้นครั้งนี้ต้องเรียกว่าบุญใหญ่จริงๆวัดหนึ่งมีเมรุเเค่เมรุเดียวสักส่วนใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีเเละสำคัญจึงบอกบุญมายังทุกท่านทำบุญตามศรัทธาครับ

 

ตอนนี้พระกริ่งก้นทองคำหมดเเล้ว
เหลือเเต่

พระกริ่งนวโลหะก้นเงินสร้างเพียง56องค์
เเละก้นทองเเดงสร้างเพียง108องค์เท่านั้น

ต้นเเบบพระกริ่งกำลังเเก้ไขรายละเอียดอยู่ อดใจรอหน่อยนะครับ
ทรงเอกลักษณ์เมืองลพบุรีด้านหลังเป็นพระนารายณ์หรือเจ้าพ่อพระกาฬ
สอบถามรายละเอียดได้ที่0819596937<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

เงินที่ได้จากการทำบุญบูชาพระนำไปทำอะไร!

1สร้างพระประธาน ประจำพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดธาตุน้อย นครศรีธรรมราช วัดพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ หน้าตัก39นิ้ว เนื้อทองเเดงงบประมาณ400000บาท


2ซื้อเตาเผาศพไร้ควัน
ประจำเมรุวัดเชิงท่า ลพบุรี
งบประมาณ 1ล้านบาท


มีจิตศรัทธาร่วมบูชาพระติดต่อ
0819596937

 

ตอนนี้โดยสรุปมีพระผู้ทรงวิทยาคมอธิษฐานจิตมวลสารดังนี้
1หลวงปู่เรือง เขาสามยอด ลพบุรี อายุ97ปี
2หลวงปู่ต่อ วัดเขาเเก้ว นครสวรรค์ อายุ 92ปี
3หลวงปู่เร่ง วัดดงเเขวน อุทัยธานี อายุ83ปี
4หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่
5หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค อุทัยธานี
6หลวงชำนาญ วัดบางกุฏีทอง ปทุมธานี
7หลวงปู่ทองอิน วัดกลางคลองสี่ ปทุมธานี

 

<CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ช่างที่แกะเหรียญนี้นี่ชั้นบรมครูจริงครับ สวยงามจริงๆ</CENTER>

 

วันนี้วันเกิดผมพอดีจะไปทำบุญเเละจะไปหาสุดยอดมวลสารด้วยครับจะลงภาพให้ชมตอนเย็นครับผม

 

กำหนดการเททองพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรือง
วันวิสาขบูชา 28 พฤษภาคม 2553
สถานที่เททองหล่อพระกริ่ง วัดเชิงท่า อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

เวลา13.39 น.บวงสรวงบูชาครูบาอาจารย์
เวลา14.15น. เททองหล่อพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรือง
ประธานเททอง พระครูปทุมวรกิจ
หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง
ปทุมธานี
เวลา15.45น. แกะพระออกจากดินไทย นำพระกริ่งที่หล่อทั้งหมดเข้าพระอุโบสถ

เวลา17.00น.เวียนเทียนสมโภช เเละ
อธิษฐานจิตเดี่ยวโดย พระอาจารย์ติ๋ว
วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี ในพระอุโบสถ
มอญโบราณ วัดเชิงท่า ลพบุรี

 

สุขสันต์วันเกิดครับหมอ
ขออนุญาตอวยพร อาจารย์ฟอร์ด ให้มีความสุขมากๆนะครับคิดสิ่งใดให้สำเร็จสมประสงค์ดั่งใจหมาย


คิดถึงเสมอ
พี่อาร์ม

 

สุขสันต์วันเกิดครับคุณหมอ ผมอยากจะส่งมวลสารไปร่วมหล่อพระกริ่งด้วย อยากจะขอที่อยู่จัดส่งด้วยครับ

 

สุขสันต์วันเกิดครับคุณหมอ

 

สมความปารถนาทุกประการครับ