พระครูสมุห์ทองดี วัดบางด้วนนอก

.............ขอขอบคุณ...ทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน...โดยตลอด.....
................................ตามกันต่อเลยครับ.............................
...........................................................................................
.....หลวงอาดีท่านได้เจอ...กับ..ฆาราวาส..อีกคน..ที่เก่ง..และมีวิชาที่
..แปลก....มีอยู่วิชาหนึ่งที่...ทำให้ท่านสนใจ...และได้ให้ท่านผู้นั้น....
ทดลองทำให้ดู...........วิชา..ดังกล่าวคือ...----ควายขัด-----
ชื่อดูแหม่งๆ...ความจริงเป็นอย่างนี้ครับ...ชื่อ..มาจากลักษณะ...
..และ..การสร้าง.....
......เป็นการนำเอา...ไม้ไผ้...แบบจักตอก(...เด็กรุ่นใหม่ต่าง
จังหวัด..คงรู้จัก.....แต่เด็ก..กรุงเทพ..สงสัยจะแย่ ..จักตอก...ก็
คือ...การนำไม้ไผ่..มาผ่า(จัก)..ตามแนวยาว..ให้เป็นเส้นบางๆ...หนาประมาณ ๑ มม. กว้างประมาณ..๔ มม....ยาวประมาณ ๔ -๕ นิ้วไปแช่น้ำไว้ให้ชุ่ม..ตัวนี้เราเรียกว่า...ตอก...สามารถเอาไป
มัดของได้...เช่น..แถบจาก..ที่ใช้มุงหลังคา...เป็นต้น)....มาทำ
เป็นโครงรูปร่างแบบ...ควาย...เส้นหนึ่ง...ทำขาหน้า...เส้นที่สอง
ทำขาหลัง...เส้นที่สามทำ...ลำตัว..หัว..หาง...เส้นที่สี่...ทำเขา
...เคล็ดลับ..ส่วนหนึ่งก็คือ การเลือกไม้ไผ่...แต่ผมไม่ได้ถามท่าน
..ว่า..ต้องมีความพิเศษ..อะไร....ท่านบอกว่า..ต้องเสกไม้ไผ่แต่ละเส้นก่อน...มีการเรียงลำดับ..การขึ้นรูป...อันจะขัดกับอันไหน
ก่อน..ระหว่างที่มัด(ขัด)ไว้ด้วยกัน...ก็ต้องว่าคาถาไปตลอด...
....หลวงอาดีบอกว่า...สิ่งนี้ถือว่าเป็น ของ.."อาถรรพณ์"..อย่าง
หนึ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นเอง...แต่ต้องสร้างขึ้น...ซึ่ง..ของ...แบบนี้จะ
มี..ข้อห้าม...และ..สิ่งที่ต้องเข้มงวดในการใช้งาน...เพราะอาจ
เกิดโทษ..ขึ้นได้.....เป็นของประเภท...ครูแรง..........
..............................................................................คุณวิเศษของ....ควายขัด...ก็คือเป็นของเฉพาะตัว.....คือ
.......ต้องมาขอให้ทำ...และเสียค่าครู(ผมลืมไปแล้ว...ว่าเท่าไร...แต่
ไม่มีค่างวดอะไร....ถูกมาก)....ทำทีละตัวเท่านั้น...................
.............เมื่อได้ไปต้องเลี้ยง...ทุกวัน...เวลาขอจะให้ช่วยอะไร...ก็ต้อง
มีรูปแบบ.....หลังจากช่วยแล้ว...ต้องใส่บาตรอุทิศ...ส่วนกุศลให้
เจ้ากรรมนายเวร....รวมถึงผู้สร้างและครู(เจ้าของตำรับผู้สร้าง)
รวมทั้งต้องทำ..สังฆทาน...อุทิศถวาย..ด้วย.และห้ามขอในทางที่
สร้างความเดือดร้อน...กับผู้อื่น...
..........................................................................
...............................ที่หลวงอาดี...สนใจ...ควายขัด..นี้...เพราะละแวก
แถววัด...ส่วนใหญ่..จะ..จน..มีหนี้สินกันมาก...มีขโมย..หรือ..โจร...อีก
ต่างหาก...เดือดร้อนกันเยอะ...ก็เพราะเหตุนี้...ท่านจึงคิดว่า...น่าจะเป็น
ประโยชน์..กับ..ชาวบ้านผู้เดือดร้อนได้......โดยไม่คิดถึงผลที่ติดตาม
มาภายหลัง................................................
............................เอาไว้ตามต่อ...คราวหน้า.........................
................ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน..ครับ...................
.............................ขอบพระคุณ............................
.......................................................สวัสดี...............

 

....ขอบคุณ..ทุกท่านที่ติดตามครับ........ว่าต่อกันเลย...................
.........................................................................................
............หลังจาก..หลวงอาดี..ตรวจสอบ..จากการสร้าง..ควายขัด..และ..พิสูจน์ทราบ
...ความศักสิทธิ์...ว่าใช้ได้จริง..แล้ว...ท่านก็แลกเปลี่ยน..วิชา..กับฆาราวา่ส..ท่าน
นั้น... ......หลังจากนั้นเมื่อมีชาวบ้าน..มาบ่น..เรื่องความทุกข์ที่เกิด...และอยากให้
ท่านช่วย...ท่านจึงเสนอ..ควายขัด...ให้กับ...ชาวบ้านแต่ละ..คนที่มาให้ท่านช่วย
....แต่ท่านก็..เตือน...เรื่อง..ข้อกำหนดต่างๆ..อย่างเคร่งครัดที่จะต้องทำ....ชาวบ้าน
ก็ยินดี..และรับปาก...ท่านก็เริ่มทำให้......................
................ผู้ที่ได้นำไปใช้...ก็มาแจ้ง..ผลให้ทราบ..ว่าศักสิทธิ์..จริง...ชีวิตดีขึ้น..
ท่านก็จะเตือน..เสมอ..เรื่องสิ่งที่ต้อทำ..หล้งจากได้ดังหวัง...ขนาดที่ท่านจะไม่ให้
..กับ..คนแปลกหน้า...หรือ...คนบางอื่นที่ไม่คุ้นเคย...เพราะ..อาจจะไม่มาแจ้งผล
ให้ทราบ...และท่านจะไม่มีโอกาศได้เืตือน..สิ่งที่ต้องทำ....ก็เริ่มมีคนโจษจันกัน
คนที่ได้รับไป....ก็ใช้ได้ผล...หลวงอาดี...ก็พอใจที่ได้ช่วยชาวบ้าน...........
.........หลังจากนั้น..สักปีเดียว...คนที่เอาไปก็เริ่มลืม..เรื่อง..การทำขวัญข้าว
(ที่ผมเคย..อธิบายไปตอนที่แล้ว..คือ..สิ่งที่ต้องทำหลังจากได้ดังหวังแล้ว).......
..........หลวงอาดีท่านบอกว่า...ท่านทราบได้ด้วยตัวเอง...เพราะเหมือนกับ...ไป
ช่วยเขาลดกรรม...เมื่อเกิน ๗ วัน..ถ้าคนเอาไปใช้ยังไม่ทำบุญหรือ..ถวาย
..สังฆทาน..กลับมาให้คนที่ทำ...เพื่อเป็น..การชดเชย...กรรมส่วนนั้น.....ก็จะกลับ
มาหา..คนที่ทำ...ท่านบอกว่า..จะมาเป็นรูปแบบ..หลายอย่าง..รวมทั้งอาการป่วย
แบบไม่มีสาเหตุ...และท่านจะทราบด้วยว่า..ใคร..เป็นคนที่ไม่ทำตาม..ที่สัญญา
...........และ..ควายขัด..ตัวนั้นก็จะเสื่อม..ความขลังไปเอง....หลังจากที่..ขอให้
ควายขัด..ช่วยใหม่...แต่..ไม่สำเร็จ...ก็มาโวยวายกับท่าน..ว่าทำไมใช้ทีเดียว...
..เสื่อม...หลวงอาดี..ท่านจึงบอก..สาเหตูให้ทราบ...เจ้าตัวพึ่งนึกขึ้นได้ว่าลืม
....ก็ขอโทษท่าน...แล้วจะให้..ท่านทำตัวใหม่ให้..ท่านก็ปฎิเสธ.....
....................ท่านบอกว่า...ส่วนใหญ๋...พอใช้ไปสักพักแล้ว...คนที่ใช้..มักจะลืม
...แล้ว..กรรมก็..กลับมาเข้าตัวท่าน...ส่วนรูปแบบที่เป็นโรคท่านต้องเป็นโรคนั้น
ตลอดชีวิต...ท่านบอกว่า...ยังดีที่ท่านรู้ตัวเร็ว..รีบเลิกก่อน....................
........ท่านบอก..ว่าไม่งั้น..ก็คงไม่รอด...หรือขั้นเป็นอัมพาต..ทั้งตัว..จนถึงวัน
ตาย....หรือไม่ก็เจ็บปวดทรมาน..ไปตลอดชีวิต......
........................วันนี้ก็คงพอก่อน.......................ไว้เจอใหม่ตอนหน้า
............ขอบคุณ....ครับ........................และ...สวัสดี.....

 

โห..ศาตร์วิชาโบราณควายขัด พึ่งเคยได้ยิน

สุดยอดเลย

 

...ขอบคุณครับ...คุณOng...และ..ผู้ติดตามอ่านกันทุกท่าน..ครับ.....
...ครับ..ควายขัด..ก็..คืิอ..เอาไม้ไผ่มาขัดกัน..เป็นควาย...หลวงอาดี..ท่าน
มองในแง่ดี..ทำเพื่อชาวบ้าน..จะได้มีสุข...โดยไม่ได้คิดถึงผลเสียกับ...
ตัวเอง....นั่นแหละครับ..ผมไม่แปลกใจ..ว่า..วิชานี้..ทำไมถึง..สาปสูญ
.....................ผมก็ขอเล่าเรื่อต่อเลยครับ........................................
..................................................................................................
............เมื่อเหตุการณ์ผ่านมาจนถึง...ปี..๒๔๘๕.....เกิดสงครามอินโดจีน
...พระอาจารย์ที่มีวิทยาคม...ทั้งหลาย...ก็เป็นคนไทย..และมีความรักชาติ
...เมื่อ..เป็น..พระ...ท่านมีอะไรช่วยชาติได้...ก็ยินดีทำ....ฉะนั้น...ปีนี้
...........พระเครื่อง..วัตถุมงคล...ของขลัง..จึงมีมาก..และเข้มขลังยิ่ง
...เพราะเกิดจากความ..ตั้งใจ...ของผู้สร้าง.....หลวงอาดีเช่นกัน.....
.....ท่านก็ได้ตั้งใจทำ..วัตถุมงคล...เพื่อการณ์นี้....ผมก็ดันไม่ได้ถามว่า
....ท่านทำอย่างอื่น...นอกจาก..ผ้ายันต์..(ยันต์ทอ)...ขนาดเท่าผ้า
เช็ดหน้าผืนเล็ก...เป็นภาพพิมพ์ยันต์....ระบุปีที่สร้าง...ผู้สร้าง
ชัดเจน....เพื่อแจกให้ลูกหลานชาวบ้านที่จะต้องไปรบ....ซึ่งผมเคย
เล่าไปในตอนก่อนหน้านี้...ที่พ่อผมไปลา่ท่าน...และได้รับ..ผ้ายันต์ชุดนี้
...รวมถึง..ผ้ายันต์ที่ท่านเขียนด้วยมือท่านเอง....รวมถึง...พระดินเผา
ของหลวงพ่อปาน..พิมพ์ขี่นก...........
....................ลุมาถึง..ปี..๒๔๙๒....ท่านก็ต้องมีเรื่อง..ต้อง..ตัดสินใจ
อีกครั้ง...คือ...วัดบางด้วนนอกนี้...ความจริงเป็น..วัดที่เก่าแก่...สร้าง
มาตั้งแต่..สมัยอยุธยาตอนปลาย..มีหลักฐานชัดเจนเพราะ..พระประธาน
ในโบสถ์เป็นพุทธลักษณะ..อยุธยาตอนปลายชัดเจน...มีปฎิสังขรณ์ครั้ง
ใหญ่..ในยุค ร.๓..ชัดเจน..เพราะ..กำแพงแก้ว..เป็นแบบสมัยนิยม....
ในสมัย ร.๓..เหมือนกับที่..วัดราชโอรส...และวัดนางนอง...เพียงแต่ขนาด
..เล็ก..ต่างกันมาก...ตัวโบสถ์เอง...ผ่านการปฎิสังขรณ์มาหลายครั้ง
....จนไม่มี..รูปทรงเดิม...หลงเหลือ...................การที่วัดตั้งอยู่ที่ต่ำ
...น้ำทะเล..หนุน..ทำให้เกิด...ทำให้น้ำท่วมโบสถ์อยู่ตลอด...อุโบสถ
ก็ชำรุด..จนน่ากลัว...ส่วนที่ประจวบเหมาะคือเป็นตวามตั้งใจท่านที่จะ
ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเพิ่มเติม...คือ..โรงเรียนปริยัติธรรม..เพราะที่
วัดยังไม่มี......มันเป็นเื่รื่องใหญ่ที่ต้อง.อาศัย...เงิน..เป็นจำนวนไม่น้อย
..ลำพัง..ผ้าป่า..กฐิน..ก็..คงไม่พอ....ท่านคงต้องใช้..รูปแบบ.กับที่วัด
..อื่นเขาทำกัน....คือ...ออกวัตถุมงคลเพื่อให้ประชาชนมาทำบุญ
.....ซึ่งถ้าทำมากและ..มีผู้ทำบุญมาก...ก็จะเห็นผลทันตา................
...........ผู้ใหญ่ ๒ ท่าน ที่หลวงอาดี...เคารพ...และ..เกื้อหนุนท่านมา
ตลอด..ก็..คือ..หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว..และ..หลวงพ่อบุตร
วัดใหญ่บางปลากด.....ซึ่งตามปกติ..แล้ว...หลวงอาดีท่านก็เกรงใจ
อย่างยิ่ง..ไปเยี่ยมท่านไม่เกินปีละ..๒-๓..ครั้ง..และไม่ได้รบกวน..ขอ
อะไรท่านให้ช่วย...หลังจากกลับมาจาก..วัดบางนมโค............
.......โดยเฉพาะ..หลวงปู่เผือก...ยิ่งหลังจาก..ปี..๒๔๘๕....ท่านยิ่งดัง
..กิจนิมนต์..เยอะมากแทบไม่มีเวลาว่าง...รวมถึง..คิวที่ต้องไปทั้ง
..ปลุกเสกเดี่ยว...และ..ร่วมพุทธาภิเษกพระ..ในที่ต่างๆ.........
.............แต่เมื่อถึง..วาระนี้...คงต้อง..ขอความกรุณา..จาก..ท่านทั้ง
สอง.....เนื่องจาก..หลวงปู่เผือก..ที่วัด..ก็มีการออกวัตถุมงคล.....
..หลายรูปแบบ..หลายครั้ง..มีประสพการณ์ด้านนี้มาก...คงช่วยได้มาก
..(..จะสังเกต..จาก..เหรียญหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ๋....หลวงพ่อโต
วัดยาง..อ่อนนุช...ท่านก็ไปช่วยมาหมด)....ท่านจึงออกเดินทางไปหา
หลวงปู่เผือก..ก่อน....
....เอาละครับ..วันนี้..ก็พอไว้ก่อน....ไว้ต่อคราวหน้า.......
.....ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอด..........สวัสดี

 

............ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน........................................
.............................เชืญ...........................................................
..........หลวงอาดี...........ก็เดินทางไปหา..หลวงปู่เผือก..แล้วก็แจ้งวัตถุ
ประสงค์ให้ท่านทราบ.......หลวงปูเผือกท่านก็ยินดี..เพราะเคยบอกกับ...
หลวงอาดี..ไว้แล้วหลังงานศพ..อาจารย์สิน..ว่า..มีอะไรให้ช่วยก็บอกมา
ได้เลย....ท่านก็บอกว่า..ควรให้มีวัตถุมงคลให้หลากหลายแบบหน่อย...
...เพราะ...แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน....ตอนปี..๒๔๘๕..ท่านทำหลาย
แบบ..แต่ทำแจก..ทั้งพิมพ์สมเด็จ...พิมพ์สี่เหลี่ยมรัศมี(..คล้ายๆขุดสระ..)
..พิมพ์สามเหลี่ยมรัศมี..พระกริ่งพระพุทธชินราช(อันนี้..ท่านให้...หลวงอา
ดี..มา...แล้วตอนหลัง...ท่านก็เอามาให้..พ่อผมต่ออีกที)............
......ซึ่งเมื่อ..หลวงปู่เผือกแนะนำมา...หลวงอาก็เห็นดีด้วย.....ซึีงท่านก็
จะให้ลูกศิษย์ที่เคยงาน..มาให้คำปรึกษา...เพิ่มเติม..ทั้งรูปแบบ...วัสดุที่
ใช้....ตกลง.....ท่านก็จะทำ..ทั้งเหรียญ...พระผง...พระกริ่ง....ซึ่ง..พระกริ่ง
...ท่านตกลงจะใช้...วิธีปั๊มพ์แทนที่จะหล่อ...แบบ..ของหลวงปู่เผือก.....
............สำหรับพระผง...หลวงปู่เผือกท่านอาสา...จะจัดการเรื่องผงให้..
......โดยใช้ผงพุทธคุณของหลวงปู่เผือกทั้งหมด ขนไปที่วัดบาง
ด้วนนอก...แล้วไปผสมกับส่วนผสมที่จะขึ้นรูปเป็นพระ..พิมพ์...ให้
หลวงอาดี..กำหนดเอง.....ทำกันที่วัดบางด้วน...ส่วน..เหรียญกับ
พระกริ่ง...ท่านจะมอบ..แผ่นโลหะที่ท่านจารให้ไปหลอมรวม...
เป็น..โลหะที่ืใช้ในการปั๊มพ์..............แล้วหลวงปู่เผือกก็ให้.........
หลวงอาดี..ไปติดต่อ..และเลือก..พระอาจารย์ที่มาร่วม...ทำพิธี
ปลุกเสก...เอง..โดยท่านรับเป็น..ประธานในพิธีให้............
.........................หลังจากไปหาหลวงปู่เผือก...ท่านก็ไปหา..หลวงพ่อ
บุตร.....ไปเล่าให้ท่านฟัง..รวมทั้งเรื่องที่ไปปรึกษาหลวงปู่เผือกด้วย....
...หลวงอาดีก็ขอนิมนต์..ให้หลวงพ่อบุตรไปรว่มปลุกเสกด้วย...และปรึก
ษา..กับ..หลวงพ่อบุตร..ว่า..ลำพัง..ทำแต่เหรียญตัวเอง...คงไม่น่าสนใจ
...ท่านเองไม่มีชื่อเสียงอะไร....แต่ตอนนั้น...เหรียญหลวงพ่อบุตร..นี่
เป็นที่แสวงหา...ของคนปากน้ำ..เพราะขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเหนียว...
...เลยขออนุญาต..ทำเหรียญรูปท่าน..ในงานนี้ด้วย...หลวงพ่อบุตรก็ตอบ
รับด้วยความยินดี...โดยให้ทั้ง..บล็อกเหรียญและเหรียญท่านไปเป็นต้น
แบบ..และก็จะช่วยจารแผ่นโลหะ..ไปรวมกับ..ของหลวงปูเผือก...
เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในโลหะที่จะทำ..เหรียญ..และ..พระกริ่ง.........
.........จากหลวงปูเผือก...คราวนี้ก็ถึง...ญาติผู้พี่ท่าน..หลวงพ่อ
เผย วัดบางหญ้าแพรก...ก็ไปนิมนต์มาร่วมอีกองค์..และจะมอบ...
..แผ่นโลหะจารมาร่วมด้วย........หลวงพ่อเผยนี่สนิทกับ..เจ้าคุณศรี
วัดสุทัศน์ ...เคยนิมนต์ท่านมาเป็นประธาน..และ..เจ้าพิธืในงาน
หล่อพระกริ่ง..ของ..วัดบางหญ้าแพรก..และ..เป็นกริ่งหลัก..ของ
เมืองปากน้ำ..ในปัจจุบัน...ร่วมกับ..กริ่งวัดแหลมฟ้าผ่า.........
...............เอาละครับ.......วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน..............
.....มาว่า..เรื่องการทำพระ..เลือกพิมพ์...กันในตอนหน้า.......
..........ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกัน....ขอบคุณครับ.........
..........................สวัสดี........................................

 

..............ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามกันมาตลอดครับ...............
....................................ต่อเลย................................................
........ท่านไม่ได้เล่า..รายละเอียดถึง...ว่ามีหลวงพ่อ...กี่องค์...ที่เข้าร่วม
ในการจารแผ่นโลหะ..และ...ปลุกเสก..ในพิธีีนี้...เพียงแต่เอ่ย..อยู่แค่ ๓
...ไอ้ผม..ก็ไม่ได้ซักท่านในรายละเอียดส่วนนี้...เพราะท่านก็จะเล่ายาวไป
เรื่อยๆ...ผมก็แค๋....แล้วเป็นยังไงต่อครับ....ครับ...เมื่อวานที่หลวงอา
..เล่ามาถึง......ตกลงเป็นยังไงต่อครับ...เหรอครับ...............
......ฉะนั้น...รายละเอียดบางส่วน..ก็หาย....................
..............หลังจากนั้น..ท่านก็เล่าว่า...เหนื่อยจริงๆ...ไม่เคยทำงาน
ใหญ่..ขนาดนี้มาก่อน...ก็บอกบุญชาวบ้าน...ที่มีฝีไม้ลายมือเรื่องช่าง
...........ให้มาช่วยกัน..แกะพิมพ์พระ......ไอ้พวกแรงดีให้มาช่วยกดพระ
....มากวนผสมเนื้อพระ (พวก บางด้วน บางหมู บางโปรง วัดสวนส้ม..
.ละแวกรอบๆวัด..............นี่สบายมาก....ทั้งหนุ่มน้อย...หนุ่มมาก...
ส่วนใหญ่ ก็ สวนมะัพร้าว...ขึ้นมะพร้าว..ทั้งเก็บลูกมะพร้าว...ปาดจั่นมะ
พร้าว...เก็บน้ำตาล....กวนน้ำตาลปึก....มือแข็ง..ข้อแ็ข็ง..แทบทั้งนั้น..)
..............ก็ไปบอกต่อๆกัน....ส่วนใหญ่ก็รับปากกัน...แต่ไอ้พวกมีฝีมือ
ต้องมาก่อน...หลวงพ่อเองก็...เอารูปแบบ..พระสมเด็จเป็นหลัก...ใครมี
ฝีมือออกแบบ..ก็ว่ากันเลย..(เฉพาะพิมพ์..สมเด็จ..ก็..เป็น..ร่วมๆสิบพิมพ์)
ยัง...มีแบบ สามเหลี่ยมด้วย...........
........แต่มีอยู่พิมพ์..หนึ่งที่..ท่านระบุแบบเอง..คือ..พิมพ์หลวงพ่อ
ปาน ขี่นก.......(ผมเคยเปิด..ดูใน WEB ซื้อ-ขาย..พระหลายแห่ง...
ส่วนใหญ่..จะบอกว่าพิมพ์นิยม..หายาก..คือ..พิมพ์แขนบ่วง....แต่ถ้าไป
ถามพวกเล่นพระ..แถวบางด้วน..เขาจะรู้กัน...เพราะได้รับเรื่องมาจากรุ่น
ปู่-ตา..ว่าของทีเด็ด...และมีน้อยจริงๆ..คือ พิมพ์ที่ผมพูดถึง..ผมไม่เคย
เห็นพิมพ์นี้ ใน NET เลย)...ท่านขอสร้างพิมพ์นี้ ๑ พิมพ์..เพื่อ.เป็น....
อนุสรณ์..ถึง..อาจารย์ของท่าน..เพียงแต่..สร้างเป็นเนื้อผง(หลวงปู่เผือก)
แทน...โดยให้..ผู้แกะดูจาก..ของจริงของท่าน(ก็ องค์ที่ท่านไว้ใช้ทำ...
น้ำมนต์..นั่นแหละครับ)..วาดรูปไว้(ไม่ทิ้งไว้ให้ดูเดี๋ยวหาย)....ผมได้มา
๑ องค์ด้วยความกรุณาของหลวงอาดี...ขนาดจะใหญ่กว่า..พระสมเด็จ
หน่อย..แค่คล้ายๆครับ..ไม่ได้หล่ออะไร...แต่พอดูออกว่า..ได้inspiration
(แรงบันดาลใจ...ขอฝรั่งหน่อย..มันดู..หรูหราดี..)มาจาก..หลวงพ่อปาน
..ขี่นก(แต่อย่าถาม..ว่า...นกอะไร..ไม่ทราบครับ)......................
..................................................................................................
.........ส่วน.เหรียญของท่าน...ถึงคราวได้ตำแหน่ง..พระสมุห์..ก็ใช้ซะ
ท่านก็..เอารูปใน..สูจิบัตรพระของท่าน....ส่วน..ด้านหลัง...ท่านก็ยัง
...อยากจะใช้คาถา..ของพระในดวงใจท่านองค์แรก..หลวงพ่อแช่ม
..วัดฉลอง เหมือนเมื่อใช้..ในเหรียญงานศพ อาจารย์สิน....
..พระอะระหังสุคคะโค ภะคะวา นะเมตตาจิต...เหมือนเดิม....
.......ผมถามท่านว่า..ทำไม..ไม่ใช้ ยันต์เกราะเพชร...หรือ...ยันต์ทอ
......ท่านบอกว่า..ไม่อยากวัดรอยเท้า..อาจารย์...เพราะด้านหน้าเป็น
รูปท่าน..(ก็จริงครับ...ท่านทำเหรียญในสมัยที่ผมบวชอยู่...เพื่อที่ท่าน
จะได้ลง..ยันต์เกราะเพชร..และ..ยันต์ทอ..ให้เต็มสูตร...ด้านหน้าท่านจึง
ใช้รูป...พระประธานในโบสถ์แทน...)
.................ส่วน..เหรียญหลวงพ่อบุตร..ก็เหมือนต้นแบบ..เลยทั้งหน้า
หลัง..ยกเวนแต่ไม่เขียนปีที่...สร้าง..แบบเหรียญดั้งเดิม...........
.....................พระกริ่งนี่..สวย..และ..แปลกกว่าเพื่อน...เพราะ..ขนาด
กระทัดรัด...รูปแบบก็ไม่เหมือน..กับพระกริ่งอื่น...ถือทั้ง..พัด..และ...
หม้อน้ำมนต์.....ก็ได้ลูกศิษย์หลวงปู่เผือก...ที่ท่านส่งมาช่วยเป็นธุระให้
.........................................................................
..............ยังมีขบวนการช่วงการพิมพ์พระผงกันอีก..เกือบลืมผมข้ามขั้น
ตอนที่หลวงอาดีไปรับแผ่น..จาร..จากทั้ง..๓(หรือ..มากกว่านั้น) องค์
...ท่านก็ไปรับด้วยตัวเอง...เพราะ..เป็นการให้เกียรติ...แล้ว...ก็รวมกับ
...แผ่นโลหะที่ท่านจาร..และปลุกเสกเองด้วย...เมื่อรวบได้ทั้งหมดจึง
ไปนำส่งที่...โรงงานที่ เสาชิงช้าเพื่อหลอมรวม...โดย..หลวงอาดีได้
ไปทำพิธีนำ แผ่นจารทั้งหมดไปหลอมด้วย..........
....................ก็ไว้ต่อ..กันตอนหน้า..นะครับ............
....เป็นการนำผงของหลวงปู่เผือกมา...วัดบางด้วนเพื่อขั้นตอน
การพิมพ์พระผง.......................................................
..................................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม...................
..........ขอบคุณ..ครับ..................สวัสดี

 

......ขอบคุณครับทุกท่านที่ติดตามกัน..............................................
................เข้าเรื่องเลย........................................
...ก่อน..จะเริ่ม..พิธีปลุกเสก...ยังมีเรื่องใหญ่ที่จะต้องทำ....คือ...การพิมพ์
พระ....เริ่มจากที่ลูกศิษย์ที่เชียวชาญในการผสมผงเพื่อทำพระ..พร้อม
ผงวิเศษ(ผงนี้..ก็..เป็น ผงชนิด.. เดียวกับ..ที่หลวงปู่เผือก..ท่าน..ทำ..
..พระพิมพ์ขุดสระ...พระพิมพ์ชุด ๒๔๘๕ ...ที่เป็น..ธรรมดาที่..ท่าน
จะต้อง..ลบผง..ปลุกเสกผง...ไว้เรื่อยๆตลอดเวลา....เมื่อคิดจะทำ
พระ..ก็เอาออกมาใช้ได้เลย)...รวมถึง....อุปกรณ์บางอย่างที่จำเป็น..
..เช่น..น้ำมันตังอิ้ว..ปูน...เรียกว่า...ครบเครื่อง...ใส่เรือ...มาตั้ง...โรงงาน
ผลิต(ว่างั้น..เถอะ)..กันที่วัดบางด้วนนอก.................
............เมื่อมาถึง........ท่านผู้นี้..ก็เป็น..แม่งาน....ทั้งตรวจสอบ..พิมพ์
..ที่ทำไว้..ว่า...ใช้ได้ใหม..จะต้องแก้ยังไง...แบ่งงาน.จะใช้กี่คน..มากวน
ส่วนผสม..ผลัดกันเมื่อไหร่...ใช้กี่คนในการกดพิมพ์......จะต้องทิ้งไว้นานเท่าใดถึง..จะแกะพิมพ์ได้.............
...........หลวงอาดีท่านบอกว่าใช้เวลาอยู่...หลายวัน...จึงแล้วเสร็จ
ไหนจะต้อง..ผึ่งพระให้แห้ง...อีก..แต่ท่านบอกว่า..แม่งานของ...หลวงปู่
เผือกนี่..เก่ง..และชำนาญ...เพราะ..การผสม...เนื้อพระ..ออกมา...เมื่อ
..แห้ง..สมบูรณ์แล้ว..เนื้อพระ..แกร่ง..และ..เหนียว..ด้วย..คือ..ไม่แตกหัก
ง่ายๆ....พระชุดนี้จะมีเอกลักษณ์...อย่างหนึ่ง..นอกเหนือที่จะเหมือน..กับ
..พระของหลวงปู่เผือกทั่วไป..แต่จะมี..ว่านดอกมะขาม..มากกว่า.....
.......แต่..เนื่องจากเป็นการทำ..ครั้งแรก..ของชาวบ้าน..ข้อผิดพลาดก็มี
พอสมควร...เนื่องจากส่วนใหญ่จะมาจาก..ใจร้อน..พระทิ้งไว้ยังไม่แห้ง
พอที่...จะ..แกะ..ออกจากพิมพ์..ก็เอาออกมาซะก่อน..ก็เลยเกิดการชำรุด
....จาก..ร้าวบ้าง...พระบิดบ้าง....แต่ที่เป็นชุดแรกๆ..ก็..จะบด...แล้วไปเข้า
ผสมใหม่(เพราะ..เห็นได้ตั้งแต่...เริ่ม..ผึ่ง..ใหม่ๆ)...แต่ชุดท้าย..ไม่มีผสม
ใหม่แล้ว..ถึงชำรุด...หลวงอาดีก็..นำเข้าพิธีทั้งหมด...........
..............ก็ได้มา..จำนวนทั้งหมด...หลายพันองค์...แต่ท่านจำไม่ได้
...ที่เหลือจาก...ทำบุญ..ท่านก็เก็บไว้ในกุฎิหมด...เอาไว้ทยอย..แจกไป
เรื่อยๆ..หลังจากนั้น...ไม่ได้จำหน่ายแต่อย่างใด....แจกลูกเดียว........
......................................................................................................
...............ในวันพิธีปลุกเสก...ก็มีคนมามากมายแน่นวัด...เพราะจะได้
เห็น..อาจารย์ที่มีชื่อเสียงของ..เมืองปากน้ำ..มารวมกัน...และอีกอย่าง
ก็ถือว่าเป็นมงคล..กับตัวเอง..ที่ได้ร่วมพิธีปลุกเสก....การปลุกเสกก็ทำ
กันในโบสถ์..ตามธรรมเนียมโบราณ...เพราะการประกอบสังฆกรรมทั้ง
หลาย..ในขอบเขตพัธสีมา...ย่อมศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว.....ส่วนที่เล่า..กัน
ว่า..ขณะปลุกเสก..โบสถ์ลั่น..โบสถ์สะเทือน...อันนี้ผมไม่ทราบ....เพราะ
หลวงอาดีไม่ได้เล่าให้ฟัง...หลวงปู่เผือก.ท่านเป็น..ประธานในพิธี
...ก็มี หลวงพ่อบุตร หลวงพ่อเผย...ที่เหลือไม่ทราบ..แต่ที่ขาด
ไม่ได้ก็...เจ้าภาพ..หลวงอาดี..ร่้วมปลุกเสกด้วย...
................................................................
.......................หลังจากปลุกเสก..เสร็จ...หลวงปู่ หลวงพ่อ..ที่มาร่วม
ก็ขึ้นไปพักที่ ศาลาการเปรียญ...คราวนี้..ก็ค่อนข้างโกลาหล.......
...เพราะ..ชาวบ้านทั้งหลายก็..แห่กันมา..ขอของดี...จากอาจารย์แต่ละ
ท่าน....แต่ก็ไม่ได้ไปทุกคนหรอกครับ....ที่แน่ๆที่ได้รับ..ก็..น้ำมนต์..ไง
ครับ....แค่นี้ชาวบ้านที่มาร่วมทั้งหมด...ก็ไม่เสียเปล่าแล้ว......
.............................................................................................
..............วันนี้ก็..ขอพักไว้ก่อน.....ไว้มาต่อกันตอนหน้า...........
........ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม...ขอบคุณครับ...................
.......................สวัสดี...................................................

 

ติดตามอยู่ครับ คุณพี่ เขียนหนังสือ ชั้นครูจริง ๆ

 

...........ขอบคุณครับ..คุณNUT1663...ที่ชมและให้กำลังใจ...รวมถึงติด
ตามอ่าน....อีกทั้งผู้ที่ติดตามอ่านทุกท่าน............มารับทราบกันต่อครับ
.................................................................................................
.....................หลังจากงานพิธี...ชาวบ้านก็มาทำบุญรับวัตถุมงคล......
..........ซึ่งได้เงินมา..ซ่อมโบสถ์...อีกทั้งได้เริ่มสร้าง..โรงเรียนปริยัติธรรม..
...ผมจำไม่ได้ว่า..โรงเรียนสร้างตอนไหน...แต่ก็ได้การอนุเคราำะห์.....
จาก...หลวงอาดี..ตลอดชีพท่าน........ท่านเริ่มสุขภาพไม่ดีมีโรคประจำตัว
ที่ท่านบอกผม...ว่าได้มาจากผลกรรมของผู้ที่ได้รับควายขัดจากท่าน...
..แล้วไม่ได้ทำ..ขวัญข้าว..ดั่งที่..เคยเล่าไปแล้ว..ที่ทำให้ท่านแย่..คือ...
..โรค..คันทั้งตัว..แบบไม่มีสาเหตุ...ไม่ใช่เิกิดจากภูมิแพ้...เพราะมีลูกศิษย์
พาไปหาหมอ..หลายๆโรงพยาบาล...หลวงอาดีก็บอก..เขา่ว่าไม่ต้องพา
ไปหรอก(เพราะท่าน..รู้ว่าไม่หาย)..เกรงใจต้องลำบากพาไป...ยังเสียเงิน
..อีก......แต่ลูกศิษย์ที่เคารพท่าน...ก็ยืนยัน..ท่านก็ต้องยอม........
...................แต่เรื่อง...สิ่งที่ท่านต้องปฏิบัติเพื่อศาสนาและชาวบ้านท่าน
ก็ไม่ได้ขาด...ทั้งเรื่อง..ยา..ของท่านก็ทำกันทุกปี...ส่วนใหญ่..จะเป็นช่วง
ในพรรษา..เพราะพระที่จำที่วัด..จะ..มากหน่่อย...ได้มีแรงงานของตัวเอง
......จะได้พึ่งชาวบ้าน..น้อยลง..เพราะ..ชาวบ้านเองก็ต้องทำมาหากิน...
.............................ช่วงปี..๒๕๒๓-๒๔ วงการพระ..บูมมาก...หนังสือพระ
รายเดือน..เกิดขึ้นมา..หลายๆฉบับ....ปรากฎ..ว่ามี..อยู่..๒..ฉบับ..ทราบมา
..ว่า..ท่าน..เป็นลูกศิษย์..หลวงพ่อปาน...ก็.ถ่อ..มาถึงวัดด้วยความลำบาก
..เพื่อ..จะหวัง..สัมภาษณ์..ท่าน..และสอบถามประวัติ..เพื่อเอาไปลง....
..หนังสือ...แต่หลวงอาท่าน..ก็ขอตัว..ไม่ให้สัมภาษณ์..โดยบอกว่า..
อยากอยู่แบบ..สงบ..ไม่อยากดัง...พวกหนังสือก็...พยามยามตื้อ...โดย
บอกว่า...ถ้าท่านได้ลงหนังสือ...ก็จะมีคนรู้จักอยากมาหามากขึ้น....
...สร้างวัตถุมงคล..ก็จะได้เงินมา..บำรุงวัดได้มากขึ้น...ท่านก็บอกว่า..
..ไม่เป็นไรหรอก...ก็อาศัย..กฐิน..ผ้าป่า..ไปธรรมดาอย่างนี้..เป็น..ปกติ
ดีกว่า..........นั่น..ก็เป็นสาเหตุ..หนึ่งที่ทำให้..ไม่ค่อยมีใคร...รู้จักท่าน...
.......................................................................................................
.................ความจริง..ของดีๆปากน้ำ...มีไม่น้อยที่..คนไม่รู้จัก....
...นอกจากในวงการจริงๆ......ตอนนี้..ผมขอยกให้..พระ..ที่ปากน้ำบ้าง
๑. เหรียญ สมุห์ขิง วัดกลาง เป็นเหรียญ...แจก.งานศพ
ท่าน...ผู้ปลุกเศกคือ....สังฆราช แพ..วัดสุทัศน์..เพราะ..ท่านนับ..ถือ
สมุห์ขิง..เป็นการส่วนตัว............
๒. มหาอุตต์ ของ ปลัดทองดี วัดกลาง...นี่ถ้า..นับ..จริง
...นับจาก มหาอุตต์..ท้ายย่าน..ของ ชัยนาท ของปลัดทองดี..จะ
มีอายุการสร้างที่..เก่าแก่ที่สุด...เพราะท่าน..เป็น..พระที่มีชื่อเสียง
ตั้งแต่..สมัย ร.๓ มา มรณภาพในสมัย ร.๔ อายุการสร้าง..มากกว่า
..๑๖๐ ปี.......
๓. อันนี้..นักเลงพระปากน้ำ..ปกปิด..กัน...เพราะถือเป็น
..ของสำคัญ..คู่ปากน้ำ...นั่นคือ.....พระทรงพล..หลัง.จารยันต์...
ของ..หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า..กรมหลวงชุมพรฯ..ขอ
ท่านสร้าง..เป็นพิมพ์พิเศษ..และปลุกเสกเป็นพิเศษ...เพื่อเอามา...
...แจก..ทหารเรือ...โดยนิมนต์..หลวงปู่..มาแจกเอง..ที่วัดมหาวงษ์
ข้าง..โรงเรียนนายเรือ....ลักษณะ...เป็นพระตะกั่วผิวฉาบปรอท
ทรงพระนั่ง..และเอามือวางข้างตัก..ทั้งสองข้าง..นั่งบน..ฐานบัว
๒ ชั้น..หลังหลวงปู่ท่านจารเองทุกองค์.......
๔. ลูกกันภัย..ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย...โดย
เอา..ลูกไม้..ของ..ต้นกันภัย (ไม่ใช่ที่มีขายที่..จตุจักร..นะ..ครับ
...เป็นไม้ยืนต้น..ที่มีลำต้นยาวเลื้อยขดไปมา..แต่มีหนามแหลม
มี...ลูกกลมเปลือกแข็งสีแดง...ใกล้สูญพันธ์แล้ว...ขนาดเส้นผ่า
ศูนย์กลาง..ประมาณครึ่งนิ้ว)..เอาเนื้อในออก..แล้วท่านจะจารและ
ลงอักขระใน..กระดาษสา..ม้วนใส่ใน..ลูกกันภัย..แลัว..อุดด้วย
...ครั่ง........สรรพคุณ.ก็..ตามชื่ิอ..เลย
...................เอาละครับ.......วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย.......
......หวังว่าคงไม่เบื่อนะครับ....ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม.............
..............................สวัสดี.......................

 

............ขอบคุณทุท่านี่ได้ติดตามกัน............................
.................เมื่อปี ๒๕๒๕ ผมก็ได้บวชที่..วัดบางด้วนนอก...โดยมี
หลวงอาดี..เป็นพระอนุสาวนาจารย์....พอดี...ที่หลวงอาดี..กับ...ผม
..เหมือนกันอย่างหนึ่ง..คือ...นอนดึก..เรียกว่า...ร่วม..ตี ๑ ถึง จะจำวัด
ผมเอง..เป็นคนที่..สนใจประวัติศาสตร์...และ..ไสยศาสตร์...ก็จะคุยกับ
ท่านทุกคืน...ผมบวชที่ี่นี่ตรบ ๑ พรรษา ก่อน..เข้าพรรษา ประมาณ
๒ อาทิตย์...และสึก..หลังออกพรรษา ประมาณ ๒ อาทิตย์..เหมือนกัน
...ก็เลยได้อยู่กับ..หลวงอาดี........ร่วม ๔ เดือน...คุย..กันแทบทุกคืน
....ก็ได้มีโอกาศ...ร่วมทำ.ยาคุณพระ...และ..จะอยู่..เวลาที่ท่าน.....
..ปลุกเสก.ทำน้ำมนต์...ทำกระแจะ..สำหรับเจิม...ปลุกเสกเหรียญ
หลวงพ่อพระประธาน...หลังยันต์ทอ..และ..ยันต์เกราะเพชร.....
....................ถึงแม้ท่า่้นแทบจะลุกเองไม่ได้..จะต้องพยุงตลอด
...เวลามี..ผู้เดือดร้อนมาหา...ต้องปลุกน้ำมนต์เดี๋ยวนั้น...ต้องเจิม..กัน
เดี๋ยวนั้น....แทบจะต้องอุ้มท่านไปเจิม..ท่านก็ไม่เคยปฎิเสธ...ผมเอง..
ยัง..อด..โกรธไม่ได้..ว่า..ไอ้คนขอให้ท่านช่วย..มันไม่ได้ดูสภาพท่าน
..เลย..ว่า่ท่านป่วยขนาดไหน...ก็ยังไม่วายทรมานท่าน...ผมเห็นหลวง
พ่อคูณแล้ว...ก็คล้ายๆหลวงอาดี....สรุปแล้วที่มาวัด..นั้นไม่ได้บุญ..
..ได้บาปไปแทน..........................
ในช่วง..ระหว่างผมบวช..มีลูกศิษย์ท่าน..หลายคน..ที่เป็นกลุ่ม
จา่ก...ตลาดสำโรง...มาคุยกับท่าน..ว่า..หลวงอาดีน่าจะทำ...เหรียญ
รุ่น ๒ ได้แล้ว...เพราะเวลา..ผ่านมาร่วม ๓๐ กว่าปี...บรรดาพวกที่มาก็
ก็ทราบว่า ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน...ก็อยากให้ท่าน..ใช้ยันต์เกราะเพชร..ไว้หลังเหรียญด้วย....แต่ท่านบอกว่า..จะใส่..ยันต์ทอ..ยันต์
เกราะเพชรได้..แต่ท่านจะไม่ใช้รูปท่านอยู่ด้านหน้า...ท่านบอกว่า..ไม่
อยากเทียบอาจารย์...ท่านเองบอกว่า..หลวงพ่อพระประธานในโบสถ์
น่ะ..ศักสิทธิ์นะ..ใช้รูปท่าน..ด้านหน้าดีกว่า....แต่ที่แปลก..ท่านบอก
ว่าจะไม่ใช้..ชื่อที่เหรียญเป็น..พระสมุห์ทองดี..เหมือนเดิม....
ท่านให้ใช้ว่า " ท.ม.ท. " แทน...พวกลูกศิษย์..งง..กันใหญ่
...พอถามท่านหมายถึงอะไร..ท่านก็ไม่บอก...ท่านบอกว่าถ้าจะให้
ทำ..ก็ต้องทำแบบนี้...พวกลูกศิษย์จนปัญญาต้องยอมท่าน...ก็กลับ
ไป..เขียน..ร่างรูปแบบมาให้ท่าน..ดู..จนพอใจ......จึงกลับไป..
ดำเนินการต่อ.................
..............วันนี้..ก็คงพอแค่นี้นะครับ...................
.............ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามกันมา........
........................สวัสดี..............

 

.....ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน........ขอบคุณจริงๆ.....แต่เดิม
ผมนึกว่ามีคนอ่านไม่มาก..เพราะหลวงอาผม..ไม่มีชื่อเสียงอะไร..ขนาด
พวกเล่นพระ..สมัยก่อนสนามพระปากน้ำ..อยู่ในตลาดข้างศาลเ้จ้า(ศาล
หลักเมืองเก่า)...แทบไม่มีใครรู้จัก...ตอนหลังมีคนรู้จักบ้าง..ก็เพราะ....
อาณิสงฆ์..ของหลวงปู่เผือก.....แต่นั่นก็เป็นประสงค์ของท่านอยู่แล้ว....
.....เหมือน..ที่เหรียญรุ่น ๒ ของท่าน...แทนที่..จะใส่ชื่อ....เหมือน...ที่
หลวงพ่ออื่นทำกัน......ก็ทำให้เป็น...ปริศนา........................
................หลังจากทางลูกศิษย์..ทำเหรียญมาส่งให้ท่าน...เรียบร้อย
แล้ว....วันที่ท่านจะทำการปลุกเสก....่ท่าน..ให้เอาเหรียญทั้งหมดใส่...
กระจาด..ทำไม่เยอะหรอกครับ...ซัก ๒๐๐๐ องค์ ผมว่าไม่เกิน...เหรียญ
...ไม่มีการใส่กล่อง.....คืนนั้น...มีการบอกพระ..ทุกองค์ในวัด(มี..พระลูก
วัดอยู่..๖ องค์..เอง)หลังเทียงคืน..ไม่ต้องส่งเสียงเอะอะ...หลวงพ่อจะ
ปลุกเสกพระ..ก็..เหมือนเคย..ผมฐานะ..พระหลาน..และค่อนข้างจะเป็น
เรื่อง..กว่าเขาหน่อย..ก็อยู่กับท่าน..๒..องค์..ผมช่วยยกโน่นนี่..พวกของ
จำเป็นทั้งหลาย..และท่านก็ให้ไปตัก..น้ำฝนอย่างเคยจากตุ่ม..เอามาใส่
บาตรเพื่อทำ..น้ำมนต์อย่างเคย..ท่านเอา..สายสิญจน์..วนรอบ..กระจาด
ใส่เหรียญ..และให้...สายสิญจน์..ไป..วางวนแปะสัมผัส...น..เหรียญด้วย
...วิธีการ...ก็จะเิริ่มแบบทำกระแจะ..และ..น้ำมนต์(ผมเคยเล่าไป..หลาย
ตอน..ก่อนหน้านี้)...หลังจากที่..ท่านปลุกเสก..ทั้ง..๒..อย่างแล้ว..ก็เริ่ม
..ขบวนการ..ปลุกเสกเหรียญ.................
........เริ่มจากที่ท่านหันกลับไปที่..โต๊ะพระ...ผมเห็น..ว่าท่าน...จ้องมอง
ไปที่รูป..อาจารย์(หลวงพ่อปาน โสนันโท)ซักพักท่านก็หลับตาลง
(มือท่านพันสายสิญจน์..ที่..โยงไว้กับ..ทุกอย่าง)..ท่านบริกรรมอยู่นาน.
..ผมลืมบอกไปว่า...ตามปกติ..ท่านจะใช้แผ่นดินสอพอง..ลงยันต์
ทอ..บนนั้น...แค่แผ่นเดียว..แต่ครั้งนี้..ท่านใช้แผ่นดินสอพอง...
เพิ่มมาอีกแผ่น...แต่ท่านไม่ได้จาร...ท่านประคองแผ่นดินสอพอง
....แล้ว.บริกรรมคาถา...เป็นเวลานาน..พอสมควร..แล้วท่านก็....
..เป่าลมยาวๆ....(ผมเข้าใจ...กรรมวิธีนี้..น่าจะเป็นการเป่า
ยันต์เกราะเพชร..โดยใช้ นะปัดตลอด..ส่งยันต์เกราะเพชร..เข้าสู่
แป้งดินสอพอง...เพราะ..ครั้งนี้..เหรียญ..มี ยันต์เกราะเพชร..
...ประทับ..อยู่ด้านหลัง..และเป็นครั้งแรก..ของท่านด้วย)..แล้ว
ท่านก็..บิ..แผ่นดินสอพอง..ลงรวมกับ..แผ่นยันต์ทอ..ก่อนหน้านี้
ในบาตร....
หลังจากนั้น..ท่านก็หันกลับมา..หยิบ..กระแจะมาแตะไปทั่วๆ....
..เหรียญ..บนกระจาด...แล้วท่านก็บริกรรมไปด้วย......
............เสร็จแล้วท่าน..ก็..หยิบที่..พรม..น้ำมนต์...จุ่มวนในบาตรพร้อม
บริกรรมตามแบบของ่ทาน...แล้วเอาขึ้นมาประพรม...บน...เหรียญทั้ง
หมด....เสร้จแล้ว..ท่านก็มาจับขอบ..กระจาด..ปลุกเสกอีกครั้ง....
........เป็นเสร็จพิธี....ก็เกือบ...ตี ๓ ผมก็เลยไม่ต้อง...จำวัด...เพราะ
..ตี ๔ ต้องไป..ตีระฆัง..บนหอระฆัง...แล้วก็..เปลี่ยนไป..ห่มมังกร..
...เตรียม..บิณฑบาต..ต่อไป..............................
...ไม่ต้องแปลกใจเลย...ที่เหรียญรุ่นนี้..จะมีร่อง..รอย..กระแจะ
..และน้ำมนต์..ผสมดินสอพองเสก...ตามแบบ..ของท่านเต็มไปหมด
..................................................................................................
........................เอาละครับ..วันนี้ก็สมควรแก่เวลา..ขอพักผ่อนกายา
.....เสียหน่อยครับ........
........ขอบคุณทุกท่านที่..ติดตามอ่านกัน..เรื่อยๆ..ขอบคุณครับ....
.............................สวัสดี...........................

 

มาติดตามอ่านครับ

ขอบคุญครับที่เสียสละนำเรื่องราวดีๆๆ มาให้รับชมกัน

 

............ขอบคุณครับ......คุณnu_wa...ที่ติดตาม..มาตลอด..และให้กำลัง
ใจ...รวมกับทุกท่านที่ติดตามกันตลอดด้วย..................................
.......................................................................................................
..................ผมถาม..หลวงอาดี..ว่า..ท.ม.ท....ที่บนเหรียญ(ท่านไม่บอก
ใคร..ก็ไม่ทราบว่าทำไม)...ท่านก็บอกว่า..ย่อมาจาก...ชื่อ-นามสกุล..ของ
พ่อของท่าน....เทียน ม่วงทอง.....ซึ่ง..ตัวย่อ...เหมือนกับ.............ของ
ท่าน...ทองดี ม่วงทอง...ผมแอบขำ..ในใจ..ว่างานนี้..ท่านมาแปลก....
.....จริงๆในใจ..ท่านคงทำ..เพื่ออุทิศถวาย...ให้พ่อของท่าน...ร่วมกัน...
...วันที่..คนมาทำบุญกัน...ใครทำไม่ทำ..ท่านแจกหมด...ตามสไตล์ท่าน
...คนที่ได้...เหรียญไปก็..งง...ทำไมเหรียญ..เขรอะเลย...ใหม่ๆแท้ๆ.....
.............ไม่มีกล่อง...แบบบ้านๆ..ขนานแท้...ท่านก็ไม่สนด้วยว่า..เหรียญ
ท่านเลอะ..แต่ผู้ที่ได้อ่านท่านใดที่...มีเหรียญรุ่นนี้..อยู่อย่าไปเอา...
แป้งที่ติดที่..เหรียญออกนะครับ...เพราะนั่น..เป็น..ผงสำเร็จ..ของ
ทั้ง.ยันต์ทอ..และ...ยันต์เกราะเพชร...และเหรียญรุ่นนี้เป็น..เหรียญ
ุ่รุ่นเดียวของท่าน...ที่มีทั้ง...ยันต์ทอ..และ..ยันต์เกราะเพชร..ของ..
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค..อยู่ด้านหลัง.......เพราะหลังจากที่ผมสึก
...ไปแล้ว..ประมาณ ๒ ปี..ท่านทำเหรียญ..รุ่นสุดท้าย...อีกรุ่น...ด้านหลัง
เหรียญ..ท่านกลับไปใช้แบบ..เหรียญรุ่นแรกของท่าน......
............ช่วงท้ายของชีวืตท่าน...โรคประจำตัวท่านก็รุมเร้า....มาก
ขึ้นเรื่อยๆ........จนถึงวาระสุดท้ายของท่าน..................
.............ปัจจุบัน..ที่วัดก็ยังมี...รูปหล่อของท่าน...ตั้งอยู่..คู่กับ
..........อาจารย์สิน.....................
..........................วัดบางด้วนนอก..ก็เจริญขึ้นมาก...ในยุคท่าน
.........ทั้งโรงเรียน...ถนนเข้าวัด....ก็ได้อานิสงค์..จากท่าน..........
...........ชีวิตท่าน...ก็มอบให้กับ...พุทธศาสนา..จนถึงวันสุดท้ายของ
ท่าน......ตามจุดมุ่งหมาย..................
.........................................................................................
........................ผมก็มาถึง...ช่วงสุดท้ายของบทความ...ที่่ผมเอง....
..มุ่งหวังจะถ่ายทอด....บางเสี้ยวของชีวิตของท่าน...พระบ้านนอก...
...ธรรมดาๆที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร....แต่ก็ได้แทรกเกร็ดเล็กน้อย..
....หวังว่าท่านคงจะได้...อะไรบ้าง...ไม่มากน้อย...........
..............................................................................................
..........ผมขอกราบขอบพระคุณ...ทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน
...ตั้งแต่ต้นจนจบ...........รวมถึง..ทุกท่านที่ได้ชม..และ...ใ้ห้..
กำลังใจกันทุกๆท่าน...ด้วย...ความจริงใจแห่ง..จิต...
................ขอบคุณครับ.....................................
............................................สวัสดี...............

 

อ่านไม่เบื่อเลยครับ สนุกมาก

ขอบคณที่ สละเวลา เล่าให้ฟังครับ

 

ขอบพระคุณครับน้า ติดตามอ่านเสมอครับ

 

พระบ้านนอกที่มีวัตรปฏิบัติดี ช่วยเหลือผู้คน น่ายกย่องครับ
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าอีกครั้ง

 

....ขอบคุณ..ครับ..คุณnut1663..คุณtong5959..และ...
..คุณOng...สำหรับ..คำชม..คำให้กำลังใจ...และ..การ
เป็น..แฟนพันธุ์แท้ผม....ทั้ง ๒ กระทู้เลย...ทุกอย่างที่
ส่งมอบให้ผม....ผมซึ้งใจมาก..และรักษา..มันไว้..และ
สัญญา...ว่าจะกลับมา...อีกไม่นาน.....ครับ..

 

........มาcheck....ดูแล้ว...ลืมคุณ KT_PK...ไปคนหนึ่ง...ครับ..ขอบคุณมากๆ
...ที่คุณบอกนี่ละครับถูกต้องแล้ว...ผมตั้งใจจะ...เล่าถึง..การปฎิบัติชอบ...ของ
พระบ้านนอก....

 

ตามมาอ่านค่ะ