ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แผ่นดินไหวแรงเขย่าอิเหนา 6.4 ริกเตอร์ ไม่เตือนสึนามิ

    [​IMG]

    แผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์ ทางภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย แต่เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย และไม่ประกาศเตือนสึนามิ...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 24 เม.ย. ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ บริเวณจังหวัดมาลุกุเหนือ ทางด้านตะวันออกของอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย และไม่ประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

    ทั้งนี้ ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ลึกลงไปใต้ท้องทะเล 30 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองลาบูฮา จ.มาลุกุเหนือ เมื่อเวลา 14.41 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ศูนย์สำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุจุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ทะเล 50 กิโลเมตร โดยแรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ไกลถึงหมู่เกาะใกล้เคียงด้วย อย่างเช่น เกาะเทอร์เนต

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ.2553

    ทอร์นาโดลูกแรกของปี ถล่มมะกันดับ 10 เจ็บอื้อ

    [​IMG]

    แถบตอนกลางของรัฐมิสซิสซิปปี้ ของสหรัฐฯอ่วม!"ทอร์นาโด" พัดถล่มมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 คนรวมทั้งเด็ก 3 คน บาดเจ็บอีกนับสิบคน นอกจากนี้ยังทำให้อาคารบ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง....

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 24 เม.ย.ว่า เกิดเหตุพายุทอร์นาโด พัดถล่มอย่างน้อย 13 เคาน์ที้ แถบตอนกลางของรัฐมิสซิสซิปปี้ ของสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 คนรวมทั้งเด็ก 3 คน บาดเจ็บอีกนับสิบคน ผลพวงจากทอร์นาโด ยังทำให้อาคารบ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง ภาคธุรกิจการค้าหยุดชะงัก ทางหลวงใช้การไม่ได้ โดยยังมีผู้คนไม่มีไฟฟ้าใช้อีกหลายพันคน· เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    ขณะที่ฮาร์เลย์ บาร์เบอร์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี ประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นรับมือภัยพิบัติแล้วหลังเผชิญภัยทอร์นาโดลูกแรกของปี นี้ โดยทอร์นาโด กำลังหันทิศทางมุ่งหน้าไปยังรัฐเทนเนสซี อะลาบามาและเคนตั๊กกี เป็นเป้าหมายทลายล้างต่อไป

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ.2553

    โสมแดงขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์-โสมขาวชี้เรือจมเพราะตอร์ปิโด

    [​IMG]

    เกาหลีเหนือขู่พร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากถูกโจมตีจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ขณะที่รมว.กลาโหม เกาหลีใต้ เผยว่ามีความเป็นไปได้ที่เรือ “โชนัน” จมลงเพราะจรวดตอร์ปิโด...

    25 เม.ย.ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ทวีขึ้นอีก เมื่อนายคิม แต ยอง รมว.กลาโหม เกาหลีใต้ แถลงว่า หนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้มากท่ีสุด ที่ทำให้เรือรบลาดตระเวน “โชนัน” ระวางขับน้ำ 1,200 ตัน ของเกาหลีใต้ ระเบิดและจมลงใกล้น่านน้ำเขตพิพาทระหว่างทั้งสองชาติ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ทำให้ทหารเรือเกาหลีใต้เสียชีวิตและสูญหาย 46 นาย เกิดจากแรงอัดของฟองอากาศที่พุ่งเป็นลำจากจรวดตอร์ปิโดอานุภาพรุนแรง แต่ความเป็นไปได้อื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

    ตั้งแต่เกาหลีใต้เริ่มสอบสวนคดีนี้ นายคิมนับเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ระบุอย่างเปิดเผยว่า เรือโชนันอาจจมเพราะตอร์ปิโด ถึงแม้หลังเกิดเหตุใหม่ๆ เขาเคยชี้ว่าทุ่นระเบิดหรือตอร์ปิโดน่าจะเป็นสาเหตุ แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ยังระมัดระวังไม่กล่าวหาตรงๆ ว่าเป็นฝีมือเกาหลีเหนือ ในช่วงหลังๆ แหล่งข่าวไม่ระบุช่ือหลายแหล่งก็ชี้ว่า แรงระเบิดใต้น้ำคือสาเหตุ ซึ่งพ้องกับผลการตรวจสอบขั้นต้นที่ระบุว่า เกิดจากอาวุธใต้น้ำเช่นตอร์ปิโด ที่ไม่ได้พุ่งชนเรือโชนันโดยตรง แต่ระเบิดข้างใต้เรือ หรือในระยะใกล้เรือมาก

    เรือรบของเกาหลีเหนือและใต้ เคยยิงปะทะกันในน่านน้ำเขตพิพาททะเลเหลืองแล้ว 3 ครั้ง เมื่อปี 2542 และ 2545 และเมื่อเดือนพ.ย.ปีท่ีแล้ว ซึ่งเรือเกาหลีเหนือไฟลุกท่วม ต้องล่าถอยไป แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการจมเรือโชนัน และกล่าวหาว่าเกาหลีใต้คลั่งสงคราม พยายามป้ายความผิดให้ตน

    เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยังยึดทรัพย์สินและกิจการของเกาหลีใต้ ท่ีรีสอร์ทบนภูเขาคึมกัง และเตือนว่าเกาหลีเหนือและใต้อยู่บนปากเหวสงครามเพราะเรื่องนี้ ส่งผลให้นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ แถลงเตือนว่าจะไม่มีการวินิจฉัยผิดพลาดจนนำไปสู่สงครามครั้งใหม่

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 เม.ย. พล.อ.รี ยอง โฮ ประธานเสนาธิการทหารผสมของเกาหลีเหนือ แถลงเตือนผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ว่า เกาหลีเหนือพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ ถ้าถูกสหรัฐฯและเกาหลีใต้โจมตี โดยเกาหลีเหนือจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านและมอบความพ่ายแพ้ให้ศัตรูผู้รุกราน ด้วยหมัดเด็ดเพียงครั้งเดียว รวมทั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ถ้าศัตรูบังอาจล่วงล้ำน่านฟ้า ผืนดิน และน่านน้ำของเกาหลีเหนือแม้แต่มิลลิเมตรเดียว
    พล.อ.รี ยอง โฮ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเวลานี้เลวร้ายมาก เพราะเกาหลีใต้และสหรัฐฯต้องการเปิดสงครามรอบใหม่

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สิ่งที่ผมได้แจ้งข่าวเตือนภัยต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนานนี้ ก็ด้วยมีจุดมุ่งหมายประการเดียวคือ เพื่อให้เพื่อนมนุษย์ได้เตรียมตัว เตรียมใจ รับมือกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ทันเวลา....

    หากผู้อ่านเห็นว่ากระทู้นี้ไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระจริงดังที่คุณ เฌ ได้กล่าวอ้างแล้ว ก็คงไม่มีใครให้ความสนใจติดตามอ่านเป็นจำนวนมาก ต่อเนื่องมายาวนานจนถึงทุกวันนี้ ส่วนที่ใครจะให้คำสรรเสริญ หรือ ติเตียน กับทุกข้อความที่ผมได้นำมาโพสต์นี้ ก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของผู้อ่านทุกท่าน ซึ่งผมก็ไม่เคยไปบังคับให้ใครให้ต้องมากล่าวคำอนุโมทนากับผมแต่อย่างใด มันเป็นความสมัครใจของผู้อ่านเอง

    ในท้ายที่สุดนี้ผมก็ยังขอเตือนคุณ เฌ เหมือนเดิมว่า เวลาในโลกมนุษย์นี้สั้นนักแต่เวลาในปรโลกนั้นแสนจะยาวนาน ถ้าคุณเฌ หมั่นทำแต่ความดีก็จะได้ไปเกิดเป็นเทวดา เสวยสุขในทิพย์วิมานอย่างยาวนานนับเป็นล้านๆ ปีมนุษย์ แต่ถ้าคุณเฌ ยังทำตัวเป็นคนปากร้าย ด่าว่าผู้อื่นอย่างคะนองปากแบบนี้ ทั้งๆที่ผมก็ได้เตือนเอาไว้แล้วว่า เป็นคำทำนายของพระพุทธเจ้า และพระอริยะเจ้าอีกหลายองค์ ที่ท่านได้เมตตาบอกเตือนมาแล้วละก็ อย่าได้โทษว่าใครเลยนะหากคุณเฌ ตายแล้วจะต้องไปตกนรกอย่างยาวนาน นับเป็นล้านๆ ปีมนุษย์ เพราะมันเป็นผลแห่งกรรมของคุณ เฌ ที่ได้กระทำเอาไว้แล้วทั้งสิ้น
     
  3. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ผมอยากให้ท่านที่อ่านคำทำนายต่างๆที่ไม่ใช่พุทธทำนายหรือไม่ใช่คำทำนายของพระอริยเจ้า โปรดใช้วิจรณญานให้มากๆเพราะมันเป็นแค่คำทำนายธรรมดาๆเท่านั้นอย่าไปปักใจเชื่อจนลืมดูในส่วนที่เป็นกฏแห่งกรรม อย่าลืมใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมซึ่งมีผลมากกว่าวันเดือนปีเกิดของคนผู้นั้นอย่างมากมาย ผมไม่เชื่อเรื่องดวงจากวันเดือนปีเกิดแต่ผมเชื่อเรื่องของกรรมทั้งจากอดีตชาติและจากปัจจุบัน มีหลายสำนักเอาดวงนายกมาดูแล้วก็ว่าเป็นตุเป็นตะว่าจะต้องเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ปรากฏว่าผิดมาตลอดไม่เห็นจะตรง ผมเห็นมีแต่กฏแห่งกรรมนี่แหละตรงที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 เมษายน 2010
  4. Dear_Jung

    Dear_Jung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +143
    เชื่อได้แต่อย่างมงาย
     
  5. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    โลกเรา ดูเป็นลูกกลมๆที่มีน้ำมีแผ่นดินมีท้องฟ้าสวยงาม หมุนอยู่ในจักรวาลอย่างสงบ แต่ไม่น่าเชื่อ ว่าภายในมันจะวุ่นวายอะไรกันมากมายถึงเพียงนี้ เดี๋ยวน้ำท่วม เดี๋ยวก่อม็อบ เดี๋ยวก็สงคราม แผ่นดินไหว โลกสงบ แต่สิ่งมีชีวิตในโลกไม่เคยสงบเลย
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    แผ่นดินไหวใต้หวัน 6.9 ริกเตอร์ ลึกแค่ 10 km ในทะเล ระวังซึนามิ

    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr><th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">MAP</td><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap"> 6.9 </td><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">2010/04/26 02:59:50 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 22.247 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 123.733 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 10.0 </td><td valign="top"> SOUTHEAST OF TAIWAN</td></tr></tbody> </table>
    10-degree Map Centered at 20°N,125°E

    Skip to earthquake lists [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
     
  7. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    [​IMG]


    ฝากภาพที่ทำให้ผ่อนคลาย จิตใจ และสายตา มาให้ทุกๆท่านนะคะ


    ขอให้ทุกเวลาเป็นเวลาที่ดีที่สุด ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีที่สุด ของทุกท่านค่ะ

     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Tsunami Event

    It is likely that a tsunami was generated. Based on precalculated scenarios, the maximum tsunami wave height near the coast of Ch'ing-hsi will be 0.19m.
    A detailed tsunami wave height calculation is ongoing and should be available 20 minutes after this report was created. Results can be slightly different than the precalculated scenario. The outcome can be checked here: GDACS tsunami report .
    [​IMG]
    Travel time map.
     
  9. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    ความวุ่นวาย ความเดือดร้อน ต่าง ๆ นา ๆ ล้วนเกิดมาจากเราเองทั้งนั้น สิ่งที่วุ่นวาย ยุ่งยากไม่ได้ดั่งใจเรา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราได้สร้างไว้เองแต่อดีตชาติทั้งสิ้น ต้นเหตุมาจากจิตของเราเองที่ไปคบกับกิเลสชั่ว คือราคะ โทสะ โลภะ และโมหะ เป็นเหตุให้เราได้ก่ออกุศลกรรมไว้ จนเป็นผลในปัจจุบันที่เป็นอยู่นี้ ถ้าเราพยายามตั้งใจ ละกิเลสชั่วในใจเราเหล่านี้ให้เบาบางหรือให้หมดไปได้ โลกนี้ไม่มีอะไรวุ่นวายเลย มีแต่ความสุขและความสงบ
    ทุกอย่างเริ่มมาจากตัวเราเอง และจบได้ที่ตัวเราเอง สาธุ ขออนุโมทนากับเพื่อนทุกคนครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ชัยภูมิ-เขื่อนจุฬาภรณ์แห้ง เข้าขั้นวิกฤต

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปริมาณน้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ลดลงเหลือเพียง 38 เปอร์เซ็นต์ เข้าสู่ขั้นวิกฤต หัวหน้าเขื่อนสั่งงดจ่ายน้ำอย่างเด็ดขาด

    นายวีระศักดิ์ ศรีกาวี หัวหน้ากองไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในรอบ 10 ปี ส่งผลกระทบต่อน้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือน้ำในเขื่อนเพียง 38 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และจำเป็นต้องสั่งงดจ่ายน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เนื่องจากเขื่อนจุฬาภรณ์เป็นเขื่อนหลักในการส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงคนชัยภูมิ และผลิตกระแสไฟฟ้า

    สำหรับเขื่อนจุฬาภรณ์ กักเก็บน้ำได้จำนวน 168 ล้าน ลบ.ม ปัจจุบันเหลือน้ำในเขื่อนเพียง 38 เปอร์เซ็นต์ โดยปกติทั่วไปเขื่อนจะต้องเก็บกักน้ำไว้บริหารจัดการไม่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากที่ชาวบ้านจำเป็นต้องใช้น้ำได้จัดตั้งคณะกรรมการน้ำขึ้นมาเพื่อขอน้ำไปใช้ในการอุปโภค-บริโภค ซึ่งเขื่อนได้อนุมัติปล่อยน้ำตามที่ชาวบ้านร้องขอ จนขณะนี้เหลือน้ำไว้ในเขื่อนต้ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป

    อย่างไรก็ตามนายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยปกติทั่วไปแล้วในช่วงนี้จะมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนมีมากขึ้น และผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน จึงได้เพียงแต่ภาวนาให้ฝนตกลงมาเติมน้ำในเขื่อนให้ทันต่อความต้องการของชาวบ้าน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

    มหาสารคาม-ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้งทั้งจังหวัด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สถานการณ์ภัยแล้งใน จ.มหาสารคาม รุนแรงและขยายวงกว้างที่สุดในรอบ 10 ปี ล่าสุดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งครอบคลุมทั้งจังหวัด 13 อำเภอ พร้อมเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน

    นายทองทวี พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศพื้นที่ภัยแล้งครอบคลุมทั้งจังหวัด จำนวน 13 อำเภอ 132 ตำบล มีประชาชนประสบภัยแล้งจำนวน 136,086 ครัวเรือน จำนวนกว่า 400,000 คน ส่วนใหญ่ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งอยู่ในภาวะวิกฤต มีปริมาณกักเก็บไม่ถึงร้อย 50 ของความจุอ่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำนาปีที่กำลังจะมาถึง

    อย่างไรก็ตามได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกแจกจ่ายน้ำให้ประชาชนที่ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้วกว่า 1,000,000 ลิตร พร้อมกำชับให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย และได้ผลิตผลในระยะสั้น เพื่อลดการใช้น้ำในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

    เชียงราย-ทหารเร่งช่วยเหลือชาวบ้านถูกพายุถล่ม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ทหารเร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกพายุถล่มอำเภอพาน ขณะที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ถูกพายุพัดถล่มอีกระลอก

    เจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดทหารบกเชียงราย เข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการซ่อมแซมหลังคาบ้าน และเร่งเปลี่ยนหลังคาบ้านจำนวน 6 หมู่บ้านตำบลเจริญเมือง ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มเมื่อวานนี้ ประกอบด้วยหมู่บ้านป่าบง บ้านป่ายาง บ้านดงตะเคียน บ้านฐานตะเคียนทอง บ้านห้วยแสนสุข และบ้านป่าปี้ ต.เจริญเมือง อ.พาน ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 211 หลังคาเรือน โดยทุกหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักรวมทั้งหลังคาโบสถ์ที่ถูกกระแสลมแรงพัดหลังคาบ้านปลิวไปกับกระแสลมทั้งหลัง บางบ้านหลังคาปลิวไปจากตัวบ้านกว่า 100 เมตร ทำให้ข้าวของภายในบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงมาด้วย

    ขณะที่พื้นที่บ้านห้วยไคร้ใหม่ หมู่ที่ 2 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อีกระลอก ซึ่งแรงลมมีความแรงอย่างมาก สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชาชนกว่า 50 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้องที่ปลิวไปกับกระแสลม และที่หนักคือ สถานีวิทยุชุมชนซึ่งตั้งอยู่ในรั้วบ้านเลขที่ 180 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยไคร้ เสาสัญญาณหักและล้มทับบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหาย 1 หลัง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. LnWLnW

    LnWLnW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +936
    วันนี้ ท้องฟ้าแปลกมากเลยคะ

    เอิ่มม...

    คล้ายว่าจะมีเหตุการณ์อะไรสักอย่างแน่ๆ นะคะ อยู่กลางแจ้งแล้วแบบ...


    ท้องฟ้าที่บ้านเป็นบ้างไหมคะ ?
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    แปลกอย่างไร อธิบายหน่อยจ้า
    ไปดูมาแล้วมันไม่แปลก หรือว่า มองคนละมุมกัน?
     
  13. LnWLnW

    LnWLnW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +936
    เอิ่ม.. ท้องฟ้ามันดูขมุกขมัว มีเงาเมฆแปลกๆ

    แต่มันไม่ใช่เพราะเมฆฝนนะคะ ดวงอาทิตย์ยังสว่างโร่อยู่เลยคะ

    เหมือนมีเงารัศมีแห่งความอำมหิต และความโหดร้ายรุนแรงคลืบคลานเข้ามาเลย แล้วพออยู่กลางแจ้งมันเหมือนตัวเองหมดแรงหมดหำลัง ขาอ่อนไปเฉยๆๆอ่ะคะ


    บางทีอาจะเอาความรู้สึกของตัวเองบอกมากไปมั้งคะ --"

    นี่คะเอาภาพมาให้ดู ต้องขออภัยนะคะ ลืมเอาฟิลเตอร์ออกคะ
    ถ่ายเมื่อช่วงเที่ยงๆๆนะคะ

    [​IMG]
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปัตตานี-ระเบิดทหารเจ็บ 14 นาย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    โจรใต้เหิมซุกระเบิด 15 กก.ดักถล่มขบวนทหารสับเปลี่ยนกำลัง ทหารบาดเจ็บ 14 นาย

    เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้(26 เม.ย.) พ.ต.อ.กำธร จันที ผกก.สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนสายใหม่ 418 ปัตตานี-ยะลา ม.7 บ้านต้นกะท้อน ต.ป่าไร่ จึงรีบนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ ไปถึงพบรถยนต์จีเอ็มซีบรรทุกกำลังพล ทะเบียนตรากงจักรจอดข้างทาง สภาพมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดด้านซ้ายหลายแห่ง และมีกองเลือดจำนวนมากด้านหลังกระบะรถ

    ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา จำนวน 14 นาย ในจำนวนนี้มีบาดเจ็บสาหัส 3 นาย คือ 1.พลฯทหารคณิต คาถา 2.สิบเอกอุทิศ ภูเกสร และ 3.สิบเอกปิยะ พิมแป้น ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าลำตัวหลายแห่ง ส่วน พลฯทหารพันธสา เพ็งจันทร์ พลฯทหารวัชระ นะอิ พลฯทหารดำรง อุดเต็น พลฯทหารขวัญชัย แสงอ่อน สิบเอกธีระวัฒน์ แสงจินดา จ่าสิบเอกจำรัส ดำวิ่ง สิบเอกสมศักดิ์ แสงสุวรรณ พลฯทหารวิสิษฎ์ กลึงตา พลฯทหารสมโภช ปิ่นตาลี พลฯทหารภานุวัตร บุญจันทา และ พลฯทหารนภดล เพิ่มขัน ได้รับบาดเจ็บตามลำตัวซึ่งแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือแล้ว ในที่เกิดเหตุพบซากรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า พ่วงข้างที่คนร้ายนำระเบิดซุกไว้ และมีชิ้นส่วนถังแก๊สและ สะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

    สอบสวนทราบว่า กำลังทหารดังกล่าว สังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่ 16 อ.ธารโต จ.ยะลา เดินทางมาจาก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อสับเปลี่ยนกำลังในการปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ สอ.อุทิศ ซึ่งเป็นพลขับได้นำกำลังทหารอีก จำนวน 14 นายเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการ อ.ธารโต จ.ยะลา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถ จยย.พ่วงข้างจอดไว้ข้างทางมีกากมะพร้าวคลุมปิดระเบิดที่คนร้ายซุกไว้บรรจุในถังแก๊ส หนัก 15 กก.

    เมื่อรถขับมาถึงคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มข้างทางได้กดชนวนระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรน แรงระเบิดทำให้สะเก็ดกระเด็นถูกทหารจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อไล่ล่าและตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 1 กิโลเมตร เชื่อคนร้ายยังคงกบดานในพื้นที่ ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้กลุ่มคนร้ายหมายที่จะสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ขณะสับเปลี่ยนกำลังโดยที่รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. พุทธโกมุท

    พุทธโกมุท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +2,807
    เอเอฟพี/บีบีซี - มนุษย์ต่างดาวอาจอยู่มีจริง แต่ควรหลีกเลี่ยงมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตนอกโลกเหล่านั้น เนื่องจากผลที่ตามมาอาจกลายเป็นหายนะ สตีเฟน ฮอว์กิง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษเตือนวานนี้(25)

    “หากมนุษย์ต่างดาวมาเยือนเรา สิ่งที่ปรากฏออกมาก็คงเหมือนเมื่อครั้งโคลัมบัสเทียบท่าในอเมริกา ซึ่งมันไม่ใช่การปรากฏตัวที่ดีนักสำหรับคนอเมริกัน” ฮอว์กิง อัจฉริยะนักดาราฟิสิกส์ กล่าวในสารคดีตอนใหม่ล่าสุดในดิสคัฟเวอรีชาแนล สื่อมวลชนอังกฤษรายงาน

    เขาคาดว่า สิ่งมีชีวิตนอกโลกจะมีลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ หรือสัตว์ขนาดเล็ก แต่สามารถเพิ่มขยายเผ่าพันธุ์ได้ด้วยการเร่ร่อน และไล่ล่าอาณานิคมที่มันพบ และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ “เราอาจจะได้เห็นมันพัฒนาตัวเองในร่างกายของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เราไม่อยากรู้จักหรือแม้แต่พบเห็นพวกมัน”

    “ความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ต่างดาวบางทีอาจกลายเป็นชนเผ่าเร่ร่อน มองหาทาสและสร้างอาณานิคมบนดาวดวงใดก็ตามที่พวกเขาสามารถไปถึง” ฮอว์กิง เตือน

    ฉากที่บ่งชี้ถึงวาระสุดท้ายของวันสิ้นโลกนี้จะนำเสนอผ่านซีรีส์ “Into the Universe with Stephen Hawking” ทางดิสคัฟเวอรี ชาแนล ซึ่งเริ่มออกอากาศในสหรัฐฯวันอาทิตย์ (25)

    มนุษย์มีความพยายามติดต่อสิ่งมีชีวิตนอกโลกหลายต่อหลายครั้ง

    ในปี 2008 นาซาได้ส่งสัญญาณวิทยุเพลง “Across The Universe” ของวงเดอะ บีเทิลส์ ขึ้นสู่อวกาศส่งสารแห่งสันติภาพไปยังมนุษย์ต่างดาวในดาวเหนือซึ่งอยู่ห่างจากโลกออกไป 431 ปีแสง

    แต่ประวัติศาสตร์แห่งความพยายามติดต่อมนุษย์ต่างดาวกลับมาแพร่หลายอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ ทดลองส่งยานไพโอเนียร์ 10 และ 11 ในปี 1972 กับ 1973 ติดแผ่นภาพแกะสลักมนุษย์หญิงชายเปลือยคู่หนึ่ง และสัญลักษณ์ต่างๆ สื่อให้ใครก็ตามที่มาพบได้รู้ว่ารูปร่างหน้าตาของมนุษย์เป็นอย่างไร

    ืั้ืทีื่่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000057171
     
  16. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    เห็นทะเลาะกันเรื่องคำทำนาย ผมว่า ปล่อยไปเหอะอะไรจะเกิดเดี๋ยวมันก็เกิดเอง คำทำนาย อย่างน้อยๆก็คิดว่าอ่านเล่นไปละกัน แต่ไม่ใช่อ่านแล้วเฮ้ยจริงหรอ แล้วก็แตกตื่นกัน อย่างงั้นก็แล้วกันใหญ่เป็นกระต่ายตื่นตูม เค้าให้อ่านเพื่อให้ตื่นตัวคอยระมัดระวังตัวทุกฝีเก้า และต้องมีสติในการพิจารณาข่าวสารด้วย
     
  17. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 14:13 น. ข่าวสดออนไลน์


    พบหมู่บ้านโลกลืม

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายไพฑูรย์ ทันใจชน ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองปลาซิว อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 102/2 หมู่ 6 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า บ้านหนองปลาซิวทั้งหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้เลยแม้แต่ครอบครัวเดียว ต้องอาศัยแสงจากตะเกียง และเทียนไข ซึ่งใครมีฐานะดีหน่อยก็ใช้เครื่องปั่นไฟ หรือแผงไฟฟ้าโซลาเซลล์ พ่อแม่ไม่สามารถซื้อคอมพิวเตอร์ให้กับลูกได้ ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่ตัวจังหวัด หรือโรงเรียนที่มีไฟฟ้าใช้ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อพบกับนาย ไพฑูรย์ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงบ้านหนองปลาซิว จึงได้ตรงไปที่บ้านนายไพฑูรย์ ทันใจชน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงพบว่ามีชาวบ้านมีทั้งคนแก่ และเด็กประมาณ 30 คน นั่งจับเข่าคุยกันอยู่บริเวณระเบียงบ้าน จึงได้เข้าไปสอบถาม
    นายไพฑูรย์ เล่าว่า ตนเป็นคนบ้านหนองปลาซิวมาแต่กำเนิด ตั้งแต่เกิดมาภายในหมู่บ้านก็ไม่เคยมีไฟฟ้าใช้เลย โดยชาวบ้านได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาช่วยเหลือมานานหลายสิบปีแล้ว สำหรับบ้านหนองปลาซิวมีทั้งหมด 346 หลังคาเรือน ประชากร 1,076 คน ตำบลศรีมงคลมีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านมีไฟฟ้าใช้กันหมดแล้วยกเว้นหมู่ 6 ลักษณะคล้ายไข่ดาว หมู่ 6 เปรียบเสมือนไข่แดงที่อยู่ตรงกลางกลับไม่มีไฟฟ้าใช้
    ส่วนสาเหตุที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากว่าบ้านหนองปลาซิว หมู่ 6 พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่ทหาร ซึ่งปัจจุบันทราบมาว่างบประมาณในการเดินไฟฟ้ามาที่หมู่บ้าน ทางการไฟฟ้าเขตจังหวัดนครปฐมได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินการมาแล้วเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 11 ล้านบาท ซึ่งทางอำเภอ หรือทางจังหวัดก็เห็นด้วยให้มีการดำเนินการ แต่ติดที่ทางทหารที่ยังไม่อนุมัติให้ดำเนินการเดินไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน ตนและชาวบ้านต่างก็แปลกใจกันไม่น้อยที่ทหารไม่อนุมัติให้มีการดำเนินการทั้งๆที่งบประมาณก็มีแล้ว และก็สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านทุกคนว่า ทำไมหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่ในเขตทหารเช่นเดียวกัน และเคยมีปัญหาเหมือนกัน แต่ทุกหมู่บ้านกลับมีไฟฟ้าใช้ ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความน้อยใจและเสียใจให้กับชาวบ้านไม่น้อย และทุกวันนี้เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองปลาซิว ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้เลยเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ และบางครอบครัวที่พอจะมีฐานะอยากจะซื้อคอมพิวเตอร์ให้กับลูกหลานใช้ แต่ก็ไม่สามารถซื้อได้ ทุกวันนี้ลูกหลานของชาวบ้านนับวันจะโง่ลงไปทุกที ชาวบ้านจำนวนหลายคนได้บอกกับตนว่าถ้าหากหมู่บ้านของเรามีไฟฟ้าใช้เมื่อไหร่ จะมีชาวบ้านบวชแก้บนเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
    ด้านคุณยายวา ศรีบุญเพ็ง อายุ 78 ปี กล่าวว่า ยายเกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2513 รวม 40 ปีแล้ว สมัยก่อนการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต่างกับปัจจุบันที่บ้านเมืองเจริญขึ้นตามลำดับ ยายเกิดมาอายุ 78 ปีแล้ว และย้ายมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่มากว่า 40 ปีแล้วยังไม่เคยเห็นไฟฟ้าเลย ยกเว้นลูกหลานพาเข้าไปในตัวอำเภอหรือตัวจังหวัดเท่านั้นจึงจะได้เห็นเสาไฟฟ้ากับเขาสักที ซึ่งยายก็อายุมากแล้วก่อนตายก็อยากจะเห็นหมู่บ้านของเรามีไฟฟ้าใช้กับเขาบ้างคงจะได้นอนตายตาหลับ
    รายงานข่าวระบุว่า สำหรับบ้านหนองปลาซิวมีโรงเรียนขยายโอกาส 1แห่ง ตั้งแต่ชั้น อนุบาล1ถึง ม.3 มีนักเรียนกว่า 200 คน ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาเซลด์ ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการศึกษาที่มีนั้นไม่สามารถใช้งานได้เลย และยังมีสำนักสงฆ์ 1 แห่งแต่ไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธานำแผงโซลาเซลด์มาถวายให้ แต่ก็ใช้ได้เป็นช่วงเวลาเท่านั้น

    เขาซ้อมช่วง 7749 ไม่มีไฟใช้ประหยัดดี

    วงแหวนแห่งไฟ

    รู้ไปโม้ด

    nachart@yahoo.com



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผมอ่านหนังสือพิมพ์เก่า พบที่น้าชาติตอบเรื่องภูเขาไฟ พูดถึงวงแหวนไฟ ช่วยอธิบายด้วย ลูกเขาถามมา เราอยู่ต่างจังหวัด เครื่องไม้เครื่องมือค้นคว้าไม่สะดวก ขอบคุณครับ

    สุรสีห์ ภักดีบุตร

    ตอบ สุรสีห์

    "วงแหวนแห่งไฟ" หรือ Pacific Ring of Fire หรือ the Ring of Fire เป็นบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง มีลักษณะเป็นเส้นเกือกม้า ความยาวรวมประมาณ 40,000 กิโลเมตร และวางตัวตามแนวร่องสมุทร แนวภูเขาไฟและบริเวณขอบแผ่นเปลือกโลก โดยมีภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ภายในวงแหวนแห่งไฟทั้งหมด 452 ลูก และเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาไฟคุกกรุ่นอยู่กว่า 75% ของภูเขาไฟคุกกรุ่นทั้งโลก ซึ่งบางครั้งจะเรียกว่า circum-Pacific belt หรือ circum-Pacific seismic belt

    ส่วนกรณีแผ่นดินไหว ประมาณ 90% ของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลกและกว่า 80% ของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เกิดขึ้นในบริเวณวงแหวนแห่งไฟ นอกจากนี้ยังมีแนวแผ่นดินไหวอีก 2 แห่ง ได้แก่ แนวเทือกเขาอัลไพน์ ซึ่งมีแนวต่อมาจากเกาะชวาสู่เกาะสุมาตรา ผ่านเทือกเขาหิมาลัย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แนวแผ่นดินไหวแห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 17% ของทั้งโลก และอีกแห่งคือแนวกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 5-6% ของทั้งโลก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    วงแหวนแห่งไฟเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่และการชนกันของแผ่นเปลือกโลก แบ่งเป็นส่วนวงแหวนทางตะวันออก มีผลมาจากแผ่นนาซคาและแผ่นโคคอสที่มุดตัวลงใต้แผ่นอเมริกาใต้ ส่วนของแผ่นแปซิฟิกที่ติดกับแผ่นฮวนดีฟูกา มุดตัวลงแผ่นอเมริกาเหนือ ส่วนตอนเหนือที่ติดกับทางตะวันตกเฉียงเหนือของแผ่นแปซิฟิก มุดตัวลงใต้บริเวณเกาะเอลูเชียนจนถึงทางใต้ของญี่ปุ่น และส่วนใต้ของวงแหวนแห่งไฟเป็นส่วนที่มีความซับซ้อนของแผ่นเปลือกโลก มีแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็กมากมายที่ติดกับแผ่นแปซิฟิก ซึ่งเริ่มตั้งแต่หมู่เกาะมาเรียน่า ฟิลิปปินส์ เกาะบัวเกนวิลเล ประเทศตองกา และนิวซีแลนด์

    แนววงแหวนแห่งไฟยังมีแนวต่อไปเป็นแนวอัลไพน์ ซึ่งเริ่มต้นจากเกาะชวา เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย รอยเลื่อนที่มีชื่อเสียงที่ตั้งบนวงแหวนแห่งไฟนี้ ได้แก่ รอยเลื่อนซานอันเดรียส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กอยู่เป็นประจำ รอยเลื่อนควีนชาร์ลอตต์ ทางชายฝั่งตะวันตกของหมู่เกาะควีนชาร์ลอตต์ รัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดา ซึ่งทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 3 ครั้ง โดยเฉพาะขนาด 8.1 ริกเตอร์ ค.ศ.1949 เป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในแคนาดา

    สำหรับภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ เช่น ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยเกิดการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อ 18 พฤษภาคม ค.ศ.1980 พ่นเถ้าถ่านออกมากว่า 1.2 ลูกบาศก์กิโลเมตร ภูเขาไฟฟูจิ ญี่ปุ่น ระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อ ค.ศ.1707 ภูเขาไฟพินาตูโบ มายอน ทาล ฟิลิปปินส์ ระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อปี ค.ศ.1991 ภูเขาไฟแทมโบรา เคลูด และเมราปี อินโดนีเซีย ภูเขาไฟลูอาเปทู นิวซีแลนด์ และภูเขาไฟเอเรบัส ทวีปแอนตาร์กติกา

    สำหรับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในแนววงแหวนแห่งไฟนี้ เช่น แผ่นดินไหวคาสคาเดีย ขนาด 9 ริกเตอร์ เมื่อ ค.ศ.1700 แผ่นดินไหวภาคคันโต ในญี่ปุ่น เมื่อ ค.ศ.1923 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 130,000 คน แผ่นดินไหวเกรตฮันชินในปี 1995 และครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยบันทึกไว้ คือแผ่นดินไหว ค.ศ.2004 บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ขนาด 9.3 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่ถูกถล่มด้วยคลื่นขนาด 10 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 230,000 คน

    ประเทศที่ตั้งหรือมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟ ได้แก่ ประเทศเบลีซ โบลิเวีย บราซิล แคนาดา โคลัมเบีย ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ ติมอร์ตะวันออก เอลซัลวาดอร์ ไมโครนีเซีย ฟิจิ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น คิริบาตี เม็กซิโก นิวซีแลนด์ นิการากัว ปาเลา ปาปัวนิวกินี ปานามา เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย ซามัว หมู่เกาะโซโลมอน ตองกา ตูวาลู และสหรัฐอเมริกา

    วช.วิจัย"ฝุ่น" มลพิษภาคเหนือ

    นงนวล รัตนประทีป



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือเป็นมลพิษที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ.เชียงใหม่ ที่เริ่มมีปัญหาเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพ.ย. และจะมีปริมาณสูงสุดในเดือนมี.ค.

    สาเหตุหลักเกิดจากไฟป่า การเผาเศษไม้ ใบไม้ และเพื่อเตรียมพื้นที่การเกษตร รวมทั้งฝุ่นละอองจากถนน การก่อสร้าง และเขม่าจากน้ำมันดีเซล ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง

    ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่มีภูเขาล้อมรอบทำให้มลพิษต่างๆ ถูกกักไว้ และแผ่ปกคลุมทั่วเมือง นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

    เมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษณ์ธวัช นพนาคีพงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำคณะเข้าตรวจความคืบหน้าโครงการวิจัยการประเมินผลกระทบสุขภาพจากการสัมผัสมลพิษอนุภาคฝุ่นในอากาศทางภาคเหนือตอนบน ที่ดำเนินการโดยน.ส.ทิพวรรณ ประภามณฑล หัวหน้าโครงการวิจัยฯ พร้อมทั้งลงพื้นที่ศึกษาวิจัยที่บ้านทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    น.ส.ทิพวรรณ เล่าว่า ในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยด้านมลภาวะและอนามัยสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมคณะ ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มาตั้งแต่ปลายปีพ.ศ.2550 ถึงเดือนมิ.ย.2553 แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระยะ ด้วยงบประมาณ 3,000,000 บาท

    ในระยะแรกคือ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2551-2552 วิจัยเรื่อง "การพัฒนากระบวนการรับรู้ผลกระทบทางสุขภาพจากมลพิษอนุภาคฝุ่นในอากาศ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน" ใน 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่ กับ ลำพูน โดยศึกษาเฉพาะในกลุ่มนักเรียนอายุ 11-14 ปี หรือชั้นป.5-ป.6 แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ในเขตเมือง 115 คน กับนอกเมือง 248 คน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากการศึกษาพบว่า ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงอันตรายที่จะมีต่อสุขภาพจากการสัมผัสอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (พีเอ็ม 10) ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่ร่างกายจะรับได้ในอากาศว่าเกิดอย่างไร ทำไมถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ

    นอกจากนี้ ยังพบว่าชุมชนในพื้นที่นอกเมืองมีอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงกว่าในเขตเมืองประมาณ 2 เท่า สาเหตุมาจากการเผาเศษไม้ ใบไม้ ขยะในที่โล่ง มากกว่าชุมชนในเมือง ที่หลายคนมองว่าอากาศในเมืองน่าจะมีผลกระทบมากกว่าในเขตนอกเมือง

    รวมทั้งยังตรวจสาร "1-โอเอชพี" ในปัสสาวะของเด็กกลุ่ม พบว่าเด็กนอกเมืองมีสารบ่งชี้ชีวภาพของการสัมผัสสาร "พีเอเอช" ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจาการเผาสารอินทรีย์ เช่น ใบไม้แห้ง ขยะบริเวณบ้านเรือนมากกว่าในชุมชนเมือง ทำให้พบว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกเมืองเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษจากฝุ่นขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาไหม้

    น.ส.ทิพวรรณบอกด้วยว่า แต่ประเด็นที่ต้องศึกษามีเพิ่มเติม และเพื่อให้ข้อมูลในการบ่งชี้ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสอนุภาคฝุ่นในอากาศมีความชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถนำไปเป็นฐานข้อมูลเบื้องต้นได้ รวมทั้งต้องการให้สังคมเกิดการเรียนรู้ ตระหนักหาทางลดแหล่งมลพิษทางอากาศในชุมชน และป้องกันการเกิดหมอกควันอย่างเช่นที่ผ่านมา

    จึงเริ่มโครงการระยะที่ 2 เป็นการต่อยอดและขยายพื้นที่ศึกษาภาคเหนือตอนบนกว้างขึ้นจาก 2 จังหวัด เพิ่มเป็น 5 จังหวัดใน 18 ชุมชน ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อีกทั้งยังเพิ่มการตรวจทางห้องปฏิบัติของสถาบันมากขึ้น และตรวจการทำงานของปอดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อประเมินผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสอนุภาคฝุ่นในอากาศอย่างเต็มรูปแบบ โดยทำการศึกษาในปีพ.ศ.2552 ถึงเดือนมิ.ย.2553

    ในเบื้องต้นพบว่า ระดับฝุ่น พีเอ็ม 10 ในชุมชนนอกเมืองสูงกว่าในเขตเมือง จากผลการตรวจวัดระดับฝุ่นพีเอ็ม 10 ในต.ไชยสถาน และ อ.ป่าบง อ.สารภี และอ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 21 พ.ย.2552 ถึงวันที่ 10 ม.ค.2553 พบว่าอ.สารภีมีระดับฝุ่นพีเอ็ม 10 สูงกว่าในอ.เมืองเชียงใหม่เกือบ 2 เท่า

    แหล่งกำเนิดฝุ่นในชุมชนนอกเมืองส่วนใหญ่เป็นการเผาขยะในบ้านเรือน เศษไม้ ใบไม้แห้ง โดยเผารอบบ้านที่อยู่อาศัยเหมือนโครงการแรกซึ่งสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และมีความถี่ของการเผา 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพ.ย.ถึงเดือนก.พ. และในช่วงเดือนมี.ค.ถึงเดือนเม.ย. มีระดับฝุ่นพีเอ็ม 10 จากสถานีตรวจวัดสูงเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ที่กำหนดไว้ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

    ผลการศึกษายังพบว่า จำนวนจุดความร้อนพวกไฟป่า หรือการเผาเศษไม้ใบไม้เพิ่มมากขึ้น ในช่วงเดือนมี.ค.2553 พบว่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีจุดความร้อนสูงถึง 1,412 จุด รองลงมาคือพื้นที่ป่าอนุรักษ์มีจุดความร้อนรวม 760 จุด สำหรับพื้นที่เกษตรมีน้อยที่สุดคือ 186 จุด ทำให้ท้องฟ้าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนปกคลุมด้วยหมอกควัน และมีระดับฝุ่นพีเอ็ม 10 เกินมาตรฐาน ในช่วงวันที่ 18-19 มี.ค.2553

    โดยในวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าจ.แม่ฮ่องสอนมีระดับพีเอ็ม 10 สูงถึง 518.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรฐาน 3-4 เท่าตัว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็กนักเรียน

    และจากการเก็บข้อมูลแบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างเด็กนักเรียนชั้นป.4 และป.5 จำนวน 490 คน จากโรงเรียน 18 แห่งในพื้นที่ 18 หมู่บ้านของ 5 จังหวัด ระหว่างเดือนก.พ.ถึงเดือนมี.ค.53 พบว่า เด็กนักเรียน 56.3 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำมูกไหล, 42.7 เปอร์เซ็นต์ มีอาการคัดจมูก, 25.9 เปอร์เซ็นต์ คันตา และ 23.9 เปอร์เซ็นต์ มีอาการไอและมีเสมหะ ส่วนข้อมูลการตรวจการทำงานของปอดอยู่ในระหว่างการประเมินผล

    ด้านนายกฤษณ์ธวัช กล่าวว่า โครงการวิจัยนี้สมควรที่จะได้รับการเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักป้องกัน เพราะจากรายงานผลการวิจัยในระยะแรกเมื่อปลายปีพ.ศ.2550 เห็นภาพชัดเจนว่า มลพิษอนุภาคฝุ่นในอากาศทางภาคเหนือมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก และจากที่ลงไปในพื้นที่เห็นว่าชาวบ้านยังเผาเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือเผาขยะรอบๆ บ้านอยู่ แม้โครงการนี้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

    ปัญหาหมอกควันฝุ่นโดยเฉพาะที่ภาคเหนือที่นับวันจะทวีขึ้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย และชาวบ้านทุกคนสามารถช่วยป้องกันได้

    สุรินทร์ป่วน-แล้งลามหนัก



    สุรินทร์ - นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่ประสบภัยแล้งจำนวน 14 อำเภอ จากทั้งหมด 17 อำเภอ 116 ตำบล 1,423 หมู่บ้าน มีราษฎรเดือดร้อนมากถึง 180,864 ครัวเรือน รวมเป็นประชากร จำนวน 746,691 คน ได้จัดโซนนิ่งเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งมีรถบรรทุกน้ำประจำโซนนิ่งละ 24-25 คัน ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคและบริโภคจำนวน 1,868 เที่ยว ปริมาณน้ำ 11,676,000 ลิตร

    ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า นอก จากนี้ยังจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ สำรวจ ซ่อม และสร้างภาชนะเก็บน้ำไว้ใช้ จัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งให้แต่อำเภอประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อย่างเป็นระบบ มีเงินสำรองปัญหาภัยแล้งให้แต่ละอำเภอ อำเภอละ 1 ล้านบาท

    47ประเทศเตือนเข้าไทย-"จีน-ยุ่น"ไม่มาแล้ว ท่องเที่ยวสะอื้นปีนี้ไม่ถึง10ล้านคน



    นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยหลังการเรียกประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมที่กระทบต่อนักท่องเที่ยวว่า ในการประชุมครม.วันที่ 27 เม.ย. นอกจากจะเสนอให้ยืดเวลาการชำระเงินต้นของวงเงินกู้ที่จัดสรรให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว 5,000 ล้านบาท ที่ต้องเริ่มจ่ายเดือนพ.ค.ออกไปอีก 1 ปี โดยให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย พร้อมขอวงเงินกู้เพิ่มอีก 5,000 ล้านบาทแล้ว จะเสนอของบประมาณ 1,000 ล้านบาท ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปส่งเสริมการตลาดหลังเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายด้วย

    นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่นเดินทางเข้าไทย 0% จึงกังวลว่าการเมืองที่ยืดเยื้อจะกระทบต่อนักท่องเที่ยวยุโรป และเป้านักท่องเที่ยวทั้งปีให้ต่ำกว่ายอดรวมปี"52 ที่ 14.1 ล้านคน หรือรายได้จะหายไป 2-3 หมื่นล้านบาท

    "เมื่อต้นปีการท่องเที่ยวไทยได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว จึงทำให้มีการเพิ่มเป้านักท่องเที่ยวเป็น 15.5 ล้านคน แต่หากการเมืองยืดเยื้อ เป้าที่มองไว้คงเป็นไปได้ยาก และโอกาสหลุด 10 ล้านคนมีสูง เพราะหลายตลาดนักท่องเที่ยวขณะนี้เป็นศูนย์ จึงหวังว่าจะจบโดยเร็ว" นายอรรถชัย กล่าว

    ด้านนายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ล่าสุดมีจำนวน 47 ประเทศที่เตือนภัยนักท่องเที่ยวก่อนเข้าไทย และมี 7 ประเทศ ที่มีระดับการเตือนภัยอันดับ 5 คือ ห้ามเดินทางเข้ามาในประเทศไทย คือ ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ลัตเวีย, สเปน, ฮ่องกง, เวียดนาม และเช็ก ซึ่งการปาระเบิดที่ถนนสีลมเมื่อวันที่ 22 เม.ย. มีทั้งคนตายและเจ็บจำนวนมาก ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้าไทย ดังนั้น ททท.ได้แจ้งไปยังสำนักงานททท.ในต่างประเทศ ให้ชี้แจงสถานการณ์ในเมืองไทยให้ต่างประเทศได้รับทราบ

    นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันที่ 27 เม.ย.53 สภาจะเป็นแกนนำในการประชุมสมาชิกสภา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และททท. เพื่อประเมินผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มาตรการเยียวยา รวมถึงมาตรการกระตุ้นยอดการท่องเที่ยว ที่อาจหดหายไปจากการชุมนุมทางการเมือง

    นายอภิชาติ สังฆอารี กรรมการกิตติมศักดิ์สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟตต้า) กล่าวว่า กรณีระเบิดที่สีลม ส่งผลกับการท่องเที่ยวอย่างมาก จนเรียกได้ว่าไม่เหลืออะไรแล้ว จากเดิมที่คาดว่าช่วงโลว์ซีซั่น (พ.ค.-ต.ค.) นี้นักท่องเที่ยวจะลดลง 2-2.5 ล้านคน แต่ตอนนี้เชื่อว่าจะลดลงมากกว่านี้ โดยนักท่องเที่ยวไม่ได้หายไปเฉพาะในพื้นที่การชุมนุม แต่ได้ส่งผลถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แล้ว เช่น จ.ภูเก็ต ยอดจองห้องพักในเดือน พ.ค. ลดลงเหลือเพียง 20%

    "เวลานี้ ภาคเอกชนไม่สนใจเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะทนไม่ไหวแล้ว เนื่องจากไม่ต่างจากการชุมนุมปิดสนามบิน ไม่ต้องไปฟังคนที่อยู่ต่างประเทศมากเกินไป ทุกฝ่ายต้องถอยคนละก้าว ไม่ต้องตั้งเงื่อนไขเรื่องเวลา เพราะไม่มีใครอยากให้ประเทศอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป" นายอภิชาติ กล่าว

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวปราจีนฯ สะสมจิ้งจก2หาง-มักรีผล

    เชื่อหลังบูชาใช้โชคลาภ-ทำมาค้าขึ้น

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากว่ามีหญิงสาวชอบสะสมของแปลกหากยาก ทั้งจิ้งจก 2 หาง นารีผล จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว ตั้งอยู่ตึกแถว 3 ชั้นริมถนนสายสุวรรณศร ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ พบนางศิริลักษณ์ เกศสุริยมานะ หรือ กุ้ง อายุ 44 ปี โดยนางศิริลักษณ์ได้บูชาจิ้งจก 2 หางเป็นซากจิ้งจกที่ตายแล้วจริงใส่ตลับพลาสติกวางไว้บนหลังตู้ก๋วยเตี๋ยว และยังมีนารีผล อีก 1 คู่
    นางศิริลักษณ์ กล่าวว่า ตนติดตามเรื่องจิ้งจก 2 หางมานาน และชอบสะสมของแปลก เบื้องต้นทราบว่า จิ้งจกที่มีสองหางทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นความผิดปกติของยีน แต่สำหรับด้านไสยเวทย์ถือเป็นมหาวิเศษชั้นดีที่หาได้ยากยิ่ง โดยจิ้งจกสองหางตัวแรกได้มาจากในถ้ำ ที่พระอาจารย์ที่เคารพนับถือ เป็นพระธุดงค์ นำมามอบให้ได้กว่า 3 เดือนเศษ หลังจากได้บูชาแล้วถูกหวยรัฐบาลเลขท้าย 3 ตัว และ เลขท้าย 2 ตัว ถึง 3 งวดซ้อน ส่วนอีกตัวเป็นจิ้งจกที่ยังมีชีวิตและยังเลี้ยงอยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีนารีผล หรือมักรีผล ซึ่งได้มาเกือบ 2 เดือนจากพระธุดงค์รูปเดียวกัน ที่ได้มาจากประเทศลาว ลักษณะคล้ายผลไม้ หรือเปลือกไม้มีกลิ่นหอม เป็นคู่หญิง-ชาย ขนาดยาวเกือบ 6 นิ้วเศษ บูชาด้วยดอกไม้ขาว ธูปเทียน ที่ผ่านมาให้โชคลาภถูกหวยเช่นกันและค้าขายดีขึ้นกว่าเก่า


    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2010
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 20:44:23 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]"ในหลวง"ให้ผู้พิพากษาเป็นตัวอย่างปฏิบัติหน้าที่ อย่างเคร่งครัดสุจริต อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศ[/FONT]

    [​IMG]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> เมื่อเวลา 17.27 น. วันที่ 26 เมษายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 101 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ให้นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเข้าเฝ้าฯด้วย

    ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ เพื่อเป็นแนวทางการทำงาน ความว่า ตามที่ผู้พิพกาษาศาลฎีกา ได้มาปฏิญาณตนในโอกาสนี้เป็นโอกาสที่สำคัญในการแสดงว่าจะทำหน้าที่ในความ ตั้งใจจริงๆ การปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน ซึ่งท่านที้งหลายจะได้ช่วยกันผดุงความยุติธรรมความเป็นเรียบร้อยของประทศ

    อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากถ้าท่านทำตามสิ่งที่ปฏิญาณคนโดยเคร่งครัด จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยอย่างแน่นอน การที่ประเทศมีผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น เป็นการแสดงว่ามีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน อย่างชัดเจน และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วไป มีความตั้งใจในตัวที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษาจะทำให้เป็นความ ตั้งใจ ของประชาชนทั่วไปที่จะทำงานทำการทำงานอย่างเคร่งครัดอย่างสุจริต

    ดังนั้นการที่ทำมารับหน้าที่เป็นการที่ดีที่จะช่วยให้ประเทศชาติ ปฏิบัติตน คนในชาติปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด ความสุจริต ในประเทศจะมีคนที่ถือหน้าที่ของตนได้ ท่านเป็นแสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ดังนั้นท่านเป็นคนที่มีหน้าที่ที่สำคัญมาก ได้ปฏิญาณตนว่าจะรักษาความยุติธรรมเกิดขึ้นจากนี้ และจะไม่ให้ประชาชนต้องไปฏิบัติงานของตน มีความเรียบร้อย ความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด ต้องเป็นผู้สุจริต ไม่ใช่ง่ายเพราะว่าในชีวิตเป็นสิ่งที่ล่อใจมาก

    ท่านได้ปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญทำให้ท่านตื่นใจตลอด จงปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ถ้ามีบุคคลที่ปฏิบัติดีชอบด้วยความแน่วแน่ คือความตั้งใจ เป็นส่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี สำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำงานในหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เข้มแข็ง ถ้ารักษาความซื่อสัตย์ สุจริต รักษาไว้ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดชีวิต จะแสดงว่ามีคนอุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง ขอให้ท่านสามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ตามที่ได้มีคำปฏิญาณตลอดเวลาเป็น ตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงาน อย่างซื่อสัตย์สุจริต ดังที่ท่านได้ได้ปฏิญาณ ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์ สุจริต ตามที่ท่านได้กล่าวมาเมื่อครู่นี้ ซึ่งเป็นทางที่จะชาวให้บ้านเมืองมีความเจริญ มั่นคง แน่นอน

    ขณะเดียวกันท่านเองจะได้เป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไปทั้งผู้ที่ เป็นข้าราชการ ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ จะช่วยกันทำให้ประเทศชาติได้อยู่เย็น ผาสุก มีความเข้มแข็งในการงาน ทำให้การงานมีความสำเร็จเรียบร้อย ทำให้ทุกคนมีความสุขได้ ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณนี้โดยเข้มแข็ง เชื่อว่าท่านจะได้มีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ขอให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี ในเวลาเดียวกันท่านก็สร้างตัวท่านเอง ให้เป็นคนที่ดี มีความสำเร็จ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ในความเรียบร้อยตลอดชีวิตของท่าน

    ขอให้ท่านมีความสำเร็จใจการงาน จะเป็นสิ่งสูงสุดในการปฏิบัติงานของตนที่เป็นคนสำคัญของชาติ คือผู้พิพากษา ขอให้สำเร็จในการงาน ในเวลาเดียวกันท่านจะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสบโชคพร้อมคณะเดินทางถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เพื่อทำการซักซ้อม กระทั่งเวลา 17.00 น. จึงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 14 เพื่อเข้าเฝ้าฯ จนกระทั่งเวลา 17.55 น. นายสบโชคพร้อมด้วยคณะผู้พิพากษาลงมาจากชั้น 14 และเดินทางกลับทันที ทั้งนี้นอกจากสื่อมวลชนไทยที่ไปรอทำข่าวแล้ว ยังมีสื่อมวลชนจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาสังเกตุการณ์การทำข่าวครั้งนี้ด้วย


    Matichon Online: ˹ѧ��;����Ԫ��͹�Ź� : ˹ѧ��;���س�Ҿ ���ͤس�Ҿ�ͧ�����

    [/FONT]
     
  19. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    Sent: Wednesday, September 09, 2009 2:41 PM
    Subject: นิมิตของหลวงพ่อโอภาษี


    ได้รับ forward เมล์มาค่ะ
    เผอิญว่าเรา sensitive กับเรื่องประมาณนี้
    ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป ฝากเรื่องนี้กับสาว ๆ ชาวกรุงใช้วิจารณญาณด้วย.....

    อย่าว่าเรางมงายนะ....

    พอดีเมื่อวานไปถวายเทียนพรรษาที่วัดหลวงพ่อโอภาษีครับ
    คิดว่าเพื่อนๆที่อยู่แถวพระราม
    2 คงรู้จักกันทุกคน
    เข้าเรื่องเรยนะครับ ผมก็ไปกับที่บ้านรวม 5 คน เ
    ข้าไปถึงกุฎิที่พ่อผมบอกว่าเป็นพี่ชายของเจ้าอาวาส
    เป็นหลวงพ่อ อายุราวๆ 70 ตาซ้ายเสียอ่ะครับ
    เห็นบอกว่าองค์นี้เก่งมาก ก็เข้าไปถวายเทียนพรรษาพร้อมๆกับอีกหลายๆคนที่มาหาหลวงพ่อเช่นกัน
    พอถวายเทียนเสร็จหลวงพ่อท่านก็เล่าว่าท่านนิมิต(ฝัน)ว่า
    ท่านได้ไปนรกครับ ไปเจอเท้าเทพสุวรรณ(ยมฑูต)
    ท่านก็เล่าว่า ท่านถามสุวรรณว่าท่านตายแล้วหรอ
    สุวรรณบอกว่าท่านยังไม่ตายแต่จะพาไปเที่ยว
    แล้วเค้าก็พาหลวงพ่อเดินไป เดินไปเรื่อย จนถึงระยะหนึ่ง
    หลวงพ่อหยุดเดิน สุวรรณที่เดินนำก็เดินกลับมาครับ
    แล้วถามว่า หยุดทำไม ท่านก็ตอบว่า
    เดินตั้งนานแล้วในนรกไม่เห็นมีอะไรเรย
    ระหว่างนั้นท่านก็บรรยายบรรยกาศของนรกว่านรกมีไฟเพลิงสีส้มแดงแต่ไม่มีควัน แล้วก็ไม่ร้อน
    ที่ท่านไม่ร้อนเพราะท่านมีบุญดีอยู่ แล้วสุวรรณก็ถามต่อครับว่าอยากเห็นอะไรละ ท่านตอบว่า
    อยากเห็นต้นงิ้ว และกะทะทองแดง
    สุวรรณบอกว่าไม่มีหรอก มนุษย์อุปโหลกขึ้นมาเองทั้งนั้น
    ในนี้มีแต่ไฟโลกัณฑ์ เดินไปอีกหน่อยแล้วจะรู้เอง
    ท่านก็ได้เดินต่อไป สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ เหวที่มีไฟแดงฉานอยู่ข้างล่าง
    สุวรรณบอกว่า ใครทำกรรมชั่วมากก็จะอยู่ข้างล่างสุด
    ทำกรรมชั่วน้อยก็จะอยู่ข้างบน ซึ่งข้างล่างจะร้อนกว่าข้างบน
    คราวนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ ท่านก็เห็นทางสามแพร่ง มีน้ำกันอยู่
    จึงได้ถามสุวรรณว่านี้คืออะไร
    สุวรรณตอบว่านี่คือทางไป นรก สวรรค์ โลกมนุษย์
    ซึ่งมีคนยืนในช่องทางไปโลกเยอะมากๆ มีบางคนแอบซุกเพื่อหลบน้ำที่จะต้องผ่าน
    ท่านจึงถามว่าน้ำนี่คืออะไร สุวรรณตอบว่าน้ำนี่ใช้ชะล้างจิตใจ ให้ลืมอดีต แล้วไปเกิดใหม่
    คนที่หลบหลีกน้ำนี้ไปได้จะต้องเป็นทุกข์(ที่เข้าใจคือระลึกชาติ ได้)
    แล้วท่านก็เล่าว่าพวกสส.ที่มันได้ดีเพราะมันกินบุญเก่า
    เหมือนปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ ตัวเองปลูกตัวเองก็ได้กิน
    เมื่อต้นแอปเปิ้ลหมดก็อดกิน
    ก็เหมือนกับพวกสส.ที่กินบุญเก่าอยู่
    เราไม่สามารถไปทำอะไรเค้าได้ ต้องรอให้เค้าหมดบุญไปเอง
    หลวงพ่อท่านก็ถามสุวรรณต่อว่าวิญญาณมนุษย์ไปเกิดก็เยอะ
    แล้ววิญญาณที่ยังอยู่ที่โลกก็เยอะทำไมไม่จับมาให้หมด
    สุวรรณก็ตอบว่าจับมาไม่ได้เพราะเค้ายังไม่หมดอายุขัย
    ร่างกายคนเรามีสังขาร (ร่างกาย)และจิตวิญญาณ
    เมื่อละสังขารแล้วแต่ยังไม่ละจิตวิญญาณ คืออยังไม่ถึงที่ตาย
    เช่นพวกฆ่าตัวตาย หรือถูกรถชนตาย
    วิญญานก็จะต้องวนเวียนอยู่ในโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ละวิญญาณแล ้ว
    ถึงจะไปรับมาได้ท่านจึงถามต่อว่า
    พ่อหลวงจะมีอายุยืนยาวไหม
    สุวรรณตอบว่า
    ท่านสิ้นอายุขัยแล้วแต่มีคนต่ออายุขัยให้ท่าน
    ซึ่งก็คือพี่สาวของท่านเอง
    แล้วประเทศไทยละ จะเป็นอย่างไรต่อไป
    สุวรรณตอบว่า
    บอกไม่ได้
    แล้วหลวงพ่อก็เดินต่อไปอีก
    คราวนี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อน
    ซึ่งมองไปที่กำแพงกั้นน้ำ
    สิ่งที่ท่านเห็นคือ
    ม้าตัวผอมเซียว
    ซึ่งมี พระเจ้าตาก
    และพระปิยะมหาราช
    ยื่นขว้างลำน้ำอยู่
    ท่านบอกว่า
    ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆช่วยไม่ให้กรุงเทพฯ
    ถูกน้ำท่วม
    จริงๆกรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไปนานแล้ว
    แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม้าจะหมดแรง
    จากความหนาวของน้ำ
    แล้วการอดอาหารมานาน
    หลวงพ่อท่านพูดจบท่านน้ำตาท่านก็ไหลออกมา
    แล้วบอกให้ทุกคนที่ได้รับฟังเรื่องราวของท่าน
    ว่าเป็นนิมิตของท่าน
    จะเชื่อหรือไม่ก็ได้
    เพราะท่านก็ยังคิดว่าเป็นความฝันของท่าน
    แต่ท่านก็กำชับกับทุกๆคนเอาไว้ว่า
    เวลาไปที่วงเวียนใหญ่

    หรือพระบรมรูปทรงม้า
    หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี
    พระบรมรูป
    ให้กราบไหว้โดยนำ
    หญ้าที่ม้ากินล้างให้สะอาดไปถวายด้วย
    เพื่อให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้
    ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปจริงๆ
    เพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้น
    สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือมันแปลกมากที่อยู่ๆ
    เข้าไปถวายเทียนแล้วท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
    ในเมื่อมีโอกาสได้รับรู้
    ก็ควรเผยแพร่แก่ทุกๆคนครับ
    ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ
    แต่อันนี้สุดแล้วแต่ความเชื่อครับ

    ปล.ข้อความใดไม่เหมาะสมช่วยแจ้งด้วยครับจะได้ลบทิ้ง
    ขอบคุณ
     
  20. คุชินาดะ

    คุชินาดะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +1,215
    ในภาวะที่โลกมีแต่ความวุ่นวาย บ้านเมืองปั่นป่วน อันเกิดจากปัจจัยหลายๆ ด้าน
    ชนิดยากที่จะหาทางคลี่คลายนี้ ยังผลให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างวิตกกังวล หวาดผวา

    พวกเราพี่น้องชาวไทย จึงควรใช้สติและปัญญา ในการรับรู้ หรือตัดสินใจต่อสถานการณ์รอบตัว ควรใช้ความรักสันติอันมีอยู่ในจิตเดิมแท้ เป็นเกณฑ์ในการแสดงออกต่อผลกระทบของสิ่งต่างๆ

    วิธีหนึ่งที่จะช่วยกันคลี่คลายก็คือการร่วมสร้างความสงบสุขให้เกิดกับตัวเรา
    โดยการร่วมกันสวดพระพุทธมนต์ให้กับตนเอง แล้วแผ่ออกไปสู่ผู้อื่น ยิ่งมากก็ยิ่งเปล่งรัศมีประหนึ่งพระอาทิตย์หลายดวง ครอบคลุมไปทุกสารทิศ เป็นการสยบเหตุร้าย โรคร้ายและภัยพิบัติทั้งปวง ดลจิตดลใจผู้ที่มีหัวใจหยาบกระด้าง ให้หวนคิดถึงบาปบุญคุณโทษกลับตัวเข้าหาความดี เพื่อให้เราทุกคนอยู่อย่างสงบร่มเย็น เพื่อให้ประเทศนี้ โลกนี้สงบสุข

    " อุปปาตะสันติ หรือ มหาสันติงหลวง " คือบทสวดเพื่อความสงบ ระงับจากภัยพิบัติทั้งปวง นิยมใช้สวดในพิธีใหญ่ ๆ เพื่อสงบเหตุร้ายต่าง ๆ อันเกิดขึ้นกับบ้านเมือง ซึ่งต้องใช้เวลาสวดต่อเนื่องกันนานพอสมควร แต่นับว่าเป็นมนต์บทที่เหมาะสมแก่การเข้ามาร่วมช่วยกันสวดในเวลานี้ เพื่อยังความสงบสุขแก่บ้านเมือง และเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชาวไทย ตลอดจนชาวโลกทั้งหลาย

    เรียนรู้เพิ่มเติม ข้อมูลบทสวดมหาสันติงหลวงได้จาก

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=18322

    http://kaskaew.com/index.asp?contentID=10000004&title=%BA%B7%CA%C7%B4%A4%D2%B6%D2%CD%D8%BB%BB%D2%B5%D0%CA%D1%B9%B5%D4%28%C1%CB%D2%CA%D1%B9%B5%D4%A7%CB%C5%C7%A7%29&getarticle=164&keyword=&catid=5

    รับฟังเสียงสวดมนต์มหาสันติงหลวงได้จาก

    http://www.suadmon.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=36

    ขอขอบคุณข้อความจาก หนังสือมหาสันติคาถา เพื่อสันติธรรมแห่งสยามประเทศ สำนักพิมพ์ต้นบุญ
    และ File free down load บทสวดมหาสันติงหลวง จาก Upatasanti, distributed by Tanat Tonguthaisri

    ขออำนาจแห่งบุญกุศลอันเกิดจากเจตนาอันบริสุทธิ์นี้ จงสัมฤทธิ์ผลแด่ทุกดวงจิต ทุกชีวิตวิญญาณ ที่ขวนขวายในกิจอันชอบ เพื่อธำรงค์ รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ ด้วยเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...