พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เตรียมงานล่วงหน้าเรียบร้อยดีไม๊ครับ คุณหนุ่ม งานนี้ใครทำใครได้ครับ ขออนุโมทนามา ณ ที่นี้ด้วย
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ค่อยๆทยอยซื้อของครับ

    ส่วนคุณpsombat และ น้องพรสว่าง ได้ลาพักร้อน เพื่อที่จะมาช่วยกันในวันก่อนวันงาน วันนั้น ผมจะไปซื้อขนมเปี๊ยะ ที่บางคล้า และน่าจะเลยไปที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง เพื่อจะอัญเชิญพระบูชา "พระอุปคุตเถระเจ้า" หน้าตัก 9 นิ้ว ไปถวายเพื่อเป็นสมบัติของพระศาสนาครับ


    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิทานสอนใจ : เด็กหญิงข้าวเปลือก
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 มีนาคม 2553 10:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หลายวันแล้ว ที่เด็กหญิงข้าวเปลือกเฝ้าดูเพื่อนๆ ของเธอออกเดินทางไปสู่บ้านหลังใหม่ ได้ยินมาว่า เพื่อนๆ ของเธอที่ออกเดินทางไป ต่างก็มีความสุขกับบ้านหลังใหม่ที่พวกเธอเรียกกันว่า "โรงสี" บ้างก็ว่าพวกเธอได้รับการดูแลทะนุถนอมอย่างดี จนเนื้อตัวผิวพรรณขาวสะอาดสอ้าน และกลายเป็น "ข้าวสวย" อ่อนนุ่ม และมีกลิ่นหอม

    เด็กหญิงข้าวเปลือกมองดูเนื้อตัวของตัวเองแล้วก็นึกน้อยใจ ทำไมเธอถึงมีรูปร่างใหญ่โต น่าเกลียดน่าชังไม่สะสวยเหมือนเพื่อนๆ ของเธอเลย ถ้าหากได้เอาเปลือกแข็งๆ สีน้ำตาลนี่ออกไป เธอคงจะดูดีมากทีเดียว เด็กหญิงข้าวเปลือกนึกฝันถึงการได้เป็น "ข้าวสวย"

    "พรุ่งนี้พวกเธอก็จะไปบ้านใหม่กันแล้วใช่ไหม" เด็กหญิงข้าวเปลือกถามเพื่อนข้าวเปลือกเม็ดหนึ่งในกระสอบที่กำลังจะถูกส่งไปโรงสีข้าววันพรุ่งนี้

    "ใช่จ้ะ"

    "ถ้าอย่างนั้น ต่อไปเธอก็จะได้เป็น 'ข้าวสวย' ใช่ไหม"

    "ใช่จ้ะ"

    "ฉันอยากไปกับเธอด้วยจัง ฉันอยากสวย ฉันอยากมีผิวขาวสะอาด และมีกลิ่นหอม"

    "มาอยู่ด้วยกันตรงนี้สิ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ไปด้วยกัน"

    คืนนั้นเด็กหญิงข้าวเปลือกนอนหลับฝันดีถึงการได้เป็น 'ข้าวสวย' อยู่ในกระสอบข้าวเปลือกท้ายรถกระบะที่จะลำเลียงไปโรงสีวันพรุ่งนี้

    กระสอบข้าวที่เด็กหญิงข้าวเปลือกแอบอาศัยตามมาด้วย ถูกเทกองรวมกับอีกหลายๆ กระสอบ จนกลายเป็นภูเขาข้าวเปลือกขนาดตึกสองชั้น เด็กหญิงข้าวเปลือกรู้สึกตื่นเต้นมาก อีกไม่นานเธอก็คงจะได้เป็น 'ข้าวสวย' แล้ว คิดแล้วเธอก็รู้สึกหัวใจพองโต

    "พวกเธอรู้จัก 'ข้าวสวย' ไหม ฉันจะไปหาพวกเขาได้ที่ไหน" เด็กหญิงข้าวเปลือกถามข้าวเปลือกเมล็ดหนึ่งในภูเขาข้าวเปลือก "ฉันไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าเธอจะหา 'ข้าวสาร' ฉันก็พอจะแนะนำได้

    "ข้าวสาร?"

    "ถูกต้อง ได้ยินว่าก่อนจะเป็น ข้าวสวย พวกเราจะต้องเป็น ข้าวสาร เสียก่อน” ข้าวเปลือกเมล็ดนั้นอธิบาย "บางที่ ข้าวสาร อาจจะมีคำตอบเกี่ยวกับ ข้าวสวยให้เธอก็ได้ ถ้าเธออยากรู้จริงๆ ก็ลองไปทางโน้นดูสิ ได้ยินว่า มีข้าวสารสีขาวบางเม็ดอยู่ที่นั่น"

    เด็กหญิงข้าวเปลือกเดินทางมาจนพบเม็ดข้าวเม็ดหนึ่ง แต่เป็นเม็ดข้าวที่แปลก เพราะมีสีคล้ำมาก "เธอไม่ใช่ข้าวสารใช่ไหม เธอเป็นใคร" เด็กหญิงข้าวเปลือกถาม

    "ไม่ใช่หรอก ฉันชื่อ กล้อง ฉันเป็นข้าวกล้อง" เม็ดข้าวผิวคล้ำตอบ

    "แล้วเธอเห็นข้าวสารแถวนี้บ้างไหม ฉันกำลังตามหาพวกเขาอยู่"

    "แถวนี้ไม่มีข้าวสารหรอก มีแต่ข้าวกล้องสีคล้ำอย่างฉัน"

    "ทำไมเธอถึงมีผิวคล้ำล่ะ" เด็กหญิงข้าวเปลือกถามอย่างสงสัย

    "ฉันตอบเธอไม่ได้หรอก ฉันไม่อาจเลือกที่จะมีสีแบบไหนได้ นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าของโรงสีได้กำหนดไว้ให้กับฉันแล้ว สิ่งที่ฉันบอกเธอได้ก็คือ ตัวฉันอุดมไปด้วยวิตามิน และฉันก็แข็งแรงกว่าข้าวสารสีขาวมากมาย"

    "แต่เธอผิวคล้ำ ดูไม่สวย"

    "ใช่ แต่ฉันก็ได้ความแข็งแรงเป็นสิ่งทดแทนในสิ่งที่ข้าวสารไม่อาจมีได้ และฉันก็ยินดีมาก ถึงแม้ฉันอาจจะดูไม่สวยก็ตาม" ข้าวกล้องตอบอย่างภูมิใจ "ว่าแต่เธอต้องการพบข้าวสารไปทำไมหรือ"

    "ฉันอยากเป็น ข้าวสวย พวกเขาน่าจะให้คำตอบกับฉันได้ว่า ฉันต้องทำอย่างไร"

    "ถ้าเธอต้องการพบข้าวสารขาวจริงๆ เธอลองไปทางโน้นดูสิเจ้าเพื่อนเปลือกแข็งตัวโตของฉัน"

    "พวกเธอขาวสะอาด สวยงดงามเหลือเกิน ฉันอยากเป็นอย่างพวกเธอจัง" เด็กหญิงข้าวเปลือกทักทายข้าวสารในกระสอบใบโต

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ข้าวสารขาวยิ้มอ่อนโยน "แต่เธอจะต้องแลกมาด้วยคุณค่าที่หายไป และร่างกายที่อ่อนแอลงนะ"

    "ข้าวกล้องบอกเรื่องนั้นแก่ฉันแล้วล่ะ แต่อย่างไรฉันก็ยังอยากเป็นแบบพวกเธออยู่ดี"

    "ทำไมล่ะ"

    "ก็ฉันตัวโต มีเปลือกแข็ง ดูไม่สวยเหมือนพวกเธอนี่ ฉันอยากจะเป็นข้าวสวย ที่มีผิวสีขาวสะอาด อ่อนนุ่ม มีกลิ่นหอม และนั่นเป็นสิ่งที่พวกเธอกำลังจะได้เป็นไม่ใช่หรือ"

    "ใช่ ถูกต้องแล้วล่ะ"

    "แล้วพวกเธอไม่ดีใจหรือ"

    "ดีใจสิ แต่ฉันก็คิดว่ามันเป็น 'หน้าที่' ที่ได้มอบหมายมา และฉันต้องทำให้ดีที่สุดมากกว่าจะคิดเพียงแค่สวย หรือไม่สวยเท่านั้น"

    "หน้าที่ อย่างนั้นหรือ?"

    "ใช่ หน้าที่ ฉันมีหน้าที่ของฉัน ข้าวกล้องก็มีหน้าที่ของเขา ส่วนเธอก็ต้องมีหน้าที่ของเธอ และเธอต้องทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุด"

    "หน้าที่เฝ้ายุ้งข้าวอย่างนั้นหรือ ฉันเบื่อที่จะต้องอยู่เฉยๆ คอยดูเพื่อนๆ เดินทางมาเป็น ข้าวสวย แล้วนะ"

    "เจ้าเพื่อนเปลือกแข็งตัวโต ฉันคงอธิบายอะไรเธอไม่ได้มากไปกว่านี้ ถ้าเธออยากรู้อะไร ก็ลองไปถามพวกคุณลุง 'ข้าวเก่า' ที่ท้ายโรงสีดูสิ"

    "คุณลุงข้าวเก่า?"

    "ใช่ พวกคุณลุงใจดีมาก คอยถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ให้กับพวกเราเสมอ"

    "ข้าวเปลือกเม็ดโต หนูมาหาใคร" ข้าวสารเม็ดหนึ่งที่ท้ายโรงสีถามเด็กหญิงข้าวเปลือก ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "หนูมาหาคุณลุง ข้าวเก่าค่ะ คือหนูมีเรื่องที่อยากจะรบกวนถามคุณลุงเค้า" เด็กหญิงข้าวเปลือกตอบ

    "ถ้าอย่างนั้น หนูก็ถามมาเลยจ้ะ ฉันนี่แหละคุณลุงข้าวเก่า ที่เธอกำลังตามหาอยู่

    "คุณลุงคือคุณลุง ข้าวเก่า หรือค่ะ"

    "ใช่จ้ะ"

    "ถ้าใช่ แล้วทำไมคุณลุงถึงดูเหมือนข้าวสารขาวล่ะคะ" เด็กหญิงข้าวเปลือกถามด้วยความไม่แน่ใจ

    "ก็ลุงเป็นข้าวสารนี่จ้ะ เพียงแต่ว่าถูกเก็บไว้นานหน่อยเท่านั้นเอง"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "แล้วทำไมต้องเก็บไว้นานด้วยล่ะคะ" คุณลุงข้าวเก่า หัวเราะเบาๆ ในความช่างซักของเด็กหญิงข้าวเปลือก ข้าวยิ่งเก่า ก็ยิ่งหุงขึ้นหม้อ หนูพอจะเข้าใจไหมจ๊ะ เด็กหญิงข้าวเปลือกส่ายหน้า "หุงขึ้นหม้อ หมายความว่าอะไรค่ะ"

    "ลุงก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง มันก็ประมาณว่า เม็ดข้าวที่สุกแล้ว จะพองโตขึ้นมากๆ จากตอนเป็นที่เป็นข้าวสารน่ะ หนูพอจะเข้าใจไหม" เด็กหญิงข้าวเปลือกยังคงส่ายหน้า

    "เอาเป็นว่า ตอนนี้ลุงอยากให้หนูรู้ไว้ว่า ของบางอย่าง ยิ่งเก็บไว้ ยิ่งเก่าก็ยิ่งดี" คุณลุงข้าวเก่าพยายามอธิบาย "แล้วหนูมีอะไรสงสัยที่อยากถามลุง ไหนว่ามาสิจ้ะ"

    "คือหนูอยากเป็น ข้าวสวย หนูอยากมีผิวขาว อ่อนนุ่ม และมีกลิ่นหอม เหมือนกับเพื่อนๆ ข้าวสารขาวของหนูกำลังจะได้เป็น แต่ทำไมหนูถึงถูกคัดแยกออกจากกลุ่มเพื่อนที่จะถูกส่งมาที่โรงสีแห่งนี้ด้วยล่ะคะ หน้าที่ของหนูคือยุ้งข้าวอย่างนั้นหรือค่ะ หนูเบื่อที่วันๆ ได้แต่เฝ้ามองดูเพื่อนๆ จะได้เป็นข้าวสวย"

    คุณลุงข้าวเก่าหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง "หนูรู้ไหม หนูเป็นข้าวเปลือกที่สวยมากอยู่แล้ว หนูมีเมล็ดที่โต มีรูปร่างที่ดี หนูไม่เห็นจะต้องมาเป็นข้าวสวยเลย ลุงจะบอกให้นะว่า ที่หนูถูกคัดแยกไว้นั้น เป็นเพราะหนูเป็นเมล็ดพันธุ์ดี และจะได้เป็นแม่พันธุ์ข้าวต่อไปยังไงล่ะ"

    "ถ้าหนูสวยแล้ว ทำไมหนูถึงต้องมีเปลือกแข็งๆ สีน้ำตาลห่อหุ้มไว้ด้วยล่ะคะ"

    "นั่นเพราะตอนนี้หนูยังต้องได้รับการปกป้องทะนุถนอม แต่เมื่อถึงเวลาฝนแรกของปีมาเยือน หนูจะแทงยอดสีเขียวอ่อนออกมากลายเป็นต้นกล้าข้าวที่สวยงามมากทีเดียวนะ หลังจากนั้นหนูก็โตขึ้นเป็นต้นข้าวที่เติบใหญ่ออกรวงให้เมล็ดข้าวสีทองพันธุ์ดีออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่สีน้ำตาลอย่างที่หนูคิด หรือรู้สึกไปเอง"

    "เป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือคะคุณลุง"

    "ใช่สิจ๊ะ ลุงเองก็อยากเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีอย่างหนูเลย แต่ลุงก็ไม่สามารถเป็นได้ หนูมีโอกาสที่จะสร้างเมล็ดพันธุ์ที่ดีต่อๆ ไป หนูควรจะภูมิใจนะ" เด็กหญิงข้าวเปลือกรู้สึกยินดีในสิ่งที่คุณลุงข้าวเก่าอธิบาย

    "หนูไม่อยากเป็น 'ข้าวสาร' แล้ว ขอบคุณค่ะคุณลุง"

    การอดทนรอคอยอันยาวนานของ "เด็กหญิงข้าวเปลือกแสนสวย" สิ้นสุดลงเมื่อฝนแรกของปีมาเยือน เธอถูกหว่านลงไปในแปลงดินชุ่มชื้น ในวันที่ฝนพรำไอดิน และกลิ่นฝนทำให้เธอรู้สึกสดชื่น ที่นาผืนนี้นี่เอง คือ บ้านใหม่ ที่น่าอยู่ของเธอ เธอจะได้รับการทะนุถนอมอย่างดี เช่นเดียวกับเพื่อนๆ ของเธอในที่นาผืนนี้

    เธอสัญญาว่า จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาอย่างดีที่สุด ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะแตกใบอ่อนสีเขียว เป็นกล้าข้าวที่งดงาม และเติบโตขึ้นเพื่อให้รวงข้าวสีทอง และเมล็ดข้าวพันธุ์ดีต่อไป


    ////////////////////////

    ขอขอบคุณนิทานดีๆ จากหนังสือ "รวมนิทานยอดเยี่ยม รางวัลมูลนิธิเด็ก" ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2550 สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปัจจุบัน ยอดเงินในบัญชีการจัดสร้างล็อกเก็ต คงเหลือจำนวน 35,885.17 บาท

    ส่วนรายละเอียด ผมจะแจ้งให้ทุกๆท่านทราบทาง Email ว่า ได้จัดซื้ออะไรไปแล้วบ้างครับ


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คนที่ไปป่วนในงานบุญ(ไม่ว่าจะเป็นงานบุญไหนๆก็ตาม)

    ต้องได้รับในสิ่งที่ตนเองกระทำแน่นอน

    ถึงแม้เบื้องหลังจะพยายามทำตัวเองให้คนอื่นมองว่า ตนเองเป็นผู้ที่รู้เรื่องของพระเครื่องดี

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังอ่อนหัดอยู่ และไปเตือนคนอื่นๆว่า อย่าไปหลงในนิยาย

    ซึ่งหากมีคนที่เชื่อแล้วตามกันไป

    กรรมจะไม่ยกเว้นให้เช่นกัน ตามกันไปมากเท่าไหร่ ต้องรับกันไปตามที่ตนเองกระทำไว้

    สุดท้ายที่ผมจะบอก ก็คือประโยคยอดฮิต

    "ใครทำใครได้ ใครกินใครอิ่ม"

    ใครทำกรรมดี ต้องได้ดี
    ใครทำกรรมชั่ว ต้องได้ชั่ว
    ใครกินข้าว ต้องอิ่มท้อง
    ใครกินยาพิษ ต้องไปวัด

    พิจารณาดูกันเอง เลือกทางเดินเอง

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันจันทร์ตอนเช้าๆนี้ ผมมีคำถามมาถามทุกๆท่าน

    แต่การถามครั้งนี้ ไม่มีรางวัลนะครับ

    ถามว่า "ท่านใดรู้จักสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้บ้าง"

    ไว้ตอนเย็นๆ จะมาตอบเรื่องนี้ครับ

    แต่ห้ามไปขอให้อิคคิวช่วยคิดนะครับ เหอๆๆๆ


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภัยเล่นเฟซบุ๊ก-ไฮไฟว์ ต้นปี 53 คนหาย 5 ราย
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 มีนาคม 2553 07:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=284 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=284>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ไอทีวอชท์” มูลนิธิกระจกเงา เผยภัยจากการเล่นเว็บ Social Network หรือเครือข่ายออนไลน์ กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก-ไฮไฟว์-ทวิตเตอร์ ชักจูงคนแปลกหน้าติดต่อ ต้นปี 53 นี้ มีคนหายแล้ว 5 ราย

    น.ส.กรกนก สำเนากลาง หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังภัยเทคโนโลยี (IT WATCH) มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ภัยจากการเล่นเว็บ Social Network หรือเครือข่ายออนไลน์ กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก (Facebook) ไฮไฟว์ (Hi5) ทวิตเตอร์ (Twitter) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสารจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งหากรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะนำไปสู่ปัญหาเด็กหายได้ เนื่องมาจากการชักจูงของคนที่ร่วมติดต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่พูดคุยกันมานาน จนก่อเกิดเป็นความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งทางศูนย์ได้รวบรวมสถิติคนหาย เนื่องมาจากภัยเทคโนโลยี โดยข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 จนถึงขณะนี้พบคนหายจากการติดเกมรวม 2 ราย ขณะที่ปี 2552 พบ 9 ราย เป็นหญิง 1 ราย แต่ติดตามจนพบตัวแล้ว 8 แล้ว เหลืออีก 1 รายอยู่ระหว่างการดำเนินการตามหา

    น.ส.กรกนก กล่าวอีกว่า ส่วนคนหายจากการเล่นแชตทางอินเทอร์เน็ต ในปี 2553 พบ 4 ราย เป็นหญิงทั้งหมด โดยหาพบแล้วเพียง 1 ราย เหลืออีก 3 ราย ขณะที่ปี 2552 มีทั้งสิ้น 23 ราย เป็นหญิงทั้งหมดเช่นกัน พบแล้ว 7 ราย เหลืออีก 16 ราย ยังหาไม่พบ ขณะที่การเล่นแชตทางไฮไฟว์ ในปี 2553 พบเพียง 1 ราย เป็นหญิง ขณะนี้หาพบแล้ว ส่วนปี 2552 มี 2 ราย เป็นหญิง ขณะนี้หาพบแล้ว

    ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การเล่นเว็บไซต์ผ่านเครือข่ายออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีอาจทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้น เป็นการเล่นทันยุคทันสมัย ได้รับความเพลิดเพลินสนุกสนาน แต่ข้อเสีย หากเล่นแบบหมกหมุ่นก็อาจนำไปสู่ความเดือดร้อน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กผู้หญิง กลุ่มเด็กเรียน หรือกลุ่มที่ขาดการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ ผู้ปกครอง นำไปสู่ปัญหาต่างๆ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์ การหายออกจากบ้าน

    ดังนั้น สิ่งสำคัญพ่อแม่ต้องรู้ทันลูกหลาน ไม่ควรให้หมกตัวอยู่แต่ในห้องส่วนตัว หากเป็นไปได้ควรตั้งคอมพิวเตอร์ไว้กลางห้อง ให้เป็นของสำหรับทุกคน และควรรู้จักพูดคุยกับลูกหลานให้พวกเขาไว้ใจ และพร้อมเปิดเผยในทุกเรื่อง แต่ส่วนใหญ่กลับไม่เคยสนใจ จนเกิดปัญหาในที่สุด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "ใครทำใครได้ ใครกินใครอิ่ม"

    ผลประโยชน์ และ ขายไม่ดี
     
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    กำแพงเมืองจีนครับ หุ หุ
     
  10. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่นานาชาติเขาว่าไว้มีอยู่ 10 แห่งเช่น กำแพงเมืองจีน ทัชมาฮาล สุสานฟาโร นครวัด ฯลฯ เป็นต้น ... แต่สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในความรู้อันน้อยนิดของผม ขอยกให้วัตถุมงคลที่มีพระบัณฑูรให้สร้างโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ละกัน แต่ละอย่างนี่ล้วนแล้วแต่คาดไม่ถึงทั้งนั้น ทั้งในแง่ของคุณภาพ ปริมาณ ... และอีกอย่างคือพระบรมสารีริกธาตุกับพระธาตุของพระอรหันต์นั่นไงเล่า คงไม่ต้องอธิบายนะว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างไร หุหุ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, chantasakuldecha+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า รอคุณเพชร และน้องchantasakuldecha ตอบเช่นกันนะครับ


    .
     
  12. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    นึกได้ต้องรีบตอบครับ
    สิ่งมหัศจรรย์(ทางโลก)ในความคิดและประสบการณ์ของผมนั้นคือ
    การที่สิ่งมีชีวิตได้กำเนิดออกมาครับ จากอสุจิเข้าไปฟักตัวในรังไข่แล้วเจริญพันธุ์ จนออกมาเป็นตัวทารก และมีวิวัฒนาการ เกิดจนตายครับ
    มันมหัศจรรย์มากๆครับ อันนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงของผมเลยครับ
    ตอนนี้ลูกสาวผมอายุ 2เดือน 12วัน เปลี่ยนแปลงทุกวันครับ หน้าตาและร่างกายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2010
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไม่ว่าจะตอบอย่างไร ไม่มีผิด มีแต่ถูก

    แต่ถูกในทัศนะคติของแต่ละท่าน

    อีกแนวคิดหนึ่งก็คือ

    ความมหัศจรรย์ของโลกนี้ อยู่ไม่ไกล อยู่ใกล้มากๆ คืออยู่ที่ตัวของท่านเอง

    ไม่ว่าจะเป็น

    ตา คือ การที่เราได้มีโอกาสมองเห็นสิ่งต่างๆรอบๆตัว

    หู คือ การที่เราได้ยินเสียงต่างๆมากมาย

    จมูก คือ การที่เรารู้สึกถึงกลิ่นต่างๆ

    ลิ้น คือ การที่เราได้สัมผัสกับรสชาติของอาหาร

    สัมผัส(หรือกาย) คือ การที่เรารับความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้อน , หนาว หรือสัมผัสโดยรับความรู้สึกมาจากสมอง เช่น การได้ยินเรื่องขำๆ เราก็สามารถหัวเราะได้

    ใจ คือ การที่เรารับรู้ถึงความ สุข , ความทุกข์ ฯลฯ

    นี่เป็นแนวคิดอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งบางครั้ง เรามีแนวคิดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ใช่ว่า จะผิด หรือ ล้มเหลว เพียงแต่ต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า แนวคิดที่เห็นแตกต่างกันออกไปนั้น มีผลดีอย่างไร ผลเสียอย่างไร แล้วท่านจะประสบกับความสำเร็จอย่างที่ท่านได้ตั้งใจไว้

    แต่

    การเดินทางไปสู่ความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ อย่าลืมสิ่งที่สำคัญมากๆไป เรื่องที่เราจะตัดภพ ตัดชาติ ไม่กลับมาเกิดอีก ต้องเพียรปฎิบัติกันให้มากๆด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะมีเงิน มีทอง มีชื่อเสียง มีเกียรติยศ มีอำนาจ มากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่สร้างมาแต่หนหลัง และการสร้างบุญบารมีในปัจจุบันครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อีสาน-เหนือ มี พายุฤดูร้อน ฝนตก มีลูกเห็บ

    http://hilight.kapook.com/view/46878


    [​IMG]


    อีสาน-เหนือมีพายุฤดูร้อน ฝนตก มีลูกเห็บ (ไอเอ็นเอ็น)

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 3 (15/2553) เรื่อง พายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีพายุลูกเห็บ

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณจังหวัดลำปาง ตากและเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคอุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ และกาญจนบุรี อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    [​IMG]
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สธ.เตือนระวัง 6 โรคอันตรายหน้าร้อน

    ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์

    เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะ นี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อน หลายพื้นที่อาจร้อนจัดและประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจะเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค จึงได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ออกประกาศเตือนประชาชนป้องกันโรคที่เกิดในฤดูร้อน 6 โรค ได้แก่ โรคอุจจาระ ร่วง อาหารเป็นพิษ บิด ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค และโรคพิษสุนัขบ้า และสั่งการให้ สสจ.ทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวัง ผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากมีรายงานผู้ป่วย ให้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วออกสอบสวนควบคุมโรคทันที และดูแลปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สุขาภิบาลอาหาร และจัดหาน้ำสะอาด โดยเน้นการล้างตลาดทุก 2 สัปดาห์ ใส่คลอรีนในแหล่งน้ำดื่มให้ได้มาตรฐาน และเร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ แจ้งเตือนประชาชนพร้อมคำแนะนำวิธีการปฏิบัติตัว เพื่อลดจำนวนผู้เจ็บป่วยลงให้ได้มากที่สุด

    ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-28 ก.พ.พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง อาหาร เป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรค และไข้ไทฟอยด์ รวม 200,576 ราย เสียชีวิต 14 ราย ที่พบมากที่สุด ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง 183,339 ราย เสียชีวิต 12 ราย รองลงมาคืออาหารเป็นพิษ 14,897 ราย เสียชีวิต 1 ราย สำหรับสาเหตุการติดเชื้อโรคดังกล่าว เกิด จากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน ในการดูแลเบื้องต้นภายหลังมีอาการดังกล่าว ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำผสมเกลือแร่หรือที่เรียกว่าผงโออาร์เอส โดยใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่ 1 ซองผสมน้ำต้มสุกเย็น 1 แก้ว หากไม่มีให้ใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กับเกลือป่นครึ่งช้อนชา ละลายกับน้ำต้มสุกเย็นในปริมาณ 1 ขวดกลมแทน โดยต้องดื่มให้หมดภายใน 1 วัน นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารเหลว เช่น น้ำข้าว น้ำแกงจืด หรือข้าวต้ม ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์.
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หยิบสิ่งใกล้ๆตัวมาตอบคล้ายน้อง chantasakuldecha ...

    รอยยิ้มของเด็ก...ตามภาพครับ...

    [​IMG]
    เดิมเด็กเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น พอนานไป...

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    คงเพราะผู้ใหญ่แต่งแต้มให้เด็กเป็นไปได้อย่างนั้น

    กลับมาปรับที่ตัวผู้ใหญ่ น่าจะดีกว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2010
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทำอย่างไร…เมื่อลูกชอบโขกหัวตัวเอง /ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 มีนาคม 2553 12:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คุณพ่อ คุณแม่บางท่านอาจเผชิญปัญหาว่าลูกชอบ ดึงผม โขกหัวตัวเองกับพื้น ฝาผนัง หรือกับเก้าอี้บ้าง ตีตัวเองบ้าง หรือบางคนชอบเอาอะไรเขี่ยที่หู ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเข้าหู และเป็นห่วงว่าลูกเราปกติดีหรือไม่ พฤติกรรมเหล่านี้เกิดจากอะไร และเป็นอันตรายหรือไม่ วันนี้ผู้เขียนขอสรุปรายละเอียดสั้นๆดังนี้

    ช่วงอายุของลูกในการทำพฤติกรรมดังกล่าว หากลูกยังอยู่ช่วง ทารกและทำพฤติกรรมเหล่านี้ ลูกอาจจะอยากทดลองจับสิ่งของต่างๆรอบตัว ให้สัมผัสกับอวัยวะของร่างกาย เป็นการสำรวจว่าสิ่งรอบตัวเป็นอย่างไร เป็นวิธีการเรียนรู้อย่างหนึ่ง เด็กทารกบางคนชอบเอาหัวโขกกับเปล เพราะการฟังจังหวะและท่วงทำนองบางอย่าง ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย ลูกอาจมีพฤติกรรมดังกล่าวสักพักหนึ่ง แล้วพฤติกรรมเหล่านี้จะหายไปเอง

    แต่หากลูกอยู่ในช่วงวัยคลานและเดิน คือประมาณ 10 เดือนขึ้นไป เด็กวัยนี้อาจมีพฤติกรรมอาจชอบโขกหัวกับพื้น ประตู หน้าต่าง ดึงผมตัวเอง หรืออาจหยิกหน้าตัวเอง พฤติกรรมดังกล่าวอาจมีสาเหตมาจาก

    • การเรียกร้องความสนใจ
    • การระบายอารมณ์ที่ไม่พอใจ
    • ต้องการเอาชนะหรืออยากได้อยากทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้าม
    • เด็กมีความบกพร่องการอารมณ์ หรือเป็นเด็กพิเศษ

    วิธีแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าวอาจทำได้ดังนี้

    • หยุดพฤติกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ทำอยู่ แล้วบอกลูกว่า อย่าทำร้ายตัวเองนะ แล้วเดินจากไป

    • เพิกเฉยต่อพฤติกรรมนั้น คือไม่สนใจเลย

    • อย่าเสริมแรงต่อพฤติกรรมนั้นเป็นอันขาด คุณพ่อคุณแม่อาจสงสารลูก และเข้าไปปลอบโยนหรือเอาใจ ตามใจ อุ้ม การแสดงอารมณ์โกรธตอบลูก หรือเสริมแรงต่างๆ เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้ลูกมีพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และยากต่อการแก้ไข

    • อย่าล่อโดยการให้รางวัล หรือโดยการให้ความสนใจ อย่าบอกว่าหากหยุดทำร้ายตัวเองแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะให้รางวัล เพราะลูกจะเรียนรู้ว่า การเรียกร้องโดยการทำพฤติกรรมนั้นๆ จะได้รับรางวัลตอบแทน


    • เสริมแรงลูกโดยการสังเกตพฤติกรรมที่ดี ที่ลูกทำ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่นการช่วยเก็บของเล่นเข้าที่ การแต่งตัวเอง แล้วให้รางวัลแทน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> • เมื่อลูกเรียนรู้ว่าเจ็บ ลูกจะหยุดพฤติกรรมนั้นไปเอง

    • คุณพ่อคุณแม่อย่ากังวลใจมากเกินไป เพราะลูกจะไม่ตายโดยการโขกหัว แต่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดหัวมากขึ้นหากให้ความสนใจ

    • พยายามแก้ไขที่สาเหตุที่แท้จริง อย่าแก้ที่ปลายเหตุ เช่นลูกอาจจะอิจฉาน้องที่เพิ่งเกิดมาใหม่ ลูกอาจจะอยากให้อุ้ม หรือบางทีลูกอาจจะอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ เป็นต้น


    • เมื่อทราบสาเหตุแล้ว หากโอกาสพูดกับลูกถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรหากต้องการของบางอย่าง

    • เมื่อเกิดพฤติกรรมดังกล่าวลต้องแน่ใจว่าเด็กอยู่ในที่ๆ ปลอดภัย และจะไม่เกิดการบาดเจ็บ

    • อาจใช้วิธี จัดเวลาให้เด็กมีมุมสงบ หรือ ( Time Out ) โดยการให้เด็กเข้าไปในที่ๆสงบประมาณ1-2 นาที เพราะเด็กวัยนี้ไม่สามารถอยู่นิ่งได้นานๆ แล้วหลังจากนั้นอธิบายให้ลูกฟังว่าทำไมต้องอยู่ในมุมสงบ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์คืออะไร เด็กบางคนเข้าใจและจะไม่ทำพฤติกรรมนั้นอีก

    • เด็กอาจมีพฤติกรรมนี้ช่วงระยะหนึ่งแล้วเมื่ออายุประมาณ 2- 2ขวบครึ่งหรือ 3 ขวบจะหายไปเอง

    • หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลใจมาก หรือพฤติกรรมดังกล่าวรุนแรงมากขึ้น หลังจากเพิกเฉยหรือไม่สนใจแล้ว ควรจะปรึกษาหมอเด็ก เพราะเด็กอาจจะมีภาวะออติสติก หรือเป็นโรคทางระบบประสาทได้

    ผู้เขียนรู้จักครอบครัวหนึ่งที่มีลูกชายคนเดียว ซึ่งลูกชายมีพฤติกรรมที่ชอบโขกหัวตัวเองกับ พื้น ประตูและฝาผนัง ที่บ้านของครอบครัวนี้เป็นบ้านไม้ คุณแม่พยายามใช้วิธีการมากมายที่จะหยุดยั้งพฤติกรรมนี้ เพราะเป็นห่วงสงสารกลัวว่าลูกจะเจ็บและเป็นอันตราย แต่ก็ไม่สามารถหยุดพฤติกรรมดังกล่าวนี้ได้ วันหนึ่งน้องไปศูนย์การค้าไปร้องดิ้นพราดๆอยู่ที่พื้นแล้วโขกหัวที่พื้นซีเมนต์ คราวนี้น้องคงเจ็บ เพราะที่บ้านเป็นไม้ไม่รู้สึกอะไร จึงหยุดพฤติกรรมนั้นทันทีแล้วไม่โขกหัวตัวเองอีกเลย กว่าจะหยุดพฤติกรรมนั้นได้ เล่นเอา คุณพ่อคุณแม่หัวใจจะวาย บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องอดทน ต้องรักลูกและมีระเบียบวินัยด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อหมดพฤติกรรมนี้แล้วลูกอาจมีพฤติกรรมอื่นมาให้คุณพ่อคุณแม่แปลกใจอีก แต่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับคุณเพชร

    ผมไม่เห็นรูปครับ


    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/threads/gold-futures.228533/

    สำหรับเรื่องของ Gold Futures ปัจจุบันมีบริษัทที่เกี่ยวข้องอยู่ประมาณ 7 บริษัท

    http://www.kimeng.co.th/thai/index.asp
    http://www.assetfund.co.th/th/index_th.asp
    http://www.one-asset.com/
    http://www.tsi-thailand.org/
    http://www.kgieworld.co.th/th/index.asp
    http://www.tmbam.com/v1/th/index.php
    http://www.ausiris.co.th/th/
    http://www.thanachartfund.com/index.html
    http://www.bblam.co.th/
    http://www.thaigold.info/th/

    ลองเข้าไปหาข้อมูลดูก่อนนะครับ

    แต่การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินมากกว่า หรือ น้อยกว่า เงินลงทุนครั้งแรกครับ


    .----------------------------------------------------------.

    กลไกราคา Gold Futures

    กลไกราคา Gold Futures | ThaiGold.info ราคาทอง ข่าว-บทวิเคราะห์ กราฟ ราคาทองคำ Gold Futures

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=createdate vAlign=top>วันจันทร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๒ เวลา ๒๓:%M น. </TD></TR><TR><TD vAlign=top>[​IMG]บทก่อน เกริ่นกันไว้ในประเด็นกว้างๆ บทนี้ เรามาทำความรู้จักกลไกการทำงานของ Gold Futures ตั้งแต่คอนเซปต์ของมัน และแนวทางปฏิบัติที่ทำให้มันประสบความสำเร็จในการที่จะผูกติดราคามันไว้กับราคาทองคำจริงได้อย่างลงตัวได้ยังไง

    มาเริ่มทำความรู้จักกันที่ลักษณะของ Gold Futures คร่าวๆกันก่อน
    - Gold Futures เป็นสัญญาจะซื้อจะขายทองคำ มีวันหมดอายุหรือวันสิ้นสุดสัญญา บ้านเราใช้เดือนคู่ คือ ก.พ. เม.ย. มิ.ย. ส.ค. ต.ค. ธ.ค. เป็นเดือนหมดอายุ มีให้เลือกซื้อขายทีละ 3 ซีรีส์ เช่นเดือนนี้เดือนมกราคม จะมีสัญญาเดือน ก.พ เม.ย. และ มิ.ย. ให้เลือกซื้อ ตามสะดวก แต่โดยมาก จะซื้อขายกันกระจุกตัวอยู่ในเดือนใกล้สุด เพราะจะมีสภาพคล่องหรือมีคนเข้ามาซื้อขายกันมากสุดนั่นเอง
    - Gold Futures บ้านเรา จะคำนวณราคาอ้างอิงมาจากดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยง หรือดอกเบี้ยนโยบายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นคนประกาศนั่นแหละ โดยปัจจุบัน (มค. 52) อัตราดอกเบี้ยคือ 2%
    - จากการใช้ดอกเบี้ยคำนวณราคาอ้างอิง เมื่อถึงวันสิ้นสุดสัญญา ราคาของทองคำจะเท่ากับหรือเกือบเท่ากับราคาทองของจริงเสมอ เพราะหากใครถือจนหมดสัญญา ราคาทองคำวันหมดสัญญาจะไม่มีดอกเบี้ยมารวมด้วย เพราะดอกเบี้ยมันคูณด้วย 0 วันนั่นเอง ราคาที่ใช้ในการคำนวณกำไรขาดทุน จะใช้ราคาทอง London A.M. Fixing Price ซึ่งเป็นราคาตามประกาศของลอนดอนในช่วงเช้าเป็นหลัก (ไม่ใช่ราคาตามประกาศสมาคมฯบ้านเรานะครับ)

    มีอะไรที่ยืดยาวกว่านี้ แต่เอาไว้พูดเมื่อถึงเวลาที่จะต้องพูดก็ยังไม่สาย จะได้ไม่งงกัน

    ข้อกำหนดที่เขาคิดไว้ ทำให้เกิดสินค้าให้เล่นครั้งละ 4 ตัวพร้อมกันเป็นอย่างน้อย โดยมีราคาต่างกันเล็กน้อยตามเวลาและสถานที่
    - 4 รายการแรก คือ ทองคำ spot หรือของจริง ตามด้วย 3 รายการ จากทองคำสัญญาเดือนต่างๆ 3 ซีรีส์ ตามที่บอกไว้ข้างบน
    - ทองคำจริง อาจแบ่งย่อยได้อีก เป็นตลาดในประเทศ และต่างประเทศ หากเราเข้าถึงได้

    ตารางข้างล่าง แสดงตัวอย่างการคำนวณราคาอ้างอิง สำหรับแต่ละซีรีส์ สมมุติว่า วันนี้วันที่ 1 มค. 52 ราคาทองคำจริง (Realtime) = 14000
    ราคาทองคำ Futures = ราคาSpot+(ราคาSpot x อัตราดอกเบี้ย x อายุที่เหลือของสัญญา) โดยดอกเบี้ยเท่ากับ 2%

    <TABLE style="HEIGHT: 89px" cellSpacing=1 cellPadding=1 width=525 border=1><TBODY style="TEXT-ALIGN: left"><TR style="TEXT-ALIGN: left"><TD style="TEXT-ALIGN: left">ราคา Spot
    </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">ก.พ.(อายุ 2 เดือน)</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">เม.ย.(อายุ 4 เดือน)</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">มิ.ย.(อายุ 6 เดือน)</TD></TR><TR style="TEXT-ALIGN: left"><TD style="TEXT-ALIGN: center">14,000.- </TD><TD style="TEXT-ALIGN: center">14,047.- </TD><TD style="TEXT-ALIGN: center">14,093.- </TD><TD style="TEXT-ALIGN: center">14,140.- </TD></TR></TBODY></TABLE>
    จะสังเกตว่า ผมใช้คำว่า ราคาอ้างอิง เพราะมันไม่ใช่ราคาจริงที่เกิดขึ้นในตลาด และผมบอกว่า มันคือสินค้าคนละตัวกัน ทำให้การซื้อขายสามารถไปคนละทิศละทางได้ และจุดนี้เองที่จะเกิดการเข้ามาแสวงหากำไรจากส่วนต่างของราคา และมีบุคคลสำคัญในตลาดที่เราเรียกว่า ผู้ค้ากำไร ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า arbitrageur รวมอยู่ด้วย
    ที่ผมบอกว่า สำคัญ เพราะ หากปราศจากคนกลุ่มนี้ กลไกราคาจะไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ ราคาทองคำจริง กับ Gold Futures จะไม่มีทางไปด้วยกันได้ครับ

    คนกลุ่มนี้ ผมว่า ถ้ามองบ้านเรา อย่างน้อยจะมีกลุ่มผู้ค้าทองคำรายใหญ่ในสมาคมค้าทองคำด้วยแน่นอน เพราะสามารถเข้าถึงตลาดทองคำจริง และ Gold Futures ได้พร้อมกัน และที่สำคัญคือทุนหนา

    ผู้ค้ากำไร หรือ arbitrageur นี้ เมื่อเห็นราคา Futures กับของจริง ต่างกันจนสูงมากกว่าต้นทุนดอกเบี้ยที่ตนต้องเสีย(หรือเสียโอกาสจะได้รับ) ก็จะเข้า Short (ขาย) หรือ Long (ซื้อ) ในตลาดหนึ่ง ขณะที่จะกระทำในทางตรงข้าม ในอีกตลาดหนึ่ง เพื่อกินส่วนต่าง โดยปราศจากความเสี่ยง

    ปราศจากความเสี่ยงได้ยังไง?
    สมมุติว่า วันนี้วันที่ 1 มค. ราคา spot เท่ากับ 14000 บาท ตามตารางข้างบน แต่ราคาทองคำสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ แทนที่จะเป็น 14047 กลับเป็น 14300 คือราคาสูงเกินจริง

    ผู้ค้ากำไร หรือ arbitrageur จะขายหรือ Short สัญญาเดือนกุมภาพันธ์ ที่ 14300 ขณะเดียวกัน ก็จะซื้อทองคำจริงที่ราคา 14000 ไว้ และถือไว้จนวันสิ้นสุดสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งไม่ว่า ราคาในวันนั้นจะเป็นเท่าไหร่ ผู้ค้ากำไร จะได้ส่วนต่างราคา 300 บาทต่อทองคำ 1 บาทแน่นอน มากกว่าดอกเบี้ย 47 บาท ที่ต้องเสีย(หรือเสียโอกาสได้รับ)
    เช่น ราคาทองคำวันสิ้นสุดสัญญาอยู่ที่ 15000 บาท
    ทองคำจริง กำไรจากการซื้อไว้ 15000-14000 = 1000 บาท
    Gold Futures ขาดทุนจากการ Short ไว้ 15000-14300 = 700 บาท
    ผลต่างเท่ากับ กำไร 300 บาท

    แต่หากกลับกัน หากราคาทองคำอยู่ที่ 13000 บาท
    ทองคำจริง ขาดทุนจากการซื้อไว้ 14000-13000 = 1000 บาท
    Gold Futures กำไรจากการ Short ไว้ 14300-13000 = 1300 บาท
    ผลต่างเท่ากับกำไร 300 บาทเช่นกัน

    และการกระทำเช่นนี้จะเกิดอยู่ตลอด และจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ราคายังห่างคุ้มพอที่จะทำ และราคาก็จะเข้าสู่ภาวะสมดุลย์ได้ในที่สุด

    ทั้งหมดที่เล่ามา คงพอทำให้พวกเราเข้าใจกลไกราคากันมากขึ้นบ้างนะครับ ว่าทำไม ราคาทองคำ Gold Futures กับทองคำจริงๆ ถึงผูกติดกัน หรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันได้ ทั้งที่ไม่น่าจะมีอะไรมาเกี่ยวกันสักหน่อย

    บทต่อไป ค่อยมาลงลึกรายละเอียดกันอีกหน่อย บทละนิดนะครับ จะได้ไม่เวียนหัว ผมเขียนเอง ยังเวียนหัวเลย [​IMG]<!-- JOM COMMENT START --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2010
  20. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    55อดแซวไม่ได้ครับ ผมว่าสิ่งมหัศจรรย์กว่าคือทำไงให้ตอนนี้กลับไปในท้องได้ครับ หุ หุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...