เป็นเกย์บวชได้ไหม

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Blunt, 3 มีนาคม 2010.

  1. กังหันลม

    กังหันลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +693
    ก็จริงนะครับว่าอาจจะเหลือน้อย

    แต่ถ้้าละเลยต่อพุทธวจนะ

    ประพฤติขัดต่อพุทธพจน์

    นั่นก็เท่ากับว่าเราสร้างกรรมที่ไม่ดีแล้ว

    และยิ่งในกรณีเช่นนี้กรรมที่หนักย่อมมีแก่ผู้อุปสมบทด้วย

    อีกทั้งเป็นการบั่นทอนศรัทธาในพระศาสนา

    ผู้ที่ศรัทธาอยู่แล้วย่อมเสื่อมจากศรัทธา

    ผู้ที่ยังไม่ศรัทธาก็จะไม่ศรัทธา

    จากจุดนี้จึงต้องพิจารณามากและตระหนักเป็นพิเศษ

    แต่ท่านที่จะบวชนั้นขอให้ท่านพิจารณาอย่างนี้ครับว่า

    ท่านจะละพฤติกรรมเหล่านั้นในขณะอุปสมบทได้หรือไ่ม่

    เพราะว่าธรรมทุกชนิดเกิดมาจากใจของคนเรานี่เอง

    หากเราเพียรเพ่งรักษาใจของเราไว้ได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา


    คนที่ทำได้จึงน่าอนุโมทนาเป็นที่สุดครับ

    สาธุ
     
  2. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    น่าเห็นใจผู้เป็นบิดามารดา ด้วยความหวังในบุตรชาย นำพาตนขึ้นสวรรค์ ด้วยความหวังว่าพระธรรมจะนำพาบุตรสู่หนทางแห่งความจริงและถูกต้อง
    น่าเห็นใจผู้เป็นบุตร มีเจตนาดีบวชเพื่อตอบแทนคุณ ด้วยคิดว่าเป็นกุศลผลบุญใหญ่ตามความเชื่อ ให้บุพการีย์นั้นได้สมดั่งตั้งใจหวัง จะรักษาศีลและละจิตเพศวิปริตเพียง๑เดือน อยากขอคำช่วยเหลือจากผู้รู้ทุกด้านให้ชี้แนะ
    น่าเห็นใจผู้ชี้แนะ ที่หวาดหวั่นจะเกิดมารศาสนาเพิ่มอีก๑ จะเกิดผู้ทุศีลจำอวดเพศเป็นเปรตภูมิภพอีก๑ ด้วยเกรงศาสนาจะเสื่อมทรามจากผู้กระทำทราม
    น่าเห็นใจผู้ชี้แนะ ที่หวังว่าเมื่อเขาศึกษาและรู้รสแห่งพระธรรมคำสอนแล้วจะประพฤติปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดใน ศีล สมาธิ จนเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูรย์อริยะในอนาคต
    น่าเห็นใจทุกคน ถ้าเขาไม่บวช จะไม่มีใครได้เห็นน้ำตาแห่งความสมหวังที่ตั้งใจจากบุพการีย์ ผ้ากาสาวพัตรแห่งความหวังของชายและหญิงผู้ให้กำเนิดจะไม่ได้สัมผัสร่างกายของครอบครัวนี้เลย ความเป็นพุทธศาสนา ศีลธรรม ปัญญา ความดีความชั่ว บุญบาป กุศลอกุศล จะไม่เกิดขึ้นแก่ใจเขาหรือแยกแยะได้เลย
    น่าเสียดายแทนเขา ถ้าเขาบวชแค่๑เดือน แต่กระทำความผิดในศาสนา ชีวิตเขาย่อมนำพาตนไปสู่หนทางแห่งโลกันตระอเวจี
     
  3. วังชะโอน2551

    วังชะโอน2551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +322
    บวชได้แน่นอนครับ เพราะผมเคยถามพระอริยะเรื่องงนี้ท่านเมตตาบอกไว้ว่า เป็นเกย์สามารถบวชได้ครับ เพราะอยู่ที่ใจ ธรรมทั้งทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจครับ....ดังนั้นเราอย่าควรปิดกั้นตนเองและผู้อื่นครัย

    ขอโมทนาครับ
     
  4. yokine

    yokine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +602
    การห้ามไม่ให้บวช นั้นก็คงจะเพราะ หากชอบผู้ชายด้วย กัน ไปอยู่ในวัด พระสงฆ์องค์เจ้า ต่างๆก็เป็นเพศชาย บาง รูป ก็รูป งามเสียด้วย ก็คงจะเป็นอะไรที่ค่อนค่างยากและลำบากในการทำกิจร่วมกัน เหตุก็เพราะ ขนาดพระ ซึ่งคือผู้ชายแท้ๆ ก็ยัง ห้ามแตะต้อง เนื้อตัว สตรีเพศ ดังนั้น หากคุณ จขกท. เป็นเกย์ ก็ถามใจตัวเองดูนะครับ ว่า เข้าไปอยู่ใน นั้น จะสามารถทำใจระงับ กามมารมณ์ ไม่ให้ประพฤติผิดต่อเพศเดียวกันได้รึเปล่า สำหรับผมคิดว่า การที่เกย์ เข้าไปบวชและยัง รู้ตัวหรือยินดีอยู่กับ ความเป็นเกย์ของตนเองนั้น ก็เป็นอุปสรรค สำคัญมากๆ ทีเดียวสำหรับการบวชนะครับ เพราะต้องเจอเพศชาย ที่เราชอบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และบางครั้งก็ ยังต้องโดนเนื้อโดนตัวกัน ก็คงเป็นการรบกวนใจน่าดู แทนที่จะได้สร้างบุญกุศล อาจต้องคอยข่มกิเลศ ทั้งวัน บางคนเป็นเกย์ไปบวช แทนที่จะได้บุญ ก็กลายเป็นบาปมหันต์ เพราะแพ้ ตัณหาราคะในตนเอง เป็นเกย์ไปบวช สำหรับเกย์แล้ว ก็คงไม่ต่างจากหนุ่ม สาวที่ต้องนอนร่วมชายคาเดียวกัน ต้องเจอะต้องเจอกันทุกวัน หากห้ามใจตัวเองไมได้ ก็กลัวว่าจะนำโทษมาแก่ตัวเอง แต่จริงๆแล้วการทดแทนคุณพ่อแม่ ก็มีวิธีอื่นอีกหลายวิธีนะครับ การวิปัสนากรรมฐาณ รับรองว่าทดแทนคุณได้แน่นอนหากตั้งใจจริง อาจไปถือศีลปฏิบัติสักหนึ่งเดือน ในเวลาถือศีลก็ศึกษาธรรมะไปด้วย การเลี้ยงดูและบำรุงพ่อแม่ ให้ดี หรือการให้ธรรมะแก่พ่อแม่ ก็ล้วนแต่ได้บุญได้กุศล และถือว่าเป็นการตอบแทนคุณทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขออนุโมทนา กับ จขกท ด้วยนะครับ ที่มีความกตัญญู คิดอยากจะบวชทดแทนคุณบิดามารดา จิตคิดแค่นี้ ก็ชื่อว่าได้บุญได้กุศลแล้ว การศึกษาและปฏิบัติธรรม จริงๆแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องบวชเสมอไป พระตกนรกเพราะผิดศีลมีเยอะแยะ ผ้าเหลืองหรือการไปอยู่ในเขตวัดก็ไม่ได้ช่วยให้คน ขึ้นสวรรค์ ทุกคน ชำระจิตใจ ทำที่ไหนก็ได้ รักษาศีลทำที่ไหนก็ได้ หาครูอุปัชฌาจารย์ ที่น่าเคารพนับถือสักท่าน ไว้เป็นผู้นำทาง และดำเนินตามไปในทางที่ถูกที่ควร เพียงแต่ทั้งหลายทั้งมวลนี้ ตัวเราเองอาจต้องเข้มแข็ง กว่า ผู้ที่บวชเป็นพระ ในการหักห้ามใน รักษาศีล และหมั่นศึกษาและปฏิบัติให้สม่ำเสมอ เพราะไมมีกฏ หรือข้อ ห้ามใดๆ มาบังคับ เหมือน พระเหมือนเจ้าในวัด ^_^ แต่ถ้าตั้งใจจริงๆ ผมก็เชื่อตาม บางจขกท.นะครับ ว่า น่าจะบวชได้ แต่ก็คงต้องตั้งใจ และตั้งมั่นจริงๆ กว่า ผู้ที่บวชเป็นพระ ในบางเรื่องนะครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจขอให้ จขกท โชคดีน้ะครับ ได้เรียนรู้ธรรม สมดังใจ สมดังจิต ที่คิดดีที่อยากจะบวชทดแทนคุณบิดามารดา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    [​IMG]

    มูลเหตุเรื่องห้ามบัณเฑาะก์มิให้อุปสมบท

    [๑๒๕] ก็โดยสมัยนั้นแล บัณเฑาะก์คนหนึ่งบวชในสำนักภิกษุ. เธอเข้าไปหาภิกษุ
    หนุ่มๆ แล้วพูดชวนอย่างนี้ว่า มาเถิดท่านทั้งหลาย จงประทุษร้ายข้าพเจ้า. ภิกษุทั้งหลายพูด
    รุกรานว่า เจ้าบัณเฑาะก์จงฉิบหาย เจ้าบัณเฑาะก์จงพินาศ จะประโยชน์อะไรด้วยเจ้า. เธอถูก
    พวกภิกษุพูดรุกราน จึงเข้าไปหาพวกสามเณรโค่งผู้มีร่างล่ำสัน แล้วพูดชวนอย่างนี้ว่า มาเถิดท่าน
    ทั้งหลาย จงประทุษร้ายข้าพเจ้า. พวกสามเณรพูดรุกรานว่า เจ้าบัณเฑาะก์จงฉิบหาย เจ้าบัณเฑาะก์
    จงพินาศ จะประโยชน์อะไรด้วยเจ้า. เธอถูกพวกสามเณรพูดรุกราน จึงเข้าไปหาพวกคนเลี้ยงช้าง
    คนเลี้ยงม้า แล้วพูดอย่างนี้ว่า มาเถิด ท่านทั้งหลาย จงประทุษร้ายข้าพเจ้า. พวกคนเลี้ยงช้าง
    พวกคนเลี้ยงม้า ประทุษร้ายแล้วจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า พระสมณะเชื้อสายพระ
    ศากยบุตรเหล่านี้เป็นบัณเฑาะก์ บรรดาพวกสมณะเหล่านี้ แม้พวกใดที่มิใช่บัณเฑาะก์ แม้พวก
    นั้นก็ประทุษร้ายบัณเฑาะก์ เมื่อเป็นเช่นนี้ พระสมณะเหล่านี้ก็ล้วนแต่ไม่ใช่เป็นผู้ประพฤติ
    พรหมจรรย์. ภิกษุทั้งหลายได้ยินพวกคนเลี้ยงช้าง พวกคนเลี้ยงม้า พากันเพ่งโทษ ติเตียน
    โพนทะนาอยู่ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
    พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ บัณเฑาะก์
    ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
    มหาวรรค ภาค ๑
     
  6. Amine

    Amine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +114

    ท่านพระที่ 12 อ้างอิงไว้ชัดเจนแล้วครับ


    สำหรับการพิจารณาของผม หากเป็นเกย์ที่มีการข่มใจและจิตตั้งมั่นในการรักษาพระวินัย ผมเห็นว่าอุปสมบทได้ครับ ทุกท่านมีโอกาสพ้นทุกข์ได้เสมอเหมือนกันหากตั้งใจ ละกิเลสได้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า บางทีกรรมเก่าของเกย์ท่านนั้นอาจจะสิ้นสุดพอดี :d สำหรับเรื่องการบัญญัตินั้นเพื่อความสงบเรียบร้อยของคณะสงฆ์เพื่อป้องกันคนที่ยังข่มระงับไม่ได้เข้ามาก่อปัญหา คงต้องพิจารณารายบุคคลกระมัง .. เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นครับ ไม่ได้บังคับว่าทุกคนต้องคิดเห็นเช่นเดียวกับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  7. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    ถือศีล บวชพราห์ม น่าจะดีกว่าครับ...
    ถ้าเราปฏิบัติดี ก็ได้บุญมากเช่นกัน
    แต่ถ้าบวชพระ แล้วปฏิบัติไม่ดี ยิ่งจะบาปหนักไปใหญ่ครับ
    อนุโมทนา...สาธุด้วยครับ
     
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เห็นยกอ้างกับบ่อยจังเรื่องอรรถกถาบทนี้....

    ท่านทั้งหลายสังเกตให้ดีนะ....ท่านใช้คำว่า ให้บรรพชา คือ การบวช โดย รับไตรสรณะคมเท่านั้น....พูดง่ายๆคือ บวชได้แต่เณร ....

    แต่การอุปสมบทนี่คือบวชโดยคณะสงฆ์ คือ การยอมรับกับว่าเป็นสงฆ์ มันคนละอย่างกับกับเณรนะ......เณร มันศีล ๑๐ พระมัน ๒๒๗ .....

    พระพุทธเจ้าท่านห้ามก็คือห้าม....ไม่มีการมีทนายแก้ต่าง.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  9. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ทั้งหมดทั้งมวลรวมลงที่ความเห็นคุณ yokine เลย
    เปรียบเหมือนหนุ่มสาวไปอยู่ชายคาเดียวกัน แต่ถ้าคิดว่าจิตเข้มแข็งพอ สามารถระงับได้ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่คงจะหนักเอาการ เสียเวลามากกว่าพระท่านอื่น เพราะมีอุปสรรคขวางการปฏิบัติทางจิตมากกว่าคนที่ไม่รู้สึกอะไร

    แก้โดย
    -ไปบวชพราหม์ ถือศีล8 แทน โดยไปในที่ที่มีผู้หญิงเยอะยิ่งดี เพราะจะยิ่งไม่รู้สึกอะไรเลย
    -ไปทดลองซ้อมเป็นพระดูก่อน มีหลายท่านก่อนไปบวช เช่นถ้าตั้งใจบวช 1 เดือน ก็ไปซ้อมเป็นพระเลย 1 เดือน ไปอยู่วัด ไปนอนวัด ทำทุกอย่างเหมือนพระหมดเลย(แต่ยังไม่บวชนะ) ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมและกฎเกณฑ์นั้นๆเลย ถ้าทำได้ในช่วงเวลาที่ตั้งใจไว้ได้เช่น 1 เดือน คุณก็บวชได้เลย 1 เดือน ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องควบคุมตนเองไม่ได้นะ เพราะซ้อมมาแล้ว

    **แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันอยู่ที่เจตนามากกว่า ถ้าบวชมาแล้วตั้งใจละกิเลส ทำนิพพานให้แจ้ง มันก็น่าจะได้นะ แต่ว่าบางคนนี่ก็เกินไปจริงๆ บวชมาเพื่อ...โดยเฉพาะเลย แต่ถ้าคิดว่าบวชแล้วตอนบวชมันคุมใจได้ แต่บวชมาแล้วมันเริ่มเอาไม่อยู่ ถ้ารักพระพุทธศาสนาจริง คุณก็จะแข็งใจสึกได้เองก่อนจะทำอะไรผิดในเพศสมณะ แต่ถ้าปล่อยให้ผิด ก็แสดงว่าใจไม่รักพระพุทธศาสนาพอ

    แต่จริงๆนะ ไม่ว่าเพศไหน มันก็มีทุกประเภทแหละ มันมีทั้งคนดีและไม่ดี ทั้งคนหื่นและไม่หื่นผสมกันหมด ในทุกๆเพศ ไม่สามารถสรุปเหมาหมดได้หรอกว่าเพศไหนมันหื่นหมดทุกคน ชายจริงหญิงแท้ที่หื่นๆ มาบวชก็พอกันแหละ ดังที่เห็นเป็นข่าว แต่นั่นก็ไม่ใช่ทุกคนไงล่ะ จะเหมาหมดไม่ได้ มีคนดีคนเลว คนหื่นและไม่หื่น ในทุกเพศ ทุกอาชีพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  10. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    บวชไม่ได้ เพราะผู้บวชจะก่อเวรก่อกรรมหากฝ่าฝืนบัญญัติที่พระศาสดาบัญญัติขึ้น เพราะความเป็นแบบนั้นมิได้เพิ่งเกิด เกิดมาพร้อมกับกรรมที่ก่อไว้ข้ามภพข้ามชาติ แม้พระศาสดาก็ช่วยไม่ได้ จึงต้องปล่อยให้รับผลกรรมนั้นไปตามที่ควรจะได้รับ หากมีสติระลึกได้ก็จะเป็นเพียงชั่วขณะ โดยลักษณะผู้เป็นเช่นนั้นจะยังสติตามราคะจิตของตนเองไว้ไม่ไหวไม่ทัน จึงเกิดกรรมขึ้นต่างๆนานา เช่นเดียวกับผู้ที่ทำผิดศีลข้อสามมาก่อนด้วยเจตนา เพราะนี่คือเศษกรรมของการละเมิดกาเมสุมิฉา หากเป็นท่านที่รู้ตัวด้วยดีก็จะไม่คิดสร้างกรรมและระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้เกิดกรรมฝ่ายอกุศล และรู้ตนเองดีว่าไม่ควรบวชเพราะเหตุใด หากท่านที่ไม่ทราบก็จะปล่อยไปบวชไปแล้วราคะกำเริบ เกิดความกำหนัดอันไม่อาจห้ามได้ก็จะเป็นทุกข์เป็นบาปแก่เขาหากเขาก่อกรรมนั้นขึ้นมาครับ
     
  11. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    สรุปว่าจะบวชได้หรือไม่ได้นั้น น่าจะขึ้นอยู่กับใจของท่าน ว่าท่านจะสามารถระงับใจของท่านได้หรือไม่

    และการบวชนี้จะเกิดผล 2 อย่างที่ต่างกันมาก ผลที่เกิดคนละขั้วกันเลย คือ

    ถ้าตัดใจได้ ทำใจได้ แน่นอนก็เกิดบุญกุศลมากมายมหาศาล

    แต่ถ้าไม่สามารถตัดใจได้ แน่นอน บาปหนักหนาสาหัสสากรรจ์


    และสนับสนุนความเห็นของท่าน
    จักรราศี ครับ

    พระสายป่ากรรมฐาน โดยเฉพาะวัดหนองป่าพง ท่านก็ปฏิบัติเช่นนี้ ไปอยู่วัดเป็นเดือน ถือศีล 8 ก่อน เพื่อดูจิตของท่านเอง ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่มีสิทธิ์บวชที่วัดหนองป่าพงครับ

    และนี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาที่โบราณท่านกำหนดไว้ว่า

    ให้ไปอยุ่วัดนุ่งขาวห่มขาวก่อนเป็นเดือน ถึงจะสามารถบวชได้ เป็นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษสร้างไว้เพื่อป้องกันศาสนาด่างพร้อย

    แต่น่าเสียดาย ทุกวันนี้ไม่มีเสียแล้ว ที่จะอยู่วัดก่อนบวช ยกเว้นบางที่ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น น่าจะกำหนดเป็นอีกหนึ่งบทสำหรับท่านที่อยากจะบวชใหม่

    ว่าต้องไปอยู่วัดดูพฤติกรรมเสียก่อน พระอุปัชฌาย์ถึงบวชให้ได้ จะได้ไม่เป็นกรรมที่จะตกทอดสู่ผู้บวชเอง และอุปัชฌาย์ผู้บวชให้

    ว่าไปแล้ว คนโบราณท่านฉลาดกว่าพวกเราเยอะขอรับ ถ้าเราปฏิบัติตามที่ท่านได้ว่าเอาไว้นั้น คงไม่มีหลายๆ เหตุการณ์ที่ท่านๆ ได้สดับตรับฟังกันครับ

    เกย์บางท่านนั้น ทำดีกว่าท่านที่เป็นชายแท้ๆเสียอีก ไม่ว่าจะเป็ยเกย์หรือชายแท้ ถ้าไม่ดีแล้ว บวชเข้าไปก็ทำไม่ดีเหมือนๆกัน

    อนุโมทนาสาธุ

     
  12. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ตกลงว่าตอนนี้บวชหรือยัง?????


    เหตุผลที่พระพุทธเจ้าท่านห้ามพวกเกย์พวกกะเทยบวช เพราะว่า พวกนี้มีกรรมที่ทำให้มีกามราคะค่อนข้างหนัก พวกเกย์พวกกะเทยนี่จึงมีความอยากในกามฉันทะที่รุนแรงมาก

    มากเกินกว่าที่จะตัดให้ขาดออกไปได้ อันเป็นอุปสรรคต่อการประพฤติพรหมจรรย์

    ถ้าคิดว่าจะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ อยากแนะนำว่า บวชเนกขัมมะก่อนจะเหมาะกว่า อย่าพึ่งบ้าพลังถือศีล 227 ข้อเลย
    ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องเกาะผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์ แต่ไม่รู่ว่ามีกี่คนเคยได้ยินเรื่องเกาะผ้าเหลืองลูกลงนรก เพราะลูกสนุกสนานกับการสร้างบาปในช่วงที่บวชเป็นพระ (สมัยนี้มีเยอะนะ)

    พยายามปฏิบัติพระกรรมฐานไปพลางๆซะก่อน แล้วอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ เน้นไปที่เจ้ากรรมนายเวรกาเมสุมิจฉาจารย์ แล้วอาการเหล่านี้จะค่อยๆลดลองตามลำดับ คงบวชได้สักวันแหละ
     
  13. อภิเดช

    อภิเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +910
    ต้องรู้ตัวเองก่อนนะครับ เกย์กับกระเทยมันต่างกัน ตามที่มีคนตอบกระทู้ก่อนหน้านี้ครับ ถ้าอยากบวชจริงๆคงต้องดูว่า ถ้าบวชเข้าไปแล้ว จะสามารถประพฤติตนไม่ให้เป็นที่ติเตียนของชาวบ้านได้หรือเปล่า คือทำตัวให้เป็นปกติ คือควบคุมใจกับกายให้เป็นปกติ หากบวชไปแล้วคุมร่างกายและจิตใจไม่ได้ โดยแสดงออกมาเป็นที่ไม่เหมาะสม เช่น กระตุงกระติง หรือพฤติกรรมอื่นๆที่ไม่สมควรกับการเป็นนักบวช ก็ไม่สมควรบวชเป็นอย่างยิ่ง เพราะจุดมุ่งหมายของการบวชก็คือ บวชเพื่อการดับไม่มีเชื้อครับ บวชเข้าไปแล้วก็ต้องเป็นเพศที่น่าเคารพเลื่อมใส หรือที่เรียกว่า เพศบรรพชิตครับ
     
  14. depperkyo

    depperkyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +288
    หากรู้สึกเกรงกลัวต่อบาปในพฤติกรรมตนเองก็อย่าบวชเลยครับ

    ท่านจะเป็นอะไร ผมว่า มันไม่เกี่ยวแล้ว อยู่ที่ กาย มโน วจี ของท่าน
    บริสุทธิ์หรือเปล่า?

    หากท่านสำรวม ปฏิบัติดี วาจาชอบ
    แล้วมันผิดตรงไหน?

    คำว่า เกย์ นั้น ก็มิได้หมายถึงกระเทย
    ไม่ได้หมายถึง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเกย์ จะเสพกามไม่เลือก
    แต่ถึงกระนั้น เมื่อถือศีล อันเป็นบุรุษเกิดมาครบ 32 ประการ
    มีองคชาติติดตัวมาด้วย รูปร่างสง่างาม ไม่กระตุ๊งกระติ๊ง

    บวชไปเถิด ท่านบวชให้บิดามารดามิใช่หรือ?
    ประเสริฐแล้ว ไม่ต้องไปยึดหลักเกณฑ์ให้มากนัก
    ไม่อย่างนั้น ก็มิได้บวชเสียที เพราะมัวแต่เกรงกลัว


    ย้ำว่า...

    หากท่านละอายเกรงกลัวต่อบาปของตนเองในการที่จะบวชก็อย่าเลย
    แต่ถ้าท่านจะทำเพื่อบุพการี ก็เอาเลย อนิสงฆ์นักแล

    ขออนุโมทณาครับ
     
  15. depperkyo

    depperkyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +288
    ขอเพิ่มเติม ผมสงสัยว่าทำไมต้อง เกย์??

    ผมเองก็เป็นบุรุษ มิได้เป็นเกย์ แล้วเจอผู้คนมากมาย
    จากการสังเกตุบางคนอาการหนักกว่าคนที่เป็นเกย์เสียด้วยซ้ำ?

    แล้วจะบอกว่า ชายปกติ และ เกย์ ต่างกันตรงไหน
    ถ้าหากประพฤติผิดในกาเมสุมิจฉาเหมือนกัน??

    สรุปแล้วจะเกย์หรือไม่เกย์ ก็ไม่เกี่ยว
    ถ้าเป็นชายแท้ตัดกามตัณหา ราคะ มิได้ ก็ไม่ควรบวชเหมือนกันนั้นแล

    แล้วจะคิดมากไปทำไม?
    ใครทำดี ปฏิบัติดี ก็ดี
    ใครทำไม่ดี ปฏิบัติในศีลไม่ได้...ก็เชิญรับกรรมต่อไป

    หนำซ้ำ อีกประการ ท่านจะบวช เจอคนมาบอกไม่ได้ๆ
    แล้วท่านจะสำเร็จไหม? เมื่อท่านไม่เป็นคนตัดสินใจ และ เชื่อในตัวเอง
    ตนเป้นที่พึ่งแห่งตนเถอะครับ

    ยังไงๆ ท่านจะเป็นอะไรก็เรื่องของท่าน ถ้าพร้อมบวชด้วยความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่
    บวชไปเลยครับ ผมสนับสนุน
     
  16. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ถามจริง ๆ นะครับ เจ้าของกระทู้คิดยังไง เพราะเงียบไปเลย
    ก็เลยไม่รู้ว่าตั้งปุจฉา เพื่อวิปัสนา หรือต้องการหาคำปรึกษาในการบวชกันแน่
    ขอถามเจ้าของกระทู้หน่อยครับ ว่าต้องการบวช หรือต้องการวิธีอื่น
     
  17. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    บวชได้ค่ะถ้าพี่ปล่อยวางนะค่ะ อย่ายึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เราเป็นอยู่นะค่ะ เอาเป็นกลาๆนะค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  18. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่อ่อนไหวมาก และก็มีการยกพระไตรปิฏกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ตัวผมเองก็คงไม่สามารถชี้ชัดไปได้ว่าบวชได้หรือบวชไม่ได้ เพราะยังไม่มีความรู้แตกฉานเรื่องพระวินัยถึงเพียงนั้น

    อย่างไรก็ตาม มีข้อคิดอยู่ว่า การที่พระพุทธเจ้าห้ามพระสงฆ์ใกล้ชิดกับผู้หญิง ก็เพราะผู้หญิงเป็นศัตรูของเพศพรหมจรรย์ จึงมีบทบัญญัติต่างๆที่ห้ามพระสงฆ์ให้เพิ่มความระมัดระวังกับการใกล้ชิดกับสีกา

    มาปัจจุบันเพศที่สามเริ่มมากขึ้น (ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนไม่มีนะครับ เพียงแต่ปัจจุบันมีมากขึ้น แสดงตัวมากขึ้น) ก็น่าคิดว่า การบวชเข้าไปจะเป็นการฝืนวัตถุประสงค์ในการห้ามบวชนี้หรือไม่

    การที่คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง
    การเกิดมาเป็นได้ศึกษาพระพุทธศาสนา ได้ปฏิบัติธรรม ได้เติบโตอาศัยอยู่ในดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง
    การเกิดมาบนผืนแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมเป็นองค์พระประมุขของชาติ นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง
    การเกิดมาไม่พิกลพิกาล สติปัญญาไม่โง่เขลา ก็นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง

    อย่างไรก็ตาม เราก็อาจมีวิบากกรรมติดตัวมาแต่อดีตชาติ ไม่มีใครสมหวังไปหมดทุกอย่าง อยู่ที่ว่าเรายอมรับความจริงได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีคิดแบบเข้าข้างตัวเอง ต้องหาคนที่มีความคิดคล้ายๆตัวเองเป็นพวก การยอมรับความจริงเป็นสิ่งสำคัญ หรือหากจะเรียกว่า "ก้มหน้ารับกรรม" ก็ไม่ผิด มันเป็นวิบากกรรม เมื่อเป็นวิบากกรรมและกำลังเสวยผลกรรมอยู่ ก็ชดใช้ให้หมดเสีย

    การบวชนั้น ต้ององอาจ ต้องผึ่งผาย สง่างามในธรรม ไม่ยอมให้ใครติฉินนินทาได้ หรือจะเรียกว่า "เงยหน้าไม่กลัวฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน" สง่างามทั้งในที่ลับและที่แจ้ง

    ความเห็นส่วนตัวเห็นว่า การบวชไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของเพศที่สาม เป็นฆราวาสก็ปฏิบัติธรรมได้ สามารถพัฒนาจิตใจได้ กุศลที่สั่งสมในชาตินี้ ย่อมทำให้สมปรารถนาในชาติหน้าอย่างแน่นอน
     
  19. mrhengrasmee

    mrhengrasmee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +22
    ได้ความรู้ดีครับ
     
  20. B5234T5

    B5234T5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2005
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +210
    บวชได้นะ

    แล้วตั้งใจไว้ว่าจะ "ไม่ประพฤติเหมือนตอนที่ยังเป็นฆราวาส"

    ง่ายๆ ก็คือ "คุมใจให้เป็นปกติ" นั่นแหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...