พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สำหรับการถวายพระบูชา "พระอุปคุตเถระเจ้า" ปางฉันทกิจ หน้าตัก 9" ผมมีสถานที่ที่จะถวายตามนี้ครับ

1.วัดห้วยมงคล ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผมจะอัญเชิญให้พี่แอ๊วไปถวายแทนทุกๆท่าน

2.จำนวน 1 องค์ ที่ผมได้รับปากกับน้องท่านนึงไว้ จะถวายไปที่วัดแสงอรุณวราราม บ้านหนองแคน หมู่ที่ 3 ต.ดงยาง อ.นาดูน จ.มหาสารคาม โดยมอบให้น้องสินเป็นผู้ที่ไปถวายแทนทุกๆท่าน

3.วัด(ผมจำชื่อวัดไม่ได้ อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ผมจะฝากให้พี่เปี๊ยกไปถวายแทนทุกๆท่าน

4. และ 5.วัด(ยังไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 วัด) ผมจะฝากให้น้องpsombat เป็นผู้ที่ไปถวายแทน

หากผมยังมีพระบูชา "พระอุปคุตเถระเจ้า" ปางฉันทกิจ หน้าตัก 9" มากกว่านี้ ก็จะถวายเพิ่มดังนี้

6.วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี (เป็นวัดสายหลวงพ่อลี วัดอโศการาม) โดยผมจะฝากคุณเพชร เป็นผู้ที่ไปถวายแทนทุกๆท่าน

โมทนาสาธุครับ


.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องของกองทุนหาพระถวายวัดก็คือ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และ พระธาตุพระอรหันต์ ถวายวัดต่างๆทั่วประเทศ ตามนโยบายของพี่ใหญ่เช่นกันครับ


.

 

สวัสดีครับพี่หนุ่ม ผมกำลังดูพวกพี่อยู่นะครับ

 

อ่า นอนดูเลยเหรอนี่ เหอๆๆๆ


.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตีปี๊บ!บอนด์ออมทรัพย์แสนล้าน กรณ์ชี้วันเดียวเกลี้ยง
Business - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 มีนาคม 2553 22:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“กรณ์” ไอเดียเก๋ขายบอนด์ออมทรัพย์ล็อตใหม่ให้ผู้สูงอายุที่พลาดการจองซื้อครั้งแรกก่อนเปิดขายทั่วไป สบน.ไม่จำกัดเปิดทางแบงก์ใหญ่-เล็กยื่นข้อเสนอได้ทุกแบงก์ เชื่อ 1 แสนล้านขายเกลี้ยงในวันเดียว ด้านออมสิน-ธ.ก.ส.ประสานเสียงไม่กระทบยันลูกค้าคนละกลุ่มชี้กระทบเงินฝากแบงก์พาณิชย์มากกว่า

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อต 2 วงเงิน 8 หมื่นล้านบาทปลายเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะให้สิทธิ์แก่ผู้สูงอายุ ที่มาลงทะเบียนแสดงความต้องการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในล็อตแรกเมื่อปี 52 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากหมดวงเงินไปแล้ว ให้สามารถซื้อพันธบัตรฯในล็อตที่ 2 นี้ได้ก่อนเป็นชุดแรก เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการ และจากนั้นจึงจะให้สิทธิ์กับผู้สูงอายุที่มาลงทะเบียนซื้อพันธบัตรในล็อต 2 ตามเวลาปกติที่จะเปิดให้จองซื้อคือตั้งแต่วันที่ 29-30 มี.ค. และบุคคลทั่วไประหว่างวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.นี้

นอกจากนี้ หากมีผู้สูงอายุจองซื้อพันธบัตรในล็อตที่ 2 เกินวงเงินที่กำหนดไว้ กระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะนำวงเงินในส่วนที่เตรียมไว้ให้ประชาชนทั่วไปมาขายให้ผู้สูงอายุก่อน เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการไปในการขายพันธบัตรฯล็อตแรก แต่ทั้งนี้วงเงินจะไม่เพิ่มเกิน 1 แสนล้านบาท เนื่องจากมติครม.อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกพันธบัตรฯ วงเงิน 1 แสนล้านบาทเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท จากการกู้เงินระยะสั้นเป็นพันธบัตรระยะยาว ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้เงินมากกว่านั้น

***เปิดกว้างทุกแบงก์ยื่นข้อเสนอ

นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ สบน.จะเชิญธนาคารทั้งหมด ทั้งขนาดใหญ่และเล็กรวมทั้งธนาคารเฉพาะกิจของรัฐมาเสนออัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขในการเป็นตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรออทรัพย์ไทยเข้มแข็ง รอบ 2 วงเงิน 1 แสนล้านบาท ที่จะเปิดขายในระหว่างวันที่ 29-30 มีนาคมนี้ เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม รวมถึงจัดสรรวงเงินที่จะให้แต่ละธนาคารได้รับไปจำหน่าย ซึ่งยังเป็นการพิจารณาตามฐานเงินฝากของแต่ละธนาคารเช่นเดียวกับการเปิดจำหน่ายพันธบัตรล็อตแรก แต่ก็ไม่ใช่เงื่อนไขหลัก และคาดว่าธนาคารจะไม่คิดค่าธรรมเนียมในการจัดจำหน่ายเหมือนกับรอบแรก เพราะธนาคารต้องการรักษาฐานเงินฝากมากกว่า

“วงเงินที่กำหนดให้แต่ธนาคารขายได้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคนนั้น หากจะมีการเวียนไปจองกับธนาคารอื่นอีก เชื่อว่าทำได้ เพราะแต่ละธนาคารยังไม่มีระบบตรวจสอบส่วนนี้ แต่เชื่อว่า วงเงิน 1 แสนล้านบาทที่จะเปิดขายนั้นจะหมดตั้งแต่วันแรก เพราะยังมีกลุ่มที่พลาดจากรอบแรกอีกจำนวนมาก และยังเป็นการเปิดขายให้กับผู้สูงอายุก่อนด้วย ซึ่งต้องไปจองซื้อด้วยตัวเอง”นายจักรกฤศฎิ์กล่าว

***เชื่อดูดเงินแบงก์พาณิชย์

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังจะออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อต 2 วงเงิน 1 แสนบาทว่า คงไม่กระทบกับเงินฝากของธนาคาร โดยเชื่อมั่นว่าลูกค้าของแบงก์จะไม่ถอนเงินฝากหรือสลากออมสินไปซื้อบอนด์ออมทรัพย์ของรัฐบาลแม้วาจะมีดอกเบี้ยจูงใจกว่า เนื่องจากขณะนี้ยังมีเงินฝากไหลเข้ามาตามปกติไม่ได้ชะลอลงทั้งส่วนของเงินฝากและซื้อสลากออมสิน รุ่นชิงรถเบนซ์ที่ล่าสุดได้ยอดรวม 1.4 แสนล้านบาท คาดว่าถึงเดือนเมษายนนี้น่าจะได้ถึง 1.7 แสนล้านบาทตามที่คาดการณ์ไว้

"การที่กระทรวงคลังจะออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งแสนล้านบาทโดยทยอยออกนั้น ไม่น่าจะกระทบกับเงินฝากของออมสิน เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยๆ และเป็นกลุ่มที่ชอบลุ้นรางวัลจากสลากออมสิน โดยมองว่าน่าจะกระทบกับเงินฝากของแบงก์พาณิชย์ที่อาจถูกโยกมาซื้อพันธบัตรออมทรัพย์แทนมากกว่า" นายเลอศักดิ์ กล่าว

***ธ.ก.ส.ชี้ลูกค้าคนละกลุ่ม

ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ระบุว่าการระดมเงินผ่านบัตรเพิ่มทรัพย์ชุดที่ 3 และ 4 วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท หน่วยละ 100 บาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 0.33% ต่อปี จำหน่ายหมดไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ จึงมองว่าหากกระทรวงการคลังออกพันธบัตรออมทรัพย์คงไม่กระทบกับเงินฝากหรือการออกสลากหรือระดมทุนรูปแบบใหม่ของธนาคาร เพราะลูกค้าอาจเป็นคนละกลุ่มกันและเป็นรายย่อยที่ไม่สนใจการโยกเงินหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง ธ.ก.ส.มีแผนจะกระจายเงินฝากในรูปสลากให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยประมาณเดือนพ.ค.นี้อาจจะออกสลากหรือบัตรเงินฝากที่มีราคาต่อหน่วย 1,000 บาท หลังจากที่มี 500 บาทและ 100 บาทก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยอาจเน้นจับกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้เกษียณที่มีเงินก้อน ซึ่งจะเน้นให้ดอกเบี้ยสูงจูงใจมากกว่าการลุ้นรางวัลเหมือนที่ผ่านมา ส่วนอัตราดอกเบี้ยและวงเงินอยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสม

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โวยโบรกฯทองกุข่าวกินค่าฟี แฉเล่ห์บทวิเคราะห์ฟันสองต่อ
Stock Markets - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 มีนาคม 2553 22:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“เซลลิงก์ เอเยนต์”โวย! โดนโบรกฯร้านทองเล่นตุกติก ส่งบทเคราะห์ให้ทั้งเครือข่ายไม่ตรงกัน ครึ่งหนึ่ง Long /ครึ่งหนึ่ง Short ตามเกมที่ต้องการสร้างปริมาณซื้อขายสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์สให้มากๆ เพื่อหวังกินแค่ค่าธรรมเนียมให้บริการ และลงทุนสวนทางบทวิเคราะห์ของตนเองเพื่อฟันกำไร โดยไม่สนผลขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้ง SA และลูกค้า อีกทั้งยังค้างจ่ายค่าคอมมิสชั่น หนำซ้ำยังชวนโยกเล่นทองคำต่างประเทศต่อ หลัง TFEX ปิดซื้อขาย กินส่วนต่างค่าพรีเมี่ยมในราคา Bid/offer ที่บวกเพิ่มอีกจากต่างชาติ หากราคาขึ้นลงไวจัดรับมือไม่ทัน ก็ปิดโทรศัพท์หนี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางกรอบควบคุม

แหล่งข่าวตัวแทนสนับสนุนการซื้อขาย (Selling Agent หรือ SA) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โบรกเกอร์ร้านทองคำบางแห่งได้แนะนำการทำธุรกิจที่ผิดๆให้แก่ พวกตน และลูกค้า กล่าวคือ แนะนำให้ SA เข้าลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สเอง ผ่านการลงทุนที่ใช้วิธีเปิดบัญชีผู้อื่น เพื่อรับผลตอบแทนที่นอกเหนือจากส่วนแบ่งในรูปค่านายหน้าจากการหาลูกค้าให้เข้ามาเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สผ่านบริษัท แต่ปรากฏว่า แทนที่เซลลิงก์ เอเยนต์ และลูกค้าจะได้รับข้อมูลคำแนะนำการลงทุนที่ถูกต้อง กลับโดนโบรกเกอร์ร้านทองตุกติก ด้วยวิธีส่งข้อมูลแนะนำการลงทุนที่คละกันทั้งShort และ Long ให้กับSA ในเครือ และแนะนำการลงทุนที่ตรงข้ามกับการลงทุนป้องกันความเสี่ยงของโบรกฯร้านทองเอง ส่งผลให้SA และลูกค้าที่ได้รับคำแนะนำนั้น พากันขาดทุนไปเป็นจำนวนมาก จนเกิดความไม่พอใจ

“โบรกฯร้านทอง เขาจะส่งบทวิเคราะห์มาให้เรา แต่ไม่เหมือนกันหมด เช่นมีSA 10 ราย ก็จะส่งว่าให้ลงShort ไป5ราย อีก 5 รายก็แนะให้ถือLong ซึ่งมันจะเป็นการสร้างปริมาณสัญญาลงทุน โดยตัวเขาก็จะได้รับค่าธุรกรรมจากการเปิดสัญญาที่มีจำนวนมากขึ้น และไม่สนว่าเราจะขาดทุนหรือไม่ พอขาดทุนมากเข้า ก็บอกมาว่าจะตั้งกองทุนทองให้เราและลูกค้าเอาเงินมาให้เขา แล้วเขาจะบริหารให้โดยรับประกันเงินต้น แต่ไม่รับประกันกำไร บางรายก็ใช้อาบิทราจมาล่อ โดยการันตีผลตอบแทน3-5%”

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวยังระบุว่า แม้จะส่งคำสั่งของลูกค้าไปให้โบรกเกอร์ร้านทองแล้ว แต่ค่าคอมมิสชั่นที่ตนควรได้รับ กลับไม่ได้มาเต็มที่ มีการค้างจ่ายให้แก่เซลลิงก์ เอเยนต์ไม่ครบถ้วนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักเกณฑ์ และตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) กับ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามาดูแลและตรวจสอบในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ปัญหาผลขาดทุนของSA ที่เริ่มมีกระแสความไม่พอใจต่อโบรกเกอร์ร้านทองในขณะนี้ เริ่มขึ้นจากโบรกเกอร์ร้านทองคำ ไม่พยายามซัพพอร์ตหรือช่วยเหลือSAของตนทั้งในด้านข้อมูลความรู้ การจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เหมือนที่เคยตกลงกันไว้ และเท่าที่ได้พูดคุยกับSA บางรายระบุว่าตอนชักชวนเข้าร่วมบอกว่าลงทุนเพียงประมาณ 1 ล้านบาทและจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนเพียงแค่ 6 เดือน แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะผลที่ได้กลับคืนมาคือลูกค้าเพียงไม่กี่ราย จึงได้ค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้าไม่มากดังที่คาดไว้ โดยเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่ประสบความสำเร็จในการหาลูกค้าของ SA ด้วย

“โบรกเกอร์ร้านทอง ไม่ยอมวิเคราะห์ข้อด้อยของSA และควรแนะนำให้SA บอกลูกค้าว่าควรทยอยลงทุนจากน้อยไปก่อน โดยใช้ความรู้เป็นตัวนำ เพราะโบรกฯพยายามหาแต่แฟร์นไซด์มากกว่า เพื่อรับค่านายหน้าจากปริมาณสัญญาการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สเพียงอย่างเดียว”แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ บางแห่ง ยังมีการชักชวนลูกค้าเข้ามาซื้อขายGold Spot ในตอนกลางคืนหรือตอนปิดตลาด TFEXแล้ว แต่บังคับให้ลูกค้าตัดขายขาดทุนภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงก่อนปิดให้บริการ (บางปิด22.00น. บางแห่ง 24.00 น.) ทั้งที่เวลาซื้อขายจริงมีเกือบทั้งคืน หรือประมาณ 04.00น.ของอีกวันหนึ่ง รวมทั้งมีการตั้งBid และOffer โดยเพิ่มส่วนต่างราคาซื้อขายจริงที่ส่งมาจากต่างประเทศ เข้าไปอีก 5 – 6 เหรียญ เพื่อรับกินเงินส่วนต่างนี้แทน ก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อของลูกค่าไปยังตลาดต่างประเทศ แต่หากบางครั้งราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเร็วไป จนลูกค้าต้องการจะขายทำกำไร และบริษัทหาวิธีรองรับไม่ทัน ก็ใช้วิธีหลบเลี่ยงการติดต่อสื่อสาร เช่นปิดโทรศัพท์ หรือทำเหมือนไม่มีผู้ให้บริการ จนทำให้ลูกค้าสูญเสียโอกาส

แหล่งข่าวกล่าวว่า เคยมีการพูดคุยกับคนในสมาคมผู้ค้าทองคำ แต่ทางสมาคมยอมรับว่า ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ได้ เพราะทางสมาคมฯมีหน้าที่ในการดูแลเฉพาะธุรกิจด้านทองคำแท่ง และรูปพรรณเท่านั้น อีกทั้งโบรกเกอร์ร้านทองเหล่านี้ก็จดทะเบียนและเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ ดังนั้นหากมีการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้น ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของตลาดอนุพันธ์ ซึ่งจุดนี้เชื่อว่า ทางสำนักงานก.ล.ต.เองก็จะเข้ามาดูแลได้ เพราะเชื่อว่ามีข้อมูลให้ตรวจสอบได้แน่นอน

**ดึงก.พาณิชย์ตั้งกฏคุมเทรดกลางคืน

แหล่งจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับผู้จะเข้ามาดำเนินตรวจสอบบทวิเคราะห์ที่มีการจัดส่งให้เซลลิงก์ เอเยนต์ เนื่องจากSA เกือบทั้งหมดเป็นร้านค้าทอง ซึ่งกระจายอยู่หลายที่ ขณะที่บล.นั้นจะมีทีมงานฝ่ายวิเคราะห์ทีมเดียวอยู่ที่บริษัท จึงสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า โดยข้อเหลื่อมล้ำนี้ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายเข้าใจ เพียงแต่ต้องปล่อยไปก่อน เพื่อให้โกลด์ ฟิวเจอร์สสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดTFEXให้ได้ในช่วงเริ่มต้น แล้วจึงค่อยใช้กฏเกณฑ์ต่างๆเข้ามาควบคุมเพิ่มเติมภายหลัง

ส่วนการชักชวนลูกค้าไปลงทุนในทองคำต่างประเทศหลังตลาดTFEX ปิดการซื้อขาย แหล่งข่าว กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องการป้องกันความเสี่ยงของโบรกเกอร์ด้วยการลงทุนต่างประเทศ หรือเป็นเรื่องของการสวมหมวกคนละใบ คนละหน้าที่ และเป็นข้อตกลงพร้อมใจของลูกค้าเอง ที่ต้องการไปลงทุนในทองคำเวลากลางคืน ทั้งที่ให้บริการไม่ครบตลอดเวลาที่ทองคำในต่างประเทศมีการซื้อขาย โดยโบรกฯทองคำที่จะมีความผิด มองว่าน่าจะเป็นส่วนการลงทุนในประเภท ลูกค้าไม่มีการจ่ายเงินลงทุนจริง แต่จะจ่ายเพียงเงินในส่วนหักลบกลบหนี้ในส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงไปเท่านั้น และในจุดนี้ มองว่าอยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ล.ต.และTFEX แต่ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ควรเข้ามาดูแลด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จับแก๊งจีนล้วงกระเป๋าบนบีทีเอส ลักบัตรเครดิตรูดสินค้าหรู
Crime - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 มีนาคม 2553 16:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ผู้ต้องหาชาวจีนที่ถูกจับกุมได้ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพขณะที่ผู้ต้องหาลงมือล้วงกระเป๋า</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตำรวจท่องเที่ยวจับกุม 4 มังกรจีนเข้ามาก่ออาชญากรรมในไทย ตระเวนฉกกระเป๋าเหยื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าหรู

วันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.ประคัลภ์ แสงส่องห้า รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผกก.1 บก.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทท.ร่วมกันแถลงการจับกุมนายเลี่ยว ยูลิน อายุ 43 ปี นายเยี่ยน เฉาหยาง อายุ 47 ปี นายซือ จงฉาย อายุ 37 ปี และนางเฉิน กุ๋ยหยิน อายุ 53 ปี ทั้ง 4 คนสัญชาติจีน โดยจับกุมได้พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 3,000 เยน เครื่องมือปลอมพาสปอร์ต จำนวน 2 ชุด และหนังสือเดินทางปลอมระบุประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1 เล่ม กล้องถ่ายรูปยี่ห้อนิคอน รุ่นดี 90 จำนวน 1 ตัว แว่นตากันแดดยี่ห้อเพอร์ชี 1 อัน ยี่ห้อกุชชี่ 3 อัน ยี่ห้อดิออร์ จำนวน 2 อัน นาฬิกาข้อมือชายยี่ห้อมองต์บลัง 1 เรือน นาฬิกาข้อมือสตรียี่ห้อมองต์บลัง 1 เรือน ยี่ห้อไซมา 1 เรือน และแหวนเพชรยี่ห้อจูบิลี 2 วง

พล.ต.ต.อดิศร์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวานนี้ (28 ก.พ.) นายเคนทาโร โซโนอูระ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ได้เข้ามาแจ้งความที่ บก.ทท.ว่า เมื่อเวลา 17.46 น.ของวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมพงษ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ ต่อมาเจ้าหน้าที่รปภ.ประจำสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าวประสานมาว่าพบชายต้องสงสัยรูปร่างลักษณะคล้ายกับนายเลี่ยว เจ้าหน้าที่จึงรีบเดินไปเชิญตัวมาสอบปากคำทันที

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นในตัวนายเลี่ยว พบเงินสดจำนวน 3,000 เยน และเจ้าตัวก็ยอมรับสารภาพว่าได้มาจากการล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และยังมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คน อยู่ในห้องพักเลขที่ 206 ราณีเฮ้าส์ ซอยเจริญกรุง 80 แขวงและเขตบางคอแหลม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้นก็พบนายเยี่ยน นายซือ และนางเฉิน พักอยู่ในห้องดังกล่าว และจากการตรวจค้นภายในห้องพักก็พบของกลางชิ้นอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าจะแบ่งหน้าที่กันทำงานล้วงกระเป๋าผู้เสียหายชาวต่างชาติกันอย่างชัดเจน โดนนายเลี่ยวกับนายซือจะเป็นคนลงมือล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว จากนั้นก็จะเอาบัตรเครดิตของผู้เสียหายให้นายเยี่ยน กับนางเฉิน เป็นคนเอาไปรูดซื้อสินค้ายี่ห้อแบรนด์เนมราคาแพงไปขายต่อ หรือกดเอาเงินสดเอามาแบ่งกันใช้จ่าย โดยนายเยี่ยนจะเป็นคนจัดทำพาสปอร์ตปลอมของประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ใช้รูดซื้อสินค้าบางชนิด ที่มีราคาแพงและต้องใช้พาสปอร์ตร่วกับบัตรเครดิตด้วย

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายเลี่ยว นายเยี่ยน และนายซือ นั้นพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว ส่วนนางเฉินยังไม่พบประวัติการกระทำผิด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานีรถไฟและรับของโจร กับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อนายเลี่ยวอีก 1 ข้อหา และแจ้งข้อหาใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมต่อนายเยี่ยน อีก 1 ข้อหา ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เรียนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้าทุกๆท่าน

ผมได้ส่งเรื่องของการแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานพิธีทางEmail ให้ทุกๆท่านทราบแล้ว โปรดกรุณาตอบ(ตามความประสงค์)ของท่าน กลับมาที่ผมด้วยครับ

ขอบคุณครับ

.

 

ผมมาลาพักร้อน 3 วันครับ

ต้องไปรับการอบรม (เนื่องจากการอบรมครั้งที่แล้ว นิสัยยังไม่ดีขึ้น ก็เลยถูกส่งไปอบรมเพิ่มอีก เผื่อนิสัยจะดีขึ้นมาบ้าง) ในวันพฤหัส , วันศุกร์ และวันเสาร์ (( 4 - 6 มีนาคม 2553) นี้ครับ

.

 

เรียนพี่หนุ่ม ในความเห็นผม ผมขออาราธนามาถวายที่วัดทางแม่สอด(ภูเขาด้านหลัง อาจเป็นประเทศพม่า)เพียงองค์เดียวก็พอครับ เพราะที่บ้านผมก็จะมีอีกหนึ่งรวมเป็นสองนับว่ามากพอแล้ว จึงขอให้อาราธนาไปวัดป่าคลองกุ้งด้วย จะได้ถ้วนทั่วมากกว่าและเป็นวัดสายป่าอีกด้วยครับ

โมทนาสาธุครับ

 

ผมมีงานบุญดีๆมาแนะนำครับ สร้างศาลาการเปรียญ ของวัดเขาวงค์ อู่ทอง สุพรรณบุรี ตามกระทู้นี้ครับ
ร่วมบุญบูชาตะกรุด"เมตตา มหาอำนาจ"รายได้เพื่อสร้างศาลาการเปรียญวัดเขาวงศ์

 

ไม่เป็นไรครับ

น่าจะมีมากกว่า 6 องค์แน่นอน

แล้วน้องอีกท่านยังมีพระบูชา "พระอุปคุตเถระเจ้า" ปางฉันทกิจ อีก 2 องค์ที่น้องท่านนี้เคยบอกผมว่า ยินดีที่จะถวายตามวัดต่างๆครับ


.

 

โมทนาสาธุครับ


.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อ้านถูสั่วจี้ : ยึดรูปภาพเสาะหายอดอาชา
China - Manager Online


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 มีนาคม 2553 10:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>《按图索骥》　　　

按(àn) อ่านว่า อ้าน แปลว่า ยึดตาม
图(tú) อ่านว่า ถู แปลว่า รูปภาพ
索(suǒ) อ่านว่า สั่ว แปลว่า เสาะหา
骥(jì) อ่านว่า จี้ แปลว่า ม้าที่ดี



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพจาก http://china5000.vocy.cn/</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เชื่อกันว่าในสรวงสวรรค์มีเซียนวิเศษที่ทำหน้าที่ดูแลอาชาแห่งสวรรค์ ส่วนในโลกมนุษย์ก็มีผู้ที่มีความสามารถในการคัดเลือกยอดอาชาเช่นกัน โดยบุคคลเหล่านี้จะถูกเรียกว่า "ป๋อเล่อ"

ป๋อเล่อคนแรกในประวัติศาสตร์ มีชื่อเดิมว่า ซุนหยัง เป็นคนสมัยชุนชิว เขามีความรู้เรื่องม้าอย่างลึกซึ้งระดับปรมาจารย์ เพียงมองแวบเดียวก็สามารถตัดสินได้ว่าม้าตัวไหนเป็นยอดอาชา ผู้คนจึงพากันเรียกเขาด้วยนาม "ป๋อเล่อ" แทนชื่อจริง (ความเก่งกาจในการเสาะหาอาชาฝีเท้าดีของเขา มีบันทึกไว้ในสุภาษิตจีน สำนวน "ป๋อเล่อเซี่ยงหม่า : ป๋อเล่อเลือกม้า" )

เมื่อป๋อเล่อสั่งสมประสบการณ์ในการพิเคราะห์ยอดอาชาจนเต็มเปี่ยมแล้ว เขาได้ถ่ายทอดลงในตำราที่มีชื่อว่า "เซี่ยงหม่าจิง" หรือ "คัมภีร์คัดเลือกม้า" โดยในตำราดังกล่าวได้บันทึกลักษณะพิเศษที่โดดเด่นต่างๆ ของยอดอาชาเอาไว้มากมาย เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากตำราเล่มนี้

เล่ากันว่าป๋อเล่อมีบุตรชายนามว่า "ซุนต้า" แต่กลับเป็นผู้ด้อยปัญญาผู้หนึ่ง เมื่อบุตรชายของเขาได้อ่าน "คัมภีร์คัดเลือกม้า" ของบิดา ก็คิดว่าการเสาะหาม้าฝีเท้าดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก จึงได้คิดออกไปเสาะหายอดอาชาไนยมาอวดผู้เป็นบิดา โดยตอนหนึ่งในคัมภีร์ บันทึกเอาไว้ว่า "อาชาฝีเท้าพันลี้มีลักษณะเด่นคือ หน้าผากสูง ดวงตาโปนโต กีบเท้าดั่งหล่อหลอมด้วยท่อนเหล็ก..." ซุนต้าจึงถือตำราดูม้าพลางเดินทางออกจากบ้านเพื่อเสาะหาม้าที่มีลักษณะดังกล่าว

เมื่อมาได้ไม่ไกลนัก ซุนต้าพลันพบคางคกยักษ์ตัวหนึ่ง เขาดีใจเป็นอันมาก จึงรีบจับกลับไปอวดป๋อเล่อผู้เป็นบิดา ทั้งยังกล่าวว่า "ท่านพ่อ ข้าพบยอดอาชาตามลักษณะที่ท่านบันทึกไว้ในคัมภีร์แล้ว ทั้งหน้าผากสูง ตาโปนโต ขาดเพียงแต่กีบเท้าที่คล้ายดั่งหลอมด้วยเหล็กเท่านั้น"

เมื่อป๋อเล่อเห็นคางคกยักษ์ที่บุตรชายจับมาเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นม้า ก็ทั้งขันทั้งฉิว จึงตอบกลับบุตรชายไปว่า "ม้าของเจ้าตัวนี้เอาแต่กระโดด แต่จะให้ควบขี่มันคงเป็นไปไม่ได้"

สำนวน "อ้านถูสั่วจี้" หรือ "ยึดรูปภาพเสาะหายอดอาชา" ปัจจุบันใช้เปรียบเปรยถึงการทำอะไรที่ยึดตามกรอบแบบแผนหรือทฤษฎีตายตัว โดยไม่คิดปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์

สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคแสดง(谓语) ส่วนขยายนาม(定语) หรือส่วนขยายภาคแสดง(状语)

ที่มา :
</TD></TR></TBODY></TR></TBODY></TABLE>
</TR></TBODY></TABLE>


.

 

http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1339
http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1340
http://palungjit.org/showthrea...99#post1795699

ประกาศ

เรื่องของการค้ำประกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน หากพลาดท่าเสียทีไปค้ำประกันแล้วเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดหรือคาดฝัน เรื่องที่เกิดต่อๆมาลำบากมาก

เพราะฉะนั้น ใครมาให้ค้ำประกัน ห้ามค้ำประกันให้โดยเด็ดขาด

การค้ำประกันมี 2แบบ คือ
1.ค้ำประกันแบบจำกัดความรับผิด
มีการระบุในสัญญาค้ำประกันว่า การค้ำประกันในครั้งนี้ ค้ำประกันในวงเงิน(จำนวนเงิน)เท่าไหร่

2.ค้ำประกันแบบไม่จำกัดความรับผิด
การค้ำประกันแบบนี้ มูลหนี้(รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งหมด) ทั้งหมดต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับผู้กู้

ดีที่สุด อย่าไปค้ำประกันอะไร ให้ใครเลย ปลอดภัยไว้ก่อน ถึงแม้ว่าเป็นพี่น้องกัน ก็มีเหตุขึ้นมาแล้วอย่างมากมาย

แต่หากไปค้ำประกันแล้วยังไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น หมั่นตรวจสอบและดูคนที่เราไปค้ำประกันบ่อยๆด้วย

โชคดีทุกท่าน

ที่มา PaLungJit.com - บทความทั่วไป ที่น่าสนใจ

 

เหตุแผ่นดินไหวชิลี ส่งผลให้แกนโลกเอียง – เวลาสั้นขึ้น
Ἠ??Թ䋇?ԅՠ?šÐ?? Ἠ??Թ䋇?ը?ԅՠ?ӣ˩ ᡹Ⅱ?§ ?Ҋѩ??֩?




สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

องค์การนาซา เผยว่าแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี ส่งผลให้แกนโลกขยับจากเดิมถึง 8 เซนติเมตร ทำให้เวลาสั้นขึ้น

จากกรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.8 ริกเตอร์ ที่ประเทศชิลีนั้น ล่าสุด องค์การนาซา ออกมาเปิดเผยว่า ผลกระทบจากแผ่นดินไหวดังกล่าว ทำให้แกนโลกขยับเอียงจากตำแหน่งเดิมถึง 8 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาในหนึ่งวันสั้นหรือช้าไปประมาณ 1.26 ไมโครวินาที (1 ไมโครวินาที เท่ากับ 1 ในล้านวินาที)

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัย และไม่อาจจะสรุปได้ว่า การเอียงของแกนโลกจะส่งผลกระทบต่อระบบความสมดุลโลกหรือไม่ ที่สำคัญจะมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนบนโลกอย่างไร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

สำหรับท่านใดที่อยากรู้ว่า คปภ. เป็นอย่างไร และทำอะไรบ้าง

ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ






สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เป็นลิงค์)

 

เกิดอะไรขึ้นกับสังคมโลกาภิวัตน์




.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สังคมวิปริต! พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นถ่ายคลิปลูกโป๊ขายเน็ต
Life & Family - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มีนาคม 2553 17:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สองแม่ลูกหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ขณะที่คดีอาชญากรรมที่เกิดจากคนในครอบครัวกำลังพุ่งสูง (ภาพประกอบนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อหา บุคคลในภาพประกอบมิได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการก่ออาชญกรรมดังกล่าว)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> แม้ชื่อของประเทศญี่ปุ่นจะได้รับการยอมรับในสังคมโลกถึงความก้าวล้ำในด้านเทคโนโลยี อีกทั้งยังมีความชาตินิยมสูง สามารถรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และที่สำคัญ ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีสถิติการก่ออาชญากรรมต่ำประเทศหนึ่งของโลก แต่ในส่วนของการใช้ชีวิตครอบครัวกลับพบว่า มีเรื่องน่าอนาถใจปรากฏออกมาไม่น้อยเลยทีเดียว

หนึ่งในนั้นก็คือการที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้ผลิตภาพ - คลิปวิดีโออนาจาร "เด็ก" ยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมา พบตัวเลขดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นถึงเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ในจุดนี้จึงทำให้ภาครัฐของญี่ปุ่นต้องมองหามาตรการสะกัดกั้นที่เข้มข้นมากขึ้นในการป้องกันปัญหาดังกล่าวกันอย่างเร่งด่วน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นได้เปิดเผยข้อมูลในปี 2009 เกี่ยวกับคดีภาพลามกอนาจารเด็ก พบว่ามีคดีดังกล่าวเกิดขึ้น 935 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2008 ถึง 38 เปอร์เซ็นต์ และถือว่าปี 2009 นั้นมีการจับกุมได้สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บสถิติดังกล่าว

ที่น่าอนาถใจกว่านั้นก็คือ ในหลายคดีที่ถูกจับกุมได้นั้น พ่อแม่ของเด็กกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง และที่น่าอนาถใจมากที่สุดก็คือ ภาพที่ปรากฏในคดีหนึ่ง เด็กที่ตกเป็นเหยื่อ เป็นทารกวัย 1 ขวบเท่านั้น

ส่วนอีกคดีหนึ่งที่ครึกโครมไม่แพ้กันพบว่า ผู้ต้องหาซึ่งมีจำนวน 5 คนนั้น เป็นชายวัย 46 ปีกำลังกระทำละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 1 - 12 ปี โดยมีแม่ ๆ ของเด็กเหล่านั้นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยคดีนี้ทางผู้ต้องหาได้มีการบันทึกภาพเป็นไฟล์วิดีโอ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้เสียหายที่เป็นเด็กมีจำนวนทั้งสิ้น 411 ราย ส่วนผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวที่ทางการสามารถจับกุมได้ก็คือ พ่อแม่จำนวน 16 ราย

เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งตกเป็นเหยื่อของความวิปริตดังกล่าวเปิดเผยว่า เธอถึงกับนิ่งตะลึงเมื่อพบว่า เธอถูกถ่ายภาพเปลือยโดยผู้เป็นพ่อ และเขาส่งภาพเหล่านั้นไปขายทางอินเทอร์เน็ต

"ฉันรู้สึกโกรธมากที่พบว่ามีภาพเปลือยของตัวเองตอนอายุ 7 ขวบกำลังยิ้้มอย่างมีความสุขถูกนำออกขาย ซึ่งคนที่จะถ่ายภาพนี้ได้ก็คือพ่อของฉันนั่นเอง" เด็กสาวคนดังกล่าวระบุ

แม้ประเทศญี่ปุ่นจะมีเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่ก้าวหน้า โดยเฉพาะสื่ออินเทอร์เน็ต แต่การใช้ความสามารถดังกล่าวไปเพื่อก่ออาชญากรรมซึ่งสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้กับเด็กผู้ตกเป็นเหยื่อไปตลอดชีวิตก็ไม่ใช่หนทางที่น่ายกย่องสักเท่าใด และที่น่าเสียดายกว่านั้นก็คือ ปัญหาดังกล่าวได้รับการหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็กถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น ทว่า แนวทางปฏิบัติที่จะนำมาใช้จัดการกับปัญหาดังกล่าวกลับยังมีไม่มากนัก

ฮิโรชิ นากาซาโทมิ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า กฎหมายของญี่ปุ่นพุ่งเป้าไปที่ผู้ผลิตเป็นหลัก ทว่า ไม่มีการคำนึงถึงฟากของผู้เสพมากนัก ดังนั้นจึงมีโปรดิวเซอร์ที่พร้อมจะแหกกฎ หากพวกเขาเห็นว่ายังมีความต้องการจากผู้เสพรอซื้อภาพลามกอนาจารเหล่านั้นอยู่

เรียบเรียงจากไชน่าโพสต์

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>9 ข้อเตือนใจสาวยุคใหม่...อย่า"เล่นกับไฟ"ให้เปลืองตัว
Life & Family - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 มีนาคม 2553 16:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=283 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=283> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> แม้จะมีเหตุการณ์ให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจกันมานักต่อนัก เป็นข่าวหน้าหนึ่งมาก็มาก แต่กรณีของการหลงรักคนที่มีครอบครัวแล้วก็ยังไม่จางหายไปจากสังคมไทยใบกลม ๆ นี้สักเท่าไร แถมความต้องการดังกล่าวยังทำให้หลาย ๆ ครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ลูก ๆ ไม่สามารถยึดพ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีได้ ซ้ำเติมให้สถาบันครอบครัวอ่อนแอมากยิ่งขึ้นเสียอีก

ทีมงาน Life & Family พบคำแนะนำดี ๆ ที่ทางเว็บไซต์ couplecompany.com ได้ฝากถึงสาว ๆ ที่กำลังเล่นกับไฟ และหวังว่ารักที่เกิดจากการทำลายครั้งนี้จะยืนยงมาเตือนใจกันค่ะ

ข้อเตือนใจที่ 1 มั่นใจหรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจมาใช้ชีวิตคู่กับคุณในอนาคต

มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข เมื่อได้มาเจอกับคนที่ให้ความสนใจ ใส่ใจในตัวเขาเช่นคุณ ก็ย่อมเกิดอาการไขว้เขว และกล่าวคำพูดบางอย่างออกมาให้คุณรู้สึกดี เช่น "ผมไม่เคยมีความสุขเช่นนี้มาก่อนจนกระทั่งได้พบกับคุณ" หรือ "อยากจะใช้เวลาที่เหลือของชีวิตกับคุณ" ฟังดูแล้วคำพูดเหล่านี้คล้ายกับคำยืนยันว่าเขาจะมั่นคงกับคุณ และอยู่กับคุณตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ อย่าสับสนกับคำป้อยอเหล่านี้จนลืมพิจารณาความจริงไปว่า เขาอาจทิ้งคุณกลับไปหาภรรยาและลูก ๆ ที่บ้านเมื่อไรก็ได้ และถึงวันนั้น ต่อให้คุณทวงคำพูดดี ๆ ที่เคยได้ยินจากเขา ก็คงไม่เป็นผล

ข้อเตือนใจที่ 2 คุณยอมรับได้หรือไม่กับการมีสามีที่อ่อนแอ และใช้การโกหกหลอกลวงเป็นทางออกเวลาเผชิญกับสถานการณ์ที่อึดอัด หรือไม่ชอบใจ

ก่อนหน้าที่ผู้ชายคนนี้จะมาพบคุณ เขาอาจต้องโกหกหลอกลวงครอบครัวที่บ้านเพื่อให้เขาออกมาพบคุณได้ นั่นเป็นหลักฐานว่า คนที่คุณกำลังคบอยู่นั้นใช้วิธีการใดจัดการกับปัญหาที่เขาไม่ถนัดจะรับมือ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวผู้ชายคนนั้นเองเป็นแหล่งรวมของปัญหาทั้งปวง และในวันหนึ่งหากเขาเลือกมาใช้ชีวิตคู่กับคุณ คุณก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ถึงปัญหาที่จะตามมา ดังนั้นแน่ใจหรือว่าพร้อมจะใช้ชีวิตคู่กับคนในลักษณะดังกล่าว

ข้อเตือนใจที่ 3 หรือผู้ชายคนนี้มีดีพอที่จะทำให้คุณลดความเชื่อมั่นในตัวเองลง

ระหว่างที่คบอยู่กับชายที่มีครอบครัวแล้ว ส่วนมากฝ่ายหญิงมักจะต้องยอมรับการคบหากันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันได้อย่างเปิดเผย เนื่องจากเกรงว่าจะถูกผู้คนมองในทางที่เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง การกระทำเช่นนั้นมีผลทำให้ความเชื่อมั่นของคุณลดน้อยถอยลง ไม่สามารถภูมิใจในตัวเอง และไม่สามารถภูมิใจในการเดินไปข้าง ๆ กับคนที่คุณรักได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ข้อเตือนใจที่ 4 แข่งทำไมเมื่อคุณไม่ใช่ผู้ชนะ

ในสถานการณ์เช่นนี้ การแต่งงานแล้วของฝ่ายชายช่วยให้เขาดูมีสถานะทางครอบครัวมั่นคงในสายตาผู้คนรอบข้าง ส่วนการที่เขามาให้ความสนใจกับคุณ และบอกกับคุณว่าคุณคือคนที่ทำให้เขารู้สึกดี มีคุณค่า อาจทำให้คุณหัวใจพองโตก็จริง แต่ในสายตาของคนภายนอก โดยเฉพาะในสายตาของผู้ที่อยู่ในฐานะภรรยาด้วยกันเองแล้ว ย่อมไม่มีวันมองคุณในแง่ดีเช่นนั้นเป็นแน่ เพราะพวกเธอพร้อมจะมองคุณอย่างโกรธเคือง ในฐานะผู้ที่เข้ามาทำลายความสุขของครอบครัว ดังนั้น สาว ๆ ที่กำลังเล่นกับไฟและอยากชนะไฟอาจต้องตัดสินใจให้ดี ๆ ว่าเกมที่คุณเลือกเล่นนี้ แท้จริงแล้วคุณสามารถเอาชนะมันได้ไหม

ข้อเตือนใจที่ 5 อย่าลืมว่าผู้ชายที่คุณคบอยู่คือคนที่สามารถหักหลังภรรยาได้

แทนการบอกภรรยาให้ทราบถึงสิ่งที่ตนเองต้องการ ชายคนนี้กลับเลือกที่จะมาหาคุณ และบอกกับคุณว่า ภรรยาของเขานั้นไม่ดีอย่างไร และคุณดีกว่าอย่างไร คุณถึงยังจำเป็นกับเขาในฐานะมือที่สาม อาจจะดีกว่า ถ้าเขาและคุณไม่คบหากัน และเขากลับไปบอกภรรยาของเขาในสิ่งที่เขาต้องการเสียเอง

ข้อเตือนใจที่ 6 ชอบไหมถ้าต้องเป็น "จอมทำลาย" ครอบครัวคนอื่น

แท้จริงแล้วในสังคมไทย ข้อหา "มือที่สาม" ก็ทำให้หลายคนสะดุ้งกันไม่น้อย โดยเฉพาะบรรดาดารา นักร้อง-เซเลบที่มีชื่อเสียง ส่วนข้อหา "จอมทำลาย" ครอบครัวคนอื่นนั้น แม้จะเป็นคำที่ยาวกว่าก็ตาม แต่เชื่อว่า ความหมายของมันยิ่งบาดลึกในจิตใจของผู้ถูกกล่าวหาอย่างรุนแรง

ข้อเตือนใจที่ 7 แน่ใจหรือว่าไม่ได้หลอกตัวเอง

ผ่านคำถามเจ็บปวดหัวใจมาหลายข้อแล้ว ข้อนี้เลยอาจฟังดูง่ายไปสักนิด แต่ก็ยังต้องถามสาว ๆ เหล่านั้นอยู่ดีว่าคุณแน่ใจหรือว่าไม่ได้หลอกตัวเองอยู่ว่าตัวคุณเองนั้นมีค่าสำหรับเขา หรือยังเชื่อว่าเขาจะหย่าขาดจากภรรยาและมาตั้งครอบครัวกับคุณ คำแนะนำที่มีก็คือ ขอให้ดูที่การกระทำ เพราะมันสำคัญกว่าสิ่งที่เขาสัญญามากมายนัก

ข้อเตือนใจที่ 8 รับได้ไหม หากถูกโยนความผิด

เหตุที่โลกมีปัญหา ก็เพราะส่วนหนึ่งคนเราไม่สามารถยอมรับความผิดพลาดของตนเองได้ และพยายามโทษคนอื่นว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาดังกล่าว กรณีของการคบหากับผู้ชายที่มีเจ้าของก็เช่นกัน แน่ใจหรือว่าหากเขาถูกภรรยาจับได้ เขาจะไม่โทษว่าคุณเป็นต้นเหตุของทุกอย่าง เพื่อให้เขาสามารถกลับไปคืนดีกับภรรยา ปล่อยให้คุณต้องทุกข์กับข้อกล่าวหาเหล่านั้นเพียงลำพัง

ข้อเตือนใจที่ 9 ไม่เสียดายเวลาเลยหรือ

อย่าลืมว่าวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณผู้หญิงจากที่เคยมั่นใจว่าตนเองนั้นสาว-สวย สามารถใช้ภาพภายนอกมัดใจชายที่มีครอบครัวแล้วได้อยู่หมัด แต่ถึงวันหนึ่ง ความสวยก็ต้องเสื่อมสภาพลง แถมยังน่าเสียดายกว่าที่คุณใช้เวลากับความสวยไปกับผู้ชายที่ไม่สามารถลงหลักปักฐานกับคุณได้ แทนการคบหาคนดี ๆ หรือเพื่อนดี ๆ ซึ่งในวันที่คุณรู้สึกตัว คุณจะไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาเลยหรือ

แม้ว่า คำถามต่าง ๆ ที่ฝากมาเตือนใจกันนี้ค่อนข้างรุนแรง และทำลายความรู้สึกของผู้ที่กำลังเผชิญชะตากรรมดังกล่าวอยู่ค่อนข้างมาก แต่อาจเป็นการดี หากสามารถสะกิดให้สาว ๆ หลายคนได้ฉุกคิดถึงความเป็นจริงเบื้องหน้า เพราะหากหลงไปกับมันแล้ว สิ่งที่ตามมาอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าก็เป็นได้ค่ะ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดอะไรขึ้นกับโลกเมื่อ “แผ่นดินไหว”
Science - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มีนาคม 2553 02:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่ชิลีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. (เอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ความเสียหายจากสึนามิที่ชิลีเนื่องจากแผ่นดินไหวที่ชิลี (เอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นักวิทยาศาสตร์วัดรอยแยกของน้ำแข็งเนื่องจากแผ่นดินไหวที่อลาสกา สหรัฐฯ เมื่อปี 2002 (USGS)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจำลองการเกิดแผ่นดินไหวที่ชิลีซึ่งทำให้เกิดสึนามิเมื่อปี 1960 (USGS)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจำลองการสั่นไหวเนื่องจากคลื่นเอส (USGS)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจำลองการสั่นไหวเนื่องจากคลื่นพี (USGS)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ยังไม่ทันพ้นไตรมาสแรกของปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ทำให้พี่น้องร่วมโลกของเราทุกข์ยากกันไปแล้วถึง 2 ประเทศ อีกทั้งไทยเองยังเคยได้รับความเสียหายจากสึนามิอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหว ดังนั้นภัยพิบัติที่ดูไกลตัวอาจเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้

เกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแผ่นดินไหว?

โลกมีโครงสร้างเป็นชั้นๆ คล้ายหัวหอม แบ่งออกเป็น 4 ชั้นหลักๆ คือ แกนโลกชั้นใน (inner core) เป็นชั้นของแข็งหนา 1,200 กิโลเมตร แกนโลกชั้นนอก (outer core) เป็นชั้นของเหลวโลหะหนา 3,500 กิโลเมตร ชั้นเนื้อโลก (mantle) หนา 2,500 กิโลเมตร และ ชั้นเปลือกโลก (crust) หนา 80 กิโลเมตร ซึ่งแผ่นดินไหวจะเกิดที่ชั้นเปลือกโลก

ทั้งนี้ เปลือกโลกไม่ได้เชื่อมต่อเป็นแผ่นเดียว แต่เกิดจากหลายๆ แผ่นมารวมกันเหมือนตัวต่อจิ๊กซอว์ ที่ต่างเคลื่อนที่อย่างช้าๆ บริเวณเปลือกโลกมีลักษณะเป็นแผ่นๆ (plates) เรียกว่า "แผ่นเทคโทนิก" (Tectonic Plate) แต่ละแผ่นเคลื่อนตัวเฉลี่ย 10 เซ็นติเมตรต่อปี โดยแผ่นเหล่านี้เคลื่อนตามหินหลอมเหลวในเนื้อโลก เนื่องจากขอบแผ่นเปลือกโลกนั้นขรุขระ จึงมีแผ่นอยู่กับที่และมีแผ่นที่ยังคงเคลื่อนที่ได้ เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ได้ไกลพอสมควร ขอบของแผ่นเปลือกโลกจะคลายออกจากรอยเลื่อน และทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น

ทั่วโลกมีแผ่นเปลือกโลกทั้งหมด 12 แผ่น แผ่นที่ใหญ่สุดคือ "ยูเรเซียน" (Eurasian) ซึ่งไทยตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกแผ่นนี้ และเป็นแผ่นที่อยู่ใกล้แผ่น "ออสเตรเลียน" (Australian) และแผ่น "ฟิลิปปิน" (Philippine) ส่วนแผ่นอื่นๆ ไล่จากทะเลแปซิกฟิกไปทางตะวันออก คือ "แปซิฟิก" (Pacific) ยวน เดอ ฟูกา (Juan de Fuca) นอร์ธ อเมริกา (North America) "แคริบเบียน" (Caribbean) "เซาธ์ อเมริกัน" (South American) "สโกเทีย" (Scotia) "แอฟริกา" (Africa) "อราเบียน" (Arbian) และ “อินเดียน” (Indian)

หาจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้อย่างไร?

เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะมีคลื่นแผ่นดิน 2 ชนิด คือ คลื่นปฐมภูมิ (primary) หรือคลื่นพี (P) และ คลื่นทุติยภูมิ (secondary) หรือคลื่นเอส (S) โดยคลื่นพีเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าคลื่นเอสมากและใช้เวลาเพียง 20 นาทีเคลื่อนที่ผ่านทุกส่วนของโลกจากซีกโลกหนึ่งไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง ส่วนคลื่นเอสไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านส่วนที่เป็นของเหลวได้และเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าคลื่นพีมาก

เปรียบคลื่นพีเหมือนฟ้าแลบ ที่เราจะเห็นก่อนได้ยินฟ้าร้องซึ่งเปรียบเหมือนคลื่นเอสที่ตามมาทีหลัง คลื่นพีจะมาถึงจุดที่เราอยู่ก่อนคลื่นเอส หากเราอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากๆ คลื่นทั้งสองจะมาถึงเราแทบพร้อมๆ กัน แต่หากอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวออกไป จะมีความแตกต่างของเวลาที่คลื่นทั้งสองเดินทางมาถึงจุดที่เรายืนอยู่

ทั้งนี้คลื่นพีเป็นคลื่นตามยาว (Longitudinal wave) เมื่ออนุภาคถูกกระทบจะเคลื่อนไปตามแนวที่คลื่นพุ่งไปและอยู่ในสภาพถูกอัดและขยาย ส่วนคลื่นเอสเป็นคลื่นตามขวาง (transverse wave) เมื่ออนุภาคถูกกระทบจะเคลื่อนที่ขึ้นลงในทิศตั้งฉากกับทิศที่คลื่นพุ่งไป ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้หลักการนี้ในการหาจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยเหนือจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขึ้นมาถึงผิวดินเรียกว่า จุดอิพิเซ็นเตอร์ (epicenter) และจุดที่อยู่ล่างศูนย์กลางแผ่นดินไหวลงไปเรียกว่า จุดไฮโปเซ็นเตอร์ (hypocenter)

เสียงครืนครางยาวหลังแผ่นดินไหว

หากเสียงจากคลื่นพีที่เกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหว สามารถหักเหขึ้นสู่อากาศ และมีระดับความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้ เราจะได้ยินเป็นเสียงครืนครางยาว หากแต่ความจริงแล้วความถี่ของคลื่นพีส่วนใหญ่ต่ำกว่า20 เฮิรทซ์ ซึ่งหูของคนเราไม่สามารถรับฟังได้ เนื่องจากเราได้ยินเสียงในช่วงความถี่ระหว่าง 20-10,000 เฮิร์ทซ์เท่านั้น ส่วนเสียงครืนครางยาวที่ได้ยินระหว่างเกิดแผ่นดินไหวส่วนใหญ่ เกิดจากการเคลื่อนที่ของอาคารและสิ่งที่อยู่ภายใน

ทั้งนี้ประมาณว่า ในแต่ละปีทั่วโลกมีแผ่นดินไหวที่สามารถตรวจวัดได้ 500,000 ครั้ง โดยในจำนวนนั้น 100,000 ครั้งสามารถรับรู้ได้ และ 100 ครั้งก่อให้เกิดความเสียหาย โดยแผ่นดินไหวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1556 ที่ตอนกลางของประเทศจีน ซึ่งแผ่นดินไหวได้เข้าทำลายบริเวณที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากและส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในถ้ำที่สกัดขึ้นจากหินอ่อน ที่อยู่อาศัยจึงพังถล่มลงมาเนื่องจากแผ่นดินไหว และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 830,000 คน และในปี 1976 เกิดแผ่นดินที่จีนอีกครั้งและคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 250,000 คน

นอกจากนี้ หลังแผ่นดินไหวยังทำให้เกิดสึนามิได้ หากเกิดแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทร หรือแผ่่นดินเลื่อนเข้าไปแทนที่น้ำในมหาสมุทร (ซึ่งมักมีจุดเริ่มต้นจากการเกิดแผ่นดินไหว) แต่คลื่นสึนามินี้ต่างจากคลื่นทะเล (tidal wave) มาก แม้เป็นคลื่นจากน้ำทะเลเหมือนกัน เพราะคลื่นทะเลเป็นเพียงคลื่นเล็กๆ ที่เกิดเนื่องจากอันตรกริยาจากแรงดึงดูดระหว่างโลก ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์

ไม่เพียงแค่แผ่นดินไหวบนโลก แต่ดวงจันทร์มีปรากฏการณ์แผ่นดินไหวเช่นกัน เพียงแต่มีความถี่ในการเกิดน้อยกว่าบนโลกและมีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สัมพันธ์กับแรงไทดัล (tidal) ที่แปรเปลี่ยนตามระยะทางระหว่างโลกและดวงจันทร์ อีกทั้งยังเกิดแผ่นดินไหวลึกลงไประหว่างใต้พื้นผิวและศูนย์กลางของดวงจันทร์

เราทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้หรือยัง?

จิอัน ลิน (Jian Lin) นักธรณีวิทยาจากสถาบันมหาสมุทรศาสตร์วูดส์โฮล (Woods Hole Oceanographic Institution) ในแมสซาชูเสตต์ สหรัฐฯ กล่าวว่าแผ่นดินไหวที่ชิลีครั้งนี้อาจเป็นผลต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวที่ชิลีเมื่อวันที่ 22 พ.ค.1960 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในโลก นับแต่มีการบันทึกมา โดยมีความรุนแรงถึง 9.5 ริกเตอร์

จนถึงทุกวันนี้เรายังไม่มีวิธีที่จะทำนายการเกิดแผ่นดินไหว แม้นักวิทยาศาสตร์จะพยายามหลายวิธีเพื่อหาทางทำนายการเกิดแผ่นดินไหว แต่ยังไม่เคยมีสักครั้งที่ประสบความสำเร็จ ทราบเพียงว่าบริเวณรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกนั้น อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ในอนาคต แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อใด ส่วนสภาพอากาศหรือสัตว์จะทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD class=hit align=left height=19>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>"แผ่นดินไหว" เพราะแกนโลกขยับมุมอยู่ตลอด</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>เจาะพื้นธรณีวิทยา หาที่มาแห่ง “พสุธากัมปนาท”</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>ญี่ปุ่นโชว์แบบบ้านแข็งแรงต้านแผ่นดินไหว ครบรอบ 10 ปีโกเบ </TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>ภาพล่าสุดชี้ร่องรอย “แผ่นดินไหว” บนดาวแดง</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>แบบจำลองการเกิดแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

.

.