บุญสูงสุด...โดยหลวงปู่ดู่

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย ศุภกร เต็มคำขวัญ, 26 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. ศุภกร เต็มคำขวัญ

    ศุภกร เต็มคำขวัญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,107
    [​IMG]


    เคยมีเพื่อนคนหนึ่ง กราบเรียนถามหลวงปู่ดู่ว่า
    "ทำบุญอย่างไรจึงจะได้...ผลดีที่สุดครับ"

    แทนที่หลวงปู่จะตอบทำนอง...ทำบุญด้วยนั้นด้วยนี้
    หรือ ทำด้วยอาการอย่างนั้นอย่างนี้
    หรือ จะพูดถึงธรรมทาน
    หรือ อภัยทาน


    หลวงปู่กลับตอบว่า
    "ของดีนั้นอยู่ที่เรา ของดีนั้นอยู่ที่จิต
    จิตมี ๓ ชั้น คือ ตรี โท เอก ...มันไม่มีอะไรก็ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    ตัวอนัตตา นี้แหละเป็นตัวเอก ไล่ไปไล่มา ให้มันเห็นสังขารร่างกายของเรา...ตายแน่ ๆ
    คนเราหนีตายไปไม่พ้น"


    ตอนนั้นก็ยังฟังไม่เข้าใจ
    คิดว่าลูกศิษย์ถามอย่างหนึ่ง แต่หลวงปู่ฟังไม่ถนัด
    ก็เลยตอบไปอีกอย่างหนึ่งหรือเปล่าหนอ


    แต่ภายหลังเมื่อศึกษาธรรมมากเข้า จึงได้รู้ว่า...
    "บุญจากการรักษาศีล" นั้นมากกว่า "บุญจากการให้ทาน"
    และ "บุญที่สูงที่สุด ดีที่สุด" ก็คือ "บุญจากการภาวนา"
    และการภาวนาก็เพื่อให้จิตเกิด " ปัญญา"
    ไม่หลงยึดสังขารว่า เป็นเรา เป็นของเรา ประมาทว่า...มันยังจะไม่ตายง่าย ๆ


    "บุญ" เป็นชื่อของ "ความสุข"
    เวลาให้ทาน มันก็กระเทือนเข้ามาที่ใจ
    เกิดเป็นความอิ่มใจ ปลื้มใจ สุขใจ เรียกว่า...บุญเกิดแล้ว


    พอมารักษาศีล
    กาย วาจา ของเราไม่ไปเป็นโทษกับใคร ๆ
    มีปรกติอยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องคอยหวาดระแวงว่า ใครจะมาแก้แค้นเอาคืนกับเรา
    ไปที่ไหน ๆ ก็ไปอย่างองอาจผึ่งผาย เพราะไปและอยู่อย่าง...ผู้ไม่มีแผล
    ไม่มีความหวาดวิตกว่า ใครจะเอา "แผล" ของเรามาเปิดโปง
    จึงเป็นบุญที่เขยิบจากปัจจัย คือ "ทานภายนอก" มาอยู่ที่ "กาย วาจา ของเรา"


    ใกล้ตัวเข้ามาอีกคือ การทำบุญที่..."ใจ" ตนเองโดยตรง
    ไม่ใช่ต้องอาศัย "ทานภายนอก" แล้วค่อยให้...กระเทือนเข้ามาที่ใจ
    หรือ อาศัยเพียงความสำรวมกายวาจา (ศีล) ที่ช่วยให้...ใจไม่วุ่นวาย สงบ เป็นสุข
    นั่นก็คือ "บุญจากการภาวนา" โดยอาศัย "การปรุงแต่งใจในทางกุศล" ด้วยอุบายทางสมาธิภาวนา

    ทำให้ใจเราเกิดความผ่องใส เบิกบาน...ซึ่งเป็นตัว "บุญ" โดยตรง

    ถึงกระนั้นท่านก็ยังว่า บุญที่สูงสุดต้องมาจาก..."ปัญญา"
    เพราะนอกจาก "ความผ่องใสของใจ" ที่เกิดขึ้นแล้ว
    ใจยังถึงพร้อมด้วย "ความเบากาย เบาใจ" อย่างยิ่ง
    เพราะใจที่มี "ปัญญา" มันคลายความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายเรา หรือ ในสังขารอื่นใดทั้งสิ้น


    มิน่าเล่าเวลาเราถามหลวงปู่ว่า ทำบุญอย่างไรจึงจะได้...ผลดีที่สุด
    หลวงปู่จึงได้วกมาที่ตัว "ปัญญา"
    คือ ความรู้ เข้าใจ และยอมรับ ในไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    อันจะทำให้จิตเจ้าของ เกิดความผ่องใส หรือ เหนือความผ่องใสไปอีก
    เข้าถึง ความเบาใจ โล่งใจ...อย่างที่สุด
    เพราะ "เลิกแบกยึด" สิ่งที่เคย "แบกยึด" ไว้นมนาน
    ไม่ต้องคอยลุ้นที่จะเป็นทุกข์ เพราะความเสื่อมไปของสังขารทั้งหลายนั่นเอง




    ***จากบทความของ คุณสิทธิ์
    ที่มา Luangpordu.com
     
  2. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    สุดยอด...

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ...
     
  3. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    ขออนุโมทนา สาธุ ๆ กับท่านทั้งหลายที่ได้นำพระธรรมมาเผยแพร่ทุก ๆ อย่างด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุญญัง
    นิพานัง ปรมัง สุขขัง
     
  4. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321

    anumothana sathu ka
     
  5. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,083
    [​IMG]<LABEL for=vote5><INPUT id=vote5 type=radio CHECKED value=5 name=vote>ยอดเยี่ยม</LABEL>
    <LABEL for=vote5></LABEL>
    <LABEL for=vote5>[​IMG]</LABEL>
     
  6. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    อนุโมทนาทุกท่านค่ะ
    ดีใจที่เจอหลวงปู่ดู่
    เรื่องฤทธิ์ของพระโพธิสัตต์ ที่รู้อยู่แก่ใจดี ก็ได้เห็นจริงๆ กับเขา

    *
     

แชร์หน้านี้

Loading...