พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    5555555คิดเองนะครับ เค้าแจ้งผมว่า ข้อแตกต่างคือน้ำมันใช้แล้วหมดไปส่วน ทองคำปริมาณจะ หมุนเวียนอยู่ในโลกไม่หายไปไหนครับ น่าคิดมั้ยครับ หุ หุ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แท็กซี่มอมยา เรื่องเล่าและวิธีเอาตัวรอด จากหมอแมว

    http://hilight.kapook.com/view/46523


    [​IMG]


    แท็กซี่มอมยา หมอแมว
    pantip เผย BB ช่วยชีวิต! (หมอแมว)

    ผม (หมอแมว) ได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เป็นครั้งที่ 5 ใน pantip.com (6 ถ้ารวมกระทู้ที่ด๋อยไป) เพราะว่านี่คืออีกครั้งที่สังคมไทยเกิดเรื่องประหลาดขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือ วัฒนธรรมการกล่าวหาผู้อื่นอย่างที่ตนเองไม่มีหลักฐาน การกล่าวหานั้นก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ที่ประกอบอาชีพสุจริตคนอื่น ๆ ทั้งยังสร้างความวุ่นวายในสังคมเพราะทำให้คนที่ได้ข่าวเกิดความตระหนกตกใจโดยไม่มีเหตุอันควรสุดท้าย เมื่อหาเหตุผลมาโต้แย้งคนที่ไม่เห็นด้วยไม่ได้ ก็จบลงด้วยการแย้งเดิม ๆ คือ

    " ไม่เจอไม่รู้หรอก "

    " ขอให้เจอกับตัว "

    " ขอให้แม่หรือน้องสาวโดนมั่ง "


    กรณีนี้ผมไม่ได้ว่าใครโดยเฉพาะ แต่กล่าวรวมไปถึงผู้ที่เชื่อใน FWD Mail โดยไม่ได้ไตร่ตรอง การเชื่อไม่ใช่สิ่งที่ผิดครับแต่สิ่งที่คุณกระทำหรือพูดต้องไม่ทำร้ายคนอื่น หรือกลุ่มคนอื่น

    [​IMG] ขึ้น TAXI แล้วเวียนหัว จะโดนรมยาหรือนี่!!!

    มีกระทู้หรือคำถามที่คนถามกันมาเกี่ยวกับเรื่องยาป้ายยาสลบในแท็กซี่ ยาป้ายยาสั่งที่ทำให้คนหลับ . . . วันนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์ของตนเองครับ เกี่ยวกับประสบการณ์อาการหลับแบบไม่รู้ตัวในรถแท็กซี่ เหตุการณ์จริง เกิดเมื่อ 6 ส.ค. 2549 (แจ้งรายการวิทยุรายการหนึ่งไปด้วย)

    ผมนั่งแท็กซี่ขึ้นจากบางขุนนนท์ เพื่อจะไปหมอชิต เมื่อขึ้นไปแท็กซี่มีท่าทีแปลก ๆ ลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา ระหว่างทางคนขับควักยาดมมาสูดตลอดเวลา (ย้ำว่าตลอดเวลา) คาจมูก... ขับไปจะกดแตรแบบไม่มีเหตุผล หันซ้ายหันขวาบ่อย ๆ ช่วงไปสะพานพระราม 7 ขับเลนขวาสุด ความเร็ว 40 km/h .... เราก็เร่งบอกว่ากำลังรีบ คนขับก็เงียบ

    ... พอขึ้นสะพานพระราม 7 เป็นทางตรงระยะหนึ่ง ได้ยินเสียงกรนสองครอก ... ก่อนที่จู่ ๆ ก็เกิดหักซ้ายกระทันหัน ... จากเลนขวาสุด ปาดเข้าเลนซ้ายสุด(ชนอะไรไม่รู้นิดนึง) ก่อนที่คนขับจะหักกลับเข้ามาก่อนบ่นว่า "ถนนไม่ดี" ... มาถึงหมอชิตด้วยใจระทึก

    จากนั้นแจ้งรายการวิทยุรายการหนึ่งไป เพราะเกรงว่าคนขับขับออกไปแล้วอาจจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ทางนั้นบอกว่าต้องแจ้งทางอื่นไม่รู้ว่าวันนี้ลุงแท็กซี่คนนั้นยังอยู่ดีหรือเปล่า

    ครับ วันนี้ผมจะมาคุยกันแบบกึ่ง ๆ วิทยาศาสตร์ ในเรื่องอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้น ระหว่างนั่งรถแท็กซี่ครับ เกิดจากอะไรได้บ้าง และเราจะทำอะไรได้บ้าง

    [​IMG] อาการที่ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง

    1. Carbon monoxide Poisoning

    อาการ ที่พบได้บ่อยเวลาหลาย ๆ คนขึ้นรถแท็กซี่ก็คือ เมื่อขึ้นไปแล้วเกิดอาการเวียนหัวมึนงง อยากจะหลับ พยายามฝืนลืมตาให้ตื่นขึ้นก็แล้ว แต่ว่าก็จะไม่ไหว ... หลังจากลงจากรถมาแล้วก็มึน ๆ งง ๆ จำเหตุการณ์ไม่ค่อยชัดเจน ไม่ว่าอาการ เวียนหัว งง ง่วง คลื่นไส้อาเจียน จำเหตุการณ์ไม่ได้ จำหน้าตาคนขับหรือทะเบียนรถไม่ได้ และ หลับไปเป็นวัน ๆ ... อาการเหล่านี้เข้าได้กับอาการ "ถูกพิษของคาร์บอนมอนออกไซด์" ครับ

    ซึ่งก๊าซตัวนี้เกิดได้จากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์รถคันนั้น และเกิดการรั่วซึมเข้ามาทางใดทางหนึ่ง ซึ่งเมื่อก๊าซตัวนี้เข้าไปจับกับเม็ดเลือดแดง ก็จะก่อเกิดสารที่เรียกว่า COHb (carboxyhemoglobin) ทำให้เม็ดเลือดนั้นขนส่งออกซิเจนไม่ได้ ร่างกายก็จะเกิดอาการของการขาดออกซิเจนขึ้น โดยอาการจะไปเกิดที่สมองเป็น อาการดังที่กล่าวมาครับ

    ในคนปกติในสังคมทั่วไป มีค่า COHb ได้ที่ 1-2% ครับ ส่วนในคนที่สัมผัสกับคาร์บอนมอนออกไซด์บ่อย ๆ เช่นคนที่สูบบุหรี่ ตำรวจจราจร หรือ คนขับรถที่มีรูรั่ว อาจจะมีค่า COHb ได้สูงถึง 10%

    ข้อสงสัยแรก : รถแท็กซี่ก็ดูดี ไม่น่ามีรั่วนะ

    คำตอบ :
    การรั่วไม่รั่วต้องตรวจสอบครับ เพราะสารนี้ไม่มีกลิ่นไม่มีสี ถ้ามีรูรั่วเยอะ ๆ นั่งรถแป็บเดียวได้กลิ่นควันเสีย คนขับรถคงรู้ตัวและเอาไปซ่อมแล้ว ... แต่ถ้าหากการรั่วเกิดขึ้นช้า ๆ น้อย ๆ ในระดับที่เราไม่ได้กลิ่นไอเสียตัวอื่น ๆ ร่วมกับเรานั่งรถเป็นระยะทางไกล ๆ นั่นจะทำให้เกิดอาการครับ

    ข้อสงสัยสอง : ทำไมคนขับไม่เป็นแต่เราเป็น คำตอบ : จริง ๆ ควรจะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วครับ เพราะเค้าขับทุก ๆ วัน ดังนั้นหากเค้าได้รับคาร์บอนมอนออกไซด์ติดต่อกันเป็นเวลานานร่างกายก็จะมี การปรับตัวช้า ๆ โดยการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากเราเอาเลือดคนขับรถที่มีการรั่วของก๊าซนี้ไปตรวจ ก็จะพบว่ามีระดับของ COHb สูงร่วมกับมีความเข้มข้นของเลือดสูงกว่าปกติ

    [​IMG] การแก้ไขหรือจัดการ


    [​IMG]


    2. เมารถ : กลิ่น อาหาร นอนไม่พอ

    อาการเมารถ หรือ Motion Sickness เป็นอาการที่เกิดจากการที่ระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัวทำงานไม่สัมพันธ์กันครับ ซึ่งระบบการทรงตัวของคนเราจะประกอบไปด้วย ...

    " ดวงตา - เส้นประสาทที่กล้ามเนื้อ - ระบบประสาทในหู - สมอง "

    [​IMG]


    ในการนั่งรถ เรารับรู้ว่ารถเคลื่อนตัวโดย ตาเรามองเห็นว่าเราเคลื่อนไปในทิศทางไหน ระบบประสาทกล้ามเนื้อเรารับรู้ว่าเรานั่งยังไงเอนซ้ายขวาแบบไหน ระบบประสาทในหูบอกว่าเรานั่งในมุมใดองศาใด สุดท้าย สมองของเราจะบอกประมวลผลว่าเราไปในทิศแบบไหน

    ตัวอย่างกรณีที่เราจะมึนงงเมารถได้ง่ายขึ้นคือเราเล่น ฺBB ลูกตาจะกรอกไปกรอกมาอย่างเร็วเพื่อจับภาพตัวอักษรใน BB ให้อยู่นิ่ง ทำให้เกิดอาการเวียนหัวอยากจะเป็นลมได้

    [​IMG] เราไม่ใช่คนขับ : การที่เราไม่ใช่คนขับทำให้เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเราจะเคลื่อนต่อไปอย่าง ไร กล้ามเนื้อและดวงตาจึงปรับตัวไม่ทัน ... ส่วนคนขับเค้ารู้ตัวล่วงหน้าก่อนว่ารถจะวิ่งไปมาแบบไหน ดังนั้นจึงไม่งง

    [​IMG] คนขับขับเร่งและเบรกไม่ดี : พวกเบรกกระตุก ออกตัวแรง เล่นคลัทช์ วิ่งฉวัดเฉวียน ทำให้ดวงตาซึ่งกำลังมองไปทางด้านหน้าปรับไม่ทัน รถก็กระชากไปทางซ้าย กล้ามเนื้อและหูบอกว่าไปทางซ้ายแต่ตายังมองตรง พอส่งสัญญาณไปสมอง สมองก็แปลผลผิด เกิดอาการงง

    [​IMG] กระจกรถฝ้าหมอกมัว : กระจกที่มัวจะทำให้ตาของเราโฟกัสตำแหน่งการมองไม่ได้ ดังนั้นสัญญาณจากตาที่ไปสมองก็จะผิดปกติไป

    [​IMG] สิ่งรบกวนหรือสิ่งที่ทำให้เราอาเจียนเวียนหัวง่ายขึ้น : ไม่ว่ากลิ่นในรถที่เหม็น / เสียงรบกวนของเครื่องยนต์ / อาหารที่เรากินก่อนขึ้นรถ (กินมากไปหรือกินอาหารมัน ๆ) / รายการวิทยุการเมืองที่ด่าเสียงสูง ๆ ดัง ๆ ... ของพวกนี้ก็ทำให้เราอาเจียนเวียนหัวได้ง่ายขึ้น

    อ้อ อีกอย่างครับ ... บางคนอดนอนมาหลาย ๆ วัน พอมาขึ้นรถเบาะนุ่ม ๆ ก็หลับครับ

    3. เจอยานอนหลับ

    บางคนมีความรู้สึกว่างุนงงง่วงนอนจริง ๆ และสงสัยว่าเกิดจากยานอนหลับ มาวิเคราะห์สั้น ๆ ครับ

    [​IMG] ยานอนหลับแบบฟุ้งกระจายหรือระเหย : ยาพวกนี้คนจะใช้คงต้องระวัง เพราะว่าถ้าวางไว้ในรถแล้วตัวเองย่อมโดนไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีที่บอกว่าเปิดกระจก / หันแอร์ไปทางคนนั่ง / หรือว่าออกจากรถไปฉี่ ... ของพวกนี้ไม่แน่นอน และมีการพูดในเชิงวิทยาศาสตร์มานานแล้วว่าเป็นไปไม่ได้

    [​IMG] ยานอนหลับแบบกิน : มีบางคนชอบพูดถึงยานอนหลับ พวกโรฮิปนอล ดอร์มิคุม ของพวกนี้ก็ไม่ได้หากันง่าย ๆ และต้องใช้ในรูปกิน (บางคนชอบบอกว่า แท็กซี่ละลายยาพวกนี้ในน้ำแล้วเอาไปป้ายที่ช่องแอร์ หรือพ่นใส่ผิวหนัง ... โอ้ว ฉีกตำรายาเขวี้ยงทิ้งไปเลย) ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้รับของมากินจากแท็กซี่ คุณก็ไม่น่าจะเจอยานอนหลับได้ครับ กรณีที่เป็นไปได้ที่คุณคือ คุณไปกินอาหารหรือน้ำแล้วไปเจอแก๊งค์ที่หย่อนยานอนหลับลงแก้วน้ำ หรืออาหาร แล้วบังเอิญคุณหลุดจากพวกมันมาขึ้นแท็กซี่พอดีครับ .... กรณีนี้เจอได้ง่ายกว่าและเป็นไปได้กว่าเป็นไหน ๆ ครับ

    ถ้าจะคิดในแง่ ทางเศรษฐศาสตร์นะครับ ถ้ามียาพวกนี้จริง ราคาต้องแพงมาก โอกาสที่ใช้แล้วผู้โดยสารมีเงินน้อยกว่าก็มีมาก (ไม่คุ้ม) , หรือจะเอาไปข่มขืนสาว ๆ ก็ไม่คุ้ม เพราะราคายาพวกนี้แพงกว่าไปลงอ่างเป็นไหน ๆ

    ต่อไปจะเป็นข้อควรทำเมื่อเกิดอาการแปลกๆบนรถครับ เป็นวิธีที่ผมเห็นว่าเป็นวิทยาศาสตร์และไม่เกินเลยความจริงครับ . . . เพราะเรื่องพวกนี้ เราควรจะทำอะไรบางอย่าง แต่เราควรจะทำให้อยู่ในแนวทางที่สมเหตุสมผล ... ไม่ใช่ตื่นตระหนกจนเกินขอบเขตครับ

    [​IMG] สิ่งที่ควรทำ "ก่อน" จะขึ้น Taxi

    1. ก่อนออกจากบ้านควรบอกคนที่บ้านว่าจะเดินทางไปไหน

    2. ควรรู้ว่าระหว่างทางจากบ้านไปยังที่ทำงานหรือสถานที่ที่ไปประจำ มีสถานีตำรวจ และโรงพยาบาลไหนบ้าง

    3. ควรรู้ว่าเส้นทางที่เราจะไปเรียกว่าอะไร

    ที่จริงควรจะพอรู้ ๆ ไว้บ้างนะครับ เพราะเราจะเดินทางไปไหนมาไหน คนที่บ้านย่อมเป็นห่วง ถ้าระหว่างการเดินทางเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา หรือว่ามีคนในบ้านที่ไปทำงานแล้วหายไป อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่าจะติดต่อสถานีตำรวจหรือโรงพยาบาลไหน ว่ามีอุบัติเหตุกับคนชื่อนี้บ้างหรือเปล่า

    อีกประการหนึ่ง คือ หากเราเกิดการสงสัยในความน่าเชื่อใจของ TAXI แล้วยกโทรศัพท์มาคุย ... การที่เราบอกตำแหน่งเราได้ ย่อมฟังดูไม่เป็น "หมู" ให้เคี้ยวเล่นเหมือนคนที่บอกว่า "ไม่รู้ว่าอยู่ไหน"

    4. ถ้ารู้สึกว่าแปลก ๆ ตั้งแต่แรก อย่าเรียกแท็กซี่ที่หน้าร้านนั้น ...

    เช่น สงสัยว่าโดนวางยาและกินอาหารนั้นไปแล้ว ก็ให้ไปขอความช่วยเหลือเลย ... มิฉะนั้นถ้ายังอยากขึ้นแท็กซี่ ก็เลือกที่ที่ห่างออกไปเช่นฝั่งตรงข้าม (ข้อ 4 ในกรณีที่นอยด์มาก กลัวว่าแท็กซี่ร่วมมือกับแก๊งค์ตกทอง)

    [​IMG] สิ่งที่ควรทำเมื่อรู้สึกบนรถว่าแปลก ๆ ไม่น่าไว้ใจ

    บางคนกลัวว่าการกระทำบางอย่างบนรถแท็กซี่ของเรา อาจจะทำให้คนขับเค้าไม่พอใจ ว่าเราไปมองเค้าเป็นโจร ... แต่เท่าที่ลองสอบถามมา คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่จะกลัวผู้โดยสารมากกว่า และถ้าเรามีท่าทางไม่ค่อยวางใจแท็กซี่ แท็กซี่บางคนอาจจะรู้สึกอุ่นใจว่าเราไม่น่าจะใช่โจร ดังนั้นบางอย่างก็ไม่ต้องอายครับ ทำได้โดยเลือกวิธีพูดวิธีทำสักนิดไม่ให้น่าเกลียด

    1. โทรบอกคนที่บ้านให้ออกมารับ

    ก่อนโทรมองสภาพแวดล้อม หาจุดหาตำแหน่งก่อน เมื่อโทรแล้วก็บอกไปเลยว่า ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน (ทำเป็นชำนาญในเส้นทาง...จริง ๆ อาจจะเพิ่งมองป้ายตะกี้เอง) บอกให้คนที่บ้านออกมารับ (หรือถ้าไม่อยู่บ้านก็เนียน ๆ ไป แต่เปิดเสียงเบา ๆ หน่อยแล้วกัน) บอกสีรถ และป้ายทะเบียนไป ... บอกปลายสายไปด้วยว่า สาเหตุที่เราบอก เพื่อจะได้รู้ว่าเป็นคันนี้ จะได้รับถูกคัน (จริง ๆ เราบอกเพราะไม่ไว้ใจต่างหาก)

    ตัวอย่าง

    "ฮัลโหล พี่เอ ตอนนี้น้องตามาถึงแยกสะพานควายตรงหน้าโรงแรมสุดาแล้วนะ เดี๋ยวพี่เอมารับหน้าปากซอยหน่อยนะ พอดีน้องตางง ๆ มึนหัว ... แท็กซี่สีเขียวเหลือง ป้ายทะเบียน AS-1234 กรุงเทพ" . . . อันนี้ควรไปตกลงกับคนที่บ้านหรือคนใกล้ตัวครับ ... ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้ใส่ใจนิดนึง ถือว่ามีเรื่องผิดปกติแล้ว

    2. ให้จอดรถ ขอลงเมื่อเห็นว่าไม่น่าไว้ใจ

    ไม่ว่าคุณจะง่วง งง เมารถ หรืออะไรก็ตาม และรู้สึกว่าคนขับที่นั่งใกล้ ๆ ไม่น่าไว้ใจ ก็ให้เล็ง ๆ จุดที่จะลงไว้ โดยอาจจะเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่าน ใกล้โรงพยาบาล หรือว่าเห็นตำรวจกำลังโบกรถอยู่ ... เมื่อเห็นจุดที่ต้องการแล้ว ก็ให้บอกแท็กซี่ให้จอด และอย่าลืม "จ่ายเงินค่าโดยสาร" ครับ

    แท็กซี่ตามปกติเห็นคุณจะลงก่อนถึงที่หมายและมีเงินในมือ ต้องจอดอย่างแน่นอน ... ถ้าไม่จอดมักจะผิดปกติ

    ถึงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมครับทำไมให้ขอลงในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ก่อนลงอย่าลืมจดหรือจำป้ายทะเบียนรถ/สีรถไว้ด้วย

    3. ถ้าอาการมันดูแปลก ๆ ให้ขอความช่วยเหลือแล้วไปโรงพยาบาล

    ถ้าคุณลงมาจากรถด้วยอาการที่มึนงงมาก ง่วงจัด หรืออาการผิดปกติอย่างชัดเจน ถ้าไปต่อไหว ให้เปลี่ยน Taxiแล้วไปต่อยังโรงพยาบาลใกล้ ๆ ถ้าคุณคิดว่าเดินทางต่อไม่ไหว ให้ไปหาตำรวจจราจรแถวนั้น ขอให้เขาช่วยเหลือ ... ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ให้หาร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้า บอกให้เค้าตามตำรวจหรือรถพยาบาล โดยคุณเองก็อาจจะโทรบอก 191 เองด้วย

    จริง ๆ ถ้าเป็นไปได้ผมแนะนำให้หาตำรวจมากกว่า ... เพราะว่ากันตามจริงคนที่เค้าไม่รู้จักคุณ เค้าก็ไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นจะมาหลอกเค้าหรือเปล่า

    4. ถ้าสงสัยว่าโดนวางยา ไม่ว่าจากไหน ก็แจ้งความด้วย

    ถ้าสมมุติว่าคุณสงสัยมาก ๆ ว่าจะโดนวางยานอนหลับระหว่างไปกินอาหารนอกบ้าน เมื่อตำรวจพาไปถึงโรงพยาบาลแล้ว ก็บอกหมอว่าสงสัยอะไรยังไง เรื่องการตรวจหาสารพวกนี้เป็นประเด็นทางกฎหมายครับ ... ปกติต้องมีตำรวจร่วมด้วย ต้องมีการแจ้งความ ถ้าคุณดุ่ม ๆ เข้าไปแล้วบอกว่าจะขอตรวจ ต่อให้จ่ายเงินเองหมอก็มักจะไม่ตรวจให้ ...

    5. โทรแจ้งตำรวจหรือรายการวิทยุ

    บางคนอาจจะมองว่าเกินไปหรือตื่นตูม ... ซึ่งก็แล้วแต่เหตุการณ์ครับ แต่การแจ้งผมว่ามีประโยชน์ เพราะถ้าหากรถแท็กซี่คันดังกล่าวมีการแจ้งว่าผิดปกติบ่อยครั้ง ก็จะเกิดการตรวจสอบ เผลอ ๆ อาจจะเจอว่าแท็กซี่คันนั้นรั่ว มีก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์รั่วก็ได้ และคุณอาจจะได้รับการสดุดีในรายการวิทยุของแท็กซี่ว่า ได้ช่วยชีวิตคนขับรถ ไว้คนหนึ่ง

    [​IMG] สรุปสิ่งที่ควรทำ

    - วางแผนในครอบครัวเรื่องสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ไม่ ใช่แค่เรื่องนี้ครับ ... รวมไปถึงเรื่องคนในบ้านหาย ไฟไหม้ ภัยพิบัติ รถชน รถตกน้ำ โจรขึ้นบ้าน ฯลฯ ... ของพวกนี้ควรจะทำทุกบ้านครับ ไม่เกินกว่าเหตุแต่อย่างใด

    อย่างน้อยตอนไปอยู่บ้านปู่ ปู่ผมก็ซ้อมแผน ... เคยใช้ครั้งหนึ่งตอนที่ไฟไหม้ในซอยหลังบ้าน (แต่ที่ซ้อมแผ่นดินไหว หวังว่าคงไม่ได้ใช้นะ)

    - อย่าลืมการจดเบอร์ทะเบียนรถ และสีรถ

    - ทำความรู้จักเส้นทางประจำของคุณ และเส้นทางเลี่ยงอื่น ๆ (เผื่อวันไหนรถติดTaxi พาไปทางอื่น แล้วบอกว่าทางลัด)

    - เมมเบอร์บ้านในชื่อ "บ้าน" เผื่อนอนสลบไสลไม่ได้สติสมประดี ตำรวจหรือพยาบาลจะได้โทรไปบอกที่บ้านได้ (ถ้าอยู่คนเดียว ก็เมมเบอร์ "แม่" "พ่อ")

    [​IMG] เบอร์โทรที่ควรรู้และพกไว้ [​IMG] 1644 สวพ. 91 รายการวิทยุจราจร

    [​IMG] 1137 จส.100 รายการวิทยุจราจร

    [​IMG] 1669 ศูนย์สั่งการระบบรถโรงพยาบาล ... เอาไว้โทรเวลาตามรถโรงพยาบาล (ต้องบอกชื่อ ที่อยู่ สถานที่เกิดเหตุ)

    [​IMG] เบอร์โทรโรงพักในละแวกบ้าน (สถานีเดียวก็พอมั้งครับ นอกนั้นใช้191)





    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
    ห้องวิทยาศาสตร์ (หว้ากอ)
    โดย หมอแมว
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งั้นแสดงว่า ทองคำ ก็เป็นสิ่งที่นำมาปั่นราคากันได้แบบสบายๆไปอีกนานสิครับ.......???????.......



    .
     
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    55555555เห็นมั้ยครับ ผมว่าการเขียนสั้นๆนี่มีประโยชน์นะครับ ทำให้เกิดความคิดหลากหลายครับ หุ หุ
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอ่อ...จะ save ไปหา"ถั่วตัด"แบบนี้ทานกันหรือครับ สงสัยวันตรุษจีนที่ผ่านมาทานจนติดใจภาพถั่วตัดไปแล้ว เหมือนสมัยที่ท้าวจตุคามรามเทพ ที่ดูปะหนึ่งขนมคุ๊กกี้ชิ้นโตกันไป 55555555...

    เสี้ยนที่จังหวัดตราดเขาบอก "ดูแล้วไม่ใช่" แต่ก่อนจะตอบ เขาออกตัวก่อนครับว่า "ดูไม่เป็น ดูไม่เก่ง"

    ผมก็เลยสงสัยว่า ตกลงที่เขา ใช้ตาดู และที่ใช้ปากตอบ นี่อย่างไหนจะเชื่อถือได้มากกว่ากัน

    แต่ที่ไม่สงสัยเลย ก็คือว่า เสี้ยนน่าจะทานขนมถั่วตัดมามาก เลยแยกไม่ออก ..หุ...หุ..

    นำภาพเบื้องหลังการทำพระถั่วตัด มาให้ชมกันครับ ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2010
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    กำหนดการสอบย่อย สอบใหญ่จะมาถึงช่วงอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป กว่าจะเสร็จก็ราวมีนาคมไปแล้ว วันนี้ได้คุยกับคุณหนุ่มถึงกิจกรรมที่บ้านปู่ที่ผ่านมา ก็ได้รับทราบว่า ไปจัดเดือนหน้าแทน ก็รู้สึกว่า"ท้อเทียม" ยังไม่"ท้อแท้" หายจากท้อเทียมก็ลุยกันต่อไปครับ..

    เรื่องการศึกษาพระ ก็เคยคุยกันว่า มันง่ายที่จะหาของดี ของแท้ให้คนในชมรม แต่ก็เท่ากับเพาะบ่มเชื้อความอ่อนแอเอาไว้ให้ไปในตัว ต่างจากสมัยที่ลุยหากันมาก ของแต่ละชิ้น ทำไมช่างหายากจัง เงินทุนก็มีจำกัด ต้องลองถูกลองผิดไปหมด ต่างจากปัจจุบันตรงที่ลองถูกอย่างเดียว หุ..หุ..หลงทานถั่วตัดมามากเลยในชีวิตนี้ โชคยังดีที่ไม่เป็นเบาหวาน ก็นึกเสียดายจริงๆที่คนในชมรมรักษ์พระวังหน้าอดทานขนมถั่วตัดอร่อยๆกันหลายคน..หุ...หุ...
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    [​IMG]
    น่าจะเป็นขนมถั่วตัด พิมพ์ A นะ เพราะบางเป็นพิศษ เสร็จพิธีก็ทำการเสกเข้าท้องไปแล้ว..หุ..หุ..อิ่มครับ..
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หญ้าไผ่น้ำ ชอบน้ำมาก ช่วงนี้เข้าหน้าร้อน ต้องรดน้ำมากเป็นพิเศษ ผมจะดูแลเอาไว้เข้าหน้าฝนจะส่งมอบให้คุณแด๋น คุณหนุ่ม และฝากพี่ใหญ่ด้วยครับ
     
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> psombat, sithiphong+</td></tr></tbody></table>
    สวัสดีครับพี่หนุ่ม ... ทานข้่าวด้วยกัน... เย็นนี้มีกุ้งอบวุ้นเส้น แกงเลียง ส้มตำ ยำไข่ต้ม :)

    อ่อ ... หายไอเร็วๆนะครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    อ่า ที่บ้านยังทานไม่หมดเลยครับ


    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับรุ่นเก่าๆ เป็นเรื่องที่เหนื่อยยากกันมามาก อย่างที่คุณเพชรว่าไว้ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้ และไม่มีใครเอาจากเราไปได้ก็คือ ประสบการณ์

    ส่วนคนรุ่นใหม่ในชมรมเอง ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากๆ ดูให้เยอะ รู้จักการแบ่ง การจัดสรรเวลา ก็จะศึกษากันได้ ที่สำคัญ ต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็ง อดทน มุ่งมั่น แล้วจะก้าวเดินต่อไปในเส้นทางนี้ได้

    มีเยอะครับที่ผ่านมา อย่างที่เคยเล่าไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ เรื่องของผู้ที่ชื่นชอบพระวังหน้า

    ตอนนี้ผมเองก็ปล่อยวางบ้างแล้วครับ สำหรับเรื่องพระวังหน้า ใครอยากศึกษา ก็ ศึกษากันต่อไป ใครไม่อยากจะศึกษา ก็ไม่เป็นไร

    เช่นเดียวกัน กับคำที่ว่า ใครกินใครอิ่ม ใครทำใครได้ เฉกเช่นเดียวกันครับ


    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า มีของกินมาล่อน้ำลายกัน

    น้ำลายไหลแล้ว เพราะยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย

    ทานเผื่อด้วยนะครับ

    ขอบคุณครับ
    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับโถแก้วที่จะ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ตามรูปครับ

    เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม.ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • to keaw -1.jpg
      to keaw -1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.8 KB
      เปิดดู:
      404
    • to keaw -2.jpg
      to keaw -2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.9 KB
      เปิดดู:
      493
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2010
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เอ่อ ต้องขอประทานโทษด้วยครับพี่สิทธิ(1-2) ...ก่อนหน้านี้รู้สึกผมจะประเมินโถแก้วต่ำไปนิด เพราะที่เห็นอยู่หน้าเรานี่มันน้องๆคลิสตัลเลยอ่ะ งดงามมาก ...ช่างเหมาะสมกับการบรรจุสิ่งอันเป็นมงคลยิ่งครับ โมทนาสาธุด้วยนะครับท่านเจ้าภาพทั้งหลาย :)
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แนะ 5 ท่าบริหาร "ยืดอายุข้อเข่า" ให้ญาติผู้ใหญ่
    Life & Family - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 กุมภาพันธ์ 2553 07:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>บ้านที่มีผู้สูงวัย หรือมีสมาชิกที่น้ำหนักตัวมากเป็นพิเศษ คงจะปฏิเสธอาการเจ็บปวดบริเวณข้อเข่าไปไม่ได้ เพราะเป็นอาการที่เกิดจากการแบกรับน้ำหนักตัว ประกอบกับข้อเข่าเริ่มมีอาการเสื่อมไปตามวัย

    ดังนั้น แนวทางการรักษาอาจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร ประมาณ 1-5 แสนบาทเป็นอย่างต่ำ แต่หากมีการดูแลรักษาข้อเข่าอย่างถูกวิธีตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานข้อเข่าไปได้อีกนาน ซึ่งบางคนสามารถใช้งานได้ดีจนถึงอายุ 80 ปี เลยทีเดียว

    กับการดูแลรักษาข้อเข่าอย่างถูกวิธีนั้น "นพ.สวัสดิ์ วิเศษสัมมาพันธ์" กลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ และ "นพ.นรฤทธิ์ ล้วนจำเริญ" พร้อมด้วยทีมนักกายภาพกลุ่มงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ได้แนะนำท่าบริหารที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานข้อเข่า ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือทำให้กับญาติผู้ใหญ่ของคุณได้ทุกวัน และทุกสถานที่ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมือให้ยุ่งยาก โดยมี 5 ท่าบริหารข้อเข่า ดังต่อไปนี้

    ท่าที่ 1 ชันเข่าเกร็งข้อ นอนราบไปกับพื้น หรือ เตียงนอน จากนั้นชันเข่าขึ้นมา และยกขาอีกข้างขึ้นมาอย่างช้าๆ ประมาณ 45 องศา เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา ยกค้างไว้ 10 วินาที หรือ นับ 1-10 โดยทำเช่นเดียวกันนี้ทีละข้าง ข้างละ 10 ครั้ง ทำซ้ำเป็นจำนวน 3 เซ็ต จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง และช่วยแบ่งเบาการรับน้ำหนักที่บริเวณ ข้อเข่าได้เป็นอย่างดี

    ท่าที่ 2 งอเข่าคร่อมหมอน นอนราบไปกับพื้น หรือ เตียงนอน จากนั้นเอาขาพาดคร่อมไปบนหมอน จากนั้น ดึงขางอเข่าทั้งสองข้างเข้ามา ให้เท้าลอยจากพื้น เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาค้างไว้ 10 วินาที หรือ นับ 1-10 แล้วเหยียดขาออกไป เกร็งกล้ามเนื้อขาค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำจำนวน 3 เซ็ต

    ท่าที่ 3 เกร็งข้อพาดหมอน นอนราบไปกับพื้น หรือ เตียงนอน จากนั้นเอาขาพาดไปกับหมอน และยกขาขึ้นมาข้างหนึ่งอย่างช้าๆ ประมาณ 45 องศา เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา ยกค้างไว้ 10 วินาที หรือ นับ 1-10 โดยทำเช่นเดียวกันนี้ทีละข้าง ข้างละ 10 ครั้ง ทำซ้ำเป็นจำนวน 3 เซ็ต การบริหารท่านี้ช่วยทำให้การไหลเวียนเลือดของขาดีขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อขามีความยืดหยุ่นมากขึ้น


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ท่าที่ 4 คว่ำหน้าเกร็งข้อ นอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้น หรือ เตียงนอน จากนั้นยกขาขึ้นมาข้างหนึ่งอย่างช้าๆ ประมาณ 90 องศา เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา ยกค้างไว้ 10 วินาที โดยทำเช่นเดียวกันนี้ทีละข้าง ข้างละ 10 ครั้ง ทำซ้ำเป็นจำนวน 3 เซ็ต ท่านี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่าด้านหลังมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น

    ท่าที่ 5 กระดกขา นั่งบนโต๊ะ หรือ เก้าอี้ที่สูงพอสมควร โดยให้เท้าสองข้างลอยจากพื้นประมาณประมาณ จากนั้นยกขาขึ้นมาทีข้างหนึ่งช้าๆ ประมาณ 30 องศา เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาเล็กน้อย ในขณะที่ยกขาค้างไว้ 10 วินาที ทำเช่นเดียวกันนี้ทีละข้าง ข้างละ 10 ครั้ง จำนวน 3 เซ็ต จะช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานและการไหลเวียนโลหิตบริเวณข้อเข่าดีขึ้น ช่วยแบ่งเบาการรับน้ำหนักที่บริเวณข้อเข่าได้

    ทั้ง 5 ท่าบริหารข้อเข่าข้างต้น สามารถปฏิบัติได้แบบสบาย ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน เมื่อปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่าแข็งแรงยิ่งขึ้นช่วยแบ่งเบาการรับน้ำหนักตัวของข้อเข่า เหมาะกับครอบครัวที่สมาชิกมีปัญหาข้อเข่า หรือผู้ที่ต้องการดูแลรักษาข้อเข่าให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    มาแล้วครับสำหรับโถแก้ว (เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุพระอรหันต์)

    ขอขอบคุณพี่สิทธิพร และ ท่านที่ทำโถแก้วให้

    สำหรับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ท่านใดที่มีความประสงค์ที่ต้องการ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ไปถวายตามวัดต่างๆ เพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาในวัดได้กราบสักการะบูชา หรือ บรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆทั่วประเทศ ให้ติดต่อเข้ามาหาผมครับ

    แต่การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ต้องพิจารณาดูด้วยว่า ทางวัดที่เราจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ไปแล้ว มีที่ประดิษฐานที่เหมาะสม ที่อันควรหรือไม่ ด้วยครับ


    โมทนาสาธุครับ

    หมายเหตุ ผมยังไม่ได้นับจำนวนว่ามีกี่โถ แต่น่าจะมี 30 โถ(เท่าที่ดูจากกล่องและถุงที่ใส่มา) ส่วนโถที่จะให้กับ น้องpsombat น่าจะมาในครั้งหน้าครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    มาแล้วครับสำหรับโถแก้ว (เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุพระอรหันต์)

    ขอขอบคุณพี่สิทธิพร และ ท่านที่ทำโถแก้วให้

    สำหรับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ท่านใดที่มีความประสงค์ที่ต้องการ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ไปถวายตามวัดต่างๆ เพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาในวัดได้กราบสักการะบูชา หรือ บรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆทั่วประเทศ ให้ติดต่อเข้ามาหาผมครับ

    แต่การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ต้องพิจารณาดูด้วยว่า ทางวัดที่เราจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ไปแล้ว มีที่ประดิษฐานที่เหมาะสม ที่อันควรหรือไม่ ด้วยครับ


    โมทนาสาธุครับ

    หมายเหตุ ผมยังไม่ได้นับจำนวนว่ามีกี่โถ แต่น่าจะมี 30 โถ(เท่าที่ดูจากกล่องและถุงที่ใส่มา) ส่วนโถที่จะให้กับ น้องpsombat น่าจะมาในครั้งหน้าครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ------------------------

    ขอแก้ไขเรื่องของจำนวนโถแก้วครับ

    พี่สิทธิพร ส่งโถแก้วมาให้จำนวน 50 โถ

    ส่วนพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) พี่จะอัญเชิญให้ในวันที่นัดพบกันครับ


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สำหรับโถแก้วที่จะ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ตามรูปครับ

    เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม.ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    จะบอกว่า สวยงามมาก

    วัตถุที่เราจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) บรรจุไว้ด้านใน ต้องเป็นสิ่งที่สวยงาม และมีคุณค่า

    คณะเราเอง ไม่ได้มีเงินมากมายที่จะทำผอบทองคำ ผอบเงิน ผอบนาค เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุ พระอรหันต์) ไว้ข้างในได้ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดกับเงินที่มี จึงต้องหาสิ่งที่สวยงามมาทดแทน แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก

    ประเด็นหลักก็คือ การทำนุบำรุงพระศาสนา ช่วยกันสืบต่ออายุพระศาสนาไปจนครบ 5,000 ปี ตามกำลังของเราเองครับ



    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า เจ้าจะเอาแต่สุข สนุกไฉน
    เจ้ามามือเปล่า แล้วเจ้า จะเอาอะไร เจ้าก็ไปมือเปล่าเหมือนเจ้ามา
    ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่ มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
    ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ

    "สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี"

    [​IMG]

    [​IMG]

    "บุญเราไม่เคยสร้าง...ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า"..!

    "ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด
    เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อน
    เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่ว ย
    มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สิน ในบุญบารมี
    ที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว... เมื่อทำบุญทำกุศลได้
    บารมี ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว..
    แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้..แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง"...!

    "จงจำไว้นะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่ วยเจ้าไม่ได้....
    ครั้นถึงเวลา...ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่..
    จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เล ยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า..."

    นี่คือคำเทศนา ของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรมรังษี
    ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิตหลังจากที่ท่านล่วงลับไป แล้วเมื่อ 100 กว่าปี
    อันเป็นปฐมเหตุที่ต้องสร้างความดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...