พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาชมพระสมเด็จกันต่อดีกว่า ไม่ใช่จิงเกิ้ลเบลแล้วครับ เป็นวัดพี่วัดน้องกัน...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ตามด้วยพิมพ์นี้...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a01.JPG
      a01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      76
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมไม่มีข้อสงสัยสำหรับพระองค์นี้ แต่ที่สงสัยคือ ทำไมไม่มี..DELL....ทำไมไม่มี..DELL.....
     
  6. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ผมว่าองค์นี้เณรครับ เพราะว่าพระของคุณน้องนู๋ต้องมี DELL:cool:
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ข่าวด่วน

    ขอขอบพระคุณพี่เอื้อยมากครับที่ได้ช่วยถวายเงิน(เหรียญ 10 บาท) แด่หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า(พระบูชาหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า) ที่สำคัญตอนที่ถวายนั้นได้นำบทพระคาถา........ด้วย

    ขอบคุณมากครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2010
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระพิมพ์สมเด็จที่หลวงพ่อฤาษีฯท่านสร้างไว้ที่วัดท่าซุง ช่วงที่ท่านจำวัดใหม่ๆราวปี พ.ศ.๒๕๑๑ นำมาฝากน้อง chantasakuldecha

    หนังสือ"สมบัติพ่อให้" เล่มปัจจุบันไม่ได้บันทึกไว้..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010231.JPG
      P1010231.JPG
      ขนาดไฟล์:
      276.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • P1010232.JPG
      P1010232.JPG
      ขนาดไฟล์:
      356.8 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1010246.JPG
      P1010246.JPG
      ขนาดไฟล์:
      282.4 KB
      เปิดดู:
      26
    • P1010247.JPG
      P1010247.JPG
      ขนาดไฟล์:
      319.8 KB
      เปิดดู:
      28
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับที่กรุณาตอบ

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พันวฤทธิ์ [​IMG]
    1. ขอตอบตามนี้ คำสอนหลวงพ่อจรัญ
    2. การเรียก(ขออภัยต้องใช้คำว่า"เชิญ"ถึงจะถูกต้องเพราะท่านทั้งหลายอยู่สูงกว่าเราและมีกำลังบุญมากกว่าเรามากมายนับอสงไขยไม่ถ้วนมากจนไม่สามารถประมาณได้)สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนั้น เผื่อสำหรับพวกที่หลงตายแล้วยืนงงๆ ต่อหน้าท่านพญายมราช พี่ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่า ท่านพญายมราชท่านใจดี ท่านจะซักถามถึงเรื่องบุญก่อนว่าวิญญาณเหล่านั้นเมื่อตอนเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้บ้าง วิญญาณบางดวง นึกไม่ออกว่าได้ทำบุญอะไรไว้ ท่านที่เราเรียกมาเป็นพยานบุญท่านรู้ ท่านก็จะรีบแสดงตัวมาช่วยเหลือเช่นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านก็จะบอกว่านายคนนี้ หรือนางคนนี้เคยทำบุญอย่างนั้นอย่างนี้ ฉันเป็นพยานได้เพราะเขาเคยเรียกฉันให้เป็นพยานบุญและให้โมทนาบุญให้ หรืออย่างเช่นผมมีความสงสัยในเรื่องของการทำบุญที่ไม่ถอดรองเท้าที่ท่าน อ.ณรงค์ วัดบ้านเพ ได้ย้ำนักย้ำหนาให้ระวัง เพราะกรรมอาจทำให้ขาขาดถึงข้อเท้าได้ พี่ใหญ่ก็เคยบอกว่า การถอดรองเท้าแล้วยืนบนพื้นดินเวลาใส่บาตรพระ ท่านพระแม่ธรณีก็เป็นพยานให้เราได้ เพราะไออุ่นของเราที่ฝ่าเท้าท่านพระแม่ธรณีท่านทราบดี ถึงบุญนี้เช่นกัน หรือแม้กระทั่งคนเจ็บใกล้จะตาย ก็ให้ใช้วิธีซื้อเครื่องสังฆทานให้คนเจ็บลูบคลำทีละชิ้นแล้วให้ญาติบอกทวนว่าสังฆทานที่จะทำนี้มีอะไรบ้าง แล้วให้คนเจ็บได้โมทนาบุญและยินดีในบุญนั้น เสร็จแล้วนำไปถวายแด่พระสงฆ์ ยิ่งถ้ามีพระประจำวันเกิดของผู้ป่วยในถังสังฆทานได้ก็ยิ่งดี อย่างน้อยไอมือที่ติดอยู่ในเครื่องสังฆทานนั้น ยังพอเป็นสิ่งที่แทนตัวของผู้ป่วยเองให้ได้รับบุญกุศลนั้นได้เช่นกัน อย่างคุณพ่อของผมที่ป่วยและเป็นอัมพาตก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน อย่างน้อยผู้ที่คอยช่วยเหลือให้ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างไปแล้วนั้นเช่นผู้ทรงฌาณขั้นสูง หรือพระสงฆ์กรรมฐานที่มีสมาบัติในระดับสูงจะได้ส่งให้ดวงวิญญาณได้เสวยผลบุญก่อนผลบาป จะได้เบามือหน่อย ไม่ต้องใช้บารมีตัวเองมาช่วยมากนัก เพราะหลังจากช่วยกันทีไรตนเองก็ต้องเจ็บป่วยทุกๆ ครั้งไป เช่นหลวงตามหาบัวเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาเป็นต้นครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอบคุณครับ

    ที่มา ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2010
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระพิมพ์สมเด็จองค์ปฐม เนื้อโลหะชุบทอง พิมพ์สีเหลี่ยม ที่คุณวิมาลี ศิรประภาชัยสร้างไว้ ลองเปรียบเทียบจะเห็นชัดว่า มีขนาดที่ไม่เท่ากัน รุ่นหนึ่งทันหลวงพ่อ อีกรุ่นไม่ทันหลวงพ่อ นำมาให้ชมเพื่อว่า อาจจะมีผู้นำ รุ่นหลัง มาให้บูชาแล้วอ้างว่า ทันหลวงพ่อ ยังไม่ต้องชั่งน้ำหนักก็จะทราบว่ามีน้ำหนักต่างกันแล้วครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010257.JPG
      P1010257.JPG
      ขนาดไฟล์:
      274.6 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1010258.JPG
      P1010258.JPG
      ขนาดไฟล์:
      272.2 KB
      เปิดดู:
      21
    • P1010259.JPG
      P1010259.JPG
      ขนาดไฟล์:
      162.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • P1010260.JPG
      P1010260.JPG
      ขนาดไฟล์:
      180 KB
      เปิดดู:
      25
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำสอนหลวงพ่อจรัญ


    วิธีแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล


    พระเทพสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม)


    วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี


    (เทศน์ให้พระสงฆ์ฟัง มิได้เทศน์ให้ฆราวาสฟัง)​


    โพสท์ในลานธรรมเสวนา กระทู้ที่ 003600 โดยคุณ : สยาม [ 25 ต.ค. 2544]

    ท่านเถรานุเถระและพระนวกะทั้งหลาย วันนี้ผมจะเรียนถวายวิธีแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล ท่านเป็นพระบวชใหม่ยังไม่เข้าใจ ขอให้ตั้งใจฟัง อย่าวอกแวก ทำใจให้สงบ ตั้งสติก่อน ผมทำได้ผลแล้วนะ จะสอนถวายอุทิศให้ตั้งสติหายใจยาว ๆ ตอนที่กรวดน้ำเสร็จแล้วอธิษฐานจิตไว้ก่อน อธิษฐานจิตหมายความว่า ตั้งสติสัมปชัญญะไว้ที่ลิ้นปี่ สำรวมกาย วาจา จิต ได้ตั้งมั่นแล้ว จึงขอแผ่เมตตาไว้ในใจสักครู่หนึ่ง แล้วก็ขออุทิศให้บิดามารดาของเราว่าเราได้บำเพ็ญกุศล ท่านจะได้บุญได้ผลแน่ ๆ เดี๋ยวนี้ด้วย ผมเรียนถวายนะ มิฉะนั้นผมจะอุทิศไปยุโรปได้อย่างไร ท่านทั้งหลายไม่สนใจไม่เป็นไรนะ ผมทำของผมได้ผลเองโดยแผ่เมตตาก่อน บางทีสอนกรรมฐานกัน อุทิศกันแล้วทำอะไรก็ไม่ได้ผล กรรมฐานก็ไม่ได้ ประโยชน์อานิสงส์ก็ยังไม่ได้ แผ่ไม่ออกนะ ไม่ได้ผล เป็นบาปเปล่า ๆ

    หายใจยาว ๆ ตั้งสติก่อน หายใจลึก ๆ ยาว ๆ แล้วก็แผ่เมตตาก่อน มีเมตตาดีแล้ว ได้กุศลแล้ว เขาก็อุทิศเลย อโหสิกรรม ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่พยาบาทใครอีกต่อไป และเราจะขออุทิศให้ใคร ญาติบุพเพสันนิวาสจะได้ก่อน ญาติเมื่อชาติก่อนจะได้มารับ เราก็มิทราบว่าใครเป็นพ่อแม่ในชาติอดีต ใครเป็นพี่น้องของเราเราก็ไม่ทราบ แต่แล้วเราจะได้ทราบตอนอุทิศส่วนกุศลนี้ไปให้ เหมือนโทรศัพท์ไป เขาจะได้รับหรือไม่ เราจะรู้ได้ทันที

    ขณะที่ท่านสวดมนต์อุทิศให้ว่า ยาเทวตา...., อิมินา.... เป็นต้น ท่านจะรู้นะว่าย้อนกลับมา เหมือนเราโทรศัพท์ไป อ๋อ มีคนรับ เขาจะย้อนตอบเราว่าฮัลโหล เป็นต้นนี่ก็เช่นเดียวกัน เราจะปลื้มปีติทันทีนะ เราจะตื้นตันขึ้นมาเลย ถ้าท่านมีสมาธิ น้ำตาท่าจะร่วงนะ ขนพองสยองเกล้าเป็นปีติเบื้องต้นถ้าท่านมาสวดมนต์กันส่งเดช ไม่เอาเหนือเอาใต้ ท่านไม่อุทิศ ท่านจะไม่รู้เลยนะ ขอฝากท่านนวกะไว้ด้วย วันนี้ท่านทำบุญอะไร สร้างความดีอะไรบ้าง ดูหนังสือ ท่องจำบทอะไรได้บ้าง ก็อุทิศได้เมืองฝรั่งเขาไม่มีการทำบุญ เราไปทอดกฐิน ผ้าป่า ถวายสังฆทาน เขาทำไม่เป็น แต่ทำไมเขาเป็นเศรษฐี ทำไมเขามีความเจริญทางด้านเทคโนโลยี ทำไมถึงเจริญด้วยอารยธรรมของเขา เพราะเขามีบุญวาสนา เขาตั้งใจทำ มีกิจกรรมในชีวิตของเขา

    จะยกตัวอย่าง วันนี้เขาค้าขายได้เป็นพันเป็นหมื่นด้วยสุจริตธรรม เขาก็เอาอันนั้นแหละอุทิศไป วันนี้เขาปลูกต้นไม้ได้มากมาย เขาก็เอาสิ่งนี้อุทิศไปว่าได้สร้างความดีในวันนี้ ไม่ได้อยู่ว่างแต่ประการใด เขาก็ได้บุญ ไม่จำเป็นต้องเอาสตางค์มาถวายพระเหมือนเมืองไทย ถวายสังฆทานกันไม่พัก ถวายโน่นถวายนี่แต่ใจเป็นบาป อุทิศไม่ออก บอกไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น จะไม่ได้อะไรเลยนะเมืองไทยนี่ผมพูดมานาน ส่วนใหญ่ปากเป็นบุญใจเป็นบาปทั้งนั้น รับศีลแล้วก็ไปดื่มเหล้า รับศีลแล้วก็ไปเล่นการพนัน นี่ ใจไม่ยอมรับ ดื้อด้าน เพราะไม่ได้ปฏิบัติธรรมฝรั่งเขามีธรรมะ ผมไปยุโรปมา ๕ ประเทศ เขามาถามธรรมะกันมาก แต่คนไทยมาขอบุญช่วย มาวัดแต่ละรายมีแต่ให้ช่วยทั้งนั้น แต่เขาไม่มีโอกาสจะช่วยตัวเองเลยนะ ขอฝากท่านทั้งหลายไว้ด้วย ที่ผมไปประสบมา

    ที่ผมแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล ไปเข้าบ้านลูกสาวญวนที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ทำอย่างนี้นะ เวลาสวดมนต์ อิติปิโส... ยาเทวตา... ตั้งใจสวดด้วยภาษาบาลีเช่นนี้ ที่หยุดเงียบไปน่ะ ผมสำรวมจิตตั้งสติแผ่เมตตา จิตสงบดีแล้วจึงอุทิศไปบางองค์ไม่เอา เอามือลง ไม่อธิษฐาน ท่านจะไม่ได้อะไร แล้วสวดกันก็ได้ด้วย ที่ท่องจำโคลงให้ได้น่ะเพื่อให้คล่องปาก ว่าให้คล่องปากแล้วก็จะคล่องใจ คล่องใจแล้วถึงจะเป็นสมาธิ เป็นสมาธิแล้วถึงจะอุทิศได้ ไม่อย่างนั้นไม่ได้นะเอาตำรามาดูกันก็ไม่ได้ผล แต่ดูตำราเพื่อให้ถูกวรรคตอน และให้คล่องปาก แล้วจะได้คล่องใจ เป็นสมาธิ ถึงจะมีกำลังส่งอุทิศ ไม่อย่างนั้นไม่มีกำลังส่งเลยนะท่านบัณฑิตทั้งหลาย ที่ท่านมาบวชกันสนใจเอาไปเลยครับ ผมจะถวาย ไม่สนใจเอาของผมทิ้งไว้ ท่านจะไม่ได้ผลอะไรเลย เสียเวลาการมาก ผมคิดเสมอว่า หนึ่งนาทีเท่ากับหนึ่งตำลึงทอง ชีวิตของท่านมีค่าไหม ที่ผมพูดมานานท่านจะตีความหมายไม่ออกชีวิตท่านมีค่ามากยิ่งกว่าเพชรนิลจินดา ท่านจะรู้ว่าเวลามีประโยชน์ บวชเก่าบวชใหม่ถ้าไม่ได้ทำประโยชน์ของตนก็ไร้ประโยชน์พวกฝรั่งคาทอลิก ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าพุทธ เขานั่งกรรมฐานเยอะและได้ผลนะ ผมไปเห็นอารยธรรมของประเทศต่าง ๆ เขาเจริญจริง ๆ เขาสะอาดจริง ๆ เขาไม่มีการถวายสังฆทาน กฐินผ้าป่าเขาก็ไม่มี คนไทยทัวร์กฐิน ทัวร์ผ้าป่าไปตามสภาพ มากันเป็นพัน มาทานข้าวแล้วยังด่าเราเสียอีก นี่แหละปากเป็นบุญ ใจเป็นบาป

    การอุทิศส่วนกุศล นี่สำคัญนะ แต่ต้อง แผ่เมตตา ก่อน แผ่เมตตาให้มีสติก่อน แผ่เมตตาให้มีความรู้ว่าเราบริสุทธิ์ ใจมีเมตตาไหม และอุทิศเลย มันคนละขั้นตอนกันนะแผ่เมตตากับอุทิศมันต่างกัน ทำใจให้เป็นเมตตาบริสุทธิ์ก่อน ไม่อิจฉา ไม่ริษยา ไม่ผูกพยาบาทใครไว้ในใจ ทำให้แจ่มใส ทำใจให้สบาย คือเมตตา แล้วเราจะอุทิศให้ใครก็บอกกันไป มันจะมีพลังสูง สามารถจะอุทิศให้คุณพ่อคุณแม่ของเรากำลังป่วยไข้ ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ เช่น วีโก้ บรูน ชาวนอรเวย์ ที่เคยมาบวชที่วัดนี้ เป็นต้น

    วันนี้ผมจะถวายความรู้เกี่ยวกับการอุทิศส่วนกุศล โปรดฟังต่อไป
    เรามาสวดมนต์ไหว้พระกันว่า โยโสภะคะวา....ใจเป็นบุญไหม สวากขาโต... สุปฏิปันโน...ใจเป็นบุญไหม ท่านจะฟุ้งซ่านไปทางไหน สำรวมอินทรีย์ หน้าที่คอยระวัง เอาของจริงไปใช้ อย่าเอาของปลอมมาใช้เลย ท่าจะเอาบุญหรือเอาบาป คืนหนึ่งกับวันหนึ่ง ท่านคิดนอกออกในอย่างไร จะรู้ได้ด้วยตัวของท่านเองนะ ท่านทำประโยชน์อะไรในวันนี้ เอามาตีความ สำรวมตั้งสติไว้ก่อน ว่าขาดทุนหรือได้กำไรชีวิต และจะไปเรียงสถิติในจิตใจเรียกว่าเมตตา แปลว่าระลึกก่อน เมตตาแปลว่าปรารถนาดีกับตนเอง สงสารตัวเองที่ได้สร้างความดีหรือความชั่วเช่นนี้ วันนี้เราดูหนังสือได้อะไรบ้าง ไม่จำเป็นต้องเอาสตางค์ไปทำบุญเลย วันนี้เราอ่านหนังสือ ท่องนวโกวาทได้ วันนี้ดูธรรมะได้ วันนี้ท่องสวดมนต์ไหว้พระได้ นั่นแหละท่านจะตื้นตัน ท่านจะปีติ ท่านจะยินดี ที่อ่านหนังสือ ท่องบ่น ท่องจำนวโกวาทได้ นั่นแหละเป็นบุญ เป็นคุณประโยชน์ของท่านเอง ในเมื่อเป็นคุณประโยชน์ของท่านแล้ว ท่านจะได้อะไรต่อไป เกิดปีติตอบแทน ปลื้มใจ ดีใจ อันถูกต้องเป็นมงคล มงคลเรียกว่า การปลื้มปีติยินดีในธรรม ได้ผลสมคาดปรารถนา เป็นการสร้างกุศลให้แก่ชีวิตของตนใช่หรือไม่
    ท่านทั้งหลายอย่าสร้างอกุศลกรรม สร้างมงคลไว้เถอะ อย่าสร้างอัปมงคลทุกวัน ทำอะไรไม่เชื่อฟัง นั่นแหละเป็นอัปมงคล เป็นอกุศลกรรม เอาดีไม่ได้หรอกครับ ขอเรียนถวายว่า ไม่จำเป็นต้องมีสตางค์เอาไปถวายพระ ไปถวายโน่น ถวายนี่ แล้วก็เป็นบุญ ไม่จริงแน่ ๆ บุญต้องสะสมไว้ในจิตใจของท่าน นะครับ พระนวกะที่รักทั้งหลาย โปรดคิดความหมายและเครื่องหมายแห่งความดีนี้ก่อน ความดีเป็นเครื่องหมายของคนดี ความชั่วเป็นเครื่องหมายของคนชั่ว เครื่องหมายของคนดี ดูลักษณะอย่างการบวชนี้เป็นต้น เราชายชาติเชื้อดีครั้งเดียวนะครับคือบวช เราจะไม่มีโอกาสทำดีเชียวหรือ ท่านออกแขกไม่ดีแล้ว ท่านจะเล่นตลอดชีพเลวร้าย ในยามแก่ก็จะแย่ซิ จะเป็นอัมพาต นอนร้องครวญครางในภายหลังนะ และอกุศลจะย้อน ทำให้สร้างความดีไม่ได้ ท่านจะไม่ได้อะไรเลย นอกเหนือจากไม่ได้แล้วต้องขาดทุนด้วย เสียหายด้วย ถ้าเสมอตัวไปก็ดี แต่เสมอตัวมีทางขาดทุน ถ้าได้กำไรชีวิตแล้วกำไรก็จะได้งาม ท่านมีความประสงค์สิ่งใดท่านจะได้ผลนี้เป็นประโยชน์มาก

    ท่านนวกะ วันหนึ่งและคืนหนึ่ง ท่านได้สะสมบุญ ดีใจในความสุข ที่ท่านได้ท่องหนังสือได้ ท่องสวดมนต์ไหว้พระได้ ดีใจไหม ปลื้มปีติยินดี จิตใจของท่านก็เบิกบานได้ท่องหนังสือ ได้พิจารณาปัจจัย ๔ ได้ท่องสวดมนต์ไหว้พระ ทำวัตรเช้าเย็น ได้หมดแล้ว นั่นแหละบุญ ปลื้มปีติยินดีในจิตใจของท่าน ถ้าท่านจะคิดว่าบวชเดี๋ยวเดียวก็สึกไป อย่าคิดอย่างนั้นนะท่านจะขาดทุนนะ คิดแล้วขาดทุน ท่านจะเสียใจในขณะนั้น ถ้าท่านมีสติดี ท่านจะรู้ได้ว่า ท่านขาดทุนหรือได้กำไร ชีวิตนี้คืออะไร ท่านจะตีความหมายของท่านได้ ไหน ๆ มาบวชกันไกลแสนไกลแล้ว ให้มันได้อะไรไปบ้าง ฟังอุปัชฌาย์พูดบ้าง อย่าเอาแต่อารมณ์ อย่าเอาแต่สิ่งที่ไร้สาระ อุปัชฌาย์ชอบอะไรหรือ ชอบเอาของดีให้ อย่าเอาของชั่วมาปนของดี ของดีจะเสีย ท่านเป็นบัณฑิตแล้ว มีปริญญากันทั้งนั้น และเป็นผู้มีอายุไม่ใช่เด็กแล้ว เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกรูป ผู้ใหญ่คือผู้มีคุณธรรมแล้ว คุณธรรมของท่านผู้ใหญ่จะเต็มไปด้วยเมตตา เต็มไปด้วยความปรารถนาดี และสงสารสรรพสัตว์ สงสารตัวเอง มีมุทิตาจิต ส่งกระแสจิตด้วยความดีใจ และวางอุเบกขาบางประการที่ไม่ต้องประสงค์ วางตนให้เป็นกลาง ไม่ปล่อยอารมณ์ไปเข้าข้างโน้น เข้าข้างนี้ และไม่เข้าข้างตัวเองด้วย เรียกว่า อุเบกขาของท่านผู้ใหญ่ เราก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกรูปแล้วไม่ใช่เด็ก มีคุณธรรมสูงทุกองค์ มีสมบัติมนุษย์ทุกองค์ และมีคุณค่าทุกองค์ ค่าของชีวิติมนุษย์ มันตีค่าราคาไม่ได้เลย มันสูงที่สุด ชีวิตมีค่าอย่างนี้ ท่านจะคิดว่าเวลาน่ะมีประโยชน์เหลือเกินนะครับ ท่านโปรดตีความหมาย ไม่ใช่มาบวชกันเล่นสนุกสนาน เราเป็นชายชาติเชื้ออย่าเหลือวิสัย ได้ชีวิตครั้งแรกคือการบวช ท่านจะอวดเขาได้ไหม นี่ชีวิตครั้งเดียวนะ ไม่ใช่ผลุบเข้าผลุบออกเหมือนอย่างเก่า บวชแล้วบวชอีก เหมือนบวดกล้วย บวดฟักทอง ใช้ไม่ได้

    การบวชเป็นชีวิตครั้งแรกของลูกผู้ชาย ที่เรามาชุบตัวเอง เหมือนเงาะป่าโดดลงไปในบ่อทองฉะนั้น และเราก็เอาทองเกลือกกลั้วในจิตใจ เงาะป่าจะได้ดีเพราะพูดไม่เป็น มันเป็นใบ้ มันสวนเงาะ

    กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรมาก คือ เงาะป่า

    ต่อไปจะถอดเงาะเป็นพระสังข์ทองนะ รูปตัวเป็นทองหล่อหลอมด้วยจิตใจ มีประกายด้วยธรรมะ แสงระยิบระยับทั่วโลก จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองไม่เหมือนหกเขยหน้าโง่ ตาก็โง่ หูก็โง่ จมูกก็โง่ ปากก็โง่อีก ทวารหกโง่หมด เรียกว่าหกเขย สู้เงาะป่าผู้เดียวไม่ได้เลย รจนายาใจ อยู่หลายไร่ปลายนา ยังมีความสุขความเจริญ เป็นมหามงคลชีวิต อยู่ตรงนี้นะ แต่ทุกคนไม่เข้าใจที่มาบวชกันนี้ ท่านเก็บหน่วยกิตไว้เถอะ ทีละหยดทีละหยาดเป็นบาปหรือเป็นบุญ เป็นคุณหรือเป็นประโยชน์ ประโยชน์จะถึงได้กับท่านตรงไหน ท่านรู้ตัวของท่านเองนะครับ ผมไม่ไปรู้ของท่านหรอก ไม่อยากรู้ของใคร อยากรู้ของตัวเองว่าทำอะไรบ้าง มีกำไรชีวิตอะไรบ้างในวันนี้ ทำประโยชน์ต่อวัดวาอารามตรงไหน กิจวัตรอย่างไร เรารู้ตัวของเรา แจ้งแก่ใจทุกรูปทุกนามแล้ว ไม่มีใครตีตราให้ท่าน ท่านต้องตีตราของท่านเองนะ เรือจะออกระวัง เรือจะจอดระวัง แต่วิ่งเสียแล้วมันก็ไม่เป็นไร เหมือนเครื่องบิน เวลาจะขึ้นจะลงต้องรัดเข็มขัด การบวชนี้ก็เช่นเดียวกัน จะบวชจะสึกต้องดูให้ดีนะ คิดให้ยาว จะอยู่แค่หัวบันไดหรือประการใด โปรดท่องคำคมนี้ไว้ จะเห็นสั้นดีกว่ายาว หรือเห็นยาวดีกว่าสั้น ต้องคิดแล้วคิดอีกนะ ใน โยนิโสมนสิการ นี้ ผมยังไม่เคยเห็นใครแผ่เมตตาได้ผลเป็นตัวหนังสือเลยนะ ลมหายใจเข้าออกนี่เป็นตัวหนังสือได้ จะสอนครูกรรมฐานก็ยังทำกันไม่ได้ ยืนหนอ ๕ ครั้งก็ทำกันไม่ได้ ยังเคลือบแคลงสงสัยว่าตรงไหนเป็นอะไร ขอเรียนถวายว่า การแผ่เมตตานี่สำคัญมาก

    เวลาเราสวดมนต์ตั้งแต่ โยโสภควา... อรหัง… โปรดตั้งใจครับ เพ่งกระแสจิตไปที่พระปฏิมากรรม แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยจิตเป็นสมาธิ แล้วรำลึกถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยสมาธิ ข้าพเจ้าประพฤติธรรม นึกถึงพระสังฆะ แปลว่า หมู่สงฆ์อยู่ด้วยความสามัคคี เรียกอาวุโส ภันเต มีการเคารพพระอาวุโส มีการเคารพนบนอบพระธรรมคำสอนอันนี้เป็นประจำข้าพเจ้าขอไหว้พระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระธรรมคำสอน พร้อมด้วยพระสังฆะแห่งอริยสงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทั่วหน้ากัน แล้วน้อมจิตเป็นดวงหทัย แก้วใสสะอาดหมดจดในการสวดมนต์ภาวนา

    พุทโธ สุสุทฺโธ
    รูปํ อนิจฺจํ เวทนา อนิจฺจา สญฺญา อนิจฺจา...
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณในร่างกาย ไม่เที่ยงแท้ ไม่แน่นอน และเราก็พิจารณาในการสวดไปด้วย จะได้บุญจะได้คุณประโยชน์และเราก็รวบรวมบุญขณะสวดมนต์ในวันนี้ เอามาเป็นพลวปัจจัย เวลาสุดท้ายก็มี
    ยาเทวตา...
    อิมินา.... เป็นต้น

     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    และเราก็ว่าไปด้วยเสียงดังฟังชัด และน้อมนึกสรุปจบลงก็นั่งสมาธิ สำรวมจิตภาวนา หลับเนตรร่ายเวทย์พระคาถา ภาวนาอุทิศ เรียกว่า แผ่เมตตา หายใจยาว ๆ ตั้งกัลยาณจิตไว้ที่ลิ้นปี่ ไม่ใช่พูดส่งเดช จำนะ ที่ลิ้นปี่เป็นการแผ่เมตตา จะอุทิศก็ยกจากลิ้นปี่สู่หน้าผาก เรียกว่า อุณาโลมา ปจชายเต
    นะอยู่หัว สามตัวอย่าละ นะอยู่ที่ไหน ตามเอามา แล้วก็อุทิศทันที จึงถึงตามที่ปรารถนา ไม่ว่าเป็นโยมพ่อ โยมแม่ จะให้น้องเรียนหนังสือ จะให้พี่เรียนหนังสือ หรือจะให้บุตรธิดาของตน จะได้ผลขึ้นมาทันที
    ลูกว่านอนสอนยาก ลูกติดยาเสพติด ถ้าทำถูกวิธีแล้ว มันจะหันเหเร่มาทางดีได้ พ่อแม่กินเหล้าเมายา เล่นการพนัน ลูกจะไปสอนพ่อแม่ไม่ได้ มีทางเดียวคือ เจริญพระกรรมฐาน สำรวมจิต แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล
    นะอยู่หัว สามตัวอย่าละ นะอยู่ที่ไหนตามเอามาให้ได้ หมายความว่ากระไร ถ้าท่านทำกรรมฐาน ท่านจะทายออก นะตัวนี้สำคัญ
    นะ มีทั้งเมตตามหานิยม
    นะ แปลว่า การกระทำอกุศลให้เป็นกุศล
    นะ แปลว่า ทำศัตรูให้เป็นมิตร สร้างชีวิตในธรรม
    แล้วก็อุทิศส่วนกุศลไป ท่านทำได้หรือยัง ท่านเถรานุเถระท่านทำได้ไหม อย่าทำด้วยอารมณ์ อย่าทำด้วยความผูกพยาบาท อาฆาตต่อกัน ละเวรละกรรมเสียบ้าง แล้วจิตจะโปร่งใส ใจก็จะสะอาด แล้วก็อุทิศไป
    จิตมันไม่ติดไฟแดง จิตไม่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จิตมันทะลุฝาผนังได้ ท่านเข้าใจคำนี้หรือยัง จิตมันตรงที่หมาย จิตไม่มีตัวตน จิตคิดอ่านอารมณ์ มีจิตโปร่ง ท่านจะทำอะไรก็โล่งใจ สบายอกสบายใจ นะอยู่หัว สามตัวอย่าละ เอานะไปอุทิศให้ได้
    ถ้าท่านมีครอบครัวแล้วโปรดตั้งปฏิญาณในใจว่า ให้บุตรธิดาของเรารวยสวยเก่ง เร่งเป็นดอกเตอร์ อย่างนี้ซิถึงจะถูกวิธีของผม
    ท่านจะสะสมว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง เช่น วันนี้ข้าพเจ้าท่องหนังสือได้ ท่านจะดีใจไหม วันนี้ปลูกมะม่วงไปได้ร้อยต้น ปลูกกล้วยไปได้ร้อยต้น ดีใจมาก นั้นแหละอุทิศได้ ไม่ต้องนำสตางค์ไปถวายวัดโน้นวัดนี้หรอกนะ ถวายตัวเอง ทำความดีให้กับตัวเอง และเอาความดีแพร่ขยายไปถึงจะถูกต้อง
    ขอฝากพระนวกะไว้ด้วย ท่านต้องการอะไร เตรียมการ ณ บัดนี้ เข้าพรรษามา ๑ วันพระแล้ว จะเรียนหนังสือหรือไม่เรียน ท่านคิดเอาเองนะ มีไหมที่ผมให้ความชั่วท่าน มีแต่ให้ระเบียบวินัย ทำอะไรให้เรียบร้อย ทำอะไรให้คล้อยตาม ปฏิบัติตาม จะสวยน่ารัก ขอเรียนถวายไว้ ผมก็คำนวณให้ท่าน แผ่เมตตาให้ท่านทุกวัน ผู้รู้นะว่าท่านบาปหรือบุญ แต่ไม่พูด ใครอยากพูดก็พูดไป ไม่กล่าวขวัญกันอีกต่อไป
    ท่านสรุปกำไรชีวิตแต่ละวันเวลาของท่านไว้ บวกลบคูณหารตอนออกพรรษา ท่านจะได้กำไรหรือขาดทุน ท่านจะได้บุญมากหรือบาปมาก ท่านจะรู้เอง ไม่มีใครไปบอกท่านหรอก ท่านเป็นพระภิกษุผู้ประเสริฐแล้ว เป็นอุดมเพศสูงสุดแล้ว ไม่ต้องไปนับคะแนนกันว่าสอบได้หรือสอบตก ท่านตรองดูเองเถอะครับ ว่า ทำอะไรเป็นประโยชน์แก่วัด อำนวยประโยชน์แก่ประชาชน สร้างกุศลอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ญาติโยมบ้าง อย่าเข้าข้างตัวเองนะครับ ท่านจะเสียศักดิ์ศรี
    ท่านปฏิบัติกรรมฐานอย่างที่ผมเรียนถวายได้หรือไม่ รู้กฎแห่งกรรมจริงไหม รำลึกชาติของชีวิตได้ไหม และ แก้ปัญหาได้ไหม มันเกิดขึ้นเฉพาะหน้า มันมาจากเหตุผลประการใด ท่านทราบหรือไม่ ท่านรู้อย่างนี้จะเหลือกินเหลือใช้นะ เป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายแล้ว วันนี้เป็นวันธรรมสวนะ เป็นวันพระ เป็นวันที่เราจะบำเพ็ญกุศลกันให้มาก และเป็นวันที่เขาหยุดเมืองสวรรค์นรก ขอให้ท่านนวกะโปรดแผ่เมตตาอุทิศให้ บรรดาญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว สู่สัมปรายภพ มาปรารภสามัคคี เรียกว่า สามัคคีธรรมนำสันติสุข เป็นการปรองดองเป็นญาติพี่น้องท้องเดียวกัน ท่านจะเกิดประโยชน์เอง
    อย่าลืม กฎแห่งกรรม นะครับ ผมช่วยท่านไม่ได้หรอก มีฟ้าเหนือฟ้า อะไรจะเหนือกฎแห่งกรรมนะครับ ต่อหน้าทำอย่างไร ลับหลังให้ทำอย่างนั้น ทำอะไรให้มีประโยชน์ต่อส่วนรวม รับรองได้เลยว่า ท่านจะได้อานิสงส์เป็นสังฆทาน เป็นสาธารณประโยชน์ร่วมกัน ได้อานิสงส์มาก ท่านไปขุดน้ำกินเสียบ้านเดียว ท่านจะได้อะไรหรือ ขุดบ่อน้ำสาธารณะกินได้ทุกบ้าน ใครมาก็กิน ใครมาก็ใช้ ท่านได้บุญมาก มีถนนส่วนบุคคล ท่านเดินได้เฉพาะบ้านเดียว ไม่สาธารณะแก่คนทั่วไป ท่านจะได้บุญน้อยมาก มีอานิสงส์น้อยมาก นี่เปรียบเทียบถวาย
    เรื่องจริงเป็นอย่างนั้น ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อกัน อย่าหวงกัน จะได้ช่วยกันต่อไป เราจะได้มีสมัครพรรคพวกมากขึ้น ได้พี่น้องมากขึ้น ทำอะไรถึงจะสำเร็จ ได้บรรยายให้ท่านฟังว่าแผ่ส่วนกุศลทำอย่างไร อุทิศตรงไหน ทำใจตรงนั้น และวางจิตไว้ตรงไหน ถึงจะได้ อย่าลืมนะ ที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ สำรวมเวลาสวดมนต์นั้นน่ะได้บุญแล้ว ไม่ต้องเอาสตางค์ไปถวายองค์โน้น องค์นี้หรอก แล้วสำรวมจิตส่งกระแสจิตที่ หน้าผาก อุทิศส่วนกุศล
    เวลาแผ่เมตตาเอาไว้ที่ ลิ้นปี่ สำรวมอินทรีย์ หน้าที่คอยระวัง นะ อุ อุอะมะ อุอะมะ อะอะอุ นะอยู่ตรงไหน เอามาไว้ตรงไหน จับให้ได้แล้วอุทิศไป
    เวลาจะอุทิศส่วนกุศลตรงไหน ทำอย่างไร ท่านจะได้นะครับ อย่าทำโดยคลุมเครือ เดาสุ่มไป ท่านจะไม่ได้ผล ทำอะไรไม่มีหลักฐานะ ทำอะไรไม่มีผลงาน ไหนเลยล่ะจะเป็นกิจกรรมของชีวิตได้ ผมทำมา ๔๐ กว่าปีแล้ว ทำได้ผล ขอถวายความรู้เป็นบุญ เป็นกุศล ให้ท่านได้บุญอย่างประเสริฐไป จะได้อุทิศให้โยมเขา เขาเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าไม่เหลือวิสัยมันก็หายได้
    วันนี้ก็ขอจบรายการที่ได้อุตส่าห์ถวายความรู้ท่าน โดยที่ผมก็อาพาธมากมาย แต่ก็จะไม่ให้ขาดการถวายความรู้ท่าน เพื่อไม่ให้เสียเวลาที่ท่านมาบวช ก็ได้โปรดเห็นใจ อย่าลืมว่า ความเรียบร้อย ต้องคล้อยตามนะ ถ้าอย่างนั้นไม่เรียบร้อยเลย
    ขอความสุขสวัสดีจงมีงอกงามไพบูลย์แก่ท่านพระเถระนวกะ ขอท่านเจริญรุ่งเรือง เจริญธรรมสัมมาปฏิบัติในพระกรรมฐาน งอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนา มีความสุขโดยทั่วหน้ากัน และจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ นึกคิดสิ่งหนึ่งประการใด ให้สมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยกันทุกรูป ทุกนาม ณ โอกาสบัดนี้เทอญ
    จากคุณ : สยาม [ 25 ต.ค. 2544]

    ǔ?ա?蠁??ҡŐ͘?Ԉʨǹ?؈Š˅ǧ?荨Ñ? ?Ե??
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    คราวนี้เป็นพระสมเด็จองค์ปฐม เนื้อผง แจกเป็นที่ระลึกงาน ๑๐๐ วันหลวงพ่อฤาษี ไม่ทันหลวงพ่อ แต่ใช้มวลสารหลายชนิด ทั้งน้ำมันชาตรี ผงพระแตกหัก มวลสารต่างๆ และที่สำคัญมีเส้นเกษาของหลวงพ่อมากกว่ารุ่นไหนๆ ลองเสาะหาเอานะครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010243.JPG
      P1010243.JPG
      ขนาดไฟล์:
      300.8 KB
      เปิดดู:
      22
    • P1010244.JPG
      P1010244.JPG
      ขนาดไฟล์:
      300.8 KB
      เปิดดู:
      21
    • P1010245.JPG
      P1010245.JPG
      ขนาดไฟล์:
      11.1 KB
      เปิดดู:
      22
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ
    .
     
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    55555 ท่านนิวนี่ทราบจริงครับ หุ หุ
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    น้อง chantasakuldecha วันนี้รับนิมนต์หลวงปู่แล้ว เป็นยังไงมั่งครับ ..หุ..หุ...
     
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=540 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#000000> </TD><TD align=middle bgColor=#000000 colSpan=7>New York Spot Price
    </TD><TD></TD><TD align=right bgColor=#000000>[​IMG]</TD></TR><TR bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000> </TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=7>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]MARKET IS CLOSED
    (Will open in 14 hrs. 45 mins.)
    [/FONT]</TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=2> </TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000> </TD><TD bgColor=#cccc99>Metals
    </TD><TD bgColor=#cccc99>Date
    </TD><TD bgColor=#cccc99>Time
    (EST)
    </TD><TD bgColor=#cccc99>Bid
    </TD><TD bgColor=#cccc99>Ask
    </TD><TD bgColor=#cccc99 colSpan=2>Change
    </TD><TD bgColor=#cccc99>Low
    </TD><TD bgColor=#cccc99>High
    </TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD noWrap bgColor=#000000>[​IMG]</TD><TD align=left> GOLD
    </TD><TD>02/01/2010
    </TD><TD>17:15
    </TD><TD>1105.60
    </TD><TD>1106.60
    </TD><TD>+25.40
    </TD><TD>+2.35%
    </TD><TD>1084.00
    </TD><TD>1108.10
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    นำมาฝากท่านนิวครับ มันคงยังเป็นไปตามทฤษฎี อยู่ครับปรับลงมาขายมากเกินไปก้เด้งก่อน ตอนนี้เป้าไม่เกิน 1132ครับถ้าสูงกว่านั้นจะเป็นสัญญานซื้อรอบใหม่ถ้าไม่ผ่าน ก็เตรียมตัว1000+- ครับ หุ หุ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ยาย้อมผม” อันตราย! เตือนวัยรุ่นเห่อแฟชั่นแพ้
    Quality of Life - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กุมภาพันธ์ 2553 19:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยปี52 ตรวจพบผลิตภัณฑ์ย้อมผมไม่เข้ามาตรฐาน ร้อยละ 18 เตือนวัยรุ่นเห่อแฟชั่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ

    นายแพทย์ จักรธรรม ธรรมศักดิ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สำหรับย้อมผมเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบเปลี่ยนสีผมเป็นแฟชั่น ซึ่งหากขาดความระมัดระวังในการใช้อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจะมี 3 ประเภท คือ ชนิดใช้ย้อมชั่วคราว ชนิดกึ่งถาวร และชนิดถาวร ประเภทที่คนไทยนิยมใช้ย้อมมากที่สุด คือ ชนิดถาวร เนื่องจากเห็นผลเร็ว สีติดทนนาน 4-6 สัปดาห์ไม่ต้อง ย้อมบ่อยและให้ระดับสีตามต้องการได้ ผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดนี้มีส่วนประกอบสำคัญส่วนใหญ่ คือ สีออกซิเดชั่น หรือที่เรียกว่าสีพาราหรือสารพาราฟินิลีนไดอะมีน (p-phenylenediamine) และเรซอซินอล (resorcinol) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดสีในสภาวะที่เป็นด่าง โดยใช้แอมโมเนียปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างและช่วยให้สีซึมผ่านเข้าสู่เส้นผมดีขึ้น ทั้งนี้ในทางตรงกันข้ามพาราฟินิลีนไดอะมีนมีฤทธิ์ก่อให้เกิดการแพ้ ทำให้หนังศีรษะอักเสบ

    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัย จากการใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม ในปี พ.ศ.2552ที่ผ่านมา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์โดยกองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย ได้รับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ย้อมผมและเคลือบผม เพื่อทดสอบเอกลักษณ์ หาปริมาณสารย้อมผมและสารเคลือบผม รวม 78 ตัวอย่าง จำแนกเป็นผลิตภัณฑ์ย้อมผม 67 ตัวอย่าง และผลิตภัณฑ์เคลือบผม 11 ตัวอย่าง ผลการทดสอบ พบว่า เข้ามาตรฐาน 61 ตัวอย่าง (ร้อยละ 78.2) ไม่เข้ามาตรฐาน 14 ตัวอย่าง (ร้อยละ 18) และไม่สามารถสรุปผลได้ 3 ตัวอย่าง (ร้อยละ 3.8) เนื่องจากฉลากไม่ระบุปริมาณสารสำคัญ จึงไม่สรุปตามเกณฑ์ยอมรับค่าคลาดเคลื่อน ของปริมาณสารสำคัญ ตามประกาศ สธ. ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากพบสารห้ามใช้ 2 ตัวอย่าง ตรวจไม่พบสารสำคัญที่ระบุในฉลาก 3 ตัวอย่าง ปริมาณสารต่ำกว่าเกณฑ์ยอมรับค่าเคลื่อนคลาด 6 ตัวอย่าง และปริมาณสารสำคัญเกินกำหนด 3 ตัวอย่าง


    นางหรรษา ไชยวานิช ผอ.กองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กล่าวว่า ก่อนซื้อผู้บริโภคควรตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีฉลากภาษาไทย ระบุชื่อ ประเภทเครื่องสำอาง ส่วนประกอบสำคัญ ผู้ผลิต สถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต คำเตือนบนกล่อง วิธีใช้ มีเลขทะเบียนหรือไม่ และควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ตามฉลากทุกครั้ง นอกจากนี้ควรทิ้งช่วงย้อมผมให้นานกว่า 2 เดือน และไม่ใช้ติดต่อเป็นเวลานาน หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองเครื่องสำอางฯ โทร.0-2951-0000ต่อ 99495-6

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก่อนส่งลูกไป "ทำงานพิเศษ"
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กุมภาพันธ์ 2553 23:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=333 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=333>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง เงินทองหาได้ยากมากขึ้น แนวคิดของเด็ก ๆ หลายคนจึงเปลี่ยนไป บางคนมักใช้โอกาสนี้เอ่ยปากขออนุญาตพ่อแม่ออกไปหางานพิเศษทำ เพื่อนำเงินกลับมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวเพิ่มเติม หรือบางคนก็ขอไปทำงานพิเศษเพื่อเหตุผลอื่น ๆ เช่น หาประสบการณ์ เก็บสะสมเงินไว้เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ในอนาคต ฯลฯ

    ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่เด็กมีแนวคิดจะหาประสบการณ์ด้วยการทำงานพิเศษยามว่างนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การจะเข้าสู่โลกแห่งการทำงานอย่างมีคุณภาพ และไม่ทำให้พ่อแม่เป็นกังวลก็จำเป็นต้องเตรียมตัวกันบ้างไม่มากก็น้อย เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีวัคซีนป้องกัน และรู้จักวิธีปฏิบัติตนในที่ทำงานให้เหมาะสม ไม่แสดงพฤติกรรมให้ผู้ใหญ่ในที่ทำงานบางคนตำหนิเอาได้ ซึ่งแนวทางดี ๆ สำหรับการเตรียมตัวลูกสู่การทำงานพิเศษนั้น เริ่มจาก

    - พ่อแม่ต้องมองออกถึงจุดเด่นจุดด้อยของลูก และความสนใจของเขาที่มีต่องาน อย่าอนุญาตเพียงเพราะลูกรบเร้าขอไปทำงานพิเศษ เพราะอาจมีปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้มากมาย เช่น ลูกมาค้นพบภายหลังว่าตนเองไม่ได้ชอบงานนั้นจริง และอยากขอลาออก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับผู้ร่วมงาน หรือลูกไม่สามารถทนรับแรงกดดันจากการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ หรือลูกไปทำงานเพราะต้องการตามเพื่อน ๆ ไป ฯลฯ ดังนั้น หากพ่อแม่พบว่าการขอไปทำงานพิเศษของลูกเข้าข่ายกรณีดังกล่าว จึงควรมองหางานอาสาสมัครที่มีความคล้ายคลึงกับงานที่ลูกขอไปทำ ให้เด็กได้ทดลองดูก่อนว่ากระบวนการทำงานเป็นอย่างที่เขาตั้งใจเอาไว้ไหม ถ้าเด็กรับได้ ชอบใจ ค่อยอนุญาตให้เขาได้ทำงานหาประสบการณ์

    - งานพิเศษทำได้แต่ต้องไม่ปฏิเสธงานบ้าน พ่อแม่ต้องอธิบายให้เข้าใจว่าลูกไม่สามารถทิ้งความรับผิดชอบในบ้านโดยอ้างว่ามีงานพิเศษต้องทำไปได้ งานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ล้างจาน กวาดบ้าน หุงข้าว ล้วนเป็นงานที่ฝึกความรับผิดชอบของลูกได้ดีทางหนึ่ง แต่ในกรณีที่เด็กขอไปทำงานพิเศษแล้วไม่สามารถบริหารเวลามารับผิดชอบงานบ้านได้ จนทำให้งานบ้านต้องเสียหาย ก็แปลว่า เขายังไม่สามารถแบ่งเวลาได้ดีพอ ควรให้เขากลับมารับผิดชอบหน้าที่ที่เหมาะสมกับวัยให้ดีก่อนจะดีกว่า ส่วนหน้าที่ทำงานหารายได้นั้นต้องการ “ระดับความรับผิดชอบ” ที่สูงกว่านี้ จึงยังไม่เหมาะสมกับเขาด้วยประการทั้งปวง

    สิ่งที่ต้องพิจารณาประกอบอื่น ๆ

    - สถานที่ตั้ง การเดินทาง หากที่ทำงานพิเศษของลูกอยู่ใกล้หูใกล้ตาพ่อแม่ ก็ย่อมช่วยให้เบาใจลงได้ หรือหากเป็นการไปช่วยงานเพื่อนสนิท คนรู้จัก หรือคนที่พอจะฝากฝังได้ ก็ยิ่งดี แต่กรณีที่ลูกต้องเดินทางไปเอง พ่อแม่ควรช่วยมองหาเส้นทาง หรือยานพาหนะที่เหมาะสม เป็นการสอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตนเองอย่างง่ายด้วยค่ะ

    - ทางออกให้ลูกกรณีเปลี่ยนใจ ข้อนี้เกิดขึ้นได้กับเด็กที่เริ่มทำงานพิเศษ พวกเขาอาจยังไม่คุ้นเคย ไม่สามารถปรับตัวได้ และอาจรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้ พ่อแม่จึงอาจเตรียมตัวเลือกสำรองไว้เช่น การรับทำงานเป็นชิ้น ๆ แทนการเข้างานเป็นพนักงานเต็มตัว และบอกเขาว่า เมื่อเขาพร้อม เขายังมีโอกาสกลับไปทำงานได้เสมอ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=210 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=210>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เทคนิคพ่อแม่ทำงานเตรียมไว้สอนลูก

    พ่อแม่สามารถล้วงเทคนิคต่าง ๆ ในการทำงานมาสอนลูก ๆ ตลอดจนเตรียมตัวพวกเขาให้พร้อมสำหรับการทำงานพิเศษได้อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

    - สอนลูกบริหารเงิน เป็นโอกาสอันดีที่พ่อแม่จะได้สอนลูกให้เก็บหอมรอมริบเงินที่เขาหามาได้ เด็กบางคนอาจต้องการไปทำงานพิเศษเพราะต้องการซื้อสิ่งของต้องใจ บางคนอาจต้องการเก็บไว้ใช้ในอนาคต ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะทำงานพิเศษด้วยเหตุผลใดก็ตาม พ่อแม่สามารถใช้โอกาสนี้สอนให้ลูกรู้จักกับการฝากเงินในบัญชีธนาคาร การใช้บัตร ATM อย่างเหมาะสม สอนเรื่องการออมเงินผ่านการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ ให้กับเด็กได้ และเขาจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นด้วย

    - สอนลูกหัดทำเรซูเม่-เก็บประวัติการทำงาน เด็กวัยรุ่นหากต้องการสมัครงาน เรซูเม่ดี ๆ ก็จำเป็นเช่นกัน หากลูกเคยมีประสบการณ์เป็นอาสาสมัคร ทำกิจกรรมระหว่างเรียน หรือเข้าแข่งขันได้รางวัลต่าง ๆ มา ก็สามารถนำมาใส่ไว้ในเรซูเม่ของเขาได้ ไม่จำเป็นต้องใส่แต่ประสบการณ์การทำงานเสมอไป แต่ที่สำคัญคือ ควรสอนให้ลูกใส่ข้อมูลในเรซูเม่ตามความเป็นจริง

    - สอนลูกเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ แม้เป็นเด็ก ก็หนีไม่พ้นการถูกสัมภาษณ์ ซึ่งพ่อแม่อาจช่วยได้ด้วยการตั้งคำถามง่าย ๆ กับลูก เช่น ให้เขาลองแนะนำตัว บอกเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา ความสามารถที่เขาถนัด ฯลฯ เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับการตอบคำถาม

    สำหรับข้อดีของการทำงานพิเศษยามว่างในเด็กวัยรุ่นนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ลูกมีความเชื่อมั่นในตนเอง มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น และได้พบกับคนหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีความรับผิดชอบมากขึ้นตามวัยนั่นเอง

    เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก more4kids.info และ eHow.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บสท.โละสินทรัพย์1.7แสนล.ขายต่อ บสก.-บสส.สุขุมวิท
    Stock Markets - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กุมภาพันธ์ 2553 22:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> บสท.เดินแผนยุบกิจการ หลังดำเนินงานครบกำหนด 10 ปี ตาม พ.ร.ก.บสท. พร้อมเตรียมโละสินทรัพย์คงเหลือ 1.72 แสนล้าน ขายต่อ บสก.-บสส.สุขุมวิท ฟุ้งปี52 สร้างรายได้รวม27,499ล้านบาท ตั้งเป้า16เดือนสุดท้ายก่อนยุบเลิก 32,650ล้านบาท

    นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน บสท.มียอดสินทรัพย์คงเหลือจำนวน172,173ล้านบาท แบ่งออกเป็นเงินชำระตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน49,921 ล้านบาท ทรัพย์สินระหว่างบังคับหลักประกันมูลค่า30,678 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย (NPA)จำนวน91,574 ล้านบาท

    โดยในปี 53บสท.ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวม21,220ล้านบาทแบ่งออกเป็นรายได้จากการจัดเก็บหนี้ 13,82ล้านบาท และรายได้จากการขยายNPA 7,400 ล้านบาท ในขณะที่ปี 54บสท.ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวม 11,430ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บหนี้ 8,730ล้านบาท และรายได้จากการขาย NPA อีก 2,700 ล้านบาท หรือจะทำให้ในช่วง16เดือนก่อนที่ บสท. จะยุบเลิกกิจการนั้น จะสามารถระบายสินทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 32,650ล้านบาท

    ทั้งนี้ หาก บสท. สามารถสร้างรายได้ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้ ณ ปี 54บสท.มีทรัพย์สินคงเหลือทั้งสิ้น 139,523ล้านบาท ซึ่งสินทรัพย์ในส่วนที่เหลือทั้งหมด จะต้องจำหน่ายให้สถาบันการเงินของรัฐ คือ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์(บสก.) และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) เพื่อนำไปบริหารการขายต่อ ในขณะเดียวกัน จะให้สิทธิ์แก่เจ้าหนี้เดิมที่โอนสินทรัพย์ให้แก่บสท.ได้มีโอกาสในการเสนอซื้อสินทรัพย์ในส่วนที่เหลือก่อน

    อนึ่ง บสท.เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียในระบบ ซึ่งมีอายุการดำเนินงาน10 ปี และต้องยุบเลิกกิจการตามมาตรา 95 แห่งพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ก.) บสท. พ.ศ. 2544 ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อบสท.ดำเนินกิจการครบเจ็ดปีนับแต่วันที่ พ.ร.ก.ใช้บังคับแล้ว ต้องให้ยุบเลิกบสท.เมื่อครบ10ปี และชำระบัญชีให้แล้วเสร็จในเวลาไม่ช้ากว่าปีที่12 นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.ก.ใช้บังคับ

    นางจุไรรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของภารกิจเพื่อการยุบเลิกตามกฎหมายนั้น บสท.ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 51 ที่ผ่านมา โดยได้จัดทำแผนงานเสนอต่อกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.51 และได้จัดประชุมกับสถาบันการเงินผู้โอนหนี้ทั้ง 23 แห่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีส่วนได้เสียในการร่วมรับผิดชอบผลกำไรและขาดทุน ที่จะเกิดขึ้นจากการบริหารหนี้เสียของบสท. เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการบริหารจัดการสินทรัพย์คงเหลือ

    “ สถาบันการเงินส่วนใหญ่มีความเห็นให้ขายสินทรัพย์คงเหลือให้แก่ บสก.และบสส. ซึ่งขณะนี้ บสท.อยู่ระหว่างนำเสนอความเห็นของสถาบันการเงินต่อกระทรวงการคลัง และหากเห็นชอบ ทางบสท.จะจัดแยกกองประมูลขายสินทรัพย์ประเภทลูกหนี้ รวมถึงสิทธิ์เรียกร้อง และNPA ต่อไป ในเบื้องต้นจะมี 4 กอง ”

    สำหรับในปี 52 ที่ผ่านมา บสท.มีรายได้รวม 27,499 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 16,309 ล้านบาท และรายได้จากการขาย NPA จำนวน11,190 ล้านบาท และมีรายได้จากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 21,690 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา สามารถลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศและจากการค้ำประ กันตั๋วสัญญาใช้เงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ( FIDF )

    โดยการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินในส่วนของเงินต้น จำนวน 161,261 ล้านบาท คิดเป็น65.07% ของทั้งหมด 247,844 ล้านบาท และได้ชำระค่าดอกเบี้ยไปแล้ว จำนวน 20,349 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน คงเหลือตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 86,583 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา บสท.ได้ส่งผ่านลูกหนี้สุจริตและมีศักยภาพกลับเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินตามปกติ ทั้งสิ้น 3,555 ราย คิดเป็นมูลค่าทางบัญชี 122,816 ล้านบาท
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...