พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ถามด้าย..ส่งมาเลยครับ ครูพักลักจำ งานนี้

 

อยากรู้อยากเห็นขอรับด้วยคนครับ

 

อ่ะรีบส่งมาอย่ารอช้าครับ หุ หุ

 

__/|\_

ผมขอด้วยคนนะครับพี่หน่ม...

 

กาแฟขม ชาวสวนตรม..
Daily News Online


กาแฟ ถ้าไม่ขม ก็เสียชาติเกิดเป็นกาแฟเป็นแน่แท้..
แต่ถ้ากาแฟราคาตก ชาวสวนกาแฟจะยิ่งทั้งขม ทั้งขื่น ยิ่งกว่าเมล็ดกาแฟเสียอีก..

จะเป็นเพราะข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่เริ่มมีผลเต็มที่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมาหรือไม่ก็ตาม ราคาเมล็ดกาแฟที่ชาวสวนทางภาคใต้ขายได้ตอนนี้กำลังตกต่ำลง จนชาวสวนกาแฟเริ่มออกมาร้องเรียนแล้วว่าขาดทุนจนอยู่ไม่ได้
ตามข้อตกลง AFTA กำหนดให้สมาชิกอาเซียนลดภาษี กาแฟสำเร็จรูป เหลือ 0%
ส่วน เมล็ดกาแฟ ลดเหลือ 5%

กรณีของกาแฟสำเร็จรูปนั้น เป็นเรื่องของผู้ประกอบการที่สามารถเอาตัวรอดได้สบายมาก ยังไม่ทันที่ AFTA จะมีผล ผู้ประกอบการบางรายก็ไปตั้งโรงงานอยู่ที่เวียดนาม เรียบร้อยโรงเรียนญวนไปก่อนแล้ว
ก็จะไม่ไปได้อย่างไร ในเมื่อเวียดนามเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิลนั่นทีเดียว
ผลผลิตกาแฟของเวียดนามอยู่ที่กว่า 1 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นพันธ์โรบัสต้า ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 33 บาท/กิโลกรัม
ขณะที่ไทยเราในปี 2552/53 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พยากรณ์ผลผลิตกาแฟในประเทศอยู่ที่ประมาณ 52,800 ตัน ลดลงจากปีก่อนกว่า 6% แต่ต้นทุนของเราอยู่ที่ประมาณ 40 บาท/กิโลกรัม ถ้าจะให้อยู่ได้ควรต้องขายในราคาไม่ต่ำกว่า 55-60 บาท/กิโลกรัม

วงจรการผลิตและจำหน่ายกาแฟในบ้านเรานั้นค่อนข้างสลับซับซ้อน เพราะความต้องการบริโภคกาแฟในประเทศมีมากถึง 68,000 ตัน/ปี ผลผลิตที่ได้ไม่เพียงพอ เราจึงเป็นทั้งผู้นำเข้าและส่งออกกาแฟในเวลาเดียวกัน

แต่กาแฟที่ไทยเราปลูกกันมากถึง 95% ของพื้นที่เพาะปลูก คือพันธ์โรบัสต้า ซึ่งเหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศทางภาคใต้ เป็นกาแฟที่ให้คาเฟอีนสูง รสชาติเข้มข้น แต่ราคาถูกกว่าพันธ์อาราบิก้า ที่ปลูกได้ทางภาคเหนือ ถึงเกือบครึ่งต่อครึ่ง
โดยราคาเมล็ดกาแฟพันธ์อาราบิก้าที่ตลาดนิวยอร์ก เทียบเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 100 บาท/กิโลกรัม บวก-ลบนิดหน่อย ขณะที่กาแฟโรบัสต้า ซื้อ-ขายกันที่ประมาณ 55 บาท/กิโลกรัมเท่านั้น
และที่ชาวสวนกาแฟในบ้านเรากำลังเดือดร้อนหนักอยู่ตอนนี้ ก็คือกลุ่มใหญ่ที่ปลูกโรบัสต้าทางใต้นั่นเอง

ก่อนมีข้อตกลง AFTA ไทยเรามีมาตรการปกป้องเกษตรกรชาวสวนกาแฟในประเทศ โดยกำหนดโควตานำเข้าเมล็ดกาแฟ ปีละ 5 ล้านตัน ในอัตราภาษี 30% หากนำเข้านอกโควตา ต้องเสียภาษีสูงถึง 90%

โควตา 5 ล้านตันนี้ ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน ก็ในเมื่อทราบปริมาณผลผลิตในประเทศดีอยู่แล้ว ว่าต่ำกว่าความต้องการบริโภคกว่า 1,000 ตัน แต่ทำไมจึงกำหนดโควตานำเข้าเพียงแค่ 5 ล้านตัน ก็ไม่ทราบ..?!?
แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ แต่ละปีจะมีผู้ประกอบการกาแฟสำเร็จรูป ยื่นขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี ให้นำเข้าเมล็ดกาแฟนอกโควตา โดยเสียภาษีเท่ากับในโควตา แล้วก็ได้รับอนุมัติอยู่เป็นประจำ..
บางปีให้นำเข้าเป็นหมื่นตัน..!!!

ขนาดก่อน AFTA มีทั้งโควตา ทั้งกำแพงภาษี ยังทำกันขนาดนี้
พอมี AFTA ภาษีเหลือแค่ 5% ชาวสวนกาแฟไทยจะไม่ขมขื่น ยิ่งกว่ากาแฟได้อย่างไร..

คุณนายทอม (khunnaitom@gmail.com )

 

อะนะ ... แสบยิ่งกว่าทิงเจอร์ตัวจริง หุหุ ... แต่ก็ดีแฮะ ... ขอด้วยคร๊าบ

 

ก๊ากกกกกกก...เนื้อไก่ มีเม็ดเล็กขาวๆ เนื้อไก่นี่ผิดปกติมากๆ อย.กำลังตามเช็คบิลอยู่...

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, :::เพชร:::, Phocharoen, น้อยครบุรี </TD></TR></TBODY></TABLE>

เรียนท่านพี่เพชร ... เมื่อสักครู่เห็นกระทู้พระลงรักแวบๆ หายไปไหนแล้วอ่ะครับ ยังไม่ทันได้อ่านเลยยยยย :'(

 

โรคอ้วนลงพุง...มฤตยูร้ายทำลายสุขภาพ

โรคอ้วนลงพุง...มฤตยูร้ายทำลายสุขภาพ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

คนส่วนใหญ่มักมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างมากเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การมีน้ำหนักเกินจากเกณฑ์มาตรฐาน อาจเป็นที่มาของ โรคอ้วนลงพุง หรือ Metabolic Syndrome ซึ่งโรคนี้เป็นกลุ่มปัจจัยเสี่ยงทางเมตาบอลิก ประกอบด้วย อ้วนลงพุง (ไขมันในช่องท้องมากเกิน) ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ (ไตรกลีเซอไรด์สูง, เอชดีแอลคอเลสเตอรอลต่ำ และ แอลดีแอลคอเลสเตอรอลสูง) ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ

สำหรับเกณฑ์ในการวินิจฉัยนั้น The National Cholesteral Education Program (NCEP) Adult Treatment Panel II (ATP III), American Heart association (AHA) และ The National Heart, Lung, and Blood Institute เสนอแนะว่าหากมีปัจจัยเสี่ยง 3 ใน 5 อย่างต่อไปนี้จัดเป็น metabolic Syndrome ได้แก่ เส้นรอบวงเอวสำหรับคนเอเชีย ผู้ชายเท่ากับหรือ มากกว่า 90 เซนติเมตร ผู้หญิงเท่ากับหรือมากกว่า 80 เซนติเมตร ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด เท่ากับหรือมากกว่า 150 มก./ดล. เอชดีแอลคอเลสเตอรอล (ผู้ชาย- น้อยกว่า 40 มก./ดล, ผู้หญิง - น้อยกว่า 50 มก/ดล) ความดันโลหิต เท่ากับหรือมากกว่า 130/85 มม.ปรอท ระดับน้ำตาลในเลือด เท่ากับหรือมากกว่า 100 มก/ดล.

พญ.รัชดา เกษมทรัพย์ ชมรมโภชนวิทยามหิดล เปิดเผยว่า โรคอ้วนลงพุง หรือ Metabolic Syndrome เป็นฆาตกรเงียบที่หลายคนคาดไม่ถึง ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภค กรรมพันธุ์ และการไม่ออกกำลังกาย คนที่อ้วนลงพุงจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ซึ่งไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ มีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน จนเกิดเป็นภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน เป็นต้น ซึ่งเราสามารถวางแผนการรับประทานอาหารด้วยการควบคุมน้ำหนัก ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูกชนิด ปริมาณ และถูกเวลา รวมทั้งเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น


แม้ว่าไขมันจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายต่างๆ แต่ไขมันเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ ทั้งยังเป็นส่วนประกอบในอาหารทุกมื้อจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ให้การปรึกษาด้านโภชนบำบัด ได้แนะนำว่า ในสมัยก่อนนักโภชนาการส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผู้บริโภคทานอาหารที่มีไขมันต่ำ จนทำให้หลายคนกลัวการกินไขมัน แต่กลับบริโภคอาหารคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น บางคนไม่กินไขมันหรือกินน้อยมากจนทำให้ขาดกรดไขมันจำเป็นไปเลยก็ว่าได้ แต่ในปัจจุบันมีข้อมูลการวิจัยใหม่ๆ แนะการเลือกชนิดของไขมันหรือน้ำมันที่ดี ในปริมาณที่เหมาะสมกับพลังงานที่ใช้ไปในชีวิตประจำวัน เพื่อลดความเสี่ยงโรคได้ น้ำมันที่ดีที่ควรรับประทาน ควรมีองค์ประกอบของกรดไขมันอิ่มตัวต่ำและไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนลา เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดระดับคอเลส เทอรอลโดยไม่ลดเอชดีแอล ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้ และสามารถนำไปใช้แทนคาร์โบไฮเดรตได้ด้วย


“น้ำมันเมล็ดชา” มีใช้ในราชวงศ์ซ้องของจีนมากว่า 2,300 ปี โดยได้มีการบันทึกคุณสมบัติด้านสุขภาพไว้ว่าช่วยลดคอเลสเทอรอล ปัจจุบันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยถึงคุณสมบัติที่ดีของน้ำมันเมล็ดชา พบว่าน้ำมันเมล็ดชามีสัดส่วนกรดไขมันชนิดต่างๆ ในปริมาณที่ดีไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก คือ มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวในรูปของกรดโอเลอิกสูงถึง 88% มีกรดไขในไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งในรูปของโอเมกา 6, 3 เป็นต้น นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยวิตามินเอ บี ดีและอีสูง ซึ่งวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันให้นานขึ้น และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง คือสารแคททีชิน ซึ่งเป็นสารโพลีฟีนอลที่ช่วยลดการออกซิเดชั่นของแอลดีแอล จึงช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบตัน และป้องกันการอักเสบของเนื้อเยื่อ ลดอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพ และน้ำมันเมล็ดชา สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น น้ำสลัด ผัด ทอด หรือการหมัก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันจะต้องเลือกชนิดและอ่านฉลากข้อมูลโภชนาการให้ละเอียด รวมทั้งรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม เน้นผักผลไม้ที่มีกากใยมากๆ และต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยจึงจะช่วยส่งเสริมสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคร้าย และห่างไกลภาวะอ้วนลงพุง

ที่มา : ดร. อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ

ที่มา ไทยรัฐ

 

ที่มา กระทู้สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระกรุลำพูนอายุ 500-700 ปี หน้าที่ 125

พระพิมพ์อุ้มบาตรเล็กรวม 5 พระธรรมทูต





องค์ผู้อธิษฐานจิต ขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งบนบอร์ด

พระบูชา ปางอุ้มบาตร





.

 

หุ..หุ... คุณหนุ่ม ผมว่าแล้วไม๊ล่ะ ทำให้อยากแล้วจากไป...

เมื่อครู่นี้ต้องขออภัยครับ ทางท่านเลขาฯกำลังเข้าไปแก้ไขข้อผิดพลาดบางประการ การเผยแผ่ธรรมจะให้พลาดไม่ได้ครับ แก้ไขแล้ว จะนำให้ชมใหม่ครับ

 

"ปิดทอง ร่องชาด" เก่าแก่มากๆ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 32 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 29 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, aries2947+, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

คุณnongnooo ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ อิอิ

 

ตามโพสเดิมครับคุณเพชร

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
พระสมเด็จพิมพ์ที่ ๑ จำนวน ๒ องค์นี้รอคุณหนุ่มมาเฉลยประวัติที่มาครับ..







</TD></TR></TBODY></TABLE>
ไว้ผมจะมาเฉลยในกระทู้ สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระธาตุโมคคัลลานะ และพระกรุลำพูนอายุ๕๐๐-๗๐๐ ปี ,กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... และกระทู้ "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....." เว็บอกาลิโก

แต่ก่อนที่จะเฉลย ท่านใดพอทราบบ้างว่า เป็นพระสมเด็จ อะไร ที่ไหน อย่างไร ยกเว้นห้ามคุณnongnooo ,คุณตั้งจิต มาตอบนะครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผมมาเฉลยดีกว่า

พระสมเด็จชุดนี้ (มีหลายพิมพ์มาก ไม่น่าจะน้อยกว่า 10 พิมพ์ขึ้นไป รายละเอียดผมเองยังไม่ได้ดูละเอียดครับ) เป็นพระสมเด็จที่มีความพิศดารก็คือ องค์ผู้อธิษฐานจิต เป็นพระอภิญญาใหญ่( เช่นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นต้น แต่ในความคิดเห็นของผมจากการวิเคราะห์ น่าจะมีหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร และหลวงปู่สมเด็จกรมพระยาปวเรสด้วย แต่องค์อื่นๆไม่ทราบครับ) ท่านอธิษฐานจิต และมีการแช่น้ำว่าน (แต่ไม่ทราบว่า ว่านที่ใช้นั้น เป็นว่านอะไรบ้าง)

ซึ่งผมเองมีพระสมเด็จในลัษณะนี้ พิมพ์เดียวกัน มีการแช่น้ำว่านเช่นกัน แต่องค์ผู้อธิษฐานจิต คือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี (ก่อนปี พ.ศ.2415)

สำหรับพระสมเด็จ ที่องค์ผู้อธิษฐานจิตคือ พระอภิญญาใหญ่นั้น จากการดูเนื้อหาทรงพิมพ์ และองค์ผู้อธิษฐานจิต ทำให้ผมคิด(เอง)ว่า น่าจะเป็นพระพิมพ์สร้างขึ้นที่วังหน้า ในช่วงปี พ.ศ.2428 แต่ในช่วงเวลานั้น ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านทิวงคต(ตามประวัติศาสตร์) ในปี พ.ศ.2428 เมื่อท่านทิวงคตแล้ว พระสมเด็จชุดนี้(น่าจะสร้างขึ้นที่วังหน้า) ก็เลยไม่ได้เข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่อัญเชิญหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มาอธิษฐานจิตให้ แต่ได้มีการนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง โดยเชิญองค์อภิญญาใหญ่ มาอธิษฐานจิตพระพิมพ์ให้ แต่จะนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรสถานสุทธาวาสหรือวัดพระศรีรัตรศาสดาราม เรื่องนี้ไม่ทราบเช่นกันครับ

พระสมเด็จ (อาบน้ำว่าน) ชุดที่องค์พระอภิญญาใหญ่ อธิษฐานจิต กับพระสมเด็จ (อาบน้ำว่าน) ชุดที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต(ก่อน ปีพ.ศ.2415) ในสายตาผม เหมือนกัน ดูยังไงก็แยกไม่ออก นี่คือความยากของพระวังหน้า และพระวังหลวง (กรุวัดพระแก้ว) ครับ

โมทนาสาธุครับ

 

กรณีการทิวงคต กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ เป็นเพียงแต่การทิวงคตตามประวัติศาสตร์เท่านั้น

ปัจจุบัน กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ เป็นพระภิกษุอยู่ในป่า ไปเรียนในทางธรรมกับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) และเป็นครูฝึกของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ)ครับ

กราบหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญด้วยความเคารพอย่างสูงครับ

 

อ่า...ดูยังไงอ่ะครับ สอนดูบ้างสิครับ หุ หุ

 

Ooop กำลังจะโดนไหมเนี่ย

 

แหม แหม (พูดเหมือนน้องท่านหนึ่ง) วันนี้มีมาให้แซวแค่รายเดียวเองครับเหงาจัง หุ หุ

 

ระวังถูกล่อเป้า..หุ..หุ..