พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ผมสามารถดูสุริยุปราคาได้ครับ โดยมีกระจกกรองแสงขนาด DIN11 ผมว่าตอนนี้ประมาณ 1/4 ผมไม่แน่ใจว่าพระจันทร์จะบังเต็มดวง รึเปล่าขอทราบข้อมูลหน่อยครับ ถ้าบังเต็มดวงสงสัย มืดไปทั้งประเทศรึเปล่าครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เป็นสุริยุปราคา บางส่วนครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]

    คงต้องยอมรับว่า ผมถ่ายรูปไม่ คม ชัด ลึก แบบคุณเพชรครับ

    กล้องไม่ดีครับ อิอิ


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สวัสดีครับพี่น้องสหายธรรมทุกท่าน ผมสมัครเข้าชมรมมานานพักหนึ่งแล้วแต่เพิ่งจะปรากฏตัวเพราะเนื่องจากผมไม่สันทัดในการใช้เว็บบอดร์ดของที่นี่
    มีความรู้สึกว่าใช้งานยากเพราะหาอะไรก็ไม่ค่อยเจอครับ...จะตั้งกระทู้ใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะตั้งตรงไหน
    เอาเป็นว่าผมมารายงานตัวตรงนี้ไว้ก่อนนะครับ ผิดถูกอย่างไรว่ากันทีหลัง ผู้ดูและจะย้ายไว้ไหนก็สุดแต่ท่านนะครับ

    เรื่องพระวังหน้านั้นผมเพิ่มจะทราบและเริ่มศึกษาเมื่อไม่้เกินสองเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้าีนี้ก็ศึกษาพระตลาด โดยเฉพาะสายพระปิดตาครับ แต่กรรมดลบันดาลให้ได้พบพระบูชาที่ผมนำท่านเป็นรูปประจำตัว คือพระมหากัญจายนะเถระ ที่ชาวบ้านชอบเรียกท่านว่าพระสังข์กัจจายน์นั่นแหละครับ
    ผมรักและศรัทธาท่านมานานจนท่านนำผมไปพบกับพระกรุวังหน้าและพระวัดพระแก้ว ผมเองยังมีน้อยอยู่ ก็พยายามตามเก็บเรื่อยๆครับ แต่ความตั้งใจของผมคือเนื่องจากพระกรุนี้เป็นสมบัติชาติ ดังนั้นผมจะมีแต่เก็บเข้านะครับ ไม่ปล่อยพระกรุนี้ออกเพราะตั้งสัตย์ไว้กับหลวงปู่ใหญ่และสมเด็จโตท่านไว้แล้ว จะเก็บรักษาตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจครับ เมื่อตายไปก็จะถวายคืนแผ่นดิน แต่จะถวายผ่านทางวัดนะครับ ตอนนี้มีอยู่สองวัดที่น่าสนใจคือวัดเขากระจิวและวัดภูค่าว ก็ยังไม่ได้คิดว่าจะถวายวัดไหน แต่คงไม่เก็บไว้ครับเพราะเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน

    หากท่านใดมีจิตเมตตาจะให้ร่วมทำบุญรักษาพระศาสนาโดยแลกเปลี่ยนพระ โดยเฉพาะคุณสิทธิพงษ์ ผมขอประกาศให้รู้ทั้งสามโลกนะครับว่าผมและพี่ๆอีกสามคนร่วมอุดมการณ์เดียวกันคือ "พี่อ๊อด ทุกวัง" และ "โอม วังหลวง" เจ้าของบล็อกสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว ก็จะตามเก็บสมบัติชาติและถวายคืนแผ่นดินเมื่อถึงเวลาครับ

    ดังนั้นท่านวางใจได้ครับว่าพวกผมไม่ใช่เดียร์ถีร์นิครนท์ที่จะปล่อยพระกรุนี้เพื่อการค้าหรือกำไรส่วนตัว หากท่านใดจะบอกบุญกับพวกเราและกลัวว่าข่าวจะไม่ถึง สามารถเมล์หาผมได้ที่ teephakon@gmail.com ครับ เนื่องจากพวกเรามีภารกิจประการหนึ่งคือการให้ความรู้และตามเก็บพระกรุนี้จากคนที่ไม่ศรัทธา (แต่ถ้าเป็นของเทียมเราไม่เก็บนะครับ) ดังนั้นจึงอาจจะขาดการติดต่อกับทางชมรมรักษ์พระวังหน้าไปบ้าง ก็ขอให้พี่น้องทุกท่านโปรดช่วยกันส่งข่าวผ่านทางเมล์ส่วนตัวก็ได้ครับ เพราะงานประจำก็ไม่เอื้ออำนวยให้ทำอะไรได้มากนัก

    อย่างไรก็ดี ผมเองนั้นตั้งใจจะเป็นทหารรักษาพระศาสนา (ญาติผม พันเอกพิเศษ ชัยนาท ญาติฉิมพลี ท่านเป็นทหารรักษาพระศาสนาตัวจริง อยู่กรมเสมียนตรา ทหารบกครับ) หากมีเรื่องใดที่พวกผมพอจะสนับสนุนได้โปรดบอกนะครับ ยินดีร่วมมือกับเหล่าธรรมิกสหายทุกท่านครับ

    ขอพระคุ้มครองครับ

    แปง วังหน้า
    โพสโดยคุณแปงภูเก็ต
    PaLungJit.com - ชมรม รักษ์พระวังหน้า
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยินดีต้อนรับคุณแปงภูเก็ต สู่ กลุ่ม/ชมรม พระวังหน้า เว็บพลังจิต

    เรื่องของพระวังหน้า หรือ พระวังหลวง เป็นสิ่งที่ผมเคยบอกเล่าในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... เว็บพลังจิต มานานพอสมควร( 4 ปี กว่าๆนิดหน่อย) ว่า ไม่ว่าจะเป็นพระวังหน้า , พระวังหลวง , พระวังหลัง ฯลฯ เป็นสิ่งที่มีความมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก การศึกษาและค้นคว้า ต้องเรียนรู้ทั้ง " รูป (เนื้อหาทรงพิมพ์) " และ " นาม (พลังพุทธคุณหรือพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต) " ควบคู่กันไป และต้องเรียนรู้จากผู้ที่รู้จริงๆ

    การที่คุณเก็บพระกรุวัดพระแก้ว เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากต้องเก็บเพื่อให้พ้นจากการซื้อ-ขาย เท่าที่กำลังของตนเองทำได้

    ส่วนในการที่จะถวายคืนแผ่นดิน ก็เป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่การถวายตามวัดเขากระจิวและวัดภูค่าวที่คุณตั้งใจไว้ จะต้องบอกกล่าวกับผู้ที่รับการถวายว่า พระที่ถวายคืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร การบอกกล่าวต้องบอกข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากหากบอกข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จะเป็นการทำบุญปนบาปได้

    ส่วนคุณโอม วังหลวง ผมรู้ว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับสมาชิกเว็บพลังจิตที่ผมได้ดำเนินการถอนการเป็นสมาชิกกลุ่ม/ชมรมรักษ์พระวังหน้าที่ชื่อ Zeedflower

    ในเว็บบล็อกสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว ที่คุณบอกมานั้น ในเนื้อหาเอง มีการคัดลอกจากกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... เว็บพลังจิต ไป โดยไม่มีการอ้างแหล่งที่มา หรือ อ้างเป็นบรรณานุกรม

    ส่วนเรื่องของเนื้อหา บอกได้แต่เพียงว่า ยังแยกไม่ได้ว่า พิมพ์ไหนเป็นพระวังหน้า , พระวังหลวง , พระวังหลัง หรือ ฯลฯ และในเรื่องของพิมพ์พิเศษนั้น ยังไม่ทราบข้อมูลต่างๆมากพอ ผมจึงแจ้งให้คุณแปงภูเก็ต ทราบไว้ครับ

    ส่วนในเรื่องของการที่คุณแปงภูเก็ต ตั้งใจจะเป็นทหารรักษาพระศาสนา เป็นสิ่งที่ดี ต้องขอโมทนาบุญด้วยครับ

    เรื่องที่แจ้งการให้ร่วมทำบุญรักษาพระศาสนาโดยการแลกเปลี่ยนพระ นั้น อยากจะแก้ความเข้าใจผิดที่บอกว่า การร่วมทำบุญในลักษณะการแลกเปลี่ยนพระ นั้น ไม่มีนะครับ มีแต่การทำบุญ 3 วิธีเท่านั้นก็คือ 1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา ดังนั้นทางชมรมรักษ์พระวังหน้า ขอปฎิเสธในเรื่องนี้ครับ

    อย่างไรก็ตาม หากคุณแปงภูเก็ต เข้ามาพูดคุยกันในกระทู้ ชมรมรักษ์พระวังหน้า กลุ่ม/ชมรมพระวังหน้า เว็บพลังจิต ก็ไม่มีปัญหาอะไร ยินดีเสมอครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pang.JPG
      pang.JPG
      ขนาดไฟล์:
      196.7 KB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2010
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“สังฆราช” สร้างพระพุทธนิโรคันตรายถวายในหลวงทรงหายประชวร
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 มกราคม 2553 15:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> “สังฆราช” สร้างพระพุทธนิโรคันตราย-พระพุทธศรีวรราชศาสดา ถวายพระราชกุศลในหลวงหายประชวร ฤกษ์มงคล 18 ม.ค.นี้ พร้อมสวดมหาชัยชนะมงคลคาถาแก้เคล็ดให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=187 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=187>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> วันนี้ (15 ม.ค.) พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชหล่อพระพุทธนิโรคันตราย และพระพุทธศรีวรราชศาสดา ในวันที่ 18 ม.ค.ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวร เนื่องจากพระพุทธนิโรคันตราย มีความหมายถึงการห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

    พระครูสังฆสิทธิกร กล่าวต่อไปว่า สำหรับพระพุทธนิโรคันตราย เป็นพระพุทธรูปปางลีลา ศิลปะสุโขทัย ขนาดสูง 175 เซนติเมตร จะหล่อด้วยโลหะบรอนซ์ ส่วนพระพุทธศรีวรราชศาสดา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยประยุกต์หน้าตักกว้าง 2.89 เมตร สูง 3.69 เมตร หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ โดยพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์จะอัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดเวฬุวัน อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย นอกจากนี้ สมเด็จพระสังฆราชยังโปรดให้มีการหล่อจำลองพระพุทธรูปดังกล่าว และพระกริ่งเพื่อให้ประชาชนมีไว้สักการะบูชาเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “การกำหนดฤกษ์วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553 ถือเป็นวันมหามงคลขึ้น3 ค่ำเดือน 3 ปี 3 รวมทั้งจะจัดให้มีการเจริญพระพุทธมนต์บทสวดมหาชัยชนะมงคลคาถา ซึ่งเป็นบทเจริญชัยมงคลที่สืบทอดกันมาเป็นร้อยปี และนิยมสวดกันในหมู่พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงเป็นการแก้เคล็ดให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก่ประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนทั่วไปอีกด้วย” หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ กล่าว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภาพสุริยุปราคา การเกิดปรากฎการณ์ สุริยุปราคาวงแหวน



    http://hilight.kapook.com/view/45373

    ภาพสุริยุปราคา การเกิดปรากฎการณ์ สุริยุปราคาวงแหวน


    [​IMG]
    สุริยุปราคา 2553


    [​IMG]
    สุริยุปราคา 2553

    [​IMG]
    สุริยุปราคา 2553


    [​IMG]
    สุริยุปราคา 2553 ​



    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, มติชนออนไลน์, เดลินิวส์

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มกราคม เกิดปรากฏการณ์ สุริยุปราคาแบบวงแหวน หรือ สุริยุปราคาแบบบางส่วน ซึ่งประเทศไทยสามารถมองเห็นได้ทุกจังหวัด ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 - 17.00 น. แม้ท้องฟ้าวันนี้จะมีเมฆบ้าง แต่ก็ยังสามารถดูสุริยุปราคาได้ค่อนข้างชัดเจน ทั้งนี้ ต้องระวังอันตราย ไม่ควรดูด้วยตาเปล่า โดยจังหวัดที่จะดูได้นานที่สุด คือ จ.แม่ฮ่องสอน

    ร.ศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์กรมหาชน) เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาแบบบางส่วน หรือแบบวงแหวน ที่เกิดขึ้นในวันที่ 15 มกราคมนี้ จะเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวของปี 2553 ชี้ถ้าพลาดต้องรอปี 2555

    "การเกิดสุปริยุปราคาในวันที่ 15 มกราคม จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้ ซึ่งถือเป็นการต้อนรับศักราชใหม่ หากประชาชนพลาดการชมปรากฏการณ์ในครั้งนี้จะต้องรอไปอีก 2 ปีจึงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง และยังถือเป็นโชคดีของภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะสามารถสังเกตการบดบังได้ชัดเจนมากที่สุดอีกด้วย" ร.ศ.บุญรักษา กล่าว

    สำหรับการเกิดสุริยุปราคาครั้งนี้ จะเป็นสุริยุปราคาแบบวงแหวน หรือแบบบางส่วน โดยเป็นผลมาจากการที่โลกเข้ามาอยู่ในตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด (perihelion) ในวันที่ 3 มกราคม ทำให้มองเห็นขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์ใหญ่มากกว่าปกติ ในขณะเดียวกันดวงจันทร์ก็เคลื่อนไปอยู่ที่ตำแหน่งห่างจากโลกมากที่สุด (apogee) ในวันที่ 17 มกราคม ทำให้มองเห็นขนาดปรากฏของดวงจันทร์เล็กกว่าปกติ แล้วเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกมาอยู่แนวเดียวกันในวันที่ 15 มกราคม 2553 ดวงจันทร์จึงมีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์และบังดวงอาทิตย์ไม่มิดทั้งดวง แต่จะมองเห็นดวงอาทิตย์สว่างเป็นวงแหวนโดยมีดวงจันทร์มืดอยู่ตรงกลาง


    [​IMG]
    สุริยุปราคา


    ทั้งนี้ ปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวน จะเริ่มต้นที่ทวีปแอฟริกา ผ่านประเทศชาด ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ยูกันดา เคนยา และโซมาเลีย แล้วออกจากทวีปแอฟริกาเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย และที่ตำแหน่งละติจูด 1 องศา 37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 69 องศา 17 ลิปดาตะวันออก ในมหาสมุทรอินเดียจะเป็นตำแหน่งที่เกิด สุริยุปราคา นานที่สุด คือ 11 นาที 8 วินาที

    หลังจากนั้นจะผ่านเข้าสู่ทวีปเอเชีย ผ่านบังกลาเทศ อินเดีย พม่าและเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนสามารถมองเห็นได้เป็นบริเวณกว้างตาม บริเวณที่เงามัวของดวงจันทร์พาดผ่าน เช่น ยุโรปตะวันออก ทวีปแอฟริกา เอเชีย และประเทศอินโดนิเซีย

    สำหรับประเทศไทย สามารถสังเกต สุริยุปราคา ได้ทั่วทุกภูมิภาค แต่จะเกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ จะเกิดนานที่สุดในภาคเหนือเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 6 นาที ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังมากที่สุดถึงร้อยละ 77 โดยทาง สดร. จะจัดเตรียมอุปกรณ์ใช้ดูดวงอาทิตย์ ทั้งกล้องโทรทัศน์ติดแผ่นกรองแสงโซลาร์สโคป (Solarscope) กล้องรูเข็ม แผ่นฟิล์มเอ็กซ์เรย์ แผ่นดีวีดี ฯลฯ และยังจะมีการเตรียมแว่นดูดวงอาทิตย์ผลิตจากแผ่นฟิล์มที่ปลอดภัยใช้สำหรับ ดูดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ จะถ่ายทอดผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่ http://www.narit.or.th/ อีกด้วย


    การชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาอย่างปลอดภัย

    การมองดูดวงอาทิตย์โดยตรงด้วยตาเปล่า หรือมองผ่าน viewfinder ของกล้องถ่ายรูป กล้องส่องทางไกล หรือกล้องดูดาว ต่างทำให้ตาบอดได้ทั้งสิ้น แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวบาง ๆ ของดวงอาทิตย์ หรือปรากฏการณ์ลูกปัดของเบลีย์ (Baily’s beads) ในช่วงที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงก็ตาม โดยร้อยละ 1 ของผิวดวงอาทิตย์ก็ยังมีความสว่างถึง 1 หมื่นเท่าของความสว่างของดวงจันทร์วันเพ็ญ ดังนั้น การสังเกตการณ์สุริยุปราคาเป็นสิ่งที่ต้องกระทำด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

    ทั้งนี้ เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ที่จ้าเกินไป อาจทำลายระบบการมองเห็นของเราจนกระทั่งตาบอดได้ เราจะสามารถมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าได้เฉพาะขณะที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงแล้วเท่านั้น ส่วนในช่วงระหว่างที่กำลังจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง หรือสุริยุปราคาแบบวงแหวน หรือสุริยุปราคาบางส่วน เราจะต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยในการสังเกตดวงอาทิตย์ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้อาจเป็นอุปกรณ์ที่เราทำได้เองอย่างง่าย ๆ เช่น การสังเกตสุริยุปราคาผ่านกล้องรูเข็ม หรือกล้องโทรทรรศน์

    ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้สังเกตการณ์โดยตรงจะต้องสร้างหรือใช้ด้วยความระมัดระวัง เช่น แผ่นซีดี ดีวีดี กระจกหรือแก้วรมควัน ต้องรมควันให้สม่ำเสมอจนเป็นสีดำสนิท ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นจนมืดสนิท หรือฟิล์มถ่ายรูปที่เสียแล้วและมืดสนิทนำมาซ้อนกันหลายชั้น หรืออุปกรณ์มาตรฐานที่มีจำหน่าย เช่น แผ่นกรองแสงอาทิตย์แบบต่าง ๆ โดยแผ่นกรองแสงแต่ละประเภทจะให้ภาพของดวงอาทิตย์ที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์แบบใด ก็พึงระลึกไว้เสมอว่าการสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และห้ามดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าเป็นอันขาด


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG] [​IMG], สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

     
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขออนุโมทนาในเจตนาที่ดีและบริสุทธิ์นะครับ อาจจะต่างตรงวิธีการ แต่เป้าหมายเพื่อดำรงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนก็ขออนุโมทนาด้วย แต่ในกลุ่มคณะรักษ์พระวังหน้าของเรา ทั้งเจตนาตั้งต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย เราจะปรับประคับประครองให้สืบเนื่องไปได้ด้วยดีตลอดไปครับผม ใครที่ไปด้วยกันไปไม่ได้ก็ถูกปรับออกไปโดยปริยาย ขอให้กำลังใจ ... ภูมิใจนะครับที่ยังเป็นหนึ่งในคณะฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2010
  10. แปงภูเก็ต

    แปงภูเก็ต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณครับสำหรับที่ยืนเล็กๆให้สมาชิกใหม่อย่างผม

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและโอกาสที่มอบให้ครับ ผมไม่ทราบเรื่องเกิดขึ้น และเมื่อได้ทราบแล้วผมก็คิดว่าผมคงไม่เป็นที่รังเกียจของบ้านหลังนี้
    ผมยังใหม่ต่อเรื่องพระกรุนี้มาก หากจะชี้แนะหรือแนะนำข้อเท็จจริงก็จะเป็นวิทยาทานอันสูงแก่ผมและสมาชิกท่านอื่นๆครับ

    ขอน้อมรับทุกคำชี้แนะ
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431

    อะจ๊าก ... ขอชุดเต็มแบบไม่มีชื่อบ้าง ได้มั๊ยพี่ ชัดแต่ชื่ออ่ะ หุหุ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับการศึกษาพระวังหน้า จากกระทู้ฯนี้ ต้องทำตามกติกาที่ผมบอกไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ หรือ กระทู้ชมรมรักษ์พระวังหน้าในกลุ่ม/ชมรม พระวังหน้า เว็บพลังจิตนะครับ


    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. แปงภูเก็ต

    แปงภูเก็ต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ลืมชี้แจงต่ออีกนิดครับ ด้วยความที่เขียนยาวจึงขาดตกไปบางจุด
    การทำบุญโดยแลกเปลี่ยนพระนั้นคือหมายถึงใครร่วมทำบุญก็จะได้รับพระไปครับ ผมใช้ภาษาอย่างเร่งรีบไปหน่อยเพราะเอาเวลางานมาเขียนกระทู้

    เรื่องของเรื่องคือตอนนี้หลวงปู่ไข่วัดลำนาวท่านอาพาธหนักครับ...หลวงปู่ไข่ท่านนี้เป็นผู้สร้างพระปิดตามากมายหลายพิมพ์และท่านเป็นผู้ที่พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์บอกแก่สาธุชนเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตว่าการกราบไหว้หลวงปู่ไข่ก็เหมือนได้กราบไหว้ท่าน (พ่อท้านคล้ายวาจาสิทธิ์
    หลวงปู่ไข่ท่านมาจำพรรษาที่วัดลำนาวและตั้งใจจะสร้างโรงธรรมโดยสร้างพระปิดตาเพื่อหารายได้ ตอนนี้โรงธรรมก็เสร็จแล้ว ผมและพรรคพวกจึงเอาหนังสือไปถวายท่านเพราะมีแต่โรงธรรมกับตู้หนังสือเปล่าๆ ผมก็ไปกราบท่านเมื่อวันที่ 2 มค.ที่ผ่านมา แต่ท่านอาพาธหนักนอนซมอยู่ หลวงปู่ท่านก็ยังรับประเคน ตอนนี้ท่านยังขาดปัจจัยในการเดินทางไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ผมก็เลยตั้งใจจะมอบพระปิดตาเนื้อผงชินบัญชรให้แก่ท่านที่สมทบทำบุญในการนี้ แต่ผมก็ต้องขอความเห็นเจ้าของบ้านว่าคุณสิทธิพงษ์ว่าอย่างไร ตอนนี้ผมเหลืออยู่สององค์สุดท้ายแล้วครับ หนึ่งองค์ผมตั้งใจจะเป็นทุนสมทบให้ท่าน อีกหนึ่งองค์ผมขอเก็บไว้เองครับ คิดเห็นอย่างไรครับ?
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ตกลงเป็นรูปอารายหรือครับ มองไม่ถนัดเลยครับ หุ หุ
     
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ท่านเลขาไม่อยู่ตาลุงข้างบ้านฝากมาป่วนครับ
    เป็นภาพจากด้านหลังที่ท่านเพชรโปรด ดังนั้นดีปล่าวแรงปล่าวครับ หุ หุ
    [​IMG]
     
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ลืมถามท่านเพชรต่อครับ ที่ไหน ทราบผู้เสกปล่าวครับ หุ หุ
     
  19. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตามไปดู "วงแหวนดวงตะวัน" แห่งสหัสวรรษ</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 มกราคม 2553 17:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> "วงแหวนแห่งดวงตะวัน" ในวัน "สุริยุปราคาวงแหวน" 15 ม.ค. 53 สุดงดงาม แม้คนไทยจะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง แต่เราตามไปดูภาพที่นักดาราศาสตร์จากประเทศต่างๆ บันทึกไว้กัน รวมทั้งทีมนักดาราศาสตร์ไทยที่ไปร่วมสังเกตการณ์สุริยุปราคาวงแหวนครั้งนี้อยู่ที่ตอนใต้ของประเทศจีนด้วย

    ทั้งนี้ สุริยุปราคาวงแหวนที่เกิดขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. นี้ นับเป็นครั้งที่เกิดวงแหวนยาวนานที่สุดในสหัสวรรษ หรือในรอบพันปี โดยแนวคราสวงแหวนเริ่มต้นขึ้นในทวีปแอฟริกา ผ่านเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย และผ่านเข้าสู่ทวีปเอเชีย ทางตอนใต้ของอินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ พม่าและเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในมหาสมุทรอินเดีย ที่ตำแหน่งละติจูด 1 องศา 37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 69 องศา 17 ลิปดาตะวันออก เป็นตำแหน่งที่เกิดสุริยุปราคานานที่สุด คือ 11 นาที 8 วินาที

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>ภาพสุริยุปราคาเมื่อเวลา 16.41 น. ขณะที่เงาดวงจันทร์เคลื่อนเข้าบดบังดวงอาทิตย์จนเกือบจะกลายเป็นวงแหวนในอีกไม่กี่นาทีถัดจากนี้ บันทึกโดย ทีมสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ที่เดินทางไปสังเกตสุริยุปราคาวงแหวนทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน </CENTER>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>ภาพสุริยุปราคาเมื่อเวลา 16.45 น. ซึ่งเห็นเป็นสุริยุปราคาวงแหวนที่สมบูรณ์แบบ บันทึกโดย ทีมสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ที่เดินทางไปสังเกตสุริยุปราคาวงแหวนทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน </CENTER>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>ภาพสุริยุปราคาเมื่อเวลา 16.48 น. ขณะที่เงาดวงจันทร์ค่อยๆ เคลื่อนออกจากการบดบังดวงอาทิตย์ หลังสิ้นสุดการเกิดวงแหวนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า บันทึกโดย ทีมสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ที่เดินทางไปสังเกตสุริยุปราคาวงแหวนทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน </CENTER>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>ภาพเงาของสุริยุปราคาวงแหวนเมื่อเวลา 16.46 น. ซึ่งลอดผ่านจากช่องว่างระหว่างใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ และตกกระทบลงบนพื้นเบื้องล่าง บันทึกโดย ทีมสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ที่เดินทางไปสังเกตสุริยุปราคาวงแหวนทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน </CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>สองหนุ่มชาวจีน นั่งชมความงามของสุริยุปราคาวงแหวนในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน (รอยเตอร์) </CENTER>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>วงแหวนแห่งดวงตะวัน เหนือท้องฟ้าเมืองฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสุริยุปราคาวงแหวนครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่เกิดวงแหวนยาวนานที่สุดในสหัสวรรษนี้ (รอยเตอร์) </CENTER>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>สุริยุปราคาวงแหวนที่มองจากท้องฟ้าเมืองเหลียนหยุนกั่ง มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน (รอยเตอร์) </CENTER>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <CENTER>สุริยุปราคาวงแหวนเหนือเกาะราเมศวรัม (Rameshwaram island) ประเทศอินเดีย (เอเอฟพี) </CENTER>
    จากผู้จัดการออนไลน์ครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    5555555 มาให้ชมข้างหลัง ตาลุงนี่สงสัยจะอ่านกระทู้จนปรุไปหมดแล้ว เลยรู้ style คนนั้นคนนี้...

    พอเห็นภาพอะไรไม่รู้ อ่านไล่มาเจอว่า ที่ไหน... ผู้เสก...ก็รู้สึกวูบกระแทกจุกที่อก จึงน่าจะเป็นกระแสของพระอริยเจ้า เสกด้วยวาโยกสิณ แต่ยังไม่ถึงขั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพิมพ์ในลักษณะนี้ มี ๒ พิมพ์ที่น่าเป็นไปได้ คือพิมพ์หนึ่งเป็นพิมพ์ปางอุ้มบาตร หรือพิมพ์ปางห้ามสมุทร และอีกพิมพ์เป็นพิมพ์ไพ่ตอง ที่มีภาพพระพุทธเจ้า ประทับนั่งเป็นชั้นๆขึ้นไป หรือประทับนั่งบนฐานสูง และเป็นพิมพ์ปรกโพธิ์ แต่ด้านหลังล่างขวามีลายนิ้วมือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าแทนพิมพ์ด้านหน้ามากมาย ตาลุงน่าจะถนัดซ้ายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...