พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เรียน ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน
<O</O

สืบเนื่องในวันงานครบรอบ 2 ปี ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร (ในวันที่ 27 ธันวาคม 2552) ผมได้พบกับพี่เอื้อยได้คุยกันในเรื่องต่างๆรวมทั้งได้คุยกันเรื่องของพระบรมสารีริกธาตุพี่เอื้อยได้บอกกับผมว่าพี่เอื้อยจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ไปบรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆไปถวายตามวัดต่างๆหรือ อัญเชิญบรรจุไว้ในพระพุทธรูปตามวัดต่างๆผมบอกว่าผมขอถวายพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดมที่ผมมีอยู่ที่บ้านไปบรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆไปถวายตามวัดต่างๆหรืออัญเชิญบรรจุไว้ในพระพุทธรูปตามวัดต่างๆด้วยซึ่งพี่เอื้อยได้โมทนาบุญกับผม<O</O
<O</O

ผมเองก็ได้ไปพบเห็นการขายพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่แต่ผมเป็นผู้ที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากที่มีคนนำพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปขายเพื่อเลี้ยงปากท้องของตนเองกรรมที่กระทำนั้นส่งผลอย่างมหาศาลกับคนที่ขายแต่เรื่องกรรมนี้ก็คงปล่อยไปตามกรรมของผู้ที่กระทำน่าจะดีที่สุด<O</O
<O</O

จากสองเรื่องที่ผมได้บอกไปผมจึงมีความคิดในการที่จะบอกบุญเพื่อรวบรวมเงินในการไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (ที่มีผู้ที่วางขาย)เพื่อที่จะได้อัญเชิญมอบให้พี่เอื้อยไปบรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆไปถวายตามวัดต่างๆหรือ อัญเชิญบรรจุไว้ในพระพุทธรูปตามวัดต่างๆในการทำบุญครั้งนี้ ทำตามกำลังของสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า กันนะครับ<O</O
<O</O

โดยผมจะเปิดบัญชีใหม่เพื่อใช้ในการนี้ผมจะได้ไม่งงกับยอดเงินที่อยู่ในบัญชีผมและ สามารถตรวจสอบได้ง่าย
<O</O
<O</O
ผมจะเปิดบัญชีใหม่ (เมื่อผมเปิดบัญชีแล้ว ผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า ผมได้เปิดบัญชีเพื่องานบุญนี้)หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญให้แจ้งบนบอร์ดผมจะได้ส่งหมายเลขบัญชีให้กับท่านที่ประสงค์จะร่วมทำบุญในเรื่องนี้ และ หากว่า จำนวนเงินที่โอนมา มากกว่าจำนวนเงินที่ผมจะไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ผมขออนุญาตนำไปร่วมทำบุญในกรณีอื่นๆครับ (ผมขอให้เปิดกว้างไว้สำหรับการทำบุญครับ)<O</O
<O</O

โมทนาบุญกับทุกๆท่าน

<O<Oกลุ่มชมรม พระวังหน้า กระทู้ ชมรมรักษ์พระวังหน้า หน้าที่ 7

พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ หน้าที่ 1788 เป็นลิงค์</O

 

หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



<TABLE class=infobox style="FONT-SIZE: 90%; WIDTH: 21em" cellSpacing=2><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left">ชื่อจริง</TD><TD>หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left">ชื่อเล่น</TD><TD>คุณชายหมึก</TD></TR><TR><TD width=85>เกิด</TD><TD>28 พฤษภาคมพ.ศ. 2470 (อายุ 82 ปี)
วังเพชรบูรณ์กรุงเทพ
</TD></TR><TR><TD>คู่สมรส</TD><TD>หม่อมหลวงประอร (จักรพันธุ์) มาลากุล (2495 - 2501)
นางโรจนา สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา (2505 - ปัจจุบัน)
</TD></TR><TR><TD>อาชีพ</TD><TD>นักชิม นักจัดรายการโทรทัศน์ นักเขียน นักร้อง นักแสดง</TD></TR><TR><TD>ปีที่แสดง</TD><TD>พ.ศ. 2486 - ปัจจุบัน</TD></TR></TBODY></TABLE>

หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ (28 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 <SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP> - ) นักเขียนและนักจัดรายการโทรทัศน์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการแนะนำและจัดระดับความอร่อยของร้านอาหาร ในชื่อ "เชลล์ชวนชิม" ทางหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 <SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP> โดยดัดแปลงมาจาก "มิชลินไกด์" ของผลิตภัณฑ์มิชลิน <SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP> และจัดรายการโทรทัศน์ "การบินไทยไขจักรวาล", "ครอบจักรวาล" ติดต่อมานานหลายปี นอกจากนี้ยังเป็นนักร้องเพลงลูกกรุง เพลงที่มีชื่อเสียง เช่น ข้องจิต, สีชัง, ยามรัก, หวงรัก, วนาสวาท, ระฆังทอง
หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เป็นโอรสคนโตของหม่อมเจ้าเฉลิมศรีสวัสดิวัตน์ สวัสดิวัตน์ และหม่อมเจริญ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา เกิดที่วังเพชรบูรณ์ (ปัจจุบันคือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์) เติบโตอยู่ภายในวังสระปทุม <SUP class=reference id=cite_ref-3>[4]</SUP> ศึกษาที่โรงเรียนราชินีและเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในปี 2481 มีเลขประจำตัวนักเรียน ท.ศ.5444 จนจบชั้นมัธยมในปี 2485 นับรุ่นคือนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์รุ่นปี 2485 และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง พร้อมกับเริ่มร้องเพลงหารายได้ ช่วงหลังสงครามได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ได้เป็นนักจัดรายการให้กับสถานีวิทยุบีบีซีภาคภาษาไทย เมื่อเดินทางกลับประเทศไทย ได้เป็นนักร้องให้กับวงสุนทราภรณ์ และแสดงละครโทรทัศน์ทางช่อง 4 บางขุนพรหม
ปัจจุบัน หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ยังเขียนบทความประจำให้กับหนังสือพิมพ์มติชน และไทยรัฐ และจัดรายการโทรทัศน์ร่วมกับบุตรชาย ในปี พ.ศ. 2551 ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นนักเขียนอาวุโส รางวัลนราธิป ล่าสุดในปี พ.ศ. 2551 ได้รับคัดเลือกเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาการแสดง
หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ มีโอรสกับหม่อมหลวงประอร มาลากุล (หย่าขาดกันและสมรสใหม่กับ หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์) 2 คนคือ หม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ (หมึกแดง) และ หม่อมหลวงเพิ่มวุทธ์ สวัสดิวัตน์ (จิ๋ว) และมีบุตรกับนางโรจนา สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม สวนรัตน์) คือ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ (อิงค์) <SUP class=reference id=cite_ref-4>[5]</SUP>
อ้างอิง


^ 80 ปี หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
^ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้สร้างตำนาน "นักชิมอาหาร"
^ Scene4 Magazine: Return to Me - M.R. Thanadsri Svativas | Janine Yasovant - in THAI
^ ชีวิตที่เกินคำบรรยาย
^ แถมสิน รัตนพันธุ์.
ตำนาน "ลึก(ไม่)ลับ"' ฉบับ ทระนง ฅนหนังสือพิมพ์ -- กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ร่วมด้วยช่วยกัน, พ.ศ. 2548. (ISBN 974-9785-33-9)


--------------------------------------------------------<!-- google_ad_section_end -->

ดำรง พุฒตาล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ดำรง พุฒตาล (31 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 - ) นักธุรกิจและนักสื่อสารมวลชน อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร จากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 เป็นเจ้าของนิตยสารคู่สร้างคู่สม เคยเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์หลายรายการ ทางช่อง 5 เช่น รายการคู่สร้างคู่สม รายการอาทิตย์ยิ้ม รายการพระจันทร์แย้ม สุขสันต์วันเสาร์ ครอบครัวบันเทิง บีอาร์โบนัส ลูกทุ่งสิบทิศ เกมเปิดโลก แม่บ้านที่รัก ฯลฯ ดำรง พุฒตาล เป็นพิธีกรคนแรกของรายการเจาะใจ
ดำรง พุฒตาล เกิดในครอบครัวมุสลิม เป็นพี่ชายคนโตของ มาโนช พุฒตาล นักดนตรี พิธีกร และนักจัดรายการวิทยุ มีน้องสาวคนหนึ่ง แต่เสียชีวิตแล้วด้วยโรคภูมิแพ้ ชื่อ ขนิษฐา พุฒตาล เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์เช่นกัน ขนิษฐาเคยเป็นพิธีกรหญิง รายการมวย คนแรกๆ ของไทย (ก่อนหน้า เมทินี กิ่งโพยม)
ในสมัยเรียนหนังสือที่วิทยาลัยครู ดำรง พุฒตาลเคยเป็นนักดนตรี เล่นตำแหน่ง กลองชุด และเคยออกเพลงลูกทุ่งที่ถือว่าดังพอสมควรในยุคหนึ่งกับเพลง "พี่ติดประชุม"<SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP>
อ้างอิง

1. ^ มาโนช พุฒตาล, ชีวิตที่เจ็บปวดของคนป่วย, 2549

ดำรง พุฒตาล - วิกิพีเดีย

--------------------------------------------------------

 

เรียน ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

ผมมีแนวคิด(อีกแล้ว) ว่า หากท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน ไปทำบุญที่ไหน หรือ ไปเที่ยวสถานที่ไหน ผมอยากให้ทุกๆท่านนำเรื่องราวมาลงในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ จะได้ให้ทุกๆท่านมาร่วมกันโมทนาบุญ และ ชมสถานที่ที่ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า ได้ไปเที่ยวกัน เผื่อท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า ท่านอื่นๆที่ไม่ได้ไป จะได้ชมรูปผ่านกระทู้นี้กันครับ

ขอบคุณครับ

กลุ่มชมรม พระวังหน้า กระทู้ ชมรมรักษ์พระวังหน้า หน้าที่ 8 </O
<O</O
<Oพระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ หน้าที่ 1788 เป็นลิงค์
.

 

สำหรับช่วงวันหยุด ( 31 - 1 ธันวาคม 2552 , 2 - 3 มกราคม 2553) ผมไม่ได้เข้ามาในกระทู้พระวังหน้าฯนะครับ เนื่องจากคอมฯที่บ้านเสีย ยัง(หาเวลาว่าง)ไม่ได้ยกไปซ่อมเลย

ว่าจะหาเวลาไปต้นเดือนหน้าครับ

 

สำหรับช่วงเวลาดังกล่าว ผมก็เดินทางไปบ้าน ตจว. อาจแวะมาเยี่ยมเพื่อสวัสดีปีใหม่ (ผ่านมือถือ) ... ขอให้อาการเสีย...หายไวๆ ไว้เจอกันหลังปีใหม่ครับพี่

 

ขอบคุณครับ

อย่าลืมนำรูปสวยๆมาฝากกันนะครับ

 

วันนี้ลาพักร้อน จึงไปทำบุญ,ไหว้พระ ครับ

1. วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม
2. วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร
3. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
4. วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร
5. บริจาคช่วยคณะฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
6. สมทบทุนซื้อที่ดินสร้างวัด / ขยายพื้นที่ มจร
7. ศาลหลักเมือง
8. วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

ผมขอน้อมอุทิศ กุศลผลบุญ แก่กัลยาณมิตร ทุกท่าน ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตือนภัยรูปแบบใหม่ อ้างชื่อตำรวจ ปอศ.ขู่โอนเงินชำระหนี้
Crime - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 ธันวาคม 2552 17:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ.แถลงข่าวเตือนภัยรูปแบบใหม่</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>รองผู้การตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แถลงเตือนภัยคนร้ายอ้างชื่อตำรวจหลอกให้โอนเงินภาษี และชำระหนี้ มีผู้เสียหายแล้ว 2 ราย โดยตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยคนร้าย เชื่ออีกไม่นานได้ตัวแน่

วันนี้ (29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ. กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. พร้อม พ.ต.ท. ก้านณรงค์ นิลฆมล พงส.(สบ 2) กก.2.ปอศ. แถลงข่าวเตือนภัยประชาชนเกี่ยวกับวิธีการฉ้อโกงของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่เคยแอบอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรในการขอคืนภาษีทางตู้เอทีเอ็ม โดยพวกกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้เปลี่ยนการแอบอ้างมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)

พ.ต.อ.กิตติ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้มีการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 คนร้ายจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร โดยใช้วิธีการทางเทคโนโลยีใช้หมายเลขโทรศัพท์ของธนาคารโทรเข้าไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย และใช้วิธีการพูดจาหลอกล่อในทำนองว่าผู้เสียหายเป็นหนี้กับธนาคารให้ทำการชำระหนี้ หากผู้เสียหายหลงกลก็จะโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มพวกมิจฉาชีพ

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวต่อว่า หากผู้เสียหายไม่หลงเชื่อ ทางกลุ่มมิจฉาชีพก็จะดำเนินการต่อในขั้นที่ 2 โดยการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยใช้หมายเลข 0-2237-1199 โทร.ไปข่มขู่ผู้เสียหาย และอ้างชื่อของตนกับ พ.ต.ท.ก้านณรงค์ ว่าหากไม่ชำระหนี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวต่อว่า หมายเลขดังกล่าวนั้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ของทาง บก.ปอศ.จริง แต่จะใช้สำหรับโทร.เฉพาะภายในหน่วยงานเท่านั้น ไม่สามารถโทร.ออกไปต่างจังหวัดหรือโทร.เข้ามือถือได้ เนื่องจากได้ทำการบล็อกหมายเลขดังกล่าวเอาไว้ หากผู้เสียรายใดโทร.เข้ามาตรวจสอบก็จะทำให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้กลุ่มมิจฉาชีพในที่สุด

“ทาง ปอศ.ได้เร่งสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เบื้องต้นพอทราบเบาะแสแล้วว่าเป็นกลุ่มชาวจีน มีฐานบัญชาการอยู่ใน จ.เชียงใหม่ โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ตโทร.หาผู้เสียหาย นอกจากนี้ พบผู้เสียแล้ว 2 ราย โดยเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช กับ จ.ชลบุรี” พ.ต.อ.กิตติ กล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตำรวจทางหลวง แนะเส้นทางเที่ยวปีใหม่ ให้ฉลุย

<A href="http://hilight.kapook.com/view/45021" target=_blank>?ӃǨ?ҧ˅ǧ Ṑ???ҧ෕肇?գˁ蠣˩?ئlt;/a>

ตร.ทางหลวง แนะเส้นทางเที่ยวปีใหม่ให้ฉลุย (ไทยรัฐ)

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ในฐานะโฆษก บก.ทล. กล่าวกับ ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ผู้ใช้รถใช้ถนนนิยมใช้เส้นทางหลักออกจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว คือ มุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือใช้ถนนมิตรภาพ ภาคเหนือถนนสายเอเชีย และภาคใต้ใช้ถนนเพชรเกษม โดยทั้ง 3 เส้นทางการจราจรจะเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เย็นวันที่ 30 ธ.ค. กับเช้าวันที่ 31 ธ.ค.รวม 2 รอบ ดังนั้น ตำรวจหลวงจึงเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่ นอกจากนั้น บางช่วงจะร่วมกับตำรวจท้องที่เปิดช่องทางพิเศษ คือ ให้รถวิ่งสวนเลนครั้งละประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือตามสถานการณ์

สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางนั้น ตำรวจทางหลวงแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยงและทางลัดจากถนนหลัก ซึ่งอาจจะเพิ่มระยะทางบ้าง แต่ประหยัดเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันต้องฟังข่าวประชาสัมพันธ์ควบคู่เพื่อให้การตัดสินใจใช้เส้นทางทันต่อสถานการณ์ ซึ่งเส้นทางเลี่ยงและทางลัดที่แนะนำมีดังนี้

เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือมี 2 เส้นทาง คือ

1. เส้นทางถนนเพชรเกษม-นครปฐม ถนนวงแหวนตะวันตก ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี อ.หันคา - จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์

2. เส้นทางถนนเพชรเกษม-นครปฐม ถนนวงแหวนตะวันตก -ถนนรัตนาธิเบศร์ ขึ้นด่วนอุดรรัตยา-ลงด่วนบางปะหัน ใช้ทางหลวงสาย 347 ออกสายเอเชียที่ต่างระดับบางปะหันกิโลเมตรที่ 35 มุ่งหน้า จ.อ่างทอง จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์

เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคใต้มี 3 เส้นทาง

1. เส้นทางถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล แยกนครชัยศรี ถนนเพชรเกษม สู่ภาคใต้

2. เส้นทางด่วนดาวคะนอง ถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสมุทรสาคร สมุทรสงคราม แยกวังมะนาว ถนนเพชรเกษม
มุ่งหน้าสู่ภาคใต้

เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก มี 2 เส้นทาง

1. เส้นทางขึ้นด่วนบางนา ขึ้นยกระดับบูรพาวิถี ผ่าน อ.บางพลี อ.บางปะกง จ.ชลบุรี มุ่งสู่ภาคตะวันออก

2. เส้นทางด่วนศรีนครินทร์ ถนนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก

3. เส้นทางถนนวงแหวนตะวันออก ถนนสุขุมวิท ถนนวงแหวนตะวันตก อ.พระประแดง ถนนพระราม 2
แยกวังมะนาว ถนนเพชรเกษม มุ่งสู่ภาคใต้

เส้นทางมุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 3 เส้นทาง

1. เส้นทางถนนวงแหวนตะวันออก-ลงต่างระดับธัญบุรีผ่าน อ.องครักษ์ ถึงแยก อ.บ้านา ใช้เส้นทางบ้านนา-แก่งคอย-ถึงต่างระดับแก่งคอยใช้ถนนมิตรภาพ ผ่าน อ.มวกเหล็ก-อ.ปากช่อง มุ่งสู่ จ.นครราชสีมา

2. เส้นทางถนนรังสิต-นครนายก ผ่าน อ.ธัญบุรี อ.องครักษ์ อ.ปากพลี อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี ใช้ถนน กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ผ่าน อ.วังน้ำเขียวอ.ปักธงชัย มุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

3. เส้นทางถนนสุขุมวิท ผ่าน อ.บางบ่อ อ.บางปะกง ใช้ถนน กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ผ่าน อ.วังน้ำเขียว อ.ปักธงชัย มุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

4.เส้นทางถนนพหลโยธิน บายพาส จ.สระบุรี ถนนพุแค-หล่มสัก มุ่งหน้าสู่ จ.ชัยภูมิ หรือ มุ่งหน้า จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลกได้

พ.ต.อ.พินิต กล่าวอีกว่า ตลอดการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนจุดบริการประชาชนของตำรวจทางหลวงทั้ง 217 จุดทั่วประเทศ พร้อมให้บริการผู้ใช้รถใช้ถนน เช่น การตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์เบื้องต้น ชา กาแฟ น้ำเย็นและน้ำดื่มโดยไม่เสียค่าใช่จ่าย ส่วนในกรณีเกิดเกตุไม่คาดฝันสามารถโทรศัพท์ไปยังคอลล์เซ็นเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวงทางหมายเลขโทรศัพท์ 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยขอให้ทุกคนยึดกฎจราจรอย่างเคร่งครัดและเมาไม่ขับเพื่อให้เป็นเทศกลางแห่งความสุขอย่างแท้จริง




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

สวัสดีปีใหม่2553ทุกๆท่านนะครับ ขอให้มีความสุขความเจริญสมหวังกันทุกท่านครับ หุ หุ
nongnooo...

 

หลังจากหายหน้ากันไปนานกับภารกิจต่างที่ เพิ่งจะได้เข้ามาวันนี้เอง มี PM เข้ามาถึงจากน้องท่านหนึ่งสอบถามเรื่องของคาถาเงินล้าน ดูไปมาเลยเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับชาวรักษ์พระวังหน้ากัน

อันนี้ไม่เคยได้ยินมาจากหลวงพ่อ หรือบันทึกของหลวงพ่อเล่มใดครับ อันที่จริงควรต้องวิเคราะห์กันว่า เหตุใดจึงต้องสวดคาถาบทนี้เมื่อจะสวดบูชาร.๑ ดูแล้วไม่น่าเกี่ยวข้องกันเลยครับ อีกทั้งจากบันทึกของหลวงพ่อก็ระบุว่า หลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านได้คาถาเงินล้าน(ต้องย้ำว่าคาถาเงินล้าน ไม่ใช่คาถาวิระทะโย นะครับ ด้วยสาเหตุใด เดี๋ยวจะขยายความให้ทราบอีกที) โดยตรงจากสมเด็จฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เป็นเวลา ๔ ปีจึงได้ครบถ้วน และเมื่อวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๒๕๒๗ เวลา ๒๓.๕๙ น. องค์สมเด็จฯได้อนุญาตให้ลูกหลาน และพุทธบริษัทใช้ได้เป็นสาธารณะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจที่ย่ำแยอีกทั้งการก่อสร้างของวัดท่าซุงจะต้องเร่งรัดให้เสร็จทันฉลองวัดในปี ๒๕๓๒ จึงจำเป็นต้องใช้คาถาเหล่านี้ช่วย เพื่อพุทธบริษัท และลูกหลานของหลวงพ่อมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น

"นาสังสิโม" ..หลวงพ่อท่านให้เพิ่มเมื่อปี ๒๕๓๒

ส่วน" เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ " พระปัจเจกพุทธเจ้ามาบอกหลวงพ่อเมื่อเดือน พ.ย. ๒๕๓๓ เป็นภาษาโบราณ แต่เทียบกับภาษาไทยแล้วอ่านได้อย่างนี้ เป็นคาถามหาลาภ...

ส่วนที่พี่ได้เกริ่นแทรกไว้ช่วงคาถาเงินล้าน กับคาถาวิระทะโย นั้น มีความต่างกันในเรื่องของที่มา เราจึงควรทำความเข้าใจ จะได้ไม่สับสน เวลาบริกรรม จะเกิดความเข้าใจ และระลึกถึงผู้ที่บอกพระคาถาเรามา หรือเจ้าของคาถาคนแรกที่คิดค้นขึ้นมา คล้ายกับว่าหากเราเข้าใจตรงนี้ เวลาสวดจะเกิดความอิ่มเอิบประหนึ่งรับประสิทธิ์คาถาจากเจ้าของคนแรก หรือองค์แรก

คาถาวิระทะโย เป็นพระธุดงค์รูปหนึ่งมอบให้ครูผึ้ง พระธุดงค์รูปนั้นบอกว่าเป็น คาถาของพระปัจเจกพุทธเจ้า พระท่านปักกรดอยู่หลังบ้านครูผึ้ง ๗ วัน แล้วครูผึ้งก็ถวายของให้ท่านทั้ง ๗ วัน ก่อนที่พระท่านจะไป ก็ได้ให้คาถาบทนี้ไว้ให้ท่าน รายละเอียดต่างๆสามารถอ่านได้จากหนังสือพระคาถา"เงินล้าน" รู้สึกว่าเล่มละ 5 บาท หรือ 10 บาท พี่ก็จำไม่ได้แล้ว

จะเห็นว่าที่มาของพระคาถา ๒ บทนี้มีที่มาต่างกัน แต่มีความคล้ายกันในบางท่อน เหตุที่พี่ต้องร่ายยาวให้ฟังเพราะสาเหตุว่า ครั้งหนึ่งเคย post ไว้ด้วยความเข้าใจผิดในรายละเอียด เลยไปเติมส่วนของคาถาวิระทะโย จนกลายเป็นคาถาเงินล้าน แต่กลับบอกที่มาซึ่งเป็นเรื่องราวของคาถาวิระทะโย พี่ใหญ่ท่านก็กล่าวเตือนมา และก็เป็นความจริงตามนั้นด้วยว่า พี่เข้าใจผิดไปเอง การถ่ายทอดธรรมเราจะผิดพลาดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นผลกรรมการถ่ายทอดผิดๆนั้นจะทำให้เป็นปัญญาอ่อน จึงต้องระมัดระวังกันไว้...

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ได้เปิด PM มาดู เพราะเพิ่งจะเข้ามา หลังจากไม่ได้เข้ามาร่วมเดือนเนื่องจากติดภารกิจที่แห่งหนึ่งไม่มี internet ใช้ และหากลองดูจะเห็นว่าพี่มาเห็นเอาตอนวันที่ ๓๐ ธ.ค. ๕๒ หากพิจารณาแล้ว วันพรุ่งนี้ คือวันครบรอบ ๒๕ ปี ที่องค์สมเด็จฯท่านอนุญาตให้หลวงพ่อบอกลูกหลานเอาไว้ใช้ได้ ดังนั้นจึงควรจะต้องทำสมาธิสวดคาถาเงินล้านนี้พร้อมทั้งระลึกถึงพระคุณขององค์สมเด็จฯ และทำสมาธิถึงอุปจารสมาธิ เงินจะคล่องตัว แต่หากเข้าถึงปฐมฌานขึ้นไป เงินก็จะขังตัว ไม่ใช่พอใช้เท่านั้น แต่เหลือใช้เลย หลวงพ่อย้ำว่า ต้องทำได้ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไปเท่านั้น

เมื่อทราบแบบนี้แล้ว เวลาที่ควรต้องทำจิตเข้าถึงปฐมฌานคือเวลา ๒๓.๕๙ น.ของวันที่ ๓๑ ธ.ค. ก่อนเข้าปีใหม่สากลเพียง ๑ นาทีเท่านั้น ...

 

ว่าไปแล้ววันสิ้นปีของปีนี้"บังเอิญ"ไปตรงกับวันพฤหัสบดี และเป็นวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นเทวีฤกษ์ และยังมีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติบังเกิดเป็นจันทรุปราคาแบบบางส่วน(partial lunar eclipse)กึ่งกลางอุปราคา เวลา ๐๒.๑๔ น.ทางโหราศาสตร์ยังนับเป็นคืนวันที่ ๓๑ ธ.ค. อยู่ หลังจากว่าทำสมาธิบริกรรมคาถาเงินล้านกันไปเมื่อเวลา ๒๓.๕๙ น. จนเวลา ๒.๑๔ น. นี่น่าจะสวดบูชาพระราหูก็จะดีนะครับ เหตุเพราะพระราหู(๘)เข้ามามีบทบาทในเรื่อนศุภะ(เรื่อนที่๙)ของดวงเมือง + ดวงโลก วงการโหรเขาตีว่าราหูอยู่ในเรือนศุภะ จะมีความเสี่ยงภัยด้านการดื่มกินเหล้ายาปลาปิ้ง ความบันเทิง และนารี เกี่ยวกับศีลข้อ ๓ นั่นแหละครับ ก็เป็นการนำสภาวะที่ไม่ดีนี้ ให้เข้ามาอยู่ในร่องในรอยด้วยการทำสมาธิเสียเลย
​

ความประจวบเหมาะของเหตุการณ์ต่างๆนี้ หากใช้ฤกษ์ยามให้เป็นจะเป็นคุณประโยชน์กับผู้ใช้มากเลยครับ

 

ไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม คุณน้องนู๋ได้PM เรื่องสมเด็จวังหน้าหรือเปล่า จากคนผู้หนึ่ง หากไม่ได้รับ จะส่งไปให้อ่านครับ หุ..หุ...

 

ยังเลยครับ

คงไม่มีใครส่งให้ผมล่ะมั้งครับ



.

 

สวัสดีปีใหม่ ปี 2553

ขอให้มีความสุข มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่งดงามกันทุกๆท่านครับ

ด้วยรัก
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong<!-- google_ad_section_end -->

<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2789889", true); </SCRIPT>

 

"จีวรดอก"นี้ มีที่มา....
โพสโดย คุณ"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)

พุทธวงศ์

"จีวรดอก" อันนับเอกลักษณ์แห่งเอกปฏิมาเฉพาะพระพุทธรูปสมัย"รัตนโกสินทร์"เป็นการเฉพาะ ซึ่งหลายๆท่านอาจจะนึกสงสัยว่า มีที่มาที่ไปเป็นเช่นไร..????





เคยได้ทราบมานานแล้วว่า "จีวรดอก"นั้น แท้จริงแล้ว นายช่างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ได้เลียนแบบ"ผ้าต่างประเทศ" ที่มีการทอเนื้อผ้าเป็นลายดอกดวงเล็กๆ คล้ายกับดอกพิกุล อันนับเป็นของแปลกใหม่ในสมัยนั้น ทำให้เป็นที่นิยมถือเป็นของดีมีค่าสูง เหล่าทายกทายิกาผู้มีศรัทธา ปรารถนาจะถวาย"ประณีตทาน"เลยนำผ้าลายดอกนี้มาตัดย้อมเป็นจีวรถวายพระภิกษุ จนเป็นที่ปรากฏแพร่หลายโดยทั่วไป อันเป็นแรงบันดาลใจอย่างสำคัญในมีการประดิษฐ์"พระพุทธรูปจีวรดอก"ขึ้นมาด้วยประการฉะนี้...




แต่นั่น ก็เป็นเพียง"เรื่องเล่า"กันมาเท่านั้น
แต่ก็ยังหาได้เคยพบพาน"ผ้าลายดอก"ของจริง ซึ่งเป็นปฐมกำเนิดของ"จีวรดอก"แต่อย่างไรเลย
จนกระทั่ง เมื่อครั้งที่ได้รับมอบ"ชายจีวร" ของ"สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน วัดราชสิทธาราม กรุงเทพมหานคร"ซึ่งเป็นพระบรมราชอุปัชฌายาจารย์แห่งรัชกาลที่ 1-4 และเจ้านายชั้นสูงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ "พุทธวงศ์"จึงได้แจ้งใจสิ้นเชิงทุกประการ........



ดูกันชัดๆจะๆ สำหรับรูปหล่อ"พระสงฆ์จีวรดอก" ยุคโบราณ(หลวงปู่ทับ วัดทอง กรุงเทพ)ที่หาดูหาชมได้ยากยิ่งที่สุด(ภาพนี้ ถ่ายติดแสงลึกลับด้วย)



ที่มา พุทธวงศ์

http://palungjit.org/%BE%C3%D0...ml#post1907020 หน้าที่ 1434

 

ขอบคุณครับ

ผมเคยเห็นแล้วครับ

แต่ความรู้ที่เข้าไปดู ก็ธรรมดามากๆ ยังไม่มีความรู้ในการแยกพระวังหน้า , พระวังหลวง ,พระวังหลัง และพระเทียมเลียนแบบ ออกจากกันเลยครับ ยังดูแท้เป็นเก๊ เก๊เป็นแท้อยู่หลายๆเรื่องครับ

พระวังหน้า เป็นพระที่เลือกผู้ที่ไปอยู่ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับวาสนา และ บารมี

ผมรู้แต่ว่า ผู้เขียน ได้ความรู้จากกระทู้พระวังหน้าฯ นี้ไปพอสมควร แต่ความรู้ในกระทู้พระวังหน้าฯที่ผมได้ลงไปนั้น ผมลงไปเพียงเล็กๆน้อยๆ เท่านั้นเอง

 

13-12-2009 10:50 AM
zeedflower

มาชมได้นะครับฟรีตลอดงาน ไม่เสียตังค์ แล้วก็สบายใจไม่มีใครบังคับ ลิงค์นี้เลย >>ทั้งสมเด็จวังหน้าและวัดพระแก้วความรู้เพียบเชิญจ่ะ >>>>>>> รวมสุดยอดสมเด็จวัดพระแก้ว

---------------------------------------------

ผมเคยเห็นในห้องรับแขก(Profile ) ของสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าหลายๆท่านแล้วครับ

เป็นคนที่ผมให้ออกจาก กลุ่มชมรม > พระวังหน้า เองครับ
(PaLungJit.com > กลุ่มชมรม > พระเครื่อง-วัตถุมงคล > พระวังหน้า)

เสียเวลาที่เข้าไปอ่านครับคุณเพชร

 

ที่สำคัญ ลอกไปแล้วยังไม่ลง ที่มา(แหล่งอ้างอิง)ให้อีก เหอๆๆๆ

 

โมทนาสาธุครับ ... กลับมาได้เวลาแนะนำสิ่งดีๆพอดีเลยครับ