ดูดวง ตรวจเจ้ากรรมนาย เวร โดยนักปฏิบัติ อ.ก๋ง พรหมบุตร

ทุกคนที่เกิดมานี่มีกรรมเป็นตัวกำหนดของแต่ละคนอยู่แล้ว
การที่เขามีแฟน2คนนี่ ก็เป็นเพราะกรรมทำมาชาตินี้จึงต้อง
มามีแฟนร่วมกัน ต่อให้เขาเข้าใจธรรมมะและนั่งสมาธิยังไงเมื่อถึงเวลา
รอยกรรมมันมาบรรจบกันยากแก่การหลีกพ้น ไม่ต้องดูอื่นใคร
ดูอ.เราเป็นตัวอย่างก็พออย่างแกนี่ต้องมีมากกว่า 2 ไม่ต้องว่าเขา
เลยว่ารู้แล้วยังทำ จะโทษก็ต้องโทษว่าเป็นเพราะกรรมค่ะ มันเป็น
กฏแห่งกรรม เมื่อเข้าใจว่าเป็นกรรมก็จะทำใจได้และปัญหาจะไม่เกิด
สมบัติผลัดกันชม ตายไปก็เอาไปไม่ได้ นอกจากกรรมดีกรรมชั่วเท่านั้น
จะติดตัวไปตอนตาย และหมั่นภาวนาก่อนตายจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี
เอวังก็มีด้วยประการะฉะนี้

 

ตรวจดวงชะตาทางโทรศัพท์ได้หรือเปล่าค่ะ อยู่ต่างจังหวัดอ่ะจ้า
อยากดูๆๆๆๆ

 

ดีใจจังเลยคะ วันนีพี่นพพาน พูดได้ พระธรรม ดีมาก 55+ซูฮกๆๆๆ

555+ กฏแห่งกรรม --- Law Of Karma 555+

ถ้ามันเกิดจากกรรมเก่าก็ไม่ว่าเจ้าคะ... แต่ถ้ามันเป็นจาก กรรมใหม่นี่นิ แตใครจะรูเนอะเป้นเพราะกรรมตัวไหน อย่างที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้จริงๆ ว่า... เรื่อง กฏแห่งกรรม เป้นเรื่อง อจินไตร... ..รู้มากเดี๋ยวเค้าจะหาว่า เป้นเหตุให้เกิดความ บ้า...555+

อย่าไปรู้มันเลย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก้มหน้าก้มตารับกรรมกันไปดีกว่า เรื่องไรไม่ดี เลื่ยงได้ก็เลี่ยงไป เลี่ยงไม่ได้ ก็ยอมรับกรรมกันไปดีกว่า .. ปวดหัว..555+

 

ด้วยความรู้แค่หางอึ่ง รบกวนถามซักนิดนะครับ (จะเอาในแง่ธรรมะหรือประสบการณ์ชีวิตก้อได้ครับ)
จริงอยู่กรรมครับเก่าบังคับให้มาพบเจอกัน แต่ผมสงสัยอยู่ว่าเจอก้อส่วนเจอ แล้วคนที่เจอนี่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่คบหาเป็นกิ๊กหรือเป็นแฟนได้หรือไม่ครับ (หากจิตใต้สำนึกบอกว่าไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียใจ) หรือว่าเค้าลิขิตมาแล้วว่าจะต้องได้คนนี้เพิ่มอีกคน โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ

 

สมแล้วที่เป็นหัตถ์ขวาและหัตถ์ซ้ายของทั่นอาจารย์ คริคริคริ

 

ถ้าไปดูดวงกับอาจารย์ที่คาร์ฟูร์พระรามสอง ควรไปประมาณกี่โมงครับ

 

ผู้ที่รู้เรื่อง กฏแห่งกรรม อย่างแท้จริง...ที่เห็นๆอยู่ มีแค่ พระพุทธเจ้า กะ พระอรหันต์ เท่านั้น...

บางที.. คนเราชอบเอาเรื่องกฏแห่งกรรม มาตอบสนองตันหา ของตนเอง โดยอ้างว่า เป็นเวรกรรมเก่า..... แท้จริงเป็นกรรมเก่าที่เค้ากำหนดมา หรือ เป็นเพราะความมักง่ายต่อตันหา ราคะ ตนเองกันแน่..
แต่ที่เห็นๆ ว่าเราจะทำอะไรสักอย่าง มันก็ขี้นอยู่กับ การตัดสินใจเรา ณ เวลานั้นไม่ใช่หรอคะ... อย่ามัวโทษกรรมเก่า หรือเวรกำเลย...จะโทษ ก็ โทษที่ตนเอง ต้านกิเลศไม่ได้ดีกว่าคะ..ฝ่ายกุศล มัน สู้ ฝ่าย อกุศลไม่ไหว แบบนี้ดีกว่าเยอะคะ...

กรรมเก่า..เวรกำ เป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ และไม่ต้องการจะให้มันเกิด.. แต่ที่เราเลือกได้นั้น มันเป็น กรรมใหม่ ทั้งสิ้น..ถึงแม้ว่า จะมีเหตุจากกรรมเก่าทำให้เราตัดสินใจแบบนั้นก็เถอะ...มันก็คือ การกระทำ..ที่เราตัดสินใจ กระทำลงไปเอง ทั้งนั้น

ดีชั่ว อยู่ที่การกระทำของตัวเองจริงๆ

เฮ้อ...ชีวิต... รีบๆไป นิพพาน ให้ได้เถอะ.. เบื่อแล้วชีวิต.. เห็นแล้ว..ภัยแห่งวัฏสงสาร... มันก็วนเวียนอยู่แบบนี้ไม่มีสิ้นสุด.. คนนั้นทำร้ายเรา เราทำร้ายคนนั้น วนไปเวียนมา..หาทางออกจากวัฏจักรนี้ไม่ได้ ไม่เจอในชาตินี้ ก็มาเจอในชาติหน้า ชาติถัดไป เคยไปทำไรใครไว้ เค้าก็จะมาทำร้ายเรา บางครั้งคนที่มาทำร้ายเรา อาจไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรเราโดยตรง อาจไม่ใช่คนที่เราเคยไปทำร้ายเค้าโดยตรง ก็ได้ อาจจะเป็นจากกรรมจัดสรร ให้มาเจอคนที่มีกรรมเหมือนๆกับเรา เพื่อ มาทำร้ายเรากลับ ก็ได้... เมื่อเห็นภัยแห่งวัฏสงสารแบบนี้... ไปให้พ้นๆกันดีกว่าคะ

 

ผมก้อเชื่อว่าการกระทำอยู่เหนือทุกสิ่ง ทำดีำได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
คุณใหม่ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะครับ อิอิอิ

 

คุนเลขาเอาฟามลับแกมาเปิด ระวังเน้อ เตรียมตัวให้ดีเด๋ววันนี้ อ.เข้าเวปมา ช๊อคๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (แต่ เอ....ตกลงมีกี่คนอ่ะ นับถ้วนมั้ย)

 

แม่ชีใหม่

ในอนาคตอันใก้ลนี้คงได้เห็นแม่ชีใหม่
เจริญในธรรมในเร็ววันค่ะ ที่สำคัญกิเลส
อย่าลืมสังหารให้สิ้นแล้วจะถึงซึ่งนิพพาน

 

คุณน้องพูดเหมือนตอนนี้คุณกำลังตกอยู่ในที่นั่งรักพี่เสียดายน้องอยู่นะ

หากจิตใต้สำนึกบอกว่าไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียใจ) หรือว่าเค้าลิขิตมาแล้วว่าจะต้องได้คนนี้เพิ่มอีกคน โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ

คุณกำลังเอาตัวคุณเป็นตัวตัดสินนะแล้วคุณไปรู้ได้อย่าไรว่าทำแบบนี้
จะทำให้อีกฝ่ายเสียใจ กลัวเขาเสียใจเลยต้องรับเป็นกิ๊กแต่ไม่กลัวเมียเสียใจ ถ้าคิดว่าลิขิตมาแล้วต้องได้คนนี้เพิ่มโดยไม่สามารหลีกเลี่ยงได้
ถ้าตามชีวิตปุถุชนโดยทั่วไปก็คือความไม่รู้จักพอความขาดความยับยั้ง
ชั่งใจขาดสติ ความมักมาก
หากตามหลักธรรม เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ให้คิดว่ามันเป็นกรรมจะกรรมเก่ากรรมใหม่อันตัวข้าพเจ้ามิอาจรู้ได้ หากรู้คงไปถึงซึ่งนิพพานแล้วตอนนี้คงอีกไกลม๊ากๆๆ ที่ให้คิดว่ามันเป็นกรรมจะได้ให้ทำใจกันเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว จะแก้ไขอย่างได้ล่ะจะต้องแย่งมาเป็นของเรา
คนเดียวหรือ ต้องเอาน้ำกรดไปสาดหน้ากันหรือ ถ้าคิดเสียว่ามันเป็นกรรมเก่ากันมาแต่ชาติปางก่อนเลยต้องมาทำให้ต้องมาใช้ชีวิต 3,4,5
คนผัวเมีย ก็ดูอย่างเต็กกอเป็นตัวอย่างมีเมียกี่คนก็รับเลี้ยงดูแถมมีอาชีพให้เมียๆทำ แค่นี้ครอบครัวก็สุขสันต์ จะไปยึดติดทำไมว่านี่
สามีตู ของตู ถามหน่อยเวลาสามีตายเน่าเหม็นนี่ยังจะไปรักไปกอดลงไหม แล้วจะยึดทำไมว่าของเราล่ะแม้แต่ตัวเราร่างกายเรานี้ก็ไม่ใช่ของเป็นสิ่งปรุ่งแต่งขึ้นทั้งนั้นๆ รู้แบบนี้แล้วจะไปยึดติดกันทำไม เรามีแต่จิต
เท่านั้นที่เป็นของเรา หรือมิใช่ หรือเป็นอมตะกัน ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายกันหรือไง จะอยู่ค้ำฟ้ากันใช่ไหม จะได้ขอขึ้นไปอยู่บนปลายฟ้าก่อน5555

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นิพ_พาน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2776645", true); </SCRIPT> เรือจอด แฮะ (เข้า ท่า) อืม...........รู้ความเป็นจริง

 

ไปตอนที่อ.อยู่ค่ะ ถ้าจะให้ดี โทรจิตไปก่อน 089-4157513
(เบอร์นี้ เอว 29รับสายค่ะ)

 

ไปกันใหญ่แร้วครับ ที่จริงผมจะถามว่าพวกที่มีกิ๊กนี่เค้าไม่กลัวเมียเสียใจเหรอครับ ไม่ใช่กลัวกิ๊กเสียใจถ้าไม่รับเป็นกิ๊กนะครับ อิอิ
แต่ถ้าเป็นผมคงทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่วิสัย และกิ๊กไม่ใช่สแตมป์ แต่จิงๆไม่มีปัญญามากกว่า แค่คนเดียวยังหาไม่ได้เรย สู้ไปหางานทำดีกว่าครับ อิอิ

 

เมื่อวานดูรายการทีวี เห็นมีพระห่มผ้าเหลือง เพิ่งจาเคยเห็น เค้าเรียกกันว่าหลวงแม่อ่ะครับ

 

คุณหมายถึงผู้หญิงหรือที่ห่มผ้าเหลือง วัดไหนคะ
ไม่เคยเห็นค่ะ แล้วมีด้วยหรือคะ

 

ภิกษุณีนันทญาณี สตรีผู้สร้าง..."อารามแห่งความดับทุกข์”


สำหรับประวัติความเป็นมา ของ ท่านภิกษุณีนันทญาณี มีนามเดิมว่า รุ้งเดือน สุวรรณ กำเนิดที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันอายุ ๕๔ ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นรุ่นที่ ๑ และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธินิโรธาราม และเป็นหัวหน้าสำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ท่านเป็นครูบาอาจารย์สั่งสอนธรรมะและเผยแผ่ธรรมะ โดยนำพระพุทธพจน์จากพระไตรปิฎกมาอธิบายทำให้เข้าใจง่าย และบอกสอนแก่บรรดาศิษย์ทั้งในและนอกสำนักจากทั่วสารทิศ นับเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี

ในอดีต น.ส.รุ้งเดือน เริ่มสนใจศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ ๒ โดยศึกษาเรื่องอริยสัจ ๔ และปฏิจจสมุปบาท จากหนังสือธรรมะของ ท่านพุทธทาสภิกขุ
ครั้งนั้นเองท่านพบว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า...ตอบคำถามชีวิตตนได้ว่า...เกิดมาทำไม ท่านพบว่า...คำสอนของพระองค์ยังชี้แนวทางสู่ความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง นับแต่นั้นมา ท่านจึงเริ่มเดินตามรอยพระพุทธเจ้า โดยเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเอง จากที่เคยแต่งตัวสวยงาม ดูหนังฟังเพลงตามประสาวัยรุ่น ที่หมุนตามกระแสในสังคมขณะนั้น หันมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มุ่งพัฒนาเรื่องจิตใจมากกว่าจะสนใจเรื่องรูปกายภายนอก
กระทั่งเมื่อขึ้นปี ๓ จึงตัดสินใจพักจากการเป็นนักศึกษาในรั้วของมหาวิทยาลัย ไปเป็นนักศึกษาในร่มพระธรรมที่สำนักปฏิบัติธรรมของท่านอุบาสิกา ที่เขาสวนหลวง จ.ราชบุรี เป็นเวลา ๑ ปี เพราะต้องการพิสูจน์ชีวิตพรหมจรรย์ด้วยการฝึกฝนอย่างจริงจัง

ประสบการณ์ครั้งนั้น ทำให้ท่านยิ่งมีความมั่นใจในแนวทางของพระพุทธเจ้า ท่านจึงได้กลับมาเรียนต่อศึกษาจนจบ และออกมาทำงานรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างเข้มแข็งเป็นเวลา ๒ ปี
และตัดสินใจเข้าสู่ชีวิตพรหมจรรย์อย่างแท้จริง ด้วยการบวชเป็นแม่ชีใน พ.ศ. ๒๕๒๓ เมื่ออายุได้ ๒๕ ปี และเลิกใช้เงินในบัดนั้น ด้วยคิดว่า แม้จะทำงานรับใช้ศาสนาและดูเหมือนเป็นคนดีในสายตาของคนทั่วไป แต่ตนรู้อยู่ภายในว่า โลภ โกรธ หลงยังมีอยู่ จึงตัดสินใจบวชเพื่อแสวงหาความสิ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง

แม่ชีรุ้งเดือน บรรพชาเป็นสามเณรี เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ และการอุปสมบทเป็นภิกษุณี เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๑ ที่ประเทศศรีลังกา ก็ต้องอาศัยความเมตตากรุณาจากพระภิกษุสงฆ์ไทย ที่ท่านให้การรับรองความประพฤติ อีกทั้งอาศัยการยอมรับ และความไว้วางใจของพระภิกษุสงฆ์ และพระภิกษุณีสงฆ์ศรีลังกา ในการทำพิธีให้ กระทั่งเมื่อกลับมาอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในประเทศไทย ก็ยังต้องอาศัยบารมีธรรมของคณะพระเถรานุเถระ อันได้แก่ พระเทพสิทธาจารย์ วิ. (หลวงปู่ทอง) ท่านเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งฝ่ายมหานิกาย และฝ่ายธรรมยุต รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ท่านเจ้าคณะอำเภอ ทั้ง อ.ดอยสะเก็ด และอ.จอมทอง ท่านเจ้าคณะตำบลดอยแก้ว และตำบลลวงเหนือ รวมถึง พระภิกษุสงฆ์ไทยอีกหลายรูป ที่ได้ให้ความเมตตาอนุเคราะห์ คณะภิกษุณีและคณะนักบวชสตรี สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม ได้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อย่างร่มเย็นเป็นสุข อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ได้มีส่วนช่วยเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาค เจ้าในรูปแบบต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน มีหน่วยงานและสถาบันต่างๆ มาขอรับการอบรมที่สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม โดยการแสดงธรรมของท่านสามเณรีนันทญาณี เป็นจำนวนมากติดต่อกันหลายปี
อาทิ เป็นสถานที่รองรับให้ผู้หญิงได้เข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนาตามแนวทางพระไตรปิฎก และใช้เป็นสถานที่ในการอบรมค่ายคุณธรรม จริยธรรม โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐบาลและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นต้น
มาขอจัดค่ายคุณธรรม จริยธรรม ตั้งแต่พ.ศ.๒๕๓๘ จนถึงปัจจุบัน รวม ๗๐ กว่ารุ่น ทั้งได้รับการเชิญไปเป็นอาจารย์พิเศษถวายความรู้แก่คณะพระภิกษุสงฆ์ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาราชวิทยาลัย (มจร.) รวมถึง หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย โรงเรียนต่างๆ เป็นต้น ด้วยศรัทธาในทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า

 

อยู่ต่างประเทศ แต่อยากให้อาจารย์ก๋งดูให้บ้างคะ ไม่ทราบว่าจะสะดวกไหม แล้วจะติดต่อและโอนเงินได้อย่างไรคะ

 

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะเพิ่งทราบค่ะ ว่ามีปกติเห็นแต่แม่ชีห่มขาวค่ะ

 

คุณดาวจรัสแสงอยู่ที่ไหนคะ อยู่เมกาหรือเปล่า ถ้าอยู่ อยู่รัฐไหนคะเพราะว่าแคลิฟอร์เนียสามารถที่จะส่งกับคนไทยได้นะคะ ที่ร้านสยามสแควร์ที่ ฮอลลี้วู๊ด หรือบ้านขนมไทย นะคะ แต่ไม่ทราบว่าบ้านขนมไทยยังรับส่งเงินอยู่หรือเปล่านะคะ เพราะไม่ได้ส่งที่บ้านขนมไทยนานแล้ว ส่งประจำที่ร้านสยามสแควร์นะคะ ค่าส่งก็ สิบเหรียญ นะคะ แล้วบัญชีก็ใส่เป็นบัญชีภาษาไทยนะคะส่งได้ทุกวันแต่ถ้าติด เสาร์ อาทิตย์ เขาจะส่งให้วันจันทร์ของที่นี่ถึงเมืองไทยประมาณบ่ายสามโมงนะคะ
เพราะได้ดูกับอาจารย์เหมือนกันนะคะ อาจารย์ก็ให้เบอร์บัญชีมาเป็นภาษาไทยนะคะ แต่ดิฉันมีลูกพี่ลูกน้องอยู่เมืองไทยเลยสะดวกหน่อยนะคะ แต่ค่าครูของต่างประเทศแตกต่างนะคะ อาจารย์คิดค่าครู ห้าร้อยบาท นะคะ แต่ไม่ทราบว่า อาจารย์จะเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าต้องถามอาจารย์เอง ตอนที่ดูนะคะ อาจารย์พูดเร็วมาก แต่แปลกจับใจความได้แหะ55555 เพราะปกติเป็นคนความจำสั้น ก็กะว่าจะโทรหาอาจารย์อีกทีไม่เกินสิ้นปีนี้ถ้าไม่ง่วงนอนเสียก่อน เพราะอาจารย์จะว่างตั้งแต่ช่วงสิบเอ็ดโมงเช้าขี้นไป ที่นี่ก็สามทุ่มแล้วเป็นเวลานอนแล้วแหละ 5555555
สัปดาห์นี้ วันนี้ก็วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ธันวาคม แล้ว จะไปส่งให้แม่เป็นของขวัญวันปีใหม่ แต่จริงๆ แล้วก็ส่งเงินให้แม่ทุกเดือนอยู่ เลยเข้าแอลเอเดือนละครั้งนะคะ จะฝากส่งให้ก็ได้นะคะ ยินดีคะ