ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. firstman

    firstman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +116
    หาเรื่องฟ้องกลับอีกข้างหมิ่นประมาทที่เผยออกมา ฟ้องกันไปฟ้องกันมา ความลับไม่มีในโลก ยังไม่สำนึกผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2009
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    การวิเคราะห์: พระผู้มีพระภาคและนอสตราดามุส บ่งว่าโลกจะแตกสลายใกล้เคียงกันคืออีกประมาณ 2500-3000 ปี จากปัจจุบัน และทั้งสองบ่งว่าพระธรรมมิกราชหรือพระศรีอารย์จะปรากฏในปัจจุบัน ฉะนั้นเรื่องนี้จึงมีความเป็นไปได้ แต่พระสงฆ์
    บางรูปสอนผู้คนโดยไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าพระศรีอารย์จักบังเกิดขึ้นมาช่วยมนุษย์ใน พ.ศ. 5000 (อจ. มหาวิรัช ป.๙ ได้กรุณาสรุปว่า เรื่องพระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อ 5,000 ปี หลังจากที่พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานนั้น ไม่มีปรากฏอยู่ในหลักฐานทางพระพุทธศาสนาใดๆ นอกจากว่าพระพุทธศาสนาจะจรรโลงไปจนถึง พ.ศ. 5,000 ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ในสังคายนาครั้งที่ 1 โดยกระทำขึ้นหลังจากพระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานแล้ว 3 เดือน พระมหากัสสปเถระประธานและผู้สอบถาม พระอุบาลี พระอานนท์ และพระอรหันต์ 500 รูป) ดังนั้นพุทธทำนายเรื่องพระพุทธศาสนาจะยืนยงไปถึง พ.ศ. 5,000 จึงตรงกับเรื่องในการสังคายนาครั้งที่ 1 สำหรับเรื่องพระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อ พ.ศ. 5,000 นั้นอาจเป็นไปได้ที่เกจิอาจารย์ท่านใดอาจได้รจนาขึ้นมาภายหลังอย่างเช่น เรื่องของพระมาลัยเป็นต้น คำถามมีอยู่ว่าพระศรีอารย์เป็นพระจักรพรรดิผู้ที่ทุกศาสนายอมรับว่าเป็นผู้นำสันติสุข ไม่ใช่พระศาสดา ฉะนั้นพระศรีอารย์จึงไม่จำเป็นต้องสอนพระศาสนาใหม่ ใช่หรือไม่ ดังนั้นพระพุทธทำนายจึงเป็นเรื่องมีเหตุผลและมีที่มาที่ไป และอีกประการหนึ่ง ในสมัย พ.ศ. 5000 จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนโลกแล้วพระศรีอารย์จะมาทำไม เพื่ออะไร สำหรับที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกว่าพระเมตไตรยจะปรากฏขึ้นเมื่อผู้คนมีอายุได้ 80000 ปีนั้น เป็นเรื่องมีพิรุธมาก คือบุตรจะต้องมีอายุเป็นสองเท่าของผู้ให้กำเนิดซึ่งผิดจากกฎธรรมชาติ
    คำถาม: พุทธทำนายและพระศรีอารย์มีที่มาที่ไปเป็นเหตุผลคือ
    1. ทำไมเหตุการณ์บ่งในพุทธทำนายถึงตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน มีหลักฐานรูปธรรมประกอบได้
    2. ผู้สลักอักษรบนศิลาต้องทราบข้อมูลของผู้มีญาณล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคต แล้วผู้มีญาณนั้นควรเป็นพระพุทธเจ้าหรือไม่
    3. ทำไมเหตุการณ์ในปัจจุบันถึงตรงกับข้อมูลในมหาปรินิพพานว่าด้วยการตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์(พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5) ที่บ่งบอกถึงแผ่นดินไหวใหญ่ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติติดต่อกัน
    4. ทุกศาสนามีหลักการสอนผู้คนต่างกัน แต่ทำไมพุทธทำนายถึงบ่งบอกเหตุการณ์ตรงกันหรือสนับสนุนกันกับคำทำนายของศาสนาอื่นๆ และยังตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุสอีกด้วย
    5. อสิตะดาบสทำนายสิทธัตถะกุมารว่าถ้าครองราชย์จักเป็นจักรพรรดิครอง 4 คาบมหาสมุทร แต่ถ้าออกผนวชจะเป็นศาสดาเอกของโลก เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะออกผนวชตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนั้นจักรพรรดิควรมีจริง สังเกตว่าทำไมท่านอินทราผู้รู้อมตธรรมที่ไม่มีผู้ใดทราบมาก่อนถึงเสียสละทรัพย์และความสุขตนไม่ใช่เพื่อเป็นจักรพรรดิ แต่เพื่อหาทางให้คนทั่วไปพิสูจน์ความจริงตามหลักวิทยาศาสตร์มาโดยตลอดกว่า 17 ปีและกล้าแสดงว่าเพื่อจะหยุดภัยพิบัติ โรคภัย วิกฤติต่างๆ และสร้างความสุขที่แท้จริงให้มนุษยโลกถ้าพิสูจน์ความจริงของท่าน แต่ถ้ามนุษย์ไม่สนใจสิ่งดีงามนี้ สิ่งเลวร้ายจักเกิดขึ้นแทนไม่หยุดซึ่งก็เป็นจริง เสียดายที่ไม่มีผู้สนใจ ไม่พิสูจน์ความจริง
    6. ทำไมเหตุการณ์ตามตำนานอายุนับพันๆปีของศาสนาต่างๆ ถึงสนับสนุนกันในเรื่องพระศรีอารย์จะปรากฏในปัจจุบัน และเหตุการณ์ตามตำนานนั้นๆ ได้เกิดขึ้นจริงในเวลาใกล้เคียงกัน เช่น วัวขาวของชาวอเมริกันอินเดียน (เกิด พ.ศ. 2537วัวแดงของชาวยิว (เกิด พ.ศ. 2539) ดาวพระเคราะห์เข้าแถว (เกิดพ.ศ. 2543) พระจันทร์สีแดง (เกิด พ.ศ.2543) เป็นต้น (ดูภาพเหตุการณ์ได้ที่ The Last Day: Event(s) ใน www.selfwisdom.net) เรื่องที่กล่าวมาไม่รวมถึงภัยพิบัติ แผ่นดินไหวใหญ่ และสิ่งอื่นๆอีกที่มีอยู่ในคำทำนายด้วย ทำไมเหตุการณ์ที่เกิดได้ยากยิ่งเหล่านี้ถึงได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สวรรค์กำหนดเรื่องเช่นนี้หรือไม่
      บางท่านคิดว่าวิบัติของเศรษฐกิจและสังคมเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่โปรดสังเกตว่าเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไม่เคยเกิดขึ้นคล้องจองกับภัยพิบัติสารพัดทิศ โรคภัยและเป็นไปทั่วโลกเช่นในขณะนี้มาก่อน มีใครบ้างคิดได้ว่ามหาภัยมาอยู่ใกล้ตัวแล้ว
      คนเราจะอยู่ด้วยความเชื่อ มีความยึดมั่นถือมั่นโดยไม่รู้อะไรจริงอะไรเท็จ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเหตุให้เกิดการแตกแยกได้ ฉะนั้นควรหรือไม่ที่จะร่วมมือร่วมใจ สนับสนุนให้พิสูจน์ความจริงของพุทธทำนายขึ้น ซึ่งมิได้เสียหายอะไร แต่จะทำให้ผู้คนมีโอกาสเห็นสิ่งที่พิสูจน์เป็นจริงได้และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าพุทธทำนายและคำทำนายของศาสนาที่สำคัญๆของโลกเป็นจริง ก็จะเป็นประโยชน์แก่คนทั้งโลกนี้และโลกหน้า (ถ้าเราเชื่อว่าตายแล้วไม่สูญ)
    การหาความจริง:
    มีผู้อ้างตนเป็นพระศรีอารย์มากมายทั่วโลกในปัจจุบัน ใครคือพระศรีอารย์พระองค์จริง เราสามารถพิสูจน์ความจริงได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ดังนี้
    1. ใช้สื่อทีวีประสานการพิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ผิดเพี้ยน เห็นภาพและได้ยินเสียง เพื่อความเป็นธรรมในการพิสูจน์ความจริงแก่ทุกฝ่ายและประชาชน
    2. เชิญผู้ที่คิดว่าตนเป็นพระศรีอารย์ส่งหลักฐานให้ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งพระและฆาราวาส ตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อส่งผู้ที่สมควรนำมาพิสูจน์แสดงหลักฐานความจริงต่อหน้าผู้คนในทุกชาติ ศาสนาทางทีวีเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาใดๆ
    3. พระศรีอารย์จริงจะไม่ใช้ความเชื่อตาม “กาลามสูตร” แต่ใช้ความจริงมีหลักฐานรูปธรรมตามตำนานของศาสนาต่างๆและคำทำนายโลกที่เป็นที่ยอมรับคือ ผู้รู้อนาคตกาล เช่น พระพุทธเจ้าโคตมหรือโคดม พระบาทสมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระพุฒาจารย์พรหมรังสี (หลวงพ่อโต) มาลาคิ พอล อิแซ ไม ค่า และนอสตระดามัส เป็นต้น ได้กล่าวถึงผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอาริย์พระองค์จริงจะสามารถพิสูจน์คำทำนายให้เป็นรูปธรรมได้ ยกเป็นตัวอย่าง เช่น
      1. 3.1 มีชื่อ นามสกุล และมีคุณสมบัติบ่งบอกชัดเจนพอประมาณ 3.2 เกิดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย
        3.3 เวลาเกิดในช่วงสงครามที่เอาชนะได้ด้วยไฟบรรลัยกัลป์หรือระเบิดปรมาณู คือสงครามโลกครั้งที่สอง
        3.4 ที่อยู่ในปัจจุบันของพระศรีอารย์ เป็นบ้านอยู่บนยอดเขาหลายลูก ซึ่งบ้านดังกล่าวอยู่ในเมืองเล็กที่ล้อมรอบอยู่ภายในเมืองใหญ่อีกที
        3.5 เป็นผู้มีความรู้ในสาขาต่างๆทั้งทางโลกและสวรรค์ แสดงให้เห็นเป็นจริงได้
        3.6 เป็นผู้รู้ศาสนาต่างๆโดยถ่องแท้ แสดงให้ผู้คนทั่วไปเห็นจริงได้
        3.7 เป็นผู้สามารถชี้และแสดงมารที่แท้จริงได้ และยังสามารถปราบมารได้ด้วยพระธรรม
        3.8 เป็นผู้รู้แจ้งด้วยตนเองและพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้
    ผู้ที่สามารถแสดงข้อเท็จจริงตามข้อที่กล่าวมาได้ย่อมมีบุคคลเดียว และท่านผู้นั้นควรใช่พระศรีอารย์ คำทำนายบ่งว่าการปรากฏตนของพระศรีอารย์เพื่อความสุขของคนทั่วโลกจักปรากฏขึ้นตลอดไป ภัยพิบัติและโรคภัยทั้งหลายจักสงบลง


    ภาคผนวก:
    ผู้เปิดใจกว้างมีเหตุผล ไม่ยึดความคิดเฉพาะตนเป็นหลัก โปรดพิจารณา
    1. ทำไมต้องพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏตน: เนื่องจากพระศรีอารย์ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงธรรมต้องเป็นไปตาม “กาลามสูตร” ซึ่งเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ศาลยุติธรรม โดยเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นได้
    2. พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้า (ผู้รู้เองโดยชอบ) พระองค์ที่ 5 ตามที่พระพุทธเจ้าโคดมได้ตรัสไว้ และมีอะไรอีกที่ตรัสหรือที่ตำนานอื่นๆบ่งไว้:
      1. 2.1 พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่นักบวช ไม่มีสาวกจึงไม่เป็นพระศาสดา พระศรีอารย์ปรากฏขึ้นเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกของโลก
        2.2 พระศรีอารย์ใช้คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคดมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นศาสนาของพระศรีอารย์จึงไม่มี ตำนานบ่งถึงพระศรีอารย์เปรียบเสมือนลูกแกะที่ผู้มีบาปเอาไปบูชายัญเพื่อไถ่บาปเขาเหล่านั้น พระศรีอารย์สละแล้วซึ่งครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผู้ติดดิน ไม่มีผู้คนสนใจเหมือนต้นไม้เหี่ยวแห้งบนแผ่นดินปราศจากน้ำแล้วใครเล่าที่จะช่วยได้
        2.3 ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ทั้งนี้เพราะปกติมนุษย์จะมีเทพหรือมารดลใจให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลว มารจะส่งเสริมความชั่วความฉิบหายเพื่อรักษาให้มารอยู่รอดได้ ดังนั้นมารจึงดลใจผู้ขาดคุณธรรมให้ไม่สนใจพุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งดีงามที่มารกลัวมากเพราะจะทำลายมารได้ พุทธทำนายเปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา ที่มารดลใจให้คิดไปว่าพุทธทำนายเป็นเรื่องไร้สาระ นอกจากผู้มีกุศลเกิดผลบุญย่อมเห็นพุทธทำนายเป็นสิ่งดีมีค่ายิ่ง
        ถึงเวลาหรือยังที่เราจะรู้ทันมาร กำจัดมารออกไปจากจิตใจ อัญเชิญเทพเข้ามาปกป้องตน รักษาความดี เกิดความเมตตา กรุณาแทนความเห็นแก่ตน หาทางช่วยกันเผยแผ่หาข้อเท็จจริงเพื่อความอยู่รอดจากมาร และสร้างสิ่งดีงามเกิดคุณธรรมขึ้นแก่ตนและผู้คนในทุกชั้นวรรณะทั้งในเวลานี้และอนาคต
    สรุป:
    ในปัจจุบัน ภัยพิบัติ โรคภัย ความโหดร้าย วิกฤติเศรษฐกิจและสังคม ได้เกิดขึ้นรุนแรงทั่วโลกตรงตามพุทธทำนายมาครึ่งทางแล้ว ส่วนที่เหลือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นั้นย่อมมีโอกาสเป็นจริง มนุษย์จะต้องเลือกทางเดินเอง ทางแรก ผู้คนจะต้องสนใจพุทธทำนายและผลักดันสื่อทีวีให้หาความจริงในเรื่องพระโพธิสัตว์ทั้งสองเพื่อจะนำพาให้มนุษยโลกอยู่ดีมีความสุขทั่วหน้า นอกจากไม่ยากจนแล้วคนเลวคนชั่วจะไม่มี เกิดยุคศรีวิไลขึ้น อีกทางหนึ่งถ้าผู้คนไม่สนใจความจริง สัตว์โลก ทรัพย์สินจะถูกทำลายล้าง โดยแผ่นดินจะแตกแยกจมหาย น้ำจะท่วมโลก คนทั่วโลกรู้จักวันนี้ว่า วันโลกามหาวินาศ สิ่งเช่นนี้เคยเกิดขึ้นก่อนประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ดังนั้นการที่จะเกิดขึ้นอีกย่อมเป็นไปได้ วันโลกามหาวินาศมีบ่งอยู่ไม่เฉพาะในพุทธทำนาย แต่คำทำนายโลกในภาษาและศาสนาอื่นๆได้บ่งเช่นเดียวกัน เราจะรอวันนี้โดยไม่ทำอะไรกันหรืออย่างไร หรือต้องการเป็นทาสของมารทั้งชาตินี้และชาติหน้า การเข้าใจพุทธทำนาย พระโพธิสัตว์ และยุคศรีวิไลให้ทะลุปรุโปร่งตั้งแต่เริ่มทราบนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ นอกจากท่านมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้ดีอยู่ก่อน เหมือนอยู่ชั้นประถมแล้วจะกระโดดไปศึกษาขั้นมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งยากยิ่งถ้าไม่ได้เรียนชั้นมัธยม ดังนั้นเราควรมีความเชื่อในพุทธทำนายก่อนว่าได้ชี้ถึงสิ่งดีมีประโยชน์แก่บุคคลและส่วนรวม แล้วเราร่วมมือร่วมใจพิสูจน์ข้อเท็จจริง ย่อมเกิดความเข้าใจดีขึ้นได้

    อ้างอิง:
    ท่านสามารถศึกษาเรื่องพระศรีอารย์และข้อมูลเกี่ยวข้องได้ เช่นจาก
    1. หนังสือที่คณาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้เขียนในเรื่องพระศรีอารย์โดยใช้ชื่อ Messiah หรือ Mettreya ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกเป็นหลักเช่น
      1. 1.1 World Scripture โดยคณาจารย์จากทั่วโลก นำโดย ศ. เกียรติคุณ Ninian Smart มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ซานต้าบาบาร่า สหรัฐอเมริกา
        1.2 Mettreya พิมพ์โดย มหาวิทยาลัย Princeton สหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัย Cambridge ประเทศอังกฤษ ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ Mettreya โดย ศ. Joseph M. Kitagawa มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา
    2. พระไตรปิฏกเรื่องมหาปรินิพพาน การตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์
      จักกวัตติสูตร จากเรื่องอนาคตวงศ์ และพระสูตรจักรพรรดิสิงห์ราช
    3. ข้อมูลพระศรีอารย์ที่ Truth: Last Judgment of God and true Messiah at present.
    4. Web pages ยอดนิยมของโลกเรื่อง Messiah หาดูได้ที่ Google โดยค้นหา “Nostradamus prediction 2009” แล้วดูเอกสาร “2008-2009 NOSTRADAMUS Prophecies and …” และ ค้นหา “Messiah at present time” แล้วดูเอกสาร “QUALIFICATION Of THE TRUE MESSIAH“
    5. จากข้อ 2 หน้า 5 ใช้ Google หา “Mayan apocalypse prophecy” และ “NASA solar 2012” เพื่อดูพยากรณ์ของมายันปี พ.ศ. 2555 และ NASA ชี้ผลจะกระทบต่อมนุษยโลกจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ของดวงอาทิตย์ในปี พ.ศ. 2555
     
  3. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ต้อง ขออนุญาติ ทางกลุ่มเขากะลาด้วย ครับ

    คุณ Sriaraya5 ;

    รบกวนด้วยครับ บ้าน หรือ ตำหนักที่ ท่านอยู่ ขณะนี้

    มีของวิเศษ อันใด ลอยมาจาก ฟ้า หรือยัง หนอ ..

    เนื่องจากบ้าน ญาติธรรม นาคา แม่ของเจ้าของบ้าน อายุ เลข 8... ท่านบอกเจ้าของบ้าน ว่า .....ดวงแก้ว .....มาตั้งให้แล้ว นะในพาน (พาน ที่ว่างเปล่า )

    เมื่อ เจ้าของบ้าน ซึ่ง เกิดก่อน 2500 ท่านสวดมนต์ทำวัตร์ จึง เห็น ตามที่ แม่ท่านกล่าว...
    เหตุอันใด ....
    ....มีโอกาส ใด้เยือน บนเขา ดอยสูง ลูกหนึ่ง อีสานเหนือ เจ้าของ สำนัก บอกว่า...พระธัมมิกราช .... ท่านมา

    นาคา เดินจงกรม ..หน้าสำนัก ...แต่ ขอตัวหลับก่อน ที่เจ้าของสำนักจะออกมาเดินจงกรม ....(คืนนั้น ใด้ข่าว ว่า...มีการ ยิงแสงพลังกัน ในพลังจิต มิติ )

    เช้าๆ นาคา ตื่นมา ครูอาจารย์ ท่าน ให้ นาคา สวดบท พระธรรมจักรกัปฯ แผ่ พลังเมตตา ให้ กับ จิตวิญญาณ ที่ยังคงค้างอยู่ ตาม วาระ ที่นาคา พอจะ ช่วยใด้บ้าง ...

    เหตุใด ; ขอท่าน แจ้ง PM มา ยินดี รับฟัง ครับ คุณ Sriaraya5 ;
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2009
  4. firstman

    firstman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +116
    ดีมากคุณ นาคา Sriarara 5 เป็นพวกมิจฉาทิฐิ
     
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    รายงานกิจกรรมชาวเขากะลา (เชื่อม..ไม่เชื่อม..รุ่นใหญ่ ๗๐+....รุ่นกลาง.....ถึงรุ่นจิ๋วราว ๘ ขวบที่มาที่บู๊ทวานนี้)

    ชาว UFO แฟนคลับและเขากะลาแฟนคลับได้แวะไปที่บู๊ทท่าน ดร. เทพนมมากมาย ณ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ตั้งแต่ ๑๐ ธค. ที่ผ่านมา วันนี้มีงานวันสุดท้ายที่พันธ์ทิพย์พลาซ่างามวงศ์วาน มีประโยชน์ตนให้เก็บเกี่ยวมากมายตามจริต ถ้าใครไปงานแวะเยี่ยมเยียน กันบ้างนะคะ

    วันที่ ๑๐ มีฮือฮา ดร. เทพนมท่านนัดหมายจานบินจากดาวอังคารมาพบปะผู้คนราว ๑๘.๐๐ น. ชมภาพใหม่ล่าสุดได้ที่บู๊ท ส่วนวานนี้มีมนุษย์ต่างดาวมาทักทายที่บู๊ท รายละเอียดต้องถามเทพบุตรชาวดินผู้สนทนาด้วย ท่านผู้นี้เขียนสาสน์ด้วยภาษาอูโบ๊ตทิ้งไว้ให้เป็นหลักฐาน เสียดายไม่มีใครอ่านออกสักคน แฮ่ๆ

    ชาวเขากะลาขอกราบขอบพระคุณท่านดร. เทพนม (AKA คุณอา เพราะท่านเคยทำงานกับคุณพ่อของผู้เขียน มิได้อวดอ้างเทียบเคียงคนดังแต่อย่างใด) ที่มีเมตตาต่อกลุ่มเขากะลาให้ร่วมออกบู๊ทให้ข้อมูลด้วยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ท่านมีส่วนร่วมพบปะจานบินตั้งแต่ปี ๔๑ แล้วและยังเมตตาสมาชิกทั้งเก่าใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดมา ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

    ดีใจที่ได้ข่าวจากคุณนาคาญาติธรรม วันก่อนมีชาวพลังมาที่บู๊ท เขาได้สัมผัสพระหลวงปู่สุภาที่คุณนาคามอบให้มา (องค์ที่หลังเป็นแมงมุม) เขาบอกว่าพระนี้เมตตา และมีพิเศษคือคุ้มครองจากสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ขอขอบคุณในความกรุณาค่ะ คล้องประจำ ถ้าเผ่นเพราะมีภัยก็ไปกับสร้อยเส้นนี้ละค่ะ เหรียญทำน้ำมนต์ของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติก็อยู่ในสร้อยเส้นเดียวกัน ชาวพลังว่า ในสร้อยนี้เป็นพระใหม่ทั้งสิ้นแต่พลังแจ่ม ว่าแต่คุณนาคาไปร่วมหล่อพระเจ้าองค์แสนหรือไม่คะ

    มีญาติธรรมท่านหนึ่งบอกว่าหลวงปู่อุปคุตท่านอยู่ที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา หลวงปู่ใหญ่วัดแจ้งเมืองเก่าเคยเฝ้าท่านก่อนถึงองค์เห็นซากเครื่องบินและซากเรือจำนวนมาก ???

    สมาชิกส่วนใหญ่งานเต็มมือ กลุ่มหนึ่งไปเฝ้าบู๊ทให้ข้อมูล อีกส่วนไปรักษาโรคสแกนกรรมที่อุตรดิษถ์ตั้งแต่วันเสาร์ มีบางท่านว่างมากก็ติเตียนผู้อื่นร่ำไป เสียดายที่บางท่านไม่ทราบภูมิธรรมสมาชิกอื่นจึงก่อกรรมให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว

    ไปทำงานละค่ะ เฝ้าบู๊ทวันสุดท้าย
     
  6. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    จากข้อความโดยคุณสันโดษ ขอขอบคุณค่ะ
    ทิศทางเดียวกันกับข้อมูลที่ได้รับจากหลวงปู่ที่มาเยี่ยมบู๊ทที่งานวิทยาศาสตร์ทางจิต

    หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

    30 เมษายน กองบรรณาธิการ
    คอลัมน์ - ความทรงจำนอกมิติ

    บท ความวันนี้จะพูดถึงความพยายามของคนจำนวนน้อยมากๆ จำนวนหนึ่ง ที่เชื่อว่าโลกกำลังก้าวสู่ความพินาศหายนะจากประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ และกับรูปแบบของสังคมเศรษฐกิจ และการเมืองที่เบี่ยงเบนไปจากธรรมชาติ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แทบทุกคนเชื่อว่า ศตวรรษนี้จะเป็นศตวรรษที่ - หากเราไม่ช่วยกันทำอะไรเสียแต่ขณะนี้วันนี้ - มนุษยชาติจะต้องประสบกับความเจ็บปวดสูญเสียและความทุกข์ทรมานอย่างที่ ไม่เคยปรากฏมาก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนจำนวนน้อยทั่วทั้งโลกที่ว่านั้นเชื่อว่า หากว่าเรามาช่วยกันทำสมาธิหรือสวดภาวนาร่วมกัน ด้วยกระแสจิตที่ อบอุ่นดีงามเปี่ยมความรักความเมตตา ก็อาจสามารถจะให้พลังอำนาจให้ ความหมายอันลึกล้ำกับมนุษยชาติและกับโลก ที่จะยังความสงบสุขความ ปลอดภัยให้แก่มวลมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกได้

    ใน หนังสือเรื่องปรากฏการณ์ของมนุษย์ ปิแอร์ เตยา เดอ ชาดัง (Pierre Teihard de Chardin, The Phenomenon of Man, Revised English Ed.,1965) บอกว่าโลกนั้นนอกจากมีมิติหรือระนาบทางภูมิธรณี (geosphere) ที่อยู่บนผิวโลกและใต้ผิวโลกลงไป และไบโอสเฟียร์อันเป็นระนาบแห่งชีวิต (biosphere) ที่อยู่บนผิวโลกขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศโลกชั้นแรกแล้ว ก็ยังมีระนาบหรือชั้นแห่งจิตหรือวิญญาณ (noorsphere) ที่อยู่นอกสุดของ ชั้นบรรยากาศโลก

    [​IMG]


    หากว่า เมื่อไรก็ตามที่จิตที่ดีงามสูงส่งมีพลังงานมากพอที่จะ จุดให้เกิดเป็นประกายแสงขึ้นในระนาบชั้นแห่งวิญญาณ “....ไม่ว่าที่จุดใดหาก ประกายแสงที่มีพลังพอได้ปรากฏขึ้น นั่นคือจุดกำเนิดของการระเบิดที่ต่อเนื่อง รุนแรงที่สุด ที่ในทันใดจะทำให้โฉมหน้าของโลกสว่างไสวไปทั่ว และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของโฉมหน้าใหม่ของโลก ” อย่าคิดว่านั้นเป็นวาทะของจักจิตนิยมธรรมดา เพราะเตยาไม่ใช่ธรรมดา นอกจากจะเป็นนักปรัชญาและเป็นนักบวช ในนิกายคาทอลิกแล้ว เตยายังเป็นนักโบราณคดีวิทยาศาสตร์และนักปฐพีวิทยา ระดับนำของโลกด้วย ที่ในปัจจุบันนี้นักวิชาการต่างยอมรับว่าเป็นปราชญ์ อัจฉริยะคู่กับศรีอรพินโธ

    ประเด็น ก็คือจะต้องเป็นพลังจิตเท่าไร จะต้องมีจำนวนคนมากน้อยแค่ไหน ถึงจะให้ประกายไฟพอที่จะก่อปฏิกิริยาลูกโซ่ของพลังจิตทำให้เกิด การระเบิดอย่างรุนแรงดังกล่าว จนทำให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงของโลกและ มนุษยชาติที่ว่าได้? นักปฏิบัติจิตและกูรูซาวรัสเซียที่มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้มีพลัง จิตอย่างแรงกล้าชื่อ เกิร์ดเย็ฟฟ์ (GI Gurdjieff) บอกว่าไม่จำเป็นต้องจำนวนมาก เพียงหนึ่งร้อยคนก็อาจเพียงพอที่จะให้ประกายที่จะก่อปฏิกิริยาลูกโซ่ได้ “ แต่ต้องเป็นการตรัสรู้ที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง ” ซึ่งทุกวันนี้เราสามารถจะค้นหาผู้ ตรัสรู้ผู้ได้นิโรธสมบัติเช่นนั้นได้ที่ไหน? นักฟิสิกส์และนักจิตวิทยาชื่อ ปีเตอร์ รัสเซลล์ เสนอว่า “ ทางเลือกก็คือหากว่าผู้ที่ปฏิบัติจิตปฏิบัติสมาธิเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม - ที่แม้ว่าจะไม่ถึงระดับตรัสรู้สักจำนวนหนึ่ง - ทำสมาธิร่วมกันโดยมีเป้า หมายต่อโลกต่อมนุษยชาติอย่างเดียวกัน ก็อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงระดับโลกได้” มหาฤาษีมเหศโยคีเองก็บอกเช่นนั้น และกล่าวว่า หากประชากรโลก เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ปฏิบัติสมาธิด้วยวิธีของท่าน (TM Sidhi) เป็นประจำทุก วันในเวลาเดียวกัน ก็จะสามารถโน้มนำให้มนุษยชาติโดยรวมมีวิวัฒนาการ ทางจิตสูงขึ้นได้ นั้นคืออรุณรุ่งสู่ “ยุคแห่งการรู้แจ้ง”

    ด้วย ทฤษฎีทางฟิสิกส์มี ผู้คำนวณออกมาได้ว่า พลังจิตในสมาธิจะให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สะท้อนไป มารอบผิวโลกในบรรยากาศชั้นสูงสุด โดยจะมีความถี่คลื่นเท่ากับความถี่คลื่น สะท้อนของคลื่นวิทยุที่มีความถี่ 7.5 Hz ด้วยความถี่ขนาดนี้ คลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าเมื่อได้วิ่งไปรอบโลกจนครบรอบและกลับมาถึงที่เดิม ก็จะพอดีกับรอบ ของคลื่นชุดต่อไป (in-phase) เช่นเดียวกับคลื่นจิตจากสมาธิของคนอื่นๆ ทำให้เกิดพลังสะท้อน (resonance) มีความเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากสภาวะซ้อน ซ้ำของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในทุกๆ รอบ นั้นคือหลักการของการรวมความเข้ม ของแพ็กเกตของอนุภาคโฟตอนที่มารวมกันในการสร้างลำแสงเลเซอร์

    นัก ฟิสิกส์คำนวณว่า ความแรงหรือความเข้มของคลื่นจะมีค่าเท่ากับผลรวม ของจำนวนคลื่นยกกำลังสอง นั้นก็คือ หากว่าเป็นคลื่นสองคลื่น ความเข้ม ของคลื่นก็จะมีค่าเท่ากับสี่เท่าของคลื่นแม่เหล็กคลื่นเดียว ดังนั้นหากเป็นคลื่น สิบคลื่นก็จะให้ความเข้มความแรงคลื่นเท่ากับหนึ่งร้อยเท่า (10 x 10)

    เพราะฉะนั้นหากว่าคน 80,000 คน

    คิดอย่างใจจดใจจ่อ หรือคิดแผ่กระแส จิตให้เป็นความรักความเมตตาแก่ทุกสรรพสิ่ง หรือการสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน ก็จะสามารถทำให้ชาวโลกทั้งหมด (80,000 x 80,000 = 6,400,000,000 คน)

    มี การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณได้ หรือสามารถยัง ความปลอดภัยให้แก่โลกได้ ไม่ว่าชาวโลกบางคนนั้นๆ จะเป็นคนเลวคนชั่วคนเล่เก๊ หรือคิดวุ่นวายไม่ได้เรื่องอย่างไร ต่างก็จะมีการปรับความคิดของตัว เองสู่ความรักความเมตตาพร้อมกันไปด้วย ซึ่งสุดท้ายก็จะแผ่เป็นความ ปรารถนาดีที่มีต่อโลกและต่อสรรพสิ่งทั้งหมด อย่าลืมว่าความคิดกระแสจิตก็ คือพลังงานก็คือคลื่นที่ทุกวันนี้สามารถพิสูจน์ได้บางส่วนแล้วว่า ส่วนหนึ่ง ของชีวพลังงานเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (BEM - Bioelectromanetic wave) ดังนั้นเอง ผู้ห่วงใยโลกและมนุษยชาติถึงได้เชิญชวนให้เราหลายๆ คนมาร่วมปฏิบัติจิตด้วยกัน ปัจจุบันนี้มีคนจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ที่มีการปฏิบัติสมาธิ มีการร่วมกันสวดมนต์ภาวนากันเป็นประจำวันแทบว่า ในทุกประเทศ คาร์ล จุง บอกว่า เราทุกคนมีศักยภาพของการมีจิตร่วมกันสื่อต่อกัน (synchronicity) ได้โดยไม่มีเวลาของอดีต - อนาคต จุงเล่าว่า ในช่วงสองสามปีก่อนที่นาซียึดครองเยอรมนีและยึดครองจิตร่วมของชาวเยอรมัน คนไข้จำนวนมากเหลือเกินมีลางสังหรณ์เกี่ยวกับความป่าเถื่อนความรุนแรง และความทรมานของมนุษยชาติที่ยุโรป ทุกวันนี้เหตุการณ์เช่นนั้นอาจอธิบายได้ด้วยความจริงทางแควนตัม

    การสำรวจชาวอเมริกันเร็วๆ นี้พบว่า ร่วม 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ได้ปฏิบัติสมาธิเป็นประจำ (Duane Elgin ; Global Consciousness Change, 1996) ที่แน่นอนย่อมชี้บ่งสภาวะจิตของผู้ ปฏิบัตินั้นๆ แม้ว่าการปฏิบัติที่มากขึ้นจะมีเป้าหมายอยู่ที่ตนเองหรือครอบครัว หรือจะต่างคนต่างทำ (random) แทนที่จะเป็นความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ ต่อสรรพสิ่งและต่อโลกทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้คลื่นพลังจิตมีความ เข้มข้นพอที่จะจุดประกายให้เกิดการระเบิด และให้การเปลี่ยนแปลงที่ลึกล้ำต่อ จิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ได้ ปีเตอร์ รัสเซลล์ บอกว่า แม้ผู้ปฏิบัติมี ถึงหนึ่งร้อยคนที่ให้พลังงานคลื่นหนึ่งร้อยคลื่น แต่หากต่างคนต่างทำ และเป้าหมายไม่ตรงกัน ก็จะมีค่าของความเข้มข้นไม่ถึงสิบคลื่น (Peter Russell ; Global Brain Awaken, 1996) แทนที่จะได้พลังงานที่มีความเข้มข้น ยกกำลังสอง (100 x 100)

    ปัจจุบัน มีสมาคมมีชมรมหรือองค์กรผู้ปฏิบัติจิตปฏิบัติสมาธิเพื่อ มวลมนุษย์และสรรพสิ่ง รวมทั้งเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของโลกมากมาย ที่ทุกคนในโลกสามารถมีส่วนร่วมในเว็บไซต์ต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต โดยชมรมสมาคมเหล่านั้นต่างกำหนดเวลาและความยาวนานของการปฏิบัติ มากน้อยแตกต่างกันไป เช่นการทำจิตให้แน่นิ่งอยู่กับความเมตตาปรารถนาดี ต่อมนุษย์และสรรพสิ่งเป็นเวลานานครั้งละ 15 นาที ในช่วงเวลาเที่ยงวัน ของวันที่หนึ่งของเดือนในทุกๆ เดือน ที่ผู้เขียนร่วมด้วยเป็นครั้งคราว

    มี อยู่องค์กรหนึ่งชื่อ “ ความรักความเมตตาเท่านั้นดำรงอยู่อย่างสถาพร ” ที่เชื้อเชิญให้ผู้สนใจตั้งจิตและภาวนาแต่ประโยคที่ว่านั้นซ้ำๆ (Only Love Prevails..Only Love Prevails...etc.) เป็นประจำเมื่อไรก็ได้ ซึ่งองค์กรดัง กล่าวเชื่อว่า ผลที่ได้มาจะต้องเป็นบวกหรือเป็นด้านดีงามอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นที่ ทอม ฮาร์ตแมน กล่าว “ยิ่งมีผู้ปรารถนาดีให้ ความเมตตาให้อภัย มากเท่าไร ก็จะมีจำนวนคนที่มีความเมตตาให้อภัยเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น - ยิ่งมีคนปรารถนาความสงบแสวงหาความดีงามทางจิตใจมากเท่าไร ความสุขสงบความปลอดภัยก็จะเกิดแก่โลกมากขึ้นเท่านั้น” (Thom Hartmann, The Last Hours of Ancient Sunlight, 1999).


    คัดลอกมาบางส่วนค่ะ
    ***อ่านทั้งหมด...เหนือกายคือจิต-กรรมร่วมของเผ่าพันธุ์

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2009
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    <CENTER>จักรแก้วอันเจริญจงปราบปราม จักรแก้วอันประเสริฐจงไป

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>คุณ Sriaraya5 ;

    รบกวนด้วยครับ บ้าน หรือ ตำหนักที่ ท่านอยู่ ขณะนี้

    มีของวิเศษ อันใด ลอยมาจาก ฟ้า หรือยัง หนอ
    ปุจฉา-วิสัชนา
    ได้มีจักรแก้ว ลอยมาจาก ฟ้า จากลำแสงที่เป็นจักรแก้วสีเขียวมรกต นั้นก็เข้าเวียนประทักษิณรอบตัวในขณะที่เราลุกจากที่นอน จักรแก้วนั้นเมื่อมาปรากฏเป็นสมบัติของผู้มีบุญคนใดแล้ว ก็ห้ามซึ่งผู้อื่นมิให้มาเป็นพระเจ้าบรมจักรเกิดคู่กันได้
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD class=textc height=60>Metteya พระศรีอารย์ ความจริงที่หนีไม่พ้น [บาลี(เขียนเมตฺเตยฺย-Metteyya อ่านเมตฺเตย-Metteya) สันสกฤต(Maitreya)=เมไตฺรย]
    เสนอความจริงย่อมปกปิดไม่มิด คนเราอาจมีโอกาสครั้งสุดท้ายที่จะทำดีแด่ตนเองและเพื่อนมนุษย์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=textd height=225>พุทธทำนาย มายันพยากรณ์ 1500 ปีก่อนพุทธกาล คำทำนายของศาสนาที่สำคัญๆของโลก ผู้มีญาณวิเศษเช่น นอสตราดามุส ได้
    ชี้ตรงกันและเสริมความเป็นไปได้ของวันสิ้นโลกในปลาย ค.ศ. 2012 โดยนาซ่าและผลงานทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ธรณีวิทยา เป็นต้น
    ข้อเท็จจริงของโลกาวินาศปลายปี 2012 (พ.ศ. 2556) มีมากน้อยอย่างไร และจะเกี่ยวกับพระศรีอารย์อย่างไร ที่เวปนี้มีคำตอบ
    ภาพยนตร์หลายเรื่องได้แทรกคำทำนายเกี่ยวกับวันสิ้นโลกไว้ เช่น แมทริกส์ ระหัสลับดาวินซี แต่ผู้ชมอาจไม่เข้าใจ ขณะนี้บริษัทโคลัมเบียจะเสนอภาพยนต์อิงงานทางวิทยาศาสตร์เรื่อง "2012" หรือ "2012 วันสิ้นโลก" ซึ่งจะแสดงว่ามหันตภัยโลกที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดๆจะเกิดขึ้นและมีผลอย่างไรกับมนุษยโลกอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้คนบนโลกได้รู้จักการเตรียมตัวไม่ประมาท
    ดูตัวอย่าง "2012" ที่นี่ "2012" จะฉายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนพฤษจิกายน 2552
    บุคคลใดที่คิดว่าโลกเที่ยง คือจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ย่อมมีความคิดตรงข้ามกับสมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสว่าทุกอย่างนั้นไม่เที่ยง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 อุกกกาบาตขนาดเท่ามหาสมุทร์แปซิฟิก ได้พุ่งชนดาวพฤหัสโดยไม่มีนักดาราศาสตร์ใดได้คาดฝันหรือล่วงรู้มาก่อน นาซ่าถ่ายภาพเป็นหลักฐานได้หลังจากอุกกาบาตยักษ์ชนดาวพฤหัสแล้ว เรื่องนี้น่าจะทำให้ผู้มีความประมาทมีทิฐิได้คิด คำถามว่าโอกาสที่อุกกาบาตยักษ์หรือดาวดวงอื่นพุ่งชนโลกจะเป็นไปได้หรือไม่ คำตอบคือโอกาสนั้นย่อมมี ดังนั้นผู้ประมาทในเรื่องโลกาวินาศควรทบทวนคำทำนายเกี่ยวกับมหันตภัยโลกที่ทุกๆศาสนาและลัทธิที่สำคัญๆบ่งไว้เป็นเสียงเดียวกันเสียใหม่ เพื่อจะได้ช่วยกันหาข้อเท็จจริงในพุทธทำนายซึ่งเป็นหนทางเดียวที่มนุษยโลกจะรอดจากหายนะครั้งร้ายแรงที่สุด เวปเมตฺเตยเปิดกว้างให้ท่านได้ค้นหาความเป็นจริงที่มีที่มาที่ไป และพระพุทธเจ้าตรัสหนทางแก้ไขวันโลกาวินาศไว้ในพุทธทำนาย โปรดอย่ารอให้เนิ่นนานก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสายเกินแก้</B>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=65>สำหรับวันสิ้นโลกนั้นมีเวลาแค่ 3 ปีให้ผู้ไม่ประมาทได้เตรียมตน เลิกทำบาป ทำบุญให้ชีวิตในภพต่อไปดีขึ้น การให้ผู้อื่นเห็นธรรม การเผยแผ่ข้อมูลเวปนี้อาจช่วยชีวิตผู้อื่นจำนวนมากไว้ได้ นับว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่กว่าบุญใดๆ ข้อเตือนสติ สึนามิ 2547 ที่คนทั้งหลายลบหลู่ ควรเป็นบทเรียนของชีวิตสำหรับผู้ประมาท อวดรู้อวดดี
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD class=textd height=20>
    <CENTER>พุทธทำนาย และ พระศรีอารย์</CENTER>
    พระรูปพระศรีอารย์มีมานับพันนับร้อยปี่แล้ว เช่น จากซ้ายไปขวา ศรีลังกา ไทย(อีสาน) เนปาล ไทย(รัชการที่ 2) อินเดียและเกาหลี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD width=778 height=140>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=textc height=65>พระศรีอารย์ / พระศรีอาริย์ / พระศรีอาริยเมตไตรย / พระศรีอารยเมตไตรย / พระเมตไตรย หรือจะเขียน-อ่านอย่างไร ก็มาจากคำว่า เมไตฺรย ซึ่งในปัจจุบันน่าจะเป็นเวลาเปิดเผย "ความจริงที่ทุกคนหนีไม่พ้น"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=textd height=130>"พระศรีอาริยเมตไตรย" เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 ต่อจากพระพุทธเจ้าโคดมในภัทรกัป (กัปอันประเสริฐของโลกเราที่มีพระพุทธเจ้าถึง 5 พระองค์) มีความหมายถึง ผู้บรรลุธรรมวิเศษอันดีงามที่เป็นเพื่อนแท้ของมนุษยโลก เรียกสั้นๆว่า "พระศรีอารย์" คือผู้บรรลุธรรมวิเศษ พระองค์มิใช่เป็นพระศาสดาหรือสอนศาสนาใหม่ แต่พระองค์เป็นพระจักรพรรดิ ตามศาสนาหลักของโลกยอมรับ (โดยเรียกชื่อพระองค์ตามภาษาของชนชาตินั้นๆ) และจะใช้ธรรมะเอาชนะอธรรม ตามตำนานของพุทธ อิสลามและขงจื้อได้บ่งไว้ว่าจะใช้ความรู้ที่ได้มาจากตนเอง (พระพุทธเจ้า) เพื่อสร้างสันติสุขให้โลก พระศรีอารย์จะจรรโลงพุทธศาสนาไปจนถึงปี พ.ศ. 5000 ซึ่งยุคพระศรีอารย์เป็นกฤดายุคหรือยุคทองที่มีคนดีมีศีลธรรมทั้งหมด เกิดสันติสุข มีสันติภาพและความยุติธรรม จริงและทัดเทียมกัน พระพุทธเจ้าตรัสพุทธทำนาย สรุปว่า
    โลกจะเข้าสู่ยุคทองในปัจจุบันนี้ ซึ่งทางเข้ามีเพียงสองทางให้เลือกคือ
    1. พระศรีอารย์นำมนุษย์เข้ายุคใหม่ หรือ
    2. ถ้าคนไม่สนใจพระศรีอารย์ ก็จะเกิดโลกามหาวินาศขึ้นแทนเพื่อล้างคนบาป (ดู "2012") คนที่รอดตายจะกลัวบาป เพราะรู้แล้วว่าสวรรค์ควบคุมความประพฤติของมนุษย์ จึงกลายเป็นคนดีมีศีลธรรมทั้งหมด และสอนคนรุ่นต่อๆมาให้เป็นคนดีตามจนถึงมนุษย์คนสุดท้ายในปี พ.ศ. 5000
    </TD></TR><TR align=middle><TD class=textb height=35>โปรดคลิกเพื่ออ่าน-ฟัง ข้อมูล ส่งข้อคิดเห็นที่ ปณ. 70 ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 หรือ email จักขอบคุณยิ่ง </TD></TR><TR align=middle><TD class=texte height=2></TD></TR><TR align=middle><TD class=text> น่าซ่า 2012 - พุทธทำนาย-คำทำนายโลก | ยุคพระศรีอารย์ หรือ วันสิ้นโลก | สารบัญ | คิดกันใหม่อีกครั้ง | อย่าลบหลู่สิ่งที่ไม่รู้จริง </TD></TR><TR bgColor=#ff080e><TD width=1 colSpan=6 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#dadaca><TD class=textb width=217>ช่วยเผยแผ่ "วันสิ้นโลก" เป็นบุญ </TD><TD class=textb width=132>วิดิโอมรกตล้มตึก</TD><TD class=textb width=180>หน่วยงานรัฐชี้ "วันล้างโลก"</TD><TD class=textb width=146>พระจักรพรรดิเป็นใคร</TD><TD class=textb width=103>บาปที่มองไม่เห็น</TD></TR><TR bgColor=#ff080e><TD colSpan=778 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR class=style5 bgColor=#eae9d9><TD class=text colSpan=0 height=40>ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวว่า พระศรีอารย์อยู่แค่ปลายจมูก (รายการวิทยุหยุดลงเมื่อ 2550) </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0 collapse?><TBODY><TR bgColor=#ff080e><TD colSpan=6 height=1></TD></TR><TR class=style5 align=middle bgColor=#dadaca><TD class=textb width=150>พระพุทธศาสนาไม่เสื่อม</TD><TD class=textb width=200>พระศรีอารย์เกี่ยวข้อง UFO ไหม</TD><TD class=textb width=172>ได้มหาบุญโดยไม่เสียเงิน</TD><TD class=textb width=178>หนังสือ "บาป" สำหรับผู้มีบุญ </TD></TR><TR bgColor=#ff080e><TD colSpan=6 height=1></TD></TR><TR class=textb align=right><TD colSpan=6>V12: 21 พ.ย. 52 Copyright © 2007, 2009
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. horasarn

    horasarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +3,255
    แจ้งเพื่อทราบ.....
    สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกเล่าให้เพื่อนๆฟังด้วยตัวผมเอง ก็คือเรื่องของการถอดรหัสของทฤษฎีระบบที่ผมได้ค้นพบว่ามีหลายๆสิ่งไม่ถูกต้องและขัดต่อพระสัทธรรมที่พุทธองค์ทรงได้สอนเอาไว้ แต่เมื่อผมค้นพบในตอนแรกๆ ผมก็เกรงว่าอาจจะไม่มีใครเข้าใจผม เพราะบางเรื่องเป็นการขยายความในระดับธรรมะในขั้นลึกซึ้งจนถึงขั้นปรมัตถ์ และก็ไม่สามารถเข้าใจกันได้โดยง่ายโดยภาษาพูดธรรมดาๆ และคุยหรืออธิบายด้วยถ้อนคำง่ายๆเพียงไม่กี่คำ ผมก็เลยอยู่นิ่งๆ เฉยๆมาโดยตลอด
    แต่สิ่งหนึ่งที่ผมตระหนักก็คือ คนในเขากะลาทุกๆคนล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนผม เป็นพี่เป็นน้อง เป็นญาติธรรม ผมไม่ได้ทะเลาะกับป้าสุดใจ หรือคุณอภิชาติ(
    No 9) อาจารย์เม้าท์ อาจารย์จุก ฯลฯ แต่อย่างใด เพียงแต่ผมเห็นว่าบางอย่างควรจะต้องได้รับการอธิบายให้ถูกต้อง และชัดเจนว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ตรงกับพระสัทธรรม สิ่งไหนได้ถูกบิดเบือนไป โดยใช้หลักเหตุและผลและพระธรรมวินัย ซึ่งผมก็พร้อมสำหรับการอธิบายในทุกๆปัญหา
    มีคนระบบที่เข้ามาหาผมโดยต้องการรับรู้ข้อมูลเชิงลึกและจุดบกพร่องของทฤษฎีระบบ
    ผมก็ได้มีข้อแม้สำหรับคนที่จะมารับรู้รับฟังข้อมูลเชิงลึกจากผม จะต้องรับสัจจะกับผม ดังนี้
    ข้อหนึ่ง เมื่อรับรู้รับฟังข้อมูลแล้วจะต้องไม่เข้าไปในกระทู้เขากะลาอีก
    ข้อสอง จะต้องไม่ไปแพร่งพรายข้อมูลต่างๆที่ได้รับรู้จากผมไปบอกต่อคนอื่นๆ แม้แต่ทางโทรศัพท์ หากอยากรู้จะต้องมาหาผมด้วยตนเอง
    ข้อสาม คนที่จะมาถอดระหัสระบบจะต้องมาอยู่ต่อหน้าผมเท่านั้น ผมจะไม่พูดบอกกับใครที่โทรมาเพื่อถามข้อมูล อันนี้ทุกคนที่มาหาผมล้วนรู้แก่ใจดี ว่าผมมีกฏอย่างนี้ ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่ไปพาดพิงคนอื่นๆให้ได้รับความเสียหาย ในที่สาธารณะ
    แต่สิ่งที่คุณไอยทำไป เป็นการละเมิดสัจจะที่มีต่อผมในทุกๆข้อ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นๆที่ไม่มีโอกาสมารับรู้ข้อมูลหรือมาแก้ต่างในกรณีต่างๆ ซึ่งไม่ควรกระทำ และผมไม่รับรองความถูกต้องใดใดของข้อมูลและไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยแต่อย่างใด
    เพราะการปฎิบัติธรรมที่แท้จริงนั้นเพียงเพื่อเอาชนะตนเองเท่านั้น ไม่ควรไปเอาชนะผู้อื่น
    ปล.สำหรับผู้ที่บริจาคหนังสือสามารถมาขอรับเงินคืนได้ที่ อ.จอนห์นี่ ได้โดยตรง โทร
    086-325-4372 ภายในไม่เกินวันที่ ๒๕ ธค.นี้ หลังจากนั้นก็จะนำเงินจำนวนนี้ไปถวายให้กับวัดสังฆทานเพื่อสร้างโรงพยาบาลสงฆ์





     
  10. NANA JITTANG

    NANA JITTANG Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +83

    ต้องขอขอบคุณ คุณนีโม่ ที่ได้มาเปิดเผยข้อมูลให้ทราบ ในเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

    ถ้าเป็นเช่นที่กล่าวมา ในกรณีที่คุณนีโม่แจ้งเพื่อทราบนั้น ได้มีการกระทำที่ละเมิดสัจจะในทุกๆข้อ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับบุคคลอื่นๆนั้น ตามที่ท่านได้กล่าวไว้ในข้อความข้างต้น

    อีกทั้งยังนำข้อมูลที่ผิดๆพลาดๆมากล่าว เพื่อให้บุคคลอื่นเกิดความเสียหาย
    ในกรณีเช่นนี้ ท่านมีความเห็นอย่างไร ที่เขาได้กระทำไปแล้ว โดยไม่ยึดสัจจะที่ให้ไว้ต่อท่าน
     
  11. Baramee

    Baramee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,032
    ตามข้อมูลที่อาจารย์นีโม่บอกมา แสดงว่าอาจารย์นีโม่ไม่ต้องการอยู่ในกลุ่มเขากะลาอีกแล้ว (ยังคงเป็นเพื่อนแต่ไม่ขอร่วมสังฆกรรม) เพราะมีการตีความระบบผิดไปจากหลักธรรมของพระพุทธศาสนา....
    ใช่หรือไม่ครับ
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถึงผู้ที่ใช้ชื่อแทนตัว ว่านาคา

    [​IMG]








    <LI class=floatcontainer id=vmessage761639>[​IMG]

    นัมทานที เกาะแก้วพิสดาร พระพุทธบาทรอยที่ 5


    ตอบนาคา
    ผมได้ใช้เวลาวันหยุดไปสำนักปู่สวรรค์อาคารอริยสัจสี่ แล้วทางเจ้าหน้าทีบอกผมว่าในผอบเจดีย์แก้วมีกระดูกพระเมตตรัย
    ผมก็ยังเฉย อย่างเช่นที่พระพุทธเจ้าตรัสในกาลามสูตร คือไม่ให้เชื่อไม่ว่าแบบไหนทั้งสิ้น นอกจากสิ่งนั้นจะเป็นกุศลกรรม



    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2009
  13. pluto47

    pluto47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +289
    ขออนุโมทนาคุณ astro neemo ด้วยครับ...
     
  14. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ข้อมูลจากคุณศรีอาริยะ ๕
    สำหรับวันสิ้นโลกนั้นมีเวลาแค่ 3 ปีให้ผู้ไม่ประมาทได้เตรียมตน เลิกทำบาป ทำบุญให้ชีวิตในภพต่อไปดีขึ้น การให้ผู้อื่นเห็นธรรม การเผยแผ่ข้อมูลเวปนี้อาจช่วยชีวิตผู้อื่นจำนวนมากไว้ได้ นับว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่กว่าบุญใดๆ ข้อเตือนสติ สึนามิ 2547 ที่คนทั้งหลายลบหลู่ ควรเป็นบทเรียนของชีวิตสำหรับผู้ประมาท อวดรู้อวดดี

    ข้อมูลจากหลวงตาม้าให้แก่ศิษย์ ตั้งแต่ปี ๕๑
    ในสี่ปี ถ้าสะพานแขวนแถวสมุทรปราการหัก ก็ให้ขึ้นเหนือ ถ้าไม่ไปก็ช่วยอะไรพวกเธอไม่ได้

    ข้อมูลจากดร. เทพนมที่มาจากท่านพาราซิตัล จากบทสนทนาส่วนตัวที่บู๊ท
    บอกรัฐบาลแล้วให้สร้างเขื่อนในอ่าวไทย ไม่เห็นมีใครสนใจ เขาให้เวลามาแล้วท้ายปี ๒๐๑๒ ปฏิทินมายาก็บอกไว้ตรงกัน

    ข้อมูลจากหลวงปู่ใหญ่ที่มาโปรดที่บู๊ท
    ปู่ดีใจที่เจอคนทำงานด้วยกัน ต้องรีบแล้วเหลือเวลาแค่สามปี ปฏิบัติให้ได้โสดาบันก่อนก็ดีนะแล้วทำงานได้สบายใจ ทำบุญให้อธิษฐานมรรคผลนิพพานก่อน อย่างอื่นตามมาเอง

    ข้อมูลตรงกันเรื่องเวลา และเรื่องการปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา ทำบุญให้ชีวิตในภพต่อไปดีขึ้น
    ไม่ได้แปลว่าจะสิ้นโลก เพราะยังไม่สิ้นโลกแน่นอน แต่ที่ได้รับคำเตือนก็เพื่อดำรงไว้ซึ่งความไม่ประมาท

    แปลกดีตรงกับข้อมูลระบบ ใครไปดูมนุษย์ต่างดาวที่บู๊ทกลับได้ฟังเรื่องให้รักษาศีลห้า พรหมวิหารสี่ สมาธิและภาวนา แต่เขาไม่แปลกใจเพราะต้องมาพบกัน บางคนไม่ได้ตั้งใจมา ส่งลูกเรียนพิเศษที่เซ็นทรัลนั่งรถเมล์เล่นเห็นป้ายงาน (ไม่รู้มาก่อน) ก็ลงขึ้นลิฟต์แล้วปรี่มาชนบู๊ทเลย เจ้าตัวบอกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ใครได้พบหลวงปู่ใหญ่ด้วยก็นับว่าโชคดี

    ขอบคุณพี่เกษมที่แวะเยี่ยมเป็นกำลังใจกับทุกคนค่ะ

    แจ้งเพื่อทราบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2009
  15. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ข้อมูลจากพี่เกษม ห้องภัยพิบัติ ขอขอบคุณค่ะ

    "ความตาย" บางครั้งก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนบางดวงวิญญาณไม่รู้ว่าตัวเองได้ตายแล้ว !!

    <table width="420" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ข่าวจากปรโลก Noticia despues de la muerte. (El caso de Tsunamis en Tailandia)
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    เมื่อเหตุการณ์ธรรมชาติเกิดขึ้น เพราะการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ทำให้คลื่นยักษ์เกิดขึ้นมาสู่ชายฝั่ง เป็นคลื่นใต้น้ำมาเลย
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="67%">[​IMG]</td><td width="33%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ผู้ประสบภัยในครั้งนี้ก็ได้ประสบภัยต่าง ๆ กันนะ ตั้งแต่เล็กน้อย เสียทรัพย์สิน บาดเจ็บ สาหัส จนกระทั่งบางท่านก็ไม่เป็นอะไรเช่น นักสร้างบารมีเจ้าของรีสอร์ทแห่ง หนึ่งที่เกาะลันตา
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="67%">[​IMG]</td><td width="33%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ในขณะที่คลื่นยักษ์โถมเข้าใส่มายังบริเวณด้านหน้าของรีสอร์ทที่เกาะลันตา นั้นปรากฏว่า มีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นมาบังเอาไว้ทำให้คลื่นยักษ์นั้นชะงักและลังเล เราควรจะไปทางไหนดี
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ในที่สุดก็แหวกออกสะปริ้นออกสองข้างทางผลปรากฏว่า รีสอร์ทของนักสร้างบารมีไม่เป็นอะไรเลย แต่รีสอร์ทที่อยู่สองข้างกลับโดนคลื่นซัดพัง ซึ่งล้วนแต่เป็นบาร์เบียร ์อาบ อบ นวด อะไรต่างๆ เหล่านั้นดูเหมือนคลื่นยักษ์นั้นนะไม่ต้องการให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบน โลก กวาดไปซะเกลี้ยงตกทะเลไปหมดเลย เหลือแต่รีสอร์ทดี ๆ อยู่
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังก็คือ บุญบาปของแต่ละท่านที่มีมานะไม่เหมือนกัน
    จึงเจอไม่เหมือนกัน บางคนก็เจอ บางคนก็ไม่เจอ ณ สถานที่เดียวกัน
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="71%">[​IMG]</td><td width="29%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    คนที่มีกรรมปาณาติบาตเท่านั้นแหละก็จะทำให้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ที่โดนคราวนี้ แต่มีกรรมปาณาติบาตเป็นหลัก คือ ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตอะไรต่าง ๆ ทั้งสัตว์เดรัจฉานและก็สัตว์ประเสริฐ มนุษย์ มะเนิดอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นต้น
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="63%">[​IMG]</td><td width="37%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ถ้ามีกรรมปาณาติบาตน้อย หรือแค่เศษกรรม ปาณาติบาตก็จะแค่บาดเจ็บแต่ถ้ามีกรรมปาณาติบาต มากก็ถึงกับเสียชีวิต การที่ต้องมาตายพร้อมกัน ร่วมกัน ไม่ใช่เป็นพระประสงค์ของใคร และไม่ใช่ความปรารถนาของใครด้วย และก็ไม่ใช่ทำกรรมปาณาติบาตร่วมกันทั้งหมด
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บางท่านก็ทำกรรมต่างกรรมต่างวาระกัน แต่กรรมมาส่งผลพร้อมกัน แต่บางกลุ่มเคยทำกรรมร่วมกัน เลยต้องตายพร้อมกันก็มี ทำกรรมคล้ายกันคือ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าคน สัตว์อะไรต่างๆ อย่างนี้คล้าย ๆ กัน แต่คนละแห่งกัน
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    พวกที่ตายแล้ว กายละเอียดก็ยังอยู่บริเวณที่ตายและสอง พวกที่ตายแล้วก็ไปปรโลกเลยทันที คือบางส่วนก็อยู่ตรงนั้น บางส่วนก็ไปปรโลกเลย พวกที่ไปปรโลกเลยก็จะมีอยู่สองประเภท คือ ไปตามกำลังบุญและบาปของตัวที่ได้กระทำ
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="67%">[​IMG]</td><td width="33%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    เช่น พวกที่ทำบุญเป็นอาจิณกรรม มีจิตใจผ่องใสเป็นปกติ เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสู่สุคติภูมิ คือภพภูมิที่ดี เช่น เป็นรุกขเทวา
    สามารถเดินได้ในระดับยอดไม้ เมื่อเดินได้บนระดับยอดไม้เท่านั้นก็รู้สึกตื่นเต้นว่า เอ๊ะ ทำไมตนเองสามารถเดินอยู่ได้ในระดับยอดไม้
    จนบุญนำไปให้ บุญก็นำต่อไปอีก เอ๊ะ ตอนแรกก็ตื่นเต้นว่าเอ๊ะ ทำไมเราเดินอยู่บนยอดไม้ แล้วก็บุญก็นำไปอีก ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปเห็นวิมานของตนอยู่บนยอดไม้ บ้านคือวิมานของเรา
    บางพวกก็ไปเกิดเป็นอากาศเทวาในวิมานของตน คือ วืดสูงกว่ายอดไม้ไปอีกระดับจากพื้นดิน ๑โยชน์
    บางพวกก็ไปเกิดบนสวรรค์ทีเดียวในเทวโลก ชั้นจาตุมหาราชิกาก็มี ดาวดึงส์ก็มีเป็นต้น
    ที่ชั้นจาตุฯ ก็จะไปเป็นพวกนาค ยักษ์ คนธรรพ์ ส่วนเป็นครุฑไม่มากเท่าไหร่ นิดเดียว
    ไปดาวดึงส์ก็มีปริมาณน้อยที่สุด
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="65%">[​IMG]</td><td width="35%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ส่วนพวกที่มีจิตเศร้าหมองก็จะมีทุคติเป็นที่ไปไปสู่ปรโลกก็มีทุคติกับสุคติ เราเล่าสุคติไปแล้ว ตอนนี้พวกจิตเศร้าหมอง พวกแรกจิตผ่องใส เศร้าหมองก็จะมีทุคติเป็นที่ไป
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="65%">[​IMG]</td><td width="35%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    เช่น พวกที่ตอนมีชีวิตอยู่ดื่มเหล้าเป็นปกติ ตอนที่คลื่นยักษ์โถมมานั้นนะ ตายกำลังเมาพอดี แล้วก็อาจิณกรรมที่ดื่มเหล้าเป็นปกติ ตายแล้วก็ไปเกิดในมหานรกขุม ๕ ทันที
    ไปถูกนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อน ในมหานรกขุม ๕ นายนิรยบาลก็เกิดขึ้นด้วย วิบากกรรมของตัวเอง ซึ่งต่างจากยมโลก ยมโลกจะมีเจ้าหน้าที่เป็นกุมภันฑ์
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="70%">[​IMG]</td><td width="30%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บ้างเล่นการพนันตั้งแต่มีชีวิตอยู่ คือใจหมกมุ่นอยู่กับเรื่องการพนันนะแม้ในขณะที่คลื่นซัดมานะ ยังเล่นการพนันอยู่
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ตายไปแล้วก็ไปเกิดในมหานรกขุม ๖ ถูกอุปกรณ์ในการเล่นการพนันนั้นนะ เป็นเหล็กร้อนหล่นใส่ลงมานี่ ทุกข์ทรมานทีเดียว.
    บางพวกที่มีเวรปาณาติบาต มีอาชีพจับสัตว์น้ำเป็นประจำ ชาวประมงนะ ตายไปก็ไปเกิดเป็นปลาในทันที เพราะใจมันหมกมุ่นอยู่กับอะไร ภาพเหล่านั้นมันมาปรากฏอยู่ในใจ มันก็แว็บไป ดูดไปเลย
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="75%">[​IMG]</td><td width="25%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บางพวกเมื่อตายแล้วยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองนะตาย ไม่รู้เลย คือ กายหยาบนะจมน้ำตาย แต่กายละเอียดยังวิ่งหนีอยู่ คือ หลุดออกมาแล้ว โดยไม่รู้ว่า ตัวเองตายไปแล้ว หลุดออกมาจากกายหยาบ กายหยาบจมน้ำอยู่ กายละเอียดวิ่ง
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="70%">[​IMG]</td><td width="30%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บางพวกก็ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจนะ เพราะเมื่อสักครู่ เมื่อถูกน้ำพัด คลื่นซัดลงไปในทะเล
    ก็รู้สึกว่าทุกข์ทรมาน แล้วก็คิดว่าตัวเองไม่รอดแน่
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="70%">[​IMG]</td><td width="30%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    แต่พอหลุดออกมาแล้ว รู้สึกว่า เอ๊ะ ตอนนี้เราปลอดภัยแล้ว หลุดออกมาแล้ว ความรู้สึกทุกข์ทรมานนั้นหมดไป ก็ไม่แน่ใจ บางพวกรู้ตัว เพราะเห็นร่างตนเองนอนตายอยู่
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="73%">[​IMG]</td><td width="27%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บางส่วนก็ยังปะปนกับฝูงชนที่วิ่งหนีคลื่นยักษ์และวิ่งหนีไปนั่งพักบนที่สูง เช่น บนเขา วิ่งปนกับฝูงชนไปนะ เหมือนเรามานั่งอยู่ก็มีปน ๆ มานั่งอยู่อย่างนี้,
    โดยที่ยังไม่รู้ว่า ตนนะเสียชีวิตไปแล้ว เพราะไม่ได้ทุกข์ทรมานแล้วมันหลุดออกแล้วนี่ ก็วิ่งหนีพร้อมกับฝูงชนนะวิ่งหนีกัน ไม่รู้ว่าคนหรือผี แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปก็รู้สึกแปลกใจว่า เอ๊ะ ทำไมเราพูดกับใครนะไม่รู้เรื่องเลย
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="66%">[​IMG]</td><td width="34%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​

    หันมาพูดกับคนที่วิ่งไปด้วยกันนะ พอเวลามานั่งพักด้วยกันนะบนเขา เอ้อ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้อะไรต่าง ๆ เอ้อ คุณว่าไง นั่นก็ดูเฉย ๆ ไม่หือไม่อือ
    บางพวกก็นั่งร้องไห้ บางพวกก็ตีโพยตีพาย ที่นั่งร้องไห้ก็ร้องไปเรื่อย สะอึกสะอื้นไปเรื่อย ๆ บางพวกก็โหวกเหวกโวยวายอะไรต่าง ๆ
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="76%">[​IMG]</td><td width="24%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    กายละเอียดแต่ละตนล้วนแล้วแต่ตื่นตระหนก จิตใจสับสน พวกที่รู้ตัวว่าตาย เพราะเห็นศพตนเองนอนอยู่ ก็รู้สึกงง ทำอะไรไม่ถูกเลย
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="70%">[​IMG]</td><td width="30%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    เห็นร่างของตัวเองแล้วก็งง คือไม่รู้จะทำอะไร สมมุติเราเดินออกจากกายมนุษย์ แล้วก็ เอ๊ อยู่ ๆ เอ๊ นั้นเรา เอ๊ นี่เรา เอ๊ นั้นเรา เอ๊ นี่เราอะไรอย่างนี่ และเอ๊ะ แล้วเราจะไปตรงไหนต่อ ไม่รู้จะทำอย่างไงนี่ จะไปพูดกับใคร จะไปคุยกับใคร จะไปติดต่อกับใคร ไม่รู้นี่ แล้ว ๆ ร่างที่ตรงนั้นแล้วเราจะทำอะไรน่ะ เราทำไง เราจะเข้าไป มันงงไปหมด ตอนช่วงนั้นมันจะสับสนนะ นี่เราต้องศึกษากันให้ดีทีเดียว
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="76%">[​IMG]</td><td width="24%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ทีนี้เมื่อเวลาผ่านไป บางพวกที่หมู่ญาติทำบุญให้ทันที พอตายปั๊บ เนื่องจากตัวเคยมี ความเกื้อกูลกันในปัจจุบัน กับหมู่ญาติ เคยสงเคราะห์ญาติ หรือในอดีตมีบุญที่เคยเกื้อกูลญาติ กับหมู่ญาติเมื่อได้รับบุญกายก็เริ่มผ่องใสแล้วก็เบาเบาในระดับที่พอนึกถึง บ้าน ก็สามารถแวบกลับบ้านถึงทันที
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="73%">[​IMG]</td><td width="27%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    แต่บางพวกนึกถึงบุญไม่ออก แล้วก็ไม่มีใครทำบุญให้ พวกนี้กายจะหนัก จะเป็นพวกสัมภเวสี เมื่อคิดจะกลับบ้านก็ต้องตะเกียกตะกาย กลับบ้าน บางพวกก็ทำตัวเหมือนว่ายังเป็นมนุษย์ คืออาศัยขึ้นรถของมนุษย์กลับบ้าน มานั่งข้าง ๆ หญิงสาวคนหนึ่ง ด้วยท่าทางจ๋อง ๆ
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="69%">[​IMG]</td><td width="31%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    พวกที่ยังไม่รู้ตัวว่าตาย เมื่อกลับไปหาครอบครัวแล้วคุยกับใคร ไม่รู้เรื่องรอบตัว ก็เลยรู้สึกหงุดหงิด ถ้าใครมักโกรธก็จะต้องไปเกิดเป็น (ยักษ์) แต่นี่ยังไม่ถึง ขนาดนั้น รู้สึกหงุดหงิดทำให้สภาพกายละเอียด เริ่มเปลี่ยนไปเป็น มีกลิ่นคล้ายศพที่เน่าเหม็น
    บางคนนี่บอก เอ เหมือน เอ ทำไมเรากลับจากงานศพมา เอ มันทำไมมีกลิ่นเหมือนกลิ่นศพตามมาในรถ ต้องเคยได้อย่างนี้มั่ง จึงทำให้หมู่ญาติได้รับกลิ่นนั้นได้ เหมือนมีกลิ่นของศพวนเวียนอยู่
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บางพวกนี่เยอะ นี่หลายพวกแล้วนะ ที่หมู่ญาติอุทิศบุญกุศลไปให้ ได้รับบุญแล้วก็เป็นกายละเอียดชั้นดี แต่เป็นกายละเอียดชั้นดี ก็จะทำให้หมู่ญาติ ได้กลิ่นเหมือนกลิ่นของหอม
    กล่าวถึงอีกพวกหนึ่งที่ถูกน้ำซัดลงไปในทะเล พวกที่มีอัธยาศัยมักโกรธก็จะถูกพวกยักษ์น้ำนำตัวไป ซึ่งเราจะต้องไปศึกษาภพภูมิของยักษ์น้ำอีกจะเป็นอย่างไงกัน
    พวกที่มีอัธยาศัยราคะจริต หรือมีเศษกรรมสุราอยู่บ้างแต่ไม่มาก ก็จะถูกพวกนาคน้ำนำตัวไปอยู่ด้วย สุราปนราคะเนี่ย แต่ไม่มากนะ
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="64%">[​IMG]</td><td width="36%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    พวกที่อยู่บนบก บางพวกก็ถูกยักษ์บก หรือพวกภุมเทวาสายคนธรรพ์หรือวิทยาธรพาไปดูแลช่วยเหลือ
    เขาจะส่งคนมาเลย ส่ง ยักษ์ก็จะส่งยักษ์มา เป็นยักษ์ภุมเทวา คนธรรพ์ก็ คนธรรพ์ภุมเทวา หรือวิทยาธรก็ วิทยาธรภุมเทวา ก็มาชวน ไป ไป ไปอยู่ตรงนั้น ตรงนี้อะไร รู้ไหมตอนนี้ตายแล้วนี่ เมื่อตายแล้วต้องไปอยู่ตรงนี้ ตรงนี้ ก็ไปอย่างงง ๆ อย่างนั้นแหละ เพราะเอ เมื่อกี้เราเป็นมนุษย์อยู่ เอ๊ จู่ ๆ เรามาเป็นอย่างนี้มันก็งง ๆ

    เมื่อเวลาผ่านไปได้ ๔-๕ วัน ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มรู้ตัวว่าตนเองตายแล้ว ในช่วงเวลาที่รู้ตัวว่าตายแล้วก็จะแบ่งเป็น ๓ พวกใหญ่ ๆ
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ๑. พวกกายละเอียดเศร้าหมอง ก็จะนั่งซึมเศร้าคอตก กายละเอียดเศร้าหมองจะซึมเศร้า แล้วก็คอตก เซ็งชีวิตอะไรอย่างนี้ ไม่รู้จะทำอะไรยังไง
    ๒.พวกที่สับสน ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็จะเดินไปเดินมา วนไปวนมาอยู่ในบริเวณนั้นน่ะ ไม่รู้จะทำอะไร
    ๓.พวกที่พยายามนึกถึงสิ่งที่ตนเองเคารพนับถือ บ้างก็อยู่เดี่ยว บ้างก็อยู่เป็นพวก ๆ
    พวกที่ตรึกระลึกถึงบุญ ถึงพระรัตนตรัยก็จะมีกายที่ผ่องใส มีรัศมีออกมามากกว่าพวกอื่น ๆ

    นี่มันเป็นอย่างนี้แหละ นี่ไม่ได้แปลว่าเราจะมา เกทับบรับแหลกหรืออะไร ไม่ใช่นะ มันเป็นเรื่องความเป็นจริงของชีวิต ซึ่งเราจะต้องมีความรู้ตรงนี้ถ้าความรู้ของเดิมมันไม่สมบูรณ์ ก็ต้องมาเติมความรู้ใหม่ให้สมบูรณ์ แล้วทำใหม่ซะ ให้ทำใหม่ซะ เพิ่มเติมขึ้น
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนความเชื่อก็ได้ ถ้าเรามีความสุข รู้สึกว่าถ้าเชื่ออย่างเดิมมีความมั่นใจ สุขใจก็เอา แต่ว่าความจริงชีวิตมันอีกอย่างหนึ่ง ความเชื่อกับความจริงมันอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้นน่ะเผื่อเหนียวต้องให้มา ทำตรงนี้เอาไว้ นี่เรื่องสำคัญนะ
    มาอีกพวกหนึ่งล่ะ นี่หลายพวกแล้วนะ พวกที่กายใจเศร้าหมอง ก็จะมองไม่เห็นพวกที่มีกายใจผ่องใส
    ยังมีอีกพวก พวกที่เป็นกลางๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปก็เห็นแต่กายของผู้ที่จิตใจดีแต่ไม่เห็นความสว่าง ของเขา เห็นกายเขา แต่ไม่เห็น ไม่มีตา ไม่ละเอียดจนกระทั่งเห็นความสว่างของเขา
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    อีกพวกหนึ่งนี่หลายพวกแล้วนี่ ๆ พวกที่กายและใจผ่องใสก็จะเห็นกันและกัน เห็นทั้งกายแล้วก็เห็นแสงสว่างด้วย อีกพวกหนึ่ง ยังไม่หมด ยังหลายพวก พวกที่นึกถึงพระรัตนตรัย นึกถึงบุญ และได้รับบุญที่ญาติอุทิศไปให้ กายก็จะค่อย ๆ เบาขึ้น และลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเห็นทางสว่าง คือมันจะเป็นทางสว่าง เหมือน ๆ พรมสีแดงอย่างนี้ แต่มันสว่าง แล้วก็จะเดินไปตามทางสว่างนั้น ไปเกิดตามภพภูมิ ตามกำลังบุญของตน
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="68%" height="192">[​IMG]</td><td width="32%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    อีกพวกหนึ่ง ยังไม่จบ พวกที่ใจเศร้าหมอง เมื่อใจเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่างกับตอนแรกนะนั่นหมองทันที หมอง ๆ เป็นอาจิณกรรม นี่ นี่หมองขึ้นเรื่อย ๆ ใน ๗ วันนี้ หมอง ๆ ไปเรื่อยๆ ก็จะถูกดูดหายแวบไปเกิดในนรกขุมต่าง ๆ ตามกำลังบาปของตน พอหมองมันก็ไปดูดบาปที่ตัวทำเอาไว้นะ นี่ไปเจอแฮ่ ๆ นี่เห็นไหม เจอนายนิรยบาลนะจ๊ะ
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="67%">[​IMG]</td><td width="33%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    แต่โดยส่วนใหญ่ยังนึกถึงบุญไม่ได้ นึกถึงบาปก็ไม่ออก ยังงง ๆ ทำอะไรก็ไม่ถูก จะอยู่ ณ บริเวณที่ตายจนถึงวันที่เจ็ด
    ทวนอีกที แต่โดยส่วนใหญ่ยังนึกถึงบุญไม่ได้ นึกถึงบาปไม่ออก ยังงง ๆ ทำอะไรไม่ถูก อยู่ ณ บริเวณที่ตายจนถึงวันที่เจ็ด
    ภายหลังจากตายนั้น นับจากวันเวลาที่เสียชีวิต คือพอตายปุ๊บนับวินาทีนั้นไปเลย รวมเป็นชั่วโมงของโลกได้ ๑๖๘ ชั่วโมง ๗ วัน
    พวกที่โซซัดโซเซกลับบ้าน นี่คือพวกที่เป็นกลาง ๆ นะ พวกที่โซซัดโซเซกลับบ้าน พอครบ ๑๖๘ ชั่วโมงก็จะแวบกลับมา ณ บริเวณที่ตัวเองเสียชีวิตและทันใดนั้นเองในนาทีแรก ๑๖๘.๑ ในหลังจาก ๑๖๘ ไปได้ ณ วินาทีนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาปรากฏกายเกิดขึ้น
    <table width="366" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ถ้าใครใจหมองก็ต้องไปอบาย ผู้ที่ยอมไปดี ๆ ก็ เขาก็แค่เอาโซ่ผูกกันไป คล้องคอกันไป ที่ไม่ยอมไป ก็ลากถูลู่ถูกังกันไป ก็ไปอยู่หน้าลานโรงพิพากษา เต็มกันไปหมดเลย เยอะแยะ ซึ่งโรงพิพากษาก็มีจำนวนมากทีเดียว แล้วก็ยมโลกก็ไปตามกำลังบาปของตัว ยมโลกก็มีมากมายก่ายกองตามขุมต่าง ๆ ก็แล้วแต่กำลังของบาปของแต่ละคนก็ไปกันไปอย่างนั้น ถูลู่ถูกังกันไปเลย ก็จะต้องไปคอยกันอยู่ตรงนั้นน่ะ พอถึงเวลาก็จะมีผู้ประกาศ เจ้าหน้าที่เขาจะประกาศ ถึงวาระคนนั้นคนนี้ก็ว่ากันไป ก็เสียงก็ระงมกันไป อยู่หน้าลานพิพากษา ตรงลานพิพากษาเรื่อยกันไปเลย ยิ่งบรรยากาศที่นั้นมันทึมๆ มันทั้งร้อนทั้งทึม แล้วก็มีปฏิมากรรมนรก เป็นรูปอาวุธทั้งนั้นเลย โอ้น่ากลัวทีเดียว
    <table width="75%" align="center"><tbody><tr><td width="72%">[​IMG]</td><td width="28%">[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    ผู้ที่เสียชีวิตจากคลื่นยักษ์ ต่างก็มีคติที่ไปที่แตกต่างกัน บางพวกก็จะถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปยังยมโลก เจ้าหน้าที่ต่างก็ช่วยกันคุมตัวสัตว์นรกมายังประตูยมโลก
    แล้วก็นำสัตว์นรกมายังหน้าลานนั้น คอยฟัง เขาร้องกันระงมกันเลยอยู่ตรงนั้น ร้องกันระงม
    แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปเรื่อยเลย เรียกๆ บัญชีไปปรากฏอยู่ตรงนั้น ผ่านเข้าไปยังโรงพิพากษา ผ่านปฏิมากรรมยมโลกที่มีแต่อาวุธทั้งนั้น ข่มขวัญกันตั้งแต่แรก ดีก็ฝ่อลงไปเรื่อยๆ

    จากนั้นสัตว์นรกจะต้องรอคำพิพากษาจากท่านพญายมราชอยู่หน้าบัลลังก์ พอมาถึงตรงนี้นะ จะมียศถาบรรดาศักดิ์อะไร ถูกริบไปหมดแล้ว ใหญ่ๆ แค่ไหน ใหญ่น้อยกว่าโลง พอมาถึงหน้าบัลลังก์นี้นะ เล็กลงไปอีก เล็กกว่าโลงลงไปอีก เล็กลงไปเรื่อยๆเลย ตอนมีชีวิตอยู่ เขาเรียกท่าน แต่พอไปตรงนั้น เขาเรียกสัตว์นรก มันแปลกทีเดียวเลย
    <table width="500" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>​
    บางพวกที่มีบุญน้อยก็ไปเกิดเป็นรุกขเทวดาอยู่บริเวณนั้น ส่วนพวกที่มีบุญมากขึ้นมา ก็จะเห็นทางสว่างปรากฏขึ้น ต่างก็เดินไปตามทางสว่างนั้น บางคนก็ไปเกิดเป็นอากาศเทวา นี่ซ้ำเดิม บางคนก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นจาตุมหาราชิกา และบางคนก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรที่ชั้นดาวดึงส์

    ที่มา http://www.dmc.tv/pages/scoop/tsunami.html
     
  16. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    พบเข้าเลยเล่าสู่กันฟัง แจ้งเพื่อทราบ

    --หลังเกิดสุนามิ แฟนผมฝันเห็นเสด็จแม่พระแม่ธรณี แต่งชุดดำ มาภาคดุร้าย ร่วมกับแม่คงคา ท่านบอกว่า ถ้าจะแก้ไม่ให้แม่พิโรธอีก ต้องกินเจอุทิศให้แม่ทั้งหมดโลกจะทำได้ไหม เรื่องภัยพิบัติ ท่านบอกว่ากำลังจะแยกร่างท่าน---มีแผ่นดินไหวใหญ่ก่อนสุนามิ และหลังนั้นอีก 1 ครั้งฉีกรอยแยกของโลกไป 1 ใน 4 เหมือนผ่าไม้ไผ่ และเร่งให้เกิดแผ่นดินไหวเร็วขึ้น50 ปี --เป็นการชำระล้าง-ยกระดับจิตของชาวโลก (ทางจิตจักรวาลก็กล่าวเช่นนี้)(ตอนนี้ผมรีบมากจนต้องขอก็อปจากท่านอื่นๆแล้ว ครับ)--
    ---1. ธค. วันเกิดผมเอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาอำนวยพรให้แต่เช้า-วันนี้เกือบจะทะเลาะกับ เจ้าแม่..(ดุมาก) มีเตี่ยมาเตือน เข้าใจว่าท่านอยู่สระบุรี-เดิมเป็นคนจีนหาบของขาย ไม่งั้นน่าจะเป็นเตี่ยเซียน (หนึ่งในแปดเซียน) เขียนไว้ตรงนี้ น่าจะเป็นปัจจุบันหน่อย--กำลังอ่านเรื่องของอินทวงศา แม่ของเด็กหนุ่มคนนี้ เป็นสื่อจากพระแม่ธรณี และอื่นๆ
    เนื้อความแค่ดู1คลิป นั่งแปลทั้งคืน-(อ่าน-จับภาพ อัพรูป-ปาเข้าไปตีห้าทุกคืน ทุกเช้า)
    -เฮ้อ เพื่อท่านผู้อ่านนะนี่ (คุณเทอรานเค้าเขียนลงเนตมาตั้ง 7 ปีแล้ว เราเพิ่งเริ่ม)
    ----2 ธ.ค.ร้อนใจ ไม่สบายใจ รีบร้อนทำมือถือแฟนหล่นหายอีกด้วย ปวดหัวไม่สบาย ถึงวันพระ
    ทุกครั้งเรากะแฟนก็ร้อนใจพอๆกัน(เป็นธรรมดาของคนที่มีองค์ในนะ คาดว่าอย่างนั้น)
    -----3 ธ.ค. ดีขึ้นหน่อย มีลาภเข้ามา คือมีคนมาซื้อตู้เตียงที่มีอยู่เยอะกินไป แต่ต้องช่วยยก ช่วยประกอบให้เขาถึงที่ ได้เงินมา ห้าพันบาท
    -----4. ธ.ค.ปวดเมื่อย อ่อนล้ามา เพราะยกของหนักเกินกำลัง ต้องกลับมาดันตู้ให้เข้าที่ จัดบ้าน ทำความสะอาด แต่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว มี กุมารเทพ กับเทพหณุมาณยอดเพชร คอยช่วยให้พลังเพิ่ม(องค์นี้เป็นเพื่อนกันกับผมเอง)
    -----โหรนิด ทายเป็นรายวัน เรื่องดวงนายกเก่า ยังไม่ดี จนกว่ากพ.2553
    แต่อาจไม่ได้เข้าไทย เพราะท้องฟ้ายังไม่เปิดให้--หมอดูปากร้าย ด่านักการเมืองไดสะใจจริงๆเลย---ส่วนนายกรูปหล่อกำลังจะปิ๋ว เพราะดวงไม่แข็ง ไร้ผลงาน มีแต่การกุ้ โปรเจคแต่ละอันออกไปก็โดนปิดตา จับอ้าขาข่มขืน พวกๆกันโกงเงินหมด อีกไม่นานก็จะมองหน้าใครไม่ติดแล้ว ตามกฏแห่งกรรม อันนี้หมอโสรัจจะ ทายมา
    ------การที่ผมมีชีวิตอยู่ถึง วันนี้ ไม่เจ็บไม่ไข้-ไม่ได้อุบัติเหตุตาย-แคล้วคลาด อาจจะเพื่อให้เป็นผู้ส่งสารระหว่างมิติลี้ลับของเทพเทวดาให้กับพวกท่านทุกคน ก็ได้นะครับ-ผมค่อนข้างเชื่อจุดนี้--(พี่ชายของภรรยา ที่เคยสงสัยว่ามิติของเทพ อยู่กันอย่างไร เขาก็หายสงสัยแล้ว เพราะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เมื่อเดือน พ.ค.นี้เอง ติดตามด้วยการตายของแมวไทยแสนรู้-นังเหมียว และ นังสีทอง สุนัขโกลเด้นราคาเรือนหมื่น- ปีนี้ดุจัง)
    -----การกระทำส่อเจตนา ใครที่ยังกิน-เที่ยว ผิดในศีล 5 แล้วบอกว่าเคร่งธรรมมะ หยุดเถอะครับ(เพื่อนๆ) เงินที่ท่านกินเที่ยวนั้นหล่อเลี้ยงคนจนได้เยอะมาก และอีก 3 ปี เงินก็จะไม่มีค่าแล้วนะครับ
    ----คำบอกกล่าวจากเบื้องบนสูงสุดยิ่งว่าเทพ-ที่ กล่าวว่า-จะเกิดภัยพิบัติใน 7 ปีนี้ -ภัยร้ายแรงที่สุดของมนุษย์ -อาจไม่เหลือเชื้อสายหมดเผ่าพันธุ์มนุษย์-ไม่มีทางแก้-เพราะมนุษย์ทำสิ่ง เหล่านี้-เป็นต้นเหตุเสียเอง มีความนัยทั้งภัยจากน้ำท่วมโลก และ จากสงครามนิวเคลียร์ อันนี้ผมรับรู้เองและวิเคราะห์เองเลย
    [​IMG]
    --เอกสารบนเน็ตกล่าวว่า เพราะว่าอเมริกา ไม่สามารถตัดสินใจ หรืออ้างว่าเป็น"เจ้าของแห่งดาวโลก" ได้(ตัดสินใจระดับดวงดาวต่อดวงดาว) ดังนั้น การจัดระเบียบโลกใหม่จึงต้องมีขึ้นด้วยเหตุนี้
    --จำนวน จุดดับในดวงอาทิตย์ที่จะเกิดในพีคอันต่อไป และมักจะเกิดการระเบิดปะทุโซล่าร์แฟล์ ซึ่งทำให้จะเกิดลมสุริยะตามมา อาจจะมีเปลวที่ทำอันตราย หรือมีผลกระทบต่อโลก เช่นในภาพยนต์เรื่อง Knowing แต่ที่แน่ๆมีหนังพวกนี้มากผิดปกติ เช่น อุกาบาต น้ำท่วมโลก ดวงจันทร์ชนโลก-
    [​IMG]
    -----เมื่อ ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา(28.พย.)ขณะผมนั่งเด็ดพริกและกะเพราอยู่ ก็มีท่านหนึ่งมาในร่างภรรยาผม ผมก็ถามเรื่องภัยพิบัติ 2012 ท่านก็เผลอบอกว่ามีจริง โดยขณะนี้เทพท่านที่สูงสุด ได้พยายามเหยียบตรึ่งน้ำแข็งขั้วโลกให้ละลายช้าลง--แสดงว่า โลกร้อนกับผลของมันมีจริง จะเป็นวงจรครบรอบของโลกอย่างไรก็แล้วแต่ (เป็นวงรอบทุก 4,000 ปี น้ำทะเลจะขึ้น 20-30 เมตร)
    -----เพิ่มเติม ท่านพูดว่า "ข้างในโลกมันคลอนไปหมดแล้ว" อันนี้จริง เพราะนักวิทย์มักอ้างว่า สะสมพลังงานอีกนานจึงจะมีแผ่นดินไหว ไม่จริงครับ จุดที่ไหวจะอยูลึกมาก และมีแผ่นดินไหวบ่อยขึ้นมากผิดปกติ นับจากสุนามิ กับเทพผู้หญิง ผมก็เคยถามว่า "โลกกลวงและมีมนุษย์อาศัยอยู่ใช่ไหม" ท่านบอกว่า จริง
    -----ต่อไปนี้ผมจะหยุด ไม่พูดเรื่องการเมืองหรืออะไรแล้ว เพราะในที่สุดของเวลานั้น เงินหลายๆฟ่อน หลายล้านบาทก็จะมีค่าน้อยกว่าข้าวเหนียว 1 ปั้น คิดดูง่ายๆ ฟิลิปปินส์เจอพายุแค่ 3-4 ลูกตอนนี้ต้องซื้อข้าวจากเวียดนาม เพราะนาข้าวเสียหายทั้งหมด
    -----ผมไม่ได้กลัวตายมากนัก เพราะปฏิบัติธรรม แต่อาจจะมีประโยชน์สำหรับการเคลื่อนไหวเมื่อมีภัยพิบัติ และจะเข้าประสานของกลุ่มพลังจิตดอทคอม ซึ่งมีสมาชิกเกือบสามแสนแล้วตอนนี้
    -----วัน เวลานั้น อินเตอร์เน็ตจะใช้ไม่ได้ เนื่องจากสถานีดาวเทียมอยู่ที่ศรีราชา-น้ำท่วม ไฟฟ้าดับ โทรศัพท์และมือถืออาจจะใช้ได้อยู่บ้าง--วิทยุสมัครเล่นยังพอใช้ได้ พื้นที่ที่ไม่ท่วมน่าจะอยู่จากนครสวรรค์ขึ้นมานะครับ-----ประเทศพม่า โดนแค่พายุ1 แถบ ยังฟื้นตัวไม่ได้เลย แม้เวลาผ่านไปเป็นปีๆแล้ว-อินโดยังแต่ถูกสุนามิ ไม่มีการบูรณะอะไรเลย
    -----ที่ จริงเทพองค์นี้ท่านก็ได้มาเตือนหลายครั้ง ประมาณ ปี 46 (ตอนที่อยู่แฟลตคลองจั่น) ท่านว่า"สงสัยน้ำจะท่วมโลก-การล้างโลกน่าจะเกิดจากน้ำท่วม มีเงินให้ตุนข้าวสารไว้ ข้าวจะยาก หมากจะแพง" ช่วงนั้นเราไม่ค่อยมีเงินกันครับ
    -----พอเกิดเหตุสึนามิ เราก็คิดว่านั่นคือสิ่งที่ท่านบอก--แต่คิดย้อนหลังดู คำกล่าวนี้เริ่มเป็นจริง ข้าวสารที่เคยซื้อกระสอบละ 750 ตอนนี้ราคา 1600 บา่ท(48-50 กก.มั้ง เอาใส่หน้ามอเตอร์ไซค์มาได้-ซื้อเมื่อวาน 28 พ.ค.) กระเทียม กก.7-80 ตอนนี้ 100--- ไข่ไก่ใหญ่สุด แผงละ 70 ตอนนี้ 100 แล้ว ไม่ได้บ่นแต่ชี้แจงให้เห็นถึงค่าเงิน เมื่อเทียบกับอาหาร ที่เชียงรายนี้ ผัก-ผลไม้จะถูกมาก มะเขือเทศมีให้กินตลอดปี เพราะชาวเขาเป็นผู้ปลูก(โดนฝน-น้ำท่วมมันจะตายหรือเป็นโรค-ต้องมีระยเวลาที่ แน่นอน) จริงๆแล้วผมก็มีไร่สวน พยายามทำแบบเศรษฐกิจพอเพียง ขุดบ่อปลา-ผมขุดเองไว้ 2 บ่อ จุน้ำเป็นหมื่นลิตร -แต่ดินไม่ดี และผลผลิตไม่มีราคา-สวนลำไย- ตอนนี้ต้องปล่อยให้คนเฝ้าไปก่อน
    --ทองคำและโลหะเงิน-น่าจะเป็นเงินตราสุดท้าย เป็นอมตะคู่โลกดังนั้น...คิดเอาเองครับ--ข่าววงในว่าอาจจะทุบราคาทองและน้ำมันลงมา
    แต่ ก้เป็นแค่แวบเดียว ขึ้นอีกแล้ว เพราะกระแสความเครียดเรื่องภัยพิบัติยังไม่หยุด ผมเองคิดว่าน่าจะขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อทองขึ้น แสดงว่าค่าเงินทุกสกุลมันต่ำลงมานะครับ และความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจโลกมันลดน้อยลง

    Bloggang.com : jesdath : 2012
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2009
  17. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    หลังจากมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต
    มีข้อมูลให้ทบทวนว่า ตัวเองมาร่วมงานกล่มเพราะอะไร
    ข้อมูลกล่าวว่า จากนี้ต่อไปจะต้องพบผู้คนหลากหลาย ทั้งคนที่รอคอยข้อมูล หรือฝ่ายที่ต่อต้าน
    จะมีสื่อที่ต้องการข้อมูลตามที่ทางเขาเข้าใจ ซึ่งอาจไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการสื่อ
    ถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะวางตัวอย่างไร หรือกลุ่มจะวางสถานะอย่างไร
    คำที่ผ่านมาในความคิดคือ อย่าวิ่งนอกลู่
    หมายถึงให้ยึดมั่นในหลักการ มีสติ และสงวนคำพูดถ้าถูกยื้อให้สนทนา
    เราเป็นผู้แจ้งข้อความ ไม่ใช่ผู้เดี่ยวทอล์กโชว์
    และเราไม่สามารถทำอะไรให้ถูกใจผู้คนทุกระดับธรรมได้

    ได้ยินมาตั้งแต่

    "ทำไมไม่เห็นมีอะไรแจก" (จะเอาทรัพย์มาจากไหนคะ คุณแต่งตัวดี๊ดีำไมจะหาแต่ของฟรี)

    "กลุ่มยูเอฟโอเอาแต่คุยกันเองไม่เห็นอธิบายอะไร" (อ้าว เขาอธิบายคนอื่นอยู่ คุณไม่ถามเองแล้วจะให้เริ่มที่ไหน เราไม่ใช่เซลล์ขายของนี่จะได้ต้อนลูกค้าเข้าบูท)

    เห็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์กระดาษมันสี่สีสวยสด "นี่แจกเหรอ" (อยากได้ของฟรีอีกแล้ว)

    "นี่คุณ ชีทชั้นฝากแจกเมื่อวานวันนี้เอาไปไหนหมด" (ชั้นไม่ใช่ลูกน้องคุณนี่นะ)

    "คุณมาเข้ากลุ่มนี่มีอาการทางจิตหรือประสาทมาก่อนหรือเปล่า"

    "เขาว่าคนในกลุ่มเพี้ยนกันเยอะนะ ผมตามสังเกตมากว่าสิบปีแล้ว ระวังนะครับจะโดนต้มตุ๋นหลอกลวง ผมพูดด้วยความหวังดี" (ทำไมไม่เลิกตามกลุ่มแล้วไปวิ่งในลู่ตัวเองเล่า)

    สถานการณ์คงจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย เมื่อพบสาธารณชนต้องทำใจนะคะ

    ขออนุโมทนาบุญป้า...อนุเคราะห์ชีท ๑๐๐ ชุด คุณหนุ่ยเทพบุตรชาวดินอนุเคราะห์ซีดี (แจกฟรี) คุณหนุ่ย pluto 47 อนุเคราะห์ซีดีจำนวนหนึ่ง ดร.ซิลวิโอถวายปัจจัยพระมหาสีไพรจึงได้รับหนังสือปฏิบัติสมาธิมาจำนวนหนึ่งมาแจกกัน พี่เม้าท์อนุเคราะห์โปสเตอร์ และบูทหลวงพ่อสีไพรอนุเคราะห์น้ำดื่มตลอดรายการ

    สาธุ

    รอเรื่องเล่าเช้านี้จากอุตรดิษฐ์ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2009
  18. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    สวัสดี อ.ไก่ สบายดีนะครับ ที่ส่งรูปของธรรมกาย มาให้ชมกัน สวยดีนะครับ
     
  19. pkanlaya

    pkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +597
    อาจารย์ไก่คะ เรื่องเล่าจากอุตรดิตถ์ พี่สุดใจได้มอบหมายให้พี่ทำหน้าที่เพราะมีรูปอยู่ในกล้องมากที่สุด วันนี้ติดงานสอนและภารกิจอื่นจนถึงเย็น แต่จะนำมาเล่าให้เร็วที่สุดค่ะ อาจจะเป็นคืนนี้ค่ะ
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ สามารถแยกออกเป็น ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    1. ดิน ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของดิน คือ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ถล่มทลาย ฯลฯ
    2. น้ำ ภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำ ได้แก่ ภาวะฝนแล้งติดต่อกันยาวนานในบางประเทศ และเกิด ภาวะน้ำท่วมในบางประเทศ ในระหว่างที่เกิดการซ้อนกันของดวงดาวต่างๆ ทำมุม ๑๘๐ องศาอีก น้ำแข็งขั้วโลกจะละลาย น้ำทะเลจะหนุนเนื่องท่วมสูงมาก จนเกิดคลื่นขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ ๑,๐๐๐ ถึง ๒,๐๐๐ ฟุต เนื่องจากคลื่นใต้น้ำซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล
    3. ลม ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของลม ก็มีลมพายุชนิดต่างๆเช่น ทอร์นาโด ลมไต้ฝุ่น เกิดขึ้นในท้องที่ต่างๆทั่วโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินแยกนี้จะมีอากาศบางชนิดเป็นพิษอย่างร้ายแรงขึ้นจากใต้พิภพ ทำให้มนุษย์ที่สูดอากาศเหล่านี้เข้าไปต้องตายหมด
    4. ไฟ ภัยที่เกิดขึ้นจากไฟ ได้แก่ ภูเขาไฟระเบิดมีไฟพลุ่งขึ้นจากใต้พิภพตามรอยแผ่นดินแยกหรือมีคลังเชื้อเพลิง บ่อน้ำร้อน ท่อแก๊สระเบิด และลุกเป็นไฟ
    ก่อนเกิดเหตุ ท้องฟ้าจะมีเมฆดำขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมไปทั่ว มีฝนตกตลอดเวลา ผสมพายุและฟ้าผ่าในพื้นที่นั้น ๆ ตลอดเวลาและต่อเนื่องเป็นเวลาหลาย ๆ วัน

    <HR width=410>

    ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทย


    ภาคใต้
    จะพบกับพายุน้ำท่วม แผ่นดินไหว และคลื่นขนาดยักษ์พัดเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้นไปหมดแผ่นดินจะหายไปหมด คนที่อาศัยอยู่จะเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหลือแต่เกาะไม่กี่เกาะ น้ำอาจท่วมถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของภาคใต้

    ภาคกลาง
    จะพบพายุฝนตกอย่างหนัก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงแผ่นดินจะจมลง เนื่องจากแผ่นดินไหวและทรุดตัวลงกลายเป็นทะเล ( ทางไปภาคใต้น้ำจะท่วมถึงจังหวัดนครปฐม ทางเหนือจะถึงนครสวรรค์ )

    ภาคตะวันอกเฉียงเหนือ
    จะพบภัยพิบัติน้อยกว่าภาคอื่น ๆ เพราะว่าภาคนี้ประสบเคราะห์กรรมอยู่เสมอ เป็นการใช้หนี้กรรมอยู่เป็นประจำ.โดยภาคนี้จะพบลมพายุและแผ่นดินไหวบ้างเล็กน้อย จังหวัดที่ปลอดภัย ก็มี อุดรธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ขอนแก่น ชัยภูมิ เป็นต้น แต่ปัญหาสำหรับภาคนี้ก็คือ ผู้คนที่รอดตายจะต้องพบกับโรคระบาดและอดอยาก เพราะพืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกภัยธรรมชาติทำลาย

    ภาคเหนือ
    จะพบกับภัยธรรมชาติ คือแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก มีไฟพลุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพ มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เช่นเดียวกับภาคใต้และภาคกลาง จังหวัดที่ปลอดภัยได้แก่ น่าน แพร่อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และพิษณุโลกบางส่วน

    ภาคตะวันออก

    พื้นที่ริมทะเลจะถูกน้ำท่วมหมด
    สรุปว่า

    หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว ประเทศไทยจะต้องทำแผนที่ใหม่ เพราะดินแดนบางส่วนจมลงใต้ทะเล ประเทศที่เป็นเกาะ เช่นเกาะฮาวาย ของ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน ฯลฯ จะจมหายไปเกือบหมด

    ประเทศไทยเสียหายน้อยกว่าทุกประเทศ คือ ได้รับความเสียหาย
    ๗๐% ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ จะเสียหาย ๙๐% ภายหลังจากเกิด
    ภัยพิบัติแล้ว

    ทั่วโลกจะมีชีวิตรอดเหลือเพียงไม่เกิน ๑๐๐ ล้านคน จากประชากรทั้งโลกในปัจจุบันมากกว่า ๕,๐๐๐ ล้านคน

    ประเทศไทยจะเหลือมากกว่าประเทศอื่น ๆ โดยจะมีมนุษย์เหลือประมาณ ๓ ล้านคน เพราะประเทศไทยบังเอิญโชคดีที่มีพระโพธิสัตว์ ๒ องค์ ที่รับผิดชอบโลกมนุษย์อยู่เวลานี้คือ สมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์ (หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด)และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี ได้ดลใจให้พวกเราสร้างสิ่งดุลกรรมให้แกประเทศขึ้นมา ๒ สิ่ง คือ "ปัญจเจดีย์พิทักษ์โลก" ที่ภาคเหนือ และ "เจ้าแม่กวนอิม๔ ปาง พิทักษ์ไทย" ที่ฝั่งทะเลตะวันตก ทางเข้าสู่ประตูภาคใต้จึงทำให้โลกมนุษย์ยังอยู่รอด และจะพยายามทำให้เหตุการณ์ชะลอช้าลงไปอีก ๓๐ ปี ( หากได้รับความร่วมมือจากมนุษย์เป็นอย่างดี เหตุการณ์ก็จะเบาบางลงได้ )

    <HR width=410>หนทางแก้ไข
    1. รวมผู้มีอำนาจจิตมั่นคงในศีลห้า
    2. รวมกลุ่มสวดมนต์ให้มากทั่วโลกเรียกว่าต้องดำเนินการให้มีโครงการสวดมนต์เพื่อความมั่นคงของโลกมนุษย์ขึ้นให้ได้
    3. บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผู้มีฌานญาณสูง เช่น ใบโพธิสัตว์ เหรียญมงคลจักรวาล ฯลฯ โลกมนุษย์ก็จะรอดได้อีกนานเท่าที่จะนานได้ แต่ต้องปลุกระดมให้มนุษย์ทั่วโลกสวดมนต์ภาวนา และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยปลูกป่าให้มาก อย่าทำลายป่า ก็จะมีทางรอดได้มากกว่านี้
    <HR width=410>

    คนที่รอดชีวิตภายหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ จำแนกได้เป็น ๓ ประเภท คือ

    1. พวกที่รอดชีวิต แต่สูญเสียสติสัมปชัญญะอย่างสิ้นเชิง ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากมีจิตใจและสติที่ไม่เข้มแข็งพอ เพราะไม่ได้ฝึกเจริญกรรมฐานมาก่อน ไม่สามารถทนต่อสภาพของเหตุการณ์ต่างๆ ได้ เช่น คนตายจำนวนมาก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยกฯลฯ

    2. พวกที่รอดชีวิต แต่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะหรือบางส่วน ที่เรียกว่ากึ่งดีกึ่งบ้า พวกนี้ได้แก่ พวกที่ฝึกหัดกรรมฐานมาบ้างจนมีพื้นฐานพอสมควร แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอ

    3. พวกที่รอดชีวิตและมีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีจิตใจเข้มแข็ง มองเห็นการเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดาของมนุษยโลก หรืออาจจะกล่าวว่าผู้ที่เคยเจริญมรณานุสติมาเป็นประจำแล้ว จนไม่กลัวความตาย และมองเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์นั่นเอง

    หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ผ่านพ้นไปแล้ว โลกก็จะคงเหลือแต่ผู้มีศีลธรรม คนชั่วทั้งหลายจะเสียชีวิตไปหมดหรือกลายเป็นคนบ้า สูญเสียสติสัมปชัญญะ

    เพชรนิลจินดาและทรัพย์สมบัติทั้งหลาย จะผุดขึ้นมาเกลื่อนพื้นโลก พันธุ์ไม้ต่างๆ แปลกๆ จะออกดอกออกผลเต็มไปหมด

    อาหารการกินจะอุดมสมบูรณ์มาก แต่ใช้เวลาอกหลายร้อยปี โลกมนุษย์จะค่อย ๆ วิวัฒนาการขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากถาวรวัตถุทั้งหลายถูกทำลายลงไปหมด

    ทัศนคติและค่านิยมในยุคนี้จะตรงกันข้ามกับในยุคก่อนเกิดภัยพิบัติ คือ มีความเจริญทางจิตใจและมีคุณธรรม สูงขึ่น แต่ความเจริญทางวัตถุจะมีน้อยมาก เพราะจะต้องก่อสร้างกันใหม่หมด เพชรนิลจินดาทั้งหลายที่กองเกลื่อนพื้นดิน จะไม่มีค่า อาหารการกินจะมีค่ามากกว่า

    ประเทศไทยซึ่งจะมีคนรอดชีวิตมากกว่าประเทศอื่นๆ จะค่อยๆ เจริญขึ้นมาจนภาษาไทยอาจเป็นภาษาหลักของโลกในที่สุด เนื่องจากคนในประเทศอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะรอดชีวิตก็จะมีสติวิปลาสไปหมด

    ชาวไทยผู้มีศีลธรรม ซึ่งเหลือรอดจากภัยพิบัตินี้ จะเป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ให้คนรุ่นต่อไปรับทราบ โดยเฉพาะกลุ่มชนที่สวดมนต์ภาวนาจะมีบทบาทมาก

    จากนี้ไปอีก ๓๐๐-๔๐๐ ปี วิชาการสิ่งก่อสร้าง ฯลฯ จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ควบคู่กับจิตขอมนุษย์ในโลกซึ่งเจริญเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ คือ มีชีวิตที่งดงาม

    <HR width=410>การเตรียมตัวในขณะนี้


    1. ให้ชาวโลกทุกคนเร่งรีบทำจิตใจให้สงบและเข้มแข็งคือ ให้บำเพ็ญภาวนานั่นเองให้ทุกคนพยายามหาเวลาฝึกกรรมฐานอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งพากเพียรเจริญมรณานุสติไว้ว่า การตายเป็นธรรมดาของคนทุกคน ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมไว้ หากแม้นต้องเสียชีวิตในภัยพิบัติ จิตใจจะได้สงบเวลาตาย จิตวิญญาณจะได้ไปอุบัติในภพภูมิที่ดี
    2. ให้ชาวโลกทุกคนรักษาศีล ๕ ให้ได้ เพื่อลดการเบียดเบียน ทำให้มีความสงบเย็น และสันติสุขเกิดขึ้นในโลก อย่าได้ทำสงครามและทะเลาะวิวาทกันจะได้ไม่เพิ่มพลังแห่งความชั่วร้ายให้สูงขึ้น เพราะจะเร่งให้ภัยพิบัติเกิดเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น
    3. ให้ชาวโลกทุกคนมีความเมตตา กรุณา เท่ากับทำบุญทำทาน ช่วยเหลือแบ่งปันให้แก่ผู้ที่ขาดแคลน เพื่อไม่ให้มีผู้ทุกข์ใจร้อนใจ ก่อให้เกิดความร่มเย็นขึ้นในโลกมนุษย์
    <HR width=410>การเตรียมตัวในระยะที่ภัยพิบัติใกล้จะเกิดขึ้น


    จะต้องหาบทสวดมนต์ภาวนา ซึ่งใช้ในการสวดเพื่อระงับหรือบรรเทาภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ภูเขาไฟระเบิด สวดพระพุทธมนต์ พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง ฯ)มงคลจักรวาฬใหญ่ (สิริธิติ ฯ) และ สวดพระคาถาชินปัญชร หรือ นะมะพะทะ หรือ " นะโม ตัสสะมัย อะภัยมัททะ อะวะโล กิเตศะวะราย โพธิสัตตะวาย มหาสัตตะวาย นะมะพะทะ"( บทสวดบูชาเจ้าแม่กวนอิม ) เป็นบทท่องให้ขึ้นใจแล้วจะปลอดภัยทุกคน และบ้านเรือน ตลอดจนประเทศชาติและโลกมนุษย์ จะรอดได้มาก

    <HR width=410>การปฏิบัติตัวในขณะที่เกิดภัยพิบัติ

      1. หนีไปอยู่ในเขตพื้นที่ซึ่งไม่เกิดภัยพิบัติ ผู้ที่มีความสามารถมากจะหยั่งรู้ได้ด้วยญาณ
      2. ผู้ที่รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ อาจจะรอดชีวิตได้ถ้าไม่มีกรรมเก่าอันหนักหนาจริง ๆ
      3. ผู้ที่ฝึกกรรมฐานมาบ้าง และสามารถทำจิตใจให้สงบได้แต่ยังไม่ถึงขึ้นฌาน ก็อาจจะรอดชีวิต แต่หากตาย จิตวิญญาณจะไปอุบัติในภพภูมิที่ดี
      4. ในขณะที่เกิดเหตุ คือจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา ก็ให้ทำพิธีสวดมนต์กลางแจ้ง
      5. ให้ทุกๆ คนในโลก หยุดการใช้เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และหยุดการเคลื่อนไหวต่างๆ ให้หมด แม้แต่การเคลื่อนที่ของมนุษย์และสัตว์ คือให้ทุกคนอยู่เฉยๆ ถ้านั่งกรรมฐานได้ก็นั่งกรรมฐาน เนื่องจากว่าการเคลื่อนไหวและการใช้พลังงานไฟฟ้า หรือแม่เหล็กต่าง ๆ จะเป็นการซ้ำเติมให้เกิดความสับสนของสนามพลังงานในระบบสุริยจักรวาลมากขึ้น อาหารจะขาดแคลนตลอดจนถึงปัจจัยสี่ ดังนั้นจึงควรมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
    <HR width=410>อุปกรณ์การดำรงชีวิตในป่า

    ( แล้วแต่จะคิดหาได้ )

    1. เชือกอย่างเดียว ๑๐ เมตร ต่อคน
    2. จักรยานวิบาก ๑ คัน ต่อ ๑ คน พร้อมทั้งอะไหล่เช่น ยางใน ลูกปืน (ถนนหนทาง จะพังพินาศหมดในเวลานั้น)
    3. ผ้าร่ม ผ้าปูที่นอน มุ้งธุดงค์ และกลด
    4. มีด หม้อสนาม กระติกน้ำ แก้วพลาสติก
    5. เรือไฟเบอร์กล๊าส หรือ เรือยาง ถ้าสามารถนั่งได้จำนวนมากคนแล้วยิ่งดี
    6. ที่สำคัญมากคืออาหาร และแหล่งเสบียงอาหาร
    7. ยารักษาโรค เช่น ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข ฯลฯ
    8. เชื้อเพลิงและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง เช่น เทียน น้ำมันก๊าด ไฟฉาย ฯลฯ
    นอกจากนี้ในช่วงภัยพิบัติ นั้นขอให้ผู้ที่มีปัจจัยสี่แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ที่อดอยากขาดแคลน ในเวลาเช่นนั้น ทรัพย์สมบัติ และเงินทอง ไม่มีความหมายแล้ว


    เหตุการณ์ที่เล่ามานี้ ไม่ได้ต้องการให้ท่านเชื่อ เพียงแต่บอกให้ท่านตั้งอยู่บนความไม่ประมาท แต่มนุษย์อย่าตั้งตนอยู่ในความประมาทแหละดี ความจริงเหตุการณ์เหล่านี้ได้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๐ แล้วแต่เกิดน้อย ทำให้สังเกตไม่ชัด เนื่องจาก เทพพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้านทานไว้ เช่น ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) และผู้สำเร็จอื่น ๆ อีกมาก แต่มนุษย์ไม่รู้สึก เพราะฉะนั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔ จะรุนแรงขึ้น แต่เนื่องจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี เป็นผู้ช่วยดูแลโลกมนุษย์ร่วมกับมนุษย์กลุ่มหนึ่ง หาวิธีช่วยเหลือให้เหตุการณ์เบาบาง ลงและอย่าเกิดเร็วเกินไป ให้เลื่อนออกไปอีก ๓๐ ปี (๒๕๖๐)


    ฉะนั้นจึงขอเชิญชวนมนุษย์ผู้มีสัมมาทิฐิรวมผนึกกำลังเพื่อลดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เบาบางลง เนื่องจากเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อไรเร็วหรือช้า ย่อมขึ้นอยู่กับมนุษย์ในโลกนี้เท่านั้น เพราะเป็นความอยู่รอดของมนุษย์ ไม่ใช่ความอยู่รอดของเทพพรหมฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับมนุษย์ต่อมนุษย์ เมื่อท่านได้อ่านคำบอกเล่านี้แล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?

    • ถ้าเชื่อก็ขอให้รวมกลุ่มสวดมนต์ และขอให้ผู้ที่ปรารถนาดีต่อมนุษยชาติรวมกลุ่ม เพื่อให้พลังจิตที่มีอยู่ในโลกมนุษย์ช่วยลดเหตุการณ์ธรรมชาติ
      ที่จะเกิดขึ้นในโลกมนุษย์ให้เบาบางลง อย่าถึงขึ้นแตกสลาย ท่านที่ไม่เชื่อ ก็ขอให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

      เราไม่ขอรับรองว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อไร เพราะเป็นเรื่องของฟ้าดินและมนุษย์เท่านั้น ทุกคนมีพลัง ขอให้ชาวโลกใช้พลังในทางที่ถูก อย่าแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นทำลายกัน ธรรมชาติกำลังจะทำลายเราอยู่แล้ว ขอให้โลกมนุษย์จงมีความสามัคคีกัน เราไม่กล้ารับรองว่าบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี จะสามารถชะลอเหตุการณ์ออกไปได้ ๓๐ ปี เพราะ พลังอภิญญาฝ่ายดำขณะนี้มีถึง ๙๕% แล้ว ถ้าพลังอภิญญาฝ่ายขาวไม่รวมสามัคคี ผนึกเป็นหนึ่งก็คงไม่สามารถหลีกเหลี่ยงเหตุการณ์ครั้งนี้ได โอ้อนิจจามนุษย์เอ๋ย ความตายกำลังตามใกล้ท่านเข้ามา ทุกขณะแล้ว ท่านยังหลงอยู่หรือ?

      *หมายเหตุ* ข้อมูลจากท่านผู้รู้ผู้มีฌานญาณ และจากหนังสือ " พระสูตรพ้นเคราะห์ภัย " ในบทพุทธทำนาย
    <HR width=410>มหันตภัยของโลก

    มหันตภัยที่กำลังคุกคามโลกมนุษย์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พอสรุปได้ดังนี้

    1. ภัยจากน้ำท่วม และมลภาวะสิ่งแวดล้อม
    2. ภัยจากสงครามเศรษฐกิจ
    3. ภัยจากสงครามพลังจิต
    4. ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ ๓
    5. ภัยจากสงครามจักรวาลระหว่างดวงดาว
    6. ภัยจากอุกกาบาตขนาดยักษ์ที่หลุดจากดวงอาทิตย์
      กำลังเดินทางมาชนโลก
    "ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์เราควรจะดำรงชีวิตอยู่อย่างธรรมชาติ ปฏิบัติยึดมั่นในปัญจศีล พัฒนาจิตใจให้มีคุณธรรม ศีลธรรมเพื่อให้ธรรมนำโลก ก็คงจะช่วยผ่อนคลายจากหนักเป็นเบา ในการที่มนุษย์จะเผชิญมหันตภัยข้างต้นได้ไม่มากก็น้อย..."


    เชื่อหรือไม่เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนตัวของท่าน?

    *คัดจากหนังสือ*

    " วิธียุติสงครามจักรวาล " พล.ต.ต. พิบูลย์ ภาษวัธน์ รวบรวม
    ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-1.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2009
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...