พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    ผมก็ว่าอย่างนั้นและครับท่านพี่มูริญโญ่
     
  2. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, แหน่ง, chantasakuldecha, ker-kanok </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับ ...
    เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับพี่ ตอนนี้ทางอิสานก็หนาวแล้ว ทางแม่สอดก็หนาวกว่าเมื่อวานอีกนิดนึงครับ :)

    ท่านแหน่ง ได้ข่าวดีจากพี่เบิ้มยังครับ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2009
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 53 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 52 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 20 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 18 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า ท่านรองประธาน nongnooo องค์ที่ ท่านรอง ห้อยมา ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพระพิมพ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จ , นางพญา , ผงสุพรรณ , พระรอด , ซุ้มกอ หรือพิมพ์อื่นๆอีกมากมายนั้น

    เป็นสิ่งที่คนรุ่นหลัง ไม่สามารถที่จะทราบได้ว่า มีจำนวนในการสร้างทั้งหมดกี่องค์ มีพิมพ์อะไรบ้าง ซึ่งชื่อพิมพ์นั้น เป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังนำมาตั้งชื่อกันเอง

    ในยุคปัจจุบัน จึงมีผู้คนที่นิยมชมชอบเรื่องของพระเครื่อง ผมขอแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ

    1.กลุ่มซื้อขายพระเครื่อง
    กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องตั้งมาตรฐานของพระเครื่องว่า ต้องมีลักษณะพิมพ์แบบนี้ เนื้อแบบนั้น เท่านั้น การที่ต้องตั้งมาตรฐานไว้มีเหตุผลเพียงประการเดียวก็คือ จะได้ตั้งราคาขายได้สูง

    2.กลุ่มศึกษานอกวงการซื้อขาย
    กลุ่มนี้ ยังแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อยคือ
    2.1 กลุ่มที่ต้องการศึกษาว่า พระพิมพ์หรือพระเครื่องในสมัยโบราณ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีพิมพ์ไหนบ้าง และไม่ข้องเกี่ยวกับการซื้อขาย
    2.2 กลุ่มที่ต้องการศึกษา และ ซื้อขายพระพิมพ์หรือพระเครื่องนอกวงการซื้อขาย

    3.กลุ่มที่บูชาพระใหม่


    สำหรับชมรมรักษ์พระวังหน้า ที่เราศึกษาพระในสมัยโบราณ คงต้องจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ในกลุ่มย่อย 2.1 และที่พิเศษมากไปกว่านั้น การศึกษาของชมรมรักษ์พระวังหน้า ยังทราบถึงองค์ผู้อธิษฐานจิตอีกด้วย ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ไม่ทราบองค์ผู้อธิษฐานจิตครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ prawangna [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ prawangna [​IMG]
    ผมไม่ได้ Log in เข้ามาในชื่อ prawangna นานแล้ว พึ่งมาเห็น ข้อความในprawangna's Profile

    ---------------------------------------------------------

    04-09-2009 02:22 PM
    dhipaya

    สวัสดีคะ สนใจจองหนังสือ" ปู่เล่าให้ฟังคะ" แจ้งเงินทำบุญ พระเจดีย์ 500.- บาท ธนาคาร กรุงไทยตามชื่อบัญชีทั้ง 3 ท่าน คะ หากสมาชิกจะประชุมกัน แล้วผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกขอเข้าร่วมฟังด้วยได้ไหมคะ รบกวนคะ

    -----------------------------------------------------

    ผมต้องขอโทษที่ผมไม่ได้เข้ามาในชื่อ

    ผมขอแจ้งในกระทู้พระวังหน้าฯ นะครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาบุญครับ

    ส่วนหนังสือ"ปู่เล่าให้ฟัง ฉบับสมบูรณ์" ปัจจุบันนี้หากจะซื้อ สามารถซื้อได้ 2 แห่ง คือ

    1.ไปซื้อได้ที่บ้านท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร
    ราคาเล่มละเท่าไหร่ คงต้องสอบถามกับทางพี่จิ๋วครับ

    หรือ

    2.ในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    ท่านใดที่ยังไม่มี หนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง ฉบับสมบูรณ์" หากต้องการที่จะได้ไว้ศึกษาว่า ท่านอาจารย์ประถม ศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพระพิมพ์ (ที่วงการซื้อขาย เขาซื้อขายกัน) อย่างแตกฉาน นั้น

    ผมให้ร่วมทำบุญ ในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    (จำนวน 700 บาท / 1 เล่ม )

    จำนวน 700 บาท โดยโอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีดังกล่าว ผมจะจัดส่งหนังสือ ให้ 1 เล่ม

    ผมมีมอบให้จำนวน 3 เล่มเท่านั้น

    ส่วนค่าจัดส่งไม่ต้อง เนื่องจากเงินที่โอนเข้าบัญชี ผมไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินได้ ผมจะเป็นผู้ออกค่าจัดส่งหนังสือให้เองครับ

    ให้เริ่มจองและร่วมทำบุญตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 สิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้เท่านั้น

    โมทนาสาธุครับ

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....<!-- google_ad_section_end -->


    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ

    [​IMG]
    <O:p</O:p
    ด้วยสำนักสงฆ์ผาผึ้ง ร่วมกันพุทธบริษัท ได้ดำเนินโครงการจัดสร้าง “พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทั้งหลายที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน โดยจะจัดสร้าง พระเจดีย์ ณ ผลาญหินบนเนินสูงสุดของสำนักสงฆ์ ซึ่งมีหลักฐานบางประการปรากฏอยู่ว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระเจดีย์เก่า ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใต้ และจากปรากฏการณ์ซึ่งมีดวงแก้วสุขสกาวสว่างไสว เสด็จขึ้นเหนือสถานที่นี้เป็นอัศจรรย์ คณะพุทธบริษัทจึงเห็นสมควรให้มีการก่อสร้างพระเจดีย์ขึ้น ครอบไว้ตรงจุดที่ดวงแก้วเสด็จขึ้นมา เพื่อทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้รับความเคารพสักการบูชาอย่างถูกต้องสืบไป

    จึงได้บอกข่าวบุญนี้มายังผู้มีจิตใจอันประเสริฐ ปรารถนาความดีทุกคน เพื่อร่วมกันสร้างพระเจดีย์ให้สำเร็จ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทั้งหลายที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขออำนาจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ,พระอรหันต์เจ้าทุกๆพระองค์และครูบางอาจารย์ผู้ทรงพระคุณทั้งหลาย รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ท่านได้ร่วมในบุญอันประเสริฐครั้งนี้ ขอเป็นพลปัจจัยส่งผลให้ท่านถึงพร้อมด้วยความเจริญรุ่งเรือง สมบูรณ์พลูผลในมนุษย์สมบัติทุกๆด้าน และสมประสงค์ในสิ่งที่ปรารถนาไว้ทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตอันใกล้นี้เทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ประธานอุปถัมภ์ หลวงพ่อประสงค์ จันทสุวรรโน<O:p</O:p
    ประธานฝ่ายสงฆ์ พระธวัชชัย ชาครธัมโม (พระอาจารย์นิล)<O:p</O:p
    ประธานฝ่ายฆราวาส คุณวิชชัย ธรรมประดิษฐ์

    การบริจาค
    สำหรับหมายเลขบัญชีที่จะใช้ในการโอนเงินเพื่อร่วมทำบุญ<O:p</O:p
    บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 <O:p</O:p
    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 <O:p</O:p
    ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปรีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ



    [​IMG]

    อานิสงส์การสร้างพระเจดีย์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.ย่อมเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไม่เป็นผู้มัวเมาในชีวิต<O:p</O:p
    2.ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย<O:p</O:p
    3.เมื่อใกล้ดับขันธ์ ย่อมไม่หลงลืม<O:p</O:p
    4.ย่อมได้เกิดในประเทศที่เหมาะสม สำหรับการสร้างบารมีในพระพุทธศาสนา<O:p</O:p
    5.ย่อมไปบังเกิดในสวรรค์ เมื่อยังไม่หมดกิเลส<O:p</O:p
    6.ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพานได้โดยง่าย<O:p</O:p


    ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง - PaLungJit.com เธนเธกเธด.68899/page-92#post2659916
     
  6. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 12 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 10 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีตอนบ่ายครับท่าน
     
  7. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 126 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 125 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับผม :)
     
  8. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“แซนด์วิช”ที่แพงที่สุดในโลก
    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000142800
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 พฤศจิกายน 2552 22:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แซนด์วิชที่แพงที่สุดในโลก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “แซนด์วิช” เป็นของกินทั้งยามว่างแก้หิว และอาจเป็นอาหารมื้อกลางวันในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือจะเป็นอาหารมื้อค่ำที่คนกินอยากจะนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาหน้าจอทีวี เพื่อเฝ้าดูรายการกีฬาหรือหนังซีรีส์สุดโปรด เพราะไม่ยอมออกไปเสียเวลาหาของกินนอกห้องนอน เมื่อต้องไปต่างถิ่นต่างที่และอยากอยู่แต่ในห้องพักที่โรงแรมก็ย่อมได้
    ความจริงแซนด์วิชที่ดูเหมือนเป็นอาหารสิ้นคิดหรืออาหารของคนจนนั้น แต่เมื่อเกะขนมปังที่ประกบคู่ออกมา เนื้อแท้เมนูด่วนนี้กลับมีที่มาไม่ธรรมดาเลย เพราะตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา แซนด์วิชเป็นถึงเครื่องเสวยสำหรับพระราชวงศ์ในยุโรปทีเดียว ยิ่งเวลาผ่านไปแซนด์วิชก็เริ่มกลายเป็นอาหารที่ถูกพัฒนาจนมีรูปแบบมากมายหลายชนิด จากเครื่องปรุงที่หลากหลายและความนิยมที่แพร่หลายออกไป ทำให้แซนด์วิชกลายเป็นของกินที่ถูกบรรจุไว้ในเมนูของร้านอาหารแทบทุกประเภท โดยเฉพาะร้านอาหารในรถไฟ เรือเดินสมุทร และเมนูของรูมเซอร์วิสในโรงแรมทุกระดับ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไก่ชั้นเยี่ยมของโลกจากฝรั่งเศส </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จากความนิยมของชาวโลกที่มีต่อแซนด์วิชที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้จุดประกายให้ James Parkinson หัวหน้าพ่อครัวของภัตตาคาร Cliveden’s waldo ในเมืองเบิร์กเชอร์ ในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นภัตตาคารที่อยู่ในทำเนียบมิชลีนสตาร์ ได้บรรจงปรุง “คลับแซนด์วิช” ที่มาจากจินตนาการสุดบรรเจิด จากการที่เขาได้เดินทางไปยังเมืองสำคัญต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลก และจากการเข้าพักตามโรงแรมชั้นเยี่ยมแทบทุกแห่ง
    เขาตั้งข้อสังเกตว่าแซนด์วิชของทุกโรงแรมล้วนแต่มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันแทบไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะ“คลับแซนด์วิช” ซึ่งเป็นแซนด์วิชที่มีปริมาณมาก เหมาะสำหรับที่จะกินเป็นอาหารมื่อใดมื้อหนึ่ง ล้วนมีหน้าตาและเครื่องปรุงที่เหมือนกันทั้งนั้น
    James Parkinson จัดการเลือกเฟ้นเครื่องปรุงสุดพิเศษที่เขามั่นใจว่า เป็นเครื่องปรุงที่ให้รสชาติ กลิ่นอาย และความหลากหลาย ใส่ลงไปใน “คลับแซนด์วิช”ชิ้นพิเศษของเขา เพื่อให้สมกับลูกค้ากระเป๋าหนักที่พักอยู่ในโรงแรมหรูระยับระดับห้าดาว โดยที่เขามั่นใจว่าหากลูกค้าที่โปรดปรานอาหารชนิดนี้ ได้กิน “คลับแซนด์วิช”สูตรพิเศษของเขาแล้ว จะต้องประทับใจในความพิเศษอย่างยากที่จะลืมได้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=395 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=395>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดทรัฟเฟิลขาวและJamon Iberico </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เริ่มต้นจากเครื่องปรุงที่เขาเลือกใช้ Jamon Iberico ซึ่งเป็นแฮมสุดยอดอร่อยของโลกที่มาจากประเทศสเปน ซึ่งเป็นแฮมที่ได้จากหมูป่าตีนดำและถูกขุนด้วยลูกโอ้คป่าเท่านั้น ซึ่งแฮมชนิดนี้ราคากิโลละเกือบ 200 ดอลล่าร์
    เท่านั้นยังไม่พอ สำหรับเนื้อไก่ที่จะใช้ปรุงเป็นไส้ ก็ต้องเป็นเนื้อไก่ชั้นเยี่ยมของโลกจากฝรั่งเศส ที่เรียกขานกันว่า Poulet de Bresse อันเป็นไก่พื้นเมืองที่ถูกสงวนไว้ให้มีการเพาะพันธุ์แต่ในฝรั่งเศสเท่านั้น เพราะเป็นไก่ที่มีหงอนสีแดงสด ขนเป็นสีขาวบริสุทธิ์ทุกเส้นทั้งตัว และมีหนังหน้าแข้งตลอดจนถึงตีนเป็นสีน้ำเงินเข้ม อันเป็นสีของธงชาติและเป็นสัญญลักษณ์ของฝรั่งเศส ราคาขายส่งอยู่ที่กิโลละ 21 ดอลล่าร์


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=364 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=364>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไข่นกกะทาและมะเขือเทศตากแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับไข่ดาวที่ใส่ลงไปในไส้นั้น เขาไม่ได้ใช้ไข่ไก่ปกติ หากแต่เลือกใช้ไข่นกกระทาจากอิตาลีมาทอดพอให้ไข่ขาวสุกหอม แต่ไข่แดงยังคงเยิ้มเล็กน้อย นอกจากนั้นแล้วยังใช้มะเขือเทศแดดเดียวจากอิตาลีเพื่อเพิ่มรสชาติ และที่สำคัญคือเขานำเอาเห็ดทรัฟเฟิลขาว มาไสเป็นแผ่นบางๆ โรยหน้าลงไปอย่างไม่ยั้งมือถึงชิ้นละ 10 กรัม เพื่อเพิ่มความหอมกำซาบขึ้นไปอีก
    ส่วนขนมปังที่ใช้เป็นขนมปังพิเศษที่หมักแป้งนานถึง24ชั่วโมงก่อนนำไปอบ จากนั้นนำมาสไลด์เป็นแผ่นหนาประมาณ 1 ซม. และนำเอาเครื่องปรุงดังกล่าวบรรจุเป็นไส้สองชั้น มีน้ำหนักประมาณ 530 กรัม
    “คลับ แซนด์วิช”ที่ว่านี้ถูกตั้งชื่อว่า “Von Essen Platinum Club Sandwich”ซึ่งได้ขึ้นทำเนียบ “คลับแซนด์วิช”ที่ราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยราคาที่ 100 ปอนด์หรือ 197 ดอลลาร์
    ฟังจากการเลือกเครื่องปรุงที่ทั้งหายากและราคาแพงสุดๆ จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า “คลับแซนด์วิช”ชนิดนี้ เหตุใดจึงมีราคาแพงลิบลิ่ว แต่ก็ยังอดสงสัยได้ว่า จะมีคนสั่งกินกันปีละกี่อันเชียว ในยามที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ยอมโงหัวสักเท่าไร เพราะกี่สักกี่คนจะกล้าหาญกินอาหารที่แพงราวกับทองคำ เพียงชั่วอิ่มเดียว!!!!!!
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ตั้งแต่ทานไป งานเข้าตลอด

    กลางวันยังต้องฝากซื้อเข้ามา แถมตอนทานข้าวกลางวันบ่ายสองโมง ตอนกำลังทานข้าวยังมีโทร.ตามผมลงไปเซ็นงานอีก

    :':)':)':)':)'(

    ขอบคุณสำหรับกาแฟอร่อยๆ เค้กอร่อยๆนะครับท่านรอง
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เฮ้ย..ขนมนะฝากทางบ้านแอบมาทานก่อนเดี๋ยวฟ้องเลยครับ หุ หุ
     
  12. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ตกลงองค์ที่ลุงข้างบ้านห้อยมา ดีปล่าวแรงปล่าวครับ หุ หุ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมว่าตามเพื่อนผมครับ

    เพื่อนว่าดี ผมก็ว่าดีเหมือนกัน อิอิ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นางกวัก

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    ประวัติ

    นางกวักชื่อจริงว่า สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์ มารดาชื่อ สุมณฑา เกิดที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ (อยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี) มีครอบครัวประกอบอาชีพทำมาค้าขาย ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1 เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วย เพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขาย

    สุภาวดีได้มีโอกาสพบกับ "พระกัสสปเถระเจ้า" เป็นอริยสงฆ์แสดงธรรม หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถระเจ้าได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว โดยได้ตั้งกุศลจิตประสาทพรเช่นนี้ทุกครั้งที่สุภาวดีมีโอกาสไปฟังจนจบอำลากลับ

    ต่อมา สุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาไปทำการค้า และมีโอกาสฟังธรรมพระอริยสงฆ์อีกท่านหนึ่ง นามว่า "พระสิวลีเถระเจ้า" สุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งใจ สุภาวดีจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ เป็นอันมาก พระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น คือ ท่านอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 7 ปี 7 เดือน จึงคลอดออกมา พร้อมด้วยวาสนา บารมี ที่ติดกับวิญญาณธาตุของท่าน ท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอด เมื่อถึงคราวจำเป็นและต้องการ ทุกครั้งที่สุภาวดีได้ฟังธรรมและลากลับ พระสิวลีเถระเจ้าได้กำหนดกุศลจิต ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว เช่นเดียวกัน

    จิตของสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน

    นางได้รับพรว่า "ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่างๆสมความปรารถนาเถิด"

    บิดารู้ว่าสุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว ครอบครัวร่ำรวยขึ้นเป็นมหาเศรษฐีมีเงินทองและกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบได้กับธนัญชัยเศรษฐี บิดาของวิสาขาแห่งแคว้นโกศล บิดาของสุภาวดีได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา เมื่อนางสิ้นชีวิตแล้ว ชาวบ้านจึงปั้นรูปแม่นางสุภาวดีไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรือง และความเชื่อดังกล่าวนี้ ก็แพร่หลายเข้ามายังสุวรรณภูมิ จากการเผยแพร่ของพราหมณ์ และยังคงเป็นความเชื่อที่สืบมาจนถึงทุกวันนี้

    ดูเพิ่ม

    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 125/1000000Post-expand include size: 4329/2048000 bytesTemplate argument size: 1524/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:129113-0!1!0!!th!2 and timestamp 20091126044119 -->ดึงข้อมูลจาก "นางกวัก - วิกิพีเดีย".
    หมวดหมู่: ความเชื่อไทย
    หมวดหมู่ที่ซ่อนอยู่: บทความที่ขาดแหล่งอ้างอิง | บทความที่รอการตรวจสอบรูปแบบ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คาถาบูชาแม่นางกวัก (ดีทางด้านค้าขาย เมตตา มหานิยม)

    Ç?Ҷ҈ѡ?Ԭʔ??Ԭ?蒧榬t;/a>


    ว่านะโม ๓ จบแล้วกล่าวดังนี้
    โอมปู่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียว ชื่อว่าแม่นางกวัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก อยู่ทุกถ้วนหน้า
    เอหิมามะมะ อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ

    จะค้าขายก็ขอให้เป็นเศรษฐี หนึ่งปีให้เป็นพ่อค้าสำเภาทอง จะค้าเงินขอให้เงินเข้ามากอง จะค้าทองขอให้ไหลมาเทมาเต็มบ้านเต็มเรือน จะค้าขายสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้ซื้อง่ายขายคล่อง ขอให้ซื้อง่ายขายดี ขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี
    อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ นะมะอะอุ นะชาลีติ อิกะวิติ พุทธะสังมิ ทุสะมะนิ อิธะคะมะ จะพะกะสะ นาสังสิโม สุมะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะเมตตา โมขายดี พุทธไม่ต่อ ธาซื้อดี ยะใจดี มิใจอ่อน รักพุทโธ ปฏิรูปัง สัมปะฏิจฉามิ เพี้ยง สิทธิโภคา สิทธิพะลา สิทธิจะมหาเดชา นะชาลีติ เอหิจงมา พุทธะสังมิ นิมามะมามา
    มาช่วยกันค้า มาช่วยกันขาย กวักเอาเงินมา กวักเอาทองมา กวักเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ หน้าที่การงาน ผู้คน ชื่อเสียงเกียรติยศ ข้าทาสหญิงชายมา
    มาด้วยนะโมพุทธายะ ปฏิรูปัง สัมปะฏิจฉามิ เพี้ยง พุทธังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ธัมมังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี สังฆังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เตชะสุเนมะภูจะนาวิเวอิติ นะเยปะรังยุตเต
    ขอจงนำเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ มาสู่ในสถานที่นี้ด้วย เทอญ พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา
    พุทธังคุ้ม ธัมมังคุ้ม สังฆังคุ้ม
    เอหิพุทธานุภาเวนะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ
    อายุ วรรโณ สุขัง พลัง

     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนเช้าทุกๆท่าน

    วันศุกร์แล้วครับ สำหรับท่านที่ทำงาน 5 วัน พรุ่งนี้ก็ได้หยุดงาน 2 วัน
    ส่วนท่านที่ทำงานวันเสาร์ด้วย พรุ่งนี้ก็ทำงานอีกวันก็ได้หยุดงาน 1 วัน
    แต่บางท่านทำงาน 7 วัน ก็ไม่มีวันหยุด อิอิ

    [​IMG] [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2009
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระแม่ธรณี

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    [​IMG]

    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px dotted; BORDER-TOP: #cccccc 1px dotted; BORDER-LEFT: #cccccc 1px dotted; WIDTH: auto; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px dotted; POSITION: relative; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=top width=20></TD><TD>
    แต่ในชาติอาตมะเป็นพระยาเวสสันดรชาติเดียวนั้น ก็ได้บำเพ็ญทานบารมีถึงบริจาคนางมัทรีเป็นอวสาน พื้นพสุธาก็กัมปนาการถึง 7 ครั้ง แลกาลบัดนี้ อาตมะนั่งเหนืออปราชิตบัลลังก์อาสน์ หมู่มารอริราชมาแวดล้อมยุทธการเป็นไฉนแผ่นพสุธาธารจึงดุษณีภาพอยู่ฉะนี้ แลพระยามารอ้างบริษัทแห่งตนให้เป็นกฏสักขีขานคำมุสา แลพื้นปฐพีอันปราศจากเจตนาได้สดับคำอาตมะในครั้งนี้จงรับเป็นสักขีพยานแห่งข้า แล้วเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวาอันประดับด้วยจักรลักษณะอันงามดุจงวงไอยรารุ่งเรืองด้วยพระนขามีพรรณอันแดงดุจแก้วประพาฬออกจากห้องแห่งจีวร ครุวนาดุจวิชุลดาในอัมพรอันออกจากระหว่างห้องแห่งรัตวลาหก ยกพระดัชนีชี้เฉพาะพื้นมหินทรา จึงออกพระวาจาประกาศแก่นางพระธรณีว่า ดูก่อนวนิดาดลนารี ตั้งแต่อาตมะบำเพ็ญพระสมภารบารมีมาตราบเท่าถึงอัตภาพเป็นพระเวสสันดรราช ได้เสียสละบุตรทานบริจาคแลสัตตสดกมหาทานสมณะพราหมณาจารย์ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งจะกระทำเป็นสักขีพยานในที่นี้ก็มิได้ มีแต่พสุนธารนารีนี้แลรู้เห็นเป็นพยานอันใหญ่ยิ่ง เป็นไฉนท่านจึงนิ่งมิได้เป็นพยานอาตมาในกาลบัดนี้
    ในขณะนั้น นางพสุนธรีวนิดาก็มิอาจดำรงกายาอยู่ได้ ด้วยโพธิสมภารานุภาพยิ่งใหญ่แห่งพระมหาสัตว์ ก็อุบัติบันดาลเป็นรูปนารี ผุดขึ้นจากพื้นปฐพียืนประดิษฐานเฉพาะพระพุทธังกุรราช เหมือนดุจร้องประกาศกราบทูลพระกรุณาว่าข้าแต่พระมหาบุรุษราช ข้าพระบาททราบซึ่งสมภารบารมีที่พระองค์สั่งสมอบรมบำเพ็ญมา
    แต่น้ำทักษิโณทกตกลงชุ่มอยู่ในเกศาข้าพระพุทธเจ้านี้ ก็มากกว่ามากประมาณมิได้ ข้าพระองค์จะบิดกระแสใสสินโธทกให้ตกไหลหลั่งลง จงเห็นประจักษ์แก่นัยนาในครานี้ แลนางพระธรณีก็บิดน้ำในโมลีแห่งตน อันว่ากระแสชลก็หลั่งไหลออกจากเกศโมลีแห่งนางพสุนธรีเป็นท่อธารมหามหรรณพ นองท่วมไปในประเทศที่ทั้งปวงประดุจห้องมหาสาครสมุทร พระผู้เป็นเจ้ารักขิตาจารย์จึงกล่าวสารพระคาถาอรรถาธิบายความก็เหมือนนัยกล่าวแล้วแต่หลัง
    ครั้งนั้น หมู่มารเสนาทั้งหลายมิอาจดำรงกายอยู่ได้ ก็ลอยไปตามกระแสน้ำปลาตนาการไปสิ้น ส่วนคิรีเมขลคชินทรที่นั่งทรงองค์พระยาวัสวดีก็มีบาทาอันพลาดมิอาจตั้งกายตรงอยู่ได้ ก็ลอยตามชลธารไปตราบเท่าถึงมหาสาคร อันว่าระเบียบแห่งฉัตรธวัชจามรทั้งหลาย ก็ทักทบท่าวทำลายล้มลงเกลื่อนกลาดและพระยามาราธิราชได้ทัศนาการเห็นมหัศจรรย์ ดังนั้น ก็บันดาลจิตพิศวงครั่นคร้ามขามพระเดชพระคุณเป็นอันมาก พระคันถรจนาจารย์จึงกล่าวพระคาถาสรรเสริญคุณานุภาพโพธิสัตว์อรรถาธิบายความก็ซ้ำหนหลัง
    ครั้งนั้นมหาปฐพีก็ป่วนปั่นปานประหนึ่งว่าจักรแห่งนายช่างหม้อบันลือศัพท์นฤนาทหวาดไหวสะเทือนสะท้าน เบื้องบนอากาศก็นฤโฆษนาการ เสียงมหาเมฆครืนครั่นปิ่มปานจะทำลายภูผาทั้งหลาย มีสัตตภัณฑ์บรรพต เป็นต้น ก็วิจลจลาการขานทรัพย์สำเนียงกึกก้องทั่วทั้งท้องจักรวาล ก็บันดาลโกลาหลทั่วสกลดังสะท้าน ปานดุจเสียงป่าไผ่อันไหม้ด้วยเปลวอัคคี ทั้งเทวทุนทุภีกลองสวรรค์ก็บันลือลั่นไปเอง เสียงครืนเครงดุจวีหิลาชอันสาดทิ้ง ถูกกระเบื้องอันเรืองโรจน์ร้อนในกองอัคนี การอัสนีบาตก็ประหารลงเปรี้ยง ๆ เพียงพื้นแผ่นปฐพีจะพังภาคดังห่าฝน ถ่านเพลิงตกต้องพสุธาดลดำเกิงแสงสว่างหมู่มารทั้งหลายต่าง ๆ ตระหนกตกประหม่า กลัวพระเดชานุภาพแพ้พ่าย แตกขจัดขจายหนีไปในทิศานุทิศทั้งปวงมิได้เศษ แลพระยามาราธิราชก็กลัวพระเดชบารมี ปราศจากที่พึ่งที่พำนักซ่อนเร้นให้พ้นภัยหฤทัย ท้อระทดสลดสังเวชจึงออกพระโอษฐ์สรรเสริญพระเดชพระคุณพระมหาบุรุษราชว่า ดังอาตมาจินตนาการอันว่าผลทานศีลสรรพบารมีแห่งพระสิทธัตถกุมารนี้ ปรากฏอาจให้บังเกิดมหิทธฤทธิ์สำเร็จกิจมโนรถปรารถนาทุกประการ มีพระกมลเบิกบานแผ่ไปด้วยประสาทโสมนัส จึงทิ้งเสียซึ่งสรรพาวุธประนมหัตถ์ทั้ง 2,000 อัญชลีกรนมัสการ ก็กล่าวสารพระคาถาว่า นโม เต ปุริสาชญญ เป็นอาทิ อรรถาธิบายความว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ปุริสาชาไนยชาติเป็นอุดมบุรุษราชในโลกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายวันทนาการชุลีพร้อมด้วยทวารทั้ง 3 คือกายวจีมโนประณามประณตในบทบงกชยุคลบาท บุคคลผู้ใดในมนุษย์โลกธาตุกับทั้งเทวโลก ที่จะปูนเปรียบประเสริฐเสมอพระองค์คงเทียมเทียบนั้นมิได้มี พระองค์ได้ตรัสเป็นพระศรีสรรเพชญ์เสร็จแจ้งจตุราริยสัจจ์ศาสดาจารย์มีพระเดชครอบงำชำนะหมู่มาร เป็นปิ่นปราชญ์ฉลาดในอนุสัยแห่งสรรพสัตวโลกจะข้ามขนนิกรเวไนย์ให้พ้นจตุรโอฆกันดารบรรลุฝั่งฟากอมฤตมหานฤพานอันเกษมสุขปราศจากสังสารทุกข์ในครั้งนี้ แลพระยาวัสวดีมารโถมนาการพระคุณพระมหาบุรุษราชด้วยจิตประสาทเลื่อมใส ผลกุศลนั้นจะตกแต่งให้ได้ตรัสแก่พระปัจเจกโพธิญาณในอนาคตกาลภายหน้า เมื่อพระยามารกล่าวสัมภาวนากถาสรรเสริญคุณพระโพธิสัตว์ แล้วก็นิวัตตนาการสู่สกลฐานเทวพิภพ
    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=bottom width=20></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ลักษณะของพระแม่ธรณี
    ตามที่ปรากฏ โดยมากมักจะเป็นรูปเทวดาผู้หญิง มีรูปร่างอวบใหญ่ ล่ำสันอย่างได้สัดส่วน หรือในบางแห่งจะมีรูปร่างอ้อนแอ้น มีความงามประดุจเทพธิดา นั่งในท่าคุกเข่า แต่ยกเข่าขวาขึ้นสูงกว่าเข่าซ้าย บางแห่งสร้างให้อยู่ในท่ายืน แต่ที่เหมือนกันก็คือมวยผมปล่อยยาว มือขวายกข้ามศีรษะไปจับไว้ที่โคนมวยผม ส่วนมือซ้ายจับมวยผมแสดงท่ากำลังบิดให้สายน้ำไหลออกมาจากมวยผมนั้น ส่วนเครื่องทรงไม่มีแบบแผนที่แน่นอนตายตัว ตามแต่จินตนาการของผู้สร้าง บางแห่งสวมพัตราภรณ์เฉพาะช่วงล่าง แต่บางแห่งทั้งนุ่งผ้าจีบและห่มสไบอย่างสวยงาม ประดับเครื่องถนิมพิมพาภรณ์มีกรอบหน้าและจอนหู เป็นต้น
    พระแม่ธรณีเป็นเทวดาอีกองค์หนึ่งที่ได้รับความนิยมบูชาของคนไทย มักเป็นสัญลักษณ์แห่งแผ่นดิน ดั่งปรากฏในวรรณคดีไทย เช่น โคลงของศรีปราชญ์ก่อนถูกประหารที่กล่าวว่า

    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px dotted; BORDER-TOP: #cccccc 1px dotted; BORDER-LEFT: #cccccc 1px dotted; WIDTH: auto; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px dotted; POSITION: relative; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=top width=20></TD><TD>
    ธรณีนี่นี้เป็นพยาน...
    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=bottom width=20></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ดูเพิ่ม

    แหล่งข้อมูลอื่น

    <TABLE class=navbox cellSpacing=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 2px; PADDING-LEFT: 2px; PADDING-BOTTOM: 2px; PADDING-TOP: 2px"><TABLE class="nowraplinks collapsible autocollapse" id=collapsibleTable0 style="BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; WIDTH: 100%" cellSpacing=0><TBODY><TR><TH class=navbox-title style="BACKGROUND: goldenrod; COLOR: #fefefe" colSpan=2>




    เทวดา และเทพารักษ์ ตามความเชื่อของไทย



    </TH></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TH class=navbox-group style="WHITE-SPACE: nowrap">เทวาธิบดี</TH><TD class="navbox-list navbox-odd" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #fdfdfd 2px solid; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0px; TEXT-ALIGN: left">ท้าวจตุโลกบาล (ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ท้าวกุเวร) · พระอินทร์ · พระสุยามาธิบดีสันดุสิตเทพบุตรพระยาปรนิมิตเทวราชพระยาวสวัตตีมาราธิราช




    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TH class=navbox-group style="WHITE-SPACE: nowrap">ตรีมูรติ</TH><TD class="navbox-list navbox-even" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #fdfdfd 2px solid; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0px; TEXT-ALIGN: left">พระตรีมูรติพระนารายณ์ (พระวิษณุ)พระอิศวร (พระศิวะ)พระพรหม




    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TH class=navbox-group style="WHITE-SPACE: nowrap">เทวนพเคราะห์</TH><TD class="navbox-list navbox-odd" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #fdfdfd 2px solid; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0px; TEXT-ALIGN: left">พระอาทิตย์พระจันทร์พระอังคารพระพุธพระพฤหัสบดีพระศุกร์พระเสาร์พระราหูพระเกตุ




    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TH class=navbox-group style="WHITE-SPACE: nowrap">เทวดาอื่นๆ</TH><TD class="navbox-list navbox-even" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #fdfdfd 2px solid; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0px; TEXT-ALIGN: left">กามเทพพระกฤษณะพระพายพระพิรุณพระอัคนีพระยมพระหลักเมืองพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองพระกาฬไชยศรีเจ้าเจตคุปต์พระพิฆเนศวรพระวิศวกรรมพระเทพบิดรจตุคามรามเทพพระขันทกุมารพระไพศรพณ์




    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TH class=navbox-group style="WHITE-SPACE: nowrap">เทวสตรี</TH><TD class="navbox-list navbox-odd" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #fdfdfd 2px solid; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0px; TEXT-ALIGN: left">พระแม่กาลีพระแม่คงคาพระแม่ทุรคาพระแม่ธรณีพระแม่ปารวตีพระลักษมีพระสุรัสวดีพระอุมา




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระแม่ธรณี - วิกิพีเดีย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2009
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อุทกทาน

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    [​IMG]


    อุทกทาน มีความหมายว่า ให้ทานด้วยน้ำ (หรือให้น้ำเป็นทาน) เป็นศาลตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนินใน ใกล้โรงแรมรัตนโกสินทร์ และ สะพานผ่านพิภพลีลา สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นปูนปั้นรูปพระแม่ธรณีกำลังบีบมวยผม มีน้ำสะอาดไหลออกมาจากปลายมวยผม สามารถใช้ดื่มกินได้
    อุทกทาน สร้างจากพระราชดำริของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เพื่อแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดบริสุทธิ์ให้ผู้คนทั่วไป โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะกำลังทรงพระยศเป็น เจ้าฟ้าวชิราวุธฯ อยู่นั้น ได้พระราชทานคำแนะนำให้สร้างอุทกทาน เป็นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม ปั้นขึ้นด้วยฝีพระหัตถ์ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ร่วมกับ พระยาจินดารังสรรค์ (พลับ) แล้วเสร็จทำพิธีเปิดในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2460 อันเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
    ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง อุทกทานนี้ถูกชาวบ้านเข้ามาขโมยเอาอุปกรณ์ท่อน้ำต่างๆไป จนทำให้ใช้การไม่ได้ และได้รับการซ่อมแซมให้ใช้ได้เหมือนเดิมในรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แต่สถานที่นี้ก็ไม่ได้ใช้เป็นที่แจกจ่ายน้ำสะอาดอีกต่อไป คงเหลือแต่ศาลศักดิ์สิทธิ์ ที่ให้ผู้คนมาสักการะ
    บริเวณลานอุทกทาน เคยมีแผงขายหนังสือจำนวนหลายสิบร้าน จนเป็นแหล่งขายหนังสือที่สำคัญ ก่อนที่จะถูกสำนักงานกรุงเทพมหานครให้ย้ายไปอยู่ที่สวนจตุจักร ในปี พ.ศ. 2528
    รูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ จึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของหลายหน่วยงาน รวมทั้งเป็นเครื่องหมายของ การประปา และ พรรคประชาธิปัตย์


    [แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

    อุทกทาน - วิกิพีเดีย
     

แชร์หน้านี้

Loading...