พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ตามด้วยเกศบัวตูม ๗ องค์

 

ส่งไปทาง mail แล้วครับ ไม่ไหว หน้านั้น load นานมาก..

 

พระสมเด็จวังหน้า พิมพ์พิเศษอีก ๒ พิมพ์ เพิ่มจากคราวที่แล้ว ๓ พิมพ์ อันที่จริงผมคิดว่า น่าจะมีมากกว่านั้น อันนี้ต้องให้คุณหนุ่มลองเล่าให้ฟังดีกว่า หากจะให้ดี ช่วยรวบรวมมาเผื่อแผ่สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าหน่อยก็ดีนะครับ แบบลงรักปิดทอง พระพิมพ์ในปัจจุบันไม่น่าจะมีวัดใดจัดสร้างกันแล้ว ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงไม่จัดสร้างกัน

 

คุณpsombat ไม่ทราบว่า เกิดประทับใจพระวังหน้า ตรงจุดไหนหรือครับ..ลองเล่าสู่กันฟัง..

 

เป็นพระพิมพ์หนึ่งที่บ่งบอกให้ทราบว่า สมเด็จโตท่านเชี่ยวชาญในวิชาโสฬส-สรตะ เป็นของเล่นของพระอริยเจ้าครับ..

 

ปล่อยให้นั่งชมอย่างเดียวไม่ได้ครับ ต้องสอบถามคุณน้องนู่ครับว่า ดีเปล่า แรงเปล่าครับ..

 

แหมชมอย่างเดียวก็ บ่ได้ ครับ แหมขุดล่อไว้แล้วผมช่วยลงหลุมให้ครับ รบกวนขยายความ "วิชาโสฬส-สรตะ" ด้วยครับ
55555ถามว่าแรงปล่าว ตามที่ทดสอบได้องค์ซ้ายดีมากครับ ส่วนองค์ขวานี่ พระวังหน้าปกติครับ หุ หุ

 

555555 พระวังหน้าปกติ นี่ คืออะไร ผม ไม่เข้าใจ ช่วยอธิบายขยายความให้หน่อยว่า ที่ว่าปกติ เป็นยังไง ปกติบ่มีแรง แรงเป็นปกติ แล้วองค์ขวาไม่ใช่พระวังหน้าหรือ ไม่ได้ถ่ายภาพด้านหลังให้ดุ เพราะคุณน้องนู๋ไม่ชอบข้างหลัง.....ติ๊กต๊อกๆๆๆๆ ช่วยกันคิดหน่อยนะครับ...

 

ขุดไป ๑ หลุม แต่มี ๒ คนไปรวมกันในหลุม ไม่แออัดกันหรือ 5555555 ยังไงครับ คุณนิว วานบอกหน่อยนะ...

 

พระศอ และลำพระวรกาย ยาวๆแบบนี้มีพิมพ์เดียวเท่านั้นครับ ....อิ..อิ..

 

555 ก็บอกแล้วว่า รู้ว่าเขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอก ครับ หุ หุ

 

ยังไม่ตอบผมเลยถามผมกลับอีกแล้วครับ....
อิทธิคุณปกติของพระวังหน้านี่บอกไปเดี๋ยวก็ตีความกันยืดยาวอีกเอาแต่เชียร์กันเองไงครับผมอธิบายเป็นเชิงปริมาณง่ายๆรึกันครับ จะได้พอเข้าใจโดยไม่ไปกระทบใดๆกับใคร คะแนนเต็มคือ 10 ปกติ พระใหม่ส่วนมาก สร้างหลังปี 2500 ผมมักพบว่า ความแรง(ที่ผมสัมผัสได้)จะอยู่ในระดับ 2-5
พระวังหน้าที่ผมแจ้งว่ามาตรฐานปกติ จะอยู่ระดับ 6-7 (สมเด็จจิงเกิลเบลก็อยู่ในระดับนี้)
องค์ซ้ายที่ว่าอยู่ในระดับ 8 ระดับเดียวกับ สมเด็จกลํกไม้ขีด พระพิมพ์ปูนสอ บางองค์ครับส่วนรายละเอียดที่ สูงกว่านั้น ขออนุญาต อุ๊บอิ๊บไม่บอกครับ หุ หุ

 

แล้วองค์นี้เป็นไงครับท่านเพชร หุ หุ

 

อ้าว...ท่านเพชรชมชอบชมด้านหลัง เจ้าลุงข้างบ้านจัดให้ครับ และฝากถามมาว่าดีปล่าวแรงปล่าวครับ หุ หุ

 

เรียนคุณพี่เพชรที่เคารพ
เนื่องจากผมเข้ามาด้วยความกรุณาของลูกพี่หนุ่ม หรืออาจบุญพาวาสนาส่งมาให้เป็นครอบครัวต่างบุพการี แต่กลับมีปณิธานเดียวกัน คือเพื่อพระพุทธศาสนา ดังนั้นจึงขออนุญาตนำประโยคทองที่กล่าวว่า

"...ผู้ที่รู้เรื่องพระกรุวัดพระแก้วแล้ว จะยิ่งชอบ ยิ่งหลงไหลในความมหัศจรรย์ในความอัจฉริยะขององค์ผู้ให้สร้าง ,ช่างสิบหมู่ที่บรรจงสร้างความวิจิตรพิศดารให้ลูกหลานได้มีโอกาสชื่นชมในความงามครับ" "ของจริงต้องพิสูจน์ได้" "พระเลือกคน"

มากล่าวกันอีกรอบเป็นปฐม นอกจากนั้นเราต่างมีความรู้สึกร่วมกันอีกว่า

"...อันพระวังหน้านี้ เรารู้ว่ามีจุดเริ่มต้น ณ จุดใด แต่ทว่า...เราไม่อาจล่วงรู้ถึงจุดสิ้นสุดเลย...เพราะ...เราได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ เราได้พบในสิ่งที่ไม่น่าจะพบ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่น่าจะเห็น ของบางอย่างครูบาอาจารย์ก็พึ่งจะได้เห็นพร้อมๆกับเราในวันนี้ นับเป็นมนต์เสน่ห์ เป็นความภูมิใจ เป็นประสบการณ์อันใหญ่หลวงยิ่งในชีวิตครับผม"

 

เรื่องของพระวังหน้า หาคนรู้จริงๆนี่น้อยมากครับ จำได้ว่า เคยถกปัญหานี้ไปหลายหน้าในช่วง ๓ ปีมานี้ ช่วงนั้นเหตุการณ์หลายอย่างยังไม่ชัดเท่าปัจจุบันนี้ เจตนาที่นำพระพิมพ์ลงรักปิดทองมาให้ศึกษากันในนี้ เพื่อให้ทราบว่า ศาสตร์ และศิลป์ที่ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้ามีความวิจิตรงามเหลือกว่าที่ใด เพียงรักสีแดง สีดำ สีน้ำเงินที่ลงบนพระพิมพ์ พระบูชา ก็งดงามเหลือหลาย แถมยังมีกลบทอันหมายถึงเมตตามหานิยม ที่ครอบคลุมไปถึงรักทั้งต่อหน้า และลับหลัง คนข้างๆก็รัก...

ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า พระพิมพ์ที่ไม่มีวัดใดเคยสร้างกันมาก่อนในรูปลักษณ์แบบนี้ เว้นแต่พระพิมพ์ปิดตาของหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกันมาก จะมากลายเป็นพระปลอมที่คนทั่วไปเขาเอ่ยกัน ต่อให้เป็นพระสมเด็จอรหัง ของวัดระฆังที่พวกเราเรียกกันว่าวัดจิงเกิลเบล ก็ไม่ปรากฎว่าจะเคยลงรักกันมาก่อน ศิลปะการลงรัก และปิดทอง มักจะพบในราชสำนักเท่านั้น...

post ของคุณน้องนู๋post นี้ ผมคิดว่าเป็นความรู้ที่เปิดเผยมากกว่าทุกครั้งหากพูดกันถึงเรื่องความแรง เพราะทุกครั้งที่มีผู้สอบถามคุณน้องนู๋ถึงความแรง ก็มักจะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเท่าครั้งนี้ พระที่เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านเมตตาเสกให้นี้ก็นับว่าเหลือกินเหลือใช้แล้ว แล้วองค์ใดที่สามารถเสกให้ถึงระดับสูงกว่านั้นได้ อันนี้ต้องศึกษากันต่อไป..

พระพิมพ์ที่มีอิทธิคุณเน้นทางด้านเมตตา เปรียบเหมือนมีพลังหยินมาก พระพิมพ์ที่มีอิทธิคุณเน้นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เปรียบเสมือนมีพลังหยางมาก ในกลุ่มเดียวกันยังเข้าใจต่างกันเลยครับ อิทธิคุณทางด้านแคล้วคลาด กับคงกระพันก็ต่างกัน แคล้วคลาดคือปลอดภัย ไม่มีอันตราย ถากไปถากมา ไม่โดน ไม่เจ็บ ทำนองนี้ แต่คงกระพันชาตรีคือโดนแต่ไม่เข้า ถูกยิง ถูกฟัน แต่ไม่เข้า แต่เจ็บ ลักษณะนี้อะไรดีที่สุด แคล้วคลาดน่าจะดีกว่าคงกระพันชาตรี แต่หากหลีกไม่พ้น ก็ได้รับอานิสงค์ของคงกระพันชาตรีไปอีก

ดังนั้นการเทียบกันระหว่างเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด จึงเหมือนการตั้งรับ และการรุก ศิลปะการตั้งรับ และศิลปะการรุกต่างก็มีจุดเด่นซึ่งกัน และกัน จำได้ว่าพี่ใหญ่เคยบอกไว้ว่าเมตตามหานิยมทำได้ยากกว่าแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี ดังนั้นเมื่อสอบถามถึงความแรงของพระพิมพ์ คนส่วนใหญ่จึงเพ่งเล็ง+คาดหวังไปในการตรวจสอบกระแสพลังที่พุ่งออกมาว่าแรงคือคงกระพันเอาไว้ก่อน ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องนัก แล้วเมตตาแรงๆ(หมายถึงเมตตามากๆ)กระแสเป็นอย่างไร หากนำเรื่องของหยินเย็น หยางร้อน เข้ามาสนับสนุนแนวทางนี้ก็จะทราบได้ด้วยตนเอง คุณนิวเคยนำพระพิมพ์ชนิดหนึ่งให้ดู ก็รู้สึกถึงกระแสของชั้นน้ำตกเป็นชั้นๆตกลงมา ได้รับการคำตอบว่า ผู้เสกได้กำหนดด้วยกสิณน้ำ ก็แปลกดีครับ...

คำถามของคุณน้องนู๋เรื่องโสฬส-สรตะนี้เป็นเรื่องของกลตัวเลข บันทึกของพระนิมิตรอักษร กล่าวไว้ว่า ผู้ที่สำเร็จวิชานี้มีเพียง ๑๒ ท่านคือ

</B>๑.สมเด็จกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์
๒.ขรัวจาด สัพพัญญู วัดภาณุรังษี บางพลูใน
๓.ขรัวคุมโปง วัดดีดวด หลังวัดอรุณราชวราราม
๔.ขรัวแก่น โคกขาม วัดในคลองบางซื่อ
๕.ขรัวเขียว วัดบางละมุดใต้ ตรงกันข้ามบางโพธิ์
๖.เจ้าคุณธรรมกิตติ วัดรังษีสุธาวาส
ู๗.อาจารย์เตา วัดสุนทรธรรมทาน นางเลิ้ง
๘.เจ้าคุณจันโทปมคุณมุนี วัดมกุฏกษัตริยาราม
๙.อาจารย์เหม วัดเทพากร บางพลู
๑๐.สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง
๑๑.สมเด็จพระพุฒาจารย์(เขียว)วัดราชาธิวาส
๑๒.อาจารย์โพธิ์ วัดเทพนารี บางพลู

คัดลอกตำราโสฬสบางส่วนของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร...
โสฬส-สรตะ ....อ.เทพย์ สาริกบุตร์
โสฬสนี้ดีแท้แน่หนักหนา ท่านบัณฑิตคิดไว้ใช้ปัญญา
เป็นตำราตำหรับรวยช่วยแก้จน ให้ตรองตรึกนึกดูให้รู้หลัก
หนทางมรรคจัตตุราสถาผล ตัวสิบสูญมูลแอบดูแยบยล
อย่าฉงนคิดหนึ่งให้ถึงเก้า เห็นวิธีทางเดินดำเนินหลัก
ก็รู้มรรคแจ้งกระจ่างสวางขาว หมดมลทิลสิ้นราคีไม่มีคาว
เร่งสืบสาวแสวงสูญมาคูณลง ตัวเกิดตายหมายดูให้รู้แน่
ก็เที่ยงแท้สมความตามประสงค์ สำเร็จแล้วไม่หลอกบอกตามตรง
.................
2341 ผู้ใดคิดถึงลุฃึ่งโสดา ถ้าคิดมิได้ ให้เอาที่แร้งกับกา
กาหนีที่ควำ ให้เอาที่หงาย หนีที่ตายให้เอาที่เป็น
ผู้ใดคิด 6 เห็น ได้ทองทุกวัน........
2341 ผู้ใดรำพึง นับ 1 ถึง 9 ผู้ใดใจเบาเอา 9 เป็น 10
40 แลลิบ เร่งหยิบเร่งยก แอบแฝงตัว 6 คือนกหัสดินทร์
ตัว 7 ครองศีล อดข้าวอดปลา ตัว 3 แก่นกล้า โกรธาดุดัน
ตัว 4 นั้นขยัน ผูกพันไมตรี ชอบที่มรรคา 43 โน่นแน่
อวสานสอาดหนักหนา ฝ่ายว่า ตัว 5 พยักหน้าแยกเพื่อน
สอนให้นเรือน ตักเตือนถาม 9 12 นี้เล่า ถึง 9 ถึง 7
ตัว 8 ไม่เข็ด วิ่งระเห็ดเป็น 2 เร่งนึกตรึกตรอง
เอาที่สิบ 0 12 นี้ท่านทั้งหลายเอ๋ย อย่านิ่งเฉยอยู่นาน
40 คูณหาร นิพพานจึงจะเห็น 6 โหนโจนเต้น
ชอบเร้นชอบกล เห็น 6 เห็น 1 อย่าฉงนเร่งคิดเร่งบ่น
เอาที่ 1234 สิบที่หนึ่งถ้ามาเป็น 2 เอาเป็น 1
สิบที่สองถ้ามาเป็น 3เอาเป็น 1 เหมือนเดิม
สิบที่สามเอามาเป็น 1ทีเดียว................

ตำราโสฬสอีกฉบับ ของมหาพัด
นะมามิข้าพเจ้า จะขอไหว้คุณพระไตรสรณาคม
อีกทั้งคุณบิดามารดา ครูอุปัชฌาย์ผู้การุญ
หนึ่งข้าไหว้คุณครูตำหรับเก่า เมธาเฒ่าที่ดับสูญ
จิตท่านตั้งหวังการุญ จึงตั้งแบบตำหรับมา
ท่านเห็นจริงตามโสฬส ไม่กล่าวปดเป็นมุสา
เป็นของจริงดังสัจจา จึงวางไว้ให้เป็นทาน
ดูรานะชาวเรา อย่าพูดเดาโดยโวหาร
ลบหลู่ครูอาจารย์ ท่านผู้เฒ่าที่กล่าวมา
ไม่เห็นจริงตามสัจจะ พูดเกะกะว่ามุสา
ตำหรับจริงที่ไหนมา พูดเช่นนี้ก็มีชุม
ชนเช่นนี้อย่าสมาน ท่านโบราณย่อมสุขุม
อย่าฟังเสียงชนบ้าบ่น จะเสื่อมผลจนปัญญา
เราบอกจริงนะกุลบุตร อย่าวิมุตกังขา
จึงตั้งตำหรับแร้งแฝงกับกา เป็นสี่กั๊กประจักความ
234 ไว้ 1 นั้นไฃร้เป็นผู้ถาม
ตัว 0 เป็นมูลความ ประจักษ์แจ้งเห็นแน่นอน
นับ 1 ให้ถึง 9 พิเคราะห์เอาไตรลักษณ์ก่อน
มูล 4 นี้ให้หย่อน เอาแต่ 3 เห็นงามใจ
ถ้าออก 123 4 อันนี้เป็นกลใน
โสฬสท่านว่าไว้ 59 ออก 43
13 7 ด้วยออก 21 บ่อเข็ดขาม
26 8 งามออก 41 บ่อเคจร
สิบทัสจัตวา ให้ 23 มาบรรจบก่อน
09 เร่งผันผ่อน กับ 08 ตามเอกโท
ถ้าใครเห็น 45 เป็นปัญญาวิเศษโส
กำหนด หนึ่ง อย่างเว้โว้ ที่จริงนั้นมีสองสามประการ
ถ้าออก 123 4 อันนี้เป็บันทัดฐาน
เห็น 1 เร้นจึงเป็นการ เหมือนกอดทรัพย์ไว้กับใจ
เรานามมหาพัด บอกใว้ชัดอย่าสงสัย
เดือนหนึ่งรำพึงไป จึงเห็น สิบ เห็นสูญ
เห็นสูญตรีนิ(3)แลส้ตตะ ศุกระ พุธ เป็นค้ามูล
อัฏะโทอย่าเสียสูญ นะวะมูลกับเอกา
ทะสะเป็นสูญโญ นะวะโมเป็นสุขา
จงพินิจพิจารณา ไม่ลึกนักพอแลเห็น
ตุลาการเหมือนตราชู ถั่วอยู่ไหนไม่จำเป็น
กาแก้วบ่อแลเห็น เช่นข้าวเหนียวติดหลังคา
กาหนึ่งนั้นบินไป พอฉวยได้ก็กลับมา
ป้อนบุตรภรรยา กลับสถานรวงรังตน
กาหนึ่งไปถึงเข้า พิเคราะห์เอาโดยแยบยล
เหลียวหลังดูฝั่งชล พอได้แล้วก็กลับมา
กาหนึ่งนั้นมัวเมา พบศพเข้าไม่พิจารณา
หลงกินอศุภา จนออกลิบไม่เห็นฝั่ง
จะโผบินก็เต็มที จนชีพชีวัง
จะบินกลับไม่เห็นฝั่ง เป็นเหยื่อสิ้นแก่มัจฉา
สูญสิบเป็นตัวแร้ง โจนยักแย้งเป็นตัวกา
นับ 1 ถึง 9 มา จะเห็น สิบ แลเห็น 0
16 เป็นเค้ามูล ถึงที่ 0 จึง 6 เป็น
ดูรานะชาวเรา พิเคราะห์เอาให้แลเห็น
รู้แล้วจึงฃ่อนเร้น เห็นแล้วนิ่งอย่ามากความ
จงมีจิตกรุณา ตั้งเมตตาพยายาม
อนิจจังตั้งให้งาม เอาไตรลักษ์เป็นหลักมา
จงแบ่งทรัพย์เป็นสามส่วน พิเคราะห์ควรพิจารณา
ส่วนหนึ่งให้บริจาค์ ส่วนหนึ่งมาเลี้ยงตัวตน
ส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้ เมื่อคนตายทำลายชนม์
จะได้สร้างกุศล แผ่สรรพสัตว์ทั่วกัลปา
ถ้าไม่จริงเหมือนเราพ้อง ให้เราต้องจัตตุรา
เที่ยงแท้แน่หนักหนา เราวางไว้ให้เป็นทาน
นิพพานปัจจโยโหตุ...........
เลขยันต์พิเศษ ชุดแรก ....
4 9 2
3 5 7
8 1 6

ท่าน อ.เทพย์ได้ให้ข้อสังเกตุเกี่ยวกับผลรวมยันต์พิเศษชุดแรก 15 เลข 15 ถ้ารวม 1 กับ 5จะได้ 6..." .ใครคิด 6 เห็นได้ทองทุกวัน"

อ่านดูแล้วงงไหมครับท่าน ..........

 

55555มันเป็นเรื่องจริงครับที่ผมพยายามบ่ายเบี่ยงคำตอบเสมอครับ เพราะตอบถูกคือเสมอตัวไม่นับเป็นเป้าให้ถล่มอีกครับ ในความเป็นจริงก็อย่างท่านเพชรว่าอ่ะครับ ปกติแล้วการสัมผัสแล้วรู้สึกว่าแรงคือคงกระพัน 5555นั่นเป็นเบสิกครับ ขั้นแอดวานซ์กว่านั้นคือนอกจากความแรงแล้วเรารับรู้จากอวัยวะส่วนอื่นด้วยนั่นคืออีกขั้นครับ แต่ว่าไปแล้วขั้นสุดยอดคือสามารถสัมผัสพลังขององค์เสกได้พร้อมทั้งระลึกถึงท่านได้นั่นคือสุดยอดครับ นี่เป็นที่ผมอธิบายมากสุดแล้วค่อนข้างเข้าใจยากนะครับ เพียงแต่มันเป็นเรื่องจริงเท่านั้นครับ หุ หุ

 

ขอโทษด้วยครับที่มาช้าไป

ติดภาระกิจอยู่ครับ พรุ่งนี้ต้องมีภาระกิจที่ไปอีกหลายๆแห่ง

เดี๋ยวมาว่ากันนิดนึงครับ

 

พระพิมพ์ของวังหน้า ในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกัน แม้พิมพ์เดียวกัน แต่คนละเนื้อ ก็แตกต่าง

ต่างกันอย่างไร

ต่างกันอยู่หลายๆเรื่อง เช่น

มวลสารที่นำมาใช้สร้าง

พระราชพิธีพุทธาภิเษก

องค์ผู้อธิษฐานจิต

และยังมีอย่างอื่นๆอีกหลายๆเรื่อง

ดังนั้น


ในแต่ละรุ่น แต่ละพิมพ์ แต่ละเนื้อ
ในบางรุ่น บางพิมพ์ และบางเนื้อ ก็แตกต่างกันในพลังอิทธิคุณของพระพิมพ์ครับ

ผมพูดมากไม่ดี เดี๋ยวมีคนมาลอกผมไป แล้วไปเขียนโดยให้ผู้อ่านเข้าใจว่า เขาเป็นคนเขียน ประเภทนี้ ไม่ไหว แย่มากๆ แถมคุยโวว่า ตัวเองเก่ง ทั้งๆที่ผมเองเข้าไปดูรูปแล้วก็จะบอกว่า แค่พระวังหน้า พระวังหลวง พระวังหลัง หรืออื่นๆ ยังแยกไม่เป็นเลย แถมมีของปลอมปนมาอีก สำหรับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าอยากทราบว่าเป็นใคร โทร.มาสอบถามผมได้นะครับ

.

 

"ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ทุกประการ ถูกกำหนดมาแล้ว"