พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center> เมื่อวานนี้ ฝันที่ผมฝันไว้นานกว่าสามปีก็เป็นจริงครับ
    ผมกับแฟนได้มีโอกาสไปกราบ"พระพุทธบาทสี่รอย" แห่งวัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
    และได้ซื้อข้าวสาร น้ำ และอาหารแห้งต่างๆ ไปทำบุญด้วยครับ
    ลองหาโอกาสดูนะครับ พี่ๆๆ น้องๆๆ ชาวชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกท่าน
    แล้วจะรู้ถึงความมหัศจรรย์และอีกหลายๆๆๆอย่างที่โลกนี้มีน้อยคนนักที่เจอ
    ผมได้นั่งสมาธิข้างๆ รอยพระพุทธบาทและอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์มาด้วยครับ

    โมทนาสาธุครับ


    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]

    ที่ตั้ง

    "พระพุทธบาทสี่รอย" แห่งวัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    ประวัติและที่มาของวัด พระพุทธบาทสี่รอย

    [​IMG]

    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจาริกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ ( ประเทศไทยปัจจุบัน ) จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศชื่อ เขาเวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์และได้ แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณ สมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอย พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระ พุทธบาทแห่งพระ พุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นประธาน เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่าพระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด

    [​IMG]

    พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้ แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ที่ ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุกๆพระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และ จักรประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือ ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว ) เมื่อพระพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้วพระ องค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์จึงกําเนิดเป็นพระ พุทธบาทสี่รอย เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาท ของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิฐานว่า ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนําเอาพระ ธาตุของกูตถาคมมาบรรจุไว้ที่รอยพระบาทที่นี่

    [​IMG]
    พระพุทธรูป พุทธศิลป์แบบศิลปะล้านนาในพระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทสี่รอย จ. เชียงใหม่

    ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว 2,000 ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงคนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา เมื่อทรงอธิฐานและทํานายไว้ดังนี้แล้ว พระพุทธองค์ก็เสด็จไป เชตวันอารามอันมีในเมืองสาวัตถีวันนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้าทรงนิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นําเอาพระธาตุของพระ พุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธ บาทสี่รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงแล้วประมาณ 2,000 วัสสา เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระ พุทธองค์ทรงอธิฐานไว้ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ ( เหยี่ยว ) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพตอันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้ เพื่อบินลงไป เอาลูกไก่ชาวบ้าน ( คนป่า )ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปอยู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็ติดตามไป ค้นหาดูแต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้นอีก แต่เห็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์ พรานป่าผู้นั้นก็ทําการสักการะบูชา เสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่ บ้านก็เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟังความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆกันไปแรกแต่นั้น ไปคนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมา จึงได้ชื่อว่า พระบาทรังรุ้ง ( รังเหยี่ยว ) ในสมัยนั้นมีพระยาตนหนึ่งชื่อว่าพระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราช ศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาทสี่รอยก็นําเอาราชเทวีและเสนาพร้อม กับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นําเอาบริวารของตนกลับมาสู้ เมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชมบัติตราบเมี้ยนอายุขัยแล้ว ก็เจริญตามรอยและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาท

    [​IMG]
    ภายในวิหารที่มีรอยพระบาท

    [​IMG]
    รอยพระบาท ของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ในภัทรกัลป์นี้

    ทั้งสี่รอย ทุกๆพระองค์ หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวก็เปลี่ยนชื่อเป็น" พระพุทธบาทสี่รอย " เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงลับมาแล้วในภัทร กัลป์นี้ คือ รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรกเป็นรอย ใหญ่ยาว 12 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่ 3 ยาว 7 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ ( ศาสนาปัจจุบัน ) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กที่สุด ยาว 4 ศอก เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือกผู้ครองนคร เชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร 500 คนก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาทสี่รอย และได้สร้างวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว

    [​IMG]
    พระประธานในพระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทสี่รอย จ. เชียงใหม่


    โดยแต่เดิมถ้า ใครจะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไปหรือปีนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้น พระยาธรรมช้างเผือก จึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆนั่งร้านรอบๆก้อนหินที่มีพระ พุทธบาทสี่รอยและได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไป กราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยและได้มีพระราชศรัทธา ก่อสร้างวิหารเป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้หนึ่งหลัง หลังเล็กปัจจุบันได้บูรณะปฏิสัง ขรณ์แล้วทั้งหลัง พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่เจ้า พระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว และได้สรางพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่ และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอย พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย




    ขอขอบคุณเว็บ Free Website Hosting - Tripod free website templates to make your own free website [​IMG]
     
  2. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 29 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 26 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, psombat, wat_chit </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คุณสมบัติครับ

    ตอนนี้อาราธนาองค์ไหนห้อยคอนะครับ

    พอดีไม่ได้ Update สถานการณ์นานแล้ว
     
  3. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    หมายถึง.........รูปไหนนะครับ
     
  4. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ก็องค์ที่อยู่ตรงกลาง Logo นั่นแหละครับ :)
    ส่วนตลับของ 2 องค์ซ้าย/ขวา เสร็จราวเดือนหน้า คงได้อาราธนาสลับมาทดสอบกระแสดูครับ ผมไม่รีบครับ เพราะรู้ว่าดีทุกองค์ แต่จะลองให้ครบทุกระดับ เรามากันทีหลังก็จริง ได้บทสรุปที่เชื่อได้ก็จริง แต่การทดลองต้องลองด้วยตัวเองครับ ... แต่ที่อยู่ในคอคุณแหน่งหน่ะ คงไม่อยากเปลี่ยนแล้วม้าง 5555
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าท่านใด มีความประสงค์ที่จะให้ผม หรือ คุณpsombat ทำรูปโลโก้แทนตัวเอง ก็บอกนะครับ จะได้ดำเนินการจัดทำให้ โดยรูปนั้นๆ จะมีชื่อของท่านเองครับ

    เมื่อทำให้เสร็จแล้ว จะส่งรูปให้ทาง email ครับ

    .
     
  6. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    นี่องค์ใหม่เหรอครับ
    หรือว่าองค์เดิมที่ให้ดูคราวที่แล้วครับ
    ผมก็เหมือนเดิมครับ ไม่เปลี่ยนแปลง Top4 ครับ
    บางวันก็เหน็บกลักไม้ขีดด้วย แต่ส่วนใหญ่จะห้อยเดี่ยวครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โทษทีครับที่ทำให้สับสน
    1. รูปภาพที่ทำ Logo ก็น่าจะซักประมาณ 640x480
    2. อีกเรื่องคือ สรุปโดยรวมจากภาพที่ได้รับจาก mail อะครับ ว่าเป็นไงบ้าง
     
  9. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, sithiphong+, psombat, chantasakuldecha </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ดีครับท่านเลขาฯ ท่านสมบัติ และคุณ chantasakuldecha สบายดีนะครับ
    ช่วงนี้ Internet ที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยเลยไม่ค่อยได้เข้ามาพูดคุยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2009
  10. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เป็นองค์เดิมครับ ถ่ายไว้ตอนอธิษฐานทำน้ำมนต์ แต่ตอนนี้ไม่ใช่สีนี้แล้วนะครับ
    บางวันที่เสื้อมีกระเป๋าก็เหน็บ Top4 Mini ครับ :):cool:
     
  11. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    ยังไม่ได้คุยกับพี่เบิ้มเลยครับ

    ตอนเที่ยวได้ทานข้าวด้วยกันแต่คุยแต่เรื่องพระพุทธบาทสี่รอยน่ะครับ

    พรุ่งนี้เดี๋ยวกระซิบครับผม
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปลอมบัตรเครดิต สูญ40ล้าน รวบแก๊งศรีลังกา

    <A href="http://hilight.kapook.com/view/42665" target=_blank>?ō?ѵà?ôԵ ʙ?40 ũҹ Ç?ᡪ? ?ō?ѵà?ôԵ ?ҡȃՅѧ?Ҡ?ō?ѵà?ôԵ ?钁?ҵԦlt;/a>



    [​IMG]


    ปลอมบัตรเครดิต สูญ40ล้าน รวบแก๊งศรีลังกา (ไทยรัฐ)

    ตำรวจกองปราบ รวบ แก๊งอาชญากรข้ามชาติ ชาวศรีลังกา ปลอมบัตรเครดิต ของธนาคารแถบยุโรป แต่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และ ตระเวนกดเอทีเอ็ม สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ...

    เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (19 ตุลาคม) ที่ บก.ป. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ พ.ต.ต.จารุวัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายสิวะไปรยัน สิวะพากิยาราจัน (SIVAPRIYAN SIVAPAKIYARAJAH) อายุ 24 ปี สัญชาติแคนาดา นายอาจาทรัน บาเลนดราน (AJATHAN BALENDRAN) อายุ 22 ปี และ นายเวนคาเดสวารัน มาเหสวารัน (VENKADESWARAN MAHESWARAN) อายุ 28 ปี ทั้งสองสัญชาติศรีลังกา พร้อมของกลาง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 104 ใบ เครื่องอ่าน-เขียนแถบแม่เหล็กบัตรเครดิต 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บริเวณโรงแรมราชา ถ.สุขุมวิท ซ.4 แขวงคลองเตยเหนือ เขตคลองเตย กทม. เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องจาก คณะทำงานป้องกันการทุจริตบัตรเครดิตชมรมธนาคารไทย ตรวจสอบพบว่ามีคนร้ายชาวต่างชาติลักลอบผลิตบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต จึงประสานข้อมูลกับชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. ติดตามพฤติกรรมจนพบว่าเป็นกลุ่มคนร้ายข้ามชาติชาวศรีลังกา โดยนำข้อมูลบัตรเครดิต ธนาคารต่างประเทศแถบยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร ของผู้อื่นมาทำบัตรปลอมขึ้นใหม่ เพื่อใช้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มในประเทศไทย ซึ่งบัตรแต่ละใบสามารถกดเงินสดออกมาได้ในวงเงินบัตรละประมาณ 2 แสนบาท แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับธนาคารต่าง ๆ ว่ากลุ่มคนร้ายได้สร้างความเสียหายไปแล้วเท่าไร เบื้องต้น สร้างเสียหายไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท

    สอบสวนกลุ่มผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ได้ปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นขึ้นมาใช้จริง โดยมีผู้ส่งรหัสข้อมูลบัตรเครดิตมาให้ทางอินเตอร์เน็ต จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวเข้าเครื่องอ่านเขียนข้อมูลลงบัตรเครดิตเปล่า ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำมานานประมาณ 3 ปีแล้ว ส่วนบัตรปลอมที่ทำขึ้นนั้นกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า ยังไม่ได้นำมาใช้ เพราะถูกจับกุมก่อน

    อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนและตรวจสอบการเดินทางเข้าออกประเทศของกลุ่มผู้ต้องหา พบว่า เคยเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว และมาเลเซียมาแล้ว ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะตระเวนลักลอบนำบัตรเครดิตปลอมไปกดเงิน และยังเชื่อว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้น่าจะมีหน้าที่ แค่นำบัตรเครดิตไปกดเงินเท่านั้น เมื่อได้เงินมาแล้วจะส่งต่อให้เครือข่ายโอนข้ามประเทศอีกทอดหนึ่ง จึงส่งพนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินคดีข้อหาทำขึ้น ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมแปลงหรือสำหรับให้ได้ข้อมูลในการปลอมแปลง ใช้หรือไม่ไว้เพื่อใช้ ซึ่งสิ่งใด ๆ อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ปลอมหรือแปลงขึ้น


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    16 แคว้นพุทธกาล

    รู้ไปโม้ด

    nachart@yahoo.com

    ˹ѧʗ;ԁ?좨҇ʴ͍?䅹젺 ?ú?ءÊ ʴ?ء?荧==



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อยากทราบชื่อเมืองสำคัญๆ ในสมัยพระพุทธ เจ้า อย่างเช่น มคธ โกสัมพี พาราณสี เป็นต้น ขอบคุณครับน้า

    คนสนใจ

    ตอบ คนสนใจ

    สมัยของพระพุทธองค์คือสมัยพุทธกาล ยุคที่เรียกแผ่นดินถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนาคืออินเดียในกาลนั้นว่า ชมพูทวีป ซึ่งในสมัยปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศ 4 ประเทศ คือ อินเดีย เนปาล ปากีสถาน และ บังกลาเทศ

    ชมพูทวีปแบ่งออกเป็นจังหวัดใหญ่ๆ 2 จังหวัด คือ มัชฌิมชนบท หรือ มัธยมประเทศ ได้แก่ จังหวัดส่วนกลาง และปัจจันตชนบท หรือ ปัจจันตประเทศ ได้แก่ จังหวัดปลายแดน หรือรอบนอก

    ทั้งนี้ อาณาเขตแห่งมัชฌิมชนบทในครั้งพุทธกาลตามในบาลีจัมมขันธมหาวรรค มีดังนี้ ทิศบูรพา ภายในแต่มหาศาลนครเข้ามา ทิศอาคเนย์ ภายในแต่แม่น้ำลัลลวตีเข้ามา ทิศทักษิณ ภายในแต่เสดกัณณิกนิคมเข้ามา ทิศปัจจิม ภายในแต่ถูนคามเข้ามา ทิศอุดร ภายในแต่ภูเขาอุสีรทชะเข้ามา

    ครั้งพุทธกาลนั้น ชมพูทวีปแบ่งเป็น 21 อาณาจักร หรือแคว้น หรือชนบท โดยแคว้นที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่เรียก มหาชนบท ดังนี้ (ชื่อหลังคือเมืองหลวง) ที่ปรากฏในบาลีอุโบสถสูตร มหาชนบท 16 แคว้น ได้แก่ อังคะ-จัมปา มคธ-ราชคฤห์ กาสี-พาราณสี โกสละ หรือ โกศล -สาวัตถี วัชชี-เวสาลี (ไพศาลี) มัลละ-กุสินารา (ปาวา) เจตี-โสตถิวดี วังสะ-โกสัมพี กุรุ-อินทปัตถ์ (ปัตถะ) ปัญจาละ-กัมปิลละ (หัสดินปุระ) มัจฉะ-สาคละ สุรเสนะ-มถุรา อัสสกะ-โปตลิ อวันตี-อุชเชนี คันธาระ-ตักสิลา กัมโพชะ-ทวารกะ และที่ปรากฏในพระสูตรอื่นมี 5 แคว้นชนบท คือ สักกะ-กบิลพัสดุ์ โกลิยะ-เทวทหะ (รามคาม) ภัคคะ-สุสุงมารคีรี วิเทหะ-มิถิลา และ อังคุตตราปะ-อาปณะ

    ไล่เรียงชื่อเมืองสำคัญในพุทธประวัติได้ว่า ดินแดนแห่งหนึ่ง ณ บริเวณที่ราบเชิงเขาหิมาลัย ที่อยู่ในประเทศเนปาลปัจจุบัน ครั้งกระนั้นที่นั่นคืออาณาจักรเล็กๆ นามว่า กบิลพัสดุ์ เมืองหลวงของแคว้นสักกะ ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองประมาณ 35 กิโลเมตร เจ้าชายสิทธัตถะถือพระประสูติกาลขึ้นกลางสวนป่าลุมพินีวัน ขณะที่พระนางสิริมหามายา พระมารดาของพระองค์ กำลังเสด็จกลับไปยังบ้านเกิด คือเมืองเทวทหะ แคว้นโกลิยะ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก

    หลังจากใช้ชีวิตในฐานะองค์รัชทายาทได้ 29 ปี เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ไปเห็นความจริงของชีวิตอันเป็นทุกข์ในหมู่ประชาชน ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตอันหรูหราเปี่ยมสุขในพระราชวัง ทำให้ทรงตัดสินพระทัยละทิ้งชีวิตอันแสนสุขทางโลก เสด็จออกจากพระราช วังในค่ำคืนหนึ่ง เพื่อเข้าสู่โลกของนักบวช

    ทรงออกศึกษาแสวงหาหนทางแห่งการหลุดพ้นจากชีวิตอันเป็นทุกข์เรื่อยมากว่า 6 ปี จนบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระ พุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ในแคว้นมคธ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกบิลพัสดุ์กว่า 200 กิโลเมตร เมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา

    หลังจากที่พระองค์ตรัสรู้ คือการค้นพบกฎความจริงของธรรมชาติ ทรงประกาศหลักธรรมครั้งแรกให้แก่ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นกาสี

    จากนั้นเสด็จออกเผยแผ่สิ่งที่ทรงค้นพบให้กับประชาชนในแว่นแคว้นต่างๆ บริเวณนั้น เป็นเวลานานถึง 45 ปี โดยจำพรรษาอยู่ที่แคว้นโกศลมากที่สุดถึง 19 ปี

    กระทั่งมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์เสด็จปรินิพพานที่เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ เมื่อพระชนมายุ 80 พรรษา

    การเผยแผ่คำสอนและประกาศหลักธรรมที่ดำเนินมาตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ได้ทำให้พระพุทธศาสนาฝังรากลึกลงในแผ่น ดินชมพูทวีปอย่างแน่นหนาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    และภายหลังการเสด็จปรินิพพาน ศาสนาพุทธเริ่มลงหลักปักฐานอย่างมั่นคง กษัตริย์แคว้นต่างๆ หลายพระองค์ทรงหันมานับถือศาสนาพุทธ และเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปทั่วอาณาจักรของตน
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหน่ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2517824", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2009
    ข้อความ: 242
    Groans: 1
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,990
    ได้รับอนุโมทนา 1,020 ครั้ง ใน 204 โพส
    พลังการให้คะแนน: 774

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2517857", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2009
    สถานที่: 18/14 ถ.บัวคูณ แม่สอด ตาก 63110
    ข้อความ: 178
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,427
    ได้รับอนุโมทนา 912 ครั้ง ใน 175 โพส
    พลังการให้คะแนน: 769
    .

    ผมเติมพลังการให้คะแนนแล้วนะครับ งานนี้แซงคุณpsombat ด้วย อิอิ
     
  15. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปัจจุบัน ผมจะเป็นผู้ที่เติมพลังการให้คะแนนกับท่านอื่นๆ จะได้คะแนนสูงกว่าที่จะเป็นท่านอื่นให้ เนื่องจากผมมีพลังการให้คะแนนสูงที่สุดในเว็บพลังจิตครับ

    จะเติมพลังการให้คะแนนกับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้ากับทุกๆท่าน

    ผมเติมให้คุณเพชร ,คุณnongnooo ,คุณpsombat ,คุณแหน่ง และน้องรักแล้วครับ
     
  17. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อืม เชื่อแล้วหล่ะครับ ว่าแรงจริงๆ 555 :cool:
     
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมคิดว่าใส่พระกริ่งองค์ใหม่นี่แรงไม่แรงไม่รู้ได้นะ แต่รู้สึกว่าใส่แล้วจะ post มากกว่าปกติ...
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...