พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “10 คำโกหก” ของคนรักกัน
    http://www.manager.co.th/Family/View...=9520000106951

    [​IMG]โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    15 กันยายน 2552 11:52 น.[​IMG]

    ผลการสำรวจเผย พฤติกรรมการโกหกของหญิงและชายส่วนใหญ่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายจะโกหก 6 ครั้งต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงจะโกหกเพียง 2 ครั้งต่อวันเท่านั้น

    จากการสำรวจชาย-หญิงชาวอังกฤษ จำนวน 2,000 คน พบว่า คำโกหกส่วนใหญ่ที่ทุกคนมักพูดกันคือประโยคที่ว่า “ผม/ฉัน ไม่เป็นอะไร...สบายดี” และจากการสำรวจในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้นักวิจัยเผยว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายจะโกหกคนรัก เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานประมาณ 6 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ฝ่ายหญิงนั้นจะโกหกเพียง2 ครั้งต่อวันเท่านั้น

    ทั้งนี้ 83% ของทั้งชายและหญิงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าการโกหกคนรักไม่ได้เป็นเรื่องรุนแรงและไม่ได้ยากอะไรหากโกหกเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย และถ้าดูพฤติกรรมระหว่างชาย-หญิงที่เป็นสามี-ภรรยากันนั้น พบว่า บรรดาสามีมักโกหกภรรยาในเรื่องเล็กๆน้อยๆบ่อยมากเพราะไม่อยากให้เป็นปัญหา ขณะที่ภรรยาเองนั้น หลายคนก็มักจะโกหกสามีในเรื่องการใช้จ่ายทุกครั้งที่ได้ช้อปปิ้ง

    [​IMG]
    ภาพจาก เดลิเมล[​IMG] ‘ริชาร์ด นิวแมน’

    ผู้เชี่ยวชาญด้านอวัจนภาษา เผยว่า คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยสังเกตพิรุธต่างๆของฝ่ายตรงข้ามเท่าใดนัก อีกทั้งยังไม่ได้ใส่ใจถึง ‘สัญญาณคนโกหก’สักเท่าไหร่

    “ถ้าใครบิดปังความจริง พูดจาโกหก คนๆนั้นจะมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป และหลบสายตาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคนที่พูดความจริงนั้นจะไม่มีอาการเหล่านี้”

    “คนที่โกหกมักจะทำทุกอย่างที่เพื่อให้คนรักเชื่ออย่างสนิทใจ ซึ่งแม้ว่าเขาจะหลบสายตาสักเท่าไหร่ แต่คนกลุ่มนี้จะเลือกพูดคุยและนั่งข้างๆคนรักเพื่อสังเกตพฤติกรรมและการตอบโต้ของคนรักเพื่อให้แน่ใจว่า เขาโกหกสำเร็จ"

    อย่างไรก็ดี ผลสำรวจได้เผยถึง 10 ประโยคที่ผู้ชายและผู้หญิงชอบพูด โดยพบว่าหลายๆประโยคเป็นประโยคที่ทั้งชายและหญิงใช้เหมือนกัน

    10 คำโกหกยอดฮิตของคุณสามี

    1.ผมไม่เป็นอะไร...ผมสบายดี
    2.ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
    3.ผมว่า...สะโพกของคุณก็ไม่ได้ใหญ่จนน่าเกลียดนะ
    4.ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
    5.แบตเตอร์รี่โทรศัพท์ของผมหมดพอดี
    6.ขอโทษนะ...ผมไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคุณ
    7.ผมไม่ได้ดื่มอะไรมากมาย
    8.ตอนนี้ผมอยู่ระหว่างทาง กำลังขับรถอยู่
    9.ราคาไม่แพงหรอก อย่าคิดมาก
    10.ตอนนี้รถติดมาก

    10 คำโกหกยอดฮิตของคุณภรรยา

    1.ฉันไม่เป็นอะไร...ฉันสบายดี
    2.นี่มันไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไรเลย ฉันมีมาตั้งนานแล้ว
    3.ราคาไม่แพงหรอก อย่าคิดมาก
    4.ของมันกำลังลดราคา
    5.ฉันอยู่ระหว่างทาง กำลังเดินทางไป
    6.ฉันไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหนกัน ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
    7.ฉันไม่ได้ดื่มอะไรมากมาย
    8.ฉันปวดหัว
    9.ไม่...ฉันยังไม่ได้ทิ้งของชิ้นนั้นไป ยังเก็บไว้อย่างดี
    10.ขอโทษนะ...ฉันไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคุณ

    เรียบเรียงข้อมูลจาก เดลิเมล
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แนะวิธีช่วยลูก เมื่ออยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย!
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000107205

    [​IMG]โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    15 กันยายน 2552 08:29 น.

    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจาก specialkidstoday.com[​IMG][​IMG]

    คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่ครอบครัวใดมีลูกเล็ก หรือลูกวัยกำลังซน ย่อมต้องหนักใจ และเป็นห่วงลูกเป็นธรรมดา เพราะอาจซุกซน และเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่คาดคิดก็เป็นได้

    ไม่ว่าจะเป็นก้างติดคอ กลืนเหรียญ น้ำร้อนลวก หรือแม้กระทั่งการได้รับสารพิษ และถูกแมลงมีพิษกัดต่อย เป็นต้น ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือลูกเบื้องต้นก่อนนำส่งแพทย์ จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความรู้ และความเข้าถึงลักษณะการช่วยที่ถูกต้องด้วย

    เพื่อให้เด็กรอดพ้นจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย ทางโรงพยาบาลบีเอ็นเอช และทีมงาน Life and Family ได้รวบรวมวิธีการช่วยเหลือเด็กจากสถานการณ์ยอดฮิตที่ทำให้เด็กเสี่ยงตาย เพื่อนำมาเป็นข้อมูล และตัวช่วยเบื้องต้นให้กับทุกบ้าน และทุกครอบครัวได้นำไปใช้กัน ซึ่งอาจจะเป็นวิธีที่บางบ้านเคยนำไปใช้กับลูกแล้ว โดยเริ่มจากสถานการณ์แรก

    *** เมื่อลูกมีก้างปลาติดคอ

    ขณะที่เด็กกินอาหาร แน่นอนว่าอาจเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีก้างยาวอย่างปลา อาจติดคอเด็กได้ ดังนั้นถ้าก้างติดคอ ควรปั้นข้าวเป็นก้อน (ไม่ต้องใหญ่มาก) แล้วให้ลูกกลืนข้าวก้อนนั้นโดยไม่ต้องเคี้ยว หรืออาจเปลี่ยนจากข้าวเป็นกล้วยสุก หรือขนมปังนิ่มๆ ก็ได้

    อย่างไรก็ดี หากกลืนข้าวปั้นแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น ให้ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำให้เจือจางแล้วให้ลูกค่อยๆ ดื่ม เพราะน้ำส้มสายชูจะช่วยให้ก้างปลาอ่อนตัวลง และหลุดออกได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าก้างปลายังไม่หลุดจนลูกเจ็บ และปวด ให้รีบพาลูกส่งแพทย์ทันที

    *** เมื่อลูกกลืนเหรียญ หรือสิ่งของเล็กๆ

    เหรียญ หรือสิ่งของชิ้นเล็ก ถือเป็นของเล่นชิ้นเอกของเด็กเลยทีเดียว โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อยู่ในวัยกำลังกิน กำลังอม ที่อาจนำพาซึ่งสถานการณ์ฉุกเฉินได้ ดังนั้นเมื่อลูกกลืนสิ่งของเล็กๆ เข้าไป สิ่งแรกที่พ่อแม่ทำได้คือ จับลูกในลักษณะห้อยศีรษะลงต่ำ แล้วตบหลังแรงๆ เพื่อให้เด็กไอออกมา แต่ถ้าสิ่งที่ติดหลอดลมอยู่ยังไม่ออกมาพร้อมกับอาการไอของลูก ควรรีบพาส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

    *** เมื่อลูกยัดของเข้าจมูก

    เด็กเล็กจะเจอปัญหานี้บ่อย ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาสิ่งของเข้าจมูก ให้บีบรูจมูกข้างที่ไม่มีของติดอยู่ แล้วบอกให้ลูกสั่งน้ำมูกแรงๆ เพื่อให้ลมจากจมูกดันของที่ติดอยู่ออกมา ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรใช้วิธีการแคะ หรือยัดจมูก เพราะจะยิ่งไปดันของที่ติดอยู่ในจมูก ให้อยู่ลึกเข้าไปอีก หรือถ้าลูกสั่งของที่ติดอยู่ไม่ออก ต้องพาไปพบแพทย์เพื่อทำการดึงเอาสิ่งของเหล่านั้นออกทันที มิเช่นนั้น เด็กจะหายใจลำบาก และขาดอากาศหายใจก็เป็นได้

    *** เมื่อของจิ๋วๆ เข้าหูลูก

    หู ใครคงไม่คิดว่า อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดได้ แต่อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นถ้าของชื้นจิ๋วเข้าหูลูก อย่างแรกที่พ่อแม่ควรทำคือ จับให้ตัวลูกเอียงศีรษะด้านที่มีของลง เพื่อให้ของหล่นออกมาเอง ถ้าหากทำแล้วของที่เข้าไปยังไม่ออกมา ห้ามคุณแม่แคะหูลูกเองเด็ดขาด เพราะของนั้นจะยิ่งเข้าไปลึกยิ่งขึ้น แต่ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที

    *** เมื่อลูกถูกไฟดูด

    จากงานวิจับพบว่า กลุ่มเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการโดนไฟดูดมากที่สุด คือ เด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี นั่นเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว และยังไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นการช่วยเหลือลูกเมื่อถูกไฟดูด พ่อแม่ห้ามใช้มือเปล่าดึงลูกขณะที่ถูกไฟดูด เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าสู่ตัวทันที แต่ควรให้ใช้ผ้าแห้งหนาๆ ห่อมือ หรือพับหนังสือพิมพ์หนาๆ แล้วผลักลูกที่โดนไฟดูดออก ซึ่งผู้ที่จะช่วยต้องตัวแห้งด้วย จากนั้นบอกให้คนรอบข้างยกคัตเอาท์ลง หรือดึงปลั๊กออก โดยใช้ไม้หรือสายยางแห้งๆ เขี่ยให้ออกจากตัวคนถูกดูด

    เมื่อกระแสไฟถูกตัดลงแล้ว ให้วิ่งเข้ามาดูลูก และรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันที เช่น ตรวจดูว่าหัวใจหยุดเต้นหรือไม่ ถ้าหยุดให้รีบนวดหัวใจพร้อมๆ กับการผายปอด และรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที แต่ถ้าไฟดูดไม่มาก ตรวจตามร่างกายว่ามีบาดแผลใดๆ หรือไม่ ลูกยังมีสติ และพูดโต้ตอบได้หรือไม่ ถ้าทุกอย่างปกติให้นำตัวลูกไปนอนพัก และเฝ้าอาการอย่างใกล้ชิด


    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจาก photobucket.com/ [​IMG]

    *** เมื่อสารพิษเข้าตาลูก

    การวางขวดสารพิษไว้ในที่ที่เด็กเอื้อมถึง อาจนำมาซึ่งภัยต่อตัวเด็กได้ เช่น สารเคมีกระเด็นเข้าตา เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ให้พ่อแม่รีบล้างตาลูกด้วยน้ำสะอาดทันที โดยตะแคงศีรษะ และใช้น้ำสะอาดจากก๊อก หรือน้ำยาล้างตารินผ่านทางหัวตาช้าๆ และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว กรณีที่สิ่งแปลกปลอมติดอยู่ รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อให้แพทย์ช่วยจัดการ ซึ่งคุณแม่ไม่ควรนำสิ่งแปลกปลอมนั้นออกด้วยตัวเอง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อตาลูกน้อยได้

    *** เมื่อลูกจมน้ำขณะอาบน้ำในอ่าง

    สถานการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กเล็กเป็นส่วนใหญ่ แต่ใช่ว่าเด็กโตจะไม่พบ ซึ่งหากลูกหกคะมำในท่าคว่ำหน้าลงในอ่างน้ำ คุณแม่ต้องอุ้มลูกน้อยขึ้นในท่าศีรษะต่ำ เพื่อช่วยให้สิ่งแปลกปลอมหรือเสมหะออกมา ป้องกันการสำลักน้ำเข้าปอด กรณีเด็กที่ไม่รู้สึกตัว ให้คุณแม่ทำการผายปอดแต่ถ้ายังไม่ดีขึ้น ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

    *** เมื่อลูกโดนน้ำร้อนลวก

    น้ำร้อนถือเป็นภัยที่สร้างความเจ็บปวด และแสบผิวหนังจนพุพอง ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อลูกถูกน้ำร้อนลวกคือ พ่อแม่ควรถอดเสื้อของลูกออกทันที ห้ามเจาะแผลพุพองหรือตัดเศษผิวหนังออก เพราะการกระทำดังกล่าวอาจะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้ และห้ามใส่น้ำมัน ยาสีฟัน หรือยาใดๆ บนบาดแผลที่ถูกน้ำร้อนลวก แต่ควรประคบบริเวณแผลด้วยน้ำเย็น รวมทั้งคุณแม่ควรปิดแผลด้วยผ้าก็อช หรือผ้าเช็ดหน้าที่สะอาด (อย่าใช้สำลีเป็นอันขาด) จากนั้นจึงนำไปพบแพทย์ทันที

    *** เมื่ออาหารเป็นพิษ

    ถ้าลูกมีอาการอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย ควรให้ลูกจิบน้ำทีละน้อย พร้อมกับหยุดรับประทานอาหาร และนมชั่วคราวจนกว่าอาการจะดีขึ้น ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงให้พาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการของโรคอีกที

    *** เมื่อแมลงมีพิษกัดต่อย

    ถ้าลูกถูกผึ้งต่อย ไม่ควรพยายามเอาเหล็กไนออกด้วยตัวเอง เนื่องจากเหล็กไนของผึ้งมีพิษ อย่าให้นิ้วแตะถูกบริเวณบาดแผล แต่ให้ประคบด้วยถุงน้ำแข็ง หรือน้ำเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้พิษจากเหล็กในซึมเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว

    อย่างไรก็ดี ถ้าเป็นแมลงชนิดอื่น เช่น มด หรือตะขาบให้ประคบแผลด้วยถุงน้ำแข็งหรือน้ำเย็น ถ้าปวดมากให้รีบรับประทานยาแก้ปวด หลังจากนั้นให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะแผลที่ถูกกัด หรือต่อย อาจเกิดอาการอักเสบได้

    <TABLE class=ncode_imageresizer_warning id=ncode_imageresizer_warning_1 width=229><TBODY><TR><TD class=td1 width=20></TD><TD class=td2 unselectable="on"></TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต[​IMG]

    *** เมื่อลูกน้อยได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย

    เช่นกันกับการการวางขวดสารพิษไว้ในที่ที่เด็กหยิบง่าย ซึ่งเด็กอาจหยิบขึ้นมากินด้วยความไม่รู้ว่านี่ไม่ใช่น้ำดื่ม แต่เป็นสารพิษดีๆ นี่เอง ดังนั้นเมื่อลูกกินเข้าไป สิ่งแรกต้องทำให้ลูกอาเจียน เมื่อลูกอาเจียนเอาสารพิษออกจากกระเพาะได้แล้ว ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์รักษา

    อย่างไรก็ตาม ถ้าเด็กรับประทานสารกัดกร่อน หรือน้ำมันหอมระเหยเข้าไป ห้ามทำให้เด็กอาเจียนโดยเด็ดขาด ดังนั้นควรหาชนิดของสารพิษที่ลูกรับประทานเข้าไปก่อน เก็บตัวอย่างให้แพทย์ตรวจ และควรสังเกตด้วยว่ารับประทานเข้าไปเท่าไร

    *** เมื่อเลือดกำเดาไหล

    ควรบีบจมูกลูกทางด้านหน้าเข้าหากัน ให้คนไข้หน้าตรง หรือก้มหน้าเล็กน้อย ไม่ต้องแหงนหน้า ระหว่างนั้นให้คนไข้หายใจทางปาก โดยทั่วไปเลือดกำเดาจะหยุดไหลภายใน 5 นาที หลังจากเลือดหยุดไหลแล้ว อย่าแคะจมูก หรือสั่งน้ำมูกแรงๆ ถ้าไม่ได้ผลให้พาคนไข้ไปพบแพทย์สาขา หู คอ จมูก

    *** เมื่อถูกสุนัขกัด

    ถ้าสุนัขที่กัดนั้นได้รับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้ว ให้ล้างแผลด้วยสบู่ และน้ำสะอาด เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยเช็ดในทิศทางที่ออกจากแผล จากนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรนำลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก

    ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่า สุนัขที่กัด ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้วหรือยัง? อาจทำให้ลูกเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ ทางที่ดีคุณแม่ควรล้างแผลด้วยน้ำสบู่แล้วเช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อย่างไรก็ดี ไม่ควรฆ่าสุนัขที่กัด แต่ควรขังไว้เพื่อดูอาการ 10 วันว่าเป็นบ้าหรือไม่ หรือนำสุนัขไปให้สัตวแพทย์เพื่อตรวจอาการต่อไป

    แต่ถ้าสุนัขตายระหว่างดูอาการ ให้นำซากสุนัขไปส่งสถานเสาวภา หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดเพื่อตรวจพิสูจน์ หรือหากต้องเดินทางหลายวัน ให้แช่หัวสุนัขไว้ในน้ำแข็งเพื่อกันไม่ให้สมองสุนัขเน่า และถ้าสุนัขที่กัดเป็นบ้า หรือไม่สามารถติดตามสุนัขได้ ให้พาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ครบตามที่แพทย์สั่ง

    *** เมื่อลูกกระดูกหัก

    แน่นอนว่า วัยเด็กถือเป็นวัยกำลังซนมาก การเล่นจึงมีความเสี่ยงที่จะหกล้มได้สูง โดยเฉพาะล้อแล้วกระดูกหัก ดังนั้นเมื่อกระดูกหัก วิธีแรกให้ลูกนอนอยู่กับที่ ห้ามเคลื่อนย้ายโดยไม่จำเป็น ถ้ามีเลือดออกให้ทำการห้ามเลือดโดยด่วน

    หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้เข้าเฝือกชั่วคราวไว้ก่อน ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งถ้ามีบาดแผลให้ปิดแผลด้วยผ้าสะอาดก่อนเข้าเผือก จากนั้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ดี ถ้าเป็นอาการกระดูกหักที่ส่วนคอ หรือกระดูกสันหลัง ต้องพยายามเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะหากเคลื่อนไหวผิดท่าอาจทำให้เด็กพิการได้

    *** เมื่อลูกเคล็ดขัดยอก

    เคล็ดขัดยอกอาจเกิดจากการสะดุดล้ม หรือโดนของแข็ง ลำดับแรกควรจัดท่านั่ง หรือนอนพักในท่าสบายๆ ให้กับลูก จากนั้นให้ยกส่วนที่เคล็ดให้สูงขึ้น รองด้วยหมอน หรือผ้าห่มหนาๆ แล้วนวดด้วยน้ำมันปาล์ม พันด้วยผ้าพันแผล แต่อย่าพันให้แน่นมาก เพราะจะทำให้ส่วนที่ขัดยอกระบมได้

    *** เมื่อลูกโดนของมีคมบาด

    การถูกมีดบาด ถือเป็นเรื่องปกติที่เด็กจะโดนบาดกัน ซึ่งเชื่อว่า ลูกๆ ของท่านผู้อ่านคงต้องโดนบาดกันมาบ้างแล้ว อย่างไรเสียเมื่อถูกบาดแล้ว ให้รีบทำความสะอาดบริเวณรอบๆ บาดแผลโดยใช้สำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เจือจางด้วยน้ำ และเช็ดในทิศทางที่ออกจากแผล จากนั้นปล่อยให้แห้ง ทาครีมที่มียาฆ่าเชื้อโรค หรือปล่อยให้แผลเปิดแห้ง หรือถ้าถูกตะปูตำอวัยวะของร่างกาย ควรทำความสะอาดแผลเบื้องต้น

    คงจะเป็นวิธีการช่วยเหลือเด็กเบื้องต้นที่จะเป็นประโยชน์ไม่ใช่น้อย ทางที่ดีการจัดเก็บ และมีความละเอียด รอบคอบในการจัดบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะกันไว้ดีกว่าแก้ อย่างไรก็ดี บ้านไหนเคยเจอสถานการณ์เสี่ยงแบบนี้ หรือแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ และสามารถช่วยเหลือลูกให้รอดพ้นจากสถานการณ์เสี่ยงตายเหล่านั้นได้ นำมาแบ่งปัน และแชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ ทั้งนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์กับครอบครัวอื่นๆ ในการช่วยเหลือบุตรหลานต่อไป
     
  3. sergent

    sergent สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +6
    สวัสดีครับผมอยากจะรบกวนทุกท่านครับ ถือซะว่าเมตตานะครับ คือผมศัทธาหลวงปู่ เทพโลกอุดรมาระยะเวลาพอสมควร ผมจึงได้มาแบบไม่ต้องเสียอะไรเลยครับ จึงอยากจะรบกวนทุกๆท่านช่วยดูให้หน่อยรับว่าใช่พระที่ หลวงปู่ท่านอธิฐานจิตให้หรือป่าวครับ ตอบกันตรงๆเลยนะครับ และถามหน่อยครับว่าเวลาที่หลวงปู่ท่านมานี่ท่านไม่เลือกใช่หรือไม่ครับว่ามาแบบไหนรูปร่างอย่างไร ช่วยตอบให้ผมกระจ่างด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าท่านใดต้องการชมพระกริ่งสมเด็จกรมพระยาปวเรศบ้างครับ[​IMG] ผมจะส่งรูปให้ชมทาง Email ครับ

    [​IMG]
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์) วัดบวรนิเวศวิหาร

    [​IMG]
    หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

    [​IMG]

    พระครูวิมลคุณากร หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า

    [​IMG]

    พระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sook.JPG
      sook.JPG
      ขนาดไฟล์:
      14.8 KB
      เปิดดู:
      136
    • kreeng p.jpg
      kreeng p.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 KB
      เปิดดู:
      875
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2009
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจะตอบได้ว่า พระสมเด็จองค์นี้ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตให้หรือไม่

    ส่วนหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ท่านจะเมตตาไปหาใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร ผมก็ไม่สามารถตอบได้ว่า ท่านจะไปอย่างไร ขึ้นอยู่กับหลายๆสาเหตุ หลายๆปัจจัย ซึ่งในบางเรื่องผมเคยอธิบายในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้ว ให้ลองไปหาอ่านดูในกระทู้พระวังหน้าฯเองนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  6. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดีครับผมขอจองหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง" 1 เล่มครับ
     
  7. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขออนุญาตดูเป็นคนแรกครับผม โมทนาสาธุด้วยครับ
     
  8. sergent

    sergent สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบพระคุณมากนะครับ ผมได้อ่านบทความของ คุณแล้วรู้สึกดีและได้ความรู้เพิ่มมากเลยครับ และถามอีกอย่างครับใช่ สมเด็จกรุวัดพระแก้วหรือป่าวครับ(ในรูปที่ลงไว้) ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
     
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    แม่นางกวักวังหน้า ลองแล้วประมาณ 1 week ณ ขณะนี้...อยากบอกว่าดีขึ้นเรื่อยๆ แรงดีมากครับผม ฟันธง!
     
  10. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมต้องขอโทษที่ไม่ตอบว่าใช่หรือไม่ จากเหตุผลที่ผมเคยลงในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้วครับ

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ใช่เลย แรงจนเลยซอย เหอๆๆๆ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระกริ่งสมเด็จกรมพระยาปวเรศ ผมจะส่งรูปให้ชมทาง Email แล้วนะครับ ผมส่งให้คุณnongnooo และคุณpsombat ครับ

    [​IMG]
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์) วัดบวรนิเวศวิหาร

    [​IMG]
    หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

    [​IMG]

    พระครูวิมลคุณากร หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า

    [​IMG]

    พระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร)
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หอมกลิ่นสมุนไพรจาก"อบเชย"
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9520000107474

    [​IMG]โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    15 กันยายน 2552 14:54 น.[​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    อบเชย หรือซินนามอน (Cinnamon) เป็นเครื่องเทศที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคยนัก เพราะอาหารไทยส่วนใหญ่มักไม่ใช้อบเชยมาประกอบอาหาร จะมีบ้างก็เช่นในไข่พะโล้ หรือการตุ๋นเนื้อสัตว์ หรือบางทีก็ใช้ในประโยชน์อื่นๆ เช่นชงกับน้ำเป็นยาบำรุง หรือเป็นส่วนประกอบของยาดม แต่อบเชยนั้นจะถูกใช้บ่อยในอาหารหรือขนมหวานของชาวตะวันตก เช่น ซินนามอนโรล หรือใช้โรยหน้ากาแฟ เป็นต้น

    อบเชยเป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง ซึ่งส่วนที่เรานำมาใช้นั้นก็คือเปลือกลำต้นนั่นเอง โดยอบเชยถูกใช้เพื่อให้กลิ่นหอมในราชสำนักอียิปต์มากว่า 3,500 ปีแล้ว และไม่เพียงแต่ให้กลิ่นหอม แต่อบเชยยังมีประโยชน์อย่างการแก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ขับลม ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ท้องร่วง ขับปัสสาวะ ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยที่ใช้ในการย่อยไขมัน แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ มีสารต้านแบคทีเรีย และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวานได้อีกด้วย
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แจ้งข่าวโดยคุณโต (<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พสภัธ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2429355", true); </SCRIPT>)
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    http://palungjit.org/threads/ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต-พระเณร.21733/page-111

    กฐินสามัคคีวัดบ่อเงินบ่อทอง วันที่ 11 ต.ค 2552 สมทบทุนซื้อที่ดินถวายวัดเพื่อถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ สืบต่อไป...ทางวัดได้จัดผ้าไตรพร้อมบาตร ให้ผู้ที่เป็นเจ้าภาพถวาย ชุดละ 1000บาท

    ร่วมทำบุญได้ที่:
    (081-9408541) พระมหาแผน-ผู้อำนวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรม
    สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทองประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
    หมายเลขบัญชี : 203-0-06304-5
    ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ชื่อบัญชี : ร.ร.ปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง

    กราบโมทนาเป็นอย่างสูง สาธุ สาธุ สาธุ
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><!-- google_ad_section_end -->
    <SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลูกยางสาว หอบแชมป์คืนถิ่น อภิสิทธิ์ เปิดทำเนียบรับ

    ����������˭ԧ����ҵ���� �֧��� ����Է��� ��Դ�����º�Ѻ ����������������


    [​IMG]

    วอลเลย์บอล ทีมชาติไทย​


    [​IMG]

    วอลเลย์บอล ทีมชาติไทย​

    ลูกยางสาวหอบแชมป์คืนถิ่นเนื้อหอม-ฟันอัดฉีดอื้ออภิสิทธิ์เปิดทำเนียบรับ (คมชัดลึก)

    ทีมนักตบลูกยางสาวไทย ชุดสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์เอเชียเดินทางกลับถึงบ้าน เนื้อหอมสุดขีด สื่อรุมแย่งตัวไปออกรายการ ด้านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดทำเนียบรัฐบาลรอแสดงความยินดี ด้านนายกสมาคมวอลเลย์บอลเตรียมจัดงานฉลองพร้อมระดมอัดฉีดให้ 1 ล้านบาท ไม่รวมของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติอีกคนละ 2 แสนบาท

    ทีมนักตบลูกยางสาวไทยที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์เอเชียมาครองเป็นครั้งแรก เดินทางกลับจากเวียดนามมาถึงเมืองไทยแล้ว โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 683 เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่ามกลางการต้อนรับที่อบอุ่นจากผู้ใหญ่ อาทิ นายพงศ์โพยม วาศภูติ นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, นายสมพร ใช้บางยาง อุปนายกสมาคม, นายอนุชิต จุรีเกษ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะนักศึกษาจาก ม.รัตนบัณฑิต ซึ่งมีนักตบไทยศึกษาอยู่หลายคน


    [​IMG]

    วอลเลย์บอล ทีมชาติไทย​


    [​IMG]

    วอลเลย์บอล ทีมชาติไทย​


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการต้อนรับนักตบสาวไทยกลับบ้านครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกแขนง โดยเฉพาะสื่อทีวีที่ติดต่อขอนัดสัมภาษณ์สดและออกรายการจำนวนมาก อาทิ เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3, เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง 7, เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า ทางโมเดิร์นไนน์ นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเปิดโอกาสให้ทีมนักตบสาวไทยเข้าพบ เวลา 08.00 น. วันที่ 15 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล สร้างความดีใจให้กับบรรดานักตบอย่างมาก

    นายพงศ์โพยม เปิดเผยว่า ความสำเร็จครั้งนี้เป็นความพยายามต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมมาได้ประมาณ 50 ปี ซึ่งล้มลุกคลุกคลานมาตลอด จนกระทั่งได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทำให้ประสบความสำเร็จในที่สุด การเอาชนะจีน ซึ่งเป็นแชมป์เอเชีย 11 สมัย, อันดับ 3 โอลิมปิกเกมส์ 2008 และทีมหมายเลข 3 ของโลก ขณะที่ไทยเป็นทีมอันดับ 17 ซึ่งถือเป็นผลงานระดับโลก ทำให้หลายทีมรู้จักและยำเกรงฝีมือทีมไทยมากขึ้น หลังจากนี้จะจัดงานเลี้ยงฉลอง พร้อมหาเงินรางวัลมามอบให้ จำนวน 1 ล้านบาท

    "สำหรับโอลิมปิกเกมส์นั้น คราวที่แล้วเราพลาดไปนิดเดียว หลังจากนี้สมาคมจะพยายามทำให้คนไทยได้เห็นทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยไปโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2012 ที่กรุงลอนดอน ให้ได้"


    [​IMG]

    วอลเลย์บอล ทีมชาติไทย​


    [​IMG]

    วอลเลย์บอล ทีมชาติไทย​


    ทั้งนี้จากความสำเร็จของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยที่มีนักกีฬาตัวจริงและสำรองรวมทั้งหมด 12 คน จะได้รับเงินรางวัลจาก กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ คนละ 2 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาท สำหรับสมาคมวอลเลย์บอล ได้รับ 30 เปอร์เซนต์ จากจำนวนเงินรางวัลรวมทั้งหมด ส่วนผู้ฝึกสอน ได้รับคนละ 20 เปอร์เซนต์

    ด้าน "โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลสาวไทย กล่าวว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการศึกษาข้อมูลของคู่แข่งขัน รวมถึงการส่งนักกีฬาไปเล่นลีกอาชีพ ทำให้นักกีฬามีประสบการณ์จากการเล่นกับคนที่มีฝีมือ สำหรับศึกเวิลด์ แกรนด์ แชมเปี้ยน คัพ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไทยได้สิทธิ์ไปแข่งขันในฐานะแชมป์เอเชีย ถือเป็นรายการที่ใหญ่มาก เทียบเท่ากับโอลิมปิกเกมส์ และจัดทุก ๆ 4 ปี โดยมีทีมแชมป์จากทวีปต่าง ๆ รวมเจ้าภาพและทีมไวลด์คาร์ด ทั้งหมด 6 ทีม มาแข่งขันกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ในส่วนของทีมไทยนั้น ตั้งเป้าไว้ที่อันดับ 4 เป็นอย่างน้อย ส่วนศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว เดือนธันวาคม ทีมไทยต้องแชมป์สถานเดียว แต่ก็ประมาททีมเวียดนามไม่ได้เช่นกัน


    [​IMG]

    วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ​


    "อ.ติ๋ม" ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ กรรมการบริหารสมาคมวอลเลย์บอล กล่าวว่า ช่วงนี้ถือว่านักตบไทยอยู่ในช่วงฟอร์มดีที่สุด หลังจากเอาชนะญี่ปุ่นในรอบรองชนะเลิศ กำลังใจดีขึ้นมาก มาถึงรอบชิงชนะเลิศกับจีนก็นึกไม่ถึงว่าจะชนะได้ เพราะล่าสุดที่พบกัน เมื่อ 2 เดือนก่อน ไทยแพ้จีน 0-3 หลังจากคว้าแชมป์ ทำให้ทีมไทยได้รับการกล่าวขาน สตาฟฟ์โค้ชหลายทีม เช่น ญี่ปุ่น สอบถามมาเยอะมากเพราะแปลกใจที่ทีมไทยทำได้ถึงขนาดนี้

    ขณะที่ ปลื้มจิตร์ ถินขาว นักตบขวัญใจชาวไทย กล่าวว่า วินาทีสุดท้าย หลังจากที่รู้ว่าทีมไทยได้แชมป์แล้ว ทุกคนกระโดดลอยตัวและโผเข้าหากัน น้ำตาไหล ดีใจกันมาก แชมป์นี้ขอมอบเป็นของขวัญให้คนไทย รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนสมาคมวอลเลย์บอล หลังจากนี้ทุกคนในทีมจะพยายามฝึกซ้อม เพื่อทำผลงานที่ดีต่อไป


    [​IMG]

    วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ​


    [​IMG]

    วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ​





    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก,คมชัดลึก,ข่าวสด
     
  18. sergent

    sergent สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณครับผมไม่ทราบจริงๆครับอภัยให้ด้วยนะครับ แต่อย่างไรเสียผมก็ต้องขอบพระคุณครับที่กรุณา คุณเป็นคนน่านับถือครับ ผมเมื่อก่อนติดตามคุณตั้งแต่กระทู้พระสมเด็จและช่วงหลังไม่ค่อยได้ติดตามครับเพราะเวลาแทบจะไม่มีเลยครับเลยไม่ทราบเหตุผลครับแต่ไม่ค่อยมีใครยอมรับในเรื่องนี้นะครับบางทีเขาก็บอกว่าผมงมงายเล่นพระไม่มีราคา เชื่อนิยาย อะไรทำนองนี้แหละครับ แต่ผมยอมรับนะครับว่าผมเชื่อจริงๆหรือจะว่างมงายก็คงไม่แปลกครับ ที่คนอื่นเขาไม่เชื่อหรือเหตุผลใดก็ตามแต่ที่แน่แน่ผมกับเพื่อนและคนรู้จักของผมตอนแรกๆก็ไม่เชื่อครับแต่พอได้สัมพัสแล้วตอนนี้ทุกคนเชื่อกันหมดแล้วครับยิ่งเพื่อนผมไปเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ขาว(พระทางอิสาน)เลยนะครับที่เขาบอกว่าเคยได้รับการอบรมจากหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ไปยันโน่นเลยครับ 555+ ด้วยแรงศรัทธาของเขาครับ อย่างไรก็ตามผม ขอบพระคุณมากนะครับ ว่าแต่พระของผมสวยไหมครับ อิอิอิ แย่เล่นนะครับ ขอบคุณครับ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    3.8 KB, ดาวน์โหลด 12 ครั้ง
    15 กันยายน 2552 เวลา 07:06 PM
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พลังอิทธิคุณพระเครื่อง 1

    พลังใจผู้สวมใส่ 1

    หากประสานกันลงตัว พลังเต็มร้อย เกื้อหนุนกัน

    หากคนละคลื่นกัน สื่อกันไม่เชื่อมติด ฝั่งหนึ่ง + ฝั่งหนึ่ง - ผลคือ 0 ศูนย์ =สูญ

    ตรวจสอบก่อนหามาสวมใส่ จะได้ไม่ต้องสอบถามด้วยความสงสัย ความสงสัยคือนิวรณ์ตัวหนึ่ง อันทำให้ไม่สามารถบรรลุสู่ฌานได้ แม้ฌานที่ 1 ก็ไม่ผ่าน แก้ความสงสัยก่อนดีกว่าครับ แก้ที่ตัวเรา ไม่ใช่แก้ที่พระเครื่อง หรือที่ผุ้อื่น...
     

แชร์หน้านี้

Loading...