กรณี Sriaraya5 VS iofeast โต้แย้งกัน... ขอลบออกทุกโพสต์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

?
  1. 1.ลบออกก่อน

    0 vote(s)
    0.0%
  2. 2.ไม่ต้องลบ

    0 vote(s)
    0.0%
  3. 3.ความเห็นอื่นๆ เชิญลงที่กระทู้นี้

    0 vote(s)
    0.0%
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    น่าน....? ทำไมท่านไม่ใช้ภาษาแบบที่คนปกติใช้สื่อสารกันบ้างอ่ะ เราก็รู้อยู่แล้วว่าท่านเป็นแขกประจำของศรีธัญญา ยังจะมาบอกเราอีกทำไมอ่ะ และภาษาที่คนที่นั่นใช้สื่อสารน่ะ ท่านเก็บไปใช้ตอนท่านไปตามหมอนัดดีกว่ามั้ยจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คนโง่เท่านั้นiofeastที่มักอวดว่าตนฉลาด




    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->คนเราจะดูว่าโง่หรือฉลาดนั้นคงต้องใช้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่สัญญาณแห่งความโง่นั้นมักประจานออกมาให้เรารู้ได้ตั้งแต่นาทีแรกที่พบกัน
    จะสังเกตได้ง่าย ๆ ว่าในสังคมของเรานั้นมีทั้งที่ชอบพูดจาโอ้อวดตัวเองว่า "ฉลาด" และมีทั้งคนที่ไม่ปริปากด้วยซ้ำว่าตนเองมีภูมิความรู้ดี ๆ คนทั้งสองประเภทนี้
    หากพบในครั้งแรก ไม่ว่าใครก็จะประทับใจคนประเภทหลังมากกว่า อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้พยายามสร้างภาพ และทำความระคายหูให้ใคร
    แม้ว่าคนที่ชอบพูดจาโอ้อวดว่า "ตนฉลาด" อาจมีบางคนเชื่อในสิ่งที่เขาพูดบ้าง แต่ส่วนลึกในจิตใจเขาแล้ว เขาย่อมรู้ดีว่า "เขาไม่ได้มีอะไรดีดังที่พูดเลย เขาจึงต้องชดเชยความรู้สึกที่ขาดไปด้วยการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณตนเอง เพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้น" แต่ในไม่ช้าใคร ๆ ก็ต้องจับได้ว่า เขาห่างไกลจากสิ่งที่อวดมากนัก
    คนฉลาดที่แท้จะทำมากแต่พูดน้อย แม้ไม่ต้องบอกใคร ใคร ๆ เขาก็จะเห็นเองว่า ความฉลาดนั้นเป็นอย่างไร และแม้ว่าจะไม่มีใครเห็น เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนใจเลย เพราะเขาไม่ได้คิดว่า ตนฉลาดหรือโง่ เขารู้เพียงแต่ว่า เขาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด และแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
    ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครเห็นว่า เขาช่างมีความคิดที่ดีเลิศเพียงใด ความฉลาดจึงไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านต่อสิ่งใด ๆ และความมั่นใจในตัวเขาก็จะไม่ลดหรือเพิ่ม เพราะสาเหตุจากคนอื่นเลย

    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...
    "คนโง่มักอ้าปากเพื่ออวดอ้างในสิ่งที่ตนไม่เคยมี
    เขาจะพยายามโน้มน้าวใจคนด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ
    ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของคนโง่จึงเท่ากับขาดวิจารณญาณ
    และในไม่ช้าก็อาจถูกคนโง่ในคราบคนฉลาดหลอกใช้
    ส่วนคนฉลาดจะไม่พยายามชักจูงใด ๆ
    เขาจะอยู่เฉย ๆ แต่คนอื่น ๆ จะวิ่งเข้ามาหาเอง
    เขาไม่จำเป็นต้องเปิดการแสดง
    ไม่ต้องแม้แต่จะบอกแบบปากต่อปาก
    ความฉลาดที่มีจะเผยแพร่ตัวมันเอง
    ความฉลาดจึงไม่เพียงแต่เป็นทรัพย์สมบัติติดตัวเขา
    แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นอีกนับไม่ถ้วน"

    ขอบคุณข้อเขียนดี ๆ จากหนังสือ "ยอด (สมอง) อิ่ม" โดย แก้มบุ๋ม

    หลายคนตกใจเมื่ออ่านข้อเขียนนี้เสร็จ เอะ ! เราโง่ หรือ เราฉลาด กันเนี่ย
    คงไม่มีเจตนาจะว่าใคร แต่ต้องการนำไว้อ้างอิง เป็นคติประจำใจ คอยเตือนตัวเองว่า ควรปฏิบัติตนอย่างไร อย่างไรจึงดี อย่างไรไม่ดี
    มีหลายคนตำแหน่งสูง เรียนสูง มักไม่ค่อยมีอะไรจะมาเตือนตัวเอง มีแต่ "อัตตา" มาเตือนว่า เก่ง ๆ ใครบังอาจมาแย้งความคิด เป็นต้องลงไม้ลงมือทั้งทางกาย วาจา และใจ ให้อีกฝ่ายเจ็บปวดใจไป แต่แน่ใจแล้วหรือว่า ใครกันแน่ จะเจ็บปวดใจ คิดดูให้ดี ๆ นะครับ
    หากข้อเขียนนี้ดี ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วย<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2009
  3. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    คนโง่อย่างบักดาศิษย์ท่านจือก็ยังเก่งแต่เรื่องโง่ๆวันยังค่ำ

    มีหลายคนตำแหน่งต่ำ การศึกษาต่ำ แถมถูกปลูกฝังนิสัยต่ำๆมา จึงต้องการจะเป็นโน้น เป็นนี่ แต่ขาดปัญญา จึงต้องลอก ก๊อปปี้ บทความต่างๆจากทางหน้าเว็ปมาตัดต่อมาโพสต์ แล้วตู่เป็นของตน เพื่อให้ดูว่าตนนั้นมีปัญญา เพื่อจะกลบเกลื่อนปมด้อยของตน ที่ถูกด่าว่า ดูถูกตั้งแต่เด็กว่า ตนนั้นโง่กว่าควาย เยี่ยงบรรพบุรุษตน ซึ่งก็เป็นความจริง จะเรียกว่า จ๊ากง้าวตระกูลนี้สืบเชื้อสายจากตัวที่ชาวนาใช้ไถนาก็ไม่ผิด ด้วยปัญญามันมีอยู่แค่นี้
    คนจำพวกนี้สังเกตุได้ง่ายๆ เวลาตอบมันจะไปก๊อป ไปลอกมาตอบแบบให้คนอื่นงงๆ ประมาณตอบแบบคนเพ้อเจ้อ ตอบแบบคนสมองหยุดการเจริญเติบโตตั้งแต่5ขวบ โดนถามจี้ใจดำ หรือถามอะไรที่มันตอบไม่ได้ ไม่มี ในกูเกิ้ล ก็จะแต๋วแตก แสดงนิสัย ออกอาการเยี่ยงบรรพบุรุษมัน ทั้งทีท่านจืออุตส่าห์อบรมสั่งสอนมาตั้งนาน ก็บอกแล้วไงว่า สมองมันหยุดการเจริญเติบโตมาตั้งแต่5ขวบ ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นผลผลิตจากกรมพันธุ์ต่ำๆ นะท่านทั้งหลาย ฮ่าฮ่าฮ่า


    ป.ล. หากเจอคนประเภทนี้เข้า ขอความกรุณาท่านทั้งหลายหาหญ้าให้มันกินหน่อย กินแล้วเขามันจะได้สวยๆไงจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2009
  4. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    ท่านเว่ยหล่างตอบว่า
    “หลักธรรมของพุทธะ กับตัวหนังสือไม่เกี่ยวกัน
    ตัวหนังสือเป็นเพียงเครื่องมือที่จะเรียนรู้ สิ่งที่จะเข้าใจหลักธรรมคือจิต คือตัวรู้ ไม่ใช่ตัวหนังสือ"



    iofeast;2372284มีแต่นึกเอาเอง ชอบบิดเบือน
     
  5. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ท่านจือตอบว่า
    "บักดาศิษย์เรา สติไม่ดีตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ..วันดีคืนดีทำจีวรเลอะเป็นดวงโดยตั้งใจ ซ้ำร้ายทำเลอะแล้วยังมีหน้าแอบมาเปลี่ยนกับอาจารย์ตน แล้วก็เที่ยวใส่ร้ายป้ายสีเราผู้เป็นอาจารย์ตลอดเวลา............ชั่วร้ายสุดๆ" ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เอิ๊กกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ป.ล. ใครเห็นบักดาศิษย์ท่านจือ ก็รบกวนช่วยหาฟางให้กินด้วย เขามันจะได้งอกออกมาเท่ากันอ่ะจ๊ะ ฮ่าฮ๋าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2009
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คนตาลยอดด้วน เสื่อมจากมรรคจากผลเพราะเป็นของเก๊
    หลอกตัวเองไม่ได้หรอก
    ผีสางเทวดาย่อมรู้เห็น
     
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    แกต้องสังฆาทิเสส ปกปิดหมู่สงฆ์ จนเป็นปาราชิกนี่จริง ๆ คือขาดความเป็นพระไปเลย ถึงห่มผ้าอยู่ก็ไม่เป็นพระ
    ใครลงอุโบสถ์ด้วย ก็ไม่มีผล ว่าทำสังฆกรรมทบทวนความเป็นพระของตน ยัง<WBR>ดีอยู่หรึอเปล่า ด้วยการฟังพระปฏิโมกข์ ซึ่งเป็นการทบทวนศีล ของสงฆ์ ถือเป็นโมฆะ คือ นิติกรรมที่ถือว่าไม่ได้มีอะไรกันมาตั้งแต่ต้นที่ปรงอาบัติกันในหมู่สงฆ์
     
  8. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    คนตาลายเขาด้วน สมองกลวงกว่าลูกปิงปอง อย่างเธอ เสื่อมจากมรรคผลไปแล้วเพราะเป็นคนสติไม่ดี ทำชั่วไม่พอซ้ำร้ายยังป้ายสีอาจารย์ตน ใครๆก็รู้เห็น....ฮ่าฮ่าฮ่า


    ฮ่าฮ่าฮ๋า ดา...เธอต้องอาบัติปราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้วตั้งแต่เธอทำจีวรเลอะแล้ว ไปขโมยจีวรท่านจือ อาจารย์ตนมาสับเปลี่ยน มันจะติดตัวเธอไปจนตาย..........ถึงเธอจะปลงผมห่มจีวร จะลงอุโบสถปวดปฎิโมกข์ ปลงอาบัติอีกร้อยครั้งพันครั้งก็ไม่มีผล .............. ซ้ำร้ายยังไม่สำนึก คิดจะป้ายสีท่านจืออาจารย์ตน ทุกครั้งที่มีโอกาส .........ช่างเนรคุณยิ่งนัก ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    iofeast;2376151 ไม่ใช่กรงการอะไรของแก
    “ยังกิญจิ “สิ่งใดอัน<WBR>เกิดขึ้นเห็นเป็นธรรมดา. สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง สิ่งเหล่านั้นก็ต้องลับดับสลาย. นิโรธะธัมมันติ” ฯ เกิดแล้วตาย-เกิดแล้วดับ”ย่อยยับหนา<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ^
    ^
    แล้วทำไมต้องๆไปลอกบางช่วงบางตอนของธรรมจักรฯมาด้วยอ่ะ

    แล้วมันกงการอะไรของเธอที่ต้องขโมยจีวรท่านจือ

    "ปิกาจู้" ตัวการ์ตูนน่ารักๆ พูดเป็นแต่คำว่า ปิกาจู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  11. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815





    ก็เปลี่ยนใจกิน ขนมโตเกียวอร่อยๆ มันง่ายกว่ากินข้าว

    jinny95 มีประสพปการณ์เล่าให้ฟัง

    [​IMG] jinny95 สมัยที่พี่เดินธุดงค์ ไปวัดดอยแม่ปั๋ง
    พี่ได้มีโอกาส ไปพักบำเพ็ญเพียร วัดที่หลวงปู่แหวนท่านไปสร้างเอาไว้ มีสัญญาลักษณ์เครื่องหมายสวัสดิกะ อยู่ที่วัดดงปาดะแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นที่พำนัก และ ฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

    ของพระอาจารย์มั่น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่แหวน สุจินโณ ทั้งนี้วันที่เราได้เดินทางไปวัดแห่งนี้ เราได้ไปขอที่พัก กับ พระอาจารย์เล็ก อาจารย์เล็ก ท่านยกกุฏิของท่านให้ผมบำเพ็ญภาวนา อาจารย์เล็ก ท่านเมตตาพามากุฏิท่านด้วยตัวท่านเอง หลังจากได้ที่พักเป็นสัปปายะดีพร้อมจริงๆ ผมพิจารณาความเหมาะสม กับความเงียบสงบวิเวก

    ก่อนค่ำ ก็ได้เดินสำรวจไปพบบ่อน้ำเก่าแก่ ที่เล่าลือกันว่าเป็นทางขึ้นลงของพญานาคราช


    [​IMG][/QUOTE]


    โฮะโฮะโฮะ คราวนี้หากจะโม้ว่าเคยได้เห็น ได้สัมผัสท่านพญานาคได้หล่ะก็ เราถามอะไรไป กรุณาตอบให้ได้นะจ๊ะ และไม่ต้องไปหาในกูเกิ้ลนะ รับรองที่จะถามเนี่ย ในกูเกิ้ลไม่มีแน่นอน และผู้ที่สัมผัสได้เขารู้กันทั้งนั้นแหละจ๊ะ เข้าใจ๋ โฮะโฮะโฮะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2009
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ใครเขาคุยด้วยไม่ทราบ

    คนนอกสายตา iofeast

    [​IMG]
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    แก้ข่าวข้อเท็จจริงพุทธอริยเมตตรัย

    <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><!-- google_ad_section_start -->
    ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วก็ยังต้องทนนั่งฟังสิกขาบทอันห้ามไม่ให้จี้กันเป็นต้นนี้จะเป็นการน่าอนาถใจเพียงใด เพียงเท่านี้ยังไม่พอ อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันอุโบสถ, ที่บุพพารามเมืองสาวัตถีขณะที่ภิกษุสงฆ์ประชุมพร้อมจะทำอุโบสถกรรมนั่งรอคอยพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่มีภิกษุทุศีลต้องอาบัติเป็นมูลเฉท ไม่เป็นสมณะแล้ว นั่งปนอยู่ในบริษัทนั้นด้วย, พระผู้มีพระภาคไม่ทรงแสดงปาติโมกข์ โดยตรัสว่า ภิกษุสงฆ์ไม่บริสุทธิ์.ภิกษุสงฆ์นั่งรออยู่จนปัจฉิมยามในที่สุดพระมหาโมคคัลลานะกำหนดรู้จักตัวภิกษุรูปนั้นได้ด้วยญาณฉุดตัวออกจากบริษัทไป, แม้กระนั้นพระองค์ไม่ทรงแสดงและตรัสเป็นคำขาดว่าจำเดิมตั้งแต่วันนี้ไป ให้สงฆ์ทั้งหลายแสดงปาติโมกข์เอง พระองค์ไม่แสดง, แล้วตรัสพุทธภาษิตอื่นมีใจความกล่าวเปรียบว่า ในธรรมวินัยของพระองค์ก็มีของดีวิเศษ๘ อย่าง เช่นเดียวกับในมหาสมุทรย่อมตั้งอยู่ตามธรรมดา ไม่ล้นฝั่งแห่งสมุทรฉันใด สาวกทั้งหลายของเราแม้เพราะเหตุจะต้องเสียชีวิต, ก็ไม่ก้าวล่วงสิกขาบทอันเราบัญญัติไว้แล้วแก่สาวกทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน.” ผู้ที่สนองพระพุทธประสงค์ส่วนนี้ได้เท่านั้นจึงจะนับว่าเป็นพุทธบุตรที่แท้จริงได้<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    สาธุ ๆๆๆๆ มิน่าหลังจากดาทำจีวรเลอะ แล้วแอบสับเปลี่ยนกับท่านจือ ไม่มีใครอยากจะลงอุโบสถสวดปาติโมกด้วยเลยอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  15. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    iofeast ญาณรู้เห็นของพระอริยจนตายต้องรู้เห็นแบบนี้มันจึงจะไม่เพี้ยน
    ยังกิญจิ สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมันติ ว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีอันเกิด<WBR>ขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งทั้งปวงนั้นมีอันดับไปเป็นธรรมดา catt9
     
  16. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    โฮะ โฮะ โฮะ นี่ก็เลยมาสามอาทิตย์แล้วนะ ตาเรายังใสแจ๋วอยู่เลยนะเนี่ย รู้สึกว่าจะมองเห็นชัดขึ้นอีกตะหาก .................. ว้า แย่จัง โฮะโฮะโฮะ

    ดา......แล้วเมื่อไหร่ความหลง ความเพ้อท่านจะดับไปอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
    ส่วนพระสูตรต่างๆนะ ท่านไม่ต้องไปลอก ไปก๊อปมาหรอกนะ เราหาอ่านเองได้ ที่สำคัญสภาวะธรรมต่างๆน่ะ ไม่สามารถใช้สมองผุๆของท่าน ใช้ความคิดแบบปุถุชนของท่านมา มาตีความ แล้วบอกว่าเข้าใจได้หรอกจ๊ะ ใช้ความคิด สมองผุๆของท่านคิดเอาตีความเอา แล้วบอกว่าต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้เนี่ย พอให้ขยายก็ไม่เห็นจะเคยทำได้สักที แล้วก็แถตามถนัดอ่ะนะ เราอ่านแต่ละทีฮากระจาย คือมันขำอย่างมากมายเลย ที่ท่านทำตัวเป็นคนแบบประเภทนกแก้วนกขุนทองอ่ะจ๊ะ เข้าใจ๋ ฮ่าฮ๋าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2009
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    เราไม่ลบเองแหละสำหรับผู้มีอุปาทานก็รับไปเต็มๆiofeast

    iofeast
    1. อภิชฌาวิสมโลภะ ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง
    2. โทสะ ร้ายกาจ
    3. โกธะ โกรธ
    4. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้
    5. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน
    6. ปลาสะ ตีเสมอ คือยกตัวเทียมท่าน
    7. อิสสา ริษยา คือเห็นเขาได้ดี ทนอยู่ไม่ได้
    8. มัจฉริยะ ตระหนี่
    9. มายา มารยา คือเจ้าเล่ห์
    10. สาเถยยะ โอ้อวด
    11. ถัมภะ หัวดื้อ
    12. สารัมภะ แข่งดี
    13. มานะ ถือตัว
    14. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน
    15. มทะ มัวเมา
    16. ปมาทะ เลินเล่อ หมายเหตุ ทำจิตของเราให้ว่างแล้วพิจารณาจิตของเราดูว่า มีสิ่งชั่วร้ายตัวใดบ้างที่เกาะกุมอยู่ในภายในจิตของเราแล้วค่อย ๆ ลบล้างให้หมดไปจากจิต หรือเมื่อวาระจิตของเรากระทบกับอะไรแล้วทำให้จิตเราเกิดอุปกิเลสใดใน
    16 ข้อแล้ว บังคับอย่าให้เกิดขึ้นกับจิตของเรา ทำบ่อย ๆ เมื่อเราทำได้ จิตของเราจะมีความสุข คือไม่เศร้าหมอง อุปกิเลสคือ ขยะของจิต และจิตคือถังขยะ ขยะให้กลิ่นเหม็น และทำให้ถังขยะเหม็น จิตที่ดองขยะเอาไว้ คือจิตที่เหม็นเน่า คือเศร้าหมอง
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852










    (deejai)chearr

    ขออภัยท่าน เนื่องจากผมไม่สามารถทำตามคำขอของท่านได้
    เนื่องจาก สามสิ่งนี้เข้าร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่
    แต่จะอธิบายให้เข้าใจแปลเป็นคำไทย

    จึงต้องนำเอาสามเสาหลักนี้มาอ้างอิงเป็นหลักที่ควรทำควบคู่กันไป
    ๑ ปริญัติ
    ๑ ปฏิบัติ
    ๑ ปฏิเวธ

    เมื่อท่านยังเพียรเรียนแต่ปริญัติธรรม ก็จะได้แต่สัญญาความจำล้วนๆ ให้ท่านปฏิบัติ เป็นผลของความหลุดพ้นด้วยตนเองเสียก่อน ปฏิเวธจะเป็นปัญญา ที่มีอยู่แต่ในหมู่พระอริยเท่านั้น
    ดังนี้ มหาสติของพระอริย มหาปัญญาของพระอริย ศีลที่เป็นอริย สมาธิที่เป็นอริย ปัญญาที่เป็นอริย
    วิมุติที่เป็นอริย วิมุตติญาณทัสสนะที่เป็นอริยะ

    บทสรุปโดยรวมทั้งหมดความรู้ความเห็นในความหลุดพ้นของดวงจิต ความรู้เห็นว่าจิตหลุดพ้นแล้วจากอา<WBR>สวะทั้งหลาย

    ไม่ถือมั่นอุปปาทาน สาธุ สาธุ สาธุ
    แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาญาณอริยเจ้าไม่มี


    ไม่การจดลิขสิทธิ์ ธรรมะเป็นของสาธารณะ
    ธรรมะเป็นสมบัติล้ำค่าของมนุษยชาติ เป็นของสาธารณะ คำสอนขององค์พระสัมมา<WBR>สัมพุทธเจ้า จึงเป็นของกลาง

    ไม่มีผู้หนึ่งคนใดจะถือเอาเป็นของตนได้ ดังคำที่ว่า


    สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรม สิ่งทั้งปวง เป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน
    <!-- google_ad_section_end -->









    iofeastpig_cryy<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    บักดา ศิษย์ท่านจือ

    1. อภิชฌาวิสมโลภะ ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง
    บักดาละโมบ ละโมบคำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่น

    2. โทสะ ร้ายกาจ
    ดามีโทสะร้ายกาจ ใครรู้ทันพูดแทงใจดำ ก็จะแต๋วแตก เที่ยวสาปแช่งชาวบ้าน

    3. โกธะ โกรธ
    ดามักโกรธอยู่เป็นประจำ ด้วยไม่ยอมรับความจริง

    4. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้
    ดามักผูกโกรธไว้ด้วยเรื่องเล็กน้อย แม้เรื่องแค่นี้ยังวางไม่ลง แต่บอกว่าตนบรรลุธรรมแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

    5. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน
    ดามักลบหลู่คุณท่านจืออาจารย์ตนดังปรากำอยู่เนื่องๆ

    6. ปลาสะ ตีเสมอ คือยกตัวเทียมท่าน
    ดามักยกตนเสมอพระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า พระศรีฯ มันหลงจริงๆนะ

    7. อิสสา ริษยา คือเห็นเขาได้ดี ทนอยู่ไม่ได้
    ดามักริษยาผู้อื่น เห็นผู้มีปัญญามากกว่า มักทนอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายโดยตอกกลับมาหน้าหงายนับครั้งไม่ถ้วน

    8. มัจฉริยะ ตระหนี่
    ดามักตระหนี่ อยากกรี๊ดน้องแคทแต่ไม่อยากเสียตังค่าตั๋ว จึงปลอมตัวเป็นเด็กเก็บขยะ เพื่อเข้าไปใกล้ชิดแบบฟรีๆ ฮ่าฮ๋า

    9. มายา มารยา คือเจ้าเล่ห์
    ดามารยาเจ้าเล่ห์สุดๆ มักตัดต่อคำพูด บทความต่างๆแล้วตู่เป็นของตนเพื่อให้ดูว่าตนนั้นมีปัญญา ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    10. สาเถยยะ โอ้อวด
    11. ถัมภะ หัวดื้อ
    ดา ทั้งโอ้อวด ทั้งขี้โม้ ถูกต้อนจนมุม ก็จะแถไปเรื่อยๆ ถูกตักเตือนก็จะทำมึนๆ ช่างหัวดื้อจริงๆ

    12. สารัมภะ แข่งดี
    ดา มักจะแข่งดี แข่งเด่นกับชาวบ้าน ด้วยเข้าใจว่า ตนลอก ก๊อปปี้ ตัดต่อบทความมาสอดไส้เก่งที่สุด แต่ไม่มีปัญญาจะเข้าใจบทความต่างๆที่ลอกมาได้

    13. มานะ ถือตัว
    ดา มักถือตัว ว่าตนมีปัญญาเหนือชาวบ้าน แต่ความจริงปัญญาน้อยมากมาย ด้วยสมองหยุดการเจริญเติบโตมานานแล้ว

    14. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน
    ดา มักดูหมิ่นผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่ ท่านจืออาจารย์ตน

    15. มทะ มัวเมา
    ดา มัวเมาสุดๆ ยกตัวอย่างตามกรี๊ดน้องแคทอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้

    16. ปมาทะ เลินเล่อ หมายเหตุ ทำจิตของเราให้ว่างแล้วพิจารณาจิตของเราดูว่า มีสิ่งชั่วร้ายตัวใดบ้างที่เกาะกุมอยู่ในภายในจิตของเราแล้วค่อย ๆ ลบล้างให้หมดไปจากจิต หรือเมื่อวาระจิตของเรากระทบกับอะไรแล้วทำให้จิตเราเกิดอุปกิเลสใดใน
    ดา ประมาทเลินเล่อ ทำจิตตนให้ว่างยังไม่ได้ ยังไม่หน้ามาบอกให้ชาวบ้านทำ
    ความจริง จะทำจิตให้ว่างด้วยอะไร ก็ยังไม่รู้ด้วซ้ำไป ฮ่าฮ่าฮ๋า

    16 ข้อแล้ว บังคับอย่าให้เกิดขึ้นกับจิตของเรา ทำบ่อย ๆ เมื่อเราทำได้ จิตของเราจะมีความสุข คือไม่เศร้าหมอง อุปกิเลสคือ ขยะของจิต และจิตคือถังขยะ ขยะให้กลิ่นเหม็น และทำให้ถังขยะเหม็น จิตที่ดองขยะเอาไว้ คือจิตที่เหม็นเน่า คือเศร้าหมอง

    16 ข้อ ที่พูดมา ดา เป็นเองหมดทั้งสิ้นเลย จิตของดาจึงเหมือนถังขยะใบใหญ่ส่งกลิ่นตุๆอย่างรุนแรงอยู่เป็นนิจจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ๊กกกก ๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ๋า
     
  20. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    บักดา ศิษย์ท่านจือ

    1. อภิชฌาวิสมโลภะ ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง
    บักดาละโมบ ละโมบคำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่น

    2. โทสะ ร้ายกาจ
    ดามีโทสะร้ายกาจ ใครรู้ทันพูดแทงใจดำ ก็จะแต๋วแตก เที่ยวสาปแช่งชาวบ้าน

    3. โกธะ โกรธ
    ดามักโกรธอยู่เป็นประจำ ด้วยไม่ยอมรับความจริง

    4. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้
    ดามักผูกโกรธไว้ด้วยเรื่องเล็กน้อย แม้เรื่องแค่นี้ยังวางไม่ลง แต่บอกว่าตนบรรลุธรรมแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

    5. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน
    ดามักลบหลู่คุณท่านจืออาจารย์ตนดังปรากำอยู่เนื่องๆ

    6. ปลาสะ ตีเสมอ คือยกตัวเทียมท่าน
    ดามักยกตนเสมอพระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า พระศรีฯ มันหลงจริงๆนะ

    7. อิสสา ริษยา คือเห็นเขาได้ดี ทนอยู่ไม่ได้
    ดามักริษยาผู้อื่น เห็นผู้มีปัญญามากกว่า มักทนอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายโดยตอกกลับมาหน้าหงายนับครั้งไม่ถ้วน

    8. มัจฉริยะ ตระหนี่
    ดามักตระหนี่ อยากกรี๊ดน้องแคทแต่ไม่อยากเสียตังค่าตั๋ว จึงปลอมตัวเป็นเด็กเก็บขยะ เพื่อเข้าไปใกล้ชิดแบบฟรีๆ ฮ่าฮ๋า

    9. มายา มารยา คือเจ้าเล่ห์
    ดามารยาเจ้าเล่ห์สุดๆ มักตัดต่อคำพูด บทความต่างๆแล้วตู่เป็นของตนเพื่อให้ดูว่าตนนั้นมีปัญญา ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    10. สาเถยยะ โอ้อวด
    11. ถัมภะ หัวดื้อ
    ดา ทั้งโอ้อวด ทั้งขี้โม้ ถูกต้อนจนมุม ก็จะแถไปเรื่อยๆ ถูกตักเตือนก็จะทำมึนๆ ช่างหัวดื้อจริงๆ

    12. สารัมภะ แข่งดี
    ดา มักจะแข่งดี แข่งเด่นกับชาวบ้าน ด้วยเข้าใจว่า ตนลอก ก๊อปปี้ ตัดต่อบทความมาสอดไส้เก่งที่สุด แต่ไม่มีปัญญาจะเข้าใจบทความต่างๆที่ลอกมาได้

    13. มานะ ถือตัว
    ดา มักถือตัว ว่าตนมีปัญญาเหนือชาวบ้าน แต่ความจริงปัญญาน้อยมากมาย ด้วยสมองหยุดการเจริญเติบโตมานานแล้ว

    14. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน
    ดา มักดูหมิ่นผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่ ท่านจืออาจารย์ตน

    15. มทะ มัวเมา
    ดา มัวเมาสุดๆ ยกตัวอย่างตามกรี๊ดน้องแคทอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้

    16. ปมาทะ เลินเล่อ หมายเหตุ ทำจิตของเราให้ว่างแล้วพิจารณาจิตของเราดูว่า มีสิ่งชั่วร้ายตัวใดบ้างที่เกาะกุมอยู่ในภายในจิตของเราแล้วค่อย ๆ ลบล้างให้หมดไปจากจิต หรือเมื่อวาระจิตของเรากระทบกับอะไรแล้วทำให้จิตเราเกิดอุปกิเลสใดใน
    ดา ประมาทเลินเล่อ ทำจิตตนให้ว่างยังไม่ได้ มีน้องแคทครอบครองอยู่เต็มจิต เต็มใจตน ยังมีหน้ามาบอกให้ชาวบ้านทำมันเพ้อจริงๆ
    ความจริง จะทำจิตให้ว่างด้วยอะไร ก็ยังไม่รู้ด้วซ้ำไป ฮ่าฮ่าฮ๋า

    16 ข้อแล้ว บังคับอย่าให้เกิดขึ้นกับจิตของเรา ทำบ่อย ๆ เมื่อเราทำได้ จิตของเราจะมีความสุข คือไม่เศร้าหมอง อุปกิเลสคือ ขยะของจิต และจิตคือถังขยะ ขยะให้กลิ่นเหม็น และทำให้ถังขยะเหม็น จิตที่ดองขยะเอาไว้ คือจิตที่เหม็นเน่า คือเศร้าหมอง

    16 ข้อ ที่พูดมา ดา เป็นเองหมดทั้งสิ้นเลย จิตของดาจึงเหมือนถังขยะใบใหญ่ส่งกลิ่นตุๆอย่างรุนแรงอยู่เป็นนิจจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ๊กกกก ๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ๋า
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...