ให้จำไว้ว่าไม่ว่ากายหรือจิตก็ไม่ใช่ของเรา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย kengkenny, 7 กรกฎาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ได้ยินเขาพุดกันถึง งานชุมนุมจอมยุทธ กันอยู่นะ
    คุณธรรมภูติ ปรารภอยากจัดมีตติ้งจอมยุทธ
    คุณวิดนุ รับอาสาออกเทียบเชิญเหล่าจอมยุทธ
    แล้วคุณธรรมภูติ ก็ปรารภว่าอยากเจอ คุณจินนี่ที่รัก ด้วยอะนะ

    แต่ข้าน้อย เป็นเพียง กระยาจกพเนจร เท่านั้น แล้วประมุขเจ้าชีวิตของข้าน้อย
    มิยอมให้ข้าพเจ้ากระทำการใดๆโดยปราศจากการอนุมัติของท่านประมุขอีก
    ด้วย มิฉะนั้นอาจมีบ้านแตกเพราะเหตุไม่ชอบใจได้ นอกจากนี้ข้าน้อยยังมี
    ภาระเรื่ององค์ชายน้อยอีก ที่มิอาจควบคุมให้อยู่ในความสงบได้ คุณชายเขา
    มักจะวีนแตกควบคุมตนมิได้หากอยู่ในสภาวะที่มิชอบใจ เธอก็จะไปแต่ในทางของ
    เธออย่างเดียว ด้วยสภาพของข้าน้อยเป็นดังนี้ จึงขอ บาย ทุกกรณี มิอาจไป
    ร่วมชุมนุมได้ และโดยนิสัยส่วนตัวชอบปลีกวิเวกไม่ชอบอยู่ในหมู่ชน ก็คงไม่
    ได้ไปอยู่ดีแหละ (อ้างคนอื่นเยอะแยะ แต่ความจริงคือไม่ชอบเจอคน แหะ แหะ) [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2009
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    จิตที่ไม่ปรุงแต่ง ขัดกับคำว่า ที่แสดงออกเป็นอารมณ์หัวเราะบ้าง อารมณ์สงเคราะห์โลกบ้าง
    มีอารมณ์หัวเราะ แสดงว่าจิตมีการปรุงแต่งใช่มั้ย?

    ;aa24 พุทธวจนะมีไว้ให้เทียบเคียงกับอรรถกถา<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คัดลอกบางส่วน เรื่องมาร
    โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ตอนคํ่า
    ณ วัดเจริญสมณกิจ ภูเก็ต
    ∗∗∗∗∗∗∗∗∗∗∗


    คราวนี้จะไม่เปรียบเทียบอย่างนั้น
    จะใส่โทษขันธ์ ๕ เรียกให้เป็นปีศาจตัวมารร้ายเลยทีเดียวนี่มิใช่

    เรามาสมมุติเอาใหม่
    แต่พุทธพจน์ที่พระองค์ได้ตรัสไว้นานกว่า ๒๕๐๐ ปีเศษมาแล้วว่าเป็น มาร ขันธ์ ๕
    คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นตัวมาร

    มาร ๕ คือ ขันธมาร กิเลสมาร อภิสังขารมาร มัจจุราชมาร เทวบุตรมาร

    เป็นสิ่งที่คอยกีดกันหรือทำลายความดีความสุขสงบของคนอื่น
    ในเมื่อตนทำ เองไม่ได้ ทุกๆ คนก็คงเจอหน้ามารตัวนี้มาแล้ว
    ไม่มากก็น้อย บางทีจนออกปากชี้หน้ามันตรงๆ เลย


    เมื่อเราเผชิญหน้ามันโดยได้รับความยุ่งยากลำ บากนานาประการว่านี้เป็นมาร
    ฉะนั้น จึงควรยกเอาตัว มาร เหล่านี้ขึ้นมาพิจารณา


    เพื่อจะได้รู้เห็นหน้าตาของมารให้ชัดเจน
    หากมันเข้ามารบกวนเราเมื่อใด ก็จะได้ชี้หน้ามันถูก
    และเป็นการอบรมปัญญาในการภาวนาอีกทีหนึ่งเหมือนกัน


    หากเราไม่อยากเอาธรรมหรือคำสอนของพระพุทธเจ้าขึ้นมาพิจารณา
    อยู่ด้วยความนิ่งสงบอย่างเดียวเราก็จะมีแต่ความซึมเฉย


    จิตใจไม่ผ่องใสไม่ได้รับแสงสว่างอันเกิดจากความรู้ แล้วจะไม่มีความสนุกใน
    การภาวนา นานๆ ไปก็มีแต่จะคอยเข้าภวังค์เรื่อย (นอนหลับ)
    ฉะนั้นจงพากันติดตามธรรมเทศนาดังจะอธิบายต่อไปนี้


    ;aa24 ขนาดเอาพระอริยะเจ้ามาเตือน ยังไม่ฟังเลย
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แสดงออกอารมณ์ ไม่ได้หมายถึง มีอารมณ์
    มหากิริยาจิต มี 8 ดวงตามที่แสดงในพระอภิธรรม คือสิ่งที่ทำให้พระอรหันต์หัวเราะ แต่ไม่ได้หมายถึง พระอรหันต์ท่านมีอารมณ์หัวเราะ จึงใช้คำว่า กิริยาจิต เพราะเป็นเพียงกิริยาของจิตเท่านั้น ไม่ใช่จิตเกิดมีอารมรณ์ร่วมไปด้วย เรียกว่าขันธ์อยู่ส่วนขันธ์ จิตบริสุทธ์อยู่ส่วนจิตบริสุทธิ์

    เราก็พูดไปตามที่เข้าใจ จากที่อ่านตามตำรานะแหละ ถ้าอยากรู้ความจริงก็ต้องไปถาม ท่านที่เป็นของจริงถึงจะรู้ความจริง
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ;aa24 ขนาดเอาพระอริยะเจ้ามาเตือน ยังไม่ฟังเลย

    อันนี้เรามองว่า เป็นเรื่องของ ตนเตือนตน นะ
    คุณธรรมภูติ ควรน้อมเข้าสู่ตัวให้มากๆ พิจารณาโดยแยบคาย
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีจิตที่เราเข้าไม่ถึง ควบคุมไม่ได้
    และจิตส่วนนั้น คือพระพุทธะ ในใจเรา คือพระไตรปิฎก ในใจเรา
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านทั้งหลายควรแยกแยะให้ออกว่า อะไรควรหรือไม่ควร
    การถกธรรมนั้นก็เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตนเท่านั้น
    และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของแต่ละคนด้วยสิ

    เพียงแค่มีความเห็นไม่ลงกันในทางธรรม
    ก็พูดคุยหรือคบหากันไม่ได้ ไม่รู้สึกว่าแปลกไปหน่อยหรือครับ

    ขนาดนักการเมือง โกรธเกียจกันขนาดไม่เผ่าผี
    ยังนั่งทานข้าววงเดียวกันได้อย่างหน้าตาเฉยเลย

    นี่เป็นพวกที่ฝักใฝ่ธรรมแท้ๆ เพียงแค่นี้ยังทำใจไม่ได้
    แล้วจะพูดถึงธรรมะที่ลึกซึ้งไปเพื่ออะไรครับ?

    ;aa24 พุทธวจนะมีไว้ให้เทียบเคียงกับอรรถกถา<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ส่วนของความคิด ที่กล้าแข็ง ไม่ยอมลงให้กับธรรมะในใจตน
    ก็เพราะเคยแต่เจตนาทำสติให้กล้าแข็ง แต่ไม่ได้เจริญสติให้เกิดในจิตพุทธะที่อยู่ในตน
    เราเจตนาทำสติได้ในส่วนโลกียะเท่านั้น จึงทำให้มีแต่ความคิดที่มีสติกล้าแข็ง
    ละเลยการเจริญสติและสมาธิในจิตพุทธะตนแห่งตน เพราะ.... ไม่รู้
     
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คัดลอกบางส่วน เรื่องภาวนา-สมาธิ
    โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ตอนคํ่า
    ณ วัดเจริญสมณกิจ ภูเก็ต


    เพราะหลักธรรมที่แท้มิได้เกิดจากความคิดที่ส่งออก
    แต่เกิดจากการคิดค้นตรงเข้ามาหาของจริงที่มีอยูใ่นตัวนี้

    เมื่อเราค้นเข้ามาหาของจริงในตัวนี้แล้ว จิตก็เป็นสมาธิ (คือคิดค้นอยู่ในที่อันเดียว)

    ต่อนั้นไปทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในรัศมีของจิต
    ก็จะกลายเป็นอุบายให้เกิดเป็นธรรมไปทั้งหมด


    มีตัวอย่างสมัยครั้งพุทธกาล บัณฑิตสามเณรอายุ ๗ ขวบ
    ลูกศิษย์ของท่านพระมหาสารีบุตร ได้เห็นเขาขุดเหมืองเข้านา
    ได้เห็นเขาถากไม้ เห็นเขาดัดลูกศร


    ท่านน้อมเข้ามาฝึกอบรมจิตของท่านให้มัน
    เป็นไปตามบังคับ ให้เหมือนเขาบังคับของซึ่งหาวิญญาณมิได้เหล่านั้น
    ให้เป็นไปตามประสงค์จนได้สำเร็จ


    เป็นพระอรหันต์ ก็สิ่งทั้งสามนั้นเป็นธรรมอะไร วัตถุของภายนอกแท้ๆ
    แต่เมื่อท่านนำ เข้ามาพิจารณาเป็น
    อุบายอบรมภายในใจของท่านเอง เลยได้ผลอย่างสุดยอด



    ;aa24 ขนาดเอาพระอริยะเจ้ามาเตือน ยังไม่ฟังเลย
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คนบางคนไม่ควรคบ ไม่ควรแม้แต่นั่งใกล้ เพราะ คนๆนั้น มีความ ไม่น่ารัก สูงมาก

    คนที่มีความ "ไม่น่ารัก" สูงมาก ไปอยู่งานไหน งานนั้นก็"ไม่น่ารัก" กลายเป็นงาน"ไม่น่ารัก"

    กลายเป็นหนทางนำไปสู่ความ "ไม่น่ารัก" ไปด้วย

    พระพุทธองค์ตรัสชี้ชัดเจนว่า ควรงดเว้นการนั่งใกล้คน "ไม่น่ารัก" เพราะจะสลัดยาก

    เมื่อคบหาไปแล้ว จะสลัดออกยาก เพราะพวกคน"ไม่น่ารัก" จะตามติดเราแจ แกะไม่
    ออก ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้ หรือ ชาติไหนๆ ใช่แค่งานนี้งานเดียวก็หาไม่

    * * * *

    มหากุศลจิต มีอยู่ 5 ดวง ที่ทำให้พระอรหันต์ หัวเราะ มีน้ำตา หรือ แย้มสรวญได้ ไม่ใช่
    เป็นอรหันต์แล้วจะ แข็งทื่อ ตาแข็ง มีความสงบแต่ขาดความร่าเริง
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คัดลอกบางส่วน เรื่องภาวนา-สมาธิ
    โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ตอนคํ่า
    ณ วัดเจริญสมณกิจ


    บัณฑิตสามเณรลูกศิษย์ของท่านพระสารีบุตร
    ท่านเห็นเขาไขนํ้าใส่นามันไหลไปตามเหมือง ท่านนํามาพิจารณาว่า
    นํ้าเป็นของไม่มีจิตใจ แต่ก็ไหลไปตามคลองได้ตามประสงค์
    จิตของเราเมื่อทรมานให้อยู่ในอํานาจก็จะทําได้


    เห็นเขาถากไม้ ดัดลูกศร เขาหลิ่วตาข้างเดียวดูที่คดที่ตรง ท่านก็นํามาพิจารณาว่า
    ผู้ฝึกจิตถ้าทําจิตให้มีอารมณ์หลายอย่างก็จะสงบไม่ได้ และไม่เห็นสภาพของจิตตามเป็นจริง


    ถ้าทําให้จิตดิ่งแน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียวแล้ว
    จิตก็มีกําลังเบ่งรัศมีแห่งความสว่างออกมาเต็มที่
    มองสภาพของจิตตามเป็นจริงได้ว่า
    อะไรเป็นจิต อะไรเป็นกิเลส อะไรเป็นของควรละ


    ผลที่สุดท่านก็ได้สําเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะอุบายอันนั้น
    นี่แหละความละเอียดและเป็นธรรมมิใช่อยู่ที่อุบาย
    แต่อยู่ที่จิตอบรมถูกจนจิตเป็นภาวนาสัมมาสมาธิแล้ว


    อุบายทั้งหลายที่หยิบยกขึ้นมาพิจารณานั้นไม่ว่าหยาบและละเอียด
    ก็จะได้ปัญญามีคุณค่าให้สําเร็จมรรคผลเป็นที่สุดเช่นเดียวกัน



    ;aa24 ขนาดเอาพระอริยะเจ้ามาเตือน ยังไม่ฟังเลย
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คบหาได้ แต่ไม่ชอบไปเจอคน (เป็นสันดานที่ไม่ค่อยดีนะแหละ)
    คือถ้าไม่มีเจ้าชีวิตนะ อยู่คนเดียวก็อาจจะไปได้ แต่อย่างที่บอก
    เจ้าชีวิตเรา เขาไม่ชอบให้เราไปสุงสิงกับคนอื่น แค่เข้าเว็บพลังจิตนี่
    อาเฮียที่บ้าน ก็ไม่ชอบใจแล้ว แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ เราไม่เลิกเข้าเว็บฯซะที
    เวลาเข้าบ่น เราก็เอาหูทวนลมไปทุกที ถ้าเราเลิกเล่นเว็บฯนี้นะ อาเฮียของเรา
    คงมีความสุขมาก แต่เราก็เอาแต่ใจตัวเอง เลิกไม่ได้ เพราะกิเลสมันไม่ยอมให้
    เลิก นี่ถ้าเราเอาชนะกิเลสได้นะ เราไสหัวตัวเองออกจากบอร์ดพลังจิตแล้ว ล่ะ

    เอ็มเอสเอ็ม กะแชท ที่ไม่เล่นเพราะไม่อยากให้อาเฮียที่บ้านไม่สบายใจ
    มากไปกว่านี้ เท่านั้น เกรงใจเขา
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าไม่เข้าใจ เรื่องสัมทธรรมปฏิรูป
    ก็แล้วไปนะ คิดเข้าไปนะ
    คิดดี ก็พาไปดี
    คิดไม่ดี ก็พาเข้าป่าหลงหาทางออกจากความคิดไม่ได้
     
  14. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ตอนแรกก็ว่าจะไปน่ะนะ แต่มาคิดอีกที (ยังมีบ้างที่ต้องคิด)
    ไม่ไปดีกว่า เราคงจะทำให้ผู้อื่นอึดอัดในความคิดของเรา เราสับสนน่ะนะบอกตรง ๆ
    ก็มีคนว่า บางทีมันก็จริง ของเขานะ เราคงเป็นแบบนั้นแหล่ะ เป็นคนไม่ดี และมีอีกหลาย ๆ อย่างก็พยายามแล้วได้แค่นี้เองนะ....เหนื่อยล่ะ

    ใครไม่อยากคุยกับเราก็บอกเราตรง ๆ เลยนะ เราไม่ว่าหรอก จะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกัน
    เราจะได้รู้ตัวเองสะที เพราะเราไม่รู้อะไรเลย จริงๆ ..
    ต่อไปเราก็คงไม่พูดอะไรมากแล้วกัน

    ก็ขออนุโมทนาในการปฏิบัติของทุกท่านแล้วกัน
    คิดนานเหมือนกัน ว่าจะโพสออกมาได้ โล่งเลยตอนนี้
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พี่ขวัญชอบคุยกะ นานา นะจ๊ะ
    เพียงแต่เวลาคุยขึ้นมาลอยๆ ไม่ระบุชื่อ
    เพราะคิดว่า คุยกับตัวเองอยู่
    อย่าเข้าใจผิดนะจ๊ะ
    แต่บางที ก็เหวี่ยงแหไปเรื่อย ก็จะหน้าตาแบบนี้ [​IMG][​IMG]
    บางทีก็เล่นบทอยากช่วยคนอื่น [​IMG] [​IMG]
    แต่ก็นะหลายทีเหมือนกันกลายเป็นช่วยซ้ำเติมเขาก็มี [​IMG] [​IMG]
    นิสัยตัวพี่เองไม่ค่อยดีนะ บางทีมันชอบแกล้งคนเล่นก็มี แหย่เล่นก็มี เอาจริงก็มี
    เฮ้อ... จะว่าไป ก็กรรมทั้งนั้น แต่อาศัยว่าทุกครั้งที่ทำอะไรไป อยู่บนเจตนาหวังดี
    อยากให้คนอื่นได้เข้าใจตัวเองเท่านั้น ไม่เคยคิดเจตนาร้ายเลยนะ แล้วก็พูดความจริง
    จากที่เห็น จากความคิดของเราจริงๆ คิดเห็นอย่างไรก็พูดไปตามนั้น ไม่ได้คิดว่ามันถูก
    หรือไม่ถูก รู้แต่ว่ามันคือจิตมันคิดเป็นความจริง ณ.ปัจจุบันของเรา เราทำด้วยความจริงใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2009
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เฮ้อ!!!...ความคิดหนอความคิด
    ถูก ผิด ชั่ว ดี เกิดจากเรา(จิต)คิดเองทั้งนั้น...

    ;aa24
     
  17. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137

    เปนไรอ่ะที ธรรมภูติโดนเค้าด่าทุกวันว่าผิด ยังไม่เห็นเป็นไรเลยหน้า... จะตาย
    นานาไม่มีใครห้ามความคิดคนอื่นได้เราห้ามใจเราได้ อย่าได้ใส่ใจเลย
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรา(จิต)

    เราไม่ใช่จิตบริสุทธิ์ นะคะ ถ้าเรายังเป็นปุถุชนอยู่
    เราก็คือ จิตคิด อยู่ดี

    ความเห็นส่วนตัว ถ้าเห็นต่างกัน ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่ได้รู้ว่า ความคิดต่างกัน
     
  19. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    พี่ขัวญพูดถูกแล้ว อทิบายธรรมก้ถูก ธรรมภูติมัน มีลัทธิส่วนตัวเชื่อในตนเชื่อในพวกของตน ไม่ได้ เชื่อในความจริงไม่เชื่อในปัญญา ไม่เชื่อใน อริยสัจ
     
  20. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เห็นด้วย

    เหตุที่ทำให้คนพาลมีกำลังก้คือเวลามีผู้เข้ามาทำความแตกแยกให้ก่อเกิดหรือ ทำความเห็นผิดตีแผ่ออก ผู้ที่เห็นถูกไม่ร่วมมือกัน แต่ๆละคนก้รู้ดีอยู่แก่ใจว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด เพราะคิดแต่เพียงเมตตา และเตือนตนดีกว่าเดือนผู้อื่น แต่คนพาลก้จะยิ่งเข้าใจว่าตนถูกไปเรื่อยๆจนหาทางกลับไม่เจอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...